Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    กำลังโดนบีบให้ออกอย่างแรง ทำอย่างไรดีคะ

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มขณะข้ามถนนในที่ทำงาน เป็นเหตุให้ข้อเท้าพลิกอย่างแรง แต่เนื่องจากเป็นช่วงต้นเดือน จึงไม่กล้าหยุดงาน เพราะต้องเคลียร์งาน ฝืนจนกระทั่งล้มอีกครั้งตอนฝนตกที่บ้านในคืนวันที่ 11 วันที่ 11 ข้อเท้าบวมมาก จึงไปหาหมอ

    หมอเอ็กซ์เรย์ และวินิจฉัย ว่ามีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ และเอ็นเท้าพลิก มีทางรักษา 2 ทางคือ 1 ใส่เฝือกล็อคเอ็นไว้ แต่มีข้อเสียคือ ห้ามโดนน้ำเลย และการบีบรัดตลอดเวลา อาจไม่ดีเท่าไหร่ 2 พักรักษาขา โดยไม่ใส่เฝือก และกายภาพบำบัดที่บ้าน พยายามเดินให้น้อยลง ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ หมอบอกว่าการบาดเจ็บเส้นเอ็นต้องใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 3 สัปดาห์อย่างน้อย

    เราเลยบอกหมอไปว่า ใส่เฝือกอาจไม่สะดวก ขอกายภาพและพักขาดีกว่า ซึ่งเราหยุด 3 อาทิตย์ไม่ได้ เบื้องต้นขอแค่ 3 วันพอ แล้วจะกลับไปเคลียร์งาน หมอก็อนุญาต โดยสั่งให้ใช้ขาน้อยที่สุด และให้กลับไปเช็คอีกครั้งเมื่อครบหนึ่งอาทิตย์

    ปรากฏว่าครบ 3 วันแล้วไม่หายค่ะ ประกอบกับฝนตกหนักน้ำท่วมหน้าบ้าน เลยตัดสินใจโทรไปแจ้งลางานต่อ อีก 2 วัน ซึ่งจะไปชนกับวันที่เคยขอลาพักร้อนล่วงหน้าตั้งแต่เดือนที่แล้วอีก 2 วัน เพราะลูกไปโรงเรียนครั้งแรก และ รร ขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองเข้าร่วม

    เมื่อครบกำหนดก็ไปทำงานตามปรกติ แต่ขาก็ยังไม่หาย ก็พันผ้าเวลาเดินตามหมอบอก ตั้งใจไปเคลียร์งาน พอไปถึงเจ้านายก็เรียกเข้าห้องเย็น และสอบถามว่ามาทำงานยังไง เราก็บอกไปว่า นั่งรถตู้หมู่บ้านมาต่อรถไฟฟ้า แกถามว่าใช้เวลากี่ชั่วโมง ก็ 3 ชั่วโมง

    จากนั้นแกก็ร่ายยาวว่า ว่าด้วยกฏหมายแรงงาน และกฏระเบียบของบริษัทแล้วแกต้องการให้ดิฉันควบคุมวันลาของตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยลาป่วยไปบ้างแล้ว โดยแกอ้างว่าไม่มีสิทธิลาเกิน 30 วัน และกลัวแทนหากดิฉันใช้สิทธินั้นเกินไป และพาดพิงยกกรณีพนักงานคนอื่น ที่เคยป่วยเป็นวัณโรค และต้องใช้เวลารักษาตัวว่า เคสนั้นพนักงานไม่ได้ลาออก แต่บริษัทให้ออกเอง พร้อมเงินชดเชย และบอกว่าถ้าเจ็บป่วย ไม่สบาย เป็นไข้ เป็นหวัด ก็ไม่ควรหยุด แต่ให้มาทำงาน

    ดิฉันเลยถามแกไปตรงๆ ว่า แกต้องการเลิกจ้างหรือให้ดิฉันทำอย่างไร เพราะตามกฏหมายแรงงานดิฉันรู้ดีอยู่แล้วว่าหยุดได้ตามที่ป่วยจริง แต่บริษัทจะจ่ายแค่ 30 วัน ซึ่งดิฉันก็เข้าใจดี และรวมแล้ววันลาพักร้อน กับลาป่วย ก็ยังไม่เกินกำหนด เลยไม่เข้าใจว่าแกจะสื่ออะไรกันแน่

    ส่วนเรื่องที่แกจะให้สัญญาว่าจะไม่ลาป่วยอีก ก็ได้ชี้แจงกับแกไปว่า มันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ดิฉันคงสัญญาไม่ได้ โดยพื้นฐานพนักงานทุกคนต้องรู้ลิมิตอยู่แล้วว่าเมื่อไหร่ที่ควรมาทำงาน เมื่อไหร่ที่ต้องหยุด ซึ่งหากฝืนมาทำงานแล้วเกิดข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ตามมา มันจะยิ่งบานปลายเกินเหตุ

