ความคิดเห็นที่ 1   แต่งงานไป จะไปเที่ยวก็ต้องขอสามีภรรยาเหมือนกัน จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:38:09 A:124.120.7.70 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 2 พ่อแม่ก็ต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา  เพียงแต่ความห่วงของแต่ละครอบครัวไม่เท่ากัน บางครอบครัว ลูกกลับดึกก็ต้องถามด้วยเป็นห่วง บางครอบครัว ลูกไปหัวหกก้นขวิด แต่ไม่ถาม เหตุเพราะไว้ใจ อย่าเอาตัวเองเป็นมาตรฐานตัดสินคนอื่นสิ จากคุณ : Just wonder เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:42:52

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ง่ายๆนะคะ.. คนสมัยก่อนแต่งงานเร็ว ก็เลยต้องเป็นผู้ใหญเร็ว ความคิดความอ่านและความรับผิดชอบเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนสมัยนี้ ไม่รีบ กว่าจะพร้อมโตเป็นผู้ใหญ่ช้ากว่ามาก อีกทั้งพ่อแม่มีเวลาเอาใจใส่มากกว่าสมัยก่อนที่ต้องดิ้นรนลำบากมากกว่า หรืออาจจะมีลูกน้อยลง การดูแลทั่วถึงมากขึ้น ประมาณนี้อ่ะคะ จากคุณ : SweetGift เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:54:48

ความคิดเห็นที่ 4 มันจะเป็นแบบนี้เกือบจะทั้งเจเนอเรชั่นนะครับ ดูดีๆสิ .. จากคุณ : นายอึเหม็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:05:12

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็มีอาการเหมือนที่จขกท.ว่า แล้วก็หันไปถามแม่...แม่ตอบว่า "ก็สมัยนี้สังคมมันน่ากลัวกว่าเมื่อก่อน  ความรุนแรงและทำร้ายกันเกิดขึ้นโดยไม่คิดก่อน"  ฉะนั้นจะทำอะไรไปไหน  ขอไว้ก่อนก็ดี จากคุณ : Volksrecht เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:06:57

ความคิดเห็นที่ 6 น่ารักดีออก  อิอิ พ่อแม่ทุกท่าน ก็รักลูก ห่วงลูก การแสดงออกอาจจะไม่เหมือนกัน จากคุณ : รู้หน้าไม่รู้ใจ (pimsai) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 00:26:52

ความคิดเห็นที่ 7   ผมว่าปกตินะ ถึงจะโตแล้วลูกก็ยังเป็นลูกวันยังค่ำ ลูกก็ยังเป็นเด็กในสายตาพ่อแม่เสมอแม้อายุเท่าไร ก็ตาม  อีกอย่างมีพ่อแม่เป็นห่วงดีกว่าไม่มีนะ จากคุณ : Soudai เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 03:11:20

ความคิดเห็นที่ 8 เอ แต่ผมมีมุมมองแตกต่างนิดหน่อยนะครับ ถ้ายังไม่ได้แต่งงานและอยู่ด้วยกันเกับพ่อแม่ก็เจอหน้ากันอยุ่แล้วนิ กลับ 3-4 ทุ่มพ่อแม่ปกติเค้าคงเป้นห่วงอ่ะคับ เพราะความจริงแล้ว 3-4 ทุ่มมันก็ดึกแล้วนะีคับ คนปกติทั่วๆไปเค้ากลับบ้านกลับช่องกันหมดแล้ว ...แล้วแต่บ้านไหน serious ขนาดไหน ไม่เหมือนกัน อันนี้ถ้ามากก้ออึดอัดได้ เรื่องมารับถึงที่ทำงานนี่ น้องโบว์สุดสวยที่ทำงานผมยังมีรถที่บ้านมารับทุกวันเรยครับ ที่บ้านคงห่วงแมลง (แบบผม) เรยส่งรถเบนซ์แวนมารับถึงที่เรยครับ 555 ...แต่ผมว่านะ ผมว่าอายุมากแล้วหน้าอ่อน น่าจะดีกว่านะครับ ดีกว่าอายุน้อยแล้วเพื่อนทักว่า เฮัยหน้าแซงอายุไปนานโขแล้ว จะเสียเซลฟ์เอานะครับ จากคุณ : Jeja เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 07:34:45

