ความคิดเห็นที่ 1   จขกท. นะคะ คือที่บ้านเป็นคนค่อนข้างขี้กลัวนะคะ กลัวว่าไปลงทุนอันนั้นอันนี้แล้วจะขาดทุน ทำให้เป็นคนไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ จึงอยากทราบความเห็นของเพื่อนๆ พี่ๆ ชาวรัชดาว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 20:32:58 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนอื่นต้องบอกว่า ที่นี่ห้องสีลมครับ ส่วนเรื่องแนะนำ ผมก็ไม่ชัวร์ว่าจะตรงใจมั้ย ผมว่าธุรกิจให้เช่านะดีอยู่แล้ว ทำไมไม่สร้างอาคารพาณิชย์ขายหรือให้เช่าล่ะครับ เงินก็มี ไม่ต้องกู้ยืมด้วย จากคุณ : KY06 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:27:26

ความคิดเห็นที่ 3 ก็กระจายรายได้ ไงละค่ะ แต่เห็นว่าคุณทำหอพักอยู่แล้ว  น่าจะรู้ทุกอย่างในอาชีพนี้  จึงให้ทำ หอพัก เหมือนเดิม แต่ว่า.....ไปทำพื้นที่อื่น เป็นการป้องกันความเสี่ยงในทางรายได้  จากพื้นที่เดิม  ว่ามีปัญหาอย่างไร หอพักในพื้นที่อื่นไม่ได้เป็นด้วย  ก็สามารถดึงเงินมาใช้ได้  อุดช่องรายได้ที่หายไปจากพื้นที่เดิม แต่ไม่แนะนำไปอาชีพอื่น   เพราะตั้งธุรกิจใหม่ อาชีพใหม่ต้องไม่เสี่ยง  ลุยกัดฟัน   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อีกอย่างที่สามารถทำได้คือ  เปิดร้านอาหารที่หอพัก ได้ลุยงาน  ได้ปั้นระบบ  อาชีพใหม่ แต่เป็นการต่อยอดจากหอพักที่มีอยู่  ลูกค้าก็เป็นที่หอพักนั่นเองแหละ  รายได้ไม่ไปไหนเสีย  อิอิ จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:41:52

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบแบบคนอยากพักบ้างน๊ะค่ะ ไปซื้อฉลากออมสินแบบห้าปีเลยค่ะ ตัวเลขเรียงกันเยอะ โอกาสก็ถูกเยอะค่ะ ไม่กินทุนด้วยค่ะ ซื้อหลักล้าน  มีโอกาสถูกทุกงวดค่ะ อย่างน้อยๆก็ 300 บาทเลขท้ายสี่ตัว ฮ่าฮ่า ตอนนี้ลุ้นBenzเดือนละคันด้วยค่ะ   http://www.gsb.or.th/lottery/special/lottery5.php จากคุณ : เงาชีวิต เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:48:00

ความคิดเห็นที่ 5 ..ผมว่า ปล่อยกู้ เงินดีกว่าครับ แต่ก็อย่าไปเอาเปรียบเค้ามากเกินไป (อยากเป็นส่วนหนึ่งของผู้กู้ 555. อ่ะ ล้อเล่นนะครับ) เป็นผมเงินเยอะอย่างนี้ คงซื้อทองมาเก็งกำไรอ่ะครับ เรื่องหอ ยังไง ม. ก็รับ นศ เพิ่มทุกปีอยู่แล้ว demand เยอะอยู่แล้วไม่ต้องกังวล.. ยังไงทำดีซะ เค้าก็มาพัก ส่วนเรื่องไฟไหม้ คนตาย อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ คนอยู่ก่อนเรา ทวด ปู่ ย่า ตา ยาย ตายในบ้านเราก็กลัวอยู่ซักพัก อีกสักหน่อยก็คงชินไปเอง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ห่วงเรื่องทำมาหากิน ปากท้องดีกว่า ยังไงเราก็ต้องตายเหมือนกัน มันก็คงจะลำบากตอนไม่ตายนี้แหล่ะครับ 55555 กลัวตาย กับ กลัวอด ผมว่าคงกลัวอดก่อนกลัวตายแน่นอน จากคุณ : khunzola เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:53:08

