ความคิดเห็นที่ 1 จะทำอะไรละครับเผื่อคนมีประสบการณ์จะได้มาให้คำแนะนำอ่ะ จากคุณ : max (udom46) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 22:30:34

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบ 1. เป็นหนึ้ครับ หนักเข้าก็อาจโดนฟ้องล้มละลาย แต่สิ่งที่ได้มาคือประสบการ์ณ 2. เป็นเจ้าของก็ดี เป็นลูกน้องก่อนก็ดี ถ้าเป็นลูกน้องก่อนก็เหมือเรามองจากต่ำไปหาสูง คล้ายกับเข้าโรงเรียน เรียนๆไปพอคิดว่าเราน่าจะเก่งก็ออกมา แต่ถ้าเป็นเจ้าของเลย ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมก็เอาเลยครับ 3. เป้าหมายตั้งไว้สูงๆ นะดีแล้ว แต่อย่ามั่วมากับปัญหาชิวิต เพราะมันจะมองไม่เห็น และท้ายสุดมันจะเกกซิม    เอ้าง่ายๆเลยห้องสีลม ถ้าเป็นผม ผมก็อาจตั้งเป้าหมายมีรายได้เกินแสนก่อนอายุ 30 ปี บางคนก็อาจบอกมีเงินเก็บให้ได้ 1 ล้านภายใน 5ปี บางคนก็บอกต้องมีบ้านให้ได้ก่อน 30 ปี แต่ถ้าเอาความรักมาเกี่ยวพันด้วย ส่วนใหญ่มักไปไม่ถึงฝันครับ ตัวแปรคนควบคุมยากครับ จากประสบการ์ณ 4.ก็แล้วแต่ครับ ถ้าคิดว่าเจ๋งก็เอาเลย อย่าไปห้ามความฝันตัวเอง แต่ถ้าเป็นผม แค่งานแรกคือการพรีเซนตัวเองเพื่อให้ได้งาน เป็นงานง่ายๆ เรายังผ่านมันไปไม่ได้ ก็อย่าไปคิดถึงก้าวที่ใหญ่กว่านี้เลยครับ มันจะหนึเสือปะจระเข้ แต่ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมและเป็นความพร้อมทื่ไม่ได้ เกิดจากการท้อ แต่เกิดจากการเตรียมพร้อมมานาน ผมว่าลุยเลยครับ จากคุณ : BEETONG เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 00:45:24

ความคิดเห็นที่ 3   ผมเเละเพื่อนหลายคนไม่ผ่านการเป็นลูกน้องมาก่อน ตอนนี้ผมเเทบหมดตัวครับ ส่วนเพื่อนหลายๆคนก็ยังอยู่ในธุรกิจครับเเบบพออยู่ได้ ยังไม่มีใครประสพความสำเร็จขนาดนั้น ตอนนี้ผมก็ปั้นธุรกิจตัวใหม่ต่อ ไม่รู้จะล้มอีกรึปล่าวเเต่ไม่กลัวมากครับ อายุยังไม่มากล้มเเล้วหมดหาใหม่ได้ครับ เเต่ล้มตอนเเก่มีลูกลุกยากครับ เป็นลูกจ้างเนี่ยมองหาปลายทางลำบาก เงินเดือนขึ้นต่ำกว่าเงินเฟ้อเเพ้ตั้งเเต่เริ่มก็ไม่มีความหวังอะไรเเล้วสิครับ ปั้นทางตัวเองดีกว่าครับได้ประสบการณ์เเละวิสัยทัศชัดเจน เเต่เเนะว่าอย่าใส่หมดหน้าตักนะครับ สำหรับเงินประมาณที่คุณว่า เริ่มธุรกิจที่ดีได้มากมายครับ จากคุณ : PayItForward เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 03:31:00 A:58.8.233.53 X: TicketID:080681

