ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มแรกคุณจะเป็น blacklist ของสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งเข้าไปติดในเครดิตบูดรแล้ว ก็จะเพิ่มความยากในการกู้เงินภายหน้า ถ้าไม่จ่ายเลย แบงค์เค้าก็จะฟ้องร้องให้คุณหาเงินมาชดใช้ ซึ่งก็จะเริ่มจากกระบวนการ ขั้นตอนทางศาลอีกนิดหน่อย ศาลก็จะ ให้มีบังคับคุณให้ใช้ โดยอาจจะไปบังคับหักเงินเดือน สรุปว่าถ้าหวังจะมีอนาคตทางการเงิน ควรจะเจรจรา ประนอมหนี้ไป.. มีเท่าไรก็จ่ายเท่านั้น แบงค์เค้าไม่อยากให้คุณหนี หรอก.....ยังไงก็ต้องหาตรงกลางที่คุณจ่ายได้ มาทำให้มันเจอกัน จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต - [ 16 มิ.ย. 52 09:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การหนีทำให้เสียเปรียบในรูปคดี การคุยทำให้ได้เปรียบในรูปคดี เลือกเอาเลยครับว่าอยากเสียเปรียบ หรืออยากได้เปรียบ จากคุณ : jaminonez - [ 16 มิ.ย. 52 09:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จะมีเวปไชด์แนะนำเรื่องพวกนี้เหมือนกันนะครับ จำชื่อไม่ได้ แต่เสิจ ในกูเกิ้ลได้ครับ เป็นเหมือน สมาคมหรือชมรมเลยทีเดียว รับรองว่ามีทางออกให้คุณแน่ จากคุณ : 35-25-36 - [ 16 มิ.ย. 52 09:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 http://debtclub.consumerthai.org/ จากคุณ : moon (wonderchoice) - [ 16 มิ.ย. 52 10:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 http://debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=showcat&catid=2 เคยเข้าไปอ่านนะค่ะ เลยไม่กล้าทำบัตรเลย จากคุณ : mysister - [ 16 มิ.ย. 52 10:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. ต้องถามว่ามีอสังหาริมทรัพย์ (บ้าน) หรือทรัพย์สินที่เป็นชื่อคุณหรือเปล่า (ถ้ามีขายออกไปให้หมด) 2. ถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นๆ อีก คิดจะทำงานบริษัทเข้าสู่ระบบรึเปล่า 3. ถ้าไม่ก็ไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว หรือธุรกิจเล็กๆที่ไม่เข้าสารบบเงินเดือน ประกันสังคม 4. รอซัก 3-4 ปีถ้าได้เข้าสู่มนุษย์เงินเดือนอีกรอบ ค่อยจ่าย ส่วนลดน่าจะอยู่ที่ 60-70% นะครับ ลดจากเงินต้น ดอกเบี้ยยกเว้นไม่ต้องจ่ายเลย ผมก็เคยผ่านมาก่อนยอดใกล้เคียงกัน แล้วก็มาแฮร์คัทอยู่ที่ 7 หมื่นจ่ายทีเดียวจบ ดอกไม้คิดด้วยครับ เอาใจช่วย...อย่าท้อ จากคุณ : tuktow - [ 16 มิ.ย. 52 16:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 1. อย่าบอกเขาว่า ตกงาน ๒. พยายามจ่ายขั้นต่ำ เพื่อรักษาเครดิต ๓. หมุนเงิน และรักษา วินัย ผมเคยตกงานหลาย ๆ ครัง แต่ก็กู้ได้ ขณะตกงานเพราะ จ่าย หมด ด้วยการหมุน   เคยมัหนี้ ถึง ๗ แสน ตกงาน ๗ เดือน แต่ วันนี้ มีงาน ดี ๆ ตำแหน่ง ดี ๆๆๆ และ เป็นหนี้ได้เหมือนเดิม จากคุณ : supanut01 - [ 16 มิ.ย. 52 16:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องหนึ่งล้านบาทขึ้นไปถึงจะฟ้องล้มละลายได้ครับ จากคุณ : บี (inven) - [ 16 มิ.ย. 52 17:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หุหุ ... เราน่ะ     2   บัตรรวมกัน  1 แสนกว่า ไม่จ่ายมา8ปี ตอนนี้ติดต่อไปเพื่อจะชดใช้หนี้ปรากฎว่าเค้าลดให้เหลือแค่ 3 หมื่นกว่าๆ เองทั้งที่ดอกทบต้นมันก็4เกือบ 5แสนแล้ว เลยรีบๆเอาไปคืนเค้าแล้วเค้าก็ออกเอกสารการไม่มีหนี้ต่อกันแล้ว และจะแจ้งเข้าไปในเครดิตบูโรว่าปิดบัญชีแล้ว   **ต่อไปนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตารอไปอีก 36 เดือนค่อย สมัครบัตรใหม่เพราะข้อมูลในเครดิตบูโรจะมีแค่ 36  เดือนย้อนหลัง จากคุณ : Chut790 - [ 16 มิ.ย. 52 19:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตามคห.9 เลยครับ ปกติตามหลักบัญชีเค้าจะต้องสำรองหนี้สูญเป็น ratio สูงขึ้นทุกๆปี เช่น 3 ปีอาจจะตัดเหลือแค่ 30% 5 ปีเป็น 0 เพราะฉนั้นถ้าเกิดลูกหนี้มาจ่ายหลังจากที่เค้าตัดไปแล้ว หรือได้มากกว่าที่สำรองไว้ถือเป็น รายได้ครับ แต่อย่างที่บอกข้างต้น เราต้องหลุดจากสารบบเงินเดือน จากคุณ : tuktow - [ 17 มิ.ย. 52 07:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อืม แล้วแบบนี้ เรายังพอมีอนาคตทางการเงินอีกไหมครับ เพราะหากเราเกิดอยากใช้เงินลงทุนทำอะไรสักอย่างเช่น ซื้อบ้าน รถ หรือธุรกรรมอื่นๆ มันจะมี blacklist ติดไปจนตายเลยจริงไหมครับ แบบในโฆษณา จากคุณ : ช่วงช่วง - [ 17 มิ.ย. 52 10:06:33 A:125.25.109.231 X: TicketID:187110 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าไม่ชำระหนี้เขาฟ้องแพ่ง บังคับคดีก่อน เพื่อเอาทรัพย์สิน  และถ้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ และไม่เจรจากับเจ้าหนี้ คดีแพ่งมีอายุความ10ปี ถึงวันนั้นถ้าไม่ชำระหนี้และมีหนี้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท เขาสามารถฟ้องล้มละลายบุคคลได้ จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล - [ 17 มิ.ย. 52 20:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลองเข้าไปหาข้อมูลในชมรมหนี้บัตรเครดิตเยอะๆซิคับ เผื่อมีแนวทาง จากคุณ : Bkim - [ 18 มิ.ย. 52 11:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนี้บัตรเครดิตมีอายุความ 3 ปี หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความ 5 ปี อย่าเพิ่งไปกลัว อย่าเพิ่งลนลาน search หาข้อมูลทาง net หรือไปซื้อหนังสือของโจ มณฑานีมาอ่านซะ เครดิตเสียยังดีกว่าเสียชีวิต ค่อยๆ คิดๆ ค่อยๆ แก้ไขนะคะ มีสติก่อนค่ะ จากคุณ : Hot chocolate - [ 23 มิ.ย. 52 17:40:29 ]