ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณทุกความเห็นมากนะครับ จากคุณ : pneumothorax - [ 17 เม.ย. 52 10:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขายเบเกอรี่   คุกกี้  ของขบเคี้ยว   หลังบ้านเราเป็นอโรมา   บ.นี้แรกเริ่มขายแต่กาแฟ+โกโก้    เดี๋ยวนี้มีทั้งขายเครื่องชง   ขายน้ำเชื่อม   เฟรนไชน์ก็ขาย    มีทัวร์ชมไร่กาแฟด้วย     เห็นว่ามีเบเกอรี่เพิ่มมาขายอีก จากคุณ : ต้มยำทะเล - [ 17 เม.ย. 52 11:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่เห็นปัจจุบันจะเปิดร้านลักษณะของบูธหรือเคาท์เตอร์มากกว่า ซึ่งพนักงานน้อยที่สุด 1 คนก็เพียงพอ ค่าเช่าก็ลดลงมาได้เยอะตามแต่โลเกชั่น ส่วน 35 แก้วขั้นต่ำทำได้สบายๆครับ ผมไม่เคยขายนะ เคยแต่ซื้อ ช่วงเวลา prime time เช่น 7.30-8.30 ก็น่าจะได้เกือบ 100 แก้วแล้วครับ น้ำ ไฟ โทรศัพท์ เยอะไปครับ หนักกว่าค่าวัตถุดิบอีก ซึ่งออกจะสวนทางกับความเป็นจริง (ในมุมมองผมซึ่งไม่เคยทำนะ) จากคุณ : Tiny CEO - [ 17 เม.ย. 52 11:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ ^ ถ้าที่ร้าน มีแอร์ ก็น่าจะถึงนะคะ จากคุณ : heantanthi - [ 17 เม.ย. 52 12:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราเคยขาย  เอาเฉพาะต้นทุน ตัวกาแฟอย่างเดียว ไม่รวมค่าใช้จ่ายก็   8 บาทกว่า ขนาดแก้ว 22 ออนซ์ ขาย 35-40 บาทต่อแก้ว ถ้าเอาต้นทุนพวกค่าน้ำ ค่าไฟ  ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ต้นทุนต่อแก้วก็ประมาณ 18 บาทกว่า ๆ   คุณว่ากำไรแมะ ยิ่งพวกชาด้วยแล้ว  กำไรสุด  ต้นทุนชาห่อนึง  ไม่ถึงร้อย หรือร้อยกว่าบาท ต่อ กก  แตเอามาชงได้มากกมายมหาศาล ยิ่งเหล้าปั่นด้วยแล้ว  ไม่ต้องพูดถึง ขายเหยือกละ 80-100 ต้นทุนต่อเหยือก  ประมาณ สามสิบกว่าบาท สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทำเล ทำเล ไม่เห็นเหรอว่า พวก brandname กาแฟยี่ห้อดัง  พยายามที่จะผูกขาดทำเลเอาไว้   ส่วนเรื่องรสชาติ การบริการ สามารถ ปรับปรุงพัฒนาได้  แต่เรื่องทำเลสิ สำคัญที่สุด แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 52 12:50:14 จากคุณ : ajstar - [ 17 เม.ย. 52 12:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. ค่าเช่าห้อง (สมมติเป็นตึกแถว 1 ห้อง) 10,000 บาท *** ค่าเช่าเต็มที่ไม่ควรเกิน4-5 พันบาทครับเกินกว่านั้นต้องเป็นทำเลที่ดีมากๆๆ ไม่งั้นอยู่ไม่ไหว 2.ค่าพนักงาน (ใช้คนงานน้อยที่สุด 2 คน)  6,000 x 2 บาท *** ปกติจะใช้แค่คนเดียวครับ ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของอยู่เองก็สบายครับ 3.ค่าน้ำ ไฟ โทรศัพย์                           5,000 บาท *** มีแต่น้ำกะไฟ ครับ แต่คิดว่าไม่เกิน2000บาทครับ 4.ค่าวัตถุดิบ (ขั้นต่ำ)                             3,000 บาท *** วัตถุดิบ หลัก ก็มี พวก นมทั้งหลาย ซึ่งถือว่าเป็นเงินหมุนเวียนครับ วงเงินสัก 1-2 พันบาทก็เหลือๆ แล้ว ส่วนกาแฟ ก็ประมาณ3000บาท 5. กำไรของเจ้าของ                              xxxxx บาท  *** อันนี้แล้วแต่เป้าหมายของแต่ละคนครับ ส่วนเรื่องต้นทุนผมไม่บอกล่ะกันครับเอาไว้ถ้าทำเองก็จะรู้เอง จากคุณ : muk_22 - [ 17 เม.