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าไม่จริงเสมอหลอกครับ อยู่ที่ พ่อแม่ด้วยครับว่าเลี้ยงลูกแบบไหน สิ่งที่ จขกท.พูดมา พ่อแม่ผมทำมาทั้งหมดเลย แต่พอผมไปทำงาน พ่อแม่ผมก็เข้าใจ ซึ่งผมรู้ว่าในใจพ่อแม่ก็คงอยาก ทำแบบที่ จขกท.บอก แต่ พ่อแม่ผม จะสอนให้ผม....บินเอง เพราะ ถ้าผมบินเองได้ช้าเท่าไร ผมก็จะอยู่ไม่ได้ ปล.แต่บางบ้านเขาก็ให้ลูกทำงานไปงั้นๆๆ เพื่อจะได้ดูดีขึ้นมา ทั้งๆๆที่บ้านรวย ก็เลยมีกรณีแบบ จขกท.ให้เห็นครับ จากคุณ : MAXSIM_lot เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:11:40

ความคิดเห็นที่ 10 หนูอยากบินเดี่ยวใจจะขาด.... มีงานมีการทำแล้วด้วย แต่แม่ก็ชอบเป็นแบบที่ จขกท. ว่ามาอ่ะคะ ทั้งๆที่เคยถามพ่อ....สมัยแม่สาวๆก็เป็นแบบเราเหมือนกัน ทำไมไม่เข้าใจวัยรุ่นเล๊ย.... จากคุณ : leeja เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:50:11

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าไม่เกี่ยวกการโอ๋นะครับ พ่อแม่ย่อมห่วงลูกเป็นธรรมดา ลูกที่ดีก็ควรจะบอกให้รู้ว่าตัวเองไปไหน เผื่อเกิดเหตุร้ายจะได้ตามได้ถูก และในส่วนของการไปรับ ผมมองว่าถ้าเป็นผู้หญิงก็ไม่แปลกมั้งครับ เพราะพ่อแม่ย่อมเป็นห่วงครับ จากคุณ : SGKENG (SGKENG) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 09:19:43

ความคิดเห็นที่ 12 ก็มีคุณพ่อคุณแม่อยู่ครบ ก็ต้องโทรบอกสิครับ รู้สึกดีที่มีคนเป็นห่วงเป็นใยเราเสมอมา แต่ก่อน เราเองที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจท่าน ไปใส่ใจกับใครหรือสิ่งของอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งไม่ได้มีค่าอะไรกับชีวิตของเราเลย จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 09:53:22

ความคิดเห็นที่ 13 มันก็หลายมุมมองนะครับ ใครคิดยังไง ก็ไม่มีผิดไม่มีถูกที่สุด หรอกครับ คนนึงคิดว่า ทำไมเมื่อก่อนอายุ 20 แต่งงานแล้ว มีลูกกันแล้ว คนนึง อาจจะคิดว่า สมัยนี้ 15 ก็แรดสุดๆ ได้เสีย ทำตัวไร้สาระกัน ก็มีให้เห็นเต็มไปหมด คนนึงคิดว่า เมื่อก่อน 20 ทำไมหนีออกจากบ้าน ไปทำงาน แล้วก็สร้างตัวมาถึงวันนี้ คนคนนั้นอาจจะตอบว่า สมัยนี้มันไม่ใช่แค่มุ่งมั่นในการทำงานหรอก มันมี "เงิน" เป็นตัวแปรหลัก ไม่มี ก็เริ่มไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่มีจ่ายมุมมืด ดังนั้นถ้าคนนึงจะ under พ่อแม่เอามากๆ อาจจะถูกมองจากคนเก๋าๆว่า ป๊อด ไม่แมน ไม่เจ๋ง แต่คนนั้น ก็มีความสุขที่ทำแบบนั้น เขาอาจจะไม่ใช้คนที่คิดว่าผับย่านเอกมัยเป็นสถานที่ที่ทำให้เพลิดเพลินก็ได้ แต่การได้เล่นเน็ต อ่านพันทิพย์ chat ก่ะสาวคือสุขสบาย ชิลๆ ก็ได้นะครับ จากคุณ : dbqp เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 10:58:03

