ความคิดเห็นที่ 1 มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดทั้งหมดนี่ครับ สิ่งที่คุณเห็นก็อาจจะแค่ส่วนนึง ซึ่งอาจจะ 1 ใน ร้อย จากคุณ : mm_takky เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:13:24

ความคิดเห็นที่ 2   ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ เรื่องเงินนี้ก็แปลก เวลาเขายืมเรา พูดอย่างดี พูดขอร้องอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ พอเวลาจะทวง เราต้องไปเอาเอง เราต้องง้อ ให้เขาคืนเรา หลังๆ ผม ถ้าไม่จำเป็นกันจริงๆ ผมจะไม่ยืมใคร และ ไม่ให้ใครยืม นิดหน่อย ช่วยได้ จะออกให้ ถ้ามาเป็นหลัก หมื่น มันไม่ไหวนะ เรื่องเงิน ไม่มีคำว่าเพื่อนสำหรับผม จากคุณ : ผ่านไป เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:13:25 A:58.181.157.122 X: TicketID:234487

ความคิดเห็นที่ 3 สังคมทุนนิยม...เรื่องหน้าตาต้องมาก่อน แข่งกัน อวดกัน จากเปลือกนอก  แต่ไส้ในบางคนก็เน่าซะ ถ้าไม่รู้จักหรือรู้ไม่เท่าทันชีวิต... มัวแต่หลงไปตามกระแส มันก็เป็นแบบที่คุณบ่นมานั่นแหละ คนเรามันคิดไม่เท่ากัน  บางคนคิดมาก บางคนคิดน้อย เหมือนประโยคฮิตที่ได้ยินกันบ่อยๆ ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดไม่ได้ จากคุณ : ว่าตามกัน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:21:45

ความคิดเห็นที่ 4 แถวบ้านเราก็เป็นแบบนี้จริงๆ ยังไม่รวมที่ผ่อนผ้าห่ม ผ้านวม ที่นอน เครื่องเสียง เครือ่งซักผ้า(มือสองด้วยนะ...)   สารพัดผ่อนเก็บกันเป็นรายวัน ผ่อนหนี้นอกระบบวันละห้าสิบ ผ่อนที่นอนวันละยี่สิบ  ค่าแรงวันละร้อยกว่าบาท  บางคนยังสูบบุหรี่อีก ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังอีก  มันจะเหลืออะไรบ้างไหมล่ะนั่น - -" จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:31:15

ความคิดเห็นที่ 5 ตกลงแม่คุณให้เขายืม หรือให้กู้ ครับ ? จากคุณ : Athlons เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:34:31

ความคิดเห็นที่ 6 สมัยก่อน แขกอินเดีย มาเมืองไทย พูดไทย ไม่ได้เลย มาปล่อยกู้ ร้อยละ ยี่สิบ ให้แม่ค้าในตลาด เอาเงิน มาสี่ห้าหมื่น ขี่จัีกรยาน ปล่อยกู้ ไม่เคยด่าไม่เคยว่า อดทน มาก รอ รอ รอ วันนี้ เก็บไม่ได้ พรุ่งนี้ ก็ไปเก็บ เขา ไม่ถือ ว่าไปเก็บหนี้ ปล่อย ไป 100 ได้ 20 ก็ต้องทำงาน ต้องรอหน่อยซิ คนกู้ ต้องหาเงิน นะกว่าจะได้กำไร 20 คนให้กู้ต้องถือว่า ร่วม กันทำมาหากิน กะคนกู้ ไม่ใช่ไปถึง ต้องเก็บให้ได้เลย คนไทยไม่รู้จักอดทน แขกมาแต่ิอินเดีย อดทน มาก ยืน รออยู่นั่นแหละุ แม่ค้าด่า ก็ไม่เข้าใจ พูดได้นิดหน่อย พอหลังๆมา  ทางการเข้มงวด ไม่ให้แขก มาปล่อยกู้ ให้คนไทยมาปล่อย ทำให้ มีคดีเกิดขึ้นเยอะ แก้ ปัญหาไปทาง แต่ปัญหาเกิดขึ้นอีกทาง จากคุณ : aksorn_ji เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:37:41

ความคิดเห็นที่ 7 คห 5 เรียกว่ากู้แหละมั้งครับ คือตอนเค้าจ่าย จ่ายครบก็ยืมใหม่ มาเป็นรอบ ตรงเวลาเป้ะ คนที่ค้างมากๆแม่ผมก็ไม่ให้แล้ว ไปเก็บอย่างเดียว เรียกว่ากู้หรือให้ยืมดีหล่ะ เพราะถ้ายืมผมจะนึกภาพว่าเหมือนยืมเงินเพื่อนมากกว่า นานๆครั้งไรงี้ ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ จากคุณ : seruel01 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 10:43:08

ความคิดเห็นที่ 8 ก็รู้ว่าบางคนเดือดร้อนจริงๆแต่หลายๆคนซะส่วนใหญ่ไม่ใช่ดันอยากมีอยากได้ไม่ดูตัวเองไปกู้เค้ามาเอง สงสารเจ้าหนี้มากกว่าให้ยืมแล้วตกลงแล้วคุณยอมรับสภาพสุดท้ายเบี้ยวไม่พอแจ้งความกะหนีหนี้อีก เจ้าหนี้ที่ทำแรงไปก็ต้องยอมรับว่าแรงแต่สาเหตุที่แรงคงไม่ใช่ลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายแล้วซ้อม มันคงเหมือน จขกท อ่ะค่ะ รอแล้วรออีกคนเค้าต้องไปเก็บอีกหลายเจ้า เสียการเสียงานหมดค่ะ ไม่ใช่เจ้าหนี้นะคะและไม่คิดจะเป๋นหนี้เพราะอยู่แบบนี้มีข้าวกินมีบ้านนอนมีเงินเก็บนิดหน่อยไม่คิดจะมีรถใหม่ๆเสื้อผ้าแพงๆเฟอร์นิเจอร์โน่นนี่ ก็พอแล้วค่ะ จากคุณ : yuyuhaku (kangkakangka) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 11:27:33