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ 1 ก่อนทำการใด ต้องวางแผนหลัก แผนรอง รู้ตั้งรู้ถอย รู้หลบรู้หลีก ทำธุรกิจมันต้องมีความเสี่ยงอยู่แล้วครับ เริ่มแรกไม่จำเป็นอย่าเพิ่งรีบร้อนกู้ นอกจากคุณแน่ใจว่ามีรายได้เข้ามาจริงๆ คุ้มค่าคู่ควรดอกเบี้ยและความเสี่ยง 2  ต้องมีฐานที่ดีก่อน คุณทำเหล่านี้ได้ไหม... คุณไม่จำเป็นต้องเป็นลูกน้อง แต่จำเป็นต้องเป็นงาน คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนายคน แต่จำเป็นต้องเก่งคน คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ แต่จำเป็นต้องแก้ปัญหาได้รอบ 3 เหมือนเรือเปล่าๆที่มีแต่หางเสือ ไม่มีเครื่องเรือและอื่นๆ ถ้าไม่กล้าหาปลา จะได้ปลาหรือ เริ่มทำให้ตัวเองพร้อมเลยครับ ผมเชื่อว่าคุณมีศักยภาพที่จะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ 4 ถามหลายๆคน สุดท้ายคนที่น่าถามที่สุดคือตัวเองพร้อมไหม โชคดีครับ =^ ^= จากคุณ : GATOCLUB เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 04:51:51

ความคิดเห็นที่ 5   จบมาใหม่ๆ ยังไม่มีโอกาสได้เรียนรู้และเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยฉพาะต้องรู้ถึง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การวางตำแหน่งสินค้า ประโยชน์หรือคุณค่าในตัวสินค้า รวมถึงกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค การเป็นลูกจ้างและเก็บเกี่ยวหาประสบการณ์ที่ดี ทั้งเรื่องสินค้า ระบบงานขาย การตลาด จัดซื้อ จัดเก็บ/ขนส่ง แปรรูปเพิ่มมูลค่า งานบัญชี บุคลาการ และการสื่อสารกับผู้บริโภค เป็นสิ่งสำคัญ เราจะได้บทเรียนและประสบการณ์จากการทำงานเป็นลูกจ้าง รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ การเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้โดยการเป็นลูกจ้างเขาก่อนสักระยะหนึ่งแล้ว ค่อยสร้างกิจการส่วนตัวขึ้นมา จะทำให้มีต้นทุนการดำเนินงานรวมที่ต่ำลง และสามารถสกรีนลูกค้า ระดับ a b c ได้ดีกว่า ไม่ต้องลองผิด ลองถูก ทำให้เสียโอกาสในภายหน้า ขอให้โชคดีมีชัยครับ จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:29:21

ความคิดเห็นที่ 6   ผมว่านะถ้าจะทำธุรกิจนี่ห้ามยืมญาติเด็ดขาดเผื่อวันไหนเค้าอยากได้คืนก่อนกำหนดมานี่ไม่มีจะให้อาจจะต้องขายทิ้งถ้าจะให้ดีทำธุรกิจไม่มีหนี้นี่น่าจะโอเคสุด จากคุณ : ADdMUT เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 10:59:12

ความคิดเห็นที่ 7 ขอให้โชคดี ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 11:15:04

ความคิดเห็นที่ 8 ผมจบปุ๊ปก็ทำที่บ้านเลย แต่เริ่มจากทำงานทั่วไปในบริษัทก่อน เรียนรู้หลายๆอย่าง เข้าโกดังด้วย เงินเดือนก็รับแบบพนักงานทั่วไป เพียงแต่มีปันผลให้ พอแก่กล้าวิชา รู้จักคนมากขึ้นรวมถึง potential customers ก็ค่อยออกมาเปิดของตัวเอง พยายามรวบรวมลูกค้าเจ้าใหญ่ๆเงินดีๆไว้ให้หมด ตอนนีั้็โอเค ไปเรื่อยๆตามวงจรของมันแล้วครับ ไม่กู้เงินเลยครับแม้แต่น้อย ใช้วิธีการหมุึนเงินเอาในช่วงแรกๆ + ได้เครดิตจาก supplier ที่ติดต่อกันมาช้านาน รวมถึงเก็บเงินสดจากลูกค้า แรกๆก็มีหมุนไม่ทันบ้าง แต่พอสักพักก็หมุนเงินทัน ตอนนี้เริ่มให้่เครดิตลูกค้า 90 วัน แต่เก็บเช็คมาก่อน เอาเช็คไปขายให้กงสี ได้กำไร 2 ต่อ บริษัทได้กำไรมากขึ้น กงสีได้ส่วนต่างอัตราเช็ค ที่สำคัญห้ามอวดฉลาดและคิดว่าความคิดเราถูก เพราะเรามันแค่หางอึ่งเวลาเริ่มงานใหม่ๆ คนเรียนไม่จบแต่ทำงานมาก่อน ยังเกงกว่าเราเลย ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เข้าหาผู้ใหญ่เป็น คุยกับลูกค้าเป็น แข็งในเวลาที่ควร และ อ่อนในเวลาที่เหมาะสม และสุดท้าย ต้องซื้อสัตย์กับลูกค้า ถ้าเราผิดก็ต้องยอมรับและขอโทษ สัญญาเรื่องราคาซื้อราคาขายแล้วก็ต้องทำตามสัญญา อย่าเบี้ยวเรื่องเงิน จากคุณ : RMIT เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 11:21:27

