ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งที่ควรรู้สำหรับสวนลุมไนท์ 1. เราว่าข้อนี้สำคัญที่สุด อยากให้พิจารณาไว้เป็นอันดับแรกเลย ความไม่แน่นอนคะ อย่างที่รู้กันดีทางกลุ่มเซ็นทรัลเค้าประมูลที่ดินผืนนี้ไปแล้ว เราก็ไม่รู้คะว่าเราจะขายของที่นี่ได้นานเท่าไร เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องลงทุนเยอะ เสี่ยงไหม จะคุ้มมั้ย ฝากให้คิดก่อนนะคะ จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 10:16:02

ความคิดเห็นที่ 2 2. ระบบเซ็นต์ชื่อเปิดและปิดร้านคะ ตามกฎระเบียบของโครงการต้องเปิดก่อนห้าโมงเย็น และปิดได้หลังห้าทุ่มคะ ทุกร้านสามารถหยุดได้เดือนละไม่เกิน 4 วันคะ ถ้าหยุดเกินหรือลายเซ็นต์ไม่ครบล่ะก้อ เค้าคิดค่าปรับเป็นรายวันคะ วันละ 500บาท ย้ำ วันละ500 บาท ทุกๆวันจะมีคุณรปภหรือแม่บ้าน เดินเอาใบมาให้เซ็นต์คะ ฟังดูก็เหมือนง่าย แต่จริงๆไม่ง่ายแบบนั้นเพราะเราไม่สามารถมาเปิดร้านได้ห้าโมงตรงทุกวันนี่คะ สายไปนิดนึง เค้าก็ตัดแล้วคะว่าวันนี้เราไม่ได้เปิดร้าน ไม่สนย่ะ จะมาเปิดสายก็ตัดเลย ฮี่ๆ อยากสายเองนิ แต่ไม่ต้องกังวลคะ ที่นี่เค้ามีการจ้างเปิดร้านคะ เดือนละ 200บาท/ห้อง เราให้กุญแจเค้าไป ประมาณ 5 โมงเย็น เค้าก็จะมาเปิดประตูร้านไว้ครึ่งนึงคะ เอาไว้หลอกคุณรปภ 5555 ตลกไหมอ่ะ เรื่องเซ็นต์ชื่อก็อยู่ในแพคเกจ200แล้วคะ เค้าจะเซ็นต์ชื่อแทนเราด้วย แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 10:42:00 จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 10:22:21

ความคิดเห็นที่ 3 3. เรื่องจอดรถ พอหาที่จอดได้ทั่วไป ไม่ต้องเสียค่าจอดรถ แต่ขอให้ระวังวันอังคารกะวันศุกร์ไว้คะเพราะมีมวยที่สนามมวยลุมพินี คนจะเยอะมากคะ โดยเฉพาะถ้าเป็นนัดชกพิเศษ จะหาที่จอดยากเหมือนกัน และถ้าหลงไปจอดที่ของสนามมวยเค้าจะเก็บค่าจอดคันละ 40 บาท ขอพ่วงเรื่องคุณแท๊กซี่ไปอีกเรื่อง แท๊กซี่ในสวนลุมเค้าไม่เปิดมิเตอร์คะ + ไม่อยากรับคนไทยด้วยคะ แต่ไม่เป็นไรเดินออกไปข้างนอกก็ได้คะ มีเยอะมากๆ ทั้งดีและแย่คะ เลือกได้ จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 11:00:47

ความคิดเห็นที่ 4 4. จะขายอะไรดี ขอเล่าเป็นข้อมูลแล้วกัน ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจของเพื่อนๆคะ อย่างโซนลพบุรีหลักๆก็เป็นของแต่งบ้าน โคมไฟ ดอกไม้ประดิษฐ์ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือต่างประเทศ แต่ made in Thailand ออร์เดอร์ทีหลักแสนเลยนะ เสื้อผ้าหลากหลาย วินเทจเอย เยอะมาก รองเท้า กระเป๋าก็อป กระเป๋ามือสองแท้ เครื่องประดับ ส่วนโซนอยุธยา สุโขทัย จะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอ่ะ เค้าจะขายพวกของที่ระลึกต่างๆ ไม้แกะสลัก เสื้อยืด ผ้าไหม เน็คไท เข็มกลัด จิปาถะ อารมย์เหมือนเดินแถวๆสุขุมวิท ย่านพัฒพงษ์ อ้อ ตลาดหัวหิน เชียงใหม่ ก็ใกล้เคียงคะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 14:05:51 จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 11:28:26

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ เพิ่งรู้ว่าเขี้ยวมาก มีการจ้างมาเปิดประตูด้วย ยังไงก็ขอให้ขายดีนะคะ จากคุณ : dizza เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 12:35:05

