ความคิดเห็นที่ 1 ยากเพราะสรรพากรจะมาตามล่าครับ จากคุณ : ดีดลูกคิดแล้ว เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 19:23:13

ความคิดเห็นที่ 2 ปิดแบบถูกตรงตามจริงยากมาก  ปิดแบบเล่นๆกลับง่าย จากคุณ : ยิบยอง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 20:47:20

ความคิดเห็นที่ 3 คุณปิดบริษัทไป 10 ปี ถึงหมดภาระบริษัท เพราะสรรพากร เรียกตรวจย้อนหลังได้เสมอ ถึงจะเลิกกิจการไปแล้ว  5ปี เกิดไปลื้อเจอว่าคุณไม่ได้ชำระภาษี เจอภาษีย้อนหลังบวกดอกเบี้ยเข้าไป เรื่องมันก็ไม่จบซิ ขึ้นศาลกันอีกนาน จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 21:48:49

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าเปิดบริษัทแล้วทำถูกต้องตามตัวบทกฎหมายทุกอย่างตามครรลองคลองธรรม ไม่มีอะไรต้องห่วง ต่อให้ทางราชการมีสิทธิตรวจสอบย้อนหลังไปถึง 50 ปีก็เหอะ ทำดีแล้ว ถูกต้องแล้วจะกลัวอะไร นอกจากจำพวก โกงเล็กโกงน้อย โกงแม้กระทั่งภาษีแผ่นดินที่อาศัยอยู่ คนจำพวกนั้นล่ะ ที่ต้องสะทกสะท้าน กับการเปิด - ปิด บริษัท....... จากคุณ : ไอ้ลิงกัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 22:29:31 A:125.26.217.19 X: TicketID:187224

ความคิดเห็นที่ 5   จริงๆก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะมันมีขั้นตอนตามกฏหมาย แต่คราวนี้ส่วนมากคนที่ปิดบริษัท คือพวกที่มีปัญหาอาจจะเจ๊ง หรือทะเลาะกัน หรือเหตุผลอื่นๆ ซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละคนก็ไม่มีอารมณ์ที่จะรับรู้ถึงขั้นตอนของกฏหมายและก็จะมองว่าทางราชการเรื่องมากจุกจิก แต่ตอนจะตั้งบริษัท กำลังหวานชื่น บอกให้ทำอะไรกฏระเบียบจุกจิกขนาดไหนก็ตั้งอกตั้งใจทำเพื่อจะได้ครบขั้นตอนการจัดตั้ง คราวนี้พูดถึงการปิดบริษัทซึ่งต้องทำตามขั้นตอนเพราะไม่ใช่คนธรรมดา มีกฏหมายคุ้มครองถึงผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย เริ่มจากเมื่อตกลงจะปิดบริษัท ก็ต้องไปจดทะเบียนแจ้งว่าจะปิดเมื่อไร ที่กระทรวงพานิชย์(ที่ที่คุณไปแจ้งเปิดไว้) ขั้นตอนการปิดก็มีวิธีการเดียวกันกับตอนเปิด และไปแจ้งสรรพากรด้วยว่าจะปิดแล้ว(วิธีการก็เหมือนตอนไปแจ้งจดทะเบียนกับสรรพากรตอนเปิดบริษัท) และจะต้องทำบัญชีปิดงบดุล ณ วันเลิกว่าบริษัทมีหนี้สิน ทรัพย์สินเท่าไร ก็เหมือนปิดงบดุลปกติตอนสิ้นปีนั่นแหละ แต่ที่ทุกคนกลัวกันนักหนาคือบัญชีตอนปิดเคลียร์ทุกอย่าง ถ้าทำมาอย่างถูกต้องก็ไม่มีปัญหา ถ้าทำมาแบบมั่วๆหรือแอบซิกแซกอะไรไว้ ก็ต้องมาโดนปรับกันบ้าง ที่ว่ายุ่งยากก็คือการสะสางเคลียร์ภาษีกับสรรพากร ถ้าทำมาดีก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย จริงแล้วสรรพากรเขาก็พยายามช่วยให้จบแบบสวยๆอยู่แล้ว จากคุณ : ปันปัน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 23:04:53 A:190.226.58.2 X: TicketID:047074

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับความเห็นข้างบนครับ ทำบริษัทมา ก็ไม่เคยซิกแซก เท่าไรเท่านั้น ยังไง ยังงั้น และโชคดี ที่เจอ สนง. บัญชี ที่บอกตรงๆ ว่า ให้ทำอะไรตรงไปตรงมา พอไปคุยกับ บัญชีว่า สมมุติถ้าจะปิดบริษัท ทำยังไง ง่ายๆครับ บอกให้เขาทราบก่อนเดือนธันวาคม ตอนนี้เลยกำลังดี เตรียมเงิน ประมาณหมื่นเก้า ค่ารับรองงบ ณ วันสิ้นงวด 4,500.00 ค่ารับรองงบ ณ วันเลิกกิจการ 4,500.00 ค่าดำเนินการ การจดทะเบียนเลิกกิจการ 10,000.00 จบ   หลังจากนี้ ใครจะมาตรวจกี่รอบ กี่ปี ก็ยินดีต้อนรับครับ จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 23:05:09