ความคิดเห็นที่ 9   สวัสดีครับ ขอชื่นชมในความตั้งใจของ จขกท นะครับ หลายๆท่านข้างบน ได้ให้คำแนะนำที่ดีๆไปแล้ว สิ่งที่ผมอยากเสริมนิดหนึ่งก่อนที่จะทำธุรกิจนะครับ หลายๆคนมักมองและตั้งคำถามที่ว่าจะทำอะไรดี ทำแล้วจะเป็นอย่างไร ไปรอดใหม ควรเดินทางใหน สิ่งที่ผมอยากเสริมก็คือ จิตวิญญาณของผู้ประกอบการครับ เช่น คุณควรจะเป็นคนที่มองโอกาสเก่ง แก้ปัญหาได้ดี กัดไม่ปล่อย สู้ไม่ถอย ฯลฯ โดยเฉพาะคนที่เรียน MBA เรียนมาสูงครับ แต่ตอนเราทำธุรกิจของเราเองเราต้องถอดหัวโขนออกก่อน ควรจะทำงานเล็กๆ ตํ่าๆ เป็น แบบเถ้าแก่เริ่มสร้างตัวตั้งแต่ 0 ได้ด้วย การบริหารอยู่ข้างบนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถนำธุรกิจไปรอดได้แน่นอนครับ เป็นกำลังใจให้สู้ๆครับ ผมเองก็สร้างธุรกิจมาตั้งแต่ 0 มาหลายธุรกิจครับ สามารถให้คำแนะนำได้ครับ เพราะเขียนบอกตรงนี้คงไม่หมดแน่นอน แต่ถ้าต้องการคนคุยเรื่องด้วย Add MSN ผม Boybobig@hotmail.com ครับ จากคุณ : Bizboy เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 12:26:20 A:125.24.223.69 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากๆครับสำหรับทุกความคิดเห็น ทำให้ผมเห็นอะไรหลายด้านมากขึ้น เนื่องจากปกติผมเป็นคนค่อนข้างที่จะคิดมากพอสมควรอยู่แล้ว เนื่องจากครอบครัวค่อนข้างกดดัน แถมยังตั้งเป้าหมายตัวเองไว้ค่อนข้างสูง และมีปัจจัยหลายๆอย่างที่เข้ามาซึ่งไม่สามารถควบคุมได้อีก มันยิ่งทำให้ผมคิดมากขึ้นไปกว่าเดิม ทุกวันนี้กลายเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะก่อนจะนอนก็มักที่จะคิดอะไรไปเรื่องๆ มองหาลู่ทาง ช่องว่างต่างที่เราจะสามารถเข้าไปทำธุรกิจ จนแฟนผมเริ่มเป็นห่วง ว่าผมคิดมากเกินไป นี่เธอพึ่งจะอายุเท่าไหรเอง ผมก็ได้แต่หัวเราะ แต่ในสมองมันก็ยังคิดอยู่ดี มันห้ามไม่ได้จริงๆครับ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับที่แนะนำให้ผมเห็นแง่มุมต่างๆ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน รวยๆกันทุกคนนะครับ จากคุณ : หมีจ๋า เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 14:54:27