ความคิดเห็นที่ 6 5. พ่อค้าแม่ค้าที่นี่แตกต่างกันมากคะ ทุกๆอย่างมารวมกัน ทั้งดีและไม่ดี บางร้านเจ้าของก็ขายเอง บางร้านก็จ้างลูกจ้างก็จะมีทั้งไทยและพม่าคะ ขอเน้นว่าที่นี่ควรพูดอังกฤษได้บ้างจะได้เปรียบคะ ถ้าเพื่อนๆยังมือใหม่ ก็เรียนรู้กันไปคะ อย่าท้อถอย อย่างเราเองก็มีงานประจำทำ ไม่เคยค้าขายมาก่อน แต่ต้องมาเปิดเพราะแฟนตกงานคะ ต่างคนต่างใหม่ก็เจอบทเรียนกันไป ฮี่ๆ ประสบการณ์จะสอนเราเองคะ   6. การตั้งราคาขาย วัฒนธรรมของที่นี่เค้าจะบอกราคาไว้เผื่อต่อกันคะ ในทางกลับกันก็อย่าโกรธหากเจอลูกค้าต่อราคาเราลง 2-3 เท่า อย่างร้านเราของชิ้นนึงราคา 250 ลูกค้าต่อทันที 100 แรกๆก็โกรธคะ อะไรกันเนี่ย แต่เราก็อธิบายให้ลูกค้าฟังคะ ร้านเราไม่ได้บอกราคาไว้ให้คุณต่อเยอะๆแบบนี้ คุณเดินไปเช็คราคาร้านอื่นก่อนได้ สบายใจแล้วกลับมาซื้อ เราเปิดร้านใหม่ๆแทบจะขายไม่ได้เลย อย่างลูกค้าญี่ปุ่น เกาหลี จีน เข้ามาดู ถูกใจ แต่ติดที่เรื่องราคา เนื่องจากไกด์บอกเค้าต้องต่อราคาลงอย่างน้อย ครึ่งนึงเลย แรกๆเราคิดจะทำตามน้ำเหมือนร้านอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่หยุดเราไว้ก็คือคำว่าความซื่อสัตย์คะ เรากะแฟนเชื่ออย่างนั้น ซึ่งสิ่งนั้นก็ทำให้เราอยู่รอดมาได้คะ ลูกค้ากลับมาซื้อที่ร้านเรา มาหลายครั้ง ตัวเองซื้อยังไม่พอ พาเพื่อนมาอีกคะ จนเรามีลูกค้าประจำ สิ่งนี้ทำให้เรากะแฟนภูมิใจมากคะ จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 14:42:51

ความคิดเห็นที่ 7 เพื่อนๆคงสงสัย การที่บางร้านเค้าบอกราคาเว่อร์ๆแบบนั้นยังมีคนซื้อเหรอ คำตอบคือ มีคะ ก็เพราะลูกค้าบางคนอาจจะเพิ่งมาเมืองไทยครั้งแรก เผื่อฟลุ๊กไงคะ ถ้าลูกค้าเดินออกเค้าจะรีบตามทันที อิ อิ เมื่อก่อนร้านข้างๆเราขายนาฬิกา กระเป๋าก๊อป วันนึงเค้าขายได้เป็นหลักหมื่น อันนี้เค้ามาคุยให้เราฟังนะ ต้นทุนไม่เท่าไรหรอก แต่เค้าเรียกราคาได้สูง น่าจะรวยเร็วใช่ไหมคะ แต่ตอนนี้หายไปแล้วคะ ติดหนี้นอกระบบกับพนันบอล แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 15:04:01 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 15:00:39 จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 14:59:47

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ จขกท.ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : แม่ค้าหน้าแป้น เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 21:57:51

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ เราเคยก็เกือบไปเช่าแผงแถวโซนลพบุรี แต่พอดีได้ทำเลที่จตุจักรสวยกว่า แต่ก็คิดอยู่ จะหาเงินไปเซ้งแผงที่สวนลุมไนท์ กะปล่อยเช่า พอได้ข้อมูลจากจขกท. มีน้ำหนักในการตัดสินใจมากขึ้น ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่สอนให้คนอื่นเดินระวังมากขึ้นคะ ขอให้ขายของเฮงเฮงนะคะ จากคุณ : monoone เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:34:40

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ได้จะไปเปิดร้าน แต่ชื่นชมความมีน้ำใจของ จขกท. มากก จากคุณ : เดสโทราตี้ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:08:00

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆครับ  มีประโยชน์มากๆเลย จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:15:39

ความคิดเห็นที่ 12 ขอให้ขายดีๆ นะครับ  ช่วงนี้ก็อยากขายของเหมือนกัน แต่อยากขายที่จตุจักร  ไม่รู้ว่าจะสู้คนที่ขายมาก่อนได้รึป่าว จากคุณ : mahtuanunG เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 01:54:37

