ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ เข้าใจความรู้สึก เพราะเคยเจอเหมือนกัน แต่คนละสถานการณ์ ความจริง ให้เรื่องถึงผู้ใหญ่สักครั้ง อะไร ๆ อาจจะดีขึ้น เรื่องเข้าหน้ากันไม่ติด ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันนี่คะ อ่านจากที่เล่า เอาชิ้นงานที่เขาทำผิด ๆ เอาบันทึกที่ลูกค้าสั่ง (คิดว่าคุณน่าจะจดไว้แล้ว) เทียบกันต่อหน้าเจ้านาย ทีนี้เขาจะมาว่าเรามีปัญหาเองไม่ได้หรอกค่ะ หากถึงขนาดนี้ ยังมองว่าเราเป็นคนผิด เจ้านายก็ไม่น่านับถือแล้ว เอาใจช่วยนะคะ ได้งานใหม่แล้วค่อยออก เดี๋ยวจะยิ่งเครียด บุญรักษาค่ะ จากคุณ : wanalee เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 21:47:23

ความคิดเห็นที่ 2   ขอบคุณมากค่ะคุณ wanalee ที่เครียดคือ ยังไงก็ต้องดิวงานกะคนนี้ตลอดนี่สิคะ แต่ตอนนี้เวลาจะสั่งงานเรานี่ไม่อยากเดินไปหาเลย พอสั่งเหมือนยืนพูดคนเดียว เขาจะกระชากใบสั่งไปแบบไม่แม้แต่มองหน้าเราเลยค่ะ แต่กับคนอื่นเขาก็ยิ้มแย้มดีนะ เราสงสัยมากว่า ไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหน จากคุณ : ดอกเหมยทนหิมะ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:01:13

ความคิดเห็นที่ 3 คุยกันไปเลย  เอาให้รู้เรื่องว่าทำไมต้องทำกิริยาอย่างนี้ แตกเป็นแตกไป  ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ช่างหัวมัน  บอกเค้าไปว่าถ้ามัวแต่ทำแบบนี้ ก็ยิ่งไม่ทำให้อะไรดีขึ้น หรือไม่ก็ฟ้องหัวหน้าเลย  แต่หาเหตุผลดีๆ ไปก่อนนะ  ว่าปัญหาที่เกิดคืออะไร อย่าให้คนๆ นึงมาทำให้ชีวิตคุณไขว้เขวหรือหวั่นไหวนะคะ  หายใจเข้าลึกๆ อย่าร้องไห้ต่อหน้าคนนั้นเด็ดขาด  สู้ๆ นะ จากคุณ : nanafield เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:21:06

ความคิดเห็นที่ 4 1 ดีไซน์เนอร์ อาร์ตเกิน 2 ศรศิลป์ไม่กินกัน น่าบอกหัวหน้าเรียกคุยนะคะ จากคุณ : mizzi เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 23:35:53

ความคิดเห็นที่ 5 ปัญหาคลาสสิค ของการทำงานครับ จะพบเจอได้เหมือนกันใน  งาน it ระหว่าง Programmer กับ SA        คุณจะเจอเคสแบบนี้ได้เหมือนกัน ถ้า ทั้ง SA และ Programmer ต่างประสบการณ์ น้อยทั้งคุ่และ SA ไม่มีประสบการณ์ Programming มาก่อน เพราะหากไม่มีประสบการณ์ Programming ในสิ่งที่ SA สั่งอาจจะประเมินเวลาใน งานชิ้นนั้นๆ ไม่ตรงและ เหมาะสมกับความเป็นจริงทำให้ เกิดความตึงเครียดได้หากงานไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้        และอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียดระหว่าง SA และ Programmer คือ การแก้งาน(สำหรับ PG ที่มีประสบการณ์ จะไม่ค่อยมีปัญหานี้ ) อันนี้ น่าจะเข้าใจได้ว่า ลูกค้าต้องการแก้ คุณควรอธิบายให้ ดีไซเนอร์เข้าใจว่า สิ่งที่แก้มาจากลูกค้านะ ไม่ใช่คุณอยากจะแก้ หรือถ้า ต้องแก้จากความผิดพลาดของคุณเองที่ สั่งงานไม่ละเอียด หรือ ตีโจทย์ของงานผิดพลาด ควรกล่าวขอโทษ หรือพูดจากัน จะทำให้ ความตึงเครียดของงาน ลดลงได้ครับ       ลองปรับเปลี่ยน อารมณ์ของคุณเอง และวิธีการปฎิบัต ต่อเพื่อนร่วมงานคนนี้ ดูก่อนครับ   เริ่มที่ตัวเราก่อนถ้าไม่ไหวจริงๆ  ค่อยว่ากันอีกทีครับ ช่วงนี้งานหายากต้องเกาะเก้าอี้ไว้แน่นๆ ครับ จากคุณ : RuudVanNis10 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 23:55:20

