เสน่ห์อาชีพนักขาย ไม่ว่าจะเป็นขายตรงหรือขายประกัน มีความเหมือนกัน คือ ไม่ว่าคุณจะจบ ป.4 หรือ จบปริญญาเอก

ถ้าเข้ามาอยู่ในวังวนของการขายแล้วละก็ ทุกคนมี "ต้นทุน" เท่ากัน มีโอกาสจะประสบความสำเร็จ "เท่ากัน"

เพราะ คนจบ ป.4 อาจกล้าเดินไปขายของกับแม่ค้าขายไก่ย่าง ส่วนด๊อกเตอร์ อาจจะรู้จักผู้มีอำนาจการซื้อมากกว่า เป็นข้อดีข้อด้อยที่ต่างกันไป

ถ้า ในเชิงการขายแล้วละก็ ผมรวบรวมเทคนิคต่างๆ เอาไว้เป็นตำรา โดยใช้ความรู้ทางด้านตะวันออกในเชิงจิตวิทยา กับความคิดด้านตะวันตกในเชิงของโหงวเฮ้ง มาประสานกันใช้ชื่อว่า "การขายแบบโปรแกรมจิต"

การขายแบบโปรแกรมจิต คือ การขายโดยใช้การสื่อสารเพื่อจูงใจประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้รับฟัง ไม่ว่าจะเป็นแววตา ภาษามือ กลิ่นน้ำหอม ภาษากาย

เหล่านี้สามารถทำให้ผู้รับฟังจดจำนักขายได้ จดจำสินค้าที่เราขายได้ และเมื่อไหร่ที่ลูกค้าต้องการบริโภคสินค้าจะนึกถึงคุณเป็นคนแรก

เทคนิค แรกเป็นเทคนิคที่ผมค่อนข้างหวงมากเป็นพิเศษ เพราะผมนำไปใช้ในการทำงานทุกที่ ไม่ว่าจะเป็การวิเคราะห์ฮวงจุ้ย หรือ การบรรยายเป็นวิทยากรในงานต่างๆ

นั่นคือ "การเดินมาหาลูกค้า จากซ้ายไปขวา"

สาเหตุ ที่ต้องเดินมาหาลูกค้า จากซ้ายไปขวา ก็เพราะว่าการเข้าหาลูกค้าจากซ้ายมือไปทางขวามือ จะทำให้ลูกค้าวางใจได้มากกว่า การเข้าจากขวามาซ้าย

ทั้งนี้เพราะ มนุษย์คุ้นเคยกับการอ่านหนังสือจากซ้ายไปขวา เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเข้าหาลูกค้าจากซ้ายไปขวา ย่อมทำความคุ้นเคยให้ลูกค้าได้มากกว่า

เทคนิคที่สอง คือ "การสร้างโหวงเฮ้งที่ดีภายใน 1 นาที"

ทุก ครั้งที่เราเดินเข้าไปหาลูกค้านำสินค้าไปเสนอ ด้วยความเชื่อมั่นอย่างมั่นใจ อกผาย ไหล่ผึ่ง ลูกค้าก็จะมีความเชื่อมั่นในสินค้าเรา

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ดารา ฮอลิวูดใช้เป็นประจำเวลาขึ้นไปรับรางวัลบนเวที เวลาที่เราเห็นนักแสดงเหล่านั้น เราจะรู้สึกได้ถึงความสง่า ผ่าเผย ความเป็นผู้นำ

แต่เทคนิคนี้ฝึกได้ง่ายๆ นั่นคือ ให้ฝึกที่ลมหายใจ โดยการสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วกลั้นเอาไว้ ร่างกายของคุณก็จะพองขึ้น สง่าขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้น จากนั้นให้ลองเดินไปข้างหน้า สังเกตุระยะก้าวเอาไว้

วิธีใช้เวลาที่เราเข้าไปหาลูกค้า เมื่อเรากะก้าวที่เราจะไปถึงลูกค้า ให้สูดลมหายใจให้ลึกที่สุด กลั้น เอาไว้ โหวงเฮ้งคุณจะดีเอง

เทคนิคที่สาม "จงขายของ เหมือนเล่านิทานให้ลูกค้าฟัง"

เทคนิค นี้ใช้จิตวิทยาในด้านประสบการ์ณร่วม ผู้ใหญ่ทุกคนเมื่อยามเป็นเด็กต้องเคยผ่านการฟังนิทานมา จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเขาเหล่านั้นยังคุ้นเคยกับการฟังนิทานอยู่

หลายครั้งที่เวลานักขายขายของมุ่งเน้นแต่การขายมากเกินไป จนทำให้ลูกค้าเบื่อผู้ขายและพลอยเบื่อสินค้าไปด้วย

นักขายควรเล่านิทานให้ลูกค้าฟังบ้าง นิทานในที่นี้ไม่ใช่เรื่อ เต่ากับกระต่าย หรือ ซินเดอเลร่า

แต่นิทานสำหรับผู้ใหญ่ คือ เรื่องเล่าจากประสบการ์ณของนักขาย

ถ้าสมมุติว่าลูกค้ามีประสบการ์ณร่วม ลูกค้าก็จะเปิดใจเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน

ยังมีเคล็ดลับการขายแบบโปรแกรมจิตอีกมากมาย ไว้โอกาสหน้าผมจะนำมาถ่ายทอดให้ฟัง วันนี้ขอฝากข้อคิดไว้หนึ่งข้อครับ

"ในเส้นทางของนักขาย ทุกท่านจะประสพความสำเร็จได้ มาจากความมานะและฝึกฝน มิใช่จากโชคชะตา"

ข้อความที่เขียนขึ้นเป็น "ความเชื่อ" ส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน

แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 04:36:52