ความคิดเห็นที่ 1 ขอขอบคุณหลายๆท่านที่ได้อ่านข้อความผมและบอกว่ามีประโยชน์   และหลายๆท่านช่วยชี้แนะบอกว่า งง ยาวไป   (ผมอ่านเองก็งงนั่นล่ะ) ผมเลยขอลบข้อความ   เพื่อที่ท่านจะได้อ่านข้อความที่เป็น  ประโยชน์ ของท่านอื่นๆ  ได้สะดวกครับ   ทุกประสบการ์ณ   ของท่านมีความหมาย   ขอบคุณครับ. แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:56:08 แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 23:39:25 แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 10:19:58 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:16:23

ความคิดเห็นที่ 2 ของเรา ทำด้านอสังหาค่ะ ทำห้องเช่า หุ้นกับพี่ทำ หอพัก ในอนาคตถ้ามีตังค์ เยอะ ๆ  อยากหาซื้อที่ มาทำอู่ รับเคลมประกันแบบมาตรฐานค่ะ จากคุณ : ajstar เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:09:39

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณสำหรับวิธีคิดค่ะ จากคุณ : naytiri เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:10:48

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านทำคาร์แคร์ ทำกับแฟนลูกน้องสาม แฟนดูดฝุ่นหน้ารถ ผมเช็ดกระจก ลูกน้องเช็ดสี สองคนฉีดน้ำ ล้างสี วันประมาณสิบคัน คันละ150 จากคุณ : ศักดิ์ (ศักดิ์น้อย) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:33:04

ความคิดเห็นที่ 5 ที่บ้านขายหนังสือมือสองค่ะ จากเดิม ช่วยกันกับแฟน เดี๋ยวนี้ มีพนักงาน 3 คนค่ะ เรามีหน้าที่คุยกับลูกค้า คิดเงิน และวิ่งตามจับลูกๆ 2 คนค่ะ จากคุณ : AngelTomorrow เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:49:02

ความคิดเห็นที่ 6 ขาย มอไซค์ มือสองครับ จากคุณ : aksorn_ji เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:59:37

ความคิดเห็นที่ 7   จากอาชีพเซลส์แมนขายอาหารสัตว์ พันธุ์สัตว์ ยาสัตว์ อุปกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ ก็มาเริ่มธุรกิจส่วนตัวที่สร้างขึ้นมาและคิดว่าประสบความสำเร็จ คือ ธุรกิจซื้อมาขายไป เนื่องจากมีฐานลูกค้ามาก ทั้งเอเย่นต์ ซับเอเย่นต์ ลูกค้าSMEsทั่วประเทศ และสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด คู่แข่งขันประเภทโรงงานมีน้อยราย ลูกค้ากว่า80% หากต้องการสินค้า มีการรับมัดจำบางส่วนหรือทั้งหมด ก่อนส่งมอบสินค้าภายใน 3-7 วันทำการ และดำเนินการด้วยโสหุ้ยต่ำ มีต้นทุนผันแปรคือค่าจัดส่ง ทำให้ได้เปรียบเหนือคู่แข่งทุกด้าน และตอนเริ่มต้นธุรกิจด้านนี้ ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากนัก ทุกอย่างขอยืม เขามาใช้ก่อน หรือเช่าเป็นวัน เดือน ปี และพอมีกำไรค่อยนำมาซื้อทรัพย์ สินหรือเครื่องใช้สอยที่จำเป็น หากไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน ก็ไม่ซื้อเข้ามา ให้เป็นภาระหรือหนี้สิน ตอนเริ่มต้นการค้าก่อนช่วงวิกฤติปี 2540 มีเครดิตเทอม จากซัพพลายเออร์ 90 วัน สามารถนำมาขายลูกค้าเป็นเงินสดหรือให้ เครดิตเทอมลูกหนี้ไม่เกิน 30 วัน ทำให้อยู่ในธุรกิจนี้ได้ ส่วนอีก2ธุรกิจที่กำลังเนินการอยู่ คือ โรงสีข้าว+โรงงานอาหารสัตว์ ทำค่อนข้างยาก ต้องใช้ประสบการณ์และชั่วโมงบินสูง แม้จะเรียนมาทางสายนี้ โดยตรงและพื้นฐานครอบครัว มีประสบการณ์ด้านนี้มากว่า 30 ปี ธุรกิจนี้มีตลาดรองรับที่ชัดเจน คือตลาดส่งออก แต่เนื่องจากราคา วัตถุดิบผันผวน ไม่สามารถทำกำไรให้เป็นบวกได้ แม้จะมีการบริหาร จัดการที่มีต้นทุนต่ำกว่า เนื่องจากทำสินค้าคุณภาพ ไม่การปลอมปน ตามอุดมการณ์ที่ร่ำเรียนมา ก็คงต้องใช้ความพยายามอีกหลายสิบเท่า แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 12:03:34 จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:02:55

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังคิดจะเปิดร้านขายเสื้อผ้า แต่ไม่รู้จะรุ่งหรือร่วงเลยค่ะ ^^' จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:51:12

ความคิดเห็นที่ 11 แวะมาอ่านค่ะ ความคิดดีดีทั้งนั้นเลย จากคุณ : บ่ายสามสี่สิบห้า เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:53:47

ความคิดเห็นที่ 12 กระทู้แบบนี้สิ ถึงน่าขึ้นกระทู้แนะนำ ^^ จากคุณ : มิกกี้แม้ว เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:58:07

ความคิดเห็นที่ 13 เคยมีครับ แต่มันเล็กมากๆ คือผมต้องช่วยงานที่บ้านทั้งวัน จันทร์-เสาร์ นั่งหน้าคอม มีเนทเล่นได้ทั้งวัน ตอนนั้นคิดอยู่ทุกวันว่าจะหาอะไรมาขายในเนทดีหว่า มีวันนึงไปรับแฟน พอดีหน้าหอแฟนเป็นตลาดเห็นเค้ามาขายเสื้อยืดคอวี ไม่มีลาย แบบแบกะดิน ผมเดินผ่านแล้วชอบเลยเรียกให้แฟนซื้อมาใส่แล้วก็คิดว่าเค้าขายถูกจังแพงกว่านี้ผมก็ซื้อ คิดได้ดังนั้นเลยเอาวะลองเอามาขายดู ก็เลยคุยกับคนขายตอนนั้นเลยบอกว่าจะเอาไปขายในเนทขอลองซื้อก่อน 10 ตัว เค้าก็ใจดีให้ราคาถูกกว่าปกตินิดนึง ซื้อมาครั้งแรก 10 ตัว ต้นทุนไม่ถึงพันบาท ลองเอามาขายตามเวบ(ฟรี) ใช้กล้องถ่ายรูปที่บ้านถ่ายลงเวบและวานให้เพื่อนหุ่นดีๆใส่ถ่ายเป็นแบบ ต้นทุนอื่นๆ 0 บาท ขาย 2 วันหมด กำไร 1 เท่า (หักค่าส่งไปรษณีย์แล้ว) หมดรอบแรกก็ซื้อมาอีก 10 ตัว ขายอีก 3-4วันก็หมด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทั้งเก็บสต๊อคและให้ลูกค้าสั่งล่วงหน้า(จะเก็บสต๊อคมากสุดไม่เกิน 20ตัว) แรกก็ขายดีผ่านไปซัก 6เดือนก็มีคนมาขายเหมือนกันเลย ขายที่เวบบอร์ดเดียวกันด้วยแต่ราคาถูกกว่า กำไรเลยลดลงเรื่อยขายมาได้ประมาณ 1 ปี ก็เลิกขายเพราะแฟนย้ายหอพัก ไม่สะดวกจะไปแถวนั้นรับของแล้ว สรุปว่าปีนึง ได้กำไรประมาณแสนกว่าบาท ซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไรมากแต่ก็ถือเป็นรายได้เสริมทางนึง สิ่งสำคัญคือเห็นลู่ทางอื่นๆอีกหลายอย่างสำหรับตลาดออนไลน์ เช่น สินค้าอื่นๆที่คนเอามาขายกันในเนท กลุ่มลูกค้า แหล่งขายส่ง ไม่เฉพาะเสื้อผ้าหลายๆอย่างที่ได้เห็นเค้าขายๆกัน เวลาไปเดินสำเพ็งก็จะเห็นช่องทาง ช่วงกำไร ต่อยอดความคิดดีนักเชียว แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 14:38:32 จากคุณ : AppLePie81 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 14:35:22