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเช้าร้านที่ platinum ไว้ เดือนละ 160,000 บาท ช่วงนี้ขาดทุนรายวันเลยครับ เสื้อในคลังเป็นหมื่นๆตัวเลย หาเรื่องมากๆเลยละครับ อยู่ดีๆไม่ชอบ โชคดีที่ธุีรกินที่บ้านมัน support ด้านผ้าพอดี โชคดีไป เครดิตได้ 1 ปี จากคุณ : RMIT เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 15:10:40

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย  หวังว่าเซ็นทรัลจะยังไม่มีโครงการไล่ที่เร็ว ๆ นี้นะ เอ่อ.. ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเนาะ คุณ จขกท. จ๋า เราขออนุญาตแนะนำเรื่องการสะกดหางเสียงนิดนึงนะคะ   "คะ" อ่านว่า "ค๊ะ" เหมือน "โยคะ" ดังนั้น ที่คุณสะกดอยู่นั้นจะต้องเติมไม้เอกด้วย --->  สวัสดี"ค่ะ"  มีคลิปแนะนำหลักการจำง่าย ๆ นะคะ โหลดไม่นาน ลองดูนะคะ หวังว่าจะช่วยได้ค่ะ จากคุณ : JingXi เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 15:39:24

ความคิดเห็นที่ 15 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 16:01:19

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนเลยคะ ทุกกำลังใจและคำอวยพร เข้ามาวันนี้กลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว ตื่นเต้นจัง เหนือสิ่งอื่นใด ดีใจคะที่ข้อมูลของเรามีประโยชน์แด่เพื่อนๆ ตั้งใจไว้จะเขียนให้ได้ 10 ข้อคะ อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสวนลุมไนท์ตรงๆ แต่ก็ยังเป็นเรื่องค้าๆขายๆเนอะ 7. ตลาดที่นี่เป็นตลาดกลางคืนคะ ปิดร้านกันประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะอยากให้คิดถึงเรื่องของสุขภาพไว้ด้วยคะ โดยเฉพาะคนที่มีงานประจำทำตอนกลางวัน พอเลิกงานก็มาเปิดร้าน ใหม่ๆก็ดีอยู่หรอก ฮี่ๆ ร่างกายเรายังแข็งแรงดี + ยังไม่เครียดมากเรื่องที่ว่าจะขายได้หรือไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปสิคะ ร่ายกายมันเริ่มจะล้าอ่ะ ไหนจะต้องฝ่าฟันการจลาจรมาเปิดร้าน ขากลับขับรถกลับบ้านดึกๆ เราเองเกือบจะหลับในตั้งหลายครั้ง อันตรายคะ ยิ่งขายของไม่ได้ ใกล้สิ้นเดือนจะต้องจ่ายค่าเช่าร้าน ร่างกายมันพาลจะน๊อคเอาง่ายๆคะ เรื่องอาหารการกิน+กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรา ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย อยู่ดึกๆมันก็ต้องหิวเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งน้ำหนัก+สิว ก็จะมาหาอย่างไม่คาดคิด เวลาพบปะเพื่อนฝูงก็ต้องหายไป กลายเป็นคนเพื่อนน้อย ก็นัดทีไรไม่เคยได้ไปกะเค้า ละคงละครที่เค้าฮิตๆกัน เราก็ไม่ได้ติดตาม จริงๆที่นี่เค้ามีเคเบิ้ลทีวีคะ เสียตังค์เพิ่มเดือนละไม่กี่ร้อย แต่เราอยากขายของมากกว่าคะ ก็เลยตัดใจไม่ดูทีวีระหว่างขายของ อาศัยอัปเดทจากห้องเฉลิมไทยเอา ฮี่ๆ จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 16:08:58

ความคิดเห็นที่ 17 คุณJingXi *** ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ จะพยายามปรับปรุงและแก้ไขให้ถูกต้องค่ะ ยังไงMonoblue ก็ขออภัยหากผิดพลาดไป *** จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 16:29:39

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Arteeart เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 19:04:48

ความคิดเห็นที่ 19 มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : lalinphat เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 19:48:00

ความคิดเห็นที่ 20 เคยเห็นข่าวว่า พื้นที่ที่นั่นจะสร้างเป็น central ไม่ใช่หรอครับ อยากทราบข่าวเรื่องนี้ครับ เคยคิดจะเปิดร้านที่นั่นเจอข่าวนี้เลยไม่กล้าไปลงทุน จากคุณ : งุ๊งงิ๊งนุ๊งนิ๊ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 20:57:35

ความคิดเห็นที่ 21 Monoblue น่ารักมากค่ะ ^^  ถ้าไม่เข้าใจยังไงก็หลังไมค์ได้เสมอนะคะ ยินดีอธิบายค่ะ จากคุณ : JingXi เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:11:34

