PANTIP.COM : B8083888 ขอเตือน!!! อย่ารับคนมาช่วยทำงาน เพราะความสงสาร เห็นใจ [งานและทรัพยากรบุคคล]

ขอเตือน!!! อย่ารับคนมาช่วยทำงาน เพราะความสงสาร เห็นใจ

เรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับหัวหน้างานทุกคน อย่าได้รับคนมาร่วมงานด้วย เพียงเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนน่าสงสาร อย่าคิดว่าชีวิตเขาลำบาก เขาจะเป็นอดทน ขยัน ตั้งใจทำงาน ลองอ่านเรื่องนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิด
ตัวละครเอก (ตัวจริง ชื่อสมมติ)
1.คุณเปมิกา ผู้จัดการสาวผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง พูดจาโผงผาง ปากร้าย พร้อมฉะกับทุกคนเสมอ จริงจังในการทำงานและมีความทะเยอทะยานสูง
2. คุณพิงค์ รองผู้จัดการ ทำงานเก่ง แต่เงียบๆ เฉยๆ ไม่สุงสิงกับใคร เป็นคนตรงๆและไม่ค่อยทันเล่ห์เหลี่ยมคนสักเท่าไหร่
3. คุณป้าขาว จนท.ประสานงาน เป็นคนธรรมะ ธัมโม ดูเป็นป้าใจดีประจำฝ่าย มีน้ำใจกับทุกคน
4. คุณก็อป ผู้จัดการสาวสวย รวยเสน่ห์ ฮอตแอนด์เซ็กซี่

เรื่องมีอยู่ว่า คุณพิงค์ได้รับงานโปรเจ็กต์ใหญ่มาก ต้องการผู้ช่วยมาจัดการด้านการโทรศัพท์ การขนของ จัดของ พิมพ์ memo ต่างๆ ซึ่งเป็นงานรูทีน ไม่ยาก ไม่ต้องใช้ความสามารถมาก เอาแค่คุยรู้เรื่อง พิมพ์งานเป็น ใช้อีเมล์เป็นก็พอแล้ว เธอจึงแจ้งเปมิกาว่าต้องการคนช่วยงาน เปมิกาเห็นด้วยจึงแจ้งฝ่ายบุคคลขอเพิ่มกำลังคน เพียง 1 สัปดาห์ฝ่ายบุคคลก็หาคนได้ คือคุณป้าขาว วัย 36 ปี พิงค์เห็นว่าทำแค่งานง่ายๆ ก็ตอบตกลงรับเข้าทำงานเพราะเห็นว่างานง่ายๆ ไม่น่าจะมีปัญหา แล้วที่สำคัญเขาเคยเป็นพนักงานบัญชีมาก่อน น่าจะเป็นคนรอบคอบ ช่วยงานเล็กๆน้อยๆ ได้ เมื่อได้ร่วมงานกัน ป้าขาวเป็นพูดเพราะ ใจดี ขยัน ช่วยงานทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงงานหนักงานเบา สามารถช่วยลดภาระงานได้ดี พิงค์เหนื่อยน้อยลง
3 เดือนผ่านไป ครบกำหนดเลิกจ้างป้าขาว เนื่องจากงานใหญ่ก็หมดแล้ว ไม่มีอะไรให้ทำ เปมิกามาปรึกษาว่าจะจ้างป้าขาวต่อดีไหม ได้ข่าวมาว่าป้าขาวเป็นคนน่าสงสารมาก มีหนี้สินล้นพ้นตัว เนื่องจากไปเปิดร้านเสริมสวยแต่ขาดทุน ตอนนี้ก็เลิกทำ อยู่บ้านเฉยๆ พิงค์สงสารเลยบอกเปมิกาให้ป้าขาวทำงานต่อ ให้ช่วยคีย์ข้อมูล / ทำmemo / นัดประชุม ไปก็แล้วกัน ถ้าฝ่ายมีการขยายงานก็มอบหมายงานเพิ่มให้ เมื่อตกลงกันได้ จึงเรียกป้าขาวเข้าไปคุย เซ็นสัญญาเป็นพนักงานประจำในตำแหน่งจนท. ประสานงาน หลังจากเซ็นสัญญาป้าขาวเข้ามาไหว้ขอบคุณพิงค์ที่รับเป็นพนักงานประจำ พร้อมทั้งร้องห่มร้องไห้ดีใจที่พิงค์เมตตา ไม่คิดว่าป้าขาวแก่เกินกว่าจะทำงานบริษัท ในใจพิงค์ตอนนั้นไม่คิดอะไรมากไปกว่าต้องการคนช่วยงานและสงสารป้าขาวที่ชีวิตลำบากหนี้สินล้นพ้นตัว

ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ ทุกคนทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง แต่อยู่มาวันหนึ่งน้องนักศึกษาฝึกงานที่บริษัทก็เล่าให้พิงค์ฟังว่า ป้าขาวพูดจาไม่ดี ทำกิริยาไม่เหมาะสม แถมยังสอนเด็กฝึกงานที่ฝ่ายว่า “คนเราจะทำงานเก่งแค่ไหน ถ้าไม่รู้จักเอาอกเอาใจหัวหน้าไม่มีทางก้าวหน้า” พิงค์ฟังแล้วก็งงๆ แต่ก็ไม่ปักใจเชื่อที่เด็กฝึกงานบอก จนวันนึงป้าขาวเข้ามาขอคุยกับพิงค์เป็นการส่วนตัว และเล่าว่ามีปัญหากับเด็กฝึกงาน เรื่องนั้น เรื่องนี้ มากมาย พิงค์ได้แต่ฟังอย่างชั่งใจ เพราะทุกเรื่องที่ป้าขาวเล่ามา ไม่ตรงกับเด็กฝึกงานเลย ต่างฝ่ายก็ต่างเล่าจนพิงค์เริ่มสับสนแล้วว่าตกลงใครพูดเรื่องจริงกันแน่

ต่อมาไม่นานพิงค์ก็จับได้ว่าป้าขาวโกหกตลอดมาในทุกเรื่อง พิงค์เริ่มมีปฏิกิริยาเฉยๆ กับป้าขาว ไม่ค่อยทักทาย คุยเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น เพราะเสียความรู้สึกที่ดีต่อป้าขาว ด้านป้าขาวเริ่มแสดงตัวตนชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนดังคำร่ำลือที่พิงค์ได้ยินมา จากที่เคยช่วยเหลืองานพิงค์เป็นอย่างดี เธอเริ่มอ้างโน่นอ้างนี่และช่วยงานไม่เต็มที่เหมือนแต่ก่อน เธอเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไปที่เปมิกาผู้จัดการสาวผู้มีอำนาจสูงสุดในฝ่าย ทุกเช้าป้าขาวจะนำขนมนมเนยมาให้เปมิกา คอยหยิบกระดาษที่พริ้นเตอร์ให้ตลอดวัน ทั้งที่เปมิกาเดินเพียง 5 ก้าวก็ถึงพริ้นเตอร์ พูดจาสนิทสนมกันมากขึ้น ชวนกันไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัด
ความสัมพันธ์ระหว่างเปมิกาและพิงค์เริ่มมีปัญหากันตลอด ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน จากที่เคยสนิทสนมกัน ต่างหมางเมินใส่กัน โดยไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันๆ ทำงานโดยเขียนอีเมล์หากัน หน้าแทบจะไม่มองกันด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่งานมีปัญหาเปมิกาก็บอกให้พิงค์เคลียร์กับป้าขาวเอง พิงค์แก้ปัญหาโดยนัดคุย 3 ฝ่ายทั้งเปมิกา พิงค์และป้าขาว พิงค์เป็นคนตรงๆ ค่อนข้างใจร้อน พอโมโหมากๆเธอฉะป้าขาวไม่ยั้งเหมือนกัน แต่เมื่อเคลียร์ปัญหาลงตัว เธอก็จบแล้วจบเลย ไม่พูดซ้ำไม่พูดเรื่องเดิมอีก เพราะถือว่ามันผ่านไปแล้ว ทุกครั้งในระหว่างที่ว่ากล่าวตักเตือนป้าขาวเรื่องงาน ป้าขาวจะนั่งนิ่งไม่ตอบโต้แม้แต่น้อย แสดงถึงการเหมือนจะยอมรับผิด แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น วันรุ่งขึ้นเธอจะมาทำงานเช้ากว่าปกติและแอบนัดไปคุยกับเปมิกาสองคนเสมอ ฝ่ายเปมิกาเป็นคนหูเบาบวกกับความสงสารป้าขาวเป็นทุนเดิม เปมิกาหลงคารมป้าขาวซะสนิท หนำซ้ำเวลาป้าขาวทำงานผิดพลาด จึงไม่กล้าต่อว่า ได้แต่บอกให้พิงค์ทำใจ เพราะป้าขาวแก่แล้ว อย่าไปถือสา อย่าไปใส่ใจมาก ป้าขาวได้คะแนนสงสารไปเต็มๆ เธอมักจะฟ้องเปมิกาบ่อยๆว่าพิงค์สั่งงานแต่ไม่บอกรายละเอียดเลย ป้าขาวทำงานลำบาก, พิงค์โบ้ยงาน ขี้เกียจ, พิงค์นิสัยไม่ดีชอบนำเรื่องเปมิกาไปเล่าให้ฝ่ายอื่นฟัง ฯลฯ โดยพิงค์ไม่รู้ตัวเลยสักนิด

จนวันนึงเปมิกาตัดสินใจลาออก

แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 10:39:47

แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 10:37:28

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:25:11

ความคิดเห็นที่ 1

เข้ามาดู ...

จากคุณ : D_YONG

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:34:14

ความคิดเห็นที่ 2

จบรึยังค่ะ ไม่เห็นมีตัวละครที่ 4 เลย
แล้วจขกท.เป็นคนไหนหรอ

จากคุณ : น้องหนูยู่ยี่

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:05:28

ความคิดเห็นที่ 3

ยังไม่จบค่ะ รอแป๊บนึง กะลังเล่าต่อ

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:06:13

ความคิดเห็นที่ 4

เล่าต่อค่ะ

จนวันนึงเปมิกาตัดสินใจลาออกเนื่องจากได้งานที่ใหม่ เงินเดือนสูงขึ้น ตำแหน่งใหญ่ขึ้น เธอพูดกับพิงค์ว่าจะเสนอให้ผู้บริหารเลื่อนตำแหน่งพิงค์ขึ้นเป็นผู้จัดการแทน และฝากฝังให้ดูแลงานทั้งหมด วันต่อมาผู้บริหารเรียกพิงค์ขึ้นไปคุยพร้อมทั้งกล่าวชื่นชมความสามารถของพิงค์และผลงานต่างๆ พิงค์นับถอยหลังวันรับตำแหน่งใหม่ เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์เรื่องก็ยังเงียบอยู่ พิงค์เริ่มรู้สึกผิดสังเกต หลังจากนั้นมีการเรียกประจำชุมด่วนปรากฎว่าผู้บริหารได้โอนย้ายพนักงานฝ่ายพิงค์ทั้งหมดรวมทั้งตัวพิงค์ไปเป็นลูกน้องของผู้จัดการคนนึง คนๆนั้นคือคุณก็อป ผู้จัดการสาวสวย รวยเสน่ห์ ฮอตแอนด์เซ็กซี่ อดีตหัวหน้าของเปมิกา พิงค์อึ้งไปหลายวัน พูดอะไรไม่ออก งงชีวิตสุดๆ ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะพลิกผันได้ขนาดนี้

ต่อมาคุณก็อปเรียกพิงค์ไปคุย เธอบอกเปมิกาหัวหน้าพิงค์เล่าให้ฟังว่าพิงค์เป็นคนดื้อมาก พูดอะไรไม่ค่อยฟัง อยากให้พิงค์ปรับปรุงตัว พิงค์งงอีกรอบเพราะคิดไม่ถึงว่าเปมิกาลาออกไปแล้วทำไมถึงพูดให้พิงค์เสียหายขนาดนี้ แถมยังบอกอีกว่าอีกไม่นานพิงค์ก็จะลาออกตามเปมิกาไป ประโยคหลังนี่ทำพิงค์เซ็งชีวิตไปเลย โอกาสก้าวหน้าที่บริษัทนี้เหลือแค่ขี้ผง เพราะมาเจอหัวหน้าหูเบาขนาดหนัก แถมตอนประเมินผลงานกลับได้เกรดต่ำกว่าที่เคยได้อีก (ปกติได้ A+) แต่ไม่รู้ว่าได้เกรดอะไรเนื่องจากหัวหน้าไม่เคยคุยเรื่องนี้ แต่เดาเอาเองเพราะเงินเดือนขึ้นแค่ 5% ปกติได้ 20%

ฝ่ายป้าขาวพอมีผู้จัดการคนใหม่ ป้าขาวเริ่มตีสนิทกับคุณก็อป ทุกเช้าจะซื้อไก่ทอดบ้าง หมูปิ้งบ้าง น้ำเต้าหู้บ้าง ไปวางที่โต๊ะทำงานคุณก๊อปทุกๆ วัน กลางวันจะคอยโทรสั่งอาหารเที่ยง บางวันชวนกันทานข้าวกลางวันนอกบริษัท เรื่องนี้คนในฝ่ายงงไปตามๆกัน เพราะปกติคุณก็อปเป็นคนสวยหยิ่งเลือกได้ เธอมักจะไม่ค่อยสุงสิงกับพนักงานระดับเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นว่าสนิทกันมากขนาดเอาเสื้อผ้า รองเท้ามาให้กัน พนักงานในฝ่ายประมาณ 20 คนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งคุณก็อปและป้าขาว 15 คน ฝั่งพิงค์มีแค่ 5 คน จากที่เมื่อก่อนแม้ว่าพิงค์จะไม่สุงสิงกับใครมาก แต่คุยเล่นได้กลับทุกคน กลายเป็นว่าพิงค์เข้าหน้าใครไม่ติดเลย ไม่มีใครคุยกับพิงค์ถึงขึ้นบอยคอทไม่ติดต่อใดๆด้วยทั้งสิ้น ถ้ามีธุระจะคุยผ่านคุณก๊อปที่เป็นหัวหน้าพิงค์เท่านั้น