ความคิดเห็นที่ 6   จขกท.นะคะ(ขอบคุณค่ะ หลายๆความเห็นค่อนข้างน่าสนใจมากค่ะ) ตอบ คุณ KY06 ปัจจุบันก็สร้างตึกแถวด้านหน้าไว้แล้วค่ะแต่ปิดทิ้งไว้ เพราะยังไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ไม่อยากให้เช่าเลย อยากทำเองมากกว่า คุณ สาวกุมภ์ คือเคยทำร้านค้าอยู่ใต้หอพักเป็นร้านชำเล็กๆ ราคาถูกกว่าหรือเท่ากับเซเว่น ปรากฏว่าขายได้น้อยมากเนื่องจากนักศึกษาชอบเข้าแต่เซเว่น กำไรแค่เดือนละไม่กี่ร้อย ต่อมาก็ปิดไป คุณ เงาชีวิต คือเคยซื้อสลากมาแล้วค่ะ แต่เป็นคนที่ไม่มีโชค ไม่มีคำว่าลาภลอย ตอนนั้นเคยซื้อทีเดียวสิบล้าน มันก็ได้รางวัลทุกงวดก็จริง แต่เป็นรางวัลที่มันหนีเราไปไม่ได้ ส่วนรางวัลที่เกินสลากที่เราซื้อครอบไว้ ไม่เคยได้เลยคะ สรุปแล้วกลายเป็นว่าได้น้อยกว่าดอกเงินฝากอีก คุณ khunzola ทางบ้านเข็ดกับการปล่อยเงินกู้แล้วค่ะ ตอนนั้นเคยรับจำนองที่ดิน 30 ไร่ 9 แสนกว่าบาท ตั้งแต่ปล่อยกู้สิบปีไปยังไม่เคยได้ดอกจากลูกหนี้แม้แต่บาทเดียว พอถึงงวดก็เหมือนมา re-finance ทำให้ยอดพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันยอดกลายเป็นยี่สิบกว่าล้าน พอฟ้องศาลเพื่อขอโอนเป็นชื่อเราเฉยๆ ลูกหนี้ก็ไม่ยอมเอาไปประกาศขายที่ไหน(ก็แน่ละตอนนี้ราคาตลาดอยู่ที่เกือบๆสิบล้าน แต่ไปประกาศขายยี่สิบกว่าล้าน)ก็ไม่มีใครเอา ตอนนี้เรื่องยังคาอยู่ที่ศาลอยู่เลย ยังอยากฟังความคิดเห็นอื่นๆอีกนะคะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 23:07:05 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 7 ร้านขายของชำ  ไม่แนะนำให้ทำค่ะ อย่างที่คุณพบ  นักศึกษาชอบเข้าเซเว่นมากกว่า  และกำไรต่อชิ้นก็น้อยมากๆๆ หากจะเปิด  ก็ไปทางร้านขายเครื่องเขียน  แต่ก็ต้องยอมรับว่าร้านขายเครื่องเขียนนั้น กำไรไม่เยอะ นานไปก็ไม่เยอะค่ะ แต่อยู่ตัวเรื่อยๆๆ เสียมากกว่า ที่เชียร์ร้านอาหารเพราะว่า  เป็นของต้องกินต้องใช้ อาหารที่ทำทุกวัน  รสมันก็คงที่  อยู่ตัวไปเอง (กรณีทำเอง) หรือจ้างพ่อครัวมาทำอาหารแล้วคุณคุมร้านอย่างเดียวก็ได้ หรือหนีไปทาง  ร้านขายไอติม ร้านขายน้ำปั่น  ซึ่งอันนี้ก็จะง่ายกว่า  ทำเองก็ได้  โดยไปเรียนสูตรตามที่มีสอน ( แต่จะกำไรน้อยกว่าอาหาร ) ร้านอาหาร  ร้านไอติม  ร้านขายน้ำปั่น กำไร ครึ่งต่อครึ่ง และเป็นของต้องกินต้องใช้  ใจอ่อนซื้อได้ง่าย ซื้อทุกวัน แต่ก็อย่างที่บอก ทำหอพักเหมือนเดิมง่ายที่สุด  โดยไปทำพื้นที่อื่น จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 23:52:37

ความคิดเห็นที่ 8 ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ เลือกก่อนว่าต้องการผลตอบแทนเป็นอย่างไร?? ค่าเงิน กอดไว้นิ่งๆๆ มันก็จะลดไปเรื่อยๆๆ (แม้ว่าฝากธนาคาร) Investment นั้น ต้องดูทิศทางว่า เราต้องการแบบไหน เช่น ลงทุนระยะสั้น กลาง ยาว ระยะสั้น เล่นหุ้น ซื้อทองคำ ซื้อหุ้น ระยะกลาง เปิดร้านค้า 7/11 ซื้ออสังหาริมทรัพย์ขายทอดตลาด ลงทุนตราสารหนี้ ซื้อสลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล ระยะยาว ปั้มน้ำมัน/Gas สร้างอาคารให้เช่า ลองคิดเผื่อไว้ครับ อุปสรรค ระยะสั้น กลาง ยาว สั้น ใครจะมาเปิดแข่งหรือไม่? กลาง จะปรับปรุงอย่างไรให้ทันสมัยน่าสนใจตลอดเวลา? ยาว จะเกิดกรณีมรดกเลือดหรือไม่? กรณีข้อพิพาทชุมชนหรือไม่? ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 00:23:17

ความคิดเห็นที่ 9 ปกติฝากธนาคารในประเทศไทย ดอกมันก็ไม่เคยะโตทันเงินเฟ้ออยุ่แล้วครับ ไม่ต้องห่วง ส่วนเรื่องการลงทุน ผมว่าครอบครัวคุณนั่นแหล่ะ ที่จะต้องมาแนะนำชาวสินธร จากคุณ : โบโซ่จำแลง เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 02:05:22