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณที่มาแชร์ค่ะ ได้ข้อมูลเยอะเลยโดยเฉพาะเรื่องจ้างเซ็นชื่อเนี่ย ฮี่ๆๆ จากที่ตั้งกระทู้ไป 2-3 ครั้ง ตอนนี้เราได้ล็อคแล้วล่ะ อยู่โซนอยุธยา ซอย 9 ต้นๆซอยจากทางฝั่งโจหลุยส์เลย โชคดีที่ได้ค่าเช่าไม่เกินหมื่น ทำเลสวยใช้ได้ค่ะ คนเดินเยอะอยู่ ร้านเต็มเกือบทุกล็อค เมื่อวานไปดูมาตอน 5 ทุ่มฝรั่งยังเดินเพียบอยู่เลย ต้องลุยอย่างเดียวแล้วค่ะตอนนี้ เพราะที่ทำงานเก่าย้ายออฟฟิศ ไปเป็น home office แทน เราก็เดินทางไม่สะดวก ค่ารถไม่คุ้มอีก ลุยเป็นลุยค่ะตอนนี้ เหลือทางเดียวแล้วนี่เนอะ ลองซักตั้ง 555 ปล. เรื่องเซ็๋นทรัล เห็นว่าตอนนี้เอาไปแค่ส่วนเดียวแล้วนี่คะ ได้ยินพี่ที่เปิดร้านเก่าๆมาตั้งแต่เริ่มโครงการเค้าว่ามางี้นะ จากคุณ : ว่าที่แม่ค้าหน้าใหม่ (เลดี้ลิลิ) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:52:28

ความคิดเห็นที่ 23 8. เรื่องการตกแต่งร้าน ข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้เรื่องทำเล เพื่อนๆที่เคยเดินก็จะรู้เลยว่าล็อคที่นี่เล็กนิดเดียวเอง ที่เท่าแมวดิ้นตาย หุ หุ ดังนั้นการจัดหน้าร้าน ดีสเพลย์ต่างๆ ทั้งแสงและไฟ จำเป็นมากๆเลยค่ะ แต่ถ้าเราทุนน้อยและยังไม่แน่ใจจะขายได้นานแค่ไหน พูดง่ายๆไม่รู้จะเจ๊งหรือเปล่า จะคุ้มไหมกับการที่จะต้องมาเสียตังค์ค่าแต่งร้านไปแบบฟรีๆ น่าเสียดายอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นเริ่มแรกก็ทำแต่พอสมควรดีกว่าค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทีละนิด ยกตัวอย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ที่บ้านถ้าสามารถนำมาใช้ที่ร้านได้ก็ขอให้ยกมาเลย อย่างเก้าอี้ ชั้นวางของ โคมไฟ แต่ถ้าไม่มีล่ะ ก็ไม่เป็นไร ลงทุนซื้อแต่ขอให้ซื้ออย่างรอบครอบ   ที่นิยมกันมากแต่ละร้านต้องมี 5555 ก็ชั้นวางของแบบ 2-4 ชั้น ราคาตั้งแต่ 199-299-399 พอนึกออกไหมคะ ถ้าไม่อยากเหมือนใครเราเอามาทาสีใหม่ก็งามอยู่ไม่น้อย ส่วนพวกตะแกรงพลาสติก ราวแขวนเสื้อผ้าต่างๆ ไม้แขวนเสื้อ กระดูกงู อื่นๆ จิปาถะ ตามความเห็นเราไปซื้อที่โบ๊เบ้ได้ราคาถูกกว่าที่สำเพ็งนิดนึง (อยู่ที่การต่อรอง) ตอนนี้กระแส Wall sticker กำลังมาแรง หาซื้อได้ตามตลาดนัด ราคาก็ถูกใจ 20-25ต่อแผ่น ไม่ต้องใช้ของแพงหรอกเนอะ เบื่อก็เปลี่ยนได้ ไม่ต้องเสียดาย อีกหนึ่งทางเลือกก็คือซื้อของมือสองค่ะ ที่เค้าลงขายตามเน็ต ถ้าเราโชคดีก็อาจได้ของราคาถูกมาใช้ พอเปิดร้านไปสักพักนึงแล้วยอดขายพอไปได้ มองเห็นกำไรกะเค้าบ้าง มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ เราก็ค่อยๆปรับปรุงร้านให้ดูดียิ่งๆขึ้นไป ถึงจะต้องควักกระเป๋าจ่ายบ้างก็ถือว่าคุ้มนะเพราะเรามั่นใจแล้วว่าร้านอยู่ได้แล้ว จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 11:14:29

ความคิดเห็นที่ 24   เจ้าของกระทู้น่ารักจังเลยค่ะ จากคุณ : sutisa_f เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 12:55:35

