ความคิดเห็นที่ 1 เคยเปิดร้านกาแฟค่ะ แต่ปิดไปแล้ว เปิดแถวราม 120 กับที่เวียดนาม ขายดีค่ะ ที่ปิดเพราะความที่ขายดี เจ้าของที่เลยไม่ให้เช่า ขายเอง แต่ตอนนี้ เจ๊ะแกก็ไม่ขายแล้ว เพราะเค้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกาแฟ ส่วนที่เวียดนามนี่ ขายกิจการไปค่ะ เพราะเราไม่มีเวลาไปดูแลอีกทั้งปัญหาหลาย ๆ อย่าง ๆค่ะ จากคุณ : ajstar เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:53:20

ความคิดเห็นที่ 2   เรียนรู้ว่า 1 การยื่นดูอยู่ภายนอกกับการลงไปทำนั้นคนละเรื่องครับ 2 การจะทำธุรกิจอะไรนั้นให้คิดว่า ตัวเรามีค่าตัวเท่าไหร่ และธุรกิจนั้นให้ผลตอบแทนสมกับค่าตัวเราไหม ห้ามไม่ให้ไม่คิดค่าตัวนะครับ เพราะเราต้องกินต้องอยู่ ไม่งันทำๆ ไม่ค่อยมีกำลังใจหรือแรงลงไปต่อสู้กับมัน และหันไปสนใจอย่างอื่นแทน 3 รู้จักคำว่า Footprint ไม่เคยคิดมาก่อนเลย คิดแต่ว่าที่ตั้งเราทำเลดี คนเยอะ โปรไฟล์ลูกค้าดี แต่ลืมดูไปว่า จุดที่เราจะเปิดกิจการตรงนั้นเป็นทางที่ลูกค้าเราผ่านหรือไหม ง่ายๆครับ คือการมองโลเคชั่นนั้นต้องละเอียดจริงๆ 4P ทั้งหมดเลย 4 เรียนรู้การตกแต่งกิจการเพื่อขายต่อให้ผู้อื่นที่สนใจ การรวบรวมจุดเด่นแล้วนำเสนอ เพื่อให้ผู้ซื้อเห็นแล้วมองความจุดด้อยไปนะครับ ประมาณนั้นแบบรวบรัด จากคุณ : tee_1706 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:55:03

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เคยครับ แต่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจ ดูๆไว้อยู่หลายตัว ทุน/สถานที่/ประเภทธุรกิจ ที่ดูๆไว้นี้แตกต่างกันสิ้นเชิง แรกๆก็อย่างนี้แหละครับ กลัวๆ กล้าๆ แต่ถ้ามั่วกลัวก็ไม่ได้เริ่มกันพอดี ทางที่ดีก่อนทำเราต้องทำการบ้านให้ดีที่สุด อุดรูรั่วให้ได้มากที่สุด ดูจุดบอด ที่เรามองไม่เห็น คำนวนค่าใช้จ่ายรายเดือน แล้วลองประเมินยอดขาย กำไรต่อวันดู ว่าพอไหวไหม แล้วต้องกำหนดว่าจะทดลองดูนานแค่ไหน เช่นบอกว่าขอเวลา 9 เดือน ถ้า 9 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้นจะแก้อย่างไง จะเลิกหรือว่าปรับปรุงอย่างไง ต้องคิดไว้หลายๆชอย์ ครับ หลายๆแผน เวลาเจอจริงๆจะได้ทำตามแผนที่ว่างไว้ครับ สู้ๆ จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:56:14

ความคิดเห็นที่ 4 มันมีเหตุจึงมีผล แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 00:20:42 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:06:05

ความคิดเห็นที่ 6   เจ๊ง --------- สะกดแบบนี้ค่ะ เจ๋ง = เยี่ยม   ถ้าไม่เคยเจ๊ง ..............  ก็ไม่มีวันเจ๋ง    แน่ๆ .... ป. อิฉันเจ๊งมา ... จนขี้เกียจนับแล้วค่ะ .....  เหอๆๆ จากคุณ : PaNok@WanDeRer เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:26:42