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยครับ ท่าทางหน่อมแน้มไงก็ไม่รู้ ไปโทษเด็กอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ ต้องโทษพ่อแม่ด้วยที่มัวแต่โอ๋ลูก รุ่นน้องบางคนที่ผมรู้จัก พ่อแม่ไม่กล้าให้ลูกไปทำงาน หรือไปหาสัมภาษณ์งานเลยก็มีเพราะกลัวไปต่างๆนาๆ ให้ลูกอยู่บ้านเฉยๆ แล้วพ่อแม่จะหาแฟนให้แต่งงานด้วยแค่นั้น  โอ้ นี่มันชีวิตคนรึว่าหมีแพนด้านี่ แล้วมันจะเรียนมาทำไมหว่า พ่อแม่บงการทุกอย่าง   เด็กบางคนที่ก้าวหน้าในเรื่องงานเร็วมากๆ ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ ซึ่งผมว่ามีส่วนทำให้กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และกล้าลุย มากกว่าเด็กที่มีพ่อแม่คอยประคบประหงม           ถ้าผมมีลูก ลูกไปทำงานกลับมา 4-5 ทุ่มผมถือว่าเป็นเรื่องปกติ จะไปกินเหล้า ไปเที่ยวกับแฟน หรือค้างบ้านเพื่อนบ้านแฟนก็ตามสบายแต่ต้องโทรบอกก่อนและต้องรู้จักป้องกันโรค เพราะคนไทย 50คน จะเป็นเอดส์ 1 คน เอาง่ายๆขนาดเพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิตงานที่ผมรู้จักก็เป็นโรคติดต่อไปแล้วซะ 2 คน แล้วไอ้คนที่ผมไม่ค่อยสนิทด้วย มันจะเป็นโรคอีกกี่คน           แต่ถ้าวันไหนไม่โทรมาก่อนว่าจะอยู่ดึกแล้วเที่ยงคืน ตีหนึ่งแล้วยังไม่กลับก็คงต้องโทรตามกันหน่อย และถ้าลูกได้งานทำที่ ตจว ผมจะไม่โทรตามเลย สัก 4-5 วันค่อยโทรไปคุยสักที ตอนผมอายุ 17-18 พ่อแม่ก็ปล่อยผมตามสบายแล้วครับ ตี2 ตี3 ยังบึ่งมอไซต์ไปหาเพื่อนได้เลย ไม่ได้มัวสุมแบบพวกเด็กแว๊นท์นะ แค่ไปนั่งคุย นั่งเล่นคอมที่บ้านเพื่อน เพราะช่วงนั้นปิดเทอม ใช้ชีวิตอิสระเต็มที่ กลางวันช่วยงานพ่อแม่ กลางคืนพ่อแม่ปล่อยตามสบาย จากคุณ : Rapter เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 11:23:30

ความคิดเห็นที่ 15   เด็กสมัยนี้ เรียนจบตรี พ่อแม่ซื้อรถป้ายแดงให้ ซื้อคอนโดให้ ประคบประหงมทุกอย่าง เมื่อสัมพาษณ์ได้งานแล้ว ยังต่อขออนุญาตพ่อแม่ไปทำงานบริษัทนั้นๆอีก แต่พ่อแม่ก็จะห้ามไม่ให้ไปทำงานบริษัทนั้นเพราะ.... บริษัทไหนไกลไป ไม่ต้องไปทำ บริษัทไหนเงินเดือนน้อย ไม่ต้องไปทำ บริษัทไหนใช้งานหนัก ไม่ต้องไปทำ บริษัทไหนเข้าเช้าเลิกดึก ไม่ต้องไปทำ บริษัทไหนต้องออก site โรงงาน เจอคนงานผู้ชายเยอะ ไม่ต้องไปทำ ฯลฯ เพราะเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ล่ะครับ คนตกงานถึงบ่นอยู่ทุกวันว่าตกงาน เพราะ requirement ส่วนตัวเยอะจริงๆ จากคุณ : scos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 11:33:59 A:124.120.227.234 X: TicketID:129428