ความคิดเห็นที่ 9 เพราะคนขาดสติในการยับยั้งชั่งใจค่ะ จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 12:02:16

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ยินมาว่าบางที่ บ้านไหนมีอะไร บ้านตรงข้ามหรือรอบๆข้างต้องมีด้วย แข่งกันด้านเปลือกนอก แต่อาหารการกินน่ะเหรอ ประหยัดซะไม่มี จากคุณ : นักซ่อมคอมพ์ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 13:17:35

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเห็นดวยกับ จขกท ครับ เพราะเจอมาเหมือนกัน ยิ่งเห็นคนหลายคน เวลายืมเงินยืมของ ไม่ได้คิดว่าจะหามาคืนยังไงด้วยซ้ำ และหลายคนไม่คิดว่าตัวเองจะต้องคืน คนทวงคือคนชั่ว คนที่ยืมแล้วไม่ให้ก็ชั่ว แต่ตัวมันเองไม่คืนก็ไม่ผิด มีเหตุผลร้อยแปดมาสนับสนุนว่าไม่คืนก็ไม่เป็นไร รอไปเถอะ ถ้ามีแล้วจะให้ บางคนถึงมีก็ไม่ให้ครับ จากคุณ : CoollyCat เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 13:52:46

ความคิดเห็นที่ 12 คนปล่อยกู้ ก็ต้องระมัดระวัง รัดกุมด้วย เป็นอาชีพที่ค่อนข้างล่อแหลม จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 13:56:47

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่ามันก็ผิดกันทั้งสองฝ่ายแหละครับ  ฝ่ายกู้ก็ใช้เงินเกินตัว  ฝ่ายให้กู้ก็โลภอยากได้ดอกเบี้ยเยอะๆ (ไม่มีหรอกเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยไม่เกินที่ กม. กำหนด) เรียกว่าเหมาะสมกันดีครับ  คนสองประเภทนี้ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 19:06:41

ความคิดเห็นที่ 14   ชาวบ้านทั่วไปก็หนี้นอกระบบ ถ้ามนุษย์เงินเดือนก็เป็นหนี้บัตรเครดิต แทบจะเป็นเรื่องปกติของคนไทยไปแล้ว ไปดูได้ที่ห้องชายคาครับ พวกมนุษย์เงินเดือนใช้เงินเกินตัวแบบไม่มีวินัย พออยากจะมีบ้านก็ต้องมาเครียดกับเรื่องหนี้บัตรเครดิต เพราะกลัวจะกู้ไม่ผ่าน ถ้าเกิดกู้แล้วแบงค์ไม่อนุมัติก็เข้ามาตั้งกระทู้ด่าแบงค์อีก แต่ไม่เคยด่าตัวเองที่ไม่มีวินัยเรื่องการใช้จ่ายเงิน เห็นแล้วน่าสมเพชจริงๆ จากคุณ : คนผ่านมา เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 19:39:11 A:125.25.77.25 X: TicketID:226929

ความคิดเห็นที่ 15   - ทุนนิยมครองงำ ใช้จ่ายเกินตัว (อยากได้นู้นนี่นั่น ไม่ได้คำนึงถึงว่าจำเป็นหรือเปล่า) - ขาดการวางแผนชีวิต (ไม่มีเงินออมเพื่อใช้ในคราวจำเป็น) จากคุณ : leptosoma เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 20:26:38

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนมากเป็นแบบนั้นครับ คือใช้เงินเกินที่หามาได้  บางคนไม่เคยนึกถึงเรื่องเก็บออม ส่วนน้อยก็มีบ้าง เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ที่ผมเจอมา จริงๆ พวกนี้ตอนหาเงินได้ดีๆก็ไม่เก็บออมนะครับ  ยิ่งตอนรายได้ดี ยิ่งไม่เก็บ ใช้ฟุ่มเฟือยมากราวกับว่ารายได้เหล่านั้น จะจีรัง  แล้วสุดท้าย พวกนี้ ก็จบคล้ายๆกันคือ เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 20:30:08

ความคิดเห็นที่ 17 คนไทยบางคน วัตถุนิยมเกินตัวไง ฝรั่งมาเห็นโอ้โห เด็กจบใหม่ วัยรุ่นทำงานมีรถใช้กันเยอะแยะ บ้านเขาขนาดเป็น doctor professor ก็ขี่จักรยานไปทำงาน ของเราจบมาเงินเดือนไม่เท่าไหร่ก็อยากออกรถแล้ว จากคุณ : Yellow Sjipsjip เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 21:33:47

ความคิดเห็นที่ 18 ขอ พูด ในด้าน คนปล่อย กู้ ที่เก็บดอกแพงหน่อยนะครับ ที่เค้าคิดดอกแพงเพราะว่า เค้าความเสี่ยงเยอะมาก 1. บางที่ไม่มีสัญญา เงินกู้ เพราะ เหมือนจะผิดกฏหมายหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่บางที่ทำเป็น เหมือน สัญญา ผ่อนของ 2. เสี่ยงกับการโดน ชักดาบ แถว ตลาดใกล้ ๆ ที่ทำงาน แม่ค้าหนีหนี้กัน กลางดึก กันซะ หลายราย คนค้ำ ก็ ซวยกันไป กับ อีกพวก ไม่จ่าย มาทวงมาก ๆ สิ ขู่ ฟ้อง ตำรวจ เพราะ คุณ ทำผิด กฏหมาย เหตุผล แถวนี้ แม่ค้าเอาเงินไปเล่นหวย กับ ไป พนัน บ่อน ประเทศ ข้าง ๆ มาแถว ตราด แถว จันทบุรี สิ มีรถ รับส่งไปบ่อน เป็นอาชีพเลยด้วยซ้ำ ที่ เดือดร้อนเพราะ การศึกษา หรือ ว่า น่าสงสารจริง ๆ มีน้อยนะ ส่วนใหญ่ก็ สนแต่หน้าตัวเอง คนอื่นมี ต้องมีบ้าง แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 52 08:36:59 จากคุณ : คุณชายแรง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 08:35:56

ความคิดเห็นที่ 19 นักธุรกิจใหญ่ๆในสังคม ก็เงินหมุนกันทั้งนั้น มีเงินตัวเองไม่กี่ราย จากคุณ : interaction เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 12:12:49