ความคิดเห็นที่ 25 เจ้าของกระทู้ใจดีจังค่ะ ขอให้กิจการขายดี เฮงๆ รวยๆ นะคะ จากคุณ : โอเค N-gage เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 14:17:11

ความคิดเห็นที่ 26 9. มาถึงคำถามยอดฮิต ช่วยด้วย อยากขายของ แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี ?? ขอเล่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมานะคะ Monoblue ขอออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ได้ตั้งตนเป็นผู้รู้ใดๆทั้งนั้น ข้อมูลที่บอกอาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% เพราะตัวเองก็ลองผิดลองถูก เริ่มจากสาวออฟฟิตธรรมดาๆมีประสบการณ์แค่ช๊อปปิ้งตามตลาดนัดต้องผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าค่ะ เมื่อก่อนเราขายผ้าปูที่นอนค่ะ เริ่มต้นก็คิดผิดแล้ว ตลาดที่สวนลุมไนท์ ลูกค้าเค้าไม่นิยมซื้อกัน อีกอย่างมีร้านขายอยู่แล้ว(เรามารู้ทีหลัง) อยู่ซอยถัดไป ร้านเค้าใหญ่มากๆด้วย 4 ห้องติดกัน คิดดูแล้วกันค่ะ ร้านเล็กๆอย่างเราจะสู้เค้าได้ไง ต้นทุนสูงด้วย เงินจมไปเยอะเลยกับการสั่งผ้าปูมาครั้งแรก ตอนนั้นก็หมดไปเกือบๆห้าหมื่นค่ะ เงินห้าหมื่นอย่าคิดว่ามากมายซื้อผ้าปูได้ไม่กี่ชุดเอง จัดร้านแล้วดูโหรงเหรง ตลกมาก ไปเปิดร้านก็ได้แต่นั่งดูร้านตรงข้ามขาย เศร้า ต้องตัดใจเราขนเอาผ้าปูกลับไปซ่อนไว้ที่บ้านค่ะ โฮ่ๆ ก็ค่อยๆกำจัดผ้าปูไปทีละชุดๆ ให้ของขวัญเพื่อนๆมั่ง จะแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ เราให้ผ้าปูอย่างเดียว 5555 เอาไปจับแลกของขวัญปีใหม่ ลงขายในเน็ต แจกญาติๆ สุดท้ายก็เอาไว้ใช้เอง 3 ปีมาแล้วไม่เคยซื้อผ้าปูที่นอนเลยค่ะ จากที่เซ่อซ่าส์ เปิดร้านได้เดือนกว่าๆแต่ขายของไม่ได้เลย อย่าท้อค่ะ เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับการขายรองเท้าแตะ เราไปซื้อที่สำเพ็ง ก็เดินดูๆ ครั้งนี้เราไม่กล้าบุ่มบ่ามเหมือนซื้อผ้าปูที่นอน ค่อยๆซื้อ เอามาลองขายดูก่อน เย้..ขายได้แฮะ จากนั้นเราก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงร้านมาเรื่อยๆ จากร้องเท้าแตะพัฒนามาขายรองเท้าแฟชั่น รองเท้าแตะซื้อง่ายขายคล่องก็จริงแต่ก็กำไรน้อยมาก ไม่คุ้มกับค่าเช่า ความที่เราทุนน้อย+กลัวขาดทุน เราใช้วิธีไปซื้อรองเท้าบ่อยๆค่ะ ตลาดสำเพ็งเราเดินจนแม่ค้าที่นั่นจำเราได้ ร้านรองเท้ามีกี่ร้าน เราเข้าไปดูหมด อาจจะเหนื่อยและเสียเวลาในช่วงแรกๆ แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า เราซื้อรองเท้ามาแบบไหนก็ตาม ขายได้หมด แต่ก็นั่นแหละค่ะ พอร้านเราขายดี ลูกค้าเข้าเยอะ ก็มีร้านอื่นตามแบบค่ะ เราซื้อรองเท้าแบบไหนมาใหม่ ร้านอื่นก็ซื้อตามในวันถัดไป ต้องทำใจอย่าไปโกรธเค้า มาถึงตอนนี้เราเริ่มมองหาผู้ผลิตรองเท้าโดยตรงแล้ว จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 16:25:02

ความคิดเห็นที่ 27 กด F5 ถี่ๆๆๆ รอจขกท.กลับมาเล่าต่อนะคะ ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟัง เพลิดเพลินและได้ความรู้มากเลยค่ะ จากคุณ : yhumo เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 16:49:56

ความคิดเห็นที่ 28 สนใจคะ อยากเปิดร้าน เก็บตังค์และประสบการอยู่ จากคุณ : takwa เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 17:50:35