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เคยเป็น จำได้ว่าตอนเด็กเดินไปโรงเรียนเอง โตหน่อยพ่อพาไปส่งโรงเรียนครั้งแรกสอนให้ขึ้นรถเท่านั้น และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ไปไหนกับพ่อแม่ จนทุกวันนี้ แต่มีปัญหาหนักๆก็ปรึกษาได้ทุกเมื่อ แต่ส่วนใหญ่เราจะต้อง แก้เองก่อนเลือดเข้าตาค่อยว่ากัน... จากคุณ : EDM เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 11:37:02

ความคิดเห็นที่ 17 ชีวิตเราเหมือนที่ คห 15 บอกเป๊ะๆๆๆๆ แต่ต่างตรงไม่ได้ซื้อรถให้ ขนาดขอไปเรียนขับรถยังไม่ให้ไปเลย อะไรจะขนาดนั้น นี่ก็ยังไม่มีงานทำ เหอะๆๆ TT__TT จากคุณ : JellivieR เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 12:02:22

ความคิดเห็นที่ 18 เดี๋ยวเราเป็นพ่อแม่ก็ห่วงเองแหล่ะจ้ะ เราเป็นผู้หญิง แม่ยิ่งห่วงมากกว่าเดิมเลยอ่ะค่ะ พื้นฐานแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกันค่ะ บรรทัดฐานมันต่างกันอ่ะจ้ะ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 12:03:05

ความคิดเห็นที่ 19 บ้านเราไม่โอ๋แฮะ  ไม่ค่อยสนใจเลยด้วย -_-'  ทำอะไรด้วยตัวเองเกือบทุกอย่าง  ไม่มีคนมารับส่งด้วยเจ้า  จะกลับกี่ทุ่มกี่ยามไม่เคยสน  เที่ยงคืนตี1กลับเองไม่เคยให้ต้องไปรับค่ะ แต่มีอะไรต้องโทรตามตลอดค่ะ  ไปไหนมาไหนจะบอกก่อนตลอด  จะบอกว่ากลับภายในกี่โมง ๆ ๆ ถ้าช้ากว่านั้นก็จะโทรบอกเจ้า  เพราะเราเคยเกิดอุบัติเหตุกว่าทางบ้านจะรู้ก็โน้น  ปะงาบ ๆ ๆ นอนให้น้ำเกลืออยู่ ICU ละ  ตั้งแต่นั้นเลยต้องบอกตลอดค่ะว่าอยู่ไหน  ให้ทางบ้านรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่เด้อ 5555 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 12:44:42

ความคิดเห็นที่ 20 เพื่อนผมจะสามสิบแล้วทำงานนิดหน่อยไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็เลยถาม "เมิงใช้เงินพอได้ไงวะ" เพื่อนมันก็ตอบ "ถ้าไม่พอก็ขอแม่สิ" ผม "......." จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 12:54:22

ความคิดเห็นที่ 21   เราเป็นเหมือนกัน สรุปง่ายๆ ก็พ่อแม่ เขาเป็นห่วงอ่ะจ้ะ สังคมสมัยนี้ กับเมื่อก่อน มันต่างกันเยอะ ภัยอันตรายก็เยอะอีกเช่นกัน ดังนั้น ถ้าออกไปไหน อยุ่ไหน ไงก็โทรบอกท่านก่อน ท่านจะได้สบายใจ จากคุณ : PeachgirL เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 13:09:16 A:125.27.240.169 X: TicketID:160377

