ความคิดเห็นที่ 1 ข้อแรก ถูกต้องค่ะ เค้าให้เราตั้งงบประมาณได้เอง ว่าสูงสุดแล้วไม่เกินเท่าไหร่ แต่ที่ตั้งไปนั้น พอจริงๆ มันก็ไม่ใช่เท่านั้นจริงหรอกนะคะ และ การสามารถเปลี่ยนแปลงค่าที่เราตั้ง ให้มาก น้อย กว่าที่ตั้งตอนแรกได้ตลอดเวลาค่ะ ต้นทุนต่อคลิก ก็คือ เราตั้งไว้ว่า เราจะให้โฆษณาของเราแสดง และ เมื่อมีคนคลิก เรายินยอมจะจ่ายที่ คลิกละ 0.35 บาท หรือ 35 สตังค์ ไงคะ และ ราคาคลิกสูงสุดคือ ราคานี้ แต่ เวลาคลิกจริง มันจะน้อยกว่านี้ แต่น้อยกว่าเท่าไหร่นั้น เป็นการประมวลผลของ กูเกิ้ลค่ะ เช่น คุณ อาจจะจ่ายจริงที่ 0.34, 0.33, 0.32, 0.31 ซึ่งมีกระบวนการคิดหลายอย่าง เช่น คู่แข่งของคุณ การแสดงโฆษณาต่ออัตราการคลิกของโฆษณาคุณ ประสิทธิภาพการโหลดหน้าเว็บไซต์ etc ข้อ 3 ที่คุณถามมา และ คาดเดาการเก็บเงินแบบนั้น ผิดค่ะ การเก็บเงิน หลังจากการโฆษณาและมีการคลิก เกิดขึ้น กูเกิ้ลจะตัดเงินในรอบที่ครบจำนวนเงินดังนี้ค่ะ 50$, 350$, 500$ หรือ ครบกำหนดเดือน แล้วแต่ว่า อันไหนถึงก่อน เช่น ครบ 50$ ก่อน ก็ตัดเลย ทั้งที่ยังไม่ครบเดือน หรือ ครบเดือน แต่ ยอดแค่ 49$ ก็ตัด 49$ ต้องขอโทษด้วย ที่ยกตัวอย่างเงิน ดอลล์ เพราะเราใช้ หน่วยดอลล์ ไม่ใช่บาท น่ะค่ะ ของเงินบาท ก็น่าจะ 2000 บาท ตามที่กูเกิ้ลบอก พอจะคลายข้อสงสัยได้บ้างไหมคะ มีอะไรก็ถามเพิ่มเติมนะคะ จากคุณ : Dreams Catcher - [ 25 มี.ค. 52 12:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่มเติม การลง adword คุณต้องไป bid keyword เช่นคุณขายปั๊มน้ำ คุณคาดว่าจะ ads แสดงในผลการค้นหาของกูเกิ้ล หรือใน content network (จะแสดงในเว็บที่ติด adsense) หากต้องการให้แสดงในผลการค้นหา คุณต้องหา keyword ที่คุณต้องการ และคาดว่าลูกค้าจะใช้หาข้อมูล เช่น "ขายปั๊มน้ำ","ซื้อปั๊มน้ำ","ปั๊มน้ำราคาส่ง" คุณต้องดูว่ามีคน bid คำนี้เยอะไม๊ ถ้ามีคนบิดเยอะ เราต้อง bid สู้ ก็จะแพงขึ้นไปอีก เพราะหน่วยของเงินที่ใช้แข่งกันจริง ๆ เป็น $ เมื่อคุณ bid ได้ คุณก็ระบุงบ แต่ละแคมเปญที่คุณสร้างว่า จะให้แสดงในวงเงินกี่ $ (เช่นวันละ 100$) พอมีคนคลิกโฆษณาของคุณครบแล้ว(ถ้าบิดไว้ 2 $/คลิก จะได้ 50 คลิก) ไม่ว่าจะ impression กี่ครั้ง แต่ถ้าครบ 50 คลิกแล้ว Ads ของคุณก็จะไม่แสดง และให้ ads ที่ bid ราคาต่ำกว่าคุณขึ้นมาแทน ถามว่าคุ้มไม๊ หากว่าสินค้าของคุณมันเป็นสินค้าเฉพาะ หาซื้อยาก ก็จะขายได้ง่ายกว่า และ adword จะได้ลูกค้าฝรั่ง ที่ตั้งใจจะหาซื้อสินค้านั้นจริง ๆ เยอะกว่าคนไทย ดังนั้นการตั้งราคาขาย ก็อย่าลืมบวกค่าการตลาดไปด้วยนะครับ จากคุณ : BiGTeDDy - [ 25 มี.ค. 52 12:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอ เพิ่มเติม คคห ที่ 2 อีกนิดค่ะ ใครสมัคร adwords ไทย เค้าเลือกที่จะใช้ ค่าคลิกแบบเงินบาทได้ค่ะ กับ เรื่อง การแสดงโฆษณา  ads เราและ คู่แข่ง ที่แข่งกันใน keyword เดียวกัน จะแสดงขึ้นมาพร้อมกันค่ะ แต่ใครอยู่อันดับไหน นั่นก็แล้วแต่ การประมวลผลของกูเกิ้ล เช่นกัน เดี๋ยวจะมีคนงง ว่า กูเกิ้ลเลือกแสดงแค่ ads เดียว ไม่ใช่นะคะ จากคุณ : Dreams Catcher - [ 25 มี.