ความคิดเห็นที่ 29 ก่อนจะไปตามหาโรงงานผลิตรองเท้าโดยตรง ขอเล่าเรื่องตลาดสำเพ็งสักนิดนึงค่ะ ร้านขายส่งรองเท้าส่วนใหญ่จะไปรวมตัวกันอยู่เกือบๆท้ายซอยค่ะ ที่เค้าเรียกกันว่าตรอกมะยมหรือปากซอยมะม่วง จุดสังเกตให้มองหาธนาคารนครหลวงไทยไว้ค่ะ เกรดรองเท้าคร่าวๆก็แบ่งเป็นตัวถูกกะตัวแพง ที่สาวๆนักช๊อปคุ้นเคยกันตามตลาดก็คือคู่ละ 99 กะ 199 หรือ 299 คุณภาพก็ลดหลั่นไปตามระดับราคา ราคาส่งต่อคู่ก็ตกอยู่ที่ 65-70 สำหรับตัวถูก และ135-170 สำหรับตัวแพง เห็นไหมคะว่าการขายรองเท้าไม่ได้กำไรเยอะแยะเลย ไหนจะต้องรับภาระรองเท้าคู่สุดท้ายที่ต้องตามหานางซินมาสวมใส่และซื้อไปให้ได้ รองเท้า 1 ชุดมี 6 คู่ ขนาด 35-40 แต่ก็มีบางร้านที่เค้าขายรองเท้าเกรดสูงกว่านี้ค่ะ เจาะกลุ่มลูกค้าเกรดA หรือB+ รองเท้านำเข้าจากจีนก็มีเยอะ พวกรองเท้าพลาสติกใสๆ รองเท้าหัวโต - เวลาปกติจะเปิดขายตั้งแต่ 8โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น (วันอาทิตย์เปิดถึงเที่ยง) - ส่วนตลาดเช้าเริ่มตั้งแต่ตี 4 ถึง 6 โมงเช้า (ปิดเช้าวันจันทร์) เป็นแผงลอยแบกะพื้น แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ ราคาไม่ต่างกันหรอกค่ะ แต่ตลาดเช้าเสี่ยงกว่าในแง่ของตาดีได้ ตาร้ายเสีย เพราะบางร้านที่มาวางขายเป็นขาจรค่ะ (ไม่มีร้านเป็นของตัวเอง)วันนี้มาพรุ่งนี้อาจไม่มา ถ้าสินค้ามีปัญหาก็ยุ่งยากในการเปลี่ยนคืน อีกอย่างเช้ามืดเลือกรองเท้าลำบากค่ะ ง่วงนอนด้วย สีก็ดูเพี้ยนไปบ้าง + คนเยอะวุ่นวายมากเสี่ยงโดนล้วงกระเป๋าอีกต่างหาก หากขับรถไปเองแนะนำให้ไปจอดที่ตู้เหลืองค่ะ ชั่วโมงละ 20 บาท มาตามเส้นทางที่จะไปท่าน้ำราชวงศ์ เลี้ยวซ้ายเลยร.รเผยอิงไป มองเห็นขวามือมีป้อมยามทาสีเหลือง ก็เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลย สะดวกสบาย เดินไกลหน่อย แต่ไม่ต้องปวดหัวแย่งที่จอดกัน แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 23:04:47 จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:16:03

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบช้อปปิ้งมากครับ เข้ามาหาข้อมูล จากคุณ : Gen.Pao เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 00:19:27

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้ดีมากเลยค่ะ จขท ใจดีมากกเลยค่ะ ^^ จากคุณ : smile2gether เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 00:45:54

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ จขกท มากเลยนะคะ เป็นข้อมูลที่ดีมากเลย ขอศึกษาไว้ก่อน รอมีทุนว่าจะ ลองทำมั่ง อิอิ ( แต่คงอีกนานมาก ) จากคุณ : tikhot เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 09:11:49