ความคิดเห็นที่ 22 แต่เรารู้สึกว่า ความเป็นห่วงมากไปมันทำให้ช่วงวัยรุ่นของคนรุ่นใหม่มันยาวขึ้นมาก  ทั้งที่เราควรเข้าสู่วัยทำงานจริงๆจังตั้งแต่จบ ป.ตรี แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นพ่อแม่ส่งจนจบ ป.โท ค่อยเริ่มงาน  อายุ 27-28 ปี ยังแบ๊วๆกันอยู่เลย   แต่ถ้าบ้านไหนที่พอ่แม่รับภาระขนาดนั้นไม่ไหวก็คงถีบไปทำงานตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรีแล้วล่ะ ถ้าอยากต่อโทก็ส่งตัวเอง (-*-) จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 14:27:48

ความคิดเห็นที่ 23 ปู่ผมอายุเกือบ 80 ยังจูงมือพ่อผม(อายุ50) ข้ามถนนเลยคับ ^^" จากคุณ : ... (Mr.Alex) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 15:18:14

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นพ่อแม่ไปนั่งรอลูกเวลาเรียนพิเศษแล้วเหนื่อยใจ แต่ก่อนเราไปเรียนต้องนั่งรถเมล์ไป แต่ก็เข้าใจนะว่าสังคมเดี่ยวนี้น่ากลัวจริงๆ อีกอย่าง ทำไมเค้าดูกลัวลูกกันนัก เห็นโฆษณาชวนให้ส่งภาพครอบครัวกับบอย โกสิยพงษ์หรือเปล่า เด็กขึ้นเสียงกับพ่อว่าเมื่อไหร่จะส่ง! สะท้อนสังคมปัจจุบันสุดๆ จากคุณ : Itsumo~Always เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 19:44:30

ความคิดเห็นที่ 25 ...ผมอ่านเรื่องที่พ่อแม่เป็นห่วงผมว่าปกตินะครับ 1. ทำงานดึกแล้วโทรมาถาม ...case นี้พ่อแม่เป็นห่วงครับ เกือบ 100% พ่อแม่ในสายก็จะพูดว่า เดินไปที่รถดีๆนะลูก ...ขับรถดีๆนะ แล้วก็วาง ผมว่าน่ารักดีออก 2. ไปทำงานต่างจังหวัด ต้องบอกพ่อแม่ ขอพ่อแม่ ...case นี้อยากให้มองว่าเราเกิดจากความรักของ พ่อแม่ แกเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กนะครับ ...ไม่ใช่รู้จักกันเมื่อวาน ...ความผูกพันมี ...ความห่วงใยมี ...อย่าวัดแค่ว่าพอคุณทำงานได้ เจ๋งแล้ว พ่อแม่ต้องปล่อย ไม่ต้องห่วงครับ บางอย่างดีๆ ผมว่าน่าเก็บไว้นะ จากคุณ : B_A_N_K เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 19:55:21

ความคิดเห็นที่ 26   แฟนเราเป็นฝรั่งนะแต่ว่าหน้าเด็กน่ะ..ถ้าเทียบกับฝรั่งรุ่นเดียวกันนะ..ถือว่าแฟนเรานี่กระชากวัยอย่างแรง..เราก็บอกไปทำตัวให้ดูมีราศีแบบผู้ใหญ่หน่อยเค้าก็ไม่ยอม..เค้าบอกว่าไอ้ฝรั่งรุ่นเดียวกับชั้นมันบ้า..อายุ 20-23 ปีหน้ายังกะ 35 ปี..ไม่เห็นจะเท่ตรงไหน.. ..ใครถามว่าแฟนเรียนอยู่เหรอ?..เราก็ปิ๊ดแตกเลย..เค้าทำงานบริษัทน้ำมันเลยนะ..แต่ช่วงนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาละ..แต่ก็ยังดูเด็กอยู่ดี..สำหรับฝรั่ง ..จริงๆแหละไว้เราเป็นพ่อแม่คนจริงๆถึงรู้..แต่เราจะให้ความเป็นส่วนตัวกับเค้ามากที่สุด..ไม่กดดันและไม่บังคับ..และไม่ใช้ความรุนแรง...แต่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้เค้าเสมอ..ทำตัวเป็นกันเองเหมือนเพื่อนค่ะ.. ..เลี้ยงคนนี่..ต้องเลี้ยงแบบไม่ตีกรอบค่ะ..พ่อแม่เราตีกรอบเรามากๆ..จนโอกาสที่ดีๆเราก็ไม่ได้รับค่ะ..เรารู้ว่าเราเดินมาผิดทาง..แต่โชคดีที่เราสู้แบบปากกัดตีนถีบเลยล่ะ..ไม่ไม่มีคำว่าเกี่ยงเงินน้อยเลยล่ะ..พ่อแม่เราเค้าไม่เคยที่จะยอมรับในสิ่งที่ปิดกั้นเรา..เค้ารู้แต่ว่าต้องทำตามที่เค้าวาดเอาไว้อย่างเดียว..โชคดีที่เราเจอแฟนเราคอยเกื้อหนุนเราหลายเรื่อง..เค้าเรียกว่าพรหมลิขิตนะ ..เคยดูแต่ในละคร..ที่แท้เราก็เจอกับตัว จากคุณ : pop เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 20:44:22 A:41.5.218.105 X: TicketID:225313