ความคิดเห็นที่ 14   สงสัยว่า ความคิดเห็นที่ 1 ทำอาชีพขายอาหารเสริม แบบทำงานที่บ้านใช่แน่เลย แบบทำงาน 1 เดือนได้เงินเป็นแสนเป็นล้าน ต้องใช่แน่ๆๆ 5555 ได้ยินมาเยอะ จากคุณ : จ้า เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 14:45:03 A:203.144.180.65 X: TicketID:235708

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบมั่ง ผมทำเน็ตเวิร์คมาเก็ตติ้งครับ เพราะว่า ลงทุนน้อย ประกันความเสี่ยง มีวิธีการทำงานให้ผม การันตีผลลัพธ์ ถ้าทำงานตามที่บอก ผมเลยคิดว่าโอเค แต่ก่อนจะทำเน็ตเวิร์ค ศึกษาให้ดี มันมีเยอะ หลายรูปแบบ เลือกแบบที่คุณชอบ เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณ เลือกอัพไลน์ที่น่าเชื่อถือ พอดีผมโชคดี เจออัพไลน์ รายได้ 7 หลักกลางๆ เลยทำ ถ้าอัพไลน์รายได้ 5-6 หลัก ผมคงยังไม่สนใจ จากคุณ : deksandan เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 15:05:55

ความคิดเห็นที่ 16   ขายตุ๊กตาบลาย ขายอุปกรณ์สปา ตอนนี้เริ่มๆมาจับงานขายของอุตสาหกรรม ทั้งหมดทั้งมวลเริ่มจาก  0 ไม่เคยเล่นตุ๊กตาเลย ไม่เคยเข้าสปา แต่ศึกษาเอา ดูเค้า คุยเยอะๆ คู่แข่งแม่ค้า พ่อค้า คุยกับเค้าให้หมด รู้ connection ก็ค่อยๆมองเห็นรอบๆข้างว่า มีอะไรน่าจับมาขายเยอะแยะเลย ลองเริ่มจากค้าขายอะไรเล็กๆน้อยๆ จะทำให้คุณมีไอเดีย อาจจะขายของกินแถวบ้าน พอคุณไปแมคโคร ซื้อวัตถุดิบ คุณจะเริ่มมองเห็นและต่อยอดได้เองว่าน่าจับอะไรมาขายเพิ่ม หรือไปเดินสำเพ็งไปดูว่าเค้าขายอะไรกัน ราคาต่างจากตลาดนัดไหม ถ้าเราซื้อไปวางขายบ้างจะเป็นไง จากคุณ : OL online เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 15:30:33

ความคิดเห็นที่ 17 อยากทำทัวร์ครับ  ว่าจะซื้อเรือสปีดโบ๊ทลำละล้าน  แล้วจัดทริปเที่ยวทะเลเอง  หรือให้เช่าเรือก็ได้ครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 16:01:27

ความคิดเห็นที่ 18 ผมทำตู้ล้างรถหยอดเหรียญ ผลิตเอง   หาทำเล เอง จากคุณ : Cherbet เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 20:58:49

ความคิดเห็นที่ 19 ทำธุรกิจเทียนหอม ส่งออกครับ เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย แต่พอได้ออกงาแสดงสินค้าก็ได้ข้อมูลต่างๆเอง แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้วครับ จากคุณ : aromatic (Aromatic) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 23:18:42

ความคิดเห็นที่ 20 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:36:26 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 00:15:57

ความคิดเห็นที่ 21 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:36:58 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 08:46:26 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 00:35:02

ความคิดเห็นที่ 22 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:37:45 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 09:12:10 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 01:36:55 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 01:32:59

ความคิดเห็นที่ 23 อยากบอกก็บอกเถอะ คุณนิ้วจิ้ม ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก มาใช้แนวจิตวิทยาอีกแล้ว จากคุณ : puieang เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 09:55:46

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาเห็นด้วย อยากให้เป็นกระทู้แนะนำจัง โหวตให้แล้วนะคะ จากคุณ : forcy 5740 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 11:11:10

ความคิดเห็นที่ 25 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:38:37 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 12:10:33 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 12:04:23 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 11:57:30

ความคิดเห็นที่ 26   ถ้าใช้เหตุและผลในการพิจารณา แนวความคิดและวิธีการค้าของ คุณนิ้วจิ้มเขานำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง เหมาะกับการค้าของคุณนรุ่นใหม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างดี จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 12:30:52

ความคิดเห็นที่ 27 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:39:04 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 13:46:26 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 13:04:52 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 12:56:56

ความคิดเห็นที่ 28 เราชอบความเห็นของคุณนิ้วจิ้มค่ะ มีประโยชน์มาก ตัวเราเองก็ทำธุระกิจส่วนตัว แต่ไม่สามารถทำได้ตามที่คุณนิ้วจิ้มวางไว้ เพราะเป็นะธุระกิจที่มีคนทำเยอะ การเข่งขันสูง แต่ก็พออยู่ได้กับรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้ว แต่ก็ต้องทำงานเต็มเวลา อาจจะเพราะความสามารถเราไม่พอก็เป็นไปได้ค่ะ รู้จักพี่คนหนึงเค้าเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทใหญ่ๆ ไม่ต้องไปทำงานแค่รับโทรศัพท์ ช่วยแก้ปัญหาที่ใหญ่จริงๆ เงินเดือนหลายแสนบาท ทั้งที่อายุแค่ 40 เอง แถมไม่ต้องไปทำงานด้วย คงต้องเรียกว่าศักยภาพของแต่ล่ะคนคงไม่เหมือนกันด้วย นอกจากคำที่คนจีนชอบพูดว่าเงินต่อเงิน จะทำธุระกิจต้องมีทั้งสมองและเงินค่ะ เงินต่อเงินไม่มีสมองไม่เวิร์ค ถ้ามีสมองแต่ไม่มีเงินก็คงต้องใช้เวลานาน ส่วนเรากว่าจะมีธุระกิจต้องใช้เวลากว่า 10 ปี จากคุณ : Peony เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 14:26:53

ความคิดเห็นที่ 29 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:39:40 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 15:38:37 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 15:05:56 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 15:01:02

ความคิดเห็นที่ 30 ทำธุรกิจ จะยากตอนเริ่ม  การหาสินค้า หาตลาด  และก็เหมือนกับที่คุณนิ้วจิ้มบอกใน คห.1  คือ  สินค้านั้น ต้องอยู่ได้นาน  ต้องมั่นคง  คู่แข่งไม่มาก  หรือเราต้องมีจุดแข็งที่ไปแข่งขันได้  หรือ โน้มน้าวลูกค้าให้มาเลือกเราแทนคู่แข่งได้   ถึงจะอยู่ได้นาน  สำหรับคนที่ต้องการทำธุรกิจเพื่อเป็นรายได้เสริม  ควรจะมองหาพวก ขายออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ   ก็เหมือนที่บอก จะยากตอนเริ่มต้น  คือเรื่องสินค้า  แต่ถ้าหากสินค้าที่คุณเสนอขาย ติดตลาดเมื่อไหร่  คุณก็ปล่อยให้มันเป็นงานหลักของคุณได้เลย ฉันเอง ขายออนไลน์อย่างเดียว ปีนี้ปีที่ 7 แล้ว  เริ่มจาก 0 ไม่รู้เรื่องอะไรเลยคลำทางมาเรื่อยๆ  ศึกษาในเน็ตบ้าง  ซื้อหนังสืออ่านบ้าง ทำคนเดียวจริงๆ แต่ต้องมีฝ่ายจัดซื้อให้เพราะว่า สินค้านำเข้ามาจากไทย  ต้องมีคนจัดซื้อที่ไทย 1 คน ส่วนตัวฉัน ขายเอง จัดส่งสินค้าเอง คลอบคลุมทั้งยุโรป  ทุกวันนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไประดับนึง แต่ก็ยังไม่ยังไม่ถึงที่สุด  แต่ก็ดีตรงที่เราแค่พัฒนา  และรักษามันไว้ไม่ต้องคิดหา ธุรกิจใหม่อีก เพราะนี่ก็หากินมาได้ 7 ปีแล้วก็มีลูกค้าประจำ ที่ต้องคอยบริการ ธุรกิจหยุดไม่ได้เพราะเป็นหนี้บุญคุณลูกค้ากลุ่มนี้ซะแล้ว จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 15:03:16

ความคิดเห็นที่ 31 ทำธุรกิจ มนุษย์เงินเดือนครับ -*- จากคุณ : Culture เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 15:04:57

ความคิดเห็นที่ 32 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:40:15 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 16:52:36

ความคิดเห็นที่ 33 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:40:48 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 19:56:10 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 17:06:16