ความคิดเห็นที่ 6 เราเจอกลับกันแฮะ เจอคนรับงานไม่ถามงานมาให้ดี ให้ดีไซเนอร์ทำงานย้อนไปย้อนมา 3-4 รอบ ทำเสร็จแก้ใหม่ ทำเสร็จแก้ใหม่ ด้วยเหตุผลว่า ไม่กล้าถามลูกค้า กลัวโดนลูกค้าด่า บางทีเรื่องรับงานลูกค้า ก็ต้องเผื่อเวลาไว้หน่อยนะคะ ไม่ใช่ว่าเอาตามลูกค้าเป๊ะ บางทีดีไซเนอร์(ถ้าทำในออฟฟิส)ก็มีงานคามือเยอะแยะ เราเคยเป็นนะ ทำงานนี้ต้องสับไปงานนู่น วุ่นวายไปหมด ซึ่งพอส่งไป ลูกค้าก็กว่าจะหลายวันกว่าจะคอนเฟิร์มมา มันแปลว่าบางทีคนรับงาน ก็น่าจะช่วยเห็นใจบ้าง กะเวลาเผื่อให้บ้าง อันนี้จากมุมมองของเราที่เป็นดีไซเนอร์นะ ซึ่งก็ไม่ได้ว่าดีไซเนอร์ถูก แต่อยากให้มองในมุมกลับกันดู เรื่องการสั่งงานก็ควรเป็นลายลักษณ์อักษรไปเลย เมลล์ หรือ กระดาษจดให้เลย ถ้าเขาทำผิด ก็จะได้มีหลักฐาน ซึ่งสุดท้ายที่เราทนไม่ไหว ก็ปัญหาแบบนี้เหมือนกันค่ะ เลยออก :D จากคุณ : Kenshin_wife เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 00:21:10

ความคิดเห็นที่ 7 เราพึ่งจะโดนมาวันนี้สดๆร้อนๆเลย ไม่คิดว่าจะโดนด้วยซ้ำ คือเราไป deal กะ Supplier ให้ทำงานนะ พอมันต้องมีอะไรแก้ไขคือเราก็คุยกับ SuP เราตรงๆ ไอ้คนนี้นะ มันมา DISCREDIT เราต่อหน้าเจ้านายเฉยๆเลย คือเรากะมันต้องเจอหน้ากันทุกวันต้องทำงานด้วยกัน ตอนแรกๆเรางงมากๆทำงานมาก็หลายปีนะ ไม่เคยเจอแบบนี้ คือเนื้องานจิงๆนะมันไม่ค่อยต้องมาเกี่ยวกันซักเท่าไหร่ ไม่เข้าใจจิงๆว่ามายุ่งกะเราทำไม งงมากๆ แต่คิดอีกทีคงเป็นที่สันดานมันนะ ชอบ Backstabbing คนอื่น ชอบเอาหน้า ชอบหักหน้าคนอื่น เพราะได้ยินคนบ่นมาเยอะแล้ว เบื่อมากๆๆ แต่ก็ยังต้องทำงานกะมัน ก้พยายามคิดนะว่าคนอย่างนี้มันคงจะมีเพื่อนแท้นะ และกรรมคงตามสนองมัน จากคุณ : mellofish (mellofish) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 00:41:37