ความคิดเห็นที่ 11 เนื่องจากสถานการณ์คุณเหมือนผมเลยอยากมีเรื่องแนะนำครับ 1.ทุน  เอามาจากไหนครับ  ออกเอง  หุ้นกับใคร  หรือกู้มา  หากเปิดบริษัทเองเรื่องทุนนี่สำคัญครับ  ระวังการใช้เงินให้มากครับ  ช่วงแรกเน้นถือเงินสดไว้บ้างก็ดีนะครับ 2.เรื่องทีมงาน  ถ้าเป็นเพื่อนหรือคนรู้จัก  เป็นไปได้ไม่แนะนำครับ  เพราะบริหารจัดการยาก  อาจติดเกรงใจ 3.เรื่องสินค้าหรือบริการอยากให้พิจารณาว่าจะขายได้ใหม  เป็นที่ต้องการของตลาด  มีจุดเด่นกว่าคู่แข่งอย่างไร 4.ลูกค้า  จะมีใครมาเป็นลูกค้าคุณบ้างมองไว้หรือยังครับ  ถ้าเขาซื้อที่อื่นอยู่ก่อนแล้วจะทำอย่างไรเขาถึงจะเปลี่ยนใจมาซื้อกับคุณ  ส่วนมากที่ผมเห็นเขามีลูกค้ากันก่อนจะตั้งบริษัทกันนะครับ  ประมาณว่าตั้งปุ๊ปขายกันปั๊ป  แบบตั้งไปก่อนหาทีหลังอย่าคิดว่าง่ายนะครับ  อีกยาวครับเรื่องนี้ 5.เรื่องสัญญาและเวลา  รักษาไว้ให้ดีครับ  ลูกค้าจะสาย จะอะไรก็ช่างเขานะครับ  แต่เราต้องไม่สายนัดเป็นนัด  เพราะผิดครั้งเดียวนี่ลูกค้าจำจนตาย เรื่องแรงกดดันก็มีครับ  จากคนรอบข้างแต่ให้คิดซะว่าคนรอบข้างเขาหวังดีทั้งนั้นแหละครับแต่เขาไม่ได้เป็นเรา  ถ้าไม่ทำไม่เจอปัญหา  เจอปัญหาเดี๋ยวก็เจอทางแก้ครับ   สรุปครับ  คิดให้ดีแต่อย่าคิดนาน  ผมก็ยังไม่จบป.โท  แต่ก็ทำเองมาตั้งแต่ก่อนจบป.ตรีมีประสบการณ์นิดหน่อย  ที่ช่วยได้ก็แชร์ประสบการณ์  ขอให้โชคดีครับ  ถ้าสงสัยอะไรหลังไมค์ได้ครับถ้าช่วยได้จะตอบให้คับ จากคุณ : Fays (by_faith) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 20:12:55

ความคิดเห็นที่ 12 1.  ถ้าไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลย  แล้วเริ่มต้นด้วยการกู้  มันเสี่ยงมากเกินไปครับ  ประเด็นนี้สำคัญมาก  อย่าไปเชื่อพวกที่บอกว่าจะรวยต้องรวยด้วยเงินของคนอื่น ด้วยการกู้ครับ  มันไม่เหมาะกับคนจะเริ่มต้น 2. การทำธุรกิจส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกจ้างมาก่อน  พวกที่เป็นลูกจ้างแล้วประสบความสำเร็จต่างหาก ที่ปิดอนาคตตัวเองจากการเป็นเจ้าของกิจการ เพราะจะมีกุญแจมือทองคำที่จองจำตัวเองเอาไว้กับการเป็นลูกจ้างตลอดชีวิต 3.  หลักเกณฑ์ในการทำธุรกิจนะครับ   ถ้าจะทำอะไรที่เสี่ยงมาก  อย่าเอาเงินทุนทั้งหมดของตัวเองมาลง ถ้าจะทำอะไรที่เสี่ยงมาก ทำได้ แต่ต้องลงแค่เงินบางส่วนของตัวเอง ที่คิดว่าเสี่ยงได้ ถ้าจะเอาเงินลงทุนทั้งหมดของตัวเองลงไป ต้องทำในสิ่งที่ไม่เสี่ยง ถามต่อว่า อย่างไหนเสี่ยง อย่างไหนไม่เสี่ยง คำตอบก็คือ คุณต้องตอบได้ว่าธุรกิจที่คุณจะทำนั้น  ลูกค้าคือใคร, ผู้ผลิตสินค้าให้คุณคือใคร  ผู้ผลิตสินค้าให้คุณรายไหนคุณภาพดีสุดเมื่อเทียบกับราคา, คู่แข่งคือใคร, ลูกค้าต้องการอะไร ถ้าตอบพวกนี้ไม่ได้ แสดงว่าคุณยังขาดประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ (พวกทำมานานๆ จะตอบคำถามพวกนี้ได้มากกว่าคนไม่เคยทำธุรกิจนั้นๆ)  แสดงว่าเสี่ยงมาก  ก็เข้าข่ายธุรกิจเสี่ยงมาก(สำหรับคุณ) ถ้าคุณตอบพวกนี้ได้ ส่วนมากก็แสดงว่าคุณผ่านธุรกิจพวกนี้มาแล้ว นั่นคือมีประสบการณ์ค่อนข้างเยอะในธุรกิจนี้แล้ว ความเสี่ยงก็ลดลงนะครับ แต่ถ้าเริ่มทำงาน แสดงว่าทำอะไรก็เสี่ยงหมด  เพราะไม่รู้สักอย่าง  ถ้าเข้าข่ายกรณีนี้  ก็ต้องไม่ลงเงินทุนของเราทั้งหมดลงไปครับ กรณีของคุณ  ถ้าคุณไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจที่คุณจะทำ  แล้วลงเงินตัวเองไปทั้งหมดยังไม่พอ  ไปกู้มาเพิ่มอีกเนี่ย   ผมว่าเสี่ยงคูณสองคูณสามเข้าไปเลยครับ ผมคิดว่า สิ่งที่คุณจะทำ ไม่ควรเริ่มจากมองว่าจะทำอะไร แล้วไปกู้เงินมาให้ได้ทำ  แต่ควรมองว่ามีเงินเท่าที่มีเนี่ย  ทำไรได้บ้าง แล้วลงมือเริ่มต้นจากอะไรเล็กๆไปก่อน  เพราะโดยพื้นฐานการทำกิจการส่วนตัว  มันจะมีหลายๆอย่างคล้ายคลึงกันอยู่ โดยไม่เกี่ยวกับสเกลของเงินที่ลงทุนไป แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 22:13:11 จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 22:12:22

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าคุณใจร้อนเกินไป ยังไม่เคยทำอะไรมาก่อน เอะอะ อยากตั้งบริษัท โถโถโถๆๆๆ เคยเจอปัญหามาก่อนหรือเปล่าครับ แล้วรู้เหรอครับว่าถ้ามีปัญหาจะแก้ยังไง คำตอบคือคุณไม่รู้หรอก เพระไม่เคยเจอไงครับ ไปเป็นลูกจ้างเค้าก่อน เรียนงานก่อน อย่าใจร้อน จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:56:05

ความคิดเห็นที่ 14 จบปุ๊บกลับบ้านทำงานกับแม่เลย  กว่าเราจะเรียนรู้งานในฐานะนายจ้างก็เป็นปี ๆ เลย ทั้งที่เราคลุกคลีกับงานที่บ้านมาตลอดนะ  แต่พอมาทำจริงๆก็ต้องเรียนรู้เยอะมาก ต้องเรียนรู้ที่จะมีเขี้ยวเล็บเยอะ แหะ ๆ  พลาดก็หมายถึงเงินอ่ะ   ให้กำลังใจ จขกท นะ  ทุกคนต้องเรียนรู้ทั้งนั้น...มีอะไรอีกมากที่เราหาเรียนไม่ได้จากในห้องเรียน  ต้องมาลุยเอาเองจึงจะได้รู้  เรียนมาเยอะๆเท่ากับออกตัวแรงกว่าคนอื่นอยู่แล้วแต่อย่าประมาทว่าเรามีความรู้มากคะ  สู้ ๆ ๆ จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:22:41