ความคิดเห็นที่ 34 ขายวัสดุก่อสร้างเฉพาะทางค่ะ ทำมาได้ 7 ปีแล้ว เริ่มต้นกับสามีตั้งแต่ยังไม่มีลูก มีเงินทุนเล็กน้อย 2-3 แสนบาท แค่เฉพาะค่าเช่าหน้าร้าน+ตกแต่งก็เกือบหมดแล้ว โชคดีได้โรงงานส่งของให้ซึ่งเคยร่วมงานกับคุณสามี ซึ่งเคยเป็นพนักงานบริษัทเกี่ยวกับงานก่อสร้างมาก่อน สามีเป็นวิศวกรค่ะ เลยซื้อของเครดิตได้ เริ่มต้นลำบากมาก ๆ ค่ะ ต้องไปหาลูกน้องมาจากที่บ้านแม่ที่ต่างจังหวัด เพื่อเป็นช่างติดตั้งให้เรา รถไม่มีก็เอารถเก๋งไปแลกกับแม่ได้ปิคอัพมาใช้วิ่งงาน เงินหมุนไม่พอก็ต้องกู้สินเชื่อบุคคลเอา แรก ๆ งานเล็กแค่ไหนก็ต้องรับค่ะ อาศัยที่คุณสามีพอมีคอนเน็คชั่นบ้างเล็กน้อย งานเล็ก ๆ 7-8 พัน ก็ต้องรับ (กำไรนิดหน่อยเองค่ะ) สินค้าที่ขายค่อนข้างใหม่และเฉพาะทางในตอนนั้น คุณสามีนั่งอ่านข้อมูล โหลดจากเวปเมืองนอกมาอ่านดึก ๆ ศึกษาข้อมูล ข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ สุดฤทธิ์เพื่อไปนำเสนอกับลูกค้า ปีแรก ๆ มียอดขายไม่กี่แสนเองค่ะ (อย่าคิดว่าเยอะนะคะ เพราะสินค้ามันมีมูลค่าค่อนข้างสูง กำไรประมาณ 15-20% ค่ะ ยังจำได้ ปีแรกยอดขายประมาณ สี่แสนบาท ปีที่สองขึ้นมาเป็นสี่ล้าน ปีที่สามแปดล้าน ปีที่ห้าเกือบสามสิบล้าน ปีที่หกห้าสิบกว่าล้าน ปีที่เจ็ด (ปีที่แล้ว) หดเหลือสามสิบกว่าล้านเอง งานเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ เกี่ยวกับก่อสร้าง รับงานโปรเจค โรงแรม เราเน้นความรับผิดชอบค่ะ คุณสามีตรวจงานเองทุกไซต์ ถ้าลูกน้องทำไม่ดี หรือลักไก่ก็สั่งรื้อสั่งแก้เลย เขาบอกว่า ขนาดเรายังไม่ให้ผ่านเลย แล้วลูกค้าจะผ่านให้หรือ สู้แก้เองก่อนดีกว่าให้ลูกค้าเห็นแล้วเสียชื่อ ยังโชคดีนิดนึงที่หนี้สูญไม่เยอะมาก เราเน้นรับลูกค้าหลาย ๆ รายกระจายกันค่ะ แต่จะเลือกนิดนึงที่ดูแล้วคิดว่าไว้ใจได้ไม่หนีหนี้ เวลารายนึงจ่ายช้า ยังเอาเงินจากอีกรายนึงมาหมุนไปก่อนได้ ปัญหามีเยอะค่ะ ไหนจะลูกน้อง งานเอกสาร บัญชี สรรพากร ลูกค้าแต่ละรายก็ไม่เหมือนกันอีก ไหนจะปัญหาเกี่ยวกับสินค้าอีก จากคุณ : หนูชื่อน้องเก่ง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 18:14:21

ความคิดเห็นที่ 35   K.amonwan อยู่ประเทศไหนหรือค่ะ บังเอิญเราก็อยู่ยุโรปเหมือนกันค่ะ อยากขอคำปรึกษาค่ะ จากคุณ : koko เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 20:34:16 A:84.197.187.9 X: TicketID:172665

ความคิดเห็นที่ 36 Holland ค่ะ จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 21:02:10

ความคิดเห็นที่ 37   ผมเห็นคุณนิ้วจิ้มเที่ยวจิ้มไปทุกกระทู้เลย อิจฉางานที่ทำจัง มีเวลาเหลือเฟือ อ่านที่คุณเขียน ก็ยังไม่รู้ว่าคุณทำอะไรกันแน่ เห็นมีแต่หลักคิด หลักปฏิบัติที่รู้กันอยู่ในวงการค้าส่ง ค้าปลีก อะไรมันจะลึกลับซับซัอนกันนักกันหนา อย่างคุณความเห็น 14 กะ 23 นะใช่ คุณมาในแนว How to ประเภทพูดอีก ก็ถูกอีก อ่านจนเบื่อแล้วเต็มร้านหนังสือไปหมด หาอ่านชัดๆแบบคุณตัน โออิชิ หรือ คุณวิกรมเจ้าของอมตะ มีน้อยมาก เจอแต่เจ้าพ่อ How to ผมไม่ได้มาขัดคอ แต่อยากให้คนทำมาหากินมาช่วย share ความเห็นกันตรงๆ กระทู้นี้เป็นประโยชน์ดีครับ อ่านแล้วมีกำลังใจ แบบคุณหัวใจจากท้องทะเล ชัดเจนดีครับ บอกเลยฉันทำอะไร จากคุณ : ลับๆล่อๆ ไม่บอกปล่อยให้งง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 21:25:07 A:124.120.141.204 X:

ความคิดเห็นที่ 38   ช่าย ๆๆๆ แบบนี้อ่านมาเยอะ ของคุณนิ้วจิ้มอ่ะค่ะ มานอ่านแล้วน่าเบื่อ ไม่ได้ขัดน่ะค่ะ แต่อยากรู้ว่าคุณล้มลุกยังไง อ่านแล้วมีกำลังใจดี มากกว่า แบบคุณหนูชื่อน้องเก่งอย่างนี้ อ่านแล้วให้ความรู้สึกว่า ทุกอย่างเริ่มต้นลำบาก แต่ก็ต้องสู้ๆกันไปเนอะ จากคุณ : หมีหมี เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 21:45:04 A:124.120.132.127 X:

ความคิดเห็นที่ 39 กระทู้นี้สนุกดี สีลมยุคนี้สุภาพจัง :D อ่านแล้วคิดถึงคนบางคน เท่าที่อ่านในกระทู้นี้ส่วนใหญ่อยู่ในสาย Trading ซื้อมาขายไปกันทั้งนั้น ไม่มีใครแชร์สายการผลิต หรือบริการบ้างเหรอครับ จากคุณ : Jiang wei เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 21:53:32

ความคิดเห็นที่ 40 แอบเห็นด้วยกับความเห็นที่ 37 ครับ อย่าโกรธผมเลยนะครับ แต่อยากพูดตรง ๆ เลยว่า "ทำไมคุณไม่บอกมาเลยล่ะครับ ว่าคุณทำธุรกิจอะไรอยู่" ทำไมต้องมาเล่าโน่นนิด นี่หน่อย หลักการ ต้องอย่างโง้นอย่างงี้ สรุปสุดท้าย คนอ่านก็งง คือเดิม และเรียนรู้แนวทางไม่ได้ เหมือนเดิม ประโยชน์อันใดเล่าครับ พี่น้องครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 21:59:11

ความคิดเห็นที่ 41 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:42:28 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 23:46:10 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 23:52:12 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 23:47:54 แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 23:26:32 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:13:59

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาต่ออีกหน่อยค่ะ ธุรกิจที่ทำเป็นแบบซื้อมาขายไปนะคะ ขอบอกว่าถ้าอยากให้ธุรกิจมันทำเงินให้มากกว่ากินเงินเดือน เราต้องเลือกสินค้าว่าจะขายสินค้าที่ราคาต่อหน่วยสูง กำไรต่อหน่วยเยอะ แต่จับกลุ่มเฉพาะทาง หรือจะขายสินค้าที่ราคาต่อหน่วยต่ำ กำไรน้อย เน้นปริมาณมาก ๆ จากนั้นก็ต้องดูว่าสินค้าที่จะขายคืออะไร มีจุดเด่นกว่าคนอื่นตรงไหน อะไรคือจุดขายของเรา สินค้าที่เราขาย ราคาต่อหน่วยสูง และเวลาลูกค้าซื้อต้องซื้อในปริมาณที่มาก แต่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มค่ะ สมมติว่าเป็นผ้าม่านแบบหรู ราคาตารางเมตรละ 400-500 บาท เวลาลูกค้าซื้อก็คงไม่มีใครซื้อแค่บานเดียวใช่มั้ยคะ ตีซะว่าบานนึง 5 ตารางเมตร บ้านหลังนึงประตูหน้าต่างสัก 10 บานเป็นอย่างน้อย (บ้านหรู) บ้านหลังเดียวขายได้ 50 ตารางเมตร ตกอย่างน้อย 20,000 บาทแล้ว อันนี้เมคตัวเลขเองนะคะ กำไร 20% ก็ 4,000 บาท ถ้าเทียบขายกาแฟสด แก้วละ 40 บาท ต้องขาย 500 แก้ว ถึงจะได้ 20,000 บาท ซึ่งกำไรก็น่าจะไม่หนี 20% เหมือนกัน (ถ้าผิดพลาด ขออภัย) แต่แน่นอนว่าขายของแพง ความเสี่ยงก็จะมากกว่าค่ะ จากคุณ : หนูชื่อน้องเก่ง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:22:31