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:08:25

ความคิดเห็นที่ 5

มันมีจริงๆเหรอเนี่ยคนอย่างนี้ ไม่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ แต่อย่างนี้ต้องตำหนิผู้บริหารครับ เก่งจริงมันต้องแยกให้ออกว่าใครเป็นใคร

จากคุณ : oh wow

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:17:15

ความคิดเห็นที่ 6

เวรกรรม เป็นถึงระดับผู้จัดการแต่มองคนประเภทนี้ไม่ออก

นี่นับว่าเป็นความซวยอย่างมหันต์เลยนะครับ ที่แผนกผมก็มีคนประเภทนี้

เหมือนกันแต่หัวหน้าผมเค้าดูออกเพราะทำงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่

จากคุณ : matheus

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:30:34

ความคิดเห็นที่ 7

เล่าต่อ
พิงค์ทำงานด้วยความอึดอัดใจ พูดกับใครก็ไม่ได้ สงสัยก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนวันนึงได้รู้ความจริงทั้งหมดจากน้องนึงที่เคยสนิทกับป้าขาวสุดๆ แต่ก็แตกคอกันเพราะโดนป้าขาวแทงข้าวหลัง ใช้ชื่อสมมติว่าน้องหวานแล้วกันนะ น้องแก้มบอกว่าตลอดเวลาที่สนิทสนมกับป้าขาว ป้าขาวมักจะออกแนวกดๆน้องแก้มตลอด แถมยังคุยว่าสามีป้าขาวเป็นผู้จัดการบริษัทรถยนต์ยี่ห้อดัง ได้เงินเดือนๆละเกือบแสน แต่ที่ป้าขาวต้องมาทำงานก็เพราะว่าอยู่บ้านเฉยๆ มันเบื่อ ไม่มีเพื่อน ก็เลยมาทำงาน และป้าขาวเล่าให้ฟังว่า พิงค์เป็นคนโง่ ยังไงก็ต้องตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่ดี ที่ผู้บริหารไม่เลื่อนตำแหน่งให้พิงค์เพราะคุณก็อปไม่ชอบพิงค์ พิงค์นิสัยไม่ดี ขี้เกียจทำงานแถมขี้วีนอีกต่างหาก ยังไงก็จะหยุดตำแหน่งไว้แค่นี้ไม่มีทางขึ้นได้อีกแน่นอน พอพิงค์รู้ความจริงถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะทุกอย่างมันตรงข้ามกันเลย พิงค์เป็นคนขยันและไม่ค่อยพูดด้วยซ้ำ ออกแนวตรงไปตรงมาแต่ด้วยความที่เธอเป็นคนจริงจังเวลาคุยงานสีหน้าเธอจะดุหน่อยเท่านั้นเอง

ยังไม่จบแค่นั้น ป้าขาวผู้แสนดียังเดินสายใส่ร้ายพิงค์ไม่เลิก ทั้งที่พิงค์ไม่เคยตอบโต้เลย อันนี้คอนเฟริ์มจากชมรมคนรักพิงค์ที่ทำงานอยู่ฝ่ายอื่นๆภายในบริษัท คือดูภายนอกเวลาทำงานพิงค์เป็นคนจริงจัง พูดน้อย แต่นอกเวลางานพิงค์เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบเล่นกีฬาจึงได้รู้จักกับเพื่อนพนักงานฝ่ายต่างๆ เยอะ ทุกคนรู้จักนิสัยพิงค์ดี แต่ก็นะเรื่องซุบซิบนินทาเนี่ยมันเป็นเรื่องสนุกปาก ฟังไปก็เพลินๆดีเหมือนอ่านซ้อ7 ใช่ป่ะ จริงมั่งไม่จริงมั่งคนก็ยังอ่านอยู่ดี ป้าขาวเปรียบเหมือนดาราออสก้า เล่าไปน้ำตาคลอไป พิงค์มันจะเหลือดีอะไรในตัวอีก เรื่องที่เล่าส่วนใหญ่จะเป็นว่าพิงค์ขี้วีน ขี้นินทา ให้เขาทำงานหนักถึงกับป่วยไม่สบาย ไม่รู้จักเกรงใจเขาเพราะว่าป้าขาวอายุมากกว่าพิงค์เกือบ 10 ปี แต่พิงค์ก็ยังจิกใช้งาน ประมาณนี้แหละ แค่นั้นยังไม่พอเรื่องส่วนตัวของพิงค์ ป้าขาวแกก็แต่งเรื่องเล่าเป็นฉากๆ ยืนยันได้คนรักพิงค์ที่คอยเตือนพิงค์ให้ระวังตัวจากป้าขาวคนนี้
ยังไม่จบนะ

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:39:42

ความคิดเห็นที่ 8

ความแค้นของผู้หญิง น่ากลัว

จากคุณ : montes

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:42:25

ความคิดเห็นที่ 9

ใช้ชื่อสมมติว่าน้องหวานแล้วกันนะ น้องแก้มบอกว่าตลอดเวลาที่สนิทสนมกับป้าขาว

-------------------

เอ่อ ตกลงจะเอาชื่ออะไรดี -*- รออ่านต่อ มันส์มาก เหมือนละครช่อง 7 เลย

จากคุณ : BiGTeDDy

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:46:52

ความคิดเห็นที่ 10

อันนี้อีกครึ่งหนึ่งต้องโทษตัว คุณพิงค์ อีกคนครับ ความผิดไม่ได้อยู่ที่ที่รับป้าเค้าเข้ามาแต่ต้องโทษที่ตัวเอง "ไม่ได้มองไกล" "มองให้ครบถ้วน" ทำให้ไม่ทันเกมการบริหารงานบุคคลเอง คนจะขึ้นเป็นหัวหน้าได้ มันต้องมีคุณสมบัติในการปกครองคน คุณเล่นไปโวยวายใส่คนอื่นในเรื่องความผิดพลาดในการทำงาน"ต่อหน้าหัวหน้า" หรือแสดงพฤติกรรมอย่างใจร้อน พูดอะไรตรงๆ (คุณลองคิดดูว่าคุณเป็นหัวหน้าแต่วีนแตกกับลูกน้องทุกคนแล้วใครอยากทำงานด้วยหรือถึงจะทำเฉพาะกับบางคนก็เถอะคนอื่นเห็นตัวอย่างเห็นคำร่ำลือก็ไม่อยากทำงานด้วยเหมือนกัน) มันเลยเป็นเชื้อขั้นที่หนึ่ง ที่สำคัญยังได้ตัวเร่งอย่าคุณป้าช่วยพูดกรอกหูใส่หัวหน้าอีกมันก็เลยเป้นตัวเสริมเชื้อขั้นที่สอง

ซึ่งเมื่อระดับจัดการมองแล้วว่าคุณไม่มีคุณสมบัติในการเป็นหัวหน้าก็เลยเกิดเหตุการณ์หัวหน้าของหัวหน้าก็ต้องลงมารักษาการณ์ตำแหน่งว่างนี้ไปเอง (คือมองว่าไม่มีใครในหน่วยงานqualified) ซึ่งก็คงจะอยู่จนกว่าจะหา"คนที่เหมาะสม" (ซึ่งอาจจะเป็นคุณพิงค์หรือใครก็แล้วแต่)

การที่เราไปมีเรื่องกับคนที่ต่ำกว่าแค่เริ่มมีเราก็เสียตั้งแต่แรกแล้ว จากที่คุณเล่ามาผมมองแล้วผมยังไม่อยากให้คุณขึ้นเป็นหัวหน้าเลย วิธีแก้ไขเรื่องนี้ต้องแก้ปัญหาที่ตัวเราเองครับ ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟคุณทำงานของคุณไปคนอื่นไม่ชอบไม่อยากคุยเล่นด้วยก็ไม่เป็นไรคุยแต่งานไปทำแต่งานที่เราต้องทำให้เรียบร้อยก็พอ ระยะเวลามันจะเป็นตัวพิสูจน์ตัวตนเอง (แต่นั่นคือคุณต้องปรับตัวเองด้วยนะครับ) ทำงานให้ใจเย็นขึ้นมองเกมให้กว้างขึ้น คิดอะไรก่อนจะมีแอคติ้งอะไรออกไป ถ้าคุณเป้นคนที่มีโอกาสโตเดี๋ยวผู้ใหญ่ก็ต้องดันคุณขึ้นไปอยู่ดี หัวหน้าของหัวหน้าที่ออกไปของคุณก็คงไม่ชอบหรอกที่ต้องมารับภาระงานลงรายละเอียดมากขึ้น

แนะนำให้มองที่ตัวเองก่อนครับ ผมเชื่อว่าประสบการณ์นี้จะทำให้คุณแกร่งขึ้น (ที่สำคัญเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของผมด้วย คนบ้าอะไรกลับขาวให้เป็นดำได้ขนาดนี้ ความสามารถด้านคนขั้นเทพเลยนะเนี่ย เสียดายดันเอาไปใช้ในทางที่ผิด)

จากคุณ : -0-

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:54:58 A:61.19.47.103 X: TicketID:128538

ความคิดเห็นที่ 11

ชื่อหวานแล้วกันนะ แหมลืมแก้ เขียนผิด
ไม่ใช่ละครนะจ้ะ ชีวิตจริง

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:55:06

ความคิดเห็นที่ 12

ขอบคุณ คห.10 ที่แนะนำ
แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นที่เขียนอธิบายยากค่ะ

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:58:27

ความคิดเห็นที่ 13

เสริมทางเลือกของคุณให้ฟังสัก 2 ทาง

1. หนีปัญหาโดยการลาออกแล้วไปหาความก้าวหน้าใหม่(แต่ต้องเอาประสบการณ์ในคราวนี้ที่เจอเป็นอุทาหรณ์นะครับ ไปที่ใหม่จะได้แกร่งขึ้น อันนี้ใช้ในกรณีที่บริษัทดูไม่มีอนาคต หรือเราหมดอนาคตกับบริษัทละ

2. สู้กับปัญหา ซึ่งก้จะเป้นการบ่มเพาะตัวเราเองไปด้วยซึ่งถ้าเราเก่งจริงยังไงๆมันก็จะไปอยู่ที่ๆของมันอยู่แล้วครับ คนจะประสบความสำเร็จได้ก็เพราะสู้กับปัญหาแล้วฝ่าฟันมันไปนี่ละ

ลองไปหาทางเลือกอื่นที่น่าจะเป็นอีกก็ได้ครับ ชีวิตเราเราต้องเลือกเอง!

จากคุณ : -0-

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:59:49 A:61.19.47.103 X: TicketID:128538

ความคิดเห็นที่ 14

ตาย หยั่งกะนิยายของ ว.วินิจฉัยกุล

ร้ายกาจมาก เอาใจช่วยนะครับ แบบว่าเอิ่มมม

จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:04:51

ความคิดเห็นที่ 15

เล่าต่อ

พูดถึงเรื่องงานบ้าง ด้วยความที่ป้าขาวเข้าถึงใจคุณก็อปแล้วก็ฟ้องๆๆๆๆ ฟ้องมันทั้งวัน คุณก็อปก็เลยบอกพิงค์ว่าอย่าให้งานป้าขาวทำ เธอจะเป็นคนพิจารณาเอง พิงค์เศร้าอีก จะมีใครซวยเท่าพิงค์อีกไหมเนี่ย ตำแหน่งก็สูงกว่าแต่ใช้งานลูกน้องไม่ได้เลย ทุกวันนี้กิจวัตรประจำวันของป้าขาวคือเช้ามาก็เอาอาหารเช้าไปวางโต๊ะคุณก็อปและบรรดาคนสนิทของคุณก๊อป สัก 10 โมงก็เดินไปล้างจาน กลับมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะ ใกล้เที่ยงก็โทรสั่งอาหารกลางวันให้คุณก็อปและบริวารอีก 15 คน พักเที่ยงไปกินข้าว สักบ่ายโมงกลับมาทำงาน ทำงานไปคุยไป เปิดเพลงคลอด้วยนะ (ป้าขาวนั่งตรงข้ามกับพิงค์มีพาติชั่นกั้นไว้) คนนั่งทำงานละแวกนั้นรู้หมด สัก 5 โมงป้าขาวก็จะเดินไปคุยโต๊ะนู้นโต๊ะนี้ แล้วก็กลับบ้าน กลับก่อนเวลางานนิดหน่อย คุณก็อปไม่ว่า เพราะบ้านป้าขาวอยู่ไกล เดี่ยวรถเมล์แน่น ถึงบ้านดึกจะลำบาก

ฝั่งพิงค์กลับไปเหนื่อยเดิม เหมือนตอนยังไม่มีป้าขาวมาช่วยงาน เพราะต้องทำคนเดียวเกือบทุกอย่าง ทุกเรื่องจะขอจ้างเด็กพาร์ทไทม์ คุณก็อปก็อิดออดบอกว่าเปลืองงบ มีบ้างบางครั้งที่พิงค์โวยเพราะทำคนเดียวไม่ไหว คุณก็อปก็ยอม แต่ไม่ทุกครั้งแล้วแต่ว่าพิงค์แข็งแรงดีหรือเปล่า ถ้าพิงค์ดูยังแข็งแรง คุณก็อปก็ไม่ยอม แต่ถ้าพิงค์เริ่มไม่ค่อยสบาย คุณก็อปก็ยอม