ความคิดเห็นที่ 10   จขกท.นะค่ะ ตอบ คุณ สาวกุมภ์ ตอนนี้ในใจก็มีความคิดคล้ายกันค่ะคืออยากเปิดร้านก๋วยเตี้ยว25 บาท ลักษณะเป็นรถเข็น มาวางไว้หน้าตึกแถวของตัวเองที่สร้างไว้แล้วแต่ยังปิดอยู่ เพราะเคยสังเกตุว่า นศ. ชอบกินจากพวกรถเข็น ร้านอาหารที่เปิดเป็นตึกแถวสวยๆมักอยู่ได้ไม่นาน คนไม่ค่อยเข้า หนูคิดว่าช่วงแรกอยากลองเปิดขายมื้อเย็นดูก่อน (จะได้ไม่ต้องเสียภาษีด้วย เพราะเป็นแค่รถเข็น) ถ้าwork ยังไงเดี๋ยวมารายงานเพิ่มเติมค่ะ คุณ rfu คือเรื่องการลงทุนทางอื่น ตามที่คุณแนะนำมาเช่น 7-11 (รู้สึกการแบ่งกำไรได้น้อยเกินไปนะค่ะเมื่อเทียบกับการลงทุน) พวกอสังหาริมทรัพย์ เช่นที่ดิน คือ ที่บ้านก็ซื้อไว้บ้าง กระจายกันไปรอบเมือง(รวมแล้วสามร้อยกว่าไร่)แต่ว่ายังไม่เคยขายได้สักแปลงเลยเพราะว่าถ้าแปลงไหนสวยแล้วมีคนมาติดต่อขอซื้อเราก็คิดว่าขนาดเขาซื้อไปทำธุรกิจยังคุ้มเลยก็เลยเก็บเอาไว้ทำเองดีกว่า แต่ถ้าแปลงไหนไม่สวยต่อให้โหมประกาศขายมากแค่ไหนก็ขายไม่ออก ตอนนี้ การลงทุนอีกอย่างนอกจากทำหอพัก ก็คือเก็บทองไว้เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงประมาณสิบกว่ากิโล แต่อย่างที่บอกทองคำมันค่อนข้างอันตรายเก็บไว้เยอะก็ไม่ได้ มันจึงค่อนข้างจำกัดในเรื่องปริมาณการลงทุนนี้ คือตอนนี้ที่บ้านก็มึนตึบไปหมดแล้วไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดีจากเงินฝากที่ได้ดอกน้อยมากๆ ปล.รู้สึกชื่นชมคนที่ทำธุรกิจโดยการไปกู้เงินมาทำคะ รู้สึกว่าเค้าต้องมีความสามารถในการบริหารสูงมากๆ (เช่นไปกู้มาทำธุรกิจ 8-15 % แสดงว่าธุรกิจ นั้นจะต้องให้ผลตอบแทนมากกว่า เค้าถึงอยู่ได้) ถ้าหากให้ที่บ้านไปกู้มาทำธุรกิจคงเจ๊งตั้งแต่คิดแล้วอ่ะค่ะ ขนาดจะทำให้ได้ผลตอบแทนเท่าดอกเบี้ยเงินกู้ก็เหนื่อยหืดขึ้นคอแล้ว ปล.2 การทำโรงแรม กับหอพัก ระบบต่างกันเยอะไหมค่ะ ในใจอยากลองทำ style modern apartment แต่เป็นรายวัน 380-470 บาท เป็นต้น สัก 60 ห้อง แต่ก็คิดไว้นานแล้วยังไม่กล้าทำซะที ยังไงก็ตามยังอยากทราบความเห็นมากๆหลายๆแนวทาง อยู่นะค่ะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 06:58:50 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำไปซื้ออสังหาที่ต่างประเทศ อย่างออสเตรเลีย เลือกลงทุนอสังหาที่ทำเลดีๆ CBD ในซิดนีย์ เมลเบิร์น ยังไงก็ได้ผลตอบแทนอย่างต่ำ 4 5 % มีเอเจนต์ดูแล ไม่ต้องปวดหัว และมูลค่าของอสังหาก็มีแต่ขึ้น ระยะสั้นถ้ายังคิดไม่ออก ซื้อกองทุนที่ฝากเงินต่างประเทศ หรือหาทางมาฝากเงินที่ออสเตรเลียนี่เองก็ดี ฝาก 1 ปี ดอกตอนนี้ 6.8 % ฝากnet saving ยังได้ 4 5 % เสียภาษีตามปกติแต่ถ้าไม่ใช่ resident ก็จะเสียเพิ่มอีกสิบเปอร์เซ็นต์ของดอก แต่ยังไงก็มากกว่าเมืองไทยอยู่ดี จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 07:34:09

ความคิดเห็นที่ 12 ซื้อพระเครื่องเก็บครับ ปล.ต้องมีความรู้เรื่องพระหรือมีที่ปรึกษาดีดี พระสวยพระหลัก ยอดนิยม ไม่ใช่พระใหม่ปั่น เงินเย็น เก็บยาว มีเฮครับ จากคุณ : julong เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 08:48:09

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ากลัว "ไฟไหม้ หรือมีคนฆ่าตัวตายในหอ จะทำให้ลูกค้าหนีได้ จึงยังเกรงๆว่าจะสร้างเพิ่มดีหรือไม่ + ละแวก ม. มีหอพักขึ้นมาจำนวนมาก(จริงๆจนน่ากลัว) กลัวว่าอนาคตหอพักจะเฟ้อ" สนใจจะขายหอพักไหมครับ หึ หึ หึ แซวเล่น แต่เอาจริงนะ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 09:31:27

ความคิดเห็นที่ 14 ร้านอาหารที่เปิดเป็นตึกแถวสวยๆมักอยู่ได้ไม่นาน >> เพราะสู้ค่าเช่าตึกแถวไม่ไหวค่ะ ค่าเช่าตึกแถว  10,000 บาทต่อเดือน ถือว่าถูกแล้ว  มักเจอ 25,000 บาทมากกว่า  แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ ตีเสีย15000-30000 บาท  ร้านตามตึกแถวที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ  คนยังไม่ติด  ก็เลยต้องพับเสื่อ จอดไม่ต้องแจวไปเสียเยอะนะค่ะ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ การทำโรงแรม กับหอพัก ระบบต่างกันเยอะไหมค่ะ -  ลองไปพักที่ อพาร์ทเมนต์รายวันดูซิค่ะ  อิอิ  ก็ทำให้ทราบระบบของเขาแล้ว  เราก็นำมาก็อปปี้และแอพพลายให้เข้ากับสไตล์ของเรา จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 09:34:22

ความคิดเห็นที่ 15 1. ควรต้องทำประกัน เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม หรืออื่นๆ 2. หาตัวเองก่อน   ต้องการเสี่ยงมาก น้อยแค่ไหน   ต้องการธุรกิจ หรือต้องการการลงทุน   มีเวลาดูแลแค่ไหน   ผลตอบแทนที่คาดหวัง ปีละเท่าไหร่   มีแผนการใช้จ่ายเงินอะไรยังไงบ้าง เผื่อประเมินความต้องการสภาพคล่อง เพื่อ lead ไปสู่การ   จัดสรรเงินไปลงุทนในสินทรัพย์แต่ละคลาส 3. ความคิดส่วนตัว ถ้าจะขยายธุรกิจเพิ่ม เวลายังไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าเป็นผม คงกันบางส่วนไว้เป็น cash ที่เหลือจะลงหุ้น หรือ index fund หรือทอง จากคุณ : nOth!Ng เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 11:07:31

