Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ลุงแอ็ด.....เอามาฝาก ตอนที่ 16 เลิกจ้างอย่างไร...ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า?

    เลิกจ้างอย่างไร…ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า?



    จากมาตรา 7 ที่ยกมาในบทก่อน  จะเห็นได้ว่า  การเลิกจ้างลูกจ้างนั้นไม่จำ

    เป็นที่จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเสมอไป  หลายกรณีก็สามารถเลิกจ้างแล้ว

    ให้ลูกจ้างออกจากงานไปทันทีได้เหมือนกัน

    กรณีที่สามารถเลิกจ้างสัญญาจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่

    ต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้านั้น  พอจะสรุปได้ดังต่อไปนี้  



    1. กรณีที่ทำสัญญาจ้างแบบมีกำหนดระยะเวลา

    โดยระบุชัดเจนว่าจะเริ่มต้นจ้างกันเมื่อไหร่และสิ้นสุดสัญญาจ้างกันวันไหน  

    หากมีสัญญาจ้างกันแบบนี้  เมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง  ก็ถือเป็นอันจบสัญญาจ้าง

    กันไป  โดยไม่จำเป็นจะต้องบอกเลิกสัญญาจ้างกันล่วงหน้าอีก  เรื่องนี้ไม่

    ต้องดูที่ไหน  ก็อยู่ในมาตรา 17 วรรคแรกนี่เอง  ซึ่งว่าไว้ดังนี้  “สัญญาจ้าง

    ย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดเวลาในสัญญาจ้างโดยมิต้องบอกกล่าวล่วง

    หน้า”




    2. กรณีที่ลูกจ้างได้ทำความผิดเข้าตามมาตรา 119 แห่ง พ.ร.บ.

    คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หรือเข้าตามมาตรา 583 แห่งประมวลกฎหมาย

    แพ่งและพาณิชย์


    แบบนี้หากจะเลิกจ้างก็ไม่จำเป็นจะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าอีกเหมือนกัน  

    เรื่องนี้ดูได้ในมาตรา 17 อีกเช่นกัน  แต่อยู่ในวรรคที่ห้า  ซึ่งกำหนดไว้

    ว่า “การบอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรานี้ไม่ใช้บังคับแก่การเลิกจ้างตาม

    มาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัตินี้และมาตรา 583 แห่งประมวลกฎหมาย

    แพ่งและพาณิชย์”




    ส่วนมาตรา 119 และมาตรา 583 กำหนดลักษณะความผิดไว้อย่างไรนั้น  

    ขอยกมาลงรายละเอียดไว้ในบทนี้เพื่อให้ง่ายในการอ้างอิง ดังนี้



    “มาตรา 119 นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างในกรณี

    หนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้

    (1) ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดทางอาญาโดยเจตนาแก่นาย

    จ้าง

    (2) จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

    (3) ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่าง

    ร้ายแรง

    (4) ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของ

    นายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม  และนายจ้างได้ตักเตือนเป็น

    หนังสือแล้ว  เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง  นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน  หนังสือ

    ตักเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด

    (5) ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานเป็นเวลาติดต่อกันไม่ว่าจะมี

    วันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร

    (6) ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก  เว้นแต่เป็น

    โทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ”




    ส่วนมาตรา 583 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็กำหนดไว้ดังนี้

    “ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดีหรือละเลยไม่

    นำพาต่อคำสั่งเช่นนั้นเป็นอาจิณก็ดี  ละทิ้งการงานไปเสียก็ดี  กระทำความ

    ผิดร้ายแรงก็ดี  หรือทำประการอื่นอันไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตน

    ให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี  ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพัก

    ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า หรือให้สินไหมทดแทนก็ได้”




    อ่านมาตรา 583 นี้ทีไร  ก็ให้นึกถึงคำพูดของนักกฎหมายหลายท่านที่เล่าให้

    ฟังว่า  ภาษาของกฎหมายแบบนี้แหละ  คำว่า  “ก็ดี  ก็ดี”  ทั้งหลายที่เขียน

    ไว้ (เหมือนตัวอย่างในมาตรา 583 นี้)  ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ “ไม่ดี  

    ไม่ดี”  ทั้งนั้นเลย  คิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็ทำให้อ่านกฎหมายสนุกขึ้นอีกหน่อย



    จากรายละเอียดในมาตรา 17  มาตรา 119 และมาตรา 583 ที่ยกมานั้น  

    อ่านแล้วอาจดูเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า  มีประเด็นอาจมีประเด็นใดบ้างที่เป็นเหตุ

    ความผิดให้สามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า  แต่ก็อยากตั้ง

    ข้อสังเกตไว้สัก 3 เรื่อง  เพื่อให้ระวังในกรณีที่จะต้องเลิกจ้างกันจริงๆ 3 เรื่อง

    นั้นก็คือ



    1. ถ้าเหตุแห่งการเลิกจ้างเข้าตามมาตรา 119 และมาตรา 583

    แยกแยะได้ถูกต้องง่ายๆ จริง  ทำไมการฟ้องร้องคดีแรงงานเรื่องการเลิกจ้าง

    โดยไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าจึงมีมากมายหลายคดี  และในจำนวนนั้นก็มี

    หลายคดีเหมือนกันที่นายจ้างแพ้ แล้วต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า

    แสดงว่าหากการเลิกจ้างแล้วไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้ากันจริงๆ ต้องระวัง

    ว่าอ้างเหตุได้ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริงนะครับ



    2. ความผิดที่เข้าตามมาตรา 119 นั้น จะสามารถเลิกจ้างได้โดยไม่

    ต้องจ่ายทั้งค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้า
     แต่ความผิดที่เข้าตาม

    มาตรา 583 ทุกกรณีไม่ต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า  แต่ในบางกรณีอาจจะ

    ต้องจ่าย “ค่าชดเชย”




    ประเด็นนี้ต้องไม่สับสนปนเปกันนะครับ  ต้องแยกแยะให้ดีๆ มิฉะนั้นอาจถูก

    ฟ้องร้องเรียก “ค่าชดเชย” ในภายหลังได้



    3. ตัวอย่างประเด็นในมาตรา 583 ที่เวลาปฏิบัติจริงแล้วมีปัญหาผุด

    ขึ้นมาในใจก็เช่น

    - อย่างไรที่เรียกว่า “จงใจขัดคำสั่งของนายจ้าง”

    - การละเลยไม่นำพาต่อคำสั่งของนายจ้างเป็น “อาจิณ”

    - การกระทำความผิดร้ายแรง  ลักษณะอย่างไรที่ถือว่า “ร้ายแรง”

    - ลักษณะอย่างไรบ้างที่ถือได้ว่า  “กระทำประการอื่นอันไม่

    สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต”
     เป็น

    ต้น

    เรื่องนี้ก็ต้องระวังในการตีความอีกเหมือนกันครับ



    ที่หยิบยกเรื่องต่างๆ มาในบทนี้  ก็เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่าการจะเลิกจ้าง

    โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่จ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้านั้น  ไม่เพียง

    แต่ต้องทราบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น  แต่การตีความการปฏิบัติที่เป็น

    ความผิดของลูกจ้างจะต้องสอดคล้องและถูกต้องตามประเด็นข้อกฎหมาย

    ด้วย  การเลิกจ้างนั้นจึงจะไม่มีปัญหากับองค์กรในภายหลังครับ



    ไพศาล  เตมีย์



    จากหนังสือ  :  “เลิกจ้างต้องระวัง”  เขียนโดยคุณไพศาล  เตมีย์

    จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดย  :  บริษัท เอช อาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 25 มี.ค. 52 08:47:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com