ความคิดเห็นที่ 33 สาเหตุที่เราต้องการติดต่อผู้ผลิตร.งรองเท้าโดยตรงคือเราต้องการลดต้นทุนราคาสินค้าค่ะ อย่างที่ทราบกันดีตลาดสำเพ็งนั้น ถึงจะเป็นตลาดขายส่งก็จริงแต่ก็ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอีกที และเหตุผลอีกข้อก็คือเราต้องการเลือกแบบรองเท้าเองค่ะ ตลาดสำเพ็งนั้นแบบรองเท้าออกมาใหม่เกือบทุกอาทิตย์ก็จริง แต่ทุกๆร้านก็คล้ายๆกันก๊อปกันไปก็อปกันมา คือแบบมันซ้ำกันมาก ร้านเรารับไปขาย ร้านอื่นเค้าก็ขายได้เหมือนกัน แต่การจะติดต่อตามหาผู้ผลิตโดยตรงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ เราก็เริ่มต้นหาข้อมูลจากอากู๋ เพื่อนๆลองหาดูเล่นๆก็ได้ มีเยอะมากเลยทั้งผู้ผลิตตัวจริงและตัวปลอม ที่บอกแบบนี้เพราะเราเจอมาแล้วค่ะ เค้ารับจากเราไปเค้าก็เอาไปส่งต่อให้คนอื่นผลิตอีกทอดนึงแถมงานออกมาก็แย่มาก ก็ต้องลองผิดลองถูกไปนะคะ ข้อสรุป (จากประสบการณ์ของเรา) ซื้อรองเท้าที่สำเพ็ง ข้อดี - ซื้อง่าย ถูกใจซื้อได้เลย (1 แบบ/ครึ่งโหล) - ใช้ทุนน้อย - เปลี่ยนแบบได้เกือบทุกอาทิตย์ ข้อเสีย - ควบคุมคุณภาพไม่ได้ มาแบบไหนก็ซื้อแบบนั้น - แบบฮิตๆ ทุกร้านแทบจะขายเหมือนกันหมด สั่งผลิตเอง ข้อดี - เลือกแบบ สี ขนาด คุณภาพ ได้ตามใจเรา - คนไหนจะก๊อปตามก็ยากนิดนึง ข้อเสีย - ใช้ทุนเยอะเพราะต้องสั่งอย่างน้อย 2.5 โหล/แบบ/สี - ถ้าแบบไหนสั่งมาแล้วแป๊ก (ขายไม่ออก) เราก็ต้องรับความเสี่ยงนี้ไว้เอง จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 10:41:49

ความคิดเห็นที่ 34 ตามมาอ่านต่อ+กดโหวตให้อีกรอบ อิอิ จากคุณ : เลดี้ลิลิ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 11:14:07

ความคิดเห็นที่ 35 จขกท. ใจดีจังเลยค่ะ จากคุณ : กัญจน์ญภา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 14:01:51

ความคิดเห็นที่ 36 มาให้กำลังใจคนค้าขายเหมือนกัน..สู้ๆๆ ค่ะ จากคุณ : papacroft เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 15:14:29

ความคิดเห็นที่ 37 กระทู้ดีมีสาระ ^________^ จากคุณ : อิฐมอญ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 15:27:48

ความคิดเห็นที่ 38 คุณเลดี้ลิลิ ยินดีด้วยค่ะ ขอให้กิจการรุ่งเรืองนะคะ ฝากไว้นิดนึงเปิดร้านที่นี่ขอให้ระวังแก๊งค์มิจฉาชิพค่ะ เค้าจะแต่งตัวดีๆทำเนียนๆ เข้ามาดูของร้านเรา พอเราเผลอก็ฉกของมีค่าไป กระเป๋าตังค์ มือถือ โดนกันเยอะ อย่าวางเด็ดขาด พ่อค้าแม่ค้าที่นี่จะสะพายกระเป๋ากันค่ะ เป็นแฟชั่นกันเลย จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 16:05:44