ค. 52 13:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณ คุณDreams กับ คุณCatcher BiGTeDDy ที่มาช่วยอธิบายครับ ช่วยคลายข้อสงสัยได้เยอะเลยครับ แต่อยากถามเกี่ยวกับระบบการตัดเงินของ google อีกทีครับ กรณีที่ 1 สมมุติเราเลือกวงเงินต่อเดือนที่ไม่เกิน 1000 บาท ต้นทุนต่อคลิ๊กตีเป็น 0.35 บาท ต่อครั้ง หมายความว่า ทาง google จะตัดเงินเราได้ 2 วิธีคือ 1. ครบเดือนแล้วตัดทีเดียวตามยอดของการคลิ๊กจริง เพราะยอดไม่ถึง 50 $ หรือ 2000 บาท เนื่องจากเรากำหนดเพดานไว้ที่ 1เดือน/1000 บาท 2. ถึง 50 $ หรือ 2000 บาทค่อยตัดเงินเลย ---> กรณีนี้ไม่มีทางเกิดเพราะเพดานเราอยู่ที่ 1เดือน/1000บาท กรณีที่ 2 สมมุติเราเลือกวงเงินต่อเดือนที่ไม่เกิน 3000 บาท ต้นทุนต่อคลิ๊กตีเป็น 0.35 บาท ต่อครั้ง หมายความว่า ทาง google จะตัดเงินเราได้ 2 วิธีคือ 1. ครบเดือนแล้วตัดทีเดียวตามยอดของการคลิ๊กจริง เพราะยอดไม่ถึง 50 $ หรือ 2000 บาท 2. ยังไม่ครบเดือน แต่ยอดถึง 50 $ หรือ 2000 บาทแล้ว google จะตัดเงินเลย 2000 บาท เหลืออีก 1000 บาท รอสิ้นเดือนค่อยตัดยอดอีกทีตาม ต้นทุนการคลิ๊กจริง นอกเหนือจาก 2000 ที่จ่ายไปก่อน ผมคิดอย่างนี้ถูกหรือเปล่าครับ เผอิญอยากคุมค่าใช้จ่ายในด้านนี้ให้มันละเอียดหน่อยครับ จะได้บอกผู้ใหญ่ได้ถูกครับ ขอบคุณอีกทีครับ จากคุณ : iron bridge - [ 25 มี.ค. 52 16:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กรณีที่ 2  เข้าใจถูกแล้วครับ จากคุณ : BiGTeDDy - [ 25 มี.ค. 52 16:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กรณีที่ 1 เข้าใจถูกแล้วค่ะ ของคุณ iron bridge ก็คงจะตัดยอดรายเดือน เพราะมันไม่ถึงขั้นต่ำที่เค้ากำหนดไว้ จำง่ายๆ กูเกิ้ลเอง ก็คงอยากจะได้รับเงินเร็วๆ ถ้ารอให้ครบ 50$ แล้วมันไม่ครบซะที ก็ขอตัดรายเดือนก่อนแล้วกัน ฮา (แทรกนิดนึง มันมีให้กำหนดงบรายเดือนด้วยเหรอคะ ใช้มาตั้งนาน ทำไมเห็นแต่กำหนดงบรายวัน ^_^) กรณี 2 นั้น ก็เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ส่วนที่จะแย้งคือ จำนวนงบที่เหลือ 1000 นั้น อย่าไปคิดว่าเหลือ 1000 ให้สับสน รอบใหม่ ก็รอบใหม่ไปเลยค่ะ ไม่ใช่เหลือ 1000 แล้วจะมีรอบตัดเงิน 1000 ไม่ใช่นะคะ ความหมายก็คือ พอรอบใหม่ ก็ตัดเงินตามกระบวนการคิดนี้อีกรอบเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าจะเหลืองบเท่าไหร่ ดังนั้น ตัดเรื่องของ 1000 บาท ไปเลยค่ะ ไม่เกี่ยวกัน เพิ่มให้อีกนิด เผื่อ คนที่ยังไม่ทราบนะคะ อ่าน 50$ หรือ 2000 บาท บางท่าน อาจจะงง มันเป็นตัวเลขที่ทางกูเกิ้ล กำหนด ช่วงไว้ หากจ่ายเป็นดอลล์ คือ รอบ 50$ แต่หากจ่ายเป็นเงินบาท จะคิดรอบที่ 2000 บาท และ เราไม่สามารถเปลี่ยนอัตราเงินนี้ได้ ไม่ใช่ว่า เราใช้หน่วยดอลล์อยู่ วันดี คืนดี จะใช้บาท อันนี้ไมไ่ด้ค่ะ ที่เราใช้ดอลล์ เพราะ ขายของในต่างประเทศ ถ้าใช้เงินไทย มันจะสับสนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เลยใช้ดอลล์ เพราะจะได้ทราบต้นทุนและกำไรได้อย่างชัดเจน อีกเรื่อง คือ งบประมาณ เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดการทำงานของการแสดงผลโฆษณา ไม่ได้เป็นเงินที่จะจ่ายจริง และ มันมี trick ด้วยว่า การใส่ ตัวเลขงบประมาณลงไปแบบหลอกๆ จะช่วยให้เครื่องมือของกูเกิ้ล เข้าใจว่า เรามีกำลังที่จะจ่าย จะทำให้การแสดงโฆษณาปรากฏบ่อยกว่า งบประมาณน้อยๆ ค่ะ อาจจะต้องอธิบายหน่อย แต่เอาเป็นว่า กำหนดจริง วันละ 1000 หรือ เดือนละ 1000 เอาเข้าจริงๆ ไม่ถึงน่ะค่ะ บางท่านที่ทำ Affiliate marketing เค้าใส่งบประมาณรายวัน เป็นแสนบาทเลยทีเดียว แต่ต้องแน่ใจก่อนว่า ไม่มีปริมาณการค้นหาในคำคำนั้นมากมาย มหาศาลจริง ไม่งั้นก็หมดเหมือนกันค่ะ เช่น ช่วงคริสมาสต์ มีคนค้นด้วย คำว่า christmas sale เป็นเรื่องปกติ ถ้าให้คำแบบนี้ ตั้งงงบแสน ก็หมดแสน ค่ะ แต่ถ้าคำที่ เฉพาะเจาะจง แล้วตั้งงบแสน เอาเข้าจริง จ่ายแค่ระดับพันเอง อะไรประมาณนี้ เรื่องนี้ ต้องระวังค่ะ แต่จากประสบการณ์ การตั้งงบประมาณให้มากกว่าที่ระบบของกูเกิ้ลแนะนำ ประมาณ 5-10 เท่า จะช่วยให้โฆษณาแสดงผลได้ดีมากขึ้นค่ะ จากคุณ : Dreams Catcher - [ 25 มี.ค. 52 16:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถามคุณDreams Catcher อีกทีครับ "กรณี 2 นั้น ก็เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ส่วนที่จะแย้งคือ จำนวนงบที่เหลือ 1000 นั้น อย่าไปคิดว่าเหลือ 1000 ให้สับสน รอบใหม่ ก็รอบใหม่ไปเลยค่ะ ไม่ใช่เหลือ 1000 แล้วจะมีรอบตัดเงิน 1000 ไม่ใช่นะคะ ความหมายก็คือ พอรอบใหม่ ก็ตัดเงินตามกระบวนการคิดนี้อีกรอบเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าจะเหลืองบเท่าไหร่ ดังนั้น ตัดเรื่องของ 1000 บาท ไปเลยค่ะ ไม่เกี่ยวกัน" คือกรณีที่ 2 โจทย์ให้มาคือ 1 เดือน ไม่เกิน 3000 บาทน่ะครับ ถ้าหาก 2000 พันแรกถูกตัดไปแล้ว น่าจะยังเหลือแค่ 1000 สุดท้ายให้ตัดสิครับ ตามเพดานที่เรากำหนดไว้ 1 เดือน /3000 บาท มิฉะนั้น ใน 1 เดือนก็มีสิทธิ์ถูกตัด ถึง 4000 บาทเลยน่ะครับ ผมเข้าใจถูกเปล่าครับ ส่วนทริ๊กที่แนะนำฟังดูน่าสนใจดี แต่อันตรายยังไงไม่รู้ เกิด keyword เรากลายเป็น talk of the town ภายในชั่วข้ามคืนขึ้นมา กลัวว่าพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมา ต้องขายของล้างหนี้ google อ่ะดิ ^_^ จากคุณ : iron bridge - [ 25 มี.