 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
แนวทางที่สอง..การจัดสรรเงิน ลงทุน เพื่อให้ได้เงินภาษีคืนสูงสุด กรณีบุคคลธรรมดาส่วนใหญ่นิยมลงทุน ก็เช่น การฝากเงินกินดอกบี้ย เงินปันผลจากหุ้น ลงทุนในที่ดิน กองทุนรวม RMF และ LTF เป็นต้น
อมรศักดิ์ แนะนำว่า การมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก หรือรายได้จากเงินปันผลจากหุ้น สามารถประหยัดการจ่ายภาษีได้ เช่น กรณีรายได้จากดอกเบี้ย ปกติจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% สามารถยื่นเครดิตภาษีคืน(ยื่นแบบภงด.90) หรือไม่ ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาตัดสินใจดังนี้
หากเป็นคนที่มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากสูง การตัดใจเลือกเสียภาษีวิธีใดให้พิจารณาว่า ภาษีจากการยื่นแบบภงด.90 สูงกว่า หรือ ต่ำกว่า ภาษีเงินได้ดอกเบี้ยที่หัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 15%
ถ้าภาษีดอกเบี้ยหัก ณ ที่จ่าย ต่ำกว่า เช่น ดอกเบี้ยรับ 5 หมื่นบาท ถูกหักาษี ณ ที่จ่าย 7,500 บาท หรือ ดอกเบี้ยรับ 1 แสนบาท ถูกหักภาษีณ ที่จ่าย 1.5 หมื่นบาท โดยไม่มีภาระเสียภาษีจากการยื่นแบบงด.90 ให้ตัดสินใจเลือกยื่นภงด.90 ช่วงปลายปี เพราะจะมีสิทธิขอคืนภาษีที่ถูก ณ ที่จ่ายได้ทั้งหมด
แต่หากมีดอกเบี้ยรับสูงๆ เช่น 5 ล้านบาท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 7.5 แสนบาท และมีภาษีจากการยื่นแบบภงด.90 จำนวน 1,382,800 บาท ตรงนี้ให้เลือกวิธีถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือไม่ต้องยื่นแบบขอเครดิตภาษีคืนในช่วงปลายปี เพราะหากนำรายได้ไปรวมปลายปีจะทำให้ภาระภาษีมากกว่า 15%
เช่นเดียวกัน ในกรณีรายได้จากเงินปันผลในหุ้น ปกติต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10% ผู้รับเงินมีสิทธิจะเลือกว่าจะนำเงินได้ดังกล่าวไปรวมยื่นแบบภงด.90 ตอนปลายปีหรือไม่ก็ได้
กรณีเงินปันผล ถ้าหากรายได้จากเงินปันผล น้อยกว่า 7 ล้านบาท ควรรวมกับเงินได้ปลายปี เพื่อยื่นขอยื่นภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย แต่หากเงินปันผลที่ได้ มากกว่า 7 ล้านบาท ไม่ควรยื่นขอคืน เพราะจะทำให้ภาระภาษีมากกว่า 10%
สำหรับการลงทุนในที่ดิน อมรศักดิ์ แนะนำว่า เพื่อให้ผู้ขายที่ดินได้สิทธิประโยชน์ภาษี ควรจะขายในจังหวะที่รัฐบาลใช้มาตรการประหยัดภาษี เช่น ก่อนในวันที่ 28 มี.ค.2553 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของมาตรการลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ ก็จะทำให้เสียค่าใช้จ่ายทางภาษี 4 ประเภทในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งภาษีรายได้ โอน อากรแสตมป์ และภาษีธุรกิจเฉพาะ
นอกจากนั้น กรณีการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ก็สามารถช่วยลดภาระภาษีได้เช่นกัน โดยสามารถหักเงินได้ได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี
หากสามี-ภรรยา ลงทุนในกองทุนอาร์เอ็มเอฟ และแอลทีเอฟ ทั้งสองคน จะช่วยลดภาษีได้เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะจะสามารถประหยัดภาษีไปได้สูงสุดถึง 2 ล้านบาท อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับผลกำไรจากการลงทุนตามปกติ อีกต่อหนึ่งด้วยในกรณีที่ภาวะตลาดดี"
จากคุณ |
:
ขอบฟ้าบูรพา
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.พ. 53 13:50:16
|
|
|
|
 |