ความคิดเห็นที่ 16   หากอยู่ชานกรุง ก็ทำธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เช่นโกดัง/โรงงานให้เช่า ทำแบบค่อยๆทำไม่ต้องกู้เงินจากธนาคาร นำกำไรสะสมหรือเงินทุนที่มีอยู่มาสร้างยิ่งถ้ามีสต็อกที่ดินเป็นของตนเอง+ผู้รับเหมาก่อสร้างจะได้เปรียบเรื่องต้นทุน อย่างต่ำลดต้นรทุนได้มากกว่า 30% ทำให้การคืนทุนได้เร็วกว่าเช่น มีสต็อกที่ดินสัก 2-3 ไร่ สร้างโกดังให้เช่าสัก 1200-3600 ตรม./หลังถ้าทำเอง ต้นทุนต่อตรม.ไม่เกิน 3,000 บาท ให้เช่าในอัตรา 60-90 บาท/ตรม. การคืนทุนอยู่ภายใน 50-60 เดือน ก่อนทำการก่อสร้างทำสัญญา จะเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เก็บค่ามัดจำ 3-6 เดือนล่วงหน้า และพออาคารแล้ว เสร็จเปลี่ยนเป็นสัญญาเช่า เพื่อลดความเสี่ยง ทำแบบนี้ก็สามารถ สร้างมูลค่าเพิ่มได้ไม่ต่ำกว่า 2% ต่อเดือน หากไม่มีสต็อกที่ดิน+ต้องจ้าง ผู้รับเหมา การคืนทุนจะไช้เวลามากกว่าเกือบเท่าตัว ธุรกิจนี้ยังพอไปได้เนื่องจากกฎหมายบังคับให้โรงงานที่อยู่ตามอาคารพาณิชย์ ออกจากพื้นที่ไปอยู่รอบๆเมือง แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 11:54:36 จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 11:52:11

ความคิดเห็นที่ 17   ข้างบนแนะนำมาเยอะแล้วครับ ผมแนะนำตามความคิดว่า หาอะไรมาต่อยอดธุรกิจ ครับ เช่น เรามีที่ เรามีหอ มีนักศึกษา ไม่มีที่ออกกำลัง ทำสนามบอลหญ้าเทียมให้เช่า คนเยอะ ไม่มีอะไรทำร้านหนังสือให้เช่า ร้านวีดีโอ คาราโอเกะ ก็ว่ากันไป บ่ายแดดร้อน คนแถวนั้นเดินร้อนๆ ร้านไอติม ร้ายขายเครื่องดื่มเย็นๆ ทุกอย่างต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างครับ เช่นกลุ่มเป้าหมาย ลักษณะพื้นที่ คู่แข่ง  และการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาก่อนลงทุน แต่ริเริ่มอยากทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลย แน่นอนครับ สู้ๆ แต่ในทางกับกัน บางที ถ้าไม่ชัวร์ ลงทุนมั่วซั่ว อยู่เฉยๆ มีเงินก็ไม่เจ็บตัวครับ รอ คห. ต่อไปครับ ปล. เงินต่อเงิน มีทุนอยู่แล้ว ไม่น่ายากครับ สู้ๆ จากคุณ : มารับฟัง เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 11:58:57

ความคิดเห็นที่ 18   จขกท. นะค่ะ ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ น่าสนใจมาก ตอนนี้ plan ร่างๆ คือที่บ้านอยากสร้างหอขึ้นมาอีกซักหลัง แล้วรอให้หอพักปั่นเงินไปประมาณ 2-3 ปี แล้วคิดว่าจะไปหาซื้อที่ในเมืองเปิดเป็นโรงแรมแบบlow cost แต่สร้างให้ดูสวย สง่า ราคา 4-500 บาท เพื่อไป share market พวกโรงแรมในเมืองดังๆที่เก็บคืนละ 800-1200 บาท ไม่ทราบว่าความคิดดังกล่าวเป็นอย่างไรบ้างคะ มีรอยโหว่ตรงจุดไหนหรือเปล่า แสดงความเห็นได้นะคะ ในช่วงนี้คงทำงานตามความฝันตั้งแต่เด็ก ว่าอยากเป็นคนขายก๋วยเตี๋ยวไปก่อน แต่คิดว่าคงทำเป็นรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนคนทั่วไปอ่ะคะ เพราะลงทุนน้อยและไม่เสียภาษี บวกกับรายรับมองดูแล้วว่ารถเข็นกับตึกแถวไม่ต่างกันมาก นิสัยการใช้เงินของคนละแวกนี้มักจะประหยัด ถ้าเปิดเป็นร้านสวยงามแล้วคนจะกลัวแพง คนไม่เข้า ยิ่งคนไม่เข้า คนก็ยิ่งไม่เข้ากันไปใหญ่(ลองสังเกตุดูว่าเวลาเราขับรถผ่านร้านอาหาร A ที่คนเยอะๆ เราก็รู้สึกอยากเข้าเพราะคิดว่าคงอร่อยและไม่แพง แต่ถ้าผ่านไปทีไรร้าน B ก็ไม่มีคนเลย เราก็จะไม่อยากเข้าไปลองเพราะกลัวจะเจอของเก่า หรือราคาอาจจะแพงคนถึงไม่เข้ากัน แม้ว่า 2 ร้านนี้ราคาและความอร่อยก็พอๆกัน) อย่างไรก็ตามการลงทุนขายกวยเตี๋ยวแบบรถเข็น กะจะแบ่งเงินไปประมาณหนึ่งแสนเป็นเงินลงทุนหมุนเวียน เพื่อให้ง่ายต่อการคิดกำไร ขาดทุน แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่คือไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเงินฝากนะคะ ซึ่งความคิดเห็นต่างๆเช่น - บูชาพระเครื่อง : อันนี้ไม่มีความรู้เลย ขอหลบดีกว่า - ทอง : คิดว่าหากซื้อเก็บไว้เยอะๆ กว่านี้จะอันตรายได้นะค่ะ - การฝากเงินต่างประเทศ : น่าสนใจดีแต่ติดที่ ไม่รู้ว่าความมั่นคงเป็นอย่างไรบ้าง รัฐบาลเป็นประกันหรือไม่อย่างไร ต้องลองค้นคว้าดูก่อนนะคะ ยังอยากทราบความเห็นมากๆหลายๆแนวทาง อยู่นะค่ะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 11:59:44 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 19   จะเป็นการเสียมารยาทไหมครับ ถ้าผมจะขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับ จขกท. เพราะรู้สึกเป็นคนมีเหตุมีผลพอควร และจากการที่มาถามอย่างนี้ก็คิดว่าอายุยังไม่น่าจะมากด้วย แต่โชคดีที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารเงินก้อนโตขนาดนี้ เพื่อเป็นประโชน์แก่คนที่เข้ามาชม เผื่อจะได้เดินตามรอยบ้าง ขอบคุณครับ จากคุณ : pneumothorax เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 12:25:32