ย. 52 13:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยเห็น คีออส ตามเต๊นขายอาหาร ขายแค่ แก้วละ 25 บาท ต้นทุนกาแฟเย็น 12 บาท ต้นทุน กาแฟร้อน 8 บาท แค่ช่วงเที่ยงนะ เค้าขายได้ 200 แก้ว อาศัยว่าร้อนหน่อย ไม่มีแอร์ แต่ขายแค่เช้าถึงเที่ยง ตกบ่ายกลับบ้านนอน ไม่มีหนี้ มีสิน อยู่สบายค่ะ ปล. ส่วนใหญ่เค้าขายเอง ไม่ก้อ จ้างลูกจ้างคนเดียว เคยเห็นเจ้าของร้านเป็น พนักงานอยู่แถวนั้น ตอนเที่ยงก็มาช่วยลูกจ้างขายของ ประหยัดเห็นๆ แต่ถ้าเปิดร้านเป็นร้านแอร์เย็นสบายเย็นฉ่ำ ค่าเช่า +ค่าไฟ+ค่าลูกจ้าง เราว่าไม่เวิค ถ้าแบรนด์คุณไม่คุณภาพจริงๆ หรือ ติดตลาดจริงๆ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 52 14:21:30 จากคุณ : mizzi - [ 17 เม.ย. 52 14:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห.5 ขายเหล้าปั่น รวยโคตรๆ ยิ่งไม่ต้องเสียค่าทำเลแพงก็ยิ่งรวย ต้นทุนถูกมากๆ เพื่อนผมทำอยู่เห็นรายรับรายจ่ายมันแล้วตาโตเลย ยิ่งถ้าขายโซนที่ตั้งราคาแพงได้ยิ่งดี แต่ส่วนใหญ่แค่เหยือกละ 120 ต่อ 1 shot ก็รับเละจะแย่แล้ว ถ้าต้นทุนก่อนหักจุดคุ้มทุน(กรณีพึ่งเปิดกิจการ)ก็เหยือกละ 50 บาท กำไร 1 เท่ายิ่งถ้าได้เกินจุดคุ้มทุนแล้ว เพื่อนผมว่าอย่างมากเหยือกละ 20-30 บาท กำไรเนาะๆ แต่ส่วนใหญ่ที่รวยกันช้าเพราะเพื่อนมาช่วยกินเยอะ(ฟรี) จากคุณ : Am_hilo - [ 17 เม.ย. 52 14:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าบางทีก็เปิดเพราะเหมือนแฟชั่นนะ เป็นช่วงๆ เหมือนระยะนึงจะเป็น ฝรั่งแช่บ๊วย ชาไข่มุก อะไรประมาณนี้อ่ะครับ แต่กาแฟเนี่ยบางร้านก็อร่อยคุ้มค่านะ บางร้านนี่รสชาติ แบบไม่อยากกิน แต่ก็ต้องกินเพราะมันแพง จากคุณ : ซุปไก่ - [ 17 เม.ย. 52 16:59:16 A:192.168.50.58 X:124.120.252.42 TicketID:165421 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากประสบการณ์ที่เคยช่วยเพื่อนขาย ถ้าคิดเฉพาะค่ากาแฟ (ก่อนนม, คอฟฟี่เมท ขึ้นราคา) ก็กำไรโขอยู่ สัดส่วน ของส่วนผสมขึ้นอยู่กับสูตรกาแฟด้วย ที่ร้านมี 2 แบบ คือ แบบถูก 20 บ. และ 35 บ. อร่อยต่างกันส่วนผสมต่างกัน แต่ที่ร้านใส่ 16 ออนซ์นะ และใช้กาแฟอย่างดี ร้านอยู่ในปั๊มลูกค้าประจำเยอะ แต่..กำไรจะหายหมด เพราะ ค่าเช่าที่ (ถ้าทำเลดีก็แล้วไป), ค่าไฟ,ค่าแอร์,ค่าเด็กชงกาแฟ จากที่เราทำบัญชีทุกวัน จนถึงวันจ่ายค่าเช่า และรายจ่ายอื่นๆ กำไรแทบไม่เหลือเลย ถ้าจะให้กำไรเหลืออาจจะต้องเปลี่ยนสูตรกาแฟ และลดสัดส่วนของส่วนผสมลง รวมถึงเปลี่ยนเกรดกาแฟ แต่..