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาดูค่ะ แต่ยังไม่ได้ไอเดียอะไรใหม่ๆเลยค่ะ อย่างว่าคนที่ทำอยู่ เขาคงไม่มาบอกหรอกค่ะ เดี๋ยวคนแห่ไปทำกัน เขาก็ลำบาก จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 00:27:15

ความคิดเห็นที่ 44   K.amonwan, บ้านใกล้กันเลยค่ะ เราอยู่เบลเยี่ยมค่ะ เราเห็นเวปไซน์ของคุณนานแล้วค่ะ ยังคิดเลยว่าเก่งจังค่ะ. เราเบื่อที่เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกันและก็เบื่อทะเลาะกับไอ้พวกหัวแดงด้วยค่ะ มีแต่พวกขี้อิจฉากับพวกดีแต่ปากค่ะ เดือนเมษา เราจะกลับไทยก็กะจะไปดูๆ สินค้าเอามาขายในเวปค่ะ อย่างไรอาจจะขอคำปรึกษานะ่ค่ะ จากคุณ : koko เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 02:24:22 A:84.197.187.9 X: TicketID:172665

ความคิดเห็นที่ 45 เราขายเสื้อผ้าแฟชั่นและรองเท้าแฟชั่นอยู่ที่มาเลเซียสินค้าทุกอย่างสั่งตรงมาจากประเทศไทยขายมาหลายปีแล้วแรกๆขายเฉพาะวันที่สามีหยุดงานเราขอให้เค้าพาเราออกไปขายเพราะเราเห็นเสื้อผ้าที่นี่ราคาแพงและแบบไม่ค่อยทันสมัยขอร้องอยู่นานจนสุดท้ายเขาก้อโอเคเพราะกลัวเราอยู่บ้านแล้วเหงาธุรกิจไปได้ดีตอนนี้สามีลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจนี้กับเราได้หกปีแล้วกำไรดีขายแค่ครึ่งวันหยุดอาทิตย์ละหนึ่งวันคิดว่ามั่นคงแล้วค่ะ จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 02:31:41

ความคิดเห็นที่ 47 ของเรายังมนุษย์เงินเดือนอยู่ แต่เดือนนี้เดือนสุดท้าย แล้วก็ออกมา ทำงาน กิจการของที่บ้าน เป็นงานพวกทำกระเป๋าหนังแท้  OEM ให้กับแบรนด์ต่างๆ ขายตามห้าง แผนคือ จะสร้างแบรนด์เอง ถึงมันจะยากก็เถอะ ตอนนี้ก็ลงไปตัดหนังเอง ทากาวเอง ทุบตะเข็บขอบเอง ติดแม็คเอง เหลืองานนเย็บ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญสูง จะเรียนรู้และ พัฒนาธุรกิจไปเรื่อยๆครับ ส่วนงานเสริม ก็จะทำสวนกล้วยไม้ป่า เพาะพันนธุ์กล้วยไม้ แรกๆ ไม่ขาย เพาะไปก่อน พอได้จังหวะค่อยนำมาขาย ช่วงนี้เลยเครียดนะจากเคยมีเงินเดือนทุกสิ้นเดือน เดี๋ยวก็จะไม่มีเงินเดือนแล้ว แต่ใจสู้ร้อยเปอร์ฺเซนต์ จากคุณ : D610 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 09:00:18

ความคิดเห็นที่ 48 งั้นเอาธุรกิจผมก็แล้วกันครับ .... มาจากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ ล้มลุกคลุกคลาน ก็หลายหน ตอนนี้ก็ยังดิ้นรนเลี้ยงตัวเองอยู่ แต่ก็สบายขึ้นมากกว่าช่วงเริ่มต้น  เอาปูพื้นฐานครอบครัวก่อน พ่อผมเป็นพนักงานบริษัท แม่เป็นข้าราชการ ตำแหน่งไม่สูงมากนัก ชีวิตผมก็อยู่ฐานะปานกลางมากๆ ไม่ขัดสนแต่ก็ ไม่สามารถใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้ แม่บอกอย่ารับราชการเลยลูก มันลำบากแม่รู้ นิสัยลูกดี ลูกเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบเอาใจใคร รับราชการไม่รุ่งแน่ พ่อก็บอก ถ้าเลือกทำงานได้อย่าเป็นลูกจ้างใครนะลูก มันเหนื่อยและไม่รวย และก็คง จะจริง เพราะผมโตมาในครอบครัวที่บริหารแต่ หนี้สินสหกรณ์ หนี้เงินกู้นั่น กู้ นี่สารพัด    ผมเรียนจบมหาวิทยาลัย สาขาเกี่ยวกับศิลปะ และวิชาสำรองคือถ่ายภาพ จบออกมาก็ ได้ทุนจากมหาวิทยาลัยไปเรียน เมืองนอกหนึ่งเทอม ผมก็ไป เรียน มหาลัยเสนอจะให้เรียนต่ออีก สามเทอม แล้วจะอนุมัติปริญญาโทให้ แต่ครอบครัวผมไม่มีเงินพอที่จะส่งหรอกครับ ผมเลยกลับมาพร้อมกับ แนวคิดที่ว่า ผมจะต้องมีธุรกิจของตัวเอง ถ้ารุ่นลูกผมอยากเรียนเมืองนอก จะต้องได้เรียน    ผมกลับมาปรึกษาครอบครัวแล้วว่า ผมจะเริ่มธุรกิจของผมเอง ด้วยทักษะ ที่ผมถนัดที่สุดคือการถ่ายภาพ พ่อแม่เอาทรัพย์สินทั้งหมดทำเรื่องกู้เงินก้อน หนึ่งลงทุนทำร้านถ่ายรูปเล็กๆ  ผมเริ่มเปิดร้านวันที่ผมซ้อมรับปริญญาครับ เพราะยังไงก็ต้องมีเพื่อนๆ มาเป็นลูกค้าแน่ๆ ผมเริ่มธุรกิจผม วันที่ 20 กว่าๆ เดือน มกราคม ปี 2539 มีต่อกระทู้ด้านล่างนะครับ ยังไม่จบ ..... แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 12:21:31 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 10:50:11 จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:11:16

ความคิดเห็นที่ 49 ปล่อยกู้นี่ใช่ธุรกิจมั้ยคะ ของเรามีคนเก็บดอกให้ ดูแลลูกค้าให้ แต่เราแบ่งเปอเซนต์ให้เค้าไป คือเราจะบอกเลยว่าเราเอากี่เปอเซต์ ที่เหลือให้เค้าบวกเพิ่มเอง ส่วนตัวก้อยังทำงานออฟฟิสอยู่ค๊าบ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 10:30:27 จากคุณ : นูชิ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:24:30

ความคิดเห็นที่ 50 งานของคุณ AngelTomorrow น่าสนุกจัง อยากทำบ้างค่ะ อยู่อำเภอกลาง ๆ ต่างจังหวัดจะทำได้ไหมน้า-เป็นคนชอบอ่านหนังสือน่ะค่ะ จากคุณ : ธรรมดารำลึก เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:36:23

