ความคิดเห็นที่ 1 ลองกลับไปหาอ่าน ประชาชาติธุรกิจ สองสามฉบับที่ผ่านมาแล้วจะเข้าใจเองค่ะ สรรพกรเขาก็ฉลาดเหมือนกันนะ จากคุณ : บ๊วย...นิยามของคำว่าสวย - [ 17 เม.ย. 52 22:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่คุณว่ามันเหมาะกับอาชีพบางกลุ่มเท่านั้น หรือถ้าเป็นกิจการก็ไม่ใหญ่ ถ้าเป็นกิจการใหญ่ๆยังไงจดเป็นบริษัทคุ้มสุดครับ ยอดขายเป็น ร้อยล้าน พันล้าน จะไปทำแบบคุณว่าได้ไง จากคุณ : ปลาทู - [ 17 เม.ย. 52 22:03:57 A:58.8.239.65 X: TicketID:116053 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บริษัทที่ดี จะเอาเวลาไปบริหารกิจการให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าการเอาเวลาไปคิดหลีกเลี่ยงภาษี จากคุณ : EREWHON_nowhere - [ 17 เม.ย. 52 22:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คงมีคณะบุคคล ที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน   ทำธุรกิจเหมือนกัน   ในสถานที่เดียวกัน แล้วจะแบ่งแยกกันเก็บเงินกันยังงัยดีล่ะ คงไม่มีใครเชื่อหรอกครับ จากคุณ : mr.we - [ 18 เม.ย. 52 00:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 "แล้วทำไมผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ ไม่แตกหน่วยย่อยๆ เพื่อให้รายรับไม่เกินกว่า 1.8 ล้านบาท จะได้ไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ( VAT ) บ้าง" เห็น sme รายเล็ก ๆ ที่รายได้เกินเค้าก็ทำกันอยู่ค่ะ  มีหลายวิธี แต่ไม่ได้หมายความว่าหนีภาษีนะคะ  ยังเสียภาษีตามปกติ (ปล.จากประสบการณ์งานที่เคยดูแลสัญญาเช่าประเภทต่าง ๆ ) แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 52 01:03:25 จากคุณ : CoffeeBake - [ 18 เม.ย. 52 00:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีการทำอยู่บ้างครับ แต่ในบ้างกิจการ ทำไปก็จะวุ่นกว่าเดิม เพราะรายได้มากกว่านั้นมาก แล้วบ้างบริษัทก็นิยมติดต่อกับบริษัทที่สามารถออก VAT ได้ หรือบ้างกิจการ มีต้นทุน/ค่าใช้จ่ายที่มี VAT มาด้วย ถ้าไม่เอา VAT ออกไป ต้นทุนสูงกว่าเดิม 7% ปล. รายได้ 1.8 ล้านต่อปีสำหรับหลาย ๆ กิจการเล็กน้อยมากครับ จากคุณ : MAX - [ 18 เม.ย. 52 01:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาษีไม่ใช่ต้นทุน ให้ผู้ซื้อจ่ายไปสิ คิดมากทำไม แต่ส่วนใหญ่ถึงบวกแล้วก็ไม่อยากเสีย เพราะมันโลภไง จากคุณ : bbb - [ 18 เม.ย. 52 13:13:38 A:58.8.231.229 X: TicketID:198382 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ บริษัท A และ B ซื้อสินค้ามา ต้นทุน 1,000,000 บาท เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วจะเป็น 1,070,000 บาท ทั้ง A และ B ไปเสนอขายสินค้าดังกล่าวให้บริษัท C และบริษัท C เป็นบริษัทที่จด VAT ที่ราคาเท่ากัน  คือ 1,200,000 บาท ที่ราคาไม่รวม VAT แต่บริษัท A ไม่ได้จดทะเบียน VAT ไว้ ดังนั้น เมื่อเสนอขาย และขายได้ บริษัท A จะได้กำไร 130,000 บาท บริษัท B จดทะเบียน VAT ไว้ ถ้าขายให้ C ที่ยอดเท่ากัน  ก็จะได้กำไร 200,000 บาท เพราะสามารถเคลมภาษีซื้อได้ ภาษีขายบริษัท C ก็รับไป ที่นี้ ถ้าบริษัท B เสนอส่วนลดให้ บริษัท C เพื่อแข่งราคากับบริษัท A เช่นขาย สินค้าให้ C ในราคา 1,150,000 บาท  B จะได้กำไร = 150,000 บาท คิดเอาเหอะว่า ขนาดลดให้ 5% กำไรยังมากกว่าอีก ในความเป็นจริง ถ้าขายสินค้าหลักล้าน ยังไงก็ต้องจด VAT แต่ที่ยกยอดขนาดนี้ จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น จากคุณ : MAX - [ 18 เม.ย. 52 14:07:39 ]