จะให้ได้กำไรดีและขายแบบเดิมได้ จะดีมากถ้าเราไม่ต้องจ่ายค่าเช่าที่เอง ที่ร้านค่าเช่าที่ + ค่าไฟก็หมื่นกว่าๆ ค่าน้ำเหมา 300 บ. ค่าเด็ก 5000X2 ค่าหนังสือพิมพ์, หนังสือเช่า ค่าขนมที่ร้านไม่ค่อยได้กำไรจากตรงนี้ เคยเอาตู้ไอติมมาไว้ก็ต้องเอาออกกินไฟมั๊กๆ ถ้าใครมีตู้ขนมปรับอุณภูมินั่นก็ค่าไฟเอาเรื่องนะ ตอนหลังเพื่อนเราแยกไปขายที่ร้านเพื่อน ที่เค้าขายเย็นตาโฟ ข้าวแกง (ขายดีมาก) เพื่อนทำแบบเคาร์เตอร์แล้วใช้สูตรแก้ว 20 บ. ขายดีมากค่ะ แต่กาแฟใช้เกรดอย่างดีเหมือนเดิม ที่ปั๊มให้เด็กดูแลกันเอง เพื่อนชงเองไม่ได้จ้างลูกจ้าง ขายแค่ 3 ชั่วโมง ตอนหลังเลยเอาลูกชิ้นปิ้งไปลงด้วยก็ขายดี มาคำนวนดูค่าใช้จ่าย กำไร ได้มากกว่าร้านที่ขายอยู่ในปั๊มอีก แต่..สุดท้ายก็สู้พิษเศรษฐกิจไม่ไหว เลิกทำทั้ง 2 ที่แล้วค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองเปิดมาเกือบสิบปีแล้ว เราน่ะเสียดายสูตรกาแฟมาก แต่ก็ดีใจที่เราเคยไปช่วยอยู่เป็นปี ก็ได้ความรู้เรื่องกาแฟ และฝีมือในการชงมาด้วย ชงกาแฟทุกวัน สูตรกาแฟมันก็จำได้อยู่ในสมองน่ะ แต่ส่วนตัวไม่คิดเปิดร้านกาแฟซึ่งเมื่อก่อนอยากเปิดบ้าง อยากมีร้านเล็กๆน่ารักๆ แต่พอไปทำแล้วไม่อยากทำแล้วล่ะ ขายประกันอย่างที่ทำอยู่ก็ดีอยู่แล้วอิสระกว่ากันมากมาย แต่ถ้าอยากลองเปิดร้านดูก็ได้นะ ไม่ลองไม่รู้ แต่เราจะไปเทียบกับแบรนด์ใหญ่ๆไม่ได้เค้ามีระบบที่ดีมากๆเลย ที่บอกแบบนี้เพราะ เมื่อก่อนเจ้าของบริษัทเมล็ดกาแฟเคยชวนไปทำแฟรนไชส์ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะกัดกันเอง เรื่องมันเยอะค่ะนานแล้ว จากคุณ : แพนด้าตัวกลม (โดนยึดอมยิ้ม) - [ 17 เม.ย. 52 17:36:01 A:124.120.15.206 X: TicketID:209388 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คิดอยากทำเหมือนกัน  แต่ยัง 2 จิต 2 ใจ  ไม่ค่อยกล้า จากคุณ : กระบือหน้าหวาน (MR.Bigsu) - [ 17 เม.ย. 52 17:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อากาศร้อนมั๊งคะ เลยเปิดกันเยอะ แต่วันละ 35 แก้วน่าจะได้นะ ต่อวันน่าจะมากกว่านั้น จากคุณ : jeabjaew - [ 18 เม.ย. 52 00:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มีแต่คนประสบความสำเร็จเนาะ อิอิ แถวบ้านผมเปิดเยอะ แต่ปัจจุบันเหลือนิดนึง สาเหตุที่หายไปคงเพราะ กำลังซื้อของลูกค้าไม่เพียงพอ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 18 เม.ย. 52 15:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทำเลสำคัญที่สุดค่ะ ที่ที่มีสำนักงาน ตึกสูงๆ โห ที่ทำงานเราเป็นแค่เคาเตอร์ไม่ใช่ร้าน มีพนักงาน 3 คนยืนชง ยังไม่ทันเลยค่ะ ไม่ต้องมีบริการอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องอัธยาศัยดี ชวนคุยจนเบื่อ ไม่ต้องมีแอร์ ไม่ต้องมีหนังสือให้อ่าน ขอแค่ชงเร็วๆ จะได้รีบขึ้นไปทำงาน จบ ขายแค่ 6.30-13.00 น. กลับบ้าน สบายไป เพราะแถวนั้นมีตึกสูงประมาณ 30 กว่าชั้น 4 ตึกติดกัน คิดดูว่าจะมีจำนวนคนมากขนาดไหน  ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อน และบางที มันเป็นค่านิยมของสาวออฟฟิศ ที่ต้องเดินถือแก้วกาแฟเย็น ทั้งที่ออฟฟิศมีให้กิน .. ซึ่งเราก็เป็น รสชาด เป็นส่วนประกอบ ถ้าไม่เลวร้ายมากยังไงคนก็กินค่ะ แต่ถ้าคุณรสชาดดีมาก แต่อยู่ไกลสุดๆ หาที่จอดรถยาก ไม่ใช่ทางผ่านอร่อยแค่ไหนก็จบ จากคุณ : Puyingthammada - [ 19 เม.ย. 52 13:11:16 ]