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนที่ทำงาน อายุเกือบ30ละ ยังไม่เคยขึ้นแทคซี่คนเดียวเพราะพ่อแม่มาหรือคนขับรถคอยรับส่งตลอด ครั้งหนึ่งคุณเธอต้องเดินทางคนเดียวแบบกระทันหัน คุณเธอร้องไห้เพราะว่าจะต้องนั่งแทคซี่คนเดียว นี่ตอนกลางวันแสกๆนะ เห็นแล้วกลุ้มจริงๆ จากคุณ : หมูทอดร้อนๆ (หมูทอดร้อนๆ) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 22:10:22

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ เราก็ขึ้น taxi คนเดียวนับครั้งได้เลยนะคะ สาเหตุเพราะกลัวอันตรายค่ะ ตอนกลางวันไม่ใช่ว่าไม่อันตรายนะคะสำหรับผู้หญิง ข่าวก็มีออกบ่อยไป แต่ถ้าเป็นขนส่งสาธารณะเราสบายมากค่ะ ต่อรถเมล์ มอไซต์ อะไรได้หมด ขอเว้นไว้แต่ taxi นี่ล่ะค่ะ เพื่อนคุณกลัวเฉพาะ taxi หรือว่าเดินทางเองไม่ได้เลยคะ ถ้ารถเมล์อะไรไม่ได้เลย ต้องมีคนรับส่งตลอด อันนี้น่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหน่อยนะคะ จากคุณ : hiroko เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 22:28:55

ความคิดเห็นที่ 29 โดยส่วนตัวชื่นชมคนที่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เพราะคนเหล่านี้ความรับผิดชอบจะสูงมาก...ก็จะสะท้อนหลายอย่างทั้งในเรื่องการทำงาน การบริหารชีวิต ถ้าในแง่ดีคนที่มีวุฒิภาวะจะสามารถจัดการสิ่งต่างๆไดด้ครอบคลุมในระดับขั้นตัดสินใจได้เอง เพราะจริงๆเมื่อโตแล้วเราก็ต้องเดินได้เอง ไม่ใช่ที่บ้านต้องมาคอยตามประกบตลอด..พ่อแม่บางคนก็รักและเป็นห่วงลูกจริง แต่ควรจะให้ลูกได้ทำอะไรเองบ้าง หรือไม่ก็ชี้แนะก็น่าจะพอแล้ว..นะคะ เพราะจะทำให้ลูกคุณเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวอย่างแท้จริง...ด้วยค่ะ จากคุณ : onsky เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 22:47:28

