|
ขอค้านการโอนคู่สมรส และบุตร-ธิดาผู้ประกันตนมาอยู่กับประกันสังคม!!!!
|
|
เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ไม่กระทบกระเทือนกับตัวเองโดยตรงอย่างฉับพลันทันทีจึงไม่มีใครแสดงความคิดเห็นและคนทั่วไปไม่ค่อยทราบข้อมูลรายละเอียดมากนัก
เว้นแต่คนที่ทำงานด้าน HR, แพทย์-พยาบาลหรือบุคล่ากรแวดวงสาธารณสุข อย่างเช่น พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา แสดงความเห็นลง นสพ.มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1251785710&grpid=no&catid=02
ผมเคยเขียนแสดงความเห็นไว้ในห้องนี้เมื่อ 2-3 เดือนก่อนกลับถูกไล่ให้ไปเขียนในห้องราชดำเนิน เพราะอะไรที่ประชาชนค้านนโยบายของรัฐบาล คนไทยเราถือเป็นเรื่องการเมืองไปหมด
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B8190515/B8190515.html
รัฐบาลมีนโยบายให้โอนการรักษาพยาบาลของคู่สมรสและบุตร-ธิดาของผู้ประกันตนให้ไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคม( สปส.)แทนสิทธิบัตรทองที่มีอยู่แต่เดิม ทุกคนในแวดวงสาธารณสุขรู้ดีว่าเป็นการถอยหลังลงคลองครั้งใหญ่เป็นการปรับปรุงโดยเอาของไม่ดีมาให้แทนของดี แต่ไม่มีสื่อสารมวลชน นักต่อสู้เพื่อสุขภาพของมวลชนกลุ่มใดโวยวายให้สังคมได้รู้และไตร่ตรอง
ทำไมผมบอกว่าเป็นการถอยหลังลงคลองหรือปรับปรุงดดยเอาของไม่ดีมาแทนของที่ดี ท่านติดตามข้อมูลผมมาแล้วจะเข้าใจลึกซึ้ง
ทุกวันนี้สวัสดิการด้านสาธารณสุขของของคนไทยมีอยู่ 4 แบบ คือ-
1.รักษาพยาบาลฟรี 100%ที่รัฐออกให้แก่ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ
2.รักษาพยาบาลฟรี 100% ตามโครงการบัตรทองหรือสุขภาพถ้วนหน้า(หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคเดิม)
3.รักษาพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม(สปส.) ที่นายจ้าง-ลูกจ้างร่วมกันจ่าย(โดยรัฐร่วมออกให้ในสัดส่วนต่ำที่สุด) ผู้ใช้สิทธินี้จะต้องเจ็บป่วย"นอกหน้าที่การงาน"เท่านั้น
4.รักษาพยาบาลตามสิทธิกองทุนทดแทน ที่นายจ้างเป็นผู้จ่ายให้ลูกจ้าง ผู้ใช้สิทธินี้จะต้องบาดเจ็บ-เจ็บป่วยจากการทำงานเท่านั้น
การรักษาพยาบาลทั้งหมดนี้กล่าวได้ว่าการรักษาตามโครงการบัตรทอง"ดีที่สุด" เพราะ-
-ประชาชนไม่ต้องออกเงินเลยทุกระดับ
-ให้สิทธิในการรักษาแบบป้องกันล่วงหน้า เช่น การตรวจเช็คสุขภาพก่อนเป็นโรค การฉีดวัคซีนป้องกันโรค การเข้าร่วมอบรมความรู้ป้องกันโรค ฯลฯ ซึ่งสวัสดิการอื่นไม่ให้สิทธินี้
-รักษาโรคบางโรคที่มีค่าใช้จ่ายเป็นหลักแสน หลักล้าน ที่สวัสดิการอื่นไม่ให้สิทธิรักษา
แต่พอมาถึงวันนี้รัฐบาลให้นโยบายดึงคู่สมรส,บุตร-ธิดาของผู้เอาประกันตนจากการรักษาพยาบาล"ที่ดีที่สุด"คือบัตรทอง มาให้ใช้สิทธิรักษาของประกันสังคมที่ลูกจ้าง-นายจ้างร่วมกันจ่ายเงิน(และมีหลายโรคที่ สปส. ไม่รักษาให้ รวมทั้งไม่มีการรักษาเชิงป้องกันให้ รวมทั้งหากใช้เงินรักษามากรัฐก้ต้องหันไปหักเงินเดือนลูกจ้างมากขึ้นต่อไปด้วย)
ใครเห็นด้วยกับนโยบายนี้ก็สมองวิปริตแล้วล่ะ
ไม่อยากจะคิดว่าอาจจะต้องโอนไปเพราะรัฐหมดเงินจะรักษาแล้ว จึงให้ไปใช้เงินตัวเองรักษากันเอง?
ไม่อยากจะพูดให้กระเทือนซางการเมืองว่าอดีตนายกฯ พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ให้เริ่มสวัสดิการบัตรทองหรือ 30 บาททุกโรคจนคนจนได้เข้าถึงโรงหมอโดยไม่ต้องกังกลเรื่องเงิน
แต่แทนที่รัฐบาลนี้จะเกทับบลั้ฟแหลกให้โครงการที่ดีกว่า กลับไปดึงไอ้ที่คู่สมรส บุตร-ธิดา ของผู้ประกันตนได้สิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้วให้ถอยหลังลงคลองไปด้วย
นี่ไม่พูดถึงความไม่เป็นธรรมที่ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ประชาชนทั่วไปรัฐออกเงินรักษาพยาบาลให้ทั้งหมด
แต่บรรดาลูกจ้าง(พนักงานบริษัท-ผู้มีอาชีพอิสระ-ผู้สมัครใจประกันตนตาม ม. 39)กลับต้องออกเงินเอง
ไม่ต้องโทษใคร ให้โทษตัวเองและบรรดาผู้นำแรงงานทั้งหลายที่เกิดมาโง่และไม่กล้ากระทุ้งเตือนรัฐบาล!!!
จากคุณ |
:
พาชื่น
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.ย. 52 17:28:11
|
|
|
| |