ความคิดเห็นที่ 7 ตั้งแต่จบมา ห้า หก ปี ขาดทุน ไม่เป็นท่าทุกโครงการค้าขาย สิ่งที่เรียนรู้ 1.ค้าขายไม่หมู อย่างที่เรามอง 2.ไอ้เค้าๆหรือพวกแม่ค้าที่ชอบเล่าให้เราฟังว่า กำไรอย่างนั้น อย่างนี้ ได้เงินวันละเท่านั้น เท่านี้ ละส่วนใหญ่ไม่จริง เพราะพวกกำไรจริงมักจะไม่ค่อยยอมบอกเรา กลัวเราไปทำ 3.ค้าขายบางอย่าง จำเป็นต้องใช้ know how และฐานลูกค้า ประจำตระกูล 4.ค้าขาย ปีแรก อย่าเพิ่งไป สนใจเรื่องกำไร มากนัก (ขายได้ มันก็ได้) ให้สนใจเรื่องรายจ่าย หากขายไม่ได้เลยสักวัน ว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไรให้ธุรกิจหรือร้านเรา ซื้อโอกาสอยู่ต่อไปได้(ควรกำหนด แผนรายจ่ายในกรณีร้านไม่มีรายได้เลย ว่าอยากจะลองสัก กี่วัน กี่เดือน กี่ปี กำหนดเป็นตัวเงินจริงๆมาเลยว่าพอไหม) 5.ให้ระวัง พวกพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน ที่ชอบมาแนะนำ หรือชอบคุยว่าร้านเค้าขายดี ขายได้ แต่เค้าไม่มีเวลาทำ จะเซ้งให้น้อง ถูกๆ (ระวัง ระวัง) 6.ไม่ว่าคุณตั้งใจจะขายอะไร หากผ่านข้อที่ผมกล่าวข้างต้นมาได้ รับกับมันได้ คุณก็ต้องมาเจอกับความเป็นจริงหากมัน ขายไม่ได้เลย สักบาท หากเสื้อผ้า ไม่เน่าไม่เสีย ก็พอทน หากของกิน ส่วนใหญ่อาจต้องเททิ้งหรือไล่แจกเพื่อนบ้านทุกวัน    คุณพร้อมจะรับอารมณ์ทางจิต ที่คุณยืนทั้ง วันแล้วขายได้ไหม  ไปเปิดร้านทุกวัน แต่ขายไม่ได้ เป็นอย่างนี้หลายเดือน มีแต่หลายจ่าย(บอกตรงๆ ใครไม่เคยไม่มีทางรู้หรอกครับว่าทั้งทรมาณและอาย) 7.ข้อนี้จะเป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อด้านบน ด้วยความทุกข์ทรมาณบวกกับดิ้นรนอยากแก้ปัญหา ความฟุ้งซ่านจะเริ่มเข้ามา ความคิด ต่างๆ ขยาย ลาย เปลี่ยนธุรกิจดี ปรับปรุงร้านดี  ลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้ต้นทุนต่ำกว่า ขอเตือนว่า ไม่ว่าจะอะไร คุณอย่าทำตามไปด้วยอารมณ์เหล่านี้ เพราะมันจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เราแย่หนักเร็วขึ้น โปรดใช้สติให้มาก 8.