ค. 52 17:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คืองี้ค่ะ งบไม่เกิน 3000 ต่อเดือน พอครบ 2000 บาท ก็โดนตัด โดยการตัดเงินจากบัตรที่เราใส่ไว้กับ กูเกิ้ล เราใส่เงินงบประมาณ เป็นเพียงตัวเลข 3000 แต่ตัดเงินจริง 2000 พอตัดแล้ว มันไม่ได้หมายความว่า งบเหลือ 1000 นะคะ เค้าคิดรอบใหม่ แต่โดยรวมแล้ว คุณก็จะไม่ต้องจ่ายเกิน 3000 บาทต่อเดือน พองบหมด โฆษณาก็จะไม่แสดงเท่านั้นเองค่ะ พอตัดไป 2000 คราวนี้ กูเกิ้ลก็นับใหม่ค่ะ แล้วพอยอดครบ 2000 บาทอีก ก็ตัดอีก จากบัตรเครดิตที่เราผูกไว้ แต่ถ้าเป็นเงินดอลล์ พอครบ 50$ ตัด รอบต่อไปตัดที่ 350$ ไม่ใช่50$ ตัด 50$ นะคะ (เงินบาท กับเงินดอลล์ มีอะไรแตกต่างกันนิดหน่อยน่ะค่ะ) ดังนั้น เรื่อง 1000 นึง จึงบอกว่า ให้ลืมไปเลยน่ะค่ะ อ้อ แล้วถ้าเงินเราไม่พอนะคะ หรือ งบต่ำ ก็มีสิทธิ์ที่โฆษณา จะแสดงๆ แล้ว หยุดๆ ค่ะ เพราะ งบเราไม่พอเท่าที่กูเกิ้ลคิดว่า ควรจะมี ไงคะ ดังนั้น ถ้าให้แนะนำนะคะ ใส่งบให้พอไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะไมไ่ด้จ่ายจริงเท่าจำนวนนั้นเป๊ะๆ สมมติว่า มีคนมาจ้างเราให้ทำการโปรโมทเว็บด้วยการใช้ google adwords เค้ามีงบให้ 5000 ต่อเดือน เป็นเรา จะตั้ง 10,000 ไว้เลยค่ะ แล้วจะจ่ายจริง น่าจะประมาณ 4000 ดังนั้น เรื่องที่น่าจะให้ความสำคัญจริงๆ แล้ว คือ เรื่องการทำยังไงให้โฆษณาถูกกลุ่มเป้าหมาย ให้โฆษณาแสดงไม่มากเกินไป และมีจำนวนคนคลิกโฆษณาในอัตราที่สูง เช่น แสดง 100 ครั้ง คลิก 10 ครั้ง จะดีกว่า การที่โฆษณาแสดง 100 ครั้ง แต่คลิก 5 ครั้ง เป็นต้น เรื่องงบประมาณนี่ ไม่ค่อยจะมีสำคัญมากเท่าค่ะ จริงอยู่ว่ามันเป็นข้อมูลพื้นฐานว่าจะกำหนดงบประมาณเท่าไหร่ แต่ที่สำคัญ ก็อย่างที่บอกค่ะ ว่า กำหนดไว้ให้สูงพอสมควร จะดีกว่ากำหนดน้อย ยังไง ใหม่ๆ ลองใส่ 3000 ต่อเดือน แล้ว หลังๆ ค่อยลองใส่ 4000, 5000, 6000 ดูค่ะ แล้วจะเห็นความแตกต่าง (แต่ก็ยังงง ว่าทำไม คุณ iron bridge กำหนดงบรายเดือน เพราะเท่าที่ทำมา จะมีแต่กำหนดรายวันน่ะค่ะ) จากคุณ : Dreams Catcher - [ 25 มี.ค. 52 18:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 5. กำหนดงบประมาณเอง   งบประมาณรายเดือนของคุณคือเท่าใด AdWords แสดงโฆษณาของคุณให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายในงบประมาณที่คุณกำหนด คุณจะถูกเรียกเก็บจำนวนเงินส่วนหนึ่งของงบประมาณทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณาของคุณ ดังนั้น ยิ่งมีงบประมาณสูงเท่าใด การแสดงโฆษณาและการคลิกที่ได้ก็จะยิ่งมาก คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินมากกว่าจำนวนนี้ในแต่ละเดือน (แต่ในบางกรณีคุณจะถูกเรียกเก็บเงินน้อยกว่านี้) งบประมาณของฉันจะมีผลกับประสิทธิภาพของโฆษณาอย่างไร ฿1,000 ต่อเดือน ฿3,000 ต่อเดือน ฿10,000 ต่อเดือน ฿   ต่อเดือน ผมก็งงเหมือนกันว่า มันมีกำหนดรายวันด้วยหรือครับ เลยเอาตัวอย่างที่เป็นรายเดือนมาให้ดู จากคุณ : iron bridge - [ 26 มี.ค. 52 10:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะเค้าเก็บเป็นรายเดือน มังคะ เลยใช้ว่า งบประมาณต่อเดือน แต่เวลา ตั้งค่า (setting) หรือ ทำโฆษณาจริงๆ เราต้องกำหนด งบ รายวันค่ะ เดี๋ยวเอาภาพมาให้ดู จากคุณ : Dreams Catcher - [ 26 มี.