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยครับ จากคุณ : OreOแง่มๆ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 13:02:55

ความคิดเห็นที่ 21 19# เงินกู้แบบนี้ ไม่ได้เอามาทำลงทุนทำธุรกิจนิครับ เงินหมุนเวลาทำธุรกิจแบบนั้น เวลาใช้ทำธุรกิจ  เขาก็จ่ายทุกเดือน ทุกปี ลงบัญชีเป็น liability  ว่าต้องจ่ายด้วย ไม่งั้นเสียcreditหมด เพราะฉะนั้น  มันคงไม่เหมือนกันหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 52 14:18:21 จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 14:16:36

ความคิดเห็นที่ 22 มา Confirm ว่าเป็นแบบนี้กันจริงๆ กู้กันแต่เงิน กู้แล้วไม่ได้นำมาใช้ในทางที่สร้างสรรค์เท่าไหร่เลย ที่สำคัญ เอาไปเล่นการพนัน! ที่อยู่อาศัยของผมใกล้ชิดกับคนเหล่านี้ ยืนยันว่าเป็นแบบนั้นกันจริงๆ! จากคุณ : newuno เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 14:18:10

ความคิดเห็นที่ 23   อืม เพื่อนผมผ่อนรถคันเก่าเสร็จปุ๊บออกคันใหม่ทันที มันบอกว่ามันอายเพื่อนกลุ่มมันที่ขับรถหรูๆ จึงต้องซื้อรถใหม่ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 15:11:45 A:76.17.124.68 X: TicketID:095398

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อไม่กี่วันนี้นัดรวมเพื่อนสมัยมหา'ลัย บางคนไม่ได้รวยอะไร แต่ใช้ชีวิตแบบสร้างภาพมาก มือถือใหม่ โน๊ตบุ๊กใหม่ ซึ่งแต่ละคนรายได้ไม่ได้ว่าเยอะมากมาย บางคนวางแผนจะซื้อรถ ทั้งที่รถเดิมมันก็ยังโอเคอยู่ เป็นหนี้เป็นแสนเพื่อสร้างภาพ กว่าจะผ่อนหมด รถก็ราคาตกเกือบครึ่ง ผ่อนหมดก็มีรถรุ่นใหม่ยั่วน้ำลาย ก็เอาคันเก่าไปขาย เอาไปดาวน์รถแล้วผ่อนต่อ -_-' ไม่รู้จะสร้างหนี้กันทำไม ไม่รู้จักพอเพียงไม่รู้จักประมาณตน ชาตินี้ไม่มีทางรวยแน่นอน จากคุณ : อรรญะ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 15:20:18

ความคิดเห็นที่ 25 อยู่ที่พื้นฐานของครอบครัวครับ เพื่อนผมพื้นบานครอบครัวดี..รู้จักคิด..เลือกทำงานใกล้บ้านเพื่อประหยัดค่ารถ..เงินเดือน 9500 มันเก็บได้เดือนละห้าพัน..สองปีผ่านไปมันมีเงินในบัญชี 6 หลัก ส่วนผมอ่ะ..ตรงกันข้ามทำงานมาห้าปีแล้วมีเงินเก็บหมื่นเดียว จากคุณ : อารมณ์ศิลปิน อินกับศิลปะ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 15:59:16

ความคิดเห็นที่ 26 เดี๋ยวนี้มันหนักขนาดนี้เลยหรอ - -" น่ากลัวจริงๆ จะว่าไป เพื่อนผมก็ยืมเงินแล้วไม่คืน แต่มีเงินไปกินเหล้า + แทงบอล - -" ตั้ง 2500 แน่ะ เวรแท้ๆ จากคุณ : Culture เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 16:53:10

ความคิดเห็นที่ 27 เชื่อไหมครับว่าถ้าไม่มีเงินกู้นอกระบบ สังคมเราจะวุ่นวายแค่ไหน ลองนึกดูถ้าคุณขายข้าวแกงกำลังขาดทุน ไม่มีเครดิต ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีญาติคนไหนที่พอจะช่วยเหลือได้ คุณก็ต้องบากหน้าไปกู้นอกระบบนั่นแหละ ระหว่างเป็นหนี้นอกระบบ กับล้มละลายปิดกิจการขายข้าวแกง คุณว่าทางเลือกไหนดีกว่ากันละ ?? ลูกหนี้หลายคนก็สามารถฟื้นคืนชีวิต ลากกิจการของตนเองรอดมาได้ก็เพราะสภาพคล่องจากเงินนอกระบบแหละ แล้วเจ้าหนี้ที่ว่าโหด .... โหดทั้งดอกและโหดทั้งการทวงอันนี้ต้องพยายามทำความเข้าใจเขานะครับ พวกเจ้าหนี้นอกระบบจะมีความเสี่ยงต่อการหนี้สูญสูงมาก ฉะนั้นเพื่อได้ยังสามารถดำรงกำไรอยู่ของธุรกิจเขาจึงต้องเก็บดอกสูงถึง20-30 % เพื่อไปหักล้างกับหนี้ที่อาจจะสูญไป ปล่อยกู้ไป 5 อาจจะได้คืนครบแค่ 2 ก็ได้ ในภาวะเสี่ยงแบบนี้จึงไม่แปลกที่จำเป็นจะต้องคิดดอกให้สูง ส่วนการทำร้ายร่างกาย จริงๆไม่มีเจ้าหนี้คนไหนอยากเล่นบทโหดกับลูกหนี้หรอก คนทำธุรกิจก็อยากได้แค่เงินและกำไรเท่านั้น นอกจากจะเสี่ยงกับตำรวจแล้ว ลูกค้าในอนาคตก็มีสิทธิ์ลดน้อยลงเพราะกลัวโดนซ้อมเช่นกัน แต่ถ้าไม่เชือดไก่บางครั้งอาจจะมีลูกหนี้หัวหมอมากู้แล้วหาเรื่องไม่คืนเงินเพราะคิดว่าเจ้าหนี้ไม่มีน้ำยาก็เป็นได้ เป็นเจ้าหนี้นอกระบบก็ใช่ว่าจะสบายนะครับ . จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 16:53:57