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าลาออกแล้วเจอแบบเดิมอีกจะทำอย่างไร ลองคิดดูก่อน เผื่อไปเจอจะได้เตรียมใจครับ เอาใจช่วยครับ จากคุณ : jeakja เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 03:17:35

ความคิดเห็นที่ 9 เท่าที่อ่านนี่ ดูท่าทางแล้วที่อื่นก็น่าจะเจอแบบนี้เหมือนกัน เพราะถ้าคุณยังคงทำในฟิวนี้อยู่ ลองคิดดูดีๆ แล้วกันค่ะ ถ้าไปที่ใหม่แล้วมันอัปเงินเดือน อัปตำแหน่งก็น่าไป.. จากคุณ : Little Magic เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 08:14:06

ความคิดเห็นที่ 10 classic มากมากครับ คาดเดาไม่ได้เลยว่าจะเจอปัญหานี้ที่ไหนอีกนะครับ เฮ้อ ทำบุญบ้างนะคับ จะได้เจอสิ่งดี ๆ ครับ เป็นกำลังใจนะครับ เดาว่าคุณคงทนได้อีกแค่ระยะหนึงน่ะครับ ไม่มีใครทนได้ตลอดไปหรอก งานเสียหมด เสียจิตหมด จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 08:28:45

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคิดว่าต้องเริ่มเปลี่ยนจากการพูดให้ดี เป็นพูดให้ตรง จะแก้ปัญหาได้ครับ เคลียร์กันไปเลย ไม่ต้องมีอะไรค้างคาใจกัน ต้องมีอะไรแน่ ๆ เขาถึงไม่พอใจ อาจเป็นไปตามความเห็นที่ 6 ก็ได้ครับ จากคุณ : ไซโค เสก เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 08:43:12

ความคิดเห็นที่ 12 มาให้กำลังใจครับ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 09:03:28

ความคิดเห็นที่ 13 แนะนำกันหมดแล้ว เอานี่ละกัน สวดชินบัญชร นะครับแล้วแผ่เมตตาให้เค้า ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ จากคุณ : shuriken เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 09:26:11

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ เห็นด้วยค่ะ บางครั้งเราหาทางออกไม่ได้ก็สวดมนต์ แผ่เมตตาเลย จะให้ดีสวดชุมนุมเทวดาด้วยนะคะ บทนี้ดีมากๆ จากคุณ : Little Magic เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 09:59:57

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับ #13 และ 14 ค่ะ หนักแน่นเข้าไว้นะคะ ตราบใดที่ยังต้องทำงานกับคนอื่น ก็จะมีปัญหาใหม่ ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ แหละค่ะ บางที หากลองมองด้วยสายตาของบุคคลที่สาม สมมติสถานการณ์ว่าเราเห็นเพื่อนที่ทำงานเราสองคนมีปัญหากันแบบนี้ เราจะคิดว่ายังไง ภาพอาจจะชัดขึ้น ต้องทำใจให้เป็นกลางด้วยนะคะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : wanalee เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 10:17:04