ความคิดเห็นที่ 20   จขกท. นะค่ะ คือตอนนี้จบป.ตรีแล้ว อายุ 24 จบแพทย์ค่ะ(เลยไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับการบริหารเลย)แต่ไม่ค่อยชอบรักษาคนไข้เท่าไรนัก เรียนไปเพราะที่บ้านอยากให้เรียน แต่คนทั่วไปถ้าอ่านกระทู้นี้แล้วต้องคิดว่าเป็นลูกคุณหนูแน่เลย จริงๆแล้วเป็นคนติดดิน รถที่ขับอยู่ใช้มาจนตกรุ่นแล้วตกรุ่นอีก(โซลูน่า หยดน้ำ) ที่จริงก็อยากเปลี่ยนแต่กะจะรอให้มันเริ่มงอแงก่อน แต่มันดันไม่เคยเสียเลยนี่ซิ ยังอยากทราบความเห็นมากๆหลายๆแนวทางในการบริหารเงิน อยู่นะค่ะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 12:39:31 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 21 คุณหมอคะ ไม่ทราบว่าหอพักอยู่แถวไหนเหรอคะ อิฉันอยากได้ที่ใกล้ ๆ หอพักเพื่อขายของกินหารายได้เพิ่ม เผื่อว่าคุณหมอจะมีที่ให้เช่าราคาไม่แพงเกินไปนัก หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป อยากจะขอความกรุณาแจ้งให้อิฉันทราบทาง e-mail ได้หรือไม่คะ e-mail อิฉันค่ะ j_i_s_r_i@hotmail.com จากคุณ : มหานที เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 13:23:14

ความคิดเห็นที่ 22 ขอทราบรายได้คร่าวๆของหอพักต่อเดือนได้ไม๊ครับ ผมว่าน่าจะเยอะพอที่จะใช้ได้สบาย รวมถึงเหลือเก็บให้มันงอกเงยต่อเดือนได้เลยนะ ส่วนที่คิดว่าจะทำโรงแรมแบบนั้นน่ะ ผมว่ามาถูกทางแล้วครับ พี่ชายผมตอนแรกทำรายเดือนแล้วปรับมาทำรายวัน 10 ห้องก่อน ตอนนี้ ปรับเป็นรายวันทุกห้องเลยครับ ได้เงินเร็วแล้วก็เยอะกว่ารายเดือนมากเลย จากคุณ : prystal เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 14:37:56

ความคิดเห็นที่ 23   จขกท.ค่ะ คือข้อเสียของการทำหอพักอย่างแรกเลย คือ ไม่สามารถปิดบังรายได้ของเราได้ เนื่องจาก แค่เอา จำนวนห้อง * ค่าเช่า แต่คนทั่วไปมักลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ดูเหมือนว่าหอพักกำไรดี ซึ่งหากพิจารณาถึงค่าที่ดิน(ที่อยู่ในย่านชุมชน)+มูลค่าการก่อสร้างตึก จะรู้ว่าผลตอบแทนน้อยมากๆ ค่ะ และการทำหอพัก คนทั่วไปมักจะมองว่าสบาย แต่จริงๆแล้ว ก็ทำยากเหมือนกันนะคะ บางคนเข้ามาตอนแรกก็ดี ต่อมาจะขอโน่นขอนี่เพิ่ม เรียกใช้เราแบบไม่เกรงใจก็มีนะเช่น ทีวีไม่ชัด แล้วโทรเรียกเราเซ้าซี้ให้ตามช่างไปแก้ตอนเที่ยงคืนก็มี ทำตัวเหมือนว่าตนเองใหญ่เต็มที่ ซะงั้น(ตอนนั้น ปรี้ดแตก เลยต่อว่ากลับไปว่า เงินค่าเช่าทั้งเดือนของคุณยังเอามาสร้างบันไดซักขั้นยังไม่พอเลย เด็กถึงได้เงียบลง) แต่ลูกหอดีๆก็มีเยอะเมือนกัน และธุรกิจอีกตัวที่ยังอยู่ในความสนใจ คือเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์(show room ขายรถนะล่ะ) พวก toyota honda คือไม่ทราบว่าพวกนี้ต้องใช้เงินลงทุนเยอะไหมค่ะ แล้วจะมีซ้ำได้ไหมในต่างจังหวัดเล็กๆ ยังไงก็ตามยังอยากทราบความเห็นมากๆหลายๆแนวทางธุรกิจ อยู่นะค่ะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 15:46:53 A:202.28.25.69 X: TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 24   แหมคุณหมอขยันดีจัง เดี๋ยวผมเอาไปถามในห้องรัชดาดีกว่า ที่นั่นน่าจะมีข้อมูลเรื่องนี้พอสมควร จากคุณ : pneumothorax เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 15:50:19

ความคิดเห็นที่ 25 #18 ออสเตรเลียประกันเงินฝากทุกแบงค์ช่วงนี้ไปอีกเกือบสองปี ถ้าฝากแบงค์ Commonwealth แบงค์รัฐบาลเลยก็ดี ไม่มีทางล้ม แบงค์ใหญ่ๆอื่นก็มี NAB, Westpac เป็นต้น ศก ประเทศนี้เข้มแข็งล้มยาก จีนต้องซื้อวัตถุดิบจากที่นี่ บ่ ต้องห่วงเรื่องเงินหายเลย คุณหมอ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 15:52:25