ความคิดเห็นที่ 28 Confirm  คะว่าเป็นแบบเจ้าของกระทู้ว่า มันวงจรอุบาทแบบนี้จริงๆคะ แม่เราเคยปล่อยเงินกู้ แต่ตอนนี้ไม่ปล่อยแล้ว ตามเก็บเงินลูกหนี้เก่าที่ค้าง2-3 รายอย่างเดียวคะตอนนี้ มันเป็นวงจรที่เราไม่คิดจะไปสมาคมด้วยคะ เห็นจนชินชามาตั้งแต่เด็กๆ แม่เราไม่ได้รวยล้นฟ้านะ แต่คือเอาเงินเดือนพ่อมาปล่อยกู้เพื่อต่อยอดเงิน จากที่มีลูกหนี้คนแรก เขาก็บอกต่อจนมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ระดับส.อ. จนถึงนายร้อย ผู้พัน มายื่มเงินภรรยาทหารที่อยู่ระดับจสอ.  อะ วันๆเราเห็นแต่คนเข้าออกบ้าน  และจะพูดจาดีมากๆเวลามาขอยืม อ้างโน้นนี่สารพัดให้ดูน่าสงสาร ฟังแล้วคล้อยตามมากคะ ดูชีวิตดิ้นรนดีแท้ แต่จากการแต่งตัวนี่มันค้านกันมากคะ บางคนก็มีปัญหาจริงๆนะ  แต่กว่า90% ยื่มไปใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อย ไม่ว่าจะเล่นพนัน เล่นหวย แทงบอล ซื้อโน้นนี่ให้ตัวเองดูดี พอถึงตอนแม่เราตามเก็บเงินนะรู้ไหมสิ่งที่ได้กับมาคือโดนด่าให้อาย และพาลให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่เรื่อยไป  ตบตีกับลูกหนี้ก็เคยมาแล้ว แม่ต้องไปแจ้งความโดนทำร้ายร่างกายเลยอะ มีครั้งนึงแม่เราไปขอเงินต้นดีๆไม่เอาดอกแล้วนะ เพราะยื่มนานเกินจนแม่เราท้อที่จะทวงเงินแล้วอะ ที่ต้องมาเจอลูกหนี้แบบนี้ซ้ำๆซากๆ รู้ไหมลูกหนี้รายนี้ทำไรกับแม่เรา ปล่อยหมาดุๆตัวเท่าควายให้มากัดคะ นี่มีสื่อไหนสนใจชีวิตเจ้าหนี้บ้างปะคะช่วยมาตีแผ่คุ้มครองชีวิตเจ้าหนี้หน่อย   ลูกหนี้แสบๆมีให้เห็นเยอะมาก ให้เล่าวันเดียวไม่หมดคะ ดีนะวันนั้นแม่เราไม่เป็นไร แม่เลยใช้วิธียื่นเรื่องกับศาลเลยเล่นไม้อ่อนก็แล้ว คราวนี้เล่นไม้แข็งมันซะเลยโง่ให้ลูกหนี้กลั่นแกล้งตั้งนานสองนาน ทีนี้ลูกหนี้ที่มันกวนประสาทก็คงกลัว โดนหักเงินเดือนมาจ่ายหนี้แม่เราทุกเดือน จนตอนนี้แม่เราไม่ต้องไปเสี่ยงชีวิตไปผจญกับวงจรแบบนี้อีกแล้ว   แก้ไขคำผิดจ้า แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 52 17:28:53 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 52 17:22:22 จากคุณ : ข้าวหอม (flogin) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 17:18:01

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 17:32:45

ความคิดเห็นที่ 30 กู้เพื่อไปทำมาหากิน ร้อยละ 10 ต่อเดือน ยังไงก็ใช้คืนได้ครับ แต่ที่กู้ไป ไม่ได้ไปทำให้มันงอกเงยหละสิ จะว่าสมน้ำหน้าก็ดีนะ ที่ไม่รู้จักควบคุมความอยากของตัวเอง เลยทำให้ตกต่ำลงไปเป็นทาส ถ้ายังมีระบบทาสอยู่ คนเหล่านี้คงต้องขายตัวเป็นทาสไปแล้ว คนไปกู้ก็ไม่มีธรรม คนให้กู้ ความเสี่ยงสูง ไม่มีอะไรค้ำประกันเลย ดอกสูงหน่อยก็สมควรอยู่ จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 19:24:29

ความคิดเห็นที่ 31 มีเท่าที่มี ใช้เท่าที่มี หรือน้อยกว่าที่มี เอาเท่าที่จำเป็นและมีความสุข กู้เงินซื้อบ้าน จะได้มีบ้านอยู่อาศัย เป็นที่นอนหลับพักผ่อน ให้สบายกายใจ แต่... ผ่อนหนี้ทั้งชีวิต ห้ามตาย ห้ามตกงาน มันอาจจะไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงก็ได้นะ เกินตัวไปรึเปล่า เราจะช่วยเค้าได้อย่างไรดีนะ์? ที่ไม่ใช่ให้เงินน่ะ? แต่ถ้าเราให้ปัญญาได้ มันจะดีกว่ามั้ย? ยังไงล่ะ? จากคุณ : ออกกำลัง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 19:33:53

ความคิดเห็นที่ 32 มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ ที่บ้านเป็นโรงงานเล็กๆ แม่ขายของด้วย แม่ค้าหน้าบ้าน คนงานแถวบ้าน มาขอยืม ขอกู้ แม่ก็ให้ไปบ้าง มีรายนึงนานมาแล้ว หนีหนี้เก็บข้าวเก็บของหายเข้ากลีบเมฆ พร้อมหนี้ของแม่เราประมาณสามหมื่น รวมกับรายอื่นๆ ก็หลายแสน ทั้งๆ ที่ขายส้มตำ ไก่ย่าง ขายดีมากๆ แถมเคยถูกหวยอีกตั้งหลายแสน มารู้ทีหลังว่าที่หนี เพราะว่าไปเป็นหนี้ที่พนันอยู่หลายแสน ไม่มีเงินคืน เจ้าหนี้เลยจะเอาตัวลูกสาวไปแทน เลยต้องหนี ส่วนคุณปั๋วก็ติดหนี้พ่อเราด้วย แต่ไม่มาก นอกจากรายนี้ ก็ยังมีอีกเยอะแยะ สิ้นเดือนเงินออก จะมีเจ้าหนี้มาคอยยืนเก็บหน้าโรงงานแต่ละโรงเลย (แถวบ้านมีโรงงานหลายโรง) ขนาดมุ้งหลังไม่กี่ร้อยที่แขกมาเดินขายตามบ้าน ยังผ่อนเล้ย เท่าที่พบเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต ส่วนใหญ่ไม่ใช่ยืมไปทำมาหากิน แต่มักจะเอาไปกินเหล้า เล่นพนัน เล่นหวย ผ่อนมือถือ ทีวี ตู้เย็น ฯลฯ จากคุณ : NoNoTan เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 19:42:06