ความคิดเห็นที่ 16   นี่เป็นปัญหาในเรื่องคนแล้วละครับไม่ใช่ปัญหาในเรื่องงานหรอก แต่วิธีการแก้ปัญหานี้ต้องแก้ในเรื่องงานครับ อย่าเอาปัญหาเรื่องคนมาปนเด็ดขาดไม่งั้นตัวเราก็เสียสุขภาพจิตงานก็เสียไปด้วย คุยกับหัวหน้าคร่าวๆถึงปัญหาที่อาจทำให้งานที่ได้รับจากลูกค้ามีความล่าช้า สร้างความไม่พอใจกับลูกค้า หรือเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้งานเกิดความเสียหาย (เช่นอาจจะบอกว่าสั่งงานไปนานแล้วยังทำไม่เสร็จลูกค้าทวงถามมาพอประสานงานไปทางดีไซเนอร์ก็เหมือนจะพูดจาไม่ดีใส่เรา(ประมาณว่างานไม่เสร็จแต่วีนกลับอะไรประมาณนั้นให้หัวหน้ามองก่อนว่าปัญหามาจากคนไม่ทำงานและให้หัวหน้าไปแก้ปัญหาให้เราเอง) -->แต่ต้องไม่พูดในลักษณะกล่าวหาดีไซเนอร์ว่าพูดจาไม่ดีกับเรา หรือมีอคติอะไรกับเรา เด็ดขาดเพราะนั่นจะแสดงตัวตนของคุณให้หัวหน้าเห็นว่าคุณไม่ได้สนใจงานแต่เอาเรื่องคนมาเกี่ยวข้อง บริษัทจ้างเราเข้ามาทำงานครับ ทำงานเพื่อแก้ปัญหางาน ไม่ได้จ้างให้เราเข้ามาขัดแย้งกับคนอื่น นิสัยของคนอื่นเราไปแก้เขาไม่ได้หรอกครับต้องแก้ที่ตัวเราเองและทำให้งานเดินด้วย วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นแบบง่ายๆคือ สั่งงานผ่าน email ccผ่านหัวหน้าแล้วกำหนดเวลาจัดส่งหรือขอให้ดีไซเนอร์เป็นคนกำหนดเวลาของงานที่จะส่งกลับเราเอง ถ้ายังส่งงานช้าอีกเดี๋ยวหัวหน้าจะเห็นเอง จริงๆจะหนีโดยการลาออกก็ได้แต่จะบอกว่าไม่ว่าคุณไปทำงานที่ไหนก็จะมีปัญหาทั้งนั้นละครับ (เพียงแต่ปัญหาอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอย่างอื่น) ดังนั้นวิธีที่ดีและได้ประโยชน์สำหรับตัวเราที่สุดก็คือต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้ครับ ถ้ายังอายุน้อยๆเรื่องพวกนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีในวันหน้า ถ้าทำงานไปนานๆแล้วจะรุ้ครับว่าปัญหานี้มันเป็นปัญหาพื้นฐานในการทำงานเลยละ (ปัญหาขั้นadvancedยังมีอีกเยอะๆๆๆ) จากคุณ : -0- เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 10:19:33 A:61.19.47.103 X: TicketID:128538