ความคิดเห็นที่ 26 ทำ showroom รถ 20 ล้าน ไม่พออยู่แล้ว จากที่ฟังดู ไอเดีย แบบกระจัดกระจาย ขาดโฟกัส อยู่ดีๆคุณจะไปทำธุรกิจที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ไม่มี connection มาก่อน แล้วเป็นธุรกิจที่ใช้เงินเยอะเนี่ยนะ ฟังดูไม่ค่อยฉลาดเลยอ่ะ ที่ต้องทำคือ หาข้อได้เปรียบที่ตัวเองมี ถนัดอะไร มี connection กับใคร ที่ไหน ยังไง มีความรู้เรื่องไหน แล้วค่อยมาหา industry ที่สนใจ แล้วค่อยๆเจาะๆ คงไปใน sector ที่น่าจะมีโอกาส แล้วค่อยมาคิดเรื่องโมเดล กับแผน คุณถามคนในนี้ มันก็ไอเดียร้อยแปดล่ะ ทางที่ดี หาโฟกัสให้เจอ ให้ชัดเจน ทำ feasible study แล้วพอเจอปัญหา หรือติดตรงไหน ค่อยมาถามจะดีกว่ามั๊ย หรือคิดอะไรไม่ออก เอาเงินเก็บไว้ก็ไม่เสียหายอะไร จากคุณ : nOth!Ng เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 15:57:31

ความคิดเห็นที่ 27   คือผมยังไม่ได้อ่านหมดนะ ไม่รู้มีใครเสนอไปยังในเมื่อจบหมอถึงจะไม่ชอบก็เหอะทำไมไม่เอาไปเปิดคลีนิคอ่ะ วิชาชีพเต็ม ความเสี่ยงน้อยกว่าไปทำอะไรที่มันไม่ถนัดหรือไม่มีความรู้ ไม่อยากจะรักษาเองก็พาเพื่อนๆมาร่วมหุ้นก็ได้ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 16:11:34 จากคุณ : Che_Eng เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 16:10:06

ความคิดเห็นที่ 28 อยากทำร้าน กาแฟ บรรยากาศ เป็นร้านกาแฟ สไตล์ บรรยากาศดีๆ มีสวนสวยๆ ไว้ให้คนเมืองพัก แต่พอ เย็น ก็เปลี่ยนเป็น ร้านเหล้า นั่ง ชิลๆ ส่วนตัวว่า ร้านกาแฟ ค่อนข้างจะมีเยอะ แต่ถ้าหา สถานที่ดีๆ แหล่งคนเยอะ ร้านกาแฟน้อย น่าจะเวิก เพราะตอนนี้ทำงานที่คลองเตย จะมีแต่ก็ร้านกาแฟ แบบ ซื้อแล้วไป อยากนั่งชิล ดื่มด่ำกับบรรยากาศ รีเฟรช ตัวเองก่อนไปลุยงานต่อ หรือจะเอาไว้ นัดลูกค้า คุยงาน บรรยากาศดีๆ เพราะ นัดขึ้นไ ก็มีแต่ โต๊ะ พนักงาน บรรยากาศ ไม่น่าชวนเป็นมิตร เท่าไหร่ อันนี้เป็น ความคิดผมที่อยากทำนะ แค่แชร์ ความคิด แต่ถ้าจะให้ตอบโจทย์ จขกท. ผมว่า ควรทำ อาคารให้เช่า สำหรับ ออฟฟิส น่าจะเวิร์ก แต่ก็อยู่ที่โวน ด้วยนะ จากคุณ : พังพอนลิ้นไฟ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 16:14:16

ความคิดเห็นที่ 29 กระจายการลงทุนสิครับ 1. ซื้อพันธบัตรรัฐบาล (น่าจะออกเดือน มี.ค-เม.ย.) หรือขอซื้อต่อจากคนที่ซื้องวด ก.ค. 52 ก็ได้ครับ  ดอกเบี้ยหักภาษีแล้วเหลือประมาณ 3.5% 2. ฝากสหกรณ์  เช่นสหกรณ์ ร.พ.ตำรวจ  ดอก 3% กว่าๆต่อปี เหมือนกัน 3. ซื้อสลากออมสิน  ซื้อสัก 1 ล้าน  ถือ 5 ปี  ได้ดอกเบี้ยอย่างต่ำ 2.25% ต่อปี (ถ้าถูกรางวัลใหญ่ก็ได้เพิ่มขึ้นอีก) 4. ซื้อหุ้นกู้  เลือกบริษัทที่ความน่าเชื่อถือสูงๆหน่อย A , AA , AAA ประมาณนี้อะครับ  ดอกเบี้ย 4-7 % ต่อปี 5. ซื้อทองแท่งมาเก็บไว้ 6. ซื้อกองทุนทองคำ เช่น K-GOLD 7. ซื้อกองทุนตราสารหนี้  หรือกองทุนตลาดเงินภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำมากๆ เช่น K-MONEY , K-TREASURY , SCBTMF , SCBSFF 8. ฝากประจำ 24 เดือน ปลอดภาษี หรือ ฝากประจำ 24-36 เดือน 9. ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์  แบบ 5/10 , 6/10 ก็ได้ครับ  ลองเลือกๆดู  ผลตอบแทนก็ราวๆ 3-4% ต่อปีครับ 10. แบ่งเงินมาลงทุนในธุรกิจที่ถนัด กระจายการลงทุนประมาณนี้ครับ  เงิน 20 ล้านบาท  จริงๆเรียกได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้วถ้าบริหารเป็น  ไม่ต้องทำงานก็มีรายได้พอเลี้ยงตัวครับ   เฉพาะแค่ดอกเบี้ยจากการกระจายการลงทุนแบบนี้ก็น่าจะได้ปีละ 3-4 % คิดเป็น 6-8 แสนบาท ต่อปี  หรือ 50,000 - 66,667 บาท ต่อเดือนครับ (อยู่ได้สบายๆโดยไม่ต้องทำงานครับ) แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 16:54:39 แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 16:46:35 แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 16:44:03 จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 16:42:36