ความคิดเห็นที่ 30 วัฒนธรรม ถ้าเป็นฝรั่ง  อายุ20แล้วยังอยู่บ้านพ่อแม่ จะโดนล้อ โดนดูถูก ไม่มีใครคบเป็นแฟน แน่ๆ บางที พ่อแม่เองนั่นแหล่ะ ไล่ลูกออกจากบ้านเองเลย มีฝรั่งที่ผมรู้จักนะ  เป็นผู้ชาย แต่เขายังอยู่บ้านพ่อแ่ม่ ด้วยเหตุผลที่ว่า พ่อแม่ป่วย ต้องมีคนอยู่ใกล้ๆคอยดูแล (ถึงจะมีพยาบาลก็เหอะ)  เขาทำยังไงรู้ม่ะ  เขาเอาห้องใต้ดิน มาเป็นห้องตัวเอง แล้วสร้างประตูทางเข้าออกแยกต่างหาก (แยกจากเดิม) ทางเข้าออกหน้าบ้านก้แยก    เหมือนใช้ชีวิตอยู่คนละบ้าน แต่หลังคาเดียวกัน เหอๆๆ  (สำหรับคนไทย มันแปลกๆ เน๊อะ ) มันเริ่มตั้งแต่ ความเป็นเด็กนะครับ เด็กสองขวบ -คนไทย   ยังต้องตามป้อนข้าว ไม่ให้เด็กกินเองเดี๋ยวเลอะเทอะ -ฝรั่ง   ไม่ป้อน กินเอาเอง เลอะเทอะไม่เป็นไร ให้ลูกช่วยตัวเอง+เรียนรู้ แต่แปลกนะ -คนไทย  ให้เด็กนั่งซ้อนท้ายมอไซค์ (บางคันมีเด้ก4-5คนด้วยซ้ำ) ไม่ใส่หมวกกันน็อคอีกต่างหาก (ตำรวจไม่จับด้วย) -ฝรั่ง  ขนาดให้เด็กนั่งในรถยนต์ ยังต้องบังคับให้นั่งเบาะหลัง ยังไม่พอ ยังต้องเป็นเบาะเฉพาะของเด็กด้วย (กฏหมายบังคับ)   ประคบประหงม แตกต่างกันในหลายเรื่อง เพราะ วัฒนธรรม จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:44:07

ความคิดเห็นที่ 31 เราว่าติดรถพ่อไปทำงานประหยัดดีอะค่ะ เพราะยังไงพ่อก็ต้องขับรถไปทำงานแล้ว แวะผ่านส่งเรา เราก็เก็บเงินได้อีก หุหุหุ จากคุณ : FangAngel เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:41:20

ความคิดเห็นที่ 32 อาจารย์ที่มหาวิทยาลับผมจบ ดร อายุ30ต้นๆ เป็นผู้ชาย แต่พ่อยังมารับมาส่งอยู่เลย แถมยังจัดการหาคู่ให้ด้วย ดูแกก็ติ๋มๆ พ่อแม่คงดูแลเกินกว่าเหตุ จากคุณ : April Slowly เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 16:49:02

ความคิดเห็นที่ 33   จขกท คุณเก่งครับ ส่วนพวกที่ต้องคอยรายงาน พ่อแม่ทุกการกระทําเป็นคน ให้ความสําคัญกับพ่อแม่เป็นอันดับแรกรู้สึกไม่สบายใจที่พ่อแม่เป็นห่วง พวกเนี้ยไม่เก่ง จากคุณ : TRA เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:38:58 A:203.107.204.201 X:

ความคิดเห็นที่ 34 #33  ผมว่า จขกท ต้องการจะสื่อถึง พ่อแม่สมัยนี้ที่รักลูกเกินเหตุ จนบางคนอาจจะกลายเป็นทำนอง "พ่อแม่รังแกฉัน" ผมรู้จักนายแพทย์ท่านนึง ท่านเลี้ยงดูลูกทุกระเบียบนิ้ว สุดท้ายลูกโดดตึกตายเพราะกิจการที่ตัวเองเป็นเจ้าของเจ๊งทำให้รับไม่ค่อยได้กับการผิดหวังหรือผิดพลาด เนื่องจากตั้งแต่โตมาสมหวังมาตลอด อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หาให้หมดทุกอย่างตั้งแต่เล็กจนโต จึงไม่ค่อยมีประสบการณชีวิตและประสบการณ์การผิดหวังในเรื่องใหญ่ๆ จากคุณ : Rapter เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 02:23:44