เราในฐานะที่รู้จัก เปมิกา-พิงค์-ป้าขาว-หวาน-ก็อป
เห็นใจพิงค์มากๆ เพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด จริงอยู่เธอค่อนข้างใจร้อน ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา 4 ปี เคยเห็นเธอโกรธจัดๆแค่ครั้งเดียว ครั้งนั้นแหละ จากนั้นก็เห็นเธอเฉยๆ เงียบๆ ยิ้มๆ แต่ไม่ค่อยพูด ส่วนคุณก็อปเนี่ยไม่ธรรมดาเหมือนกัน เธอตำแหน่งใหญ่กว่าพิงค์ สั่งอะไรพิงค์ก็ต้องทำ พอพิงค์ทำเสร็จ คุณก็อปก็เอาไปเสนอผู้บริหารว่าเป็นผลงานตัวเอง อันนี้คอนเฟิม เจอกะตัวเองบ่อย

แค่นี้ก่อนแล้วกันนะ แล้วจะเล่าให้ฟังใหม่

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:09:40

ความคิดเห็นที่ 16

เล่าแถมอีกหน่อย
ป้าขาวเนี่ยสุดยอด เคยมีประสบการณ์กับป้าแกหลายครั้งแล้ว โกหกเก่งมาก พูดจากขาวเป็นดำ จากดำเป็นแดงได้อ่ะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่หลงกลนะ ใครที่หลงคารมแกนะ จะชื่นชมในความธรรมะ ธัมโม จิตใจดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคน แต่ถ้าใครรู้ทันแกเมื่อไหร่ ป้าแกจะพยายามเข้าหาตลอด ชมว่าสวยมั่ง น่ารักมั่ง ทำทีเอาขนมไปฝากมั่ง ช่วยซีลอคมั่ง ช่วยส่งแฟกซ์มั่ง แบบว่าพยายามสุดฤทธิ์ ใจอ่อนก็หลงรักกันไป ส่วนพวกที่ยังได้สติอยู่ก็ปฏิเสธความหวังดีของป้าแกไปเลย ที่ร้ายกว่านั้น ถ้าป้าแกมองแล้วว่าคนคนนี้พยายามไม่สำเร็จ แกจะเริ่มเดินสายนินทา แฉ เหมือนที่ทำกับพิงค์
-สุดยอดบ้าคนนี้ใช้ลิ้นจนได้ดี-

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:24:23

ความคิดเห็นที่ 17

ถ้าไม่ใช้อารมณ์ในที่ทำงาน วีนแตก ขี้ฟ้อง หรือ ตำหนิ ใครในที่ทำงาน จะสามารถปกครองคนได้ง่ายที่สุด

จากคุณ : OL girl (OL Girl)

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:34:41

ความคิดเห็นที่ 18

มันๆ

จากคุณ : อินจอง

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:38:10

ความคิดเห็นที่ 19

ใช้ลิ้นจนได้ดี ฮ่าๆ

จากคุณ : แฟนผมใหญ่ยักษ์ (BerryWater)

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 13:11:44

ความคิดเห็นที่ 20

อืมๆ เข้าใจ จขกท นะ ที่ออฟฟิศก็มีอยู่คนนึง เหมือนกันเป๊ะ แต่นี่เด็กๆ ดูใสๆ แบ๊วๆ ดูภายนอกไม่ร้ายอ่ะ แต่จริงๆ แอบร้ายใช่เล่น แอบเสี้ยมให้คนไม่ชอบกัน แต่ตัวเองทำแบ๊วๆ ไม่รู้เรื่อง ใสๆ เนียนๆ ไปวันๆ เราก็ไม่ทำอะไรหรอก ก็ไม่ยุ่งกะเขา ปล่อยเขาไป รอแค่สักวันความจริงจะปรากฎให้ทุกคนได้รู้ ตอนนี้มีคนรู้บ้างแล้ว ด้วยตัวเขาเอง หวังว่าสักวัน ธรรมชาติคงลงโทษคนแบบนี้ เราเป็นคนรับเขามาแท้ๆ แต่ช่างมัน สังคมในที่ทำงานก็งี้แหละค่ะ ทำใจๆ คิดอยากจะลาออกเหมือนกัน แต่เรื่องอะไรต้องออกเพราะเด็กแบ๊วนี่ด้วยไม่เข้าใจตัวเอง

จากคุณ : ~LoveIsAroundYou~

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 14:09:05

ความคิดเห็นที่ 21

สุดยอดอ่ะครับ

เป็นประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ยากจะลืมเลือน

จากคุณ : mix_more

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 14:22:42

ความคิดเห็นที่ 22

ลิ้นสามนิ้วของคนเราน่ะ ใช้ล่มบ้านล่มเมืองยังได้เลยครับ
นับประสาอะไรกับแค่การทำงานในออฟฟิค

ทำงานเก่งหรือดีอย่างเดียวไม่เพียงพอในการเอาตัวรอดในออฟฟิคครับ

จากคุณ : comeDD

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 14:35:10

ความคิดเห็นที่ 23

เท่าที่สังเกตุ เพราะเคยเจอคนประเภทนี้
คนจำพวกนี้จะเป็นคนคารมดี พูดเอ็นเตอร์เทนเก่ง ไม่ว่าจะโกรธหรือเกลียด คนพวกนี้สามารถปรับตัว กลมกลืนไปกับคนที่ตัวเองโกรธหรือเกลียดได้ดี เสแสร้งได้เนียนมาก
ปกติ คนทั่วไป มักจะไม่ใจร้ายนัก ให้อภัยง่ายๆ ก็จะรับสัมพันธ์คนแบบนี้ไม่ยาก

แตกต่างกับคนที่ทำงานเก่ง พอโกรธหรือเกลียด มักจะทำตัวออกห่าง ไม่สุงสิงสนิทเหมือนเดิม

การแก้ไขคือ หนามยอก เอาหนามบ่ง ทำตามมันนั่นแหละ นึกว่าทำงาน พอจบงาน ก็จบ

เคยเจอคนหนึ่ง พูดกับเราเนียนมาก คอยเก็บข้อมูลที่เราพูดไปใส่ไฟ เผยแพร่ต่อ อยู่กับแฟน ทำเรียบร้อย ไปเที่ยวผับ ไม่เต้น ไม่กริ้ด แต่พอแฟนไม่อยู่ ตรงกันข้าม ยั่วยวน ทอดสะพานให้ผู้ชายคนอื่น เต้นล่อตะเข้

จากคุณ : ---

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 15:15:20 A:110.49.156.69 X: TicketID:217324

ความคิดเห็นที่ 24

น่า สนใจ

เหมือนนิยายน้ำเน่า แต่เข้า ใจว่า จริง

ขอเก็บ

จากคุณ : supanut01

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 16:22:38

ความคิดเห็นที่ 25

นิทานเรื่องนี้ มีคติ ที่ว่า ปากเป็นเอก ครับ

แบบนี้ แก้ยากครับ เพราะ คนส่วนมากหูเบา เชื่อคนง่าย
ตายเพราะ คนใกล้ตัว ไม่ยอมรับความจริง ที่ เห็น ๆ ก็ ไม่มีประเทศที่จะอยู่ แล้ว ครับ

จากคุณ : ton_21

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 16:40:52

ความคิดเห็นที่ 26

หนทางที่เอาชนะคนทำงานด้วยปากมีครับ.. ไม่ยากครับ... คือ คนที่เขาหูเบาเชื่อคนคนนี้ ต้องปล่อยไปครับ.. คุณไปพูดให้ตายอย่างไร คนกลุ่มนั้นก็ไม่ฟังคุณหรอก.. เพราะที่ไหนๆ ในโลก คนส่วนมากเชื่อว่า...น้ำหนักคนถูกกระทำ(ลูกน้อง)มันน่าสงสารมากกว่าน้ำหนัก(คำพูด)ของคนกระทำ (ผู้เป็นนาย,กดขี่ ข่มเหง) ไม่ว่าทำจริงหรือไม่ก็ตาม.. บอกน้อง (พิงค์) คนนั้นไปนะครับ.. ว่าให้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตนเองให้ดี.. ไม่ต้องไปแคร์ คน 15คนฝั่งนั้น และพยายามลดบทบาทป้าคนนี้ลง หรือไม่ก็ให้ย้ายไปอยู่ฝั่ง15คนนั้น ให้คนกลุ่มนั้นไปผจญชตากรรมกับป้าเอาเอง.. ถ้าเขาอยู่กับเรา แล้วเราทำอะไรไม่ได้ เพราะมีนาย (ผจก-ก๊อป คนสวย...) คุ้มกันป้าอยู่ ก็ลดงานลงไปครับ.. ลดลงไปให้มากๆ หันไปใช้คนอื่นๆ แทน โดดเดี่ยว ป้าคนนี้ซะ วันๆไม่ต้องให้ทำงานอะไร อยากเดินเล่น ไม่อยากมา หรืออยากนั่งเฉยๆ ก็ปล่อยไป.. ให้มีแต่ร่างกายกับลมหายใจเท่านั้น(ผมจำมาจากกระทู้ปราบคนดื้อด้าน ในเวปนี้แหล่ะ ได้ผลจริงๆครับ) ไม่ต้องไปแคร์ ไม่ต้องไปให้ความสนใจ.. ถามว่าบริษัทเสียหายมั๊ย เสียหายครับ แต่ปล่อยไป เพราะคนที่มีอำนาจเหนือกว่าเรายังเก็บป้าไว้ เงินเดือนสวัสดิการต่างบริษัทจ่าย ไม่ใช่เราจ่าย ปล่อยไว้... แต่ถ้าช่วงไหนป้าทำงานพลาด ก็ค่อยๆ ไปรายงานให้ผจกรับทราบ พร้อมหลักฐาน... แซะไปเรื่อยๆครับ.. ถ้าน้องก๊อปคนสวยถามว่า ทำไมเราไม่สั่งงาน ทำไมเราไม่สอนงานหรือแก้ปัญหา ก็บอกไปว่า เราได้พยายามทำแล้วแต่ทำไม่ได้ รบกวน รักษาการณ์ ผจก (คุณก๊อปคนสวย) ช่วยลงมาดูแลให้หน่อย.. (ผมก็ว่าเขาทำไม่ได้หรอก) ไม่เกิน ปีครึ่ง ป้าแกสำเร็จการศึกษาจากบริษัทนี้แน่นอนครับ... (ปลดออก ไล่ออก จ้างออก ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง) ขอให้โชคดีนะครับ...
แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 20:16:09

จากคุณ : ปัญญาครับ.. (แก้ปัญหาด้วยปัญญา)

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 20:14:42

ความคิดเห็นที่ 27

ที่ทำงานมีคนนึง

แต่ความแตกโป๊ะ น้องๆในฝ่ายรวมหัวคุยกันว่าใครโดนไซโคเรื่องอะไรบ้าง ปรากฏว่าชีถูกบอยคอตไปเอง

แต่ยังทำงานอยู่นะ อยู่ท่ามกลางความกดดันด้วย เพราะตำให้รั่วไว้เยอะ

เลิฟ

จากคุณ : Jump.Jr

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 21:50:31

ความคิดเห็นที่ 28

ทำไมเราอ่านแล้วเฉยๆแฮะ คิดว่าเรื่องเล็กอะ -_-' คือเราว่าที่ไหนก็มีคนแบบนี้ อย่างน้อยก็คนสองคนเป็นปกติอะค่ะ อย่างป้าขาวนี่ยังน้อยนะ น้อยมากเลย บางคน(และหลายคน)เราเห็นร้ายกว่านี้อีกค่ะ

เราว่าคุณพิงค์ไม่ใช้ความได้เปรียบของตัวเองให้เป็นประโยชน์อะ ถ้าคิดว่าทำงานเก่งก็ใช้เรื่องงานให้เป็นประโยชน์สิ โชคดีเท่าไหร่แล้วป้าขาวเอาแต่ประจบทำงานไม่เป็นไม่ขยัน ถ้าเป็นบางคน(ที่เราเคยเจอมานะ)ทำงานเก่งแถมด้วยอีกต่างหาก คนอื่นไม่ได้ผลุดได้เกิดเลยเจ้า

จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 22:22:27

ความคิดเห็นที่ 29

ก็ผิดตั้งแต่รับคนเพราะความเห็นใจแล้วเรื่องหนึ่ง เอาอารมณ์มาตัดสินใจแทนเหตุผลได้ยังไง -*-

แล้วปล่อยให้โดนแซะตั้งนานไม่รู้ตัวนี่ก็สอง แสดงว่าไม่เคยสร้างทีมให้เป็นทีม ปล่อยให้อยู่กันหลวมๆ เวลามีอะไรเกิดขึ้นระดับล่างๆลงไปถึงไม่มาคุย ต้องรอจนน.ศ.ฝึกงานมาบอกถึงรู้ตัว

พอรู้แล้วบริหารจัดการไม่เด็ดขาดก็ผิดอีกสาม ทำผิดทำไมไม่ลงโทษ ไม่มีผลงานทำไมปล่อยให้เป็นภาระบริษัท ถ้าปล่อยไปตามยถากรรมให้ปัญหามันคลี่คลายตัวเอง คนแบบนี้ผมจ้างไว้หรือไม่จ้างก็มีค่าเท่ากันสิครับเพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้น่ะครับ

คุณพิงค์ทำผิดพลาดเรื่องใหญ่ๆสามครั้ง ไม่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งครับ -*-

จากคุณ : sleeper_j

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 22:37:18

ความคิดเห็นที่ 30

เราว่ามันเบสิกมากเลยนะ ที่เคยเจอมา เยอะกว่านี้เยอะ 555555 แถมคนอย่างป้าขาว ยังอยู่ยั้งยืนยง อย่างเราพวกขี้วีน ไม่ยอมคน ไม่เลียนาย ไม่ขายเพื่อน จึงขออำลา .............