    แกก็ถามกลับว่าเดือนนี้ล้มแล้ว เดือนหน้าจะล้มอีกไหม สุขภาพสำคัญกว่าเงินทอง และการงาน แกก็ให้ป่วยได้ตามที่หมอบอก แต่หากหยุดนานก็ต้องพิจารณากันอีกที และว่าถ้าวันนี้ทำงานต่อก็ไม่มีปัญหา  แต่แกก็จะต้องไปประชุมกับบริษัทในเครือว่าจะจัดการอย่างไรกับดิฉันดี

    ดิฉันเลยตัดสินใจขอยืดวันลาป่วยไปแล้วกัน เพราะรู้สึกแย่จริงๆ เราพยายามไปทำงานด้วยความรับผิดชอบเต็มที่ อยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจนวันนี้ ทำงานหนักมาตลอด แต่พอเปลี่ยนนายแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ ดิฉันเลยบอกไปว่า งั้นจะกลับไปหาหมอ ไปปรึกษาว่าถ้าวันลาไม่ใช่ปัญหาแล้ว ควรรักษาอย่างไร ดิฉันเห็นด้วยว่าสุขภาพนั้นสำคัญจริงๆ และจะส่งใบรับรองแพทย์ให้

    ส่วนเรื่องงานตลอดเวลาที่หยุดก็ยังทำงานอยู่ที่บ้าน และส่งงานเข้าบริษัททางอีเมล์ หรือโทรติดต่อไป เพราะงานในระบบจะต้องทำเดือนละหนึ่งครั้งตอนสิ้นเดือนค่อยเข้าบริษัท ซึ่งดิฉันก็ยืนยันว่าจะทำให้เหมือนเดิม แต่เจ้านายปฏิเสธบอกว่าอยากให้คนอื่นทำมากกว่า

    ไปหาหมอก็แนะนำเหมือนเดิม โดยให้ยืดวันหยุดออกไปอีก และมาติดตามผลอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ซึ่งดิฉันได้ส่งใบรับรองแพทย์ให้เจ้านายทางอีเมล์ในวันรุ่งขึ้น

    พอเมื่อวานเย็นแกนัดประชุมแผนกและกล่าวโจมตีดิฉันอย่างรุนแรง ว่าเป็นคนขาดสามัญสำนึก และไม่มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และต่อบริษัท พร้อมอ้างว่า แกคิดว่าดิฉันไม่ได้ป่วยจริง เพราะแกก็เคยเจ็บป่วยมาก่อน แต่ดิฉันดูไม่เหมือนคนป่วย และอ้างว่าดิฉันไม่มีใบรับรองแพทย์ ขาดการติดต่อกับบริษัท และหยิบกว่าเกิดปัญหามากมายหลังจากที่ดิฉันลางาน ซึ่งหากจะลานานขนาดนี้ แกก็ต้องพิจารณาลงโทษเพราะดิฉันทำตัวออกนอกกฏ และพูดว่าหากไม่มาเลยทั้งเดือนก็คงจ่ายเงินให้ไม่ได้

    หัวหน้าบุคคลก็ไม่รับสาย เพราะดิฉันมีอคติ แต่ในความเป็นจริงขณะที่แกโทรเข้ามาดิฉันก็กำลังคุยงานกับน้องในบริษัทนั่นแหละ และได้ให้น้องถามแล้วว่าใครโทรมาหาดิฉัน แต่ไม่มีใครตอบ เลยไม่คิดว่าไม่มีอะไรด่วน ตลอดช่วงบ่ายก็ไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย พอตอนเย็นแกเลยไปฟ้องนายว่าดิฉันอคติไม่รับสายแก (ดิฉันเคยมาเขียนถามเรื่องของหัวหน้าคนนี้เช่นกันว่าเธอใช้อคติในการทำงาน และสร้างปัญหามากมายในการทำงานร่วมกับผู้อื่น และแกก็ไม่ชอบดิฉันที่เป็นพนักงานคนแรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว)

    โดยน้องที่ทำงานที่ทราบเรื่องราวดี ได้โทรมาแจ้งว่านายปฏิเสธว่าได้รับการติดต่อจากดิฉัน ให้ส่งเอกสารเข้าไปอีกครั้ง และสถานการณ์ตอนนี้เหมือนแกพยายามทำให้ทุกคนคิดว่าดิฉันเป็นพนักงานชั้นเลว แกล้งป่วย ไม่ให้ความร่วมมือกับบริษัท และจำเป็นต้องได้รับการลงโทษ

    ดิฉันควรจะเตรียมตัวรับมืออย่างไรดีคะ

    จากคุณ : veryveron - [ 23 พ.ค. 52 09:41:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com