ความคิดเห็นที่ 39 10. ลูกค้าแบบไหน? ที่เค้านิยมมาเดินที่นี่กัน อย่างที่บอกค่ะ ประมาณ 80% จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติส่วนที่เหลือก็เป็นคนไทย - เมื่อก่อนลูกค้าชาวยุโรป อเมริกัน เยอะมากก็ตอนนั้นเศรษฐกิจยังไม่แย่แบบนี้อ่ะ แต่ตอนนี้ลูกค้าเอเซียครองตลาดค่ะไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมไปถึงชาวตะวันออกกลาง อิหร่าน อินเดียก็เยอะค่ะ เราเดาว่าได้รับอานิสงค์จากสายการบินพี่หางแดงที่ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลงค่ะ - ในเมื่อลูกค้าเอเซียเยอะขึ้น แน่นอนค่ะพฤติกรรมการซื้อเค้าก็ต่อราคากระจาย ขอยกสถิติให้ลูกค้าจีนและอินเดีย เราได้ยินบ่อยมากที่บางร้านด่าลูกค้า(ด่าภาษาไทย) หรือไม่ก็แสดงกิริยาแย่ๆ เสื่อมค่ะ ขอให้ใจเย็นไว้ค่ะ ถ้าลูกค้าต่อราคามากเกินไป ค่อยๆพูด ยิ้มไว้ก่อน ถ้าลูกค้าชอบสินค้าเรา เค้าจะกลับมาเอง จริงๆนะ เกร็ดเล็กๆน้อยๆ - ลูกค้าจีน อินเดียถึงจะต่อราคาเก่ง แต่ก็ซื้อนะ - ลูกค้าญี่ปุ่นจะชอบมาก หากเราพูดทักทายเค้าก่อน เชื้อเชิญให้เค้าเข้ามาในร้าน - ลูกค้าจากตะวันออกกลาง ต่อกระจายเหมือนกันแต่ก็ซื้อกระจายไม่แพ้กันถ้าถูกใจจะเหมาหมดเลย - ลูกค้าเกาหลีไม่ชอบให้ถูกทักเป็นญี่ปุ่นอ่ะ ต้องสังเกตอย่าทักผิดนะ 5555 ขอบอกสาวเกาหลีผิวเนียนมาก น่ารักด้วย - ลูกค้าทางฝั่งยุโรปไม่ค่อยต่อราคา ถูกใจชั้นซื้อเลย (ยกเว้นสเปน อิตาลีต่อเก่งมาก) - ส่วนลูกค้าไทย วัยรุ่นเยอะค่ะ แต่งตัวกันเริ่ด มาเป็นกลุ่มเป็นแก๊งค์ เวลาซื้อของต้องได้รับความเห็นชอบจากเพื่อนๆก่อน เราเคยเจอ ลองรองเท้าให้เพื่อนดู ถ้าเพื่อนบอกโอ...ถึงซื้อได้ค่ะ สุดท้ายแล้ว อยากจะบอกเพื่อนๆค่ะ สำหรับคนที่คิดจะลงทุนเปิดร้านหรือทำกิจการต่างๆ ทุกคนทำได้ค่ะ ขอเพียงคุณมีความกล้า ไม่ใช่กล้าอย่างบ้าบิ่นนะคะ ประสบการณ์จะสอนคุณเอง หากเราเกิดพลาดพลั้งไปบ้าง ก็อย่าโทษตัวเองหรือคนอื่น ให้กำลังใจตัวเองเสมอ อย่าจมอยู่กับความทุกข์นะคะ วันพรุ่งนี้ย่อมเป็นวันของเราเสมอค่ะ Monoblue แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 52 20:32:18 จากคุณ : Monoblue เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 20:28:59

ความคิดเห็นที่ 40 ้เยี่ยมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : babyfresh เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 12:41:11

ความคิดเห็นที่ 41 ^^ ตกใจ ถูกใจ : F a K e !! โกหกทั้งเพ !!   << ให้กิ๊ฟนะ แต่รู้สึกเหมือนด่า 55555 จากคุณ : BiGTeDDy เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 15:59:34

ความคิดเห็นที่ 42 ดีค่ะ ได้ความรู้ดีเลย ปกติมีแต่ไปเดินซื้อ พึ่งจะรู้เบื้องหลังแม่ค้าเนี่ยแหล่ะ จากคุณ : เหล้าปั่น เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 16:24:33

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 16:38:24

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณสำหรับความรู้ ดี ดี ค่ะ^^ จากคุณ : Pocoyo's เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 07:01:25

ความคิดเห็นที่ 45   เเม่ค้าน่ารักอย่างนี้ คงมีลูกค้าติดเพียบเเน่ๆเลยค่ะ ขอบคุณที่เอาความรู้มาเเบ่งปันกันนะคะ ขอให้ค้าขายดีๆ รวยๆนะคะ^^ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 13:17:20 จากคุณ : =Little Lala= เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 13:16:39

ความคิดเห็นที่ 46   อยากให้มีแม่ค้าแบบนี้เยอะๆ จัง ไว้ว่า ง ๆ จะแวะไปอุดหนุนนะคะ จัดเบอร์ 40 มาเยอะ ๆ นะ ^^ จากคุณ : Bubbly เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 15:27:39

ความคิดเห็นที่ 47 เยี่ยมมากๆ ครับ คนที่เอาประสบการณ์ตรงมาบอกต่อ แบบไม่มีหวงวิชาเลย จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:28:23

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณครับ จากคุณ : Esprite เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 22:44:36

ความคิดเห็นที่ 49 ชื่นชม จขกท. ค่ะ มีน้ำใจมากๆ ขอให้การค้าเจริญรุ่งเรืองนะคะ เราก็คิดจะทำอะไรเองเหมือนกัน แต่ตอนนี้ขายออนไลน์ไปก่อน เพราะงานประจำก็แทบจะไม่มีเวลาแล้ว T_T จากคุณ : ke@ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 23:22:16

ความคิดเห็นที่ 50 ไกด์นี่แรงมาก ได้ยินกะหูเลย พี่แกบอกฝรั่งไม่ต้องซื้อหรอกแถวนี้ของแพง พี่แกลากขึ้นตุ๊กตุ๊กไปแพลทตินั่ม ประตูน้ำเลย แล้วอีกเคสคือแนะให้ฝรั่งต่ออย่างกะอยู่เมืองจีน ครึ้งๆเลยทีเดียว เฮ้อ จากคุณ : Labellavita เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 15:22:29

ความคิดเห็นที่ 51 man จากคุณ : tokbokki เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 07:35:15