ความคิดเห็นที่ 33 แถวๆบ้านเราก็แบบนี้เลยคะ เห็นจนชินกับภาพแก๊งหมวกกันน็อคซ้อน 2 ใส่ชุดดำมาเก็บเงิน 3 เวลา และหลายเจ้าด้วย แต่บ้านพี่แกเฟอร์นิเจอร์นี่เพียบเลยนะ กินอยู่กันฟุ่มเฟือยมาก ไม่รู้มีความสุขยังไงนะ คนพวกนี้ จากคุณ : เบรานิ่ง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 20:32:15

ความคิดเห็นที่ 34 ความสุขฉาบฉวย ต้องผวาว่าจะถึงคิวจ่ายหนี้เมื่อไหร่ก็เป็นกับดักแบบนึงของทุนนิยมครับ แล้วมันน่าตลกตรงที่คนส่วนใหญ่ก็รู้ว่ามันผิดแต่ก็ยังทำ! คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนจะเป็นคำที่เขาไม่เข้าใจเลยนะครับ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกเศร้ากับความจริงของสังคมวันนี้จริงๆ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 21:01:00

ความคิดเห็นที่ 35 จำนวนคนที่กูส่วนมากเป็นแบบนี้ครับ (นับจำนวนผู้กู้นะไม่ใช่จำนวนเงิน) การปล่อยกู้แบบนี้ต้องเก็บเป็นรายวันครับ ถ้าเก็บไม่ถี่รับรองไม่ได้คืน เพราะ คนที่เป็นแบบนี้มักไม่มีวินัยในการใช้คืน...   ผมเคยเห็นแม่คนหนึ่งมากะลูกคนเอาบ้านมาจำนอง กู้เงินเพื่อจะซื้อรถให้ลูกสาว.... ตัวลูกก็ร้องต้องได้แบบโน้นต้องได้แบบนี้ แม่ก็รักลูกสุดหัวใจ.... เรื่องความฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อพวกนี้เป็นเรื่องปรกติครับ... มันเป็นเรื่องปรกติที่ผมเฉยๆมากสำหรับสังคมทุนนิยม ที่ไม่ปรกติและทำใจไม่ได้คือ... มีสามคมลูกหนี้... เคยดูทีวีอยู่ช่วงหนึ่ง เห็นบอกว่า เป็นหนี้ไม่ต้องจ่าย... รอให้เค้าไปฟ้องศาลเอา...และศาลจะไกล่เกลี่ย ดอกเบี้ยจะลดลงฯลฯ... ผมเสียดายเวลาแทนศาลกะทนายความเลย... ความไม่มีวินัยของคนนี่มันทำให้คุณค่าของคนหมดไปสมองเสื่อมถึงกับว่าลืมอะไรที่สัญญาไว้ ไม่ทำตามข้อตกลงกันเลยทีเดียว... ตอนจะกู้แทบก้มกราบกราน ตอนจะใช้คืนนี่หนีหาย... ของแบบนี้มันเป็นธุรกิจครับ.... ได้กันทั้งคู่ ไม่มีใครเสีย... มันจะเสียกันตอนที่ใครคนไดคนหนึ่งทำผิดสัญญาเนี่ยแหละ.. จากคุณ : MESMERIC เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 21:11:42

ความคิดเห็นที่ 36 คนเราต้องอยู่กับความเป็นจริงครับ อยากให้ลองคิดอย่างผม ทรัพย์สินทร์ option ต่างๆ รถ มือถือ ซื้อมายังไงก็ต้องตกยุค คอมพิวเตอร์ก็เหมือนกันแต่ก่อน Pentium 4 เครื่องหนึ่ง 3-4 หมื่น เดี๋ยวนี้เขาไป QuarQuad กันแล้ว คิดว่าจะอวดว่ามีของทันสมัยไปทำไม ซื้อได้ 2 เดือน ของใหม่ก็ออกมาแล้ว แล้วจะดิ้นรนหาซื้อแพงๆไปทำไม มือถือซื้อมาแพงๆ ใช้งานมันครบทุกอย่างหรือเปล่า หรือ แค่รับสายโทรออก ตัวผมไม่กล้าโม้ว่ามีเงินเยอะ แต่ก็กล้ายืนยันว่าถ้าตกงาน ผมไม่ลำบากเป็นปี ผมคิดถึงถึงทางหนีทีไล่เวลาเราไม่มีงานทำ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ไม่รู้เมื่อไรจะเกิดอุบัติเหตุกับเรา เดินไปทำงานอยู่ๆมีคนขับรถเมล์หลับในเฉี่ยวเรากระดูกสันหลังเคลื่อน เป็นพิการขึ้นมาใครจะเลี้ยงดู พ่อแม่ก็ใ่ช่ว่าจะมรดกให้เราใช้มากมาย ทีพูดไม่ได้แช่งนะครับ แต่ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนจริงๆ สามล้อถูกหวยแจ๊กพ็อต ใครยังจำได้บ้าง ทุกวันนี้เป็นหนี้เป็นสิน เพราะได้เงินมาเอาไปใช้จ่ายฟุ้มเฟือย ไม่คิดถึงอนาคต จะโทษใครไม่ได้ ก็นอกจากตัวเอง คิดเอง ทำเอง ทำชีวิตตัวเอง ขอบคุณที่อ่าน คห ผมจนจบครับ ยาวหน่อยนะ จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 22:29:33