ออกมาดีกว่า สบายใจกว่าเยอะ

ปล. เพื่อนร่วมงานคือเพื่อนร่วมงานนะคะ ไม่ใช่เพื่อนเรา ลูกพี่เก่าบอกว่า ความลับสำหรับคนในบริษัทคือ

ความลับ = การที่คนรู้ไม่เกิน 50 คน 555

จากคุณ : mizzi

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 23:32:19

ความคิดเห็นที่ 31

กำลังมันส์เลย

จากคุณ : ป.กองปราบ

เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 23:50:10

ความคิดเห็นที่ 32

เหมือนในละครเลย มาเล่าต่อเร็ว ๆ นะคะ

จากคุณ : O_O (easterpk)

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 03:05:27

ความคิดเห็นที่ 33

ที่ไหนๆก็มีครับ อย่าไปใส่ใจ อย่าพยายามเล่นเกมการเมือง
เรามาทำงานๆๆ ท่องไว้ๆ ไอ้เสียบเข้าข้างหลัง เนีย เห็นบ่อยมาก
ผมเองขนาดไม่ค่อยมีีีีัปัญหากับใคร ยังโดน ชิวๆแค่เลือดซิบๆ

อย่าไปใสใจ เรามาทำงาน ถ้ายังทำแล้่วมีความสุขก็ทำต่อ ถ้าทำแล้วมันอมทุกข์ก็จะทนอมไปทำไม คลายมันทิ้งดีกว่า

ปล. แต่ในโลกปห่งความเป็นจริงถ้าเราอยากก้าวหน้า นอกจากฝีมือแล้วก็ต้องมีฝีปาก บวกดวงกับโชคนิดหน่อย

จากคุณ : BEETONG

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 03:31:58

ความคิดเห็นที่ 34

ขอถามคุณ ปัญญา....ความคิดเห็นที่ 26

แล้วถ้าเจอคนอย่างในความเห็นที่ 20 ล่ะคะ+เจ้านายหูเบา เจ้ายศเจ้าอย่าง
จะจัดการกับคนแบบนี้(และพรรคพวกอีก10คนที่นิสัยเหมือนกัน)ยังไงดีคะ

จากคุณ : น้องจุ่น

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 06:55:19

ความคิดเห็นที่ 35

น่าเห็นใจคุณพิงค์จัง ตอนนี้ เป็นไงแล้วมั่งอ่า

จากคุณ : tikhot

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 09:43:55

ความคิดเห็นที่ 36

มันเป็นเกมการเมือง ถ้าบ.มีระดับหน่อย ๆ งานจะดี
แต่ถ้ามีมากไป งานไม่เดิน

อันนี้พยายาม ทำผลงานออกเป็นรายเดือนยื่นประกอบไปเลยครับ
วัดตัวเอง ลูกน้องในแผนก(ลูกน้องแต่ละคนทำมา)
ภาพรวมของแผนก (คุณเป็นคนสรุป)
ผลงานมี ไม่มี รู้ได้เลย

จากคุณ : keab (keab_h)

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 09:58:33

ความคิดเห็นที่ 37

คนอย่างป้าขาวเล่นไม่ยากหรอก ยิ่งเป็นอย่างนี้คิดว่าตัวเองเก่ง ฉลาด ต้องให้ใครซักคนที่พอคุยกะป้าขาวได้ ชวนแกคุย นินทา ชาวบ้าน ทำทีแบบเข้าขากะแก อัดเทบไว้เลย แล้วเปิดให้ฝ่ายตรงข้ามฟัง อืมๆๆ คนอย่างป้าขาวเนี่ย มันมีจริงน่ะ เคยเจอมาเหมือนกัน แล้วก็จัดการเรียบโร้ย

จากคุณ : เหล้าปั่น

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 10:00:02

ความคิดเห็นที่ 38

จริง ๆ แล้วคนประเภทนี้ต้องพูดฉีกหน้า ต่อหน้าคนอื่นครับ

เช่น เราไปกินข้าว ขึ้นมาเห็นป้ากำลังเมาส์อยู่ เดินเข้าไปฉะเลย แนว ๆ "เมาส์อะไรกันค้าาา ที่ว่า.... เหรอ มันไม่จริงไม๊ ป้าอย่าทำสันดานแบบนี้สิคะ มัน..... นะคะ อ้อ!! แล้วเรื่อง... ก็จำไว้นะคะว่า ..... "

ปิดท้ายด้วยประโยคเด็ด

"นิสัยชอบพูดเรื่องไม่จริง นินทาคนอื่นเนี่ย ระวังไม่แก่ตายนะป้า"

จากคุณ : BiGTeDDy

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 11:28:11

ความคิดเห็นที่ 39

เจอคนอย่างป้าขาวนี่ มาเต็ม อ่านเหตุการณ์แล้วเหมือนเหตุการณ์เดียวกับเราเลยแฮะ

จากคุณ : ข้าวยำหมูตุ๋น

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 11:41:07

ความคิดเห็นที่ 40

เรื่องแทงข้างหลัง โดนมาแล้วครับ สไตล์เดียวกันนี่แหละ

วิธีของผมคือ เขาแทงข้างหลัง...

ผมยิงกลางแสกหน้า ต่อหน้าที่ประชุมครับ
เอามันซึ่งหน้านี่แหละ จริงใจนะ haha

จากคุณ : Gunn_Sap

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 11:58:18

ความคิดเห็นที่ 41

น้องจุ่นครับ.. สวัสดีครับ เป็นคำถามที่ดีมากครับ... ที่ว่า ถ้า เจอคน แบ้วๆ ประจบเก่งๆ เสี้ยมเก่งๆ ขี้เกียจ แถมนายหูเบา และเขาพูดจนได้มวลชนส่วนใหญ่เป็นพวก... เราจะแก้อย่างไร? ผมเจอมาเต็มๆครับ.. ยิ่งเจ้านายหูเบา โอกาสที่เราจะไปแก้ตัวมีค่าเป็น 0 เลยครับ.. ไม่ต้องไปแก้ตัวให้เสียเวลา...

เราจะไม่จัดการเขาครับ.. เราจะต้องสู้กับเขาในเกมส์ "สงครามชิงมวลชน" ครับ.. คุณจะทำให้น้องแบ๊ว กับคนหูเบา 11 คน (นาย1 + ลูกน้อง10 )ออกมันเป็นไปไม่ได้ครับ.. แต่คุณมีสิทธิ์มีเพื่อนเพิ่มขึ้นครับ... ทำอย่างไร ข้างล่างเลยครับ...

ถ้าเราเป็นลูกน้องของน้องแบ๊ว (เป็นอะไรที่เลวร้ายสุดๆ แต่โอกาสเกิดน้อย เพราะนายต้องมีลูกน้องไว้ใช้งาน ยกเว้น นายกับลูกน้องมีแฟนคนเดียวกัน-หนังไทย) ก่อนอื่นต้องทราบว่า... กฏหลักของการเป็นลูกจ้างก็คือ ถ้านายของน้องแบ๊ว ยังสนับสนุนกิจกรรมในการ "ทรมาน" ของน้องแบ๊ว...ที่น้องแบ๊ว..ทำกับลูกน้องหรือน้องแบ๊วทำกับเจ้านายคนอื่นๆ นั้นแสดงว่า เจ้านายคิดว่า การกระทำของน้องแบ๊ว เป็นสิ่งที่ถูกต้อง คุณไม่ต้องทำอะไรครับเพราะคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรทั้งนั้น ก้มหน้าก้มตาทำงาน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด ถ้ายังมีความก้าวหน้าในองค์กรอยู่บ้างก็อยู่ไป ถ้าไม่มีได้ที่ดีกว่าก็ออกไป... ในกรณีนี้การย้ายแผนกก็ลืมไปได้ครับ เพราะน้องแบ๊วเขามีอิทธิพลมากกว่าคุณ นิสัยผู้หญิงเขาจะตามราวีคุณไปเรื่อยๆ ทุกๆแผนกที่คุณอยู่ จนคุณอยู่ไม่ได้น่ะครับ

ถ้าเราอยู่ระดับเดียวกับน้องแบ๊ว.. อันนี้ยากครับ.. เป็นอะไรที่ยากสุดๆ เหมือนเป็นพจมานในบ้านทรายทองเลย..(โอกาสที่จะสู้ค่อนข้างน้อย แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากที่สุดๆๆ เพราะทุกๆคนต้องแข่งกันทำงาน และคนสมัยนี้ไม่ค่อยคิดที่จะแข่งกัน แต่คิดว่าการ ทำลาย credit คู่แข่งมันได้ผลเร็วกว่าแข่งกันทำงาน) อดทน ตั้งใจทำงาน ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด โอกาสซื้อใจเพื่อนร่วมงานให้มาเข้าข้างเราในชั่วข้ามคืนนั้นน้อย ประเภทในหนังไทยคือ รับกระสุนแทนเพื่อน หรือสู้กับโจรถือมีดด้วยมือเปล่าเพื่อซื้อใจเพื่อนๆ (ผู้หลงผิด? ไปเข้าข้างน้องแบ๊วจอมเสี้ยม) ลืมไปได้เลยครับ ยกเว้นคุณคือ น้องวิว ยอดนักเทควนโด้... คุณต้องอดทน อย่าไปสู้กับเขาซึ่งๆหน้า ตั้งใจทำงาน และใช้ความดี -ความสม่ำเสมอในการทำความดีให้กับทุกๆคน ความสุภาพอ่อนน้อม(อันเป็นเสน่ห์ของคนไทย) น้ำใจ ไมตรีเท่านั้นเป็นหนทางเอาชนะได้.. สักวันหนึ่ง (ไม่นานเท่าที่ควร) คุณจะได้เพื่อนๆคืนมาครับ.. เพราะคนส่วนมากจะค่อยๆ เริ่มเห็นความดีของคุณแล้วเห็นใจคุณ(แบบหนังไทยหรือบ้านทรายทองนั่นเอง) และชัยชนะอันยิ่งใหญ่ก็จะตามมา ซึ่งมันต้องใช้เวลาและความอดทนมากๆๆๆ ครับ.. บางทีก็เป็นเดือน บางทีก็เป็นปี
ผมไม่แนะนะครับ ถ้าให้แก้ปัญหากับคนประจบเก่งหรือเสี้ยมเก่งด้วยการ แรงมาก็แรงตอบ เสี้ยมมาก็ไปเสี้ยมตอบ ฉะตรงๆ หรือ ฉะอ้อมๆ หรือการฉีกหน้าต่างๆ เพราะหัวหน้างานทุกคนไม่มีใครชอบแก้ปัญหาที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะปัญหาเรื่องคน)หรือเห็นลูกน้องตัวเองมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ ยิ่งเขาเชื่อน้องแบ๊วหัวปักหัวปำ เขาจะมองว่าการที่คุณทำแบบนี้ คุณเป็นคนหัวรุนแรง คุณคือตัวปัญหา หรือ มันก็แสบพอๆกัน.. คุณจะไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่เท่าเทียมหรือยุติธรรม เช่นแทนที่เขาจะว่าน้องแบ๊วผิด เขาน่ะแหล่ะจะว่าคุณผิด... แล้วในที่สุดคุณก็จะท้อใจและลาออกไป.. รอให้ เจ้านายหูเบา หรือ น้องแบ๊ว แพ้ภัยตัวเองอย่างเดียวครับ..เพราะอะไร เพราะหัวหน้างานประเภทหูเบา ประจบเก่ง performance จะไม่มากครับ.. ส่วนน้องแบ๊ว ถ้าหลายๆคนรู้พฤติกรรมประเภทนี้ของน้องแบ๊วแล้วเขาก็จะค่อยๆ ออกห่างจากน้องแบ๊วจนน้องแบ๊วต้องเป็นฝ่ายแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อ... แล้วถ้าเราทำไม่ได้ล่ะ.. ย้ายแผนก หรือ การลาออกคือ คำตอบครับ.. นี่คือประสบการณ์ชีวิตครับ..ถ้าคุณแก้ได้ คุณจะมีประสบการณ์สูงมากๆครับ..ในการรับมือคนพวกนี้ ถ้าคุณแพ้ คุณก็สามารถประเมินตัวเองได้ว่า บกพร่องอย่างไร และจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรในอนาคต นี่ไม่ใช่ The End of The Day ครับ...