ความคิดเห็นที่ 17 มาตอบนะค่ะ   ในฐานะอาชีพกราฟิกดีไซน์ 1. เข้าใจว่าคุณเจ้าของกระทู้เป็น AE ซึ่งจะต้องนำเอาความต้องการของลูกค้านั้น ไปบรีฟให้ฝ่ายกราฟิกอีกที ซึ่งตรงนี้นะสำคัญมาก เพราะถ้าถ่ายทอดไม่ดี ไม่ตรงประเด็น และเข้าใจมาผิดๆ กราฟิกจะไม่ก็เข้าใจไม่ชัดเจน และอาจเป็นเพราะกราฟิกไม่ได้คุยกับเข้าของงานโดยตรง จึงทำให้ยากต่อการออกแบบให้ตรงกับความต้องการ เพราะผ่านAEมาก่อน และกว่าจะมาถึง กราฟิก ย่อมตกหล่นบ้างเป็นธรรมดา ดังนั้นงานอาจจะทำให้ออกมาไม่ถูกใจนัก (เห็นมาหลายต่อหลายคนแล้ว เพราะบางทีเราจ้างคนนอกมาช่วยเหมือนกัน AE รับงานที่ บรีฟจากฝั่งเราไป แต่ออกมา ไม่ใช่) 2.อาชีพกราฟิกเป็นอาชีพที่กดดันสูงพอสมควร เพราะต้องออกแบบจากสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม ซึ่งกระบวนการในการทำงานนั้น ต้องคิดและตีโจทย์ให้แตก รวมทั้งใช้ฝีมือของตนเอง ทำออกมาให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด 3.บุคคลภายนอกอาจจะไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของกราฟิก เพราะชอบสั่งให้แก้นั่น แก้นี่ อยากจะเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนได้ตลอดเวลา ถ้าแนะนำไปก็จะบอกให้ลองทำมาดูก่อน  ขั้นตอนในการแก้ไขก็จะมาก ยุ่งยากตามไปด้วย ทำให้เสียเวลา และหงุดหงิด เพราะจะแก้อยู่เรื่อย เนื่องจากไม่ฟังคำแนะนำของคนทำกราฟิก (ลองคิดดูว่าให้คุณคิดว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้แต่เห็นคนที่ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจการออกแบบ สั่งให้แก้นั่นแก้นี่ตลอด ทั้งที่แนะนำไปแล้ว อีกทั้งยังทำตัวเป็นผู้รู้ทุกสิ่ง เห็นว่างานกราฟิกเป็นงานง่าย คุณจะรู้สึกยังไง รู้สึกว่าเค้าโชว์เกรียนใช่ไหม มันหดหู่จิงๆ)แต่เราก็ต้องทำออกมาให้ดู และเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพระทำออกมาแล้ว ยังไงก็ไม่สวย เพราะกราฟิกไม่อยากทำและเห็นว่าไม่ควร 4.กดดันเรื่องเวลา การทำงานเข้าใจว่าต้องมีเวลาจำกัด แต่งานที่อยู่ในมือมีมากเหลือเกิน อย่าเอางานมาใส่ให้อีกเลย ให้จบเป้นเรื่องๆไป งานจะออกมาดี 5.กดเงินเดือน เห็นบางบริษัทรับสมัครกราฟิก แต่ว่าเงินเดือนต่ำมาก ยังไม่ถึงหมื่น นี่หรือคือเงินเดือน ไปทำอย่างอื่นยังจะดีกว่า เพระต้องโดนงานหนัก แถมยังเจอเงินเดือนแบบนี้ ประกาศรับคนที่เป็นโปรแกรมหลายๆโปรแรม แต่ให้เงินเดือนไม่คุ้มกับความสามารถของคน อย่างงี๊เรียกกดขี่อาชีพกราฟิก ที่เขียนมาทั้งหมด คือ สิ่งที่พบเห็นและมุมมองจากคนทำกราฟิก อยากจะอธิบายให้บุคคลอื่น เข้าใจตรงจุดนี้บ้าง คนทำงานกราฟิกก็เป้นคนเหมือนกัน เพระฉะนั้นจึงมีนิสัยแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งที่เจ้าของกระทู้โดนมานั้น เราก็เห็นใจที่เค้าพูดจาไม่ค่อยจะดี แต่ถ้าคุณอ่านความเห็นนี้ คุณอาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมเข้าถึงเป็นแบบนั้น จากคุณ : cyber_lomogirl เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 10:59:12

ความคิดเห็นที่ 18 เปลี่ยนจากสั่งงานเสียงเรียบ เป็น รบกวนหน่อยนะคะ แล้วก็กลับมานั่งแผ่เมตตาให้ค่ะ สู้ๆ จากคุณ : ibapapoon เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 11:00:08

ความคิดเห็นที่ 19 เวลารบ 08.00-17.00 น. หลังจากนั้นมันก็เป็นเวลาของเราเเล้ว ยังมีความสุขอีกมากมายหลัง 17.00 ครับ อย่าคิดมากเลยครับ ลาออกไปเเล้วจะดีขึ้นไหมอ่ะครับ จากคุณ : MAXSIM_lot เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 11:51:33