ความคิดเห็นที่ 37 เพื่อนรุ่นพี่ยืมเงินเราไปสามหมื่น ไม่มีดอกด้วยเพราะบอกว่าเอาไปรักษาพ่อ พ่อไม่สบายเป็นมะเร็ง ตั้งแต่ตอนเรียนจนตอนนี้จบมาทำงานจะ3ปีแล้ว ยังไม่ได้คืน ส่วนพี่คนนั้น ผ่อนรถใหม่ ซื้อกระเป๋าใหม่(เงินผ่อน) รองเท้าใหม่ มีเงินไปเที่ยวที่นั่นนี่เป็นว่าเล่น แถมให้พ่อช่วยผ่อนอีก แล้วมาบอกเราว่าไม่มีเงินจะคืนเรา มันน่าตบให้ตายจริงๆ ส่วนเรามีกินมีใช้ตามมีตามเกิด ซื้อของที่อยากได้บ้าง ไปเที่ยวบ้าง มีเงินเก็บฉุกเฉินนิดหน่อย คิดไปคิดมาถ้าไม่ให้ยืมคงมีเงินเก็บมากกว่านี้ คงไม่ได้คืนแล้วคิดซะว่าชาติที่แล้วไปเอาเงินเขามาก็แล้วกัน เซ็งๆ จากคุณ : kamikaze blue เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 22:53:16

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเคยโดนโกงไป 1.1 แสนครับ  ดอกเบี้ยก็คิดตามกฎหมาย  เห็นเป็นคนรู้จักกัน  ทุกวันนี้เหลือแต่สัญญายืมเงินเป็นลายลักษณ์อักษรกับมีลายเซ็น+ปั๊มลายนิ้วมือของมันไว้ดูต่างหน้า (มีสัญญาแล้วยังโดนโกง  แบบชิ่งหนีไปเลยคิดดู)  หลังจากนั้นเรื่องเงินไม่ไว้ใจใครอีกครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 09:50:53

ความคิดเห็นที่ 39 confirm .... ลักษณะทั่วไปของลูกหนี้ ซึ่งหาได้ทั่วไปทั้งราชอาณาจักรไทย จากคุณ : okays เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 10:34:44

ความคิดเห็นที่ 40 โห....ห้าหมื่นห้ผ่อนวันละ 50 ทำไมคุณแม่คุณใจป้ำจังคะ จากคุณ : Auguri เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 12:00:15

ความคิดเห็นที่ 41 #37 เรื่องคล้ายๆของผมเลยครับ ยังจำได้อยู่ทุกวันนี้ "เดี๋ยววันที่ 1 นะน้องนะ พี่สัญญา"(ทำเสียงซึ้งๆ) ... เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ เปรียบเทียบระหว่าง ก่อน-หลัง ให้ยืมเงิน ไม่ว่ายังไงก็ตามแต่ ไม่ไว้ใจใครจริงๆ เรื่องเงินเนี่ย สำหรับผม ตอนนี้เข็ดแล้วครับ จากคุณ : Aouxto เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 12:29:40

ความคิดเห็นที่ 42 บ้านเราที่เป็นหนี้นอกระบบเพราะสถานการณ์มันพาไปค่ะ ตอนนั้นขายของไม่ดี เราก็เรียน ขอแม่ดร๊อปเค้าก็ไม่ให้เพราะใกล้จบแล้ว ปีสี่ของชีวิตนักศึกษาเป็นอะไรที่ทรหดมาก เหมือนเป็นด่านทดสอบก่อนจบให้เรารู้จักค่าของเงิน ทั้งๆ ที่ตอนปีหนึ่งเราจัดว่าเป็นเด็กมีตังค์ แต่พอปีสี่ไม่เคยกินข้าวในห้างเลย ข้าวไข่เจียวสิบบาทหน้าม.เป็นอาหารเย็นตลอด ใช้จ่ายจากเดือนละหมื่นเหลือเดือนละสี่พัน เงินสำรองที่แม่เคยยัดไว้ให้ฉุกเฉินก็หมด กว่าจะจบเป็นหนี้ที่ต้องจ่ายดอกอยู่ห้าหมื่น ข้อคิดจากอดีตทำให้เรารู้ว่า "ความไม่แน่นอนนั่นแหละคือความแน่นอน" และ "การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ" ทุกวันนี้เงินเดือนเพียวๆ เก้าพัน ตั้งแต่ทำงานไม่เคยให้แม่ต่ำกว่าเดือนละห้าพัน เพราะคิดว่าตอนเรียนยังอยู่ได้ ทำไมทำงานจะอยู่ไม่ได้ ส่วนที่ได้เพิ่ม คือกำไรชีวิตค่ะ จากคุณ : Strawberry Sunshine เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 12:41:00

ความคิดเห็นที่ 43 จากการทำงานโรงงานมาหลายปี ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่จขกท.บอกจริงๆค่ะ ใช้เงินเกินตัวกันมากๆ พฤติกรรมที่เห็น คือ เที่ยวเก่ง ใช้เงินเก่ง เปลี่ยนโทรศัพท์บ่อย เคยมีน้องมาปรึกษาบอกว่าจะไปเที่ยวน้ำตก จะซื้อกล้องวิดีโอรุ่นไหนดี เราถามว่ามันแพงนะ ใช้แค่ครั้งเดียว จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ น้องบอกว่า หนูอยากได้ เดี๋ยวรูดบัตรไปก่อน เราท้วงอีกว่า ดอกเบี้ยมันแพงนะ น้องบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยหาเงินอีกที ... อะไรๆก็ไม่เป็นไร อะไรๆก็เดี๋ยวไปหาเอาข้างหน้า บางคนเวลาทำงานประหยัดมาก แต่พอไปนั่งกินเหล้าแล้วใจใหญ่สุดๆ เรียกสาวๆ มานั่งเต็มโต๊ะ เปิดเหล้าแพงๆ อาหารสั่งมาวางๆๆ แล้วก็เหลือ เพราะเมาจนกินไม่ไหว สาวๆก็แต่งตัวเก่งจริงๆ น้องอยากสวยพี่เข้าใจ แต่น้องเปลี่ยนสีผมบ่อยมาก กู้เงินไปทำตา ทำจมูก ทำแก้มสีชมพู แล้วก็ต้องหอบเสื้อผ้าหนีออกมาจากหอกลางดึกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เลิกงานเจ้าหนี้ยืนรออยู่หน้าบริษัท น้องก็ต้องลงไปหมอบอยู่กับพื้นรถหลบเจ้าหนี้ จดหมายที่เข้ามาในบริษัทวันๆ นึงมีเป็นร้อยฉบับ มากกว่าครึ่งเป็นจดหมายทวงเงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ มีซองทุกสีทุกลาย ซักพักก็จะมีจดหมายจากกรมบังคับคดีแจ้งให้หักเงินเดือนลูกจ้างคนนั้นคนนี้ บางคนโดนหักของเจ้าหนี้รายนึงยังไม่จบ มีอีกรายมารอคิวอยู่แล้ว เรื่องพวกนี้เล่าเป็นวันก็ไม่จบ เห็นแล้วก็สงสารแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง จากคุณ : แสนรัก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 16:07:43