ถ้าเจอน้องแบ๊วเทพ ทำอย่างไร น้องแบ๊วประเภท รูปร่างหน้าตาดี สวยสุดๆ กิริยามารยาทดี คารมเทพ การทำงานยิ่งกว่าเทพ!!! คือบู๊งานทำงานดี present เก่ง performance ระดับ พนักงานดีเด่น A ทุกปี... ทุกคนรักทุกคนชอบ เจ้านายยิ่งชอบมากๆๆๆ แต่น้องแบ๊วแบบนี้ ก็ชอบกำจัดคู่แข่งที่อยู่ตามทางด้วยการทำลายทิ้ง ด้วยการ discredit ด้วยการเสี้ยม ยุแหย่ให้คนเกลียด (ตัดกำลังเรานั่นเอง..) หนทางแก้ปัญหาก็มีครับ แต่ถ้าเทพขนาดนี้ เรารอดยากครับ.. ยืนพื้น ก็การทำความดีเอาชนะคนรอบข้างน้องแบ๊วเทพ และเอาชนะใจนายเราเป็นลำดับต่อไป ให้ที่แสนจะชื่นชมน้องแบ๊วเทพและช่างหูเบามองเห็นเราในสายตาบ้าง... และที่สำคัญนะครับ.. ถ้าน้องแบ๊วทำงานได้แค่ไหน คุณต้องทำงานให้ดีกว่าน้องแบ๊วครับ.. (เหนือกว่าเทพงัย) ด้วยการมุมานะ มีความพยายาม ความเพียร และอดทนสูงครับ... และสักวัน (ในอนาคตที่ค่อนข้างไกล) น้องแบ๊วจะสู้กับคุณจนเบื่อ และรามือไปเอง หรือ น้องแบ๊วเทพ อาจได้ offerที่ดีกว่า แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นแทนครับ.. เราก็ขึ้นเป็นเทพแทน 555

ส่วนเรื่องเราเป็นนายของน้องแบ๊ว จอมเสี้ยม ก็ให้ทำตามคห บน ที่แนะนำไปแล้วนะครับ.. บอนไซ-โดดเดี่ยว น้องแบ๊วซะ... ก็จบ.. เพราะไพ่ (แต้มต่อ เราเหนือกว่าน้องแบ๊วอยู่แล้ว นาย vs ลูกน้อง) ถ้าคุณลงมาเล่นเกมส์เดียวกับน้องแบ๊ว มานั่งบีบน้ำตา มาทะเลาะกับน้องแบ๊ว คนรอบข้างก็มองว่า นี่คือ ผู้ใหญ่รังแกเด็ก คุณอาจได้ซองขาวเป็นของแถมครับ.. เพราะน้องแบ๊วเขาน่าจะเป็นนักแต่งเรื่องฝีมือดีเขาย่อมไปบอกกับทุกๆคน รวมถึงนายของคุณว่า คุณรังแกน้องแบ๊วอ่ะ... แต่ถ้าอยากให้จบเร็ว และ เรามีอำนาจ และไม่กลัวบาปกรรม ไล่ออก หรือ ย้ายแผนก น้องแบ๊วซะ (แต่อย่าทำเลยครับ) เพราะหน้าที่ของผู้บริหารที่ดี คือ การพัฒนาลูกน้องครับ.. ไม่ใช่ทำลายลูกน้อง...

ทำไม ผมพยายามจะอธิบาย เพราะช่วงหนึ่งในชีวิต ผมก็เคยเป็นคนส่วนน้อย หัวรุนแรง และ พ่ายแพ้กับปัญหาแบบนี้มานับไม่ถ้วนครับ เพื่อนร่วมงานไม่เก่ง แต่ประจบเก่ง เจ้านายไม่ได้เรื่องและหูเบา.. การมุ่งทำงาน ด้วยความมานะ อุตสาหะ ทำแต่ความดี เพื่อแผ่ความดีให้กับคนรอบข้าง คือ คำตอบครับ... ลองดูเน้อ... ขอให้โชดดีเน้อ...

ขอโทษที่แก้บ่อยนะครับ.. พยายามหาช่วงเวลาที่ว่างๆ มาเรียงคำพูด เพิ่มเติมประเภทของน้องแบ๊ว และพยายามเขียนให้อ่านง่ายและเข้าใจง่ายขึ้นครับ...

แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 19:53:49
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 14:34:59
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 14:27:06

จากคุณ : ปัญญาครับ.. (แก้ปัญหาด้วยปัญญา)

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 14:21:05

ความคิดเห็นที่ 42

เข้ามาขอบคุณคุณปัญญาครับด้วยค่ะ เราคห. 20 ขอบคุณจขกทด้วยนะคะ มีอยู่ทุกที่ค่ะคนประเภทนี้ ตั้งแต่ทำงานมาเจอมาทุกที่ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 18:29:56
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 18:18:08
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 15:41:53

จากคุณ : ~LoveIsAroundYou~

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 15:39:28

ความคิดเห็นที่ 43

สนุกจัง แต่อยากจะบอกว่า คนแบบตัวละคนทุกตัวในเรื่องนี้ และสถานการณ์แบบเดียวกับในเรื่องนี้ มีในบริษัทเกือบทุกที่แหละ
ตอนแรกที่อ่าน ยังแอบเผลอคิดว่า จขกท เป็นคนในบริษัทเราด้วยซ้ำ หุหุ

จากคุณ : norikaten

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 16:16:00

ความคิดเห็นที่ 44

หนุกจัง เหมือนอ่านนิยายเลย

จากคุณ : MeaoNoi

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 17:05:04

ความคิดเห็นที่ 45

อย่าเพียงแม้แต่จะปรายตาไปมองยัยขาวครับ ทำให้เหมือนเป็นอากาศธาตุไปซะ จะฟ้องอะไรก็ฟ้องไปเลย แล้วก็มุ่งมั่นหางานใหม่ดีกว่า จริงๆ นะ
ที่จะเบื่อๆ งานออฟฟิศทุกวันนี้ก็เพราะคนพวกนี้แหละ ไม่รู้ทำไมถึงหน้าด้านหน้าทนกันจัง อย่างเราๆ นายเดินผ่านเห็นเล่นเน็ท ก็หน้าชาแล้ว ป้านี่เดินล่อนไปทั่ว งานการไม่แตะเลย เฮ้อ เศร้าใจ

จากคุณ : พอล

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 18:30:14 A:58.8.120.89 X:

ความคิดเห็นที่ 46

มีทุกที่ค่ะ
แรงมาก แรงน้อย...

เคยหูเบาเหมือนกัน... เชื่อเจ๊คนนึง เพราะแกชอบเม้าส์คนที่เราไม่ชอบให้ฟัง
ก็สนุกอ่ะสิ จับเส้นเราถูก

ความมาแตกตอน she จะยืมเงินเรานะสิ ฝันไปเถอะ
สนิทขนาดไหน ตรูก็ไม่ให้... เกลือเรียกพี่
เลยเลิกสนิทกัน

แต่ she ก็สามารถยืมได้ทั่ว บ. นะคะ (เก่งไหม หรือคน บ. เราใจดีก็ไม่รู้)
แล้วก็หายตัวไป เหอๆ ได้ไปหลายแสน...

จากคุณ : Blue Lighthouse

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 19:32:04

ความคิดเห็นที่ 47

...
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 16:54:08
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 19:58:30

จากคุณ : แก้ปัญหาด้วยปัญญา

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 19:57:43

ความคิดเห็นที่ 48

รออ่านอยู่นะค๊าบบ

จากคุณ : ไม้โมก

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:39:36

ความคิดเห็นที่ 49

มีงี้ด้วยเหรอ
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 52 20:06:37
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 52 20:00:03
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 21:31:19

จากคุณ : เล่าสู่กันฟัง (เจ้าบุญรอด)

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 21:12:46

ความคิดเห็นที่ 50

คติประจำใจ จากพี่ท่านหนึ่ง เพิ่งสอนมาไม่นาน "รู้ไว้ให้ไกลห่างครับ"

คนปั้นน้ำเป็นตัว ปั้นฝุ่นเป็นตึกแบบนี้ มีอยู่ทุกที่ทุกหนแหน่ง ซึ่งแต่ละที่ระดับความสามารถต่างกัน..... เรื่องที่เล่ามา ผมว่ายังเป็นระดับประถม... องค์กรที่ผมอยู่มีทั้งระดับมหาลัย และระดับ เทพเจ้าทีเดียวเชียว... ไม่รู้ไปฝึกปั้นฝุ่นเป็นตึก กันมาจากใหน...

สิ่งที่คุณต้องทำคือ... เป็นมื่ออาชีพ

ตัดอารมณ์ออกจากการทำงาน

ที่สำคัญต้องใจเย็น มีมิตรให้มาก... และที่สำคัญที่สุด อย่ามีศตรู

พูดแล้วดูเหมือนง่าย... แต่ทำจริงๆยากมาก

อย่างผมเป็นคนตรงไปตรงมา ใจร้อน.... การจะทำเรื่องอย่างที่บอกมาข้างต้นนี่ยากมากๆ...

วิธีที่ช่วยได้ก็คือหาคนที่ไว้ใจได้... และปรึกษา (เพื่อให้เราเย็นลง)

แต่วิธีที่ดีที่สุด... ขออีกที... "รู้ไว้ ให้ไกลห่าง"

จากคุณ : MESMERIC

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 21:29:28

ความคิดเห็นที่ 51

ชอบคห. 50 ค่ะ

ตอบคุณคห. 47 กำลังพยายามอยู่ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

จากคุณ : ~LoveIsAroundYou~

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 21:58:46

ความคิดเห็นที่ 52

ขอบคุณๆ ปัญญาฯ มากนะคะ

แต่ขอเล่าเสริมถึงอิทธิฤทธิ์ของน้องแบ๊วออฟฟิศเรา
เธอร้ายกว่าน้องแบ๊วของคุณ ~LoveIsAroundYou~ ประมาณสามเท่าตัว
เพราะเธอคนนี้ นิสัยเหมือนป้าขาว(ในกระทู้นี้)บวก น้องแบ๊วของคุณ~LoveIsAroundYou~ อีกทั้งคนรอบตัวอีกสิบคน รวมถึงญาติเจ้าของบริษัท
ก็นิสัยคล้ายๆเธอ เรื่องหายนะของคนอื่น จะเป็นที่มีความสุขของคนพวกนี้มาก ไม่ว่าใครทำพลาดอะไร ขอให้พวกเธอรู้เถิด เธอจะนำมาพูดเล่าด้วยความสนุกสนาน และสำแดงตนว่าข้านั้นดีกว่านักหนาเอย

เราขอเล่าถึงนิสัยของเธอและบุคคลแวดล้อมนะคะ เราเคยมาตั้งกระทู้ไว้
จะขอเอามาโพสที่นี่อีกนะคะ

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว ที่บริษัทรับพนักงานหญิงเข้ามาใหม่
ผู้หญิงคนนี้เราสังเกตุว่าเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกมากๆ

ต่อหน้าคนในออฟฟิศและกับเจ้านายจะทำตัวหงิ๋มๆ ติ๋มๆ เดินตัวงอๆเสียงสั่นๆเวลาคุยกับเราหล่อนจะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา และชอบทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเรากับรุ่นพี่ในแผนกชอบรังแกเธอ

แต่ลับหลังเราเธอจะเรียกเราว่า E-Dok-Thongจุ่น E-Dok-saraเลวจุ่น
(อันนี้คนที่เธอไปเม้าด้วยเอามาบอกเราเองเลยนะ)

ก่อนหน้าที่หล่อนจะเข้ามาทำงานเราก็ไม่ถูกกับผู้หญิงแผนกอื่นเป็นทุนอยู่แล้ว สาเหตุที่ไม่ถูกกันเพราะเราไม่ยอมเข้ากลุ่มด้วย เราไม่ชอบนิสัยที่วันๆเอาแต่นินทาชาวบ้าน ด่าว่าคนอื่นก็เลยปลีกตัวออกมา เราเลยเป็นเป้าให้กลุ่มนั้นนินทาอยู่จนสนุก แต่มันยังไม่ร้ายแรงเพราะพวกนั้นก็ยังอยู่กันเงียบๆอาศัยแค่นินทาลับหลัง

ตั้งแต่มีหล่อนคนนี้เข้ามา หล่อนจะคอยสังเกตุพฤติกรรมคนอื่นๆแล้วเข้าไปตีสนิท และด้วยนิสัยส่วนตัวของหล่อนที่ชอบแส่เรื่องชาวบ้าน ขี้อิจฉาริษยา ชอบด่าว่านินทาคนอื่น และนิสัยชอบเสี้ยมให้คนทะเลาะกัน

ทั้งๆที่หล่อนนั้นทำงานโหลยโท่ยยยมากๆทำให้หล่อนเข้ากันได้ดีกับผู้หญิงกลุ่มนั้นซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่สุดเลยของออฟฟิศ

ตั้งแต่นั้นมา เราก็มักจะมีปากเสียงกับหล่อนอยู่เสมอต่อหน้าเจ้านายหล่อนจะทำบีบน้ำตา
แต่พอเจ้านายคล้อยหลัง หล่อนจะหน้าเชิดเสียงแข็ง ยืนด่ากราดใส่เราโดยมีผู้หญิงพวกนั้นในออฟฟิศคอยเป็นแรงหนุน ทำให้ความบาดหมางยิ่งลามไปเรื่อยๆ

เฉพาะแผนกเรา แรกๆเค้าจะมีแต่คนเห็นใจเธอเพราะต่อหน้าเธอจะเป็นคนน่าสงสารมาก สุภาพมาก
และเหมือนโดนเรารังแกตลอด

แต่ๆหลังๆทุกคนเริ่มโดนนิสัยแท้จริงของเธอเฉาะกันไปทีละนิดทีละนิด
ก็เลยตาสว่างกัน

จนหลังสุด คนในแผนกเราทุกคนเกลียดเธอมากกกกก เพราะเธอทำงานห่วยแตกแถมยังใช้นิสัยชอบโยนอุจจาระใส่คนรอบข้าง

เอาแต่ความดีเข้าตัวและประจบสอพลอเจ้านายมาก เข้าไปหานาย แทบจะคลานไปกราบเลย
นอบน้อมมาก วางของให้เจ้านายอารมณ์แบบประมาณ เหมือนถวายของอ่ะ

เธอเล่นเอ็มทั้งวันนินทาชาวบ้านโดยไม่ทำงานเลย
เธอไม่เคยตามงานจากซัพพลายเอร์สำเร็จเลยแม้แต่หนเดียว คุยงานกับซัพฯก็ไม่เป็นเพราะเธอพูดไม่รู้เรื่อง และฯลฯ ชอบมาทำงานวันเสาร์ อาทิตย์ แล้วขอเป็นวันหยุดชดเชยส่วนวันธรรมดาไม่มีงานทำ เพราะเล่นแต่เอ็ม