ความคิดเห็นที่ 30 ปลูกบ้านขาย ทาวเฮาน์ บ้านเดียว น่าจะดีนะ จากคุณ : ขอร้องอย่าชม เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 16:53:30

ความคิดเห็นที่ 31 ต้นทุนสูงอยู่แล้ว แนะนำเปิดคลินิกความงาม ลงทุนไม่มากถึง 20 ล้านแต่สามารถหาได้ 20 ล้านไม่ยาก เริ่มแรกก็ไปเป็นลูกจ้าง 1-2 ปีเรียนรู้ทุกๆอย่างก่อนแล้วค่อยออกมาเปิดเอง ทำในสิ่งที่ถนัดที่สุดจะได้ผลดีที่สุดครับ จากคุณ : thongchai9309 เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 16:54:06

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยเรื่องคลินิกความงาม  คุณหมอก็ไปเรียนเฉพาะทางอีกสักที ระหว่างนี้ก็ทำแพทย์ไปก่อน   พอได้ความรู้เต็มที่ ศึกษางานครบทุกด้าน ผมว่าหมอผิวหนังเนี้ย กำลังและการลงทุนน่าจะคุ้มค่านะครับ จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 17:58:45

ความคิดเห็นที่ 33 ผมทำหอพักอยู่แถวมหาวิทยาลัยเหมือนกัน เข้าใจความเสี่ยง และปัญหาเป็นอย่างดี ถ้าพอมีที่ดินอยู่ตามแหล่งที่คนเดินทางผ่านประจำ ปลูกตึกทำห้องพักรายวันน่าสนมาก ยิ่งคุณรู้งานบริหารหอพักอยู่แล้วยิ่งง่าย กำไรกว่าหอพัก 2 เท่าขึ้นไปครับ ส่วนพวกที่ต่อยอดจากหอพัก ร้านขายของ ขายข้าว กาแฟ ขนม เท่าที่สังเกตุจากหอพักในระแวกเดียวกัน ไม่ดีเท่าที่ควร ลูกค้าจะใช้บริการร้านของเราก็ต่อเมื่อไม่ต้องการจะไปข้างนอกจริงๆ ผมทำแค่เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ยังมีปัญหาให้แก้ไม่หยุด คิดจะซื้อทองเก็บไว้เหมือนกัน ติดที่เงินมันเป็นของกงสี ไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ อีกอย่างผมพึ่งลงทุนมาได้แค่ไม่ถึง 3 ปี เงินยังกลับมาน้อยมากครับ นาทีนี้อยากกระจายความเสี่ยงไปทำอย่างอื่นเช่นกัน ยังหาที่เหมาะไม่ได้ แถวที่ผมอยู่ธุรกิจคอนโดยังพอไปได้ และกำไรยังดีอยู่ครับ แต่ไม่ใช่ทางเลือกของครอบครัวผม จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 18:07:04

ความคิดเห็นที่ 34   ผมตอนนี้ก็อยากทำ หอพัก เปิดร้านเกมส์ แถวมหาวิทยาลัย เหมือนกันแต่ผมติดเรื่องไม่มีเงิน ตอนนี้ก็กลุ้มอยู่ครับว่าจะหาเงินจากไหนมาทำจะกู้มาก็ไม่มีอะไรค้ำประกัน เพราะเพิ่งจบ ทางบ้านไม่มีทุน ต้องดิ้นรนเอง จากคุณ : 230js เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 19:05:21 A:110.169.33.109 X: TicketID:247898

ความคิดเห็นที่ 35   จขกท. นะคะ น้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ ตอนแรกไม่ได้บอก คือกำลังรอ train skin อยู่ค่ะ แต่จะเริ่มประมาณกลางปีนู่น ตอนนี้เลยว่าง จึงคิดอยากจะมาจัดการ วางแผนการเงินน่ะคะ กลัวตอนไป train จะไม่ว่าง คร่าวๆตอนนี้มีรายได้ประมาณ 7-8 ล้านต่อปี ตอนนี้ถ้าลงมือสร้างหอเพิ่มอีกซักหลัง(ใช้เวลาสร้างประมาณ 9 เดือน) ถึงตอนนั้นรายได้น่าจะไปอยู่ที่ 9-10 ล้านต่อปี จากนั้น รอไปอีกสัก 3-4 ปีก็ไปสร้างโรงแรม low cost (ซึ่งคำนวณว่าถ้ามีคนมาพัก 50 % ปีนึงน่าจะขึ้นมาอีกประมาณ 3-4 ล้าน) ซึ่งช่วงเวลานั้น หนูก็ train skin จบพอดี กะว่าจะเปิดคลินิกที่ตึกแถวที่หน้าหอพักหนูเอง เพราะย่านนั้นมีนักศึกษาเยอะเหมือนกัน คือหนูและครอบครัวเป็นคนที่มีความคิดหรือ plan ทางการเงินค่อนข้างแคบมากน่ะค่ะ จึงคิดได้แค่ธุรกิจ หอพัก-โรงแรม-คลินิก ส่วนรถเข็นกวยเตี๋ยว ก็คงจะยกให้ลูกน้องที่เคยเป็นพี่เลี้ยงหนูตั้งแต่เด็กเป็นคนคุมกิจการแทน อยากทราบว่า plan ดังกล่าวข้างต้น พอจะมีโอกาสสำเร็จมากน้อยแค่ไหนค่ะ เผื่อถ้าท่านใดเห็นว่าควรปรับปรุงตรงไหน จะได้รีบแก้ไขแต่เนิ่นๆน่ะคะ แต่หนูอยากทราบอีกว่าจะมีธุรกิจอื่นๆอะไรบ้างคะที่ลงทุนแล้วน่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่า plan ข้างบนคะ จะได้เอาความเห็นไปเสนอกับครอบครัวนะค่ะ จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 19:10:09 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 36 ทำอสังหากับเปิดคลินิกดีแล้วครับ  จขกท. เงินเก็บ/รายได้ต่อปีเยอะมาก  ต้องจับธุรกิจใหญ่ๆ เช่น อสังหา (บ้าน  คอนโด  หอพัก  โรงแรม  รีสอร์ท)  เงินลงทุนหลักล้าน  ขายของทั่วไปไม่เหมาะแล้วครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 19:18:02

