 |
ความคิดเห็นที่ 81 |
ไม่รู้ว่า จขกท. จะได้อ่านเม้นท์เราหรือเปล่านะ แต่เราอยากบอกคุณนะ
ก่อนอื่นอยากบอกคุณจขกท.ว่า เข้าใจคุณมาก-มากที่สุด เพราะคุณคล้ายเรามาก แต่ของคุณเบากว่าเราเยอะเลยล่ะ ^^ และก่อนที่เราจะมีคำแนะนำ(ที่อาจจะไม่ได้เรื่อง)ให้กับคุณ เราอยากเล่าเรื่องของเราให้คุณทราบสักเล็กน้อย
-ตอนนี้เราอายุน้อยกว่าคุณประมาณ 5 ปี -เรายังไม่แต่งงาน(และยังไม่คิดจะมี) -เราเพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ด้วยโรคมะเร็งเต้มนมแพร่กระจายไปปอด -เราเป็นลูกคนเดียว และแม่เราก็เป็นลูกคนเดียว -เราไม่มีญาติเลยนับตั้งแต่วันที่พ่อเราเสีย(เมื่อ15ปีที่แล้ว)
....ใช่ ทุกวันนี้ เราตัวคนเดียว
-เรามีพ่อเลี้ยง ที่ทิ้งแม่ไปนับตั้งแต่ที่แม่เป็นมะเร็ง -พ่อเลี้ยงเราทิ้งหนี้ไว้ให้แม่เรา ประมาณเกือบ10ล้านบาท -ตัวเราเป็นหนี้เรื่องบ้านในฐานะคนกู้ร่วมกับพ่อเลี้ยง ยอดหนี้ประมาณ 8 ล้านบาท -หนี้บัตรเครดิต6ใบ รวม 220,000 บาทไม่รวมดอก -หนี้นอกระบบอีก 150,000บาท โดยดอกเบี้ยร้อยละ4%ต่อเดือน (ซึ่งทุกวันนี้เรายังไม่สามารถจ่ายต้นได้เลย จ่ายได้แต่ดอก T_T) -หนี้ของผู้ใหญ่ที่รู้จักกันอีก ประมาณ 200,000 บาท -หนี้หมุนเวียนในธรุกิจอีก เกือบ 300,000 บาท -ค่าผ่อนรถเดือนละ 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งต้องผ่อนอีก3ปี -ค่าน้ำ,ไฟ,สัตว์เลี้ยง3ตัว,โทรศัพท์,เน็ท,บัญชี,น้ำมันรถ และค่ากิน หลายประมาณ 2 หมื่น -ค่าเช่าร้าน 3หมื่นต่อเดือน
....ใช่ค่ะ เราทำธุรกิจส่วนตัวต่อจากแม่เรา ซึ่งมันคือการค้าขาย ที่เราทำกันมา 9 ปี เราไม่เคยทำงานบ.เหมือนจขกท.หรือคนอื่นๆ หลายๆคนคิดว่าดีจังมีธุรกิจส่วนตัวด้วย เราไม่ขอเถียงนะว่าไม่ดี แต่ในความคิดเรา มันมีทั้งดีและไม่ดี คชจ.ต่อเดือนทุกวันนี้อยู่ที่ประมาณ 2แสนบาท ทุกๆเดือนรายจ่ายมักมีมากกว่ารายรับตลอด ถ้าถามว่าทำไมเรายังอยู่ได้ คนที่ทำธุรกิจคงจะทราบกันดี ว่าอยู่ได้ด้วยการหมุนเงิน!
แน่นอน เราไม่สามารถไปกู้แบงค์ได้ เพราะเครดิตเราเสียไปกับการเป็นหนี้เรื่องบ้าน ซึ่งเราไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินใดๆแบบถูกต้องได้เลย เราถึงได้กู้เงินนอกระบบ ยังดีที่ผ่านคนรู้จักกัน เพื่อนเราบอกว่า ดอกโหดมาก แต่ทำไงได้ เราไม่มีทางเลือกนี่ !!
เมื่อตอนที่แม่เราป่วย กินระยะเวลาในการรักษาตัวอย่างต่อเนื่องแค่2ปี หมดเงินในการรักษามากมาย นับไม่ถ้วน เมื่อก่อนที่แม่จะเสีย เราเครียดมาก ถึงขนาดไม่อยากอยู่แล้ว บอกเพื่อนว่า "เราจะอยู่เท่าที่แม่เราอยู" เราท้อมาก เงินก็ไม่มี แต่ค่ารักษาแม่ก็ต้องจ่าย ร้านก็เปิดๆปิดๆ เนื่องจากต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลบ่อย ลูกค้ามาก็เจอแต่ร้านปิดตลอด ทำให้ลูกค้าเราหาย รายได้ก็ตก แต่ทำไงได้ เรามีกันแค่2คนนี่ ยังไงเราก็ต้องเลือกแม่ก่อน
ทรัพย์สินทุกอย่าง เราขายมาประทังรายจ่าย หาเงินทุกทาง เท่าที่เราจะทำได้ แม้ว่ามันบางครั้งมันจะไม่ถูกต้องก็ตาม
คุณรู้มั้ยคะ ขนาดวันที่แม่เราเสีย เรายังไม่มีเงินจัดงานศพเลยค่ะ เราต้องหากู้คนอื่นมา
ทุกวันนี้ เรายังสู้ต่อ เพราะเราอยากสานต่อสิ่งที่แม่ทิ้งไว้ให้เรา หนี้สินเราพะรุงพะรัง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะใช้หมด แต่เราก็ไม่กลัวนะ ^^
----------------------------------------------------------------------
ที่เราเล่าเรื่องของเราให้ จขกท อ่าน เพียงอยากบอก จขกท ว่า ....ดูเรื่องของเราเป็นตัวอย่าง เราหนักกว่าจขกท.มาก และเราก็ยังสู้เพียงลำพัง ไม่อยากให้คุณท้อ แค่อยากให้คุณค่อยๆคิดถึงปัญหาตัวเอง วันเดียวมันคิดไม่ออกหรอกค่ะ เมื่อไหร่ที่สมองมันตื้อ ให้คุณเบนไปหาเรื่องอื่น แล้วพอสมองคุณเริ่มสบาย คุณก็ค่อยกลับมาคิดใหม่ แล้วคุณจะหาทางออกให้กับตัวเองได้
เรื่องแม่ป่วย เราอยากให้คุณดูแลแม่ให้มากและดีที่สุด มีคนบอกกับเราเหมือนกันค่ะ ว่าความกตัญญู จะทำให้เราไม่ตกอับ เราจะเจริญ และถึงแม้เราจะตก เราก็จะมีคนคอยช่วยเหลือ
จากที่เราอ่านเม้นท์ข้างบนๆ มีหลายคนแนะนำดีมาก แต่เราไม่รู้ว่าชีวิตประจำวันคุณเป็นอย่างไรบ้าง รายละเอียดลึกๆเราไม่รู้ เราจึงแนะนำอะไรไม่ได้มาก แต่เราอยากให้คุณคิดเยอะๆค่ะ ชั่งใจดู ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มีคนจำนวนมากที่ตกงาน แต่คุณยังมีเงินเดือนอยู่ การที่คุณจะเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง มันอาจทำให้เลือกยาก เราเข้าใจ ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวคุณ เพียงแต่คุณจัดเวลาให้ดี เพราะการจัดเวลาที่ดี มันอาจทำให้คุณไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงแบบตอนนี้ก็ได้
คำแนะนำของเราอาจไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลย แต่เราอยากให้คุณลองเก็บไปคิดดูนะคะ เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวคุณนะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ต่อไปค่ะ ^^
จากคุณ |
:
SwEeT_CaKe
|
เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ย. 52 17:35:37
|
|
|
|
 |