ความคิดเห็นที่ 51 หลังจากเริ่มมีร้านของตัวเองแล้ว ผมทำงานเองทุกอย่าง ทีลูกน้องมาเป็น ลูกมือ หนึ่งคน เริ่มเปิดร้าน เจ็ดโมงเช้า ปิดสามทุ่ม ทุกวัน ไม่มีวันหยุด  รับทั้งงานถ่ายภาพ ถ่ายรูปในร้าน อัดรูป งานใหญ่งานเล็กไม่เกี่ยง เพราะมี อนาคตของร้านเป็นเดิมพันด้วยทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัว  และแล้ว การทำงาน ไม่หอมหวานเสมอไป เกิดวิกฤตเศรษกิจตอนปี 40 ปีเดียวหลัง จากที่ผมเริ่มทำร้าน ทำเท่าใหร่ ไม่พอจ่ายดอกเบี้ยครับ ตอนนั้นดอกเบี้ย ร้อยละสิบแปดต่อปี ทำเท่าใหร่กลายเป็นดอกเบี้ยแบงค์หมด คนทำงานแทบ ไม่เหลืออะไร ผมก็ไปเจรจาประนอมหนี้กับแบงค์ ไปเจรจาขอยืดการผ่อน เครื่องกับบริษัท ขอเปลี่ยนขนาดเครื่องเล็กลง ทำสารพัด เหนื่อยมากๆครับ ผมทำร้านเปิด แบบไม่ปิด มาตลอดห้าปี เพื่อนๆไปเที่ยวฉลองนั่นฉลองนี่ ผม...ทำงาน  เพื่อนๆนัดกันไปเที่ยวโน่นไปนี่ ผม....ทำงาน เพื่อนๆผ่อนโน่น ผ่อนนี่ ผม....ทำงาน เพื่อนแต่งงานกับคนโน้น เพื่อนแต่งงานกับคนนี้ ผม... แต่งกับงาน   หลังจากนั้นความอดทนก็เริ่มแสดงผล หลังจากวิกฤตครานั้น หลายร้านปิด ตัวไป แต่ร้านผมรอดได้แบบทุลักทุเล ปีนั้นเครื่องอัดรูปผมหมดอายุการใช้ งานพอดีกับเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามา ผมตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ เป็น ดิจิตอล เป็นเครื่องแรก ของจังหวัด ตอนนี้ผมได้ย้ายร้านและขยับขยายให้ ใหญ่โตขึ้น ก็เป็นจังหวะทองที่ได้เริ่มเก็บเงินเป็นกอบเป็นกำ มากขึ้นกัดฟัน ผ่อนเครื่องจนหมด ตอนนี้ก็เริ่มสบายแล้วครับ มีลูกน้องหลายคนทำงานแทน ได้แทบจะทั้งหมด งานเล็กๆลูกน้องทำแทนได้หมด งานใหญ่ๆผมถึงค่อยลง มือทำ ( งานใหญ่ๆมักไม่ค่อยมีด้วยสิ ) ตอนนี้ก็เลี้ยงตัวได้สบายๆ มีรายรับมากกว่ารายจ่าย ใช้จ่ายได้สบายขึ้น แต่ไม่ฟุ่มเฟือยนะครับ ส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูพ่อแม่ใด้เต็มที่ครับ ผมสรุปจากการทำงานในมุมมองของผม มีสั้นๆง่ายๆ ดังนี้ คนที่จะสำเร็จมักจะเต็มใจทำในสิ่งที่คนไม่ประสบความสำเร็จไม่เต็มใจทำ ความอดทนเอาชนะได้ทุกสิ่ง ทุกสิ่งแก้ไขได้ด้วยความมีสติ และทุกอย่างอย่าเกี่ยวข้องกับอบายมุขนะครับ ผมไม่เคยเสียเงินกินเหล้า ไม่เคยเสียเงินกับการพนันทุกชนิด เงินทองหายากอย่าเอาไปละลายกับ อบายมุข เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 10:37:22

ความคิดเห็นที่ 52 ^ คุณเบอรี่นี่ลูกผู้ชายตัวจริงครับ จากคุณ : christ church เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:20:40

ความคิดเห็นที่ 53 ความเห็นข้างบนน่ะ ลูกผู้ชายตัวจริง ขอยกย่องค่ะ จากคุณ : นกพญาไฟ (นกพญาไฟ) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 11:35:10

ความคิดเห็นที่ 54 แวะมาอ่านประสบการณ์ของเพื่อนๆค่ะ ขอบคุณ คุณลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เป็นพิเศษค่ะ เราคงยังไม่สามารถจะไปทำธุรกิจส่วนตัวอะไรได้ แต่ประสบการณ์และหลักในการใช้ชีวิตของคุณช่วยให้เรามีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ จากคุณ : XODA เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:43:47

ความคิดเห็นที่ 55   คุณเบอร์รี่ กู้ ดอกแพงจังครับ ตั้ง ร้อยละ 18 แน่ะ แต่ถึกดีนะครับ ผ่านมาได้ ส่วนผม คง ไม่ไหวละ่ครับ ต้องหาทางที่มันรวยสบายกว่านี้ ส่วนคุณนิ้วจิ้ม ผมอ่านแล้ว งง จิงครับ  คราวหน้า เปลี่ยนวิธีแนะแนวหน่อยละกันนะครับ จากคุณ : Guiman เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 15:49:28

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับผมคงกำลังเริ่มต้น.. จริงๆ ผมทำธุรกิจส่วนตัวมาได้ 4- 5 ปี แล้ว.. แต่ว่าผมก็ทำงานประจำไปด้วย.. ... เริ่มจากไปขอใช้เครื่องผสมของเพื่อน.. จนตอนนี้ซื้อเครื่องผสมเป็นของตัวเองได้แล้ว (หุ้นส่วนมี 4 คน).. มีลูกน้องช่วยผสมอีก 1 คน.. ยอดขายจากหลักพัน ถึงตอนนี้กลายเป็นหลักแสนต่อเดือน (ราวๆ 1 -2 แสน).. กำไรจะหักครึ่งนึงเข้าบัญชี อีกครึ่งมาแบ่งสี่ .. เงินที่หาได้จากการทำธุรกิจถ้าเทียบกับงานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้ยังถือว่าเทียบกันไม่ได้เลย.. แต่เราทุกคนก็ยังมีกำลังใจดีอยู่.. สามคนทำงานประจำไปด้วย.. อีกคนวิ่งขายเต็มตัว.. (ต้องขอบคุณพี่ที่วิ่งขายมากๆ).. ... ความฝันคือ มีโรงงานที่เป็นรูปแบบ มีฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่ายวิจัย.. และตั้งเป้าไว้ว่าอีก 5 ปีจะออกมาช่วยพี่ที่วิ่งอยู่อีกแรง.. ทำยอดขายให้อยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประจำ.. ... เราทุกคนมีสิทธิ์ฝัน แรงบันดาลใจที่ดีจะช่วยเราอีกแรง ภาพแห่งความสำเร็จต้องเกิดขึ้นแน่ และเมื่อเราถึงฝันเราต้องรู้จักพอ.. ... จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:49:00

ความคิดเห็นที่ 57 กลับเข้ามาอ่านอีกครั้ง ได้ประสบการณ์ดี ๆ เพิ่มอีก ชื่นชมคุณ ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ ค่ะ คนทำงานของตัวเองต้องสู้ ๆ อย่างนี้และในที่สุดก็จะเกิดผลตามมา-ชื่นชมค่ะ จากคุณ : ธรรมดารำลึก เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:50:53

ความคิดเห็นที่ 58 อีกนิ๊ด..ด.. จริงๆ ธุรกิจที่ผมทำอยู่น่าจะประสานกับคุณนิ้วจิ้มได้.. ถ้าคุณนิ้วจิ้มสนใจก็หลังไมค์มาได้นะครับ.. แต่ถ้าวุ่นๆ ก็คงมีในโอกาสต่อไป.. ... จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 16:51:56

ความคิดเห็นที่ 59 #55 ดอกเบี้ยตามกฎหมายเลยนะครับนั่น ยุคก่อนวิกฤตปี 40 ดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ สิบสอง ใครมีเงินฝากสบายไป ส่วนใหญ่เอาไปซื้อที่ที่เก็งกำไรกับเล่นหุ้น คนเริ่มตั้งตัวจะเหนื่อยหน่อย ตอนนี้มีคนถามว่า อะไรที่ผมกลัวที่สุด จะได้คำตอบเสมอว่า ผมกลัวดอก ........ ดอกเบี้ยอ่ะครับ ไม่ชอบเป็นหนี้ ไม่อยากเป็นหนี้ ไม่อยากจ่าย ดอกเบี้ยอีกแล้ว เข็ดจริงๆครับ จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 18:31:13

ความคิดเห็นที่ 60 อีกมุมมองนึงของการทำธุรกิจ ดอกเบี้ยคือสิ่งที่เราต้องจ่าย เพื่อซื้อโอกาสที่ยังมาไม่ถึงครับ ถ้ารอเก็บทุนเอง อาจเสียเวลาและเสียโอกาสในปัจจุบันไปครับ ไม่ได้บอกว่าดีนะ แต่ต้องใช้ให้เป็นครับ :) จากคุณ : Jiang wei เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 23:16:06

ความคิดเห็นที่ 61 ....... แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 53 23:50:24 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 11:21:44 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 00:00:08 จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 23:55:13