ความคิดเห็นที่ 7 เลิกยาก ครับ ไม่ใช่ว่าเจ๊งก็เก็บของกลับบ้านนอน ต้องทำเอกสาร สินทรัพย์ก็ต้องทำเรื่องขาย แล้วปิดบัญชี รวมไปถึงแจ้งหนังสือพิมพ์ จากคุณ : keab (keab_h) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 10:51:32

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ต้องเข้าใจว่า ก่อนจะปิดบริษัท สรรพากรในฐานะที่เป็นคนที่ต้องตรวจสอบ เค้าก็ต้องการความมั่นใจ เพราะปิดไปแล้ว จะไปตามย้อนหลังในทางปฏิบัติไม่ทำหรอกครับ ถ้าให้แนะนำ ทำบริษัทให้นิ่งก่อนปิด ถ้าเราหยุดขาย อย่าเพิ่งปิดทันที ทิ้งไว้สักปีกว่า เดี๋ยวสรรพากรจะแจ้งว่า จะยกเลิก vat นะ ok มั้ย ก็เงียบๆไปซะให้เค้ายกเลิกไป แต่ถ้าเราแจ้งยกเลิกเอง ทางสรรพากรน่าจะเข้ามาตรวจทันทีครับ แต่ถ้าเค้าแจ้งจะยกเลิก จะไม่ตรวจ แล้วก็รอสัก 2 ปี ให้ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ค่อยปิด เพราะตอนปิดสรรพากรก็จะเข้ามาตรวจ ซึ่งอาจจะตรวจก็ 2 ปีย้อนหลัง ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การปิดบริษัทก็จะง่ายขึ้นหน่อย จากคุณ : ซาตาน เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 13:42:05

ความคิดเห็นที่ 9 แน่ใจหรือครับว่าทำตรงไปตรงมาจะไม่โดน เพื่อนผมโดนเพราะว่าทำตรงไปตรงมาครับ จากคุณ : ดีดลูกคิดแล้ว เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 23:13:44

ความคิดเห็นที่ 10   ต้องชำระทุกบัญชีที่ค้างในระบบ เช่น เจ้าหนี้ สินทรัพย์อื่น และอื่นๆ (ยกตัวอย่างเฉพาะที่วุ่นมากๆนะครับ) เจ้าหนี้ - ต้องส่งจดหมายแจ้งเจ้าหนี้ ตอนนั้นคุณอาจได้ใบแจ้งหนี้เยอะแยะมากมายจากบรรดาเจ้าหนี้ (ขึ้นอยู่กับขนาดบริษัท) แล้วก็ต้องสะสางบรรดา invoice เหล่านั้น รวมถึงยอดค้างชำระในบัญชีของคุณ สินทรัพย์ - รวมถึง Fixed Assets และ Inventory ต้องพยายามขายออกให้ได้มากที่สุดเพื่อลดผลขาดทุนของบริษัท ถ้าเป็นโรงงานก็ต้องรื้อถอน Fixed Assets (ยิ่งใหญ่ยิ่งยุ่ง) แล้วติดต่อหาลูกค้าทั้งภายในและภายนอก ไหนจะรวมถึงการขาย Land & Building ด้วย ส่วน Inventory ก็ต้องวุ่นวายเหมือนกันเพราะต้องพยายามขายให้ได้ราคา ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนขาย ต้องออกใบรับรองคุณภาพ COA หากขายไม่ได้ก็ต้องขายเป็น scrap ไป ขาดทุนยับเยิน เงินกู้ยืมภายนอก - ถ้ามีเงินสดพอก็ดีไป ถ้ามีไม่พอก็ต้องประณีประนอมหน้กับทางผู้ให้กู้ เช่นทำสัญญาชำระเงินเมื่อได้รับเงินจากการขายสินทรัพย์ หรืออื่นๆ ลูกหนี้ - เหมือนเงินกู้ยืมครับ ถ้ามีเงินชำระพอก็ดีไป ถ้ามีไม่พอก็ต้องประนอมหนี้ ถ้าทำไม่ได้ก็ขึ้นโรงขึ้นศาลครับ จากตัวอย่างข้างบนจะเห็นได้ว่าการปิดกิจการต้องอาศัยความร่มมือจากทุกแผนกในบริษัท ไล่ตั้งแต่ Finance / Production / Sourcing / QA / PC / Safety / Supply Chain / Lawer จะพูดได้ว่าทุกแผนกเลยครับโดยเฉพาะ Finance ต้องอยู่จนเคลียร์บัญชีกับทางสรรพากร ปล ความยุ่งยากมันขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร และลักษณะขององค์กรด้วย ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดเงื่อนไขความยุ่งยากในขั้นตอนการทำงานครับ จากคุณ : earkark เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 07:34:01