ออกไปทำงานนอกสถานที่ก็จะนั่งรถเมลล์ ไป กลับ แต่เบิกค่าแท๊กซี่ครั้งละ 250-350 เดือนนึงออกไปทำงานประมาณสี่ถึงหกครั้ง
ตอนหลังเรากับเธอต้องออกไปซื้อของข้างนอกด้วยกัน เวลาอยู่ข้างนอก ไม่มีพวกเธอจะทำหงอกับเราแต่จะเก็บรายละเอียดเอามาฟ้องแก๊งผู้หญิงในออฟฟิศ และหนึ่งในนั้นจะมีญาติของเจ้านายคนนึงด้วย ป้าแกจะคอยเอาเรื่องไปฟ้องเจ้านายเสมอๆ
คนขับรถคนเก่าจะเป็นลุงๆไม่เคยมีปัญหาอะไร เราไปก็จะนั่งหน้าคู่คนขับเสมอ

ตอนนี้ลุงคนขับรถคนเก่าลาออกไป มีคนใหม่มาแทนซึ่งเป็นคนหนุ่ม
เราก็นั่งหน้าคู่ไปด้วย โดยที่ไม่คิดอะไร และไปซื้อของกันแค่สี่ห้าครั้ง ในเวลาครึ่งปี

แต่หนนี้หล่อนเก็บรายละเอียดเอามาเล่าและใส่สีตีข่าวเพิ่ม ทำให้พวกแก๊งผู้หญิงในออฟฟิศ เอาเรามาด่าว่าลับหลังต่างๆนาๆ และปล่อยเรื่องชู้สาวใส่เราหาว่าเราทำเรื่องเสียหากับคนขับรถ

ครั้งนี้เราทนไม่ไหวจริงๆ เพราะมันปล่อยข่าวทำให้เราเสื่อมเสียมากๆ
มันเล่นเอามาด่าว่ากระทบเราถึงในออฟฟิศ โดยใช้วิธีด่าแบบไม่เอ่ยชื่อ

มันนินทากันใส่ไฟหาว่าเราไปเข้าโรงแรมกับคนขับรถ ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องจริงเลย

วันนี้คนในกลุ่มเธอก็มาพูดจาเชิงข่มขู่ ว่าจะตบคนๆๆๆ
และเดินมาชนเราแล้วนะคะ
อันนี้เริ่มถึงเนื้อถึงตัวแล้ว

มีการเดินมาด่ากระทบข้างๆโต๊ะเรา
เรื่องเราขายของในเน็ท ด่าเราว่า.เลวเพราะทำธุรกิจส่วนตัว
เอาเปรียบลูกจ้าง
เรื่องที่มันพูดนี่ไร้สาระมาก
เนื่องจากพวกมันมาแอบฟังเวลาเราคุยโทรศัพท์ค่ะ

เรากับเพื่อนๆกำลังคิดโปรเจ็กกันว่า
อยากทำธุรกิจของตัวเอง ที่ช่วยเหลือสังคมด้วย
เราเองพอมีฝีมือทางศิลปะอยู่บ้าง
ก็เลยคิดโปรเจค ว่า เราจะฝึกอาชีพให้คนพิการ(ผ่านทางมูลนิธิ)
คือ เราไปสอนให้ฟรี และเอาอุปกรณ์ของเราไปสอน
แล้วเราก็จะรับคนพิการมาช่วยทำงาน โดยการแบ่งงานที่เราหามาให้ทำ
กัน งานทุกชิ้นหลังจากหักค่าต้นทุนตามจริง เหลือกำไรเท้าไหร่ก็ยกให้คนทำหมดเลย เหมือนรวมกลุ่มกัน ไม่มีการชักกำไร ไม่มีหักเปอร์เซ็น

แต่คุณสาวๆพวกนี้ เธอก็ยังเอามาด่ามานินทา หาว่าเรา
เอาเปรียนคนช่วยทำงาน
สุดๆไปเลยค่ะ คนเหล่านี้

เราก็ได้แต่นิ่งเงียบ สงบไว้
ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น
ทุกวันนี้เครียดมากเลยค่ะ

ลาออกก็ไม่ได้ เพราะหนี้สินยังเยอะแยะ และงานก็หายากมากๆด้วย
ก็เลยต้องทนๆๆๆๆๆๆๆๆๆนี่แหละค่ะ

ปล....
ขอแก้ไขข้อความเล็กนะคะ
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 19:25:11

จากคุณ : น้องจุ่น

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 23:00:03

ความคิดเห็นที่ 53

ปล. ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ช่วยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานะคะ

จากคุณ : น้องจุ่น

เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 23:07:46

ความคิดเห็นที่ 54

เหมือนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคุณพิงค์ ยังไงบอกไม่ถูก
แต่อีกฝ่ายไม่ใช่ป้าขาว แต่เป็นกระเทยหัวกัปปะ - -"
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 00:21:14

จากคุณ : Ukime

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 00:20:35

ความคิดเห็นที่ 55

อ่านแล้วระเหี่ยใจแทน และไม่รู้ว่าถ้าเจอแบบนี้เข้ากับตัวเองจะทำยังไงดี = =

ได้ภาวนาว่าอย่าให้มีเลย

จากคุณ : petrified

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 11:55:35

ความคิดเห็นที่ 56

โอ้ว พระเจ้าคนแบบนี้ทำให้องค์กร วุ่นวายไปหมด ในกรณีของผทเจอแบบ สวย ใส แอ๊บแบ๊วครับ รายนี้เห็นว่าเป็นรุ่นน้องที่มหา'ลัย ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แนะนำสั่งสอนตามประสาพี่ๆ น้องๆ ปรับ attitude ให้เวลาที่เค้าได้รับงานมาจากหัวหน้างานแล้วเค้าไม่อยากทำ(จริงๆ แล้ว หัวหน้าสั่งไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ) ก็ให้ข้อคิดอะไรไปเยอะเพื่อให้ปรับตัว เพราะ เงินเดือนที่จ้างเค้ามาค่อนข้างสูง เลยอยากให้เค้าเข้าใจในวัฒนธรรมขององค์กรด้วย แต่ปรากฏว่า เค้าเอาข้อความ คำพูดผมไปบอกว่าผมเสี้ยมให้เค้าทะเลาะกับหัวหน้าเค้า(ซึ่งเป็นเพื่อนผม) ผมอึ้งเลยครับ อะไรว่ะเนี่ย น้องจากคณะเดียวกัน ทำตรูล่ะ เพื่อนของเพื่อนผมที่ไม่เข้าใจก็พาลบอยคอทผมไปด้วยเลยครับ ตอนนี้ได้แต่ทำใจ รอเวลาที่ความจริงจะปรากฏออกมาเองว่า เราเจตนาดีต่อน้องเค้า และไม่ทำร้ายใคร

จากคุณ : Makonikov

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 12:01:28

ความคิดเห็นที่ 57

ที่ไหนก็มีครับ (บริษัทผมก็ยังมีเล้ย... พูดแล้วก็อายนะเนี่ย)

พวกคนไร้ความสามารถ แต่เลียแข้งเลียขาผู้บริหารเก่ง ยอมให้โขกสับได้ อดทนไปสักระยะ พอพนักงานคนอื่นเห็นว่าอยู่ด้วยกันกับผู้บริหารบ่อย ๆ จะเกิดความเกรงใจนึกว่าเป็น "คนสนิท" ของผู้บริหาร

แล้ว "สวะ" พวกนี้ก็จะกร่าง อวดเบ่ง เอากับพนักงานใหม่ หรือพนักงานชั้นผู้น้อยคนอื่น ๆ ทันที

ยังดีอยู่อย่าง ที่มันยังไม่กล้าผยองกับพนักงานระดับผู้จัดการ ก็เลยได้แต่กรวดน้ำแผ่ส่วนบุญให้มันไป

จากคุณ : macenjoy

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 14:57:03

ความคิดเห็นที่ 58

โหย ทำไมมันช่างน่ากลัวอะไรอย่างงี้คะเนี่ย รู้สึกแต่ละเรื่องเหมือนแก๊งเด็กมัธยมเลยอ่ะ เรากำลังจะจบแล้วรู้สึกหวั่นๆเลยนะเนี่ย อ่านแล้วเครียดเลยแฮะ คนแบบนี้มันแก่เพราะกินข้าวกันจริงๆเลยนะเนี่ย เฮ้อ

จากคุณ : สวยตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 15:56:13

ความคิดเห็นที่ 59

อ้อ อยากถามพี่ๆหน่อยค่ะว่า เด็กใหม่ที่เข้าไปฝึกงานหรือไปทำงานแรกๆเนี่ยควรวางตัวยังไงดีคะ กลัวเข้าไปแล้วมีคนไม่ชอบขี้หน้าแฮะ หน้าเรายิ่งหาเรื่องๆอยู่ - -" แถมเข้าไปคุยกับคนแก่กว่าไม่ค่อยเป็นซะด้วยสิเนี่ย เวรกรรม

จากคุณ : สวยตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 16:01:27

ความคิดเห็นที่ 60

คห#59

สำหรับเด็กฝึกงาน หรือพนักงานใหม่ ควรที่จะปฏิบัติตนดังนี้ครับ

1. พูดจาให้สุภาพเรียบร้อย (ถ้าเป็นคนพูดจาโผงผาง หรือชอบพูดคำหยาบ ขอให้พยายามอดทนไว้ก่อน ห้ามพูดเด็ดขาด)
2. พยายามเรียนรู้งาน ไม่เข้าใจคำสั่งให้ซักถามโดยทันที แต่ก็ควรระวังอย่าถามบ่อยเกินไปจนดูเหมือนตัดสินใจอะไรเองไม่เป็นเลย
3. แสดงความกระตือรือล้นในการทำงานให้หัวหน้างานได้เห็น ถ้างานที่ได้รับมอบหมายเสร็จหมดแล้ว ให้เข้าไปถามหัวหน้างานว่ามีอะไรที่พอจะให้ทำได้ไหม
4. ตรงต่อเวลา ไม่มาทำงานสาย และกลับบ้านช้ากว่าเวลาเลิกงานเล็กน้อย (ถ้าแค่ช่วงแรก ก็มาสายหรือกลับก่อนเสียแล้ว รับรองจบเห่)
5. ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกับทุกคน (ไม่ชอบใคร ไม่พอใจอะไร ช่วงแรกนี้ให้เก็บไว้ก่อน ห้ามบ่น ห้ามนินทา ถ้าเห็นคนจับกลุ่มนินทา เดินออกมาให้ห่างเลย)

ยังมีอีกเยอะแยะ ไว้รอพี่ ๆ คนอื่นมาตอบละกันนะครับ

จากคุณ : macenjoy

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 16:21:27

ความคิดเห็นที่ 61

ขอบคุณมากค่ะคุณพี่ macenjoy กำลังจะไปฝึกงานเร็วๆนี้ค่ะ จะนำที่แนะนำไปใช้แน่นอน _/l\_

จากคุณ : สวยตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 16:24:25

ความคิดเห็นที่ 62

แปลกค่ะ
คือทั้ง คุณเปมิกา และ คุณก็อป หูเบาทั้งคู่เลยเหรอ ??? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ถือว่าแย่มากเลยนะ

มีอะไรด้านคุณพิงค์ที่คุณไม่ได้เล่าหรือเปล่าคะ
มันออกจะดูเหมือนเราฟังความข้างเดียวอยู่ แล้วโดยปรกติคนเราไม่ไม่เล่าสิ่งที่ตัวเองทำผิดอ่ะ ^^

จากคุณ : MissMiss&TakeCare

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 17:51:27

ความคิดเห็นที่ 63

เหตุการณ์เหมือนชีวิตการทำงานของฟินในตอนนี้เลย
ต่างกันตรงที่ว่าของฟินมีปัญหากับผู้ชาย

เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ก็หาย แต่เหนื่อยใจนี่สิแย่ยิ่งกว่า เฮ้ออออออ

จากคุณ : เจ้าฟินตัวอ้วน (Finyah)

เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 23:48:21

ความคิดเห็นที่ 64

เคยเจอมากับตัวเลยครับเรื่องแม่บ้านนี่แหละ

ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพแม่บ้านนะครับ

แต่เท่าที่เจอมาหลายคนเรียกว่าแสบๆทั้งนั้น

ในความรู้สึกผมเรียกว่าพฤติกรรมนี้กลายเป็นธรรมชาติของแม่บ้านในออฟฟิตไปแล้ว

แต่ละคนปากหวานมาก แต่นิสัยลับหลัง...โฮ่.. สุดๆ

ผมว่าคนไทยชอบนินทาและเชื่อคนง่าย ถ้ายิ่งมีหลายคนช่วยกันพูดช่วยกันนินทา

ความรู้สึกคนฟังรับรองคล้อยตามกันแน่

จากคุณ : Atmosphere

เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 02:12:28

ความคิดเห็นที่ 65

.... เราอยู่ในที่ทำงานเดียวกันรึเปล่าเนี่ยจขกท.