ความคิดเห็นที่ 37 แอบสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเรียนต่อของคุณ จขกท นิดนึงครับ (ขอโทษนะครับที่ไม่เกี่ยวกับคำถามของ จขกท) คือ จขกทเพิ่งจบก็แปลว่ายังไม่ได้ไปใช้ทุน แล้วจากประโยค "จากนั้น รอไปอีกสัก 3-4 ปีก็ไปสร้างโรงแรม low cost (ซึ่งคำนวณว่าถ้ามีคนมาพัก 50 % ปีนึงน่าจะขึ้นมาอีกประมาณ 3-4 ล้าน) ซึ่งช่วงเวลานั้น หนูก็ train skin จบพอดี" ซึ่งก็แปลว่า จขกท น่าจะเรียน board skin แต่ board skin นั้น ต้องมีทุน หรือถ้าfree train ก็น่าจะต้องใช้ทุนมาแล้วอย่างน้อย 3ปี คือผมอยากทราบว่า จขกท ได้trainที่สถาบันไหนอ่ะครับ (ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จขกท ถามเลย) ขออนุญาต แนะนำ จขกทนิดนึงครับ จขกท ลองคิด กำไรต่อเงินต้นที่ลงทุนดูครับ ส่วนตัวผมมองว่าการลงทุนอะไรก็ตามที่ได้กำไรซัก20%ขึ้นไปก็ถือว่าธุรกิจนั้นดีมากๆแล้วครับ ซึ่งการลงทุนในหอพักที่บ้านจขกททำอยู่ก็น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีทีเดียว จขกททำในสิ่งที่มีความชำนาญดีกว่าครับ แม้จขกทคิดว่าสร้างหอพักจะมีปัญหาเยอะ แต่ปัญหาเหล่านั้นก็น่าจะคล้ายๆกับปัญหาที่เกิดกับหอพักเก่า ซึ่งน่าจะมีทางแก้ปัญหาไว้แล้ว ดีกว่าไปทำธุรกิจใหม่ๆที่ได้ผลตอบแทนเยอะก็จริงแต่ก็อาจก่อให้เกิดความเครียดมากมาย ผลตอบแทนมากก็ได้ความเสี่ยงมากครับ ผมว่าสร้างหอพักนี่แหละครับ (แล้วหาเวลาไปเที่ยวพร้อมหน้ากับครอบครับ ตั้งแต่ขึ้นปี4จนเป็น extern จขกทได้อยู่กับครอบครัวปีนึงซักกี่วันครับ ^^ ) จากคุณ : TONY_C เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 23:19:49

ความคิดเห็นที่ 38   เรียนคุณ TONY_C คือหนูไม่ได้จะไปเรียน med นะคะ (อย่างที่บอกหนูไม่ชอบดูคนไข้โดยเฉพาะแบบที่ severe พวก med ,surg, Ped,Obs) แต่ที่บอกว่าใช้เวลา 3-4 ปีหนูคิดตั้งแต่ไป train ทั่วไปที่กรุงเทพ 2 ปี จากนั้นกะจะหา ปสก. อีก 1-2 ปี จากคุณ : กลัวเงินเฟ้อ เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 04:23:44 A:172.17.197.182 X:61.19.199.142 TicketID:249753

ความคิดเห็นที่ 39 ลืมธุรกิจสำคัญที่หน้าหอไปได้อย่างไร เปิดร้านถ่ายเอกสาร เข้าเล่ม รับพิมพ์งานซิครับ บางคนจบมาได้เพราะร้านถ่ายเอกสารนี่แหละ อีกอย่างนึงที่ส่วนตัวผมอยากทำแต่ไม่ได้เป็นหมอเลยทำไม่ได้คือ ศูนย์ฟอกเลือด ล้างไต แถวบ้านผมเป็นโรคไตกันเยอะ มี Idea จะแนะนำอย่างนึง หอพักขนาดใหญ่ที่ จขกท มีอยู่น่าจะมีขยะที่ recycle ได้ปริมาณมาก ลองจัดระบบเก็บขยะ recycle ขาย เดือนนึงได้เยอะนะครับ จากที่เคยเข้าไปซื้อส่วนใหญ่จะมีพวกพลาสติก กระดาษ ขวดแก้ว กระป๋อง คัดแยกดีๆเดือนนึงได้เงินหลักหมื่นนะครับ เอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตให้เด็กในหอเล่นฟรี โดยมีเงื่อนไขให้เค้าแยกขยะใส่ตามถังให้เรา ก็ WIN-WIN Happy ทั้งสองฝ่าย ช่วยลดโลกร้อนด้วย แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 53 11:18:48 จากคุณ : DoraeMa เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 10:43:43

ความคิดเห็นที่ 40 รายได้ขนาดนี้ อย่าคิดไปทำร้านก๋วยเตี๋ยว ขายของชำ ร้านกาแฟเลยครับ หาที่ทำโรงแรมแล้วก็เปิดคลินิคน่ะถูกต้องที่สุดแล้ว บางที ไม่ต้องกว้างมากก็ได้ครับ ทำสิ่งที่แล้วทำได้ดี ให้มันดีที่สุดก็พอ คนเป็นหมอ ก็ทำแต่อาชีพหมอทั้งชีวิต บางคนไม่ได้ไปทำอย่างอื่น ก็รวยมากๆๆๆ แล้วนะครับ ไม่ต้องกลัวหรอกเงินเฟ้อ รายได้ขนาดนี้ จากคุณ : prystal เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 08:29:36

ความคิดเห็นที่ 41 อยากรวยมั่งโxยยยย จากคุณ : ขอร้องอย่าชม เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 01:53:48