ความคิดเห็นที่ 44 คห 40 ตอนแรกมันก้ไม่ห้าสิบหรอก แต่มันนานเข้าก็นะ.. แถมเจ๊แกก็เป็นหนี้เค้าไปทั่ว เห็นแม่บอกกินดอกไปเรื่อยๆก็กำไรแล้ว จากคุณ : seruel01 เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 16:36:46

ความคิดเห็นที่ 45 ฟุ้งเฟ้อไง .. เราก้อเคยมีเพื่อนแบบนี้สมัยมหาลัย .. ทุกคนเรียกเค้าว่า " ราชินีเงินผ่อน " ยืมไปหมด ยืมเงิน ช้อป ยืมเงิน ช้อป เห็นอนาคต จากคุณ : :: VamleS :: เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 17:11:11

ความคิดเห็นที่ 46 เราว่าสังคมไทยมันสะสมความบ้าทุนนิยมแบบผิด ๆ มานานค่ะ อย่างลูกน้องเรา ทำงานค่าแรงวันละ 320 บาท ซื้อมือถือเครื่องละหมื่นกว่า ต้องดูทีวีได้ มีลำโพงแปดตัว สิบตัว ในขณะที่เรายังใช้มือถือเครื่องละสามพันกว่าอยู่เลย พอเงินออก เอาไปเที่ยวคาราโอเกะคืนนึงหมดไปสองสามพัน พอเมา นักร้องก็มาล้วงเอาเงินไปอีก พอไม่มีเงินใช้ก็มาขอเบิกล่วงหน้าไปกินวันละห้าสิบบาท เราก็พยายามสอนว่า อย่าใช้เงินเกินตัว อย่าสร้างหนี้สินเกินไป หาเงินได้วันละ 300 แล้วใช้วันละ 500 มันจะไปพอได้อย่างไร บางคนก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เฮ้อ... จากคุณ : หนูชื่อน้องเก่ง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 17:16:49

ความคิดเห็นที่ 47 จากหัวอกคนเคยปล่อยกู้นะ ความเสี่ยงสูงมาก ดอกเบี้ยถึงได้แพง เพราะปล่อยกู้นอกระบบ ไม่มีสัญญา ไม่มีอะไรมาค้ำประกัน ไม่สามารถจะบีบบังคับลูกหนี้ให้ชำระหนี้ได้ ต้องใช้คุณธรรมในใจของลูกหนี้เป็นตัวผลักดันให้ลูกหนี้ชำระเงินเท่านั้น ดังนั้น ในการทวงหนี้แต่ละครั้ง จึงเหนื่อยมาก เปลืองพลังงานในการทวงหนี้สุดสุด เราจึงสัญญากับตัวเองไว้เลยว่า ต่อไปนี้ จะไม่ให้ใครยืมเงินอีกแล้ว ได้ไม่คุ้มเสีย เวลาไปทวงเงินคืน มันทำเหมือนเราไปยืมมัน ไปก่อกวนมัน เจ็บใจนัก จากคุณ : MeaoNoi เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 21:33:18

ความคิดเห็นที่ 48 อาจไม่ได้กู้เอง แต่เป็นภาระจากพ่อแม่ญาติพี่น้องก็ได้ เอาเจ้าหนีนอกระบบเข้าคุก ข้อหาหนีภาษี http://old.consumerthai.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=351&Itemid=71 แนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ         เขียนโดย ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค     Friday, 01 June 2007   การเจรจาเพื่อให้ยอมตัดลดหนี้ให้ลูกหนี้ โดยใช้มาตรการทางภาษีกดดัน นอกจากมาตรการทางภาษีแล้ว ก็ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับความผิดที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และความผิดฐานกรรโชกทรัพย์และฟอกเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของนายทุนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดต่อไป ประมวลรัษฎากร ม. 91/2(5) ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดประกอบธุรกิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่น ให้กู้ยืมเงิน มีรายได้จากดอกเบี้ย ต้องปฏิบัติดังนี้ ขอจดทะเบียนธุรกิจเฉพาะ ถ้าไม่จดทะเบียนถือว่าผิด ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตราร้อยละ 3 บวกกับภาษีบำรุงท้องถิ่นอีก ร้อยละ 0.3 รวมเป็น ร้อยละ 3.3 กรมสรรพากรจะตรวจสอบย้อนหลัง 10 ปี หากเจ้าหนี้ไม่เคยยื่นแบบเสียภาษีว่าเคยมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ เจ้าหนี้ก็จะมีความผิดที่แจ้งฐานภาษีเงินได้ผิดไปจากความเป็นจริง ต้องเรียกชำระเงินเพิ่มอีกหนึ่งเท่า ค่าปรับอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน จนกว่าจะชำระเสร็จ ค่าปรับต้องย้อนหลังไป 10 ปี (120 เดือน) แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 52 21:42:12 จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 21:37:19

ความคิดเห็นที่ 49 http://old.consumerthai.org/careful_board/view.php?id=398 จากคุณ : Spetsnaz เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 21:38:28