อ๊ะ ล้อเล่นค่ะ

ไม่ใช่หรอก^^ ที่ทำงานเราเล็กๆแต่มีคนอย่างป้าขาวอยู่ด้วย

คนขี้นินทา คนชอบใส่ร้าย และเขาไม่ได้รู้สึกผิดเลยในสิ่งที่ตัวเองทำ

เขาเคยชิน ทำแล้วก็ทำอีก

คิดๆไปคนอย่างป้าขาวนี่ ที่ไหนก็มีเยอะ

*มาเพิ่มว่าเห็นด้วยกับ#64 ค่ะนิสัยแม่บ้าน ต่อหน้าแสนดี ลับหลังก็นินทา และก็จะมีเพื่อนร่วมงานหัวอ่อนที่ขี้นินทาเหมือนกัน พวกเขามักจะจับกลุ่มนินทาคนเงียบๆในที่ทำงานจนเสียหาย

แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 52 14:07:12

จากคุณ : เสียงจากบ้านนา

เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 14:04:29

ความคิดเห็นที่ 66

เจอเหมือนกันค่ะ เหมือนคุณพิงค์เลย เยอะมากด้วย ไม่ไหวจะเล่า

จากคุณ : Funnyfamily

เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 16:52:43

ความคิดเห็นที่ 67

ดีใจจัง ที่ออฟฟิสไม่มีคนแบบนั้นเลยสักคนเดียว

(อันนี้ต้องชื่นชม HR สุดฤทธิ์ เพราะคัดมาแต่คนฮาๆบ้าบอทั้งน้าน)

จากคุณ : แกง-เผ็ด-ดุ

เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 17:51:59

ความคิดเห็นที่ 68

เจอป้าขาวคนเดียวยังดี ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะเจอป้าขาว evolution team เลย ฮ่าฮ่าฮ่า zax
แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 52 20:26:50

จากคุณ : TRS

เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 20:25:54

ความคิดเห็นที่ 69

น่ากลัวมากค่ะ

กำลังหางานอยู่เลย

ขอบคุณพี่ macenjoy ที่ให้คำแนะนำนะคะ

จากคุณ : Lasagne

เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 23:36:05

ความคิดเห็นที่ 70

อ่านๆ แล้ว ถ้าเป็นเรื่องจริง ดิฉันว่าแต่ละคนวุฒิภาวะทางอารมณ์และปัญญาอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ถึงต่ำมากค่ะ ทำไมคะ แต่ละคนเป็นถึงหัวหน้าคน แต่ดันมาตายน้ำตื้น หูเบา ฟังความข้างเดียว ยุขึ้น นี่มันอะไรกันค้าาาา อนุบาลหมีน้อยหรืออย่างไร

จากคุณ : ผ่านมา

เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 07:17:33 A:115.129.4.153 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 71

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

นี่ผมเพิ่งได้ฟังความข้างเดียวจาก จขกท เลยยังไม่น่าเชื่อนะครับ
เพราะเป็นความเห็นด้านเดียว

ส่วนเรื่องว่า จะจริง หรือไม่จริง นี่ก็อีกประเด็น

ผมว่าปัญหาอย่างนี้ ไม่เห็นจะเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสอะไรเลบครับ
แล้วแต่ละคนที่ว่า ก็เป็นหัวหน้างานเยอะแยะมากมาย

จากที่เล่ามา ในการทำงาน ถ้าผมจะขอไม่มองเรื่อง คนดี คนเลว
แต่จอมองแค่เรื่อง ความเข้มแข็ง ไหวพริบในการแก้ปัญหา
ผมว่า สอบตกไปหลายคน

หากเป็นเรื่องจริงตาม จขกท ว่ามา
ป้าขาว ก็กลายเป็นผู้ชนะ
เพราะอะไรหรือ ??? เพราะ ป้าขาว นิสัยไม่ดีหรือ???

ผมขอตอบว่า เพราะป้าขาวแข็งแกร่งกว่า ใช้โอกาสตน และใช้คนเป็น(ถึงขนาดยืมมือหัวหน้าได้)

สุดท้าย จากใจจริง และขออภัยไว้ด้วยเลย
"ผมอ่านแล้ว กลัว จขกท มากกว่าป้าคนนั้นซะอีก"

จากคุณ : วันเวลาดีดี

เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 11:58:29

ความคิดเห็นที่ 72

^
^
ผมกลัวคุณมากกว่าคนอื่นๆครับ
ในโลกทุนนิยม กลายเป็นโลกของคนโลภมากที่หวังฉกฉวยทุกอย่างที่ตนเองอยากได้
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจเรื่องคุณธรรม

จากคุณ : Atmosphere

เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 16:01:03

ความคิดเห็นที่ 73

เห็นด้วยหนึ่งเสียงกับ คห #71

ใครเป็นคนดีมาคุยกับเราหน่อยนะ เกิดมาไม่เคยเจอ

จากคุณ : คนอยากหน้าตาดี

เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 23:33:15

ความคิดเห็นที่ 74

ผมเป็นเจ้าของความเห็นที่ 71 นะครับ
ขอออกมาแก้ต่างซะหน่อย

ที่ผมได้ให้ความเห็นใน คห 71 มิได้หมายถึงให้แต่ละคน มุ่งฉกฉวย โดยใช้ความเห็นแก่ตัวนะครับ
แต่ผมหมายถึงว่า ควรวางตัว และจัดการกับการกระทำเหล่านั้นอย่างเหมาะสม
โดยผมมองในเรื่องเรื่องความเข้มแข็งของจิตใจต่อปัญหาพวกนี้

เพราะเท่าที่อ่าน เหมือนจะออกแนว เป็นคนดี มานั่งน้อยเนื้อต่ำใจ ทำไมไม่มีคนเข้าใจ หรือมองเห็นความดี

อย่างนี้ก็ไม่ไหวนะครับ ลองมองกลับมาที่ตัวเองด้วยนะครับว่า เราจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ได้ผลหรือไม่ เราพลาดตรงไหนไปบ้าง?

ย้ำนะครับ ผมก็ไม่ชอบ และเห็นด้วยกับเรื่องการนินทาในออฟิต
ผมว่า มันไม่ได้สร้างประโยชน์อันใด เห็นแต่พูดๆๆๆๆ กันสนุกปาก บอกตามตรง รำคาญมาก

แล้วเรื่อง เลี่อยขาเก้าอี้ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ อย่าให้รู้ว่าใครใช้วิธีนี้ ไปไกลๆ teen เลย

แต่ผมก็มีวิธีรับมือกับเรื่องเหล่านี้ครับ จะให้บอกก็คงยาก เพราะสถานการณ์มันก็แตกต่างกัน

และสุดท้าย ที่ผมบอกว่า กลัว จขกท สาเหตุเพราะ ผมก็ไม่ค่อยชอบ คนที่เอาเรื่องคนอื่นมานินทาซักเท่าไหร่

ลองเปรียบเทียบดูก็ได้
เปรียบว่าให้ คนในบอร์ด คือ หัวหน้า
ตอนนี้ จขกท ก็กำลังนินทาเพื่อนร่วมงานอยู่เช่นกัน
แสดงว่า จขกท ก็กำลังกระทำในสิ่งที่ จขกท บอกว่า ป้าขาวคนนั้นทำอยู่มิใช่หรือ?
ต่างกันเพียงแค่ว่า คนในบอร์ด ก็ทำได้เพียงแค่ให้ความเห็นไปตามที่ตัวเองรู้สึกเท่านั้น

ทั้งหมดทั้งมวล ความเห็นผม อาจจะดู negative กับ จขกท อยู่เหมือนกัน
แต่ผมคิดว่า ในเนื้อความของผมเหล่านี้ ก็น่าจะมีข้อคิด หรือประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย

แต่หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด หรือ จขกท ไม่พอใจกับข้อความใดของผม

ผมก็ขออภัยไว้ล่วงหน้า ด้วยความจริงใจนะครับ
สิ่งที่ผมได้ถ่ายทอดออกไปนั้น เป็นความเห็นดิบๆ จากความรู้สึกจริงๆ หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวแล้ว

จากคุณ : วันเวลาดีดี

เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 00:00:24

ความคิดเห็นที่ 75

เน่าได้ใจ .. โหวตให้ครับ

จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ

เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 21:59:53

ความคิดเห็นที่ 76

คนแบบนี้อยุ่ได้ไม่นาน มักจะตายด้วยปากตัวเอง ขอให้อดทนค่ะ^^

จากคุณ : Miracles in my life

เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 20:20:34

ความคิดเห็นที่ 77

#23..
เคยเจอคนหนึ่ง พูดกับเราเนียนมาก คอยเก็บข้อมูลที่เราพูดไปใส่ไฟ เผยแพร่ต่อ อยู่กับแฟน ทำเรียบร้อย ไปเที่ยวผับ ไม่เต้น ไม่กริ้ด แต่พอแฟนไม่อยู่ ตรงกันข้าม ยั่วยวน ทอดสะพานให้ผู้ชายคนอื่น เต้นล่อตะเข้
************************************************

ขำตรง "เต้นล่อตะเข้" อ่ะ

จากคุณ : เค้กผลไม้

เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 21:14:44

ความคิดเห็นที่ 78

เรื่องจริงนะ เขาเป็นแบบนั้นชอบแต่งตัว ส่องกระจก ชอบหว่านเสน่ห์
คือเวลาแฟนเขามา เขาจะทำตัวเรียบร้อย น่ารัก พอแฟนเขากลับไปแล้ว จะเป็นอีกคนทันที แต่นั่นเราถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เราจะไม่ยุ่ง แต่ที่เป็นปัญหาคือ เธอชอบอิจฉาเขาไปทั่ว แล้วเธอมีความสามารถในด้านนี้มาก แต่ไม่ออกหน้า แต่จะไซโคกับคนอื่นๆ

เช่นเธอไม่ชอบหน้า เอ เธอจะไปไซโคที่ บี เธอรู้ว่า บี ชอบ ซี อยู่
เธอก็จะพูดทำนองว่า ซี นี้ชอบ เอ เพราะ เอ มารยาเก่ง แบร์ๆๆๆ

จน ทำให้บีรู้สึกไม่พอใจ เอ ยิ่งถ้า บีใจร้อน ปากไว หูเบา นี่ จะทะเลาะกับ เอ ทันที

เอก็จะงงๆ เพราะเธอไม่ได้สนิทสนมอะไรกับ ซี เลย จึงคิดไปไม่ถึงว่า บีไม่พอใจเรื่องนี้

ส่วนเธอก็จะนั่งมองอย่างมีความสุข

จากคุณ : 23

เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 08:21:51 A:119.31.88.79 X: TicketID:217324

ความคิดเห็นที่ 79

จขกท.เองค่ะ
อ่านคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นก็หลากหลายแง่คิด ที่เขียนเล่าให้ฟังไม่ได้มีเจตนานินทาเพื่อนร่วมงาน เลยไม่ใช้ชื่อจริง แค่เห็นเหตุการณ์แล้ว"รู้สึกเซ็ง"ทำไมคนขี้นินทา ชอบใส่ร้ายคนอื่น เค้าได้ดิบได้ดี ในขณะที่คนดีกลับถูกใส่ร้าย ทำงานงกๆๆ เงินเดือนไม่ขึ้น แถมเพื่อนเกลียดขี้หน้าอีก

เราคิดว่าหลายคนเจอปัญหานี้ บางคนมีทางออก บางคนไม่มี ก็ว่ากันไป เรื่องราวที่เราเห็นๆก้นในละครมันยังน้อยกว่าชีวิตจริงนะ เพียงแต่ในละครแสดงให้เห็นไม่กี่ฉากแล้วก็จบไป แต่ชีวิตจริงเหตุการณ์ซ้ำเดิมมันจะเกิดขึ้นทุกวัน เวลาดูละครเรายังรับไม่ได้กับการกระทำของตัวอิจฉา แล้วชีวิตจริงล่ะ คนถูกกระทำต้องอึดกว่าในละครแค่ไหน ลองคิดดูนะ

ยกตัวอย่างวงการบันเทิงที่ มีข่าวว่าน้องขวัญ อุ ษา ม ณี เกาเหลากับคนโน้นคนนี่ตลอดเวลา แต่พอไปสัมภาษณ์น้องปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา คุณเคยสงสัยไหมว่าตกลงเขาถูกใส่ร้ายหรือเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ คือจะบอกว่าบางครั้งสิ่งที่เราเห็นต่หน้าว่าดี ว่าสวย แต่พอลับหลังเรามันอาจแตกต่างกันก็ได้ ต้องใช้วิจารณญาณสูงในการเชื่อจริงๆ

ขอฝากทุกคนไว้ว่าอย่ามองโลกในแง่ดีเกินไปและอย่ามองโลกในแง่ร้ายเช่นกัน เอากลางๆพอค่ะ

จากคุณ : mssorsine

เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 10:25:22

ความคิดเห็นที่ 80

อ่านแล้วเหนื่อยแทนเลย

มุมมองของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน

การกระทำของคนก็แตกต่างกันไปตามมุมมอง

กรณีนี้ เราตัดสินแบบนี้
กรณีนั้น เราตัดสินอีกแบบ

แต่ไม่ได้หมายความว่า คนอื่นจะตัดสินเหมือนเรา

ชอบประโยคนี้ของคุณ mssorsine จัง

ขอฝากทุกคนไว้ว่าอย่ามองโลกในแง่ดีเกินไปและอย่ามองโลกในแง่ร้ายเช่นกัน เอากลางๆพอค่ะ

จากคุณ : คนชื่อถัง

เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 18:21:40

ความคิดเห็นที่ 81

คนแบบนี้มีจริงๆ

ในองค์กรณ์นึง มีคนเดียวก็พอแล้ว
สังเกตไม่ยาก
คนพวกนี้จะชอบเกาะขาคนมีอำนาจ พะเน้าพะนอจนน่าเกลียด พูดจาเยินยอชวนขนลุก

กิจวัตรหลักคือ "สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา"มีเรื่องมาเพ็ดทูลตลอด เรื่องไม่ดีของคนอื่นทั้งนั้น จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง พูดได้เพราะขาดความละอายและเกรงกลัวต่อบาป

จุดขายของคนพวกนี้ ในเบื้องต้น ส่วนใหญ่จะขายความน่าสงสาร เพราะเค้ารู้ดีว่า คนที่ช่วยเค้า ก็เพราะไม่ต้องการรู้สึกผิด เค้าก็จะฉายภาพตรงนี้ออกมา