ความคิดเห็นที่ 21 อย่านี้ปัญหาโดยใช้วิธีนี้เลยคะ  ไม่เป็นผลหรอก คุณก็ไมได้ทำอะไรผิดไม่ใช่เหรอ  ง่ายมากคะ ถามเค้าตรง ๆ ว่ามีปัญหาอะไรหรือป่าว  ความใจเย็นไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอกน่ะ  มันจะรู้สึกว่าเช้านี้กรูไม่อยากทำงาน  ตัดสินใจคุยกันเลยคะ จะได้เครีย  ไมพอใจตรงไหนก็บอกมา  ลูกจ้างเหมือนกัน  กินเงินเดือนเหมือนกัน  ไม่ต้องกลัวหรอกคะ  "อย่าใช้คำสั่ง แต่ใช้คำพูดที่ถูกหลัก" ไม่นานก็สิโรราบให้เราเอง  ตอนนี้เค้าคงเดือดอยู่คนเดียว  มันคล้ายกับ "ว่าเรา แต่เค้าเจ็บเอง"  เป็นกำลังใจน่ะ จากคุณ : ปลาน่ารัก เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 13:24:15

ความคิดเห็นที่ 22 ลองซื้อขนมติดมือมาฝากเค้าดู หรือไม่ก็ใช้วิธีการพูดทำนองขอความช่วยเหลือดูค่ะ งานออกแบบต้องใช้เวลา  การรับงานมาควรจะดูระยะเวลาด้วย แต่อย่าไปฟ้องนายหรือ ต้องเรียกคุยเลยค่ะ  มันจะยุ่งไปกว่าเดิมอีก ทางที่ดีลองปรับตัวเราหาเค้าดู อาจจะด้วยวิธีที่อ่อนลงกว่าเดิม แฟนเราก็ทำกราฟฟิค  จะชอบบ่นเรื่อยๆ เรื่องแก้นั้นนุ้นนี้ประจำ ลูกค้าสั่งงานอธิบายงานบางทีก็เข้าใจไม่ตรงกันหรอก จากคุณ : น้องฟักทอง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 13:42:48

ความคิดเห็นที่ 23 ใครชอบใครชังช่างเถิด ใครเชิดใครแช่งช่างเขา ใครเบื่อใครบ่นทนเอา ใจเราร่มเย็นเป็นพอ จากคุณ : i_am_np เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 13:49:34

ความคิดเห็นที่ 24   ขอบคุณทุกคนมากค่ะ มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลย เราก็แผ่เมตตาให้เขาอยู่เรื่อยๆอะ เราก็ทนมาเรื่อยๆ เพราะว่าไม่อยากออกไปเครียดตกงาน เราทำงานมา2-3 ที่เจอกราฟฟิคเป็น 10 คน แต่ไม่เคยเจอคนแบบนี้ จากความเห้นที่17 cyber_lomogirl ขอบคุณในความเห็นนะ เราอยากบอกว่าเราเข้าใจอารมณ์ดีไซเนอร์นะ เพราะสมัยเรียนเราก็เคยเรียนทำillus และก็เคยทำจ๊อบเล็กๆ และก็ทำหนังสือในวิชาที่เรียนด้วยค่ะ อีกทั้งเราก็มีเพื่อนสนิทหลายคนเป้นกราฟฟิค แต่ไม่มีใครเป็นแบบนี้เลยค่ะ งานที่เราสั่งทำถ้าเป็นงานดีไซน์เราเข้าใจนะ แต่นี่มันอาร์ตเวิร์กธรรมดา อะ คือทำให้เหมือนตัวอย่างเด๊ะ งานก็แค่ใบปลิวธรรมดา จัดคอลัมภ์ที่ไม่มีภาพแค่พื้นแล้วก็ตัวอักษรดำ เราบอกให้จัดอยู่ center แบบตัวอย่างเด๊ะ ...เขาทำไม่ได้อะ เขาเอาข้อมูลข้อย่อยสั้นๆไว้ตรงกลางหัวเรื่องเทไปด้านขวา ...-.-" เราก็เลยพูดดีๆว่าช่วยทำให้หัวเรื่องมันกลาง (วาดรูปประกอบด้วยแต่เขาไม่รับไป) เฮ้อ ... จากคุณ : ดอกเหมยทนหิมะ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 13:52:39