โปรดจงทำแผนธุรกิจให้ดี  วางแผนแก้ปัญหาล่วงหน้าไว้ให้พร้อม ไม่ว่าโครงการของคุณจะเล็กแค่ไหน หากมันจะขาดทุนให้ขาดทุนบนกระดาษ เงินจะน้อยแค่ไหนยังไงก็เงิน เสียแล้ว เอาคืนยากมาก 9.เชื่อไหมว่ามีพ่อค้าแม่ค้าหลายคน กำลัง ทำธุรกิจหรือค้าขาย ขาดทุนแบบสะสม โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว คุณลองมองดูนะว่า แถวๆบ้านคุณมีไหม ธุรกิจประเภท ยอดขาย ดีขึ้นทุกวัน สั่งของเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยรวมดูดีมาก นับเงินกันไม่ทัน รายได้ไม่ขาดมือ แต่ภายใน ต้นทุนแปรผันและค่าใช้จ่ายต่างๆ เบ็ดเตล็ดในธุระกิจ เพิ่มขึ้นตามขนาดของธุรกิจและยอดขายคุณ หนีสินเริ่มเพิ่มพูนในอัตราก้าวหน้า กำไรส่วนต่างน้อยลงทุกที  เงินหมุนไม่ทัน ชักเริ่มต้องหาเงินจากข้างนอกมาใส่ธุรกิจ ถ้าเป็นแบบนี้ อันตรายมากครับ หากวันใดที่ ดีมานเปลี่ยน เราเปลี่ยนไม่ทันลูกค้า เราตาย ยอดขายลด เราตาย อะไรก็ตามที่ทำให้ธุรกิจเราต้องหยุดขาย เราตาย เช่นกัน ขอให้มองดูให้ดีครับ ว่าธุรกิจที่คุณจะทำเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ โปรดระวัง 10.หลังจากที่ผ่านมาทั้งหมดของผมคือ โดยนิสัย ของผมและแฟน ไม่ควรจะทำค้าขายเลยครับ นิสัย ความเป็นตัวตนของคุณ ความชอบคุณ การเงินของคุณ แล้ว ไอ้ที่คุณชอบ ในความเป็นจริง มันขายได้ไหม การมองโลกแง่ดี เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่มันจะร้ายมาก หากคุณใช้มันผิดจังหวะ อยากให้มองโลกอย่างที่มันเป็น มองไปตามความจริงครับ จะทำสิ่งใดขอให้ประสพความสำเร็จนะครับ จากคุณ : ช้างทมิฬ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:48:42

ความคิดเห็นที่ 8 ตั้งแต่จบมา ห้า หก ปี ขาดทุน ไม่เป็นท่าทุกโครงการค้าขาย สิ่งที่เรียนรู้ 1.ค้าขายไม่หมู อย่างที่เรามอง 2.ไอ้เค้าๆหรือพวกแม่ค้าที่ชอบเล่าให้เราฟังว่า กำไรอย่างนั้น อย่างนี้ ได้เงินวันละเท่านั้น เท่านี้ ละส่วนใหญ่ไม่จริง เพราะพวกกำไรจริงมักจะไม่ค่อยยอมบอกเรา กลัวเราไปทำ 3.ค้าขายบางอย่าง จำเป็นต้องใช้ know how และฐานลูกค้า ประจำตระกูล 4.ค้าขาย ปีแรก อย่าเพิ่งไป สนใจเรื่องกำไร มากนัก (ขายได้ มันก็ได้) ให้สนใจเรื่องรายจ่าย หากขายไม่ได้เลยสักวัน ว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไรให้ธุรกิจหรือร้านเรา ซื้อโอกาสอยู่ต่อไปได้(ควรกำหนด แผนรายจ่ายในกรณีร้านไม่มีรายได้เลย ว่าอยากจะลองสัก กี่วัน กี่เดือน กี่ปี กำหนดเป็นตัวเงินจริงๆมาเลยว่าพอไหม) 5.ให้ระวัง พวกพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน ที่ชอบมาแนะนำ หรือชอบคุยว่าร้านเค้าขายดี ขายได้ แต่เค้าไม่มีเวลาทำ จะเซ้งให้น้อง ถูกๆ (ระวัง ระวัง) 6.ไม่ว่าคุณตั้งใจจะขายอะไร หากผ่านข้อที่ผมกล่าวข้างต้นมาได้ รับกับมันได้ คุณก็ต้องมาเจอกับความเป็นจริงหากมัน ขายไม่ได้เลย สักบาท หากเสื้อผ้า ไม่เน่าไม่เสีย ก็พอทน หากของกิน ส่วนใหญ่อาจต้องเททิ้งหรือไล่แจกเพื่อนบ้านทุกวัน    คุณพร้อมจะรับอารมณ์ทางจิต ที่คุณยืนทั้ง วันแล้วขายได้ไหม  ไปเปิดร้านทุกวัน แต่ขายไม่ได้ เป็นอย่างนี้หลายเดือน มีแต่หลายจ่าย(บอกตรงๆ ใครไม่เคยไม่มีทางรู้หรอกครับว่าทั้งทรมาณและอาย) 7.ข้อนี้จะเป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อด้านบน ด้วยความทุกข์ทรมาณบวกกับดิ้นรนอยากแก้ปัญหา ความฟุ้งซ่านจะเริ่มเข้ามา ความคิด ต่างๆ ขยาย ลาย เปลี่ยนธุรกิจดี ปรับปรุงร้านดี  ลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้ต้นทุนต่ำกว่า ขอเตือนว่า ไม่ว่าจะอะไร คุณอย่าทำตามไปด้วยอารมณ์เหล่านี้ เพราะมันจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เราแย่หนักเร็วขึ้น โปรดใช้สติให้มาก 8.โปรดจงทำแผนธุรกิจให้ดี  วางแผนแก้ปัญหาล่วงหน้าไว้ให้พร้อม ไม่ว่าโครงการของคุณจะเล็กแค่ไหน หากมันจะขาดทุนให้ขาดทุนบนกระดาษ เงินจะน้อยแค่ไหนยังไงก็เงิน เสียแล้ว เอาคืนยากมาก 9.เชื่อไหมว่ามีพ่อค้าแม่ค้าหลายคน กำลัง ทำธุรกิจหรือค้าขาย ขาดทุนแบบสะสม โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว คุณลองมองดูนะว่า แถวๆบ้านคุณมีไหม ธุรกิจประเภท ยอดขาย ดีขึ้นทุกวัน สั่งของเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยรวมดูดีมาก นับเงินกันไม่ทัน รายได้ไม่ขาดมือ แต่ภายใน ต้นทุนแปรผันและค่าใช้จ่ายต่างๆ เบ็ดเตล็ดในธุระกิจ เพิ่มขึ้นตามขนาดของธุรกิจและยอดขายคุณ หนีสินเริ่มเพิ่มพูนในอัตราก้าวหน้า กำไรส่วนต่างน้อยลงทุกที  เงินหมุนไม่ทัน ชักเริ่มต้องหาเงินจากข้างนอกมาใส่ธุรกิจ ถ้าเป็นแบบนี้ อันตรายมากครับ หากวันใดที่ ดีมานเปลี่ยน เราเปลี่ยนไม่ทันลูกค้า เราตาย ยอดขายลด เราตาย อะไรก็ตามที่ทำให้ธุรกิจเราต้องหยุดขาย เราตาย เช่นกัน ขอให้มองดูให้ดีครับ ว่าธุรกิจที่คุณจะทำเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ โปรดระวัง 10.หลังจากที่ผ่านมาทั้งหมดของผมคือ โดยนิสัย ของผมและแฟน ไม่ควรจะทำค้าขายเลยครับ นิสัย ความเป็นตัวตนของคุณ ความชอบคุณ การเงินของคุณ แล้ว ไอ้ที่คุณชอบ ในความเป็นจริง มันขายได้ไหม การมองโลกแง่ดี เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่มันจะร้ายมาก หากคุณใช้มันผิดจังหวะ อยากให้มองโลกอย่างที่มันเป็น มองไปตามความจริงครับ จะทำสิ่งใดขอให้ประสพความสำเร็จนะครับ จากคุณ : ช้างทมิฬ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:50:03

ความคิดเห็นที่ 9 ความเห็น 7 กับความเห็น 8 ประสบการณ์คล้ายคลึงกันมากเลยครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:45:07

ความคิดเห็นที่ 10 ทำธุรกิจของตัวเอง ต้องมีความอดทนมากๆ ต่อข้อครหา เวลาขายไม่ได้ ขายไม่ดี และคนรอบข้าง หรือคนในครอบครัว บางทีไม่เป็นกำลังใจให้ แถมมาบอกว่าทำไปทำไม ไม่ไปหางานประจำยังจะดีกว่าอีก และทั้งอุปสรรค เรื่องเงิน เรื่องบัญชี คำนวณรายรับ รายจ่าย สารพัดที่ต้องเอามาคิด... ซึ่งการทำธุรกิจแล้วเจ๊งก็มีข้อดีนะ มันทำให้เรารู้ว่าเราจะไม่พลาด หรือทำผิดเป็นซ้ำสอง จะไม่ทำอย่างที่เคยทำมา คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น... อย่างเราเองเคยออกงานมา ทำของธุรกิจของตัวเอง ไม่มีการวางแผนธุรกิจที่ดีพอ คิดแต่ว่า ค่อยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เดี๋ยวมันก็ดีเอง สุดท้าย ทุนหาย กำไรหด  ต้องกลับมาทำงานประจำเหมือนเดิม จากคุณ : ดีไซเนอร์รุ่นเล็ก เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:53:02

ความคิดเห็นที่ 11 ทำธุรกิจ ครั้งแรก ตอนอยู่ มหาลัย ปี 2 ครับ กู้เงิน แม่มา 3000 กว่าบาท แล้วก็เอาแผนไปให้แม่ดูว่า กำไรแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ เจ้งครับด้วยข้อมูลที่ผิวเผิญ แต่ความเป็นจริง มันไม่ใช่อย่างที่คิด มืดแปดด้าน ทำไม ๆ ๆ ๆ จากคุณ : โบโซ่จำแลง เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:34:52

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนมาก เศรษฐึทุกคนเคย ทั้งสำเร็จและล้มเหลว น้อยคนนักที่มีธุรกิจชิ้นแรกแล้วจะประสพความสำเร็จเลย   ผม ก็เคยทั้งล้มเหลว และ สำเร็จ   ก่อนทำต้องเก็บข้อมูลอย่างดี และอย่าเข้าข้างความเชื่อของตัวเองมากไป หากเป็นธุรกิจเดิมๆที่มีอยู่ในตลาด ก็ควรจะต้องมีอะไรที่ดีกว่าคนอื่นอยู่ หนึ่งก้าวเสมอ     แล้วตั้งคำถามตลอดเวลาว่า ทำไม "ลูกค้าจะต้องซื้อกับเรา" ถ้ามั่นใจแล้วก็ทำเลยครับ  ดีกว่าไม่ได้ทำเพราะมัวแต่กลัว  .... แต่ต้องเผื่อทางหนีทีไล่ไว้ด้วยนะ   อย่าหมดหน้าตัก จากคุณ : scob1207 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:39:24

ความคิดเห็นที่ 13 เหมือนกันคับ เคยล้มเหลว มาก่อน   ล้มเหลวหลายด้าน   การทำการค้า ต้องอาศัยเวลา และ ดวง อดทนคับ จากคุณ : kamenriderkiva เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:56:50

ความคิดเห็นที่ 14 มาอ่าน จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 22:43:44

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้อ่าน  สามก๊ก   อย่าริทำการค้า.... ถ้าพวกทำธุรกิจใหญ่ๆพันล้านหมื่นล้านคิดทำธุรกิจแบบเราๆ ก็คงจะเจ๊งเหมือนกัน...... จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 01:02:40

ความคิดเห็นที่ 16 ทำอันแรกแล้ว "เจ๋ง" เลย แต่มันมาจากตัวตน ที่สั่งสมมา 10-15 ปีก่อนนี้ การปูรากฐานมา 6 ปีในตึกที่ดิน แบบทำอ่างทองไว้รองรับ เวลาแผ่วลงช่วงใด เคยกลับไปสัมภาษณ์งานบริษัทในไทย 3 ครั้งในเดือนหนึ่ง กลายเป็นได้ทางแก้ปัญหากิจการตัวเอง 1 ครั้ง ข้ามฟ้าไปประเทศใกล้เคียง ได้รู้ว่า โชคชะตาให้ทำกิจการตัวเอง 1 ครั้ง ถูกแฟนสั่งให้กลับไป แต่ยังเลือกลูกค้า   ทิ้งสิ่งที่สร้างมากับมือไม่ลง จิตวิญญาณผู้ประกอบการสั่งสมมาแต่รุ่น ปู่ย่า พ่อแม่ การคิด การปฏิบัติตัว จะไม่เป็นทหารรับใช้ ตลอดช่วง การต่อต้าน ขัดแย้ง ก่อกบฏ เริ่มในปีที่ขึ้นเป็นระดับจัดการ ถูกปลดบ้าง ออกเองบ้าง ลาออกวันที่ขึ้นเก้าอี้ไดเร็กเตอร์ เพราะ ต้องไปควักเงินให้บริษัทไปหมุน เลยลงทุนเอง ภาวะหลังชนฝา มีผู้สนับสนุน อุปถัมภ์ ท่าที การปฏิบัติกับ ลูกค้าแต่ละชาติ ทำให้มีทั้งคนช่วยดัน ช่วยดึง ชะตาวาสนา ส่วนหนึ่งที่ผลักดัน ให้มาอยู่ตรงนี้ ปีแรกเป็นปีแห่งการต่อสู้ ริบอำนาจในครอบครัวมา การสร้างเงินในอากาศ เกิดจากทำเล แบรนดิ้งที่ผูกติดตัว ลูกค้าไม่เคยจำชื่อกิจการ แต่ลูกค้าจำคนทำ ที่สวมหมวกเจ้าของด้วย แรกๆต้องทำเอง จะรู้ทิศทางโยนหิน ที่ส่งมา เวลาเกิดวิกฤติ ต้องพลิกให้เป็นโอกาส ใช้ความระส่ำระสายให้ เป็นเวที แจ้งเกิดให้กิจการ กุมหัวใจ ความภ้กดี ศรัทธาจากลูกค้า ความยากอยู่ที่ปีแรก ซึ่งรู้ว่าสำเร็จ จากที่ลูกค้าทุกคนพาคนของตัวเอง มาให้ ทั้งสวมแทน ต่อยอดขยายตัวในแนวราบ แนวดิ่ง จนเป็นผู้เลือกได้... ต่อมา จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 06:17:45

ความคิดเห็นที่ 17   ชอบทู้นี้จังเลยค่ะ จากคุณ : jingjingleaw เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 09:30:26

ความคิดเห็นที่ 18 ทำพวก affiliate ทางเน็ตอยู่ ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ดีล่ะนะ โดยส่วนตัวก็พอใจกับรายได้ครับ เดี๋ยวหลังสงกรานต์ จะเริ่มมีพนักงานเป็นของตัวเองแล้ว (จะได้เป็นเจ้านายคนอื่นแล้วเฟ่ยยย) แต่ธุรกิจนี้ ทำไมคนไม่ประสบความสำเร็จเยอะนักก็ไม่รู้ หลักการง่ายๆของผมก็ คือ "การตลาด สำคัญกว่าเทคนิค" "การทำความเข้าใจกับกลุ่มลูกค้า ได้ผลกว่าการทำความเข้าใจกับโปรแกรมสคริปท์" จากคุณ : คนดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 09:33:36