และอีกรูปแบบหนึ่งคือ ทำเป็นขยันหรือใส่ใจงานจนOVER มีข้อผิดตกบกพร่อง(ของคนอื่น)ที่สังเกตเห็น มาแจ้งนายอยู่เสมอ

หัวเรื่องที่พุดจา ส่วนมากเป็นเรื่อง(ไม่ดี)ของคนอื่นเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าจะพูดให้เค้าดี ก็ออกแนวเสแสร้ง หรือพูดเพื่อให้บุคคลที่ถูกพูดถึงได้รับความหมั่นไส้ มากกว่าชื่นชม
..
..
..
ส่วนวิธีรับมือน่ะหรือ....โปรดรอสักครู่...เดี๋ยวมาโพสใหม่

จากคุณ : ระเบียงชมจันทร์ (ระเบียงชมจันทร์)

เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 19:32:08

ความคิดเห็นที่ 82

เคยเจอค่ะ

แต่เราเป็นพวกความอดทนต่ำ ก็ออกมาเลย ไม่สนใจล่ะ ว่าใครจะเอาไปนินทาต่อยังไง

ตอนที่ออกมาได้นี่สบายใจสุดๆ (แต่ลำบากเรื่องเงิน)

มันผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังจำได้ถึงความรู้สึกที่ว่า พอเราเปิดประตูเข้าไป ทุกคนที่กำลังเม้าท์ๆกันอยู่ก็เงียบบบบบ

กลัวเราจะรู้ว่านินทา แตที่ทำอย่างนั้นน่ะแหละ มันทำให้รู้ -*-

แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 52 08:35:48

จากคุณ : ด้วยรักและปลาทู

เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 08:28:13

ความคิดเห็นที่ 83

อีกนิดนึง คนมันชอบนินทาน่ะเน๊อะ ไม่มีอะไรจะนินทาก็พยายามหาจนได้

เรื่องนึงที่เราคิดว่างี่เง่ามาก

she : เมื่อไหร่จะมีข่าวดีจ๊ะ

me : ไม่รู้เหมือนกัน

she : ก็เรียนจบกันแล้ว ทำไมไม่แต่งเลย

me : รอหลังรับปริญญาดีกว่า จะได้ไม่ยุ่งยากเรื่องเปลี่ยนนามสกุล

(ตอนนั้นเรียนเพิ่งจบแต่ยังไม่ถึงงานรับปริญญา)

ฟังดูเหมือนเพื่อนที่หวังดี... แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นประเด็นนินทา ว่าเราอวดเรื่องแฟน เรื่องแต่งงาน บ้าบอคอแตกจริงๆ

(แต่ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งซะที 5555)

จากคุณ : ด้วยรักและปลาทู

เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 08:35:13

ความคิดเห็นที่ 84

มาตอบ เพราะโดนใน ท่อนนี้ครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------
แค่เห็นเหตุการณ์แล้ว"รู้สึกเซ็ง"ทำไมคนขี้นินทา ชอบใส่ร้ายคนอื่น เค้าได้ดิบได้ดี ในขณะที่คนดีกลับถูกใส่ร้าย ทำงานงกๆๆ เงินเดือนไม่ขึ้น
-------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้ จริง เท็จ ประการใด ไม่สำคัญ ดูเหมือนเป็นละคร
มากกว่า ที่จะมีเกิดเช่นนี้ได้ในที่ทำงาน..แต่ บทจะมี ก็มีได้นะ..55++

แต่มันก็คือ "เกมส์" เหมือนต้องมี ผู้แพ้ ผู้ชนะ มีเทคติก
จังหวะ เวลา การหลอกล่อ การทำให้ตายใจ
การตีและแทงข้างหลัง การใช้แผน แผน แผน

สังคมแบบ "หัวโขน" หรือ "หน้ากาก"
ยังไม่หมดสิ้น เพื่อความเอาตัวรอด ต้องดิ้นรน
ทั้งๆีที่ ไม่ได้โกรธ เกียจ หรือไปทำร้าย กันมาก่อนในอดีตเลย

อืม บุญรักษา ผู้ประพฤติดี คิดดี ทำดี ทุกๆท่าน

ผมปลงแล้ว ขอพอเพียง เรียบๆง่ายๆ
ตามวิถีทางไป น่าจะดีกว่า
((หมายเหตุ กระทู้แนะนำนี้ คิดว่าจะจี้"ใจดำ" คนที่ทำเค้ามามาก))

จากคุณ : นายตัวเอง

เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 09:14:34

ความคิดเห็นที่ 85

อ่านแล้วก็เข้าใจนะครับ ว่าต้องการสื่ออะไร แต่ขอติงในฐานะคนมีประสบการณ์นิดนึงว่า

ตัดประเด็นเรื่องพฤติกรรมออกไป

คนอายุ 36 ปีนี่ ยังไม่ถือว่าแก่จนทำงานออฟฟิตไม่ได้นะครับ จริงอยู่ว่า พวกคุณคงอายุน้อยๆ เพิ่งทำงานหลังจบมหาวิทยาลัย และเติบโตมาในลำดับ

แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณคิดว่า คนอายุ 36 ไม่ควรมาทำงานออฟฟิตแล้ว ยังงั้นให้พวกเค้าไปทำอะไรล่ะครับ

ในสังคมการทำงานแบบไทยๆ สิ่งนี้คือสิ่งที่ควรปรับปรุงอย่างมากนะครับ คือทัศนคติเรื่องอายุ (ไม่ใช่ประสบการณ์นะครับ คนละเรื่อง) จะสังเกตุได้จาก คนทำงานในต่างประเทศเค้าไม่มาเกี่ยงหรอกนะครับ ว่าคุณอายุเท่านี้ ไม่ควรมาทำงานยังงี้ ตราบใดที่เค้ายังทำงานได้ คุณจึงจะยังเห็น คุณป้า(จริงๆ)วัย 50 กว่าๆ ทำงานแคชเชียร์ พิมพ์เอกสาร หรือแม้แต่แอร์โฮสเตส

จริงอยู่ บ้านเรา บริษัทฯมีทางเลือกเยอะ เพราะคนว่างงาน+คนจบใหม่ ที่หางานมีมาก เลยมีโอกาสเลือก แต่ผมมองว่าไม่ควรปิดโอกาสคนมีอายุเหล่านั้นด้วยนะครับ

จากคุณ : ให้โอกาสกันบ้าง

เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 10:49:40 A:116.87.151.8 X:218.186.10.237 TicketID:089873

ความคิดเห็นที่ 86

เจ้าของกระทู้ครับ... อ่านแล้ว เอ่อ...

อยากรู้จัก คุณก็อป ครับ :D

จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้

เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 11:02:34

ความคิดเห็นที่ 87

ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้แต่สงสัยว่า....

"คุณป้าขาว วัย 36 ปี "

เอ่อ... อายุ 36 นี่เรียกป้าแล้วเหรอ
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 52 14:35:52
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 52 14:10:23
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 52 14:07:18

จากคุณ : ลูกคนกลาง (ลูกคนกลางเป็นเด็กดี)

เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 14:05:33

ความคิดเห็นที่ 88

บริษัทอิชั้นดีหมดยกเว้นเหล่า MD อ่ะคะ มาจับผิด นินทาลูกจ้างเอง ลาออกกันไปหลายคนแล้ว ทำไงดีคะเนี้ย

จากคุณ : เครียด (on_the_box)

เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 22:27:09

ความคิดเห็นที่ 89

โห

แต่ละคห.

เราว่าเราเจอหมดละนะ

ถึงจะทำงานแค่ปีเดียวก้อเหอะ

ในออฟฟิศเราจะมี assistant to ceo เก่าแก่คนนึง

พี่แกจะแรงๆ ทั้งพูดด่าตรงๆ ด่าโวยวาย ด่าจิกกัน ประชดประชัน

หลอกด่า คือด่าคนอื่นทุกอย่าง ตัวเองดีหมด คนอื่นผิดทุกอย่าง

โวยวาย เกลียดใครอย่าหวังได้ เป็นสุข

อายุพอสมควร ราว 30 แต่ในออฟฟิศเราจะมีแต่เด็กใหม่ๆ คือ

อายุน้อยกว่าพี่เค้าอะแหละ แล้วตอนนี้เค้าไม่ได้เป็นผู้ช่วยCEOแล้ว

แต่เวลาน้องast ใหม่สามคน ทำอะไรต้องผ่านเค้าทุกอย่าง

(อันนี้เราเข้าใจเพราะเด็กใหม่มันก้อกลัวทำงานพลาด)

พี่เค้าจะทำตัวผิดกฎระเบียบบริษัทตลอด หายแว๊บก้อบ่อย

ไม่ลงเวลาทำงาน ก็เข้าไปในระบบทำเรื่องอนุมัติเอง

(พี่เค้ามีID ,Email,อำนาจอนุมัติของเจ้านาย)

เจ้านาย คือ CEO ไว้ใจเค้ามาก มีอะไรก็คอยฟังเค้าเพ็ดทูล

เพราะส่วนนึงพี่เค้ารู้จักคนเยอะ แถมทำงานพวกติดต่อ สินบนใต้ดิน

ที่บริษัท(CEO ออกหน้าเองไม่ได้)เยอะมาก

ทำให้พี่เค้าเป็นผู้มีอิทธิพล ของบริษัท

วันๆงานการแกไม่ทำไร (ทำงาน สินบนเป็นงานหลัก)

เจ้านายฟังแต่แก ผจก.คนไหนไม่ถูกใจแก แกก็เอาไปนินทากะผญ.

กลุ่มอื่นในบริษัท กับพวกผช.ช่างเม้าส์ นิสัยชอบอู้

เราเป็นฝ่ายบุคคล ทำไรไมได้เลย (หัวหน้าเรายังหงอแกอ่ะ หึหึ)

แต่งตัวผิดระเบียบ ขาดลามาสายออกก่อน ตลอด

สอบก็ลอกคนอื่นประจำ นินทา โวยวายเสียงดัง ด่าคนอื่นที่ไม่ถูกใจแก

มันทำให้เราไม่ศรัทธาในคนประเภทนี้ แต่ก็แปลก

พวกนี้จะชอบมีคนเข้าไปยุ่งด้วย ไปสุมหัวนินทาด้วย

เวลาใครมีปัญาหาในออฟฟิศถ้าเรื่องถึงหูนาย นายจะไว้ใจแก

และถามข้อมูลจากแกตลอด อะไรๆ ก็ผ่านแก

ถือได้ว่าเป็นพวกผู้มีอิทธิพลของออฟฟิศเลยทีเดียว

...........น่าเบื่อคนประเภทนี้มาก แต่เหมือนว่า มีกันทุกที่เจงๆ

ของแต่ละคห.แสบๆ ทั้งนั้น

ตราบใดที่คนเรายังหลงคำเยินยอ ชอบคำนินทา ชอบคนเอาใจ

ไม่แปลกหรอกที่คน นิสัย เสียนาย ขายเพื่อน เลื่อยขาเก้าอี้

ตีตนข่มท่าน มันจะมีอยู่ทุกที่พวกเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น

พวกเสแสร้งทำดี ปากว่าตาขยิบ เห็นแล้วน่าเบื่อมาก

เราอ่ะโวยวาย โหวกเหวก ไม่พอใจหน้าเราจะไปเลย

เสียงแข็งๆ ไม่จ๊ะจ๋า เลยโดนหมายหัวตั้งแต่มาทดลองงานเลยว่าแร๊งงงส์

ก็โดนเค้านินทาตลอด แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่มีข้อเสียนะ

เรามันปากไว ใจร้อน ขวานผ่าซาก เก็บอารมณ์ไม่เก่ง

บางทีเวลาเราโดนใช้แล้วไม่ใช่งานเรา เราจะถามกลับเลยว่า

ทำไมหนูต้องทำอ่ะ คนที่ใช้เราก็จะไม่พอใจไปเลย(ตามจริงเค้าไม่มีอำนาจมาใช้ แต่ชอบโยนงานมาให้ทำ)

..........................................................................................

เล่าแล้วติดลมแหะๆ จบแระไปดีก่า เหมือนว่าทุกที่มีปัญหาจริงๆนะเนี่ย

มีคนประเภทนี้หมดเลย เหอะๆ

จากคุณ : กันติมา

เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 23:38:19

ความคิดเห็นที่ 90

ข้อเสียของผู้หญิงคือชอบเล่นการเมืองในอาชีพ

ส่วนข้อเสียของผู้ชายคือชอบเล่นการเมืองเป็นอาชีพ

จากคุณ : suman

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 00:21:12

ความคิดเห็นที่ 91

ถ้าคิดว่าดี เอาตัวอย่างได้ แม่ผมอายุมากแล้ว ไม่จบ ป 4

ทุกคนไว้ใจแม่ผม มีคนมาเล่าเรื่องลับๆให้ฟังเสมอ เพราะไม่เอาเรื่องไม่ดีของใครไปเล่าต่อเด็ดขาด ถ้าเล่าก็เล่าเรื่องดีเมื่อแน่ใจว่าดีจริงและคนที่รับฟังไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกับคนที่พูดถึง ไม่ฝากเรื่องสำคัญให้คนไปบอกต่อเพราะกลัวไปบอกผิดๆ นี่ผมพูดถึงเรื่องในครอบครัวนะครับ

จากคุณ : .

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 01:36:26 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 92

รอฟังคุณ ระเบียงชมจันทร์ อยู่ค่ะ

อยากฟังวิธีรับมือจากคนที่เคยแก้ปัญหาพวกนี้สำเร็จด้วยค่ะ

จากคุณ : ดอกเหมย (Fiorina)

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 12:16:39

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป