ธ. กสิกร สำนักงานใหญ่ ... องค์กรที่ปิดโอกาสผู้มีปัญหาทางสายตา +++++ ขอคำอธิบายด้วยค่ะ +++++
|
|
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง ... มันทำให้เราจำฝังใจมาจนป่านนี้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจในการตัดสินใจรับพนักงานเข้าทำงานขององค์กรแห่งนี้ ที่เราเข้ามาโพสท์กระทู้นี้เพราะอยากถามความเห็นจากเพื่อน ๆ ค่ะ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด หรือถ้าเป็นไปได้ ขอผู้ที่เกี่ยวข้องของ ธ. กสิกรไทย สำนักงานใหญ่เข้ามาไขความกระจ่างด้วยค่ะ (หวังมากไปรึเปล่า)
เรื่องมีอยู่ว่า ตัวเราอยู่ จ. เชียงใหม่ และได้สมัครงานทาง Internet กับ ธ. กสิกรไทย สำนักงานใหญ่ และได้รับการติดต่อจากธนาคารให้เข้ามาสอบข้อเขียนและตัวเราก็สามารถผ่านการทดสอบนั้นมาได้
เราดีใจมากเมื่อได้รับการติดต่อกลับจากธนาคารให้ไปทำการสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย พร้อมกับเริ่มทำงานในวันที่ 16 เม.ย. (จำได้แม่นมาก) จากการที่ทางธนาคารบอกให้มาเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 16 เม.ย. ทำให้ตัวเราค่อนข้างมั่นใจว่าเราไม่น่าจะพลาดงานนี้ (เห็นด้วยมั้ยคะ)
แต่ ... เรื่องมันไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันเป็นสิ่งทื่เราไม่เคยคิดมาก่อน
เราเป็นคนต่างจังหวัด พอรู้ตัวว่าจะต้องเข้ามาเริ่มงานที่ กทม. ในวันที่ 16 ก็ตื่นเต้นมาก รีบเก็บข้าวของเครื่องใช้จากเชียงใหม่มาอยู่กับญาติแถววงเวียนใหญ่ ญาติเราเองก็เตรียมห้องหับไว้ให้เพราะคิดว่าเราจะมาอยู่เป็นการถาวร
แต่แล้วความตั้งใจของเราก็ต้องดับวูบลง ในวันที่มีการตรวจร่างกาย (จำไม่ได้แล้วว่าตรวจวันไหน) เราไปตรวจร่างกายที่ รพ. บางประกอก 2 ตามที่ธนาคารบอก เราไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงใด ๆ แต่เรามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับดวงตาของเราตั้งแต่ยังเป็นเด็กและไม่สามารถแก้ไขได้
ตอนที่ตรวจสายตา เพื่อน ๆ หลายคนคงเคยตรวจนะคะ คุณหมอจะให้ปิดตาทีละข้างและอ่านตัวหนังสือหรือตัวเลขที่บอร์ด เราปิดตาข้างขวาและใช้ตาข้างซ้ายอ่านออกไป ไม่มีปัญหา แต่พอคุณหมอบอกให้ปิดตาข้างซ้าย ... เราไม่สามารถอ่านได้ เพราะตาข้างขวาเรามองไม่เห็น ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เกิด พ่อกับแม่พาไปรักษาแล้วตั้งแต่เด็ก แต่การแพทย์ในสมัยนั้นไม่สามารถรักษาได้ คุณหมอจึงเขียนรายงานไปตามนั้น และให้เราถือผลการตรวจกลับไปที่ธนาคารในวันเดียวกัน
พอไปถึงธนาคาร เราก็ยื่นผลการตรวจนั้นให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล และให้เรานั่งรอสักพักใหญ่ ... มาถึงจุดนี้เราเริ่มรู้ตัวแล้วว่า ......................
มันก็เป็นจริงอย่างที่เราคิด เจ้าหน้าที่ออกมาบอกให้เรากลับไปรอคำตอบที่บ้าน ... เรายังจำภาพนั้นได้ดี ภาพที่เราเดินอย่างหมดหวังออกมาจากตึกใหญ่โตโอ่อ่า น้ำตามันไหลออกมาตั้งแต่ตัวเรายังเดินไม่พ้นจากตัวตึกนั้นเลย พอขึ้นรถเมล์กลับไปบ้านญาติที่วงเวียนใหญ่ก็มีแต่คนมองเพราะเราร้องไห้ไม่หยุด มันบังคับไม่ได้จริง ๆ เราเสียใจมาก
เสียใจเพราะเราไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่มีมาแต่เกิดนั้นได้ เสียใจที่องค์กรใหญ่อย่าง ธ. กสิกรไทย ไม่ให้โอกาสคนอย่างเรา การที่ตามองเห็นข้างเดียวนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานหรือการเรียนของเราแต่อย่างใด เราสามารถเรียนได้ดี (เราจบมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกียรตินิยมอันดับ 2) และไม่เคยให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะตาอีกข้างที่มองไม่เห็น
เราตัดสินใจกลับเชียงใหม่ทันทีในคืนนั้นเพราะมั่นใจแน่ ๆ ว่าพลาดงานนี้แน่นอน พอกลับเชียงใหม่มาได้ 2-3 วันก็ได้รับการติดต่อจากธนาคารอีกครั้งว่าเราพลาดงานนี้เพราะผลการตรวจร่างกายไม่ผ่าน
เราไม่เข้าใจว่าการที่เรามองเห็นข้างเดียวมันเป็นอุปสรรคในการทำงานในองค์กรนี้หรืออย่างไร (เราเกือบจะได้ทำในตำแหน่งสื่อสารองค์กรค่ะ) มีหลาย ๆ หน่วยงาน หลาย ๆ องค์กรที่ให้โอกาสผู้ที่มีร่างกายบกพร่องได้เข้าทำงาน แต่ทำไมธนาคารแห่งนี้จึงมีมาตรการเช่นนี้ เพื่อน ๆ เห็นว่าอย่างไรคะ
จากคุณ |
:
เอลฟ์อาบยาพิษ
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ม.ค. 53 03:48:36
|
|
|
|