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบคุณดอกเหมยทนหิมะนะคะ ถ้ากรณีคุณเจอปัญหาแบบนี้ เราว่ากราฟิคคนนั้นกำลังกวนอารมณ์คุณอยู่ ประมาณว่า ชั้นอยากจะทำแบบนี้อ่ะ หรือไม่ก็คิดซะว่าเค้าฝีมือเค้าต่ำไปนะคะ ถ้าคิดว่าคุณทำได้ เรามีวิธีแก้เผ็ดกราฟิคคนนี้คือแบบนี้นะคะ คือคุณก็คุยกับเค้าเลยค่ะ บอกไหนทำไม่ได้ขอดูหน่อยได้ไหมค่ะว่าไม่ได้ยังไง ถ้าเค้าทำเป็นว่าทำไม่ได้ คุณแสดงฝีมือให้เค้าเห็นไปเลยค่ะ แล้วหันหน้ามาบอกกับเค้าว่า นี่ไงค่ะ ง่ายนิดเดียว แค่นี้เองทำไมทำไม่ได้ค่ะ ดิฉันไม่ได้เก่งกราฟิคขนาดคุณยังทำได้เลยค่ะ (หึหึ สะใจไหมค่ะ รับรองค่ะเข้าจะไม่ค่อยกล้าหือกับคุณอีกพักนึงเลย ถ้าเค้ารู้ว่าคุณทำกราฟิกได้เหมือนกัน) ยังไงก็สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : cyber_lomogirl เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 15:05:12

ความคิดเห็นที่ 26 เหนาะ ๆ ลองแก้ดูก่อนครับ เราปรับตัวแล้ว ปรึกษาหัวหน้างาน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ หางานใหม่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยออกนะครับ ปล. บางทีความอดทนก็ได้แสดงสปิริตอย่างหนึ่งนะ จากคุณ : โลมา กะ ปลาดาว เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 15:52:45

ความคิดเห็นที่ 27 ทำบุญกรวดน้ำให้ อ้าวจริงๆนะไม่ได้พูดเล่น เคยทำมาแล้ว สบายใจขึ้นเยอะคะ จากคุณ : สวยสงบ แต่ตบไม่ยั้ง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 15:59:31

ความคิดเห็นที่ 28 จขกทครับ.. คือผมไม่ได้อ่านเรื่องราวของคุณนะครับ..เพราะอยู่ที่ทำงาน เวลาไม่ค่อยมี.. แต่ผมอ่านคำตอบของคุณ ใน คห24 ของคุณนิดหน่อยเหมือนกัน.. ผมอยากจะฝากไว้หน่อยนะครับ 1. บางทีอย่าเอาตัวเราเป็นศูนย์กลาง-เอาตัวเราเป็นที่ตั้งนะครับ เพราะฝ่ายโน้นเขาก็เอาตัวเขาเป็นศูนย์กลางเช่นกัน ต่างคนต่างไม่ยอมใคร แต่มันต้องมีคนคนนึงยอมก่อนครับ.. แล้วอีกคนก็จะถอยให้... คุณต้องเริ่มก่อน เพราะถ้าคุณทำตรงนี้ได้ คุณจะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ในอนาคตอันใกล้... คนที่ปรับตัวไม่ได้ ถือดี ถอยไม่เป็น คนคนนั้นเจริญช้ากว่าคนที่มองเห็นปัญหา และยอมเสียสละเพื่อแก้ปัญหาครับ. เพราะคนคนนั้นจะได้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและไวกว่าครับ... 2. การที่คุณทำงานกับ Designer คนอื่นๆ มาหลายคน มันก็เลยเกิดเป็นการที่ตัวเราเอง กำหนด "มาตราฐาน/ความคาดหวัง" ขึ้นมาน่ะครับ... ขอให้พยายามละ "มาตราฐาน/ความคาดหวัง" นะครับ แล้วคุณจะมองเขาคนนี้(คู่กรณี)อย่างเป็นกลางมากขึ้น 3. ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราและนึกตาม บางทีคุณอาจจะเข้าใจครับ ว่าที่เขาทำแบบนี้กับคุณเพราะอะไร? คุณแน่ใจแล้วนะครับ ว่า คุณได้รับ customer requirement & specification มาครบถ้วน? 4.ผู้บริหารสมัยนี้ ชอบกรรมวิธี ตาต่อตา ฟันต่อฟัน.. แต่วันที่ผมมาทำงานเป็นที่ "ปรึกษาทางธุรกิจ" แบบนี้ ผมว่า หันหน้าเขาหากันน่าจะเป็นคำตอบทีดีครับ.. ลองทำดูนะครับ... จากคุณ : ปัญญา (แก้ปัญหาด้วยปัญญา) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 16:27:44