ความคิดเห็นที่ 62 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:43:18 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 00:42:40

ความคิดเห็นที่ 63 งานประจำก็เหมือนทำธุรกิจของตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะเป็น Sales แต่ ก็มีงานสร้าง Pattern เสื้อผ้าด้วย..เพราะมีญาติเก่งในด้านนี้ เลยรับเป็นงานเสริม แต่ก็เริ่มคิดมองๆว่าในอนาคต จะลุยทำด้านนี้มากกว่านี้.... จากคุณ : onsky เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 00:44:54

ความคิดเห็นที่ 64 สาวกุมภ์เก่งมากครับ อยากมีธุรกิจเอสเอ็มอีเหมือนกันแต่ก็ได้แต่คิด รอความมั่นใจและเงินทุน จากคุณ : kingkithot เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 00:52:01

ความคิดเห็นที่ 65 ขายของทางเน็ตจ้าาา ออกจากงานประจำมา 6 เดือนแล้ววว เพื่อนชวนมาทำ ขายโน้นนี่ไปเรื่อยๆ ของที่ขายจากไทยบ้าง ต่างประเทศบ้าง ส่วนมากฝากเค้าหิ้วมาจากฮ่องกง รายได้ดีกว่างานประจำเยอะ (ขยันมาก ก็ได้มาก) แต่เราขี้เกียจมากกก นอนมันทั้งวัน หุหุ ตอนนี้มีเงินเก็บห้าหมื่นแว้ววว (เหมือนจะเยอะ) เมื่อก่อนทำงานประจำไม่มีเท่าไหร่ อยากได้ไรก็ซื้อๆ เด่วก็เงินเดือนออกแล้ว อาจจะเพราะไม่ได้ทำงานประจำ รายได้ไม่ค่อยแน่นอน เลยต้องประหยัดๆไว้ผ่อนคอนโดทุกเดือนๆ แต่แอบเสียดายเล็กๆ ถ้าทำตั้งแต่ทำงานประจำคงจะสบายว่านี้นะเนี้ย อิอิ ตอนนี้เริ่มคิดอยากกลับไปทำงานประจำ เพราะมันว่างงงเกิน แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 02:38:50 จากคุณ : Bowbever เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 02:33:26

ความคิดเห็นที่ 66 คุณนิ้วจิ้ม คุณทำธุรกิจอะไร ช่วยกรุณาบอกได้ไหมครับ อ่านแล้วถูกใจเป็นที่สุด รบกวนด้วยครับ ผมมีแนวคิดคล้ายคุณ นี่ที่อยู่ผมครับ ไปคุยกันต่อหน่อย http://www.keajon.com จากคุณ : keajon_webmaster (Srikridsana) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 05:24:51

ความคิดเห็นที่ 67 k. koko คะด้วยความยินดีค่ะ เมล์อิฉันคงเป็นจากในเว็บแล้วนะคะ อยากคุยเมื่อไหร่เมล์มาได้เลยค่ะ   คห.60  ก็พูดถูกนะคะ  บางทีดอกเบี้ยนี่ก็ให้โอกาสคนทำธุรกิจเยอะนะ  ถ้าไม่มีดอกเบี้ย   ธุรกิจก็อาจจะไม่ได้เติบโตก็ได้ (เพราะว่าลำพังทุนตัวเองล้วนๆ) ไม่พอที่จะขยายความเติบโตของธุรกิจ  อิฉันก็มีดอกเบี้ยเหมือนกันค่ะ แต่ว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนของคุณ ลูกผู้ชายชื่อเบอรี่ ดอกเบี้ยจาก เงิน OD ของแบงค์ที่เอาเงินมาหมุนก่อน เพราะบางทีต้องใช้เงินก้อนโตในการสั่งซื้อสินค้า  แต่เงิน ODจะดีอย่างหนึ่งคือ คืนเร็วก็หมดภาระดอกเลย ไม่เอามาใช้ก็ไม่ต้องเสียดอก คืนหมดทั้งจำนวนก็ไม่มีดอก ไม่เหมือนบัตรเครดิต  อันนั้นดอกน่ากลัวมาก แต่ ของแบงค์ไทยไม่ทราบดอกแพงหรือเปล่านะคะ ไม่เคยใช้บริการ ใช้แต่แบงค์ ING ของฮอลแลนด์  ดอกเบี้ย 1.39%   ไม่รู้แพงหรือเปล่านะคะแต่ความรู้สึกอิฉันว่ามันไม่แพง แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 06:52:00 จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 06:49:35

ความคิดเห็นที่ 68 ตัดสินแล้ว!!!! แฟรนไชส์มหาภัยแรงสุดๆอันดับ 1....ระวัง..ท่านที่กำลังคิดลงทุนอย่าตกเป็นเหยื่อ--->>> ไทยช็อป แปลงกายมาจากร้าน-->>> วีช็อป- เอกราช,สมประสงค์ หลอกชาวบ้านอีกแล้วไม่ยอมหยุด  มีทั้งมินิมาร์ท,เคาน์เตอร์เซอร์วิส,แถมหวยออนไลน์ จอมปลอม  และเมื่อคุณจ่ายเงินให้หมดแล้ว  คุณจะเจอนรกของจริง  หลอกหลอนยิ่งกว่าแม่นาคพระโขนง ผมโง่เองโดนหลอกซ้ำซากอยู่ 4 หน  ไม่อยากให้คนอื่นๆโดนหลอกเหมือนผมอีกเพราะมันยิ่งกว่าตกนรก  สอบถามข้อมูลที่  081 8050025 ปิยะพันธุ์   22 กรกฏาคม 2552 เรียนลุงแจ่ม ที่เคารพ ตามที่ผมใช้ชื่อโกนง ร้องทุกข์กับลุงแจ่มเมื่อต้นเดือนนี้ เรื่องการทำร้านมินิมาร์ทภายใต้เฟรนด์ไชด์ของร้าน วีช็อป ทางบริษัทได้ติดต่อกลับมาหาผม ว่ามีอะไรก็ต้องคุยกันก่อน ผมขอขอบคุณลุงแจ่มมากที่ได้ประสานไปทางบริษัทวีช็อป คุณเอกราช โทรหาผม เขาบอกว่ามีอะไรให้ค่อยคุยกัน ผมร้องทุกข์อย่างนี้เขาจะฟ้องผมกลับ ผมบอกไปว่าให้ผมยินดีจะขึ้นศาลให้พิสูจน์ว่าใครเป็นผู้เอาเปรียบใครหรือใคร โกงใครกันแน่ ผมอยากพิสูจน์ในกรณี 1. ขายเฟรนด์ไชด์ 600,000 บาท ได้อุปกรณ์ก็ไม่ครบตามสัญญา 2. สินค้าก็ไม่ส่งให้ต้องไปเอามาจากบริษัทอื่น ซื้อเอง คีข้อมูลเองหมด กลายเป็นภาระที่หนักขึ้นอีก 3. ทุกอย่างไม่เป็นไปตามสัญญา 4. ร้านวีช้อป จะต้องมีเคาว์เตอร์เซอวิส เอาเงินมัดจำ 50,000 บาท จากกรณี ทั้ง 3 ข้อ แรก ไม่ติดใจเท่ากับข้อที่ 4 จึงขอเล่ารายละเอียดให้ลุงแจ่มฟังดังนี้ เปิดร้านภายใต้ชื่อวีช้อปเดือน มีนาคม 52 ติดตั้งเคาว์เตอร์เซอร์วิส ในเดือน เมษายน ชื่อ บริษัทร้านค้าไทย จำกัด เลขที่ 158/1 หมู่ที่ 6 ถ.งามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ป้ายเคาว์เตอร์เซอร์วิสก็ไม่มีให้ ผมใช้บริการ ทันทีหลังจากติดตั้งแล้ว เป็นค่าไฟฟ้า ค่าผ่อนอิออน ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการแม็กเน็ต ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 ทุกอย่างไม่มีปัญหา เดือน มิถุนายน 2552 ใช้บริการอีกเหมือนเดิม จ่ายเงินในวันที่ 1 มิ.ย. 52 พอถึงวันที่ 16 มิ.ย. 2552 การไฟฟ้าภูมิภาค จ.พังงา เอาใบเตือนชำระค่าไฟฟ้ามาให้ ขอให้จ่ายเงินก็ตกใจเลยโทรไปถามบริษัทฯ ผมเลยอยากตรวจสอบว่า บริษัท ร้านค้าไทย ที่กล่าวมานี้ เป็นเคาวเตอร์เซอร์วิสจริงหรือหลอกลวงกันแน่ ผมเลยไม่กล้าใช้บริการให้กับลูกค้าและของตัวเอง เลยติดต่อขอเงินมัดจำจำนวน 50,000 บาท กลับ คุณเอกราชก็อ้างโน่นอ้างนี่ ในที่สุดผมสรุปให้เขาฟัง คุณทำผิดสัญญาผมขอเงินค่ามัดจำ 50,000 บาท คืนกลับมาเพราะผมต้องไปกู้เงินจากธนาคารมา เขาก็พูดจากแบบไม่ยอมจ่าย ผมเลยร้องทุกข์กับลุงแจ่มแล้วหลังจากนั้นเขาติดต่อกลับมาบอกว่าเราคนไทยด้วย กันทำอะไรต้องใจเย็นๆ ผมเลยบอกว่าผมขอเงินมัดจำค่าเคาวเตอร์เซอร์วิสคืน จำนวน 50,000 บาทเขาก็ตกลง จะส่งเงินให้วันพุธที่ 21 ก.ค.52 นี้ แต่แล้วก็ไม่ส่งมาเขาอ้างว่าเขาไม่มีเงิน ขอผัดเป็นวันพฤหัสที่ 22 ก.ค. ผมเอาสมุดไปเช็คธนาคารไม่มีโทรไปถาม เขาบอกว่าขอเวลาบ่ายโมงกว่า ในที่สุด ตอนเย็นประมาณ 6 โมงเย็นเขาโอนมาให้ผมแค่ 10,000 บาท ผมโทรกลับไปหาเขาอีก เขาพูดเหมือนเดิมเขาไม่มีเงินค่อยทะยอยจ่าย ครับ ผมเล่ามาแค่นี่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทุกอย่างมีเอกสารพร้อมที่ให้สื่อต่างๆ ตรวจสอบดูว่าบริษัทนี้ เป็นบริษัทแท้หรือปลอมกันแน่ แต่ถ้าบริษัทนี้ไม่หลอกลวงก็เป็นบุญของคนไทยไป แต่ถ้าหลอกลวงเหมือนข่าวในหน้าเวปต่างๆแล้วขอให้ลุงแจ่มช่วยคลี่คลายประเด็น นี้ให้ที ผมคิดว่าคงจะยอมกันยาก คนไทยหลอกคนไทยด้วยกัน คุณ วีระชัย ไตรบุญ เลขที่ 45/73/74 หมู่บ้านภูงาธานี หมู่ที่ 3 ต.ตากแดด อ.เมือง งพังง 82130 โทร.087 3815926 3285 โดย: วีระชัย IP: 117.47.80.198 23 กรกฎาคม 2552 9:17:54 น. ประสบการณ์ที่พวกเราโดนกันมาถ้วนหน้า......   http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/04/V5362476/V5362476.html จากคุณ : ปิยะพันธุ์ (หางสั้น) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:35:04

