ความคิดเห็นที่ 1 |
|
ช่วงปี 2551-2552 ธุรกิจท่าข้าว ไม่ดีเลยครับ ไม่มีข้าวเปลือกเข้า เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล มาทำหน้าที่แทนในการซื้อและขายทั้งหมด โรงสีข้าวทำหน้าที่เพียงรับแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ไม่ได้ซื้อเงินสด เพราะซื้อตามราคาตลาด ข้าวเปลือกราคาต่ำ เกษตรกรก็ไม่ขายให้ หากโรงสีซื้อข้าวเปลือกในราคารับจำนำก็ขาดทุน เพราะข้าวสารราคาถูกโดยเกษตรกรนำข้าวเปลือกไปเข้าโครงการจำนำ มีบ้างปะปรายที่เปิดท่า แต่ไม่คุ้มทุน มีข้าวเปลือกน้อย ธุรกิจนี้ได้ส่วนต่าง 50-100 บาท/เกวียน และได้หักสิ่งเจือปนนิดหน่อย เช่น ฟางข้าว หลายท่าที่ปิดตัวไปและประกาศให้เช่า ปี2553 ท่าข้าวน่าจะดีขึ้น เนื่องจากความต้องการข้าวสารส่งออกในตลาดต่างประเทศสูงขึ้น และได้ราคาดี แม้จะขายแพงกว่าเวียดนามถึง 100 เหรียญ/ตัน รวมถึงตลาดส่งออกข้าวนึ่งไปยังอัฟริกามีคำสั่งซื้อมากขึ้น โรงสีทางภาคอิสานบางแห่ง เปิดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร และขายมายังโรงสีภาคกลาง ได้ส่วนต่างราคาและค่าขนส่ง ไม่ต้องเปิดท่าข้าว ก็สามารถทำกำไรได้
จากคุณ |
:
หัวใจจากท้องทะเล
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ม.ค. 53 20:15:32
|
|
|
|