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนอย่างที่คนก่อน ๆ ว่าไว้ครับ ส่วนตัวผมธุรกิจแรกเจ๊ง อันที่สองกำลังไปได้ดี สิ่งที่เรียนรู้คือ 1. คิดมันง่าย แต่ทำแล้วปัจจัยรอบด้านที่คาดไม่ถึงมันมาเยอะ 2. ค่าใช้จ่าย สำคัญกว่า รายได้ (เพราะมันทำให้เราเจ๊งได้) 3. คนรอบข้าง กูรู้ เราสามารถฟังได้ แต่ต้องคิดตาม บางความเห็นอย่าเอามาเป็นสาระ 4. อย่าคิดว่าอยากขายอะไร แต่ให้คิดว่าตลาดต้องการอะไร 5. การตลาด ข้อมูลสินค้า สำคัญที่สุด จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 13:02:15

ความคิดเห็นที่ 20 ทำธุรกิจทาง net เคยทำแล้วทุนจมคะ แต่ไม่ได้ลงทุนมาก แต่ตอนนี้เริ่มกลับมานั่งดูใหม่แล้ว เพราะอยากหารายได้เพิ่ม ว่าจะลองใหม่สักตั้งคะ สู้ๆ กันไป จากคุณ : wasabi girl เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 16:19:39

ความคิดเห็นที่ 21 มาเก็บข้อมูลค่ะ และมาให้กำลังใจสำหรับคนที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง สู้ๆนะค่ะ สักวันมันต้องเป็นวันของเรา ล้มได้แต่ต้องลุกนะ จากคุณ : jiwang เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 17:22:01

ความคิดเห็นที่ 22   จงสู่ต่อไปนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้เพราะผมก็เคยล้มครับ แต่ผมก็ลองหันมาเล่นธุรกิจออนไลน์ครับ เค้าบอกว่าอันนี้ออนไลน์100%ครับ เลยเอามาฝากถ้าไม่ได้ยังไงผมจะมาบอกอีกนะครับว่าเวิร์คมั้ย ลองดูละกันครับ www.chanwits.ws สู้ๆนะครับคนไทยก้าวต่อไป จากคุณ : netnaja เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 01:19:42 A:125.25.195.112 X:

ความคิดเห็นที่ 23   สำหรับ ที่เห็นๆมาครับ ข้อ1. อย่าคิดว่ามันง่าย ข้อ2. อย่าก้าวกระโดดจงๆค่อยโตไป ข้อ3. อย่าทำธุรกิจกับเพื่อน (เพราะอาจเสียเพื่อน) แต่พึ่งพากันได้ จากคุณ : peviedot เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 13:47:21

ความคิดเห็นที่ 24   ดิฉันเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำแหนมหมู ตอนแรกก็ขายดีซะดีเหลือเกินจนได้รถขับคันหนึ่ง ต่อมาอีกไม่นานเริ่มมีปัญหา เลยได้เลิกธุรกิจไป ดิฉันเลยหันเหมาทำธุรกิจขายตรง ไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องซื้อของมาขาย อย่างงี้แล่ะที่หามานาน ก็สบายใจดีนะ เคยเป็นครูและทำธุรกิจเกี่ยวกับหมูควบคู่มานาน คิดว่ามันคงจะรุ่ง เพราะเบื่อที่ทำงานประจำ ไม่มีเวลาเลยเพราะเป็นครูต้องมีการเขียนแผน เตรียมการสอน อะไรอีกมากมาย ไม่ค่อยอิสระเท่าไหร่เลยหาทางทำธุรกิจเป็นของตนเองมาโดยตลอด และก็เจ๊งไปแล้ว ดิฉันคงไม่ไปทำธุรกิจอะไรอีกนอกจากธุรกิจที่ทำอยู่นี้ ดีถูกใจ ลองโทรมาแลกเปลี่ยนกัน 0845498262 http://www.neolifeinter.com/ จากคุณ : natasa เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 10:56:33 A:124.157.215.244 X: