ตัวอยู่ไทย ก็เปิดบริษัทในอเมริกาได้ #2
|
|
"ตัวอยู่ไทย ก็เปิดบริษัทในอเมริกาได้ ตอนที่#2" นี้ เป็นภาคต่อ และอยู่ในบล็อคหัวข้อ "อยากเป็นSMEในอเมริกา ฟังทางนี้" ซึ่งเบลล์เขียนมาแล้ว 5 หัวข้อ ติดตามอ่านทุกหัวข้อได้ใน www.bellechen.bloggang.com นะคะ
เบลล์จะมาเล่าถึง เรื่องยุ่งๆแต่ไม่ยาก(เกินไปนัก)ของคนต่างชาติในการเปิดบริษัทในอเมริกา ค่ะ
การที่จะเปิดบริษัทนั้น ไม่ว่าจะเปิดที่ไหน ก็คงมีเรื่องยุ่งๆบ้างเป็นธรรมดา แต่เบลล์คิดว่าเรื่องยุ่งที่หลักๆที่สุด ในการไปเปิดบริษัทที่อเมริกา ของคนต่างชาติ มีอยู่ ๒ เรื่องค่ะ
๑ บ้านเลขที่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ในอเมริกา การจะเปิดบริษัทในอเมริกานั้น จำเป็นต้องมีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ในรัฐที่คุณต้องการจดทะเบียนบริษัทค่ะ ถ้าคุณผู้อ่านมีหุ้นส่วนหรือคนรู้จักที่ยินยอมให้คุณใช้ที่อยู่นั้นเป็นที่ตั้งของบริษัทคุณ และคุณไม่ได้ทำธุรกิจที่ต้องมีหน้าร้านหรือผิดข้อบังคับอื่นๆ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เช่นในกรณีของธุรกิจจิวเวลรี่ของเบลล์ซึ่งไม่มีหน้าร้าน เบลล์กับเพื่อนก็สามารถใช้ที่อยู่บ้่านของเพื่อนเป็นที่อยู่ของบริษัทได้ มีคนจำนวนมากถามว่าสามารถใช้ตู้ป.ณ. (P.O. Box) เป็นที่อยู่ได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ ทางรัฐต้องการที่อยู่ที่มีบ้านเลขที่จริงค่ะ
แต่ในกรณีที่คุณผู้อ่านไม่มีบ้านเลขที่ในอเมริกาที่สามารถใช้เป็นที่ตั้งของบริษัทได้ ก็สามารถใช้บริการบริษัทตัวแทนได้เช่นกันค่ะ ค่าใช้จ่ายในการใช้ที่อยู่ของบริษัทตัวแทน พร้อมพนักงานที่จะทำหน้าที่รับเรื่องราวต่างๆแทนคุณ เช่นรับจดหมายที่จ่าหน้าถึงคุณที่ส่งมายังที่อยู่ของบริษัทตัวแทน ก็อาจอยู่ที่ราวๆ $200-$400 ต่อเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาหมายเลขโทรศัพท์ของที่นั่น ก็อาจตกราวๆ $30ต่อเดือน ซึ่งคุณสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์บ้านค่ะ
๒ การเปิดบัญชีธนาคาร การเปิดบัญชีธนาคารเป็นการยืนยันสถานะทางกฎหมายของบริษัทค่ะ เพราะเป็นเครื่องมือยืนยันความรับผิดชอบทางการเงิน รวมถึงแสดงความโปร่งใสของธุรกิจ ซึ่งIRS หรือ Internal Revenue Service (น่าจะเทียบเคียงได้กับกรมสรรพากรบ้านเรา) มักตรวจสอบความโปร่งใสของงบการเงินของบริษัทผ่านบัญชีธนาคาร ดังนั้นการมีบัญชีธนาคารในนามธุรกิจแยกจากบัญชีธนาคารส่วนตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ
ความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นคือ ธนาคารที่นั่นมักมีข้อบังคับให้คุณต้องเดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารแบบกระแสรายวัน (Checking Account) ด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าเจ้าของธุรกิจสามารถเดินทางไปได้ การเปิดบัญชีก็ไม่ยากเลยค่ะ บริษัทที่ทำธุรกิจออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตสามารถจัดการการซื้อขายและรับจ่ายเงินผ่านทาง Paypal ได้ แต่ก็ควรต้องมีบัญชีธนาคารอยู่ดีค่ะ เบลล์จะเขียนรายละเอียดเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารในตอนถัดไปนะคะ
การยื่นภาษีประจำปีและการรักษาสถานะบริษัทพอเสร็จสิ้นขั้นตอนการจดทะเบียนเปิดบริษัทแล้ว เรื่องหลังจากนี้แม้อาจดูจุกจิกไปบ้างแต่ก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงแล้วค่ะ ขั้นตอนทางเอกสารเหล่านี้อาจมีรายละเอียดที่ต้องจดจำเช่นระยะเวลาในการต่ออายุหรือยื่นเอกสารต่างๆ ซึ่งเอกสารบางอย่างก็ต้องยื่นทุกปี บางอย่างก็ต้องยื่นทุก ๒ ปี และเรื่องที่สำคัญมากคือเรื่องการเสียภาษีอย่างถูกต้อง
วันนี้เบลล์ขอปิดท้ายด้วยคำพูดของ Oprah Winfrey เจ้าแม่รายการทอล์คโชว์ที่เบลล์ชื่นชอบ ประโยคที่โดนใจเบลล์ คือประโยคที่เธอพูดไว้ว่า I do not believe in failure. It is not failure if you enjoyed the process. เธอมักพูดเสมอในราการของเธอว่า เธอไม่มีคำว่าความล้มเหลวอยู่ในความคิดของเธอ สำหรับประโยคนี้ เธอบอกพวกเราว่าความล้มเหลวจะไม่ใช่ความล้มเหลว ถ้าเรามีความสุข สนุกกับประสบการณ์ที่เราได้ทำลงไป เบลล์เชื่อว่าความสำเร็จของคนเราไม่ได้วัดด้วยเงิน อำนาจ หรือสถานะสังคมเป็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคนเราคือเราสามารถมีความสุขกับหน้าที่การงานและบุคคลต่างๆรอบข้างเรา รวมทั้งสามารถภุมิใจในสิ่งต่างๆที่เรามีและทำในวันนี้ค่ะ
ในโพสต์หน้าเบลล์จะเขียนถึงคำแนะนำที่ป้าลู นักบัญชีมือฉมังในอเมริกา แนะนำเบลล์และเพื่อนในการตัดสินใจเลือกโครงสร้างธุรกิจนะคะ ติดตามอ่านต่อได้ใน www.bellechen.bloggang.com นะคะ
จากคุณ |
:
Belle Chen
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 52 20:29:15
|
|
|
|