ค. 52 10:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพค่ะ current Budget budget/day จากภาพ คือ 2000$ / day , 1000$ / day ถึงบอกว่า ไม่มีรายเดือนน่ะค่ะ ตอนกำหนด กำหนดเป็นรายวัน ค่ะ ตอนทำโฆษณานะคะ แต่ใน ข้อกำหนดการใช้งาน google อาจจะเขียนว่า งบรายเดือน เพราะเค้าเก็บเงินรายเดือน และ ตามการใช้งานน่ะค่ะ เลยเรียกสรุปๆ ว่างบรายเดือน คงเป็นยังงั้นมังคะ แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 52 11:01:55 จากคุณ : Dreams Catcher - [ 26 มี.ค. 52 10:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ๋อ เข้าใจล่ะ งั้นถามนอกเรื่องอีกทีครับ เวลาเราพิมพ์ คำเฉพาะ เพื่อหาข้อมูล ทาง google จะบอก ค่าผลการค้นหาออกมาเป็นตัวเลข เช่น pantip = 6,800,000 ผลการค้นหา หมายความว่า มีคนเสริช์คำว่า pantip 6ล้านกว่าครั้งต่อวันเลยหรือเปล่าครับ จากคุณ : iron bridge - [ 26 มี.ค. 52 16:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยังงี้ ต้อง อธิบายยาว เดี๋ยว มาใหม่ นะคะ จากคุณ : Dreams Catcher - [ 26 มี.ค. 52 19:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จากคำถามใน คคหที่ 12 เวลาเราพิมพ์ keyword หรือ คำค้น ว่า pantip แล้ว ผลออกมาคือ 6.8 ล้านนั้น ไมไ่ด้หมายความว่า มีคนค้นหา 6.8 ล้านครั้งต่อวัน อย่างที่คุณเข้าใจนะคะ มันหมายความว่า ในเนต บนโลกใบนี้ และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน server google .co.th มีคำว่า pantip อยู่ 6.8 ล้าน หน้า ต่างหากค่ะ หน่วยจะเป็น จำนวนหน้านะคะ ไม่ใช่ จำนวนเว็บ จำนวนนี้ บอกอะไรกับเรา ก็บอกเราว่า มีคำคำนี้ยนเนต ถึงหกล้านกว่าเชียวนะ ถ้าเราจะทำเว็บเรา ให้มีคำนี้ หรือ ให้มีคนค้นหาด้วยคำนี้ แล้วเจอเรา นั่นหมายถึง เราจะต้องแข่งกับคนที่เป็นเจ้าของเว็บทั้ง หกล้านกว่าหน้านั้น ซึ่งอาจจะมี พันกว่าเจ้าของ แบบนี้เป็ฯต้น จำนวนตัวเลขนี้ จะเป็น factor หนึ่ง เพื่อพิจารณาเวลาเราจะทำการโปรโมทสินค้า หรือ บริการใด บริการหนึ่ง ยิ่งถ้าเรามีคู่แข่ง เพียง 50000 หน้า หรือ 200,000 หน้า แบบนี้ จะสบายกว่า ที่เราจะต้องแข่งกับจำนวนหน้า 4-5 ล้าน อย่างนี้เป็นต้นค่ะ สำหรับมือใหม่ แนะนำ ให้อ่านที่นี่พลางๆ ค่ะ http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/12/B7302586/B7302586.html แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 52 10:09:09 จากคุณ : Dreams Catcher - [ 27 มี.ค. 52 09:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากๆเลยครับ กับความรู้ที่ให้มา ^_^ จากคุณ : iron bridge - [ 28 มี.ค. 52 11:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งงครับ... จากคุณ : BeerBoo - [ 29 มี.ค. 52 21:27:08 ]