ความคิดเห็นที่ 69   เปิดร้านแฟนรไชส์สิครับ ตอนนี้มีอยู่แฟรนไชส์ค้าปลีกอันหนึ่ง ที่เค้าลงทุนให้ฟรีแล้วเราดูแล แบบนี้ดีนะครับ ไม่ต้องกลัวขาดทุน * ไม่ต้องจ่ายค่าตกแต่งร้าน *ไม่ต้องจ่ายค่าแฟนรไชส์และค่าเช่า *ไม่ต้องจ่ายค่าสต๊อกสินค้า *ไม่ต้องจ่ายค่าส่งเสริมการขาย มีความมั่นคง ไม่ต้องสต๊อตสินค้า ไม่ต้องกลัวขาดทุน สนใจเมลมาสอบถามได้นะครับ bigarch5@gmail.com จากคุณ : สุรวิทย์ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:19:43 A:124.122.184.234 X:

ความคิดเห็นที่ 70 เข้ามาอ่าน หลายๆกระทู้ให้ความรู้ แนวคิดและกำลังใจดีมากๆเลยค่ะ ตอนนี้เป็นพนักงานกินเงิเดือนประจำอยู่ คิดว่าอยากจะทำธุรกิจหรือทำอะไรเล็กๆน้อยๆเสริมเหมือนกัน  แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำไรดี จากคุณ : gnikapae เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:35:11

ความคิดเห็นที่ 71 ทำธุรกิจเดียวกับคุณสาวกุมภ์ค่ะ..... เหนื่อนสาหัสพอสมควร...ถ้าสายป่านไม่ยาวอยู่ยากกกกกกกกกก แต่ตอนนี้ติดตลาดแล้วค่ะ.......สบายๆ.... แต่.............เบื่อ.....อยากวางมืออยู่เฉยๆๆๆแล้ว....... จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:01:54

ความคิดเห็นที่ 72 จบบริหารด้านครัวเเละภัตาคารมาครับ ทำงานโรงเเรมได้สักพัก ทำงานโรงเเรมเข้าไม่เป็นเวลา.....วันหยุดของคนหลายๆคน คือวันทำงาน เเสนหนักของเรา เสาร์อาทิตย์ไม่เคยได้เจอหน้าพ่อเเม่ เพื่อน ตอนนี้ลาออกเเล้วครับ เบื่องานเอาใจคน ต้องเข้ากะดึก หลังๆมาโทรมมากกกกกกกกก  สุขภาพเเย่มาก เลยตัดสินใจออก   ส่วนตัวมีความสามารถด้านทำดอกไม้สดเเบบไทย ก็เลยลงโพสประกาศ ไว้ในเว็บ อาศัยว่าเข้าไปอัพเดททุกวันๆ เลยทำให้ผมติดอันดับการเสิซ ในกูเกิ้ล ถ้าใครเสิซ คำว่า มาลัยข้อพระกร หรือมาลัยบ่าวสาว ต้องพบร้าน ผม ในอันดับต้น ทำให้ก็มีคนสนใจโทรมาถามบ้าง งานดอกไม้สดพวกงานมาลัย งานพานพุ่ม ขันหมากไรเงี้ยครับ ปัญหาคือ ต้องทำคนเดียว ซื้อดอกไม้เอง ถ้าลูกค้าไม่มาเอาเอง ผมก็ส่งให้ ง้อลุกค้าสุดๆ ณ ตอนนี้ เหนื่อยมากครับ เป้นงานฝีมือ ใช้ Skill อะครับ กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น รับงานอยุ่กับบ้าน งานของผมจะเเพงกว่าตามมปากคลองตลาด เป็นงานคนละเเนวเลย ของผมจะเน้นเเบบโบราณๆ ไม่ใช้ดอกไม้พลาสติคมาผสมเลย รูปทรง สัดส่วน จะเป๋ะ ถูกต้องตามตำรา อาศัยว่างานเราเนี้ยบ ลูกค้าส่วนมากเลยไม่เกี่ยงราคา ช่วงนี้เดือนคู่งานเเต่งเยอะ เลยพลอยทำให้มีรายได้ตามมาเยอะบ้าง ลูกค้าสนใจก็เมลล์มาถามบ้าง สั่งบ้าง ตอนนี้รายได้เดือนละหมื่นกว่าๆ สำหรับผมก็ถือว่าอยู่ได้นะครับ ไม่ต้องเป้นลูกน้องใคร ได้ทำในสิ่งที่ชอบ นี่ว่าจะรับเสื้อผ้ามาขายในเว็บ OVZ เหมือนกัน เเต่ยังไม่รู้ช่องทางเลยครับ เขารับเสื้อเเนวๆ สวยๆ ถูกๆมาจากไหนกัน ช่วยเเนะด้วยครับ เป็นลูกจ้างเขาไปตลอด มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ กดดันนน เอารูปสินค้ามาอวดนิดหน่อยครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 17:05:31 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 17:04:18 จากคุณ : panard1 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:02:48

ความคิดเห็นที่ 73 ชอบคุณ ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ มากๆครับ   ขอเก็บไปเป็นกำลังใจให้ตัวเอง จากคุณ : กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ริมระเบียง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 20:48:36

ความคิดเห็นที่ 74   ไม่ได้อ่าน นิ้วจิ้ม นิ้วจุ่ม ไรเลย เห็นเขียนยาวๆ เลยข้ามไป ขี้เกียจอ่าน อ่านแต่คนทำธุรกิจจริงๆ แล้วเล่าสั้นๆ ค่ะ จากคุณ : V-Day เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:13:17 A:58.8.229.75 X: TicketID:006728