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่อยากแนะนำให้ออกเลย งานหายากมากนะคะ จากคุณ : Angel Around Here เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 18:41:48

ความคิดเห็นที่ 30   ขอบคุณทุกความเห็นมากค่ะ พอดีเมื่อวานหัวหน้าเรียกคุย ได้ระบายความในใจไปแล้วก็สบายใจขึ้นเยอะค่ะ เขาว่าเขาก็เจอปัญหาแบบนี้แต่กับอีกคน คุยไปคุยมากลายเป็นฟังเรื่องอัดอั้นของเขาไปนิ 55เขาอยากให้เราคุยกับคู่กรณีตรงๆ แต่เราไม่อยากคุย ก็เลยประมาณว่าถ้าหากเข้ากันไม่ได้จริงๆก็คงต้องมีฝ่ายนึงไป เราเลยบอกว่าเราจะไปเอง 55 พูดแบบเล่นๆแต่คิดจริง ตอนนี้สบายใจขึ้นเยอะ ได้รับคอมเมนท์ดีดีและกำลังใจจากกระทู้นี้เยอะเลย ขอบคุณทุกคนมากค่ะ จากคุณ : ดอกเหมยทนหิมะ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 08:20:04

ความคิดเห็นที่ 31   อ่าน คห. บางท่านแล้วแปลกๆ คือการเอาความสำบาก หรือปัญหาตัวเรามาเป็นสาเหตุที่จะปฎิบัติแย่ๆ กับคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องอ่ะ แล้วไปตีความเป็นว่า น่าจะมาจาก จขกท. รับบรีฟมาไม่ถูกต้อง หรืออะไรก็แล้วแต่ จะบอกว่า ถ้ากรณีงานมีการผิดพลาด คนโดนด่านี่คนติดต่อนะคะ ไม่ใช่ดีไซเนอร์ และถึงบรีฟมา ถูกต้อง 100%  แต่งานแบบนี้ มันต้องมีแก้นู่นปรับนี่ เป็นธรรมดา ถ้าดีไซเนอร์มาบ่นเรื่องลูกค้าแก้งานนี่ เปรียบเสมือนแท๊กซี่บ่นรถติดเลย เราไม่ใช่เซลล์ หรือเออีโดยตรงนะคะ แต่ก็เห็นทั้งสองมุม เห็นมาเยอะ ดีไซเนอร์บางท่านนี่ อีโก้สูงจนน่ากลัว แตะไม่ได้เลย ส่วนเซลล์บางคนก็เห็นว่าตัวเองสำคัญมาก จนไปกดดีไซเนอร์ก็มี เราไม่มีอะไรมาแนะนำ จขกท.นะคะ เพราะคงได้รับคำแนะนำดีๆ จากคนอื่นแล้ว แค่เห็น คห. บางคนแล้วแปลกๆ      แต่ที่เห็นด้วยที่สุด ก็ คห 16 ค่ะ จากคุณ : bestinside เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 22:10:35

ความคิดเห็นที่ 32   ขอบคุณตวามเห็น 31 ค่ะ ใช่ค่ะลูกค้าบางรายทั้งที่ทำถูกแล้วแต่ก็มีนิสัยชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เซลล์ไม่ยอมทำให้เขาก็ไม่ยอมจ่ายตังสิ ข้อนี้ที่กราฟฟิคของเราเขาไม่เข้าใจค่ะ (ไม่ได้ว่ากราฟฟิคท่านอื่นนะคะ เฉพาะบุคคลค่ะ) จากคุณ : ดอกเหมยทนหิมะ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 12:41:29