 |
ความคิดเห็นที่ 90 |
ในช่วงที่ทำโปรเจ็กต์ BAS นี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมากอีกช่วงหนึ่ง อยากแชร์ให้น้องๆ วิศวกรรุ่นหลัง
ตามปกติแล้ว เวลาที่ผู้ออกแบบเขียนแบบหรือสเป็กให้ระบบ BAS มักจะเขียนกว้างๆ เช่น อุปกรณ์วัดคุม ต้องใช้ไฟ 24 V หรือต้องส่งสัญญาณด้วยมาตรฐานแบบนั้นแบบนี้ ต้องใช้สายสัญญาณขนาดอย่างต่ำเท่านั้นเท่านี้ หรือในแบบ design ก็จะระบุว่า มีตู้ควบคุมอยู่ที่ไหน จำนวนกี่ตู้ คุมอะไรบ้าง
ดูเผินๆ เหมือนจะถูกต้องครอบคลุมดีแล้ว แต่ความเป็นจริงระบบนี้ละเอียดอ่อนและซับซ้อนกว่านั้น อย่างเรื่องจำนวนตู้ ไม่ต้องไปกำหนดหรอกค่ะ เพราะแต่ละยี่ห้อก็ไม่เหมือนกัน ต่างรุ่นกันยังไม่เหมือนกันเลย ตู้ควบคุม 1 ตู้อาจควบคุมได้ 8 จุด หรือ 64 จุด หรือมากกว่านั้นก็ได้ มันขึ้นกับว่าจะเอาไปใช้อะไรมากกว่า
เมื่อตอนอยู่ไซต์งานฉะเชิงเทรา ส่วนของระบบควบคุมที่ทางเมืองนอกกำหนด เขาจะระบุเป็นจำนวนจุดควบคุม วัตถุประสงค์ใช้งานของจุดควบคุม และ spare points คือจะต้องมีช่องว่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งานอะไรทิ้งไว้ 20%
เพราะการ์ดควบคุมเหล่านี้เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อใช้ไปนานๆ ก็มีเสื่อมสภาพ มีเสียได้เหมือนกัน หากใช้งานจนเต็มทุกช่อง เมื่อมีจุดใดจุดหนึ่งเสียหาย ก็ไม่มีตัวทดแทน ต้องเปลี่ยนทิ้งทั้งการ์ด ซึ่งราคาแพงมาก
บางโครงการยิ่งหนัก เพราะผู้รับเหมาใช้วิธีประหยัดจำนวนการ์ด โดยเอาการ์ดหรืออุปกรณ์ภายนอกมาช่วยเสริม ตัวอย่างเช่น จุดควบคุมหลัก 3 จุด จะสามารถใช้คุมได้ 8 point คือสัญญาณแบบ 000, 001, 010, 100, 101, 110, 011, และ 111 โดยหาวิธีส่งสัญญาณแบบต่างๆ กันจากอุปกรณ์
ดังนั้นถ้าใช้ 4 จุด ก็คุมได้ 16 point หรือ 8 จุดก็คุมได้ 64 point ประหยัดการ์ด แต่มันเป็นการประหยัดตอนเริ่มต้น พอถึงเวลาที่ต้องมีการซ่อมแซมบำรุงรักษา จะใช้เงินสูงมาก
การออกแบบอะไรก็ตามจึงต้องมองกันยาวๆ ให้ครอบคลุมถึงการบำรุงรักษาด้วย ซึ่งถ้าผู้ออกแบบไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำ operation และ maintenance มาก่อน ก็อาจนึกไม่ถึง
เอ... วิชาการมากไปหรือเปล่าเนี่ย จริงๆ มีรายละเอียดทางเทคนิคน่าสนใจอีกเยอะ เช่นการวางตำแหน่งอุปกรณ์วัดคุม การเชื่อมต่อกับระบบควบคุมภายนอก เช่นระบบของ chiller plant หรือ vav อ้อ ยังมีเรื่อง cctv และ access control อีก แต่พอแค่นี้ก่อนดีกว่า
จากคุณ |
:
สาวน้อยร้อยแปด
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 52 14:27:37
|
|
|
|
 |