ความคิดเห็นที่ 75 ขายความคิดค่ะ วาดภาพประกอบ+ออกแบบปกหนังสือ ถือเป็นธุรกิจได้ไหมนะ ลงทุน-แมค 1 ตัว +  tablet + ปรินเตอร์ + สมุด + ดินสอ (กู้เงินแม่ทั้งนั้น 55) ประวัติการทำงาน เมื่อ 3 ปีก่อน ร่อน portfolio ไปทั่ว ติดต่อกลับมา 5-6 ที่ แต่ได้งานมา 2-3 งาน +โดนเบี้ยวเงิน ฟรีแลนซ์กลายเป็นฟรีแล้วๆ พวกรุ่นพี่ก็บอกว่ามันคือเรื่องปกติ - -" ชีช้ำกะหล่ำปีมากมาย จึงตัดสินใจไปเรียนภาษา กะว่าหนีไปต่างประเทศดีกว่า แต่ไปไม่รอด กลับมาไทยด้วยอาการชอกช้ำกว่าเก่า เพราะไม่รู้จะทำงานอะไร ต้นปี 52 มีคนติดต่อจ้างทำปกหนังสือ พอทำงานได้ 3-4 ชิ้น เริ่มมีคนติดต่อเพิ่มเรื่อยๆ คนจ้างอาศัยปากต่อปาก เห็นผลงานก็บอกต่อๆกัน ปัญหาเยอะ เพราะเราไม่ได้เรียนมาโดยตรง โชคดีคนจ้างให้โอกาสและเวลาแก้ไข เรียกว่าเราเรียนไปด้วย แก้งานไปด้วย สั่งแก้ 10 รอบ ก็แก้สิบรอบ อดหลับอดนอน อะไรไม่ดี ไม่สวย ก็ทำไปจนกว่าคนจ้างจะพอใจ รายได้ปีที่แล้วประมาณ 200,000 บาท อาจจะยังไม่มาก แต่คิดว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:16:57

ความคิดเห็นที่ 76 ถ้าคอนเซปท์ธุรกิจ คือมันรันได้ด้วยตัวของมันเอง มีเงินเข้าทุกเดือน งานอดิเรกเล็กๆแต่เป้าหมายใหญ่ของผม ก็เริ่มเข้าท่าบ้างแล้ว ผมทำเว็บเป็นนิดหน่อยเลยรองทำเว็บเกี่ยวกับท่องเที่ยวดู แรกๆทำเล่นๆต่อมารู้จักกับเว็บที่เป็นเอเย่นจองโรงแรมในไทยก็เลยเอาแบนเนอร์มาติดที่เว็บตัวเองสวยๆ คือถ้ามีคนจองโรงแรมผ่านเว็บของเราเราจะได้ค่าคอม ตอนแรกๆก็คิดว่าใครมันจะมาคลิกวะ ต่อมาได้ยอดจองออเดอร์แรกมาก็งงเลย 100กว่าบาท ตอนนี้ผ่านมาสองปีแล้ว งานประจำยุ่งๆไม่ได้แตะเว็บเลย แต่ได้เดือนละ 5,000 6,000 กินขนมทุกเดือนเลย อันนี้เป็นส่วนนึงน่ะครับ ยังมีไลน์อื่นที่ไม่ใช่โรงแรมอีก ใครสนใจหลังไมค์นะครับอะไรแนะได้จะแนะให้ครับ ก็ดีนะครับสำหรับคนชอบเล่นเนทนั่งหน้าคอม อย่าเอาเวลาไปแชทนานหรือไปดูอะไรไร้สาระมากครับนิดๆหน่อยๆพอ เอาเวลาไปตามหาตัวตนของตัวเองดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:28:12 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:27:09 จากคุณ : shuriken เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:26:55

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ อยากรู้จังทำอย่างไร จากคุณ : โดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 03:22:42

ความคิดเห็นที่ 78 ชอบกระทู้นี้มากมายเลยค่ะ หลายๆคห.อ่านแล้วได้อารมณ์ผู้ประกอบการมากๆเลย ตอนนี้เราทำงานประจำอยู่ค่ะ แต่กำลังจะเปิดร้านขายหนังสือออนไลน์ เป็นพวกหนัง สือบริหารธุรกิจ การลงทุน หุ้น การเงิน อสังหาฯ อะไรแนวๆนี้แหละค่ะ แต่เป็นหนัง สือมือสองนะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่เราซื้อมาอ่านเองค่ะ ชอบอ่านหนังสอแนวนี้ อ่านไปอ่านมาเลยมีเก็บไว้หลายเล่มอยู่ เลยเกิดความคิดว่าเอามาขายน่าจะดีกว่า เก็บไว้เฉยๆให้ฝุ่นเกาะ อีกอย่างถ้าทำธุรกิจนี้ เราก็จะมีโอกาสไ้ด้อ่านหนังสือมาก มายเลยค่ะ แต่คอนเซปร้านของเราที่คิดไว้ไม่ได้เน้นขายหนังสืออย่าเดียวนะคะ เรา อยากเน้นไปที่บทความทางด้านการเงิน การลงทุน การออม รวมทั้งรีวิวหนังสือเล่ม ที่คิดว่าคนที่สนใจทางด้านนี้น่าจะได้อ่านมากกว่าค่ะ คือเรื่องของเรื่องเราอยากมีอิสรภาพทางการเงินน่ะค่ะ แบบเป็นคนขี้เกียจ อยาก ออกมาอยู่บ้าน จะได้มีเวลาไปหาไปดูแลคนที่เรารัก เราก็เลยเกิดความคิดว่าต้อง สร้างเครื่องผลิตเงินขึ้นมา เพื่อที่จะมาทำงานหาเงินแทนเรา ก็เลยอ่านๆๆๆๆๆทั้ง หนังสือทั้งบทความจากเวบต่างๆ หลายๆบทความที่เราอ่านนั้นมีประโยชน์มาก มาย เลยอยากเอาสิ่งที่ได้มาแชร์กับคนอื่นๆค่ะ ขออนุญาตทุกๆคนไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะว่าถ้าทำเวบเสร็จ จะขอเอามาให้เพื่อนๆใน นี้ช่วยกันติชมอ่ะค่ะ แล้วก็ถ้าใครมีหนังสือแนวๆนี้ สภาพดี อ่านจบแล้ว อยาก ขาย ติดต่อมาได้นะค่ะ เรารับซื้อที่ 30% - 35% จากราคาปกค่ะ หรือถ้าใครทำ ร้านหนังสือหรือกำลังจะเริ่มธุรกิจ ต้องการเพื่อนพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ก็เมลมาหาเราได้ที่ ชื่อเรา@hotmail.com นะคะ่ จากคุณ : guayjeng เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 22:21:27

ความคิดเห็นที่ 79 เข้ามาดู ... ขอบคุณ หลาย ๆ ท่านนะครับ ที่นำประสบการณ์ มาแชร์ มาเล่าให้ฟังนะครับ จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:11:00

ความคิดเห็นที่ 80   ขอบคุณสำหรับทุกๆ คห.ค่ะ เพิ่งได้กลับเข้ามาอ่านกระทู้ค่ะ พอดีช่วงที่ผ่านมายุ่งๆกับงานที่โรงเรียนเลยไม่ค่อยได้เข้าพันทิพย์มากเท่าไหร่ค่ะ พี่ๆแถวนี้เก่งๆกันเยอะเลย ทำให้เราเรียนรู้หลายๆแง่มุมของการทำธุรกิจค่ะ ว่าไม่ใช้จะมีแต่ขึ้นอย่างเดียว บางครั้งก็มีลงบ้าง แต่พี่ๆแถวนี้ก็สามารถผ่านมันไปได้ สำหรับอีกหลายคห ก็สามารถจับจุด ทำธุรกิจของตัวเองได้ โดยนำความสามารถเฉพาะตัวมาใช้ เช่น ขายมาลัย หรือบางคนเกิดจากความชอบส่วนตัว หรือบางคนก็จับโน้นผสมนี่ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ เช่น เสื้อสกรีน เก่งกันทุกๆคนเลยค่ะ สำหรับจขกท ชีวิตการเรียนยังอีกยาวไกลค่ะ ไว้ในอนาคตข้างหน้าจะขอลงมือทำกับเค้าบ้าง สำหรับพี่ๆแถวนี้ คาดว่าอีกไม่นานคงรวยกันถ้วนหน้านะคะ :) ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานที่สู้ชีวิตทุกคน ขอให้ผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆไปได้ และประสบความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงาน การเรียนทุกท่านนะคะ จขกท จากคุณ : naytiri เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 05:04:31

ความคิดเห็นที่ 82 ทำร้านถ่ายรูปเหมือนกันจ้า จากคุณ : ทำมาหลายปีแล้ว (pk_lovely) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 23:59:10

ความคิดเห็นที่ 83   กระทู้นี้ดีจริงๆครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 53 17:37:48 จากคุณ : coffeelounge เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 17:33:36