ความคิดเห็นที่ 35 ทำไมผมไม่เคยเห็นคนแบบนั้นเลยครับ แปลกจัง ผมว่าน่าจะเป็นคนส่วนน้อยในสังคมนะครับ อย่าไปใส่ใจนักเลยครับ จากคุณ : Legendary Pon เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 04:24:58

ความคิดเห็นที่ 36 มีพ่อแม่คอยเป็นห่วงตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เราสามารถรับรู้ได้ วันหนึ่งที่ท่านจากเราไปแล้ว ตัวเราเอง จะรู้สึกอยากให้มีคนมาห่วงเรามั่ง จากคุณ : hiro_is_here เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 10:09:38

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่เป็นไรค่ะ ไว้น้องมีลูกเอง ได้เป็นพ่อคน แล้วน้องจะเข้าใจ และที่สำคัญ   สมัยนี้   สังคมน่ากลัวกว่า สมัย 10 ปีที่แล้ว เป็นร้อยเท่าพันเท่าค่ะ จากคุณ : อืดกลมขนมล้วนๆ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 13:24:21

ความคิดเห็นที่ 38 เพื่อนร่วมรุ่นหลายๆคน จบมาทำงานแล้วก็ยังมีพ่อแม่ให้เงินอยู่นะ คือเงินเดือนตัวเองเก็บไว้ไปเที่ยวอย่างเดียว เวลาไปกินข้าว ไปช้อปปิ้งก็ยังขอตังค์พ่อแม่อยู่ -_-'' ชีวิตสบายจริงๆหนอ จากคุณ : pervpanda เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 03:55:47

ความคิดเห็นที่ 39 เราก็เป็นคนนึงอ่ะค่ะ เงินเดือนที่ได้พอใช้แค่ตัวเอง นี่ยังคิดว่าจะกลับไปเกาะพ่อแม่กิน ที่บ้าน ตจว อยู่นะเนี๊ยะ! รู้ว่าควรจะโตค่ะ แต่บางสถานการณ์ มันไม่ได้จริงๆอ่ะ ต้องกลับไปหาพ่อหาแม่ ที่ๆซึ่งปลอดภัยและอุ่นใจที่สุด คือ บ้าน จากคุณ : Shindo_Zen เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 22:48:48

ความคิดเห็นที่ 40 ดิฉันอายุ 45 ถ้าเย็นนี้ต้องทำงานดึกหรือไปดริ๊งค์ต่อกะลูกน้อง ประมาณว่าเกิน 2 ทุ่มขึ้นไป  ดิฉันต้องโทรบอกคุณสามี และคุณลูกซึ่งเป็นนิสิตแพทย์ ตามด้วยพ่อคุณแม่ซึ่งอายุ 78 และ 72 ก่อน แต่ถึงโทรบอกแล้ว He 78 และ She 72 ก็ยังโทรมาหาทุกชั่วโมง  He และ She จะโทรไปเรื่อยๆ ทุกชั่วโมงจนถึงตี 2 แล้วก็ออกคำสั่งว่าบาร์ปิดแล้วลูก กลับบ้านเหอะ ลูกน้องกะเจ้านายฮากันตรึม แถมพอกลับถึงบ้านตอนตี 3 He และ she ก็รอเปิดประตูบ้าน คอยดูว่าดิฉันเมามากหรือเปล่า ถ้าเมามากมีผ้าเย็นรอด้วยนะ ส่วนนังลูกสาวกะคุณสามีของดิฉัน หลับฟี้ฟี้ เป็นพ่อเป็นแม่เนี่ย มันเป็นตำแหน่งหน้าที่ที่เป็นแล้วเป็นเลยชั่วชีวิตจนกว่าจะตายจากกัน ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ก็เป็นลูกของพ่อของแม่เสมอ รัก He กะ She ที่สุดในโลกเลย........ จากคุณ : เก่งรวยสวยดีสุข เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 21:12:27

ความคิดเห็นที่ 41   เป็นลูกสาว อายุจะสามสิบแล้ว บอกแล้วด้วยนะว่าไปไหน ทำไรอะไร สองทุ่มโทรตาม สามทุ่มโทรตาม จากคุณ : กลุ้ม (KaTeCuP) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 20:57:54