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนเรียนจบใหม่ๆผมก็เป็นครับ เพราะตอนเรียนได้เงินน้อยมากพอทำงานรายได้มันเพิ่มขึ้น 4 -5 เท่า ก็เที่ยวกระจุยเลย จนเงินไม่เคยเหลือ แถมยังยืมเงินเพื่อนๆมาเที่ยวอีก พอเห็นเพื่อนแต่งงานมีครอบครัวก็มานั่งดูตัวเองว่ามีไรกะเค้ามั่งเนี่ย สรุปมีเงินในบัญชีไม่กี่พัน หลังจากนั้นก็เลิกเลยครับ ตั้งใจเก็บเงิน จริงๆรายได้ผมมันไม่ได้เยอะอะไรเท่าไรหรอก แต่พอใช้เงินเท่าที่จำเป็น ปรากฎว่าเก็บเงินได้เป็นกำเลย ตอนนี้ก็กลุ้มกับเพื่อนๆอยู่เพราะมันยังไม่เลิกเที่ยวกัน รายได้มากกว่าผมอีกแต่ยังมายืมเงินผมอยู่เลย จริงๆความฟุ้งเฟ้อผมว่ามันไม่ได้ทำให้ตัวเราดูดีขึ้นเท่าไรหรอกครับ คนที่ดูคนเป็นผมว่าเค้าไม่มามองเปลือกหรอก ใช้ของหรูแต่งตัวดี ในกระเป๋าตังอาจจะมีแต่ใบแจ้งหนี้ก็ได้ หุหุ จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 09:26:36

ความคิดเห็นที่ 51   แล้วคุณไปยุ่งอะไรกะเขา เขาจะเป็นหนี้เท่าไร เขาเป็นหนี้คุณหรือไง? เอาตัวเองให้รอดก่อนดีไหม เรียนให้จบก่อนค่อยมาว่ากันว่า คุณทำอะไรสำเร็จในชีวิตบ้าง จากคุณ : พ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 19:19:15 A:210.203.191.198 X: TicketID:207223

ความคิดเห็นที่ 52 ^ ^ ^ ไม่ทราบว่าเก็บกดมาจากไหนครับ ตย ในหัวกระทู้ก็บอกแล้วว่าเป็นลูกหนี้แม่ผม เงินแม่ เอามาใช้ในบ้าน ค่าเทอม ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ มันกระทบถึงผมไหมละครับ โอเคผมยังเรียนไม่จบ แต่ผมว่าถึงคุณจะเรียนจบก็ไม่น่าพูดจาอย่างนี้เลย อย่างน้อยก็อย่าถอดล็อกอินสิครับ จากคุณ : seruel01 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 20:09:01

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้ากู้มาเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว หรือ เจ็บป่วย ...จำเป็นจริงๆ แบบนี้น่าเห็นใจครับ แต่ถ้ากู้มาเพื่อใช้จ่ายเพื่อสร้าง Image หรือ ตาม Trend ผมว่าแบบนี้ เงินกู้มาเท่าไหร่ก็หมด ถ้าไม่ปรับตัวครับ ...จะรู้อีกทีก็ตอนที่จำเป็นต้องมีเหตุให้ใช้จริงๆ ...และจะโทษว่าสังคมมันโหดร้าย ก็ไม่ถูกนัก สังเกตุครับ คนที่ปล่อยกู้ ประหยัดกับแทบทุกคนครับ ...อยากรวยต้องรู้จัก ใช้ครับผม จากคุณ : B_A_N_K เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 02:02:07

ความคิดเห็นที่ 54 บางที คนให้ยืมบ่อยๆ มันก็เบื่อนะคะ หนี้สูญ หรือ แทงศูนย์ก็บ่อย พอไม่ให้ยืม ก็กลายเป็นคนใจร้ายใจดำ ไม่มีน้ำใจอีก บางคน เห็นหน้าก็รู้แล้วว่ามาหาทำไม อ้าปากปุ๊บเห็นลิ้นไก่ อยู่สบายดี มีเงินใช้ ไม่มาหาหรอก พอเงินขาด เอาแล้ว ไกลแค่ไหนก้ดั้นด้นมาหา จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 08:58:24

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ให้ยืมดีที่สุด จะตายก็ช่างมัน จากคุณ : Legendary Pon เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 00:24:41

ความคิดเห็นที่ 57 อย่าไปสนใจ 56# เลยครับ ปล่อยไว้อย่างนั้น ให้เขาประจานตัวเองไป จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 19:34:37

ความคิดเห็นที่ 58 มาตอบ 56 ผมจะไม่ยุ่งเลย จะเว่อร์ จะบ้า จะยังไงก็ได้ ถ้าคนเว่อร์มันใช้เงินตัวเอง ไม่ใช่มายืมชาวบ้านหรือมายืมแม่ผมนี่ แค่นี้แหละ ระดับ #56 ก็คงประมาณคนเกรียนๆ ไม่กล้าสู้หน้าชาวบ้าน หึๆ จากคุณ : seruel01 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 19:38:19

ความคิดเห็นที่ 59 เคยคิดจะเอาเงินไปให้ที่บ้านปล่อยกู้นะ แต่ไปๆ มาๆ ไม่เอาดีกว่า   "กลัวโดนฆ่าล้างหนี้" จากคุณ : goHm เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 20:26:01

ความคิดเห็นที่ 60 คนบางคนความรู้สึกเรื่องรับผิดชอบน้อยครับ อาจเพราะไม่มีการปลูกฝังกันแต่เด็ก จากคุณ : donutpla2 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 23:51:53

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านเรื่อยๆ มาสะดุดที่ #51 . . เกรียนมาก - -" มีน้อยใช้น้อย ประหยัดหน่อย แต่ไม่เป็นหนี้ใคร ดีที่สุดค่ะ ของเราเวลาแกลบจริงๆ ตังค์แฟนยังไม่อยากยืม ตังค์แม่ยังไม่อยากขอเลยอ่ะ เกรงใจ คนอื่นเค้าก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน กินมาม่าเอาแหละ สบายใจ 55+ จากคุณ : เลดี้ลิลิ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 10:37:54