ความคิดเห็นที่ 1 Put the right man on the right job. ครับ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานว่า ต้องใช้คนแบบไหน จะโง่จะฉลาดจะขยันจะขี้เกียจ ไม่สำคัญเท่าความรับผิดชอบครับ จากคุณ : เด็กทุ่งครุ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 21:22:47

ความคิดเห็นที่ 2 ขยันแต่โง่ครับ เพราะ คนขยันมันไม่โง่เรื่องเดิมทุกวันหลอกครับ แต่คนฉลาดแต่ขี้เกียจ ถ้ามันโกงขึ้นมาวอดวาย ทั้งองค์กร ครับ จากคุณ : ได้เวลาออกผจญภัย เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 21:33:30

ความคิดเห็นที่ 3 ขยันแต่โง่ครับ เพราะ คนขยันมันไม่โง่เรื่องเดิมทุกวันหลอกครับ แต่คนฉลาดแต่ขี้เกียจ ถ้ามันโกงขึ้นมาวอดวาย ทั้งองค์กร ครับ จากคุณ : ได้เวลาออกผจญภัย เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 21:36:54

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้วก็ ไม่น่าจะรับทั้ง 2 คนครับ ฮ่าๆ หาคนใหม่ดีกว่า แต่ในกรณีสมมติ ที่มีตัวเลือกแค่นี้และจำเป็นตัวเลือก ผมไม่เลือกคนโง่ที่ขยันครับ เพราะจะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆออกมา แต่ขอนิยามความโง่เล็กน้อย โง่ สำหรับผมคือ โง่ในสิ่งที่ต้องทำ ไม่มีใครโง่สมบูรณ์แบบ หรือ ฉลาดสมบูรณ์แบบ คนโง่คนนั้น อาจจะยังไม่เจอความฉลาดของตัวเอง จึงแสดงความโง่หรือความไม่ถนัดออกมา จากคุณ : torprc เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 21:36:57

ความคิดเห็นที่ 5 ขยันแต่โง่ทำงานเสียหายไหม ฉลาดแต่ขี้เกียจงานที่รับผิดชอบบกพร่องไหม ถ้าไม่ใครก็ได้ จากคุณ : pom-yel เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 22:01:18

ความคิดเห็นที่ 6 เลือกคนฉลาดครับ ความฉลาดนี่มันสอนกันไม่ได้นะครับ มันติดตัวมาตั้งแต่เกิด ความขยันเนี่ยะ มันแก้กันได้ ส่วนขยันแต่โง่ ไม่เอา เดี๋ยวจะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ จากคุณ : mm_takky เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 22:03:21

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นฝ่ายบุคคล หรือคนที่คัดเลือก ต้องมีความสามารถ... ที่จะพัฒนาคนโง่ ให้ฉลาดขึ้นได้ ขณะที่มีวิธีการจัดการ คนขี้เกียจให้ตั้งใจทำงานได้ จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 22:25:24

ความคิดเห็นที่ 8 ฮิตเลอร์กล่าวไว้ว่า ไม่เอา คนขยันแต่โง่ครับ เพราะ จะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆครับ 55 จากคุณ : ปิงปองสี่เหลี่ยม เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 23:22:26

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเอาฉลาดแต่ขี้เกียจนะ ถ้ามันมีแค่2ตัวให้เลือก แล้วความขี้เกียจ สามารถขจัดได้ครับ ถ้าได้นายมีฝีมือ คนเก่ง ทำงานเสร็จเร็ว ว่างเป็นไม่ได้ต้องเล่นเน็ท กับคนโง่ ทำงานยันดึก งานถึงจะออก เช้ามามีงานมาส่งที่เหมือนกัน คุณภาพทัดเทียมกัน ผมเอาคนเก่งนะ คนเก่งก็เหมือนม้าดีฝีเท้าจัดเดินย่องๆแหละครับ ลงแส้ก็ควบได้ไวดังใจ คนโง่ ม้าแกลบฝีเท้าวิ่งช้า ลงแส้ให้ตายก็มิอาจวิ่งให้เร็วกว่านั้นได้ จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 23:37:27

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่านะ คนขี้เกียจ มันเป็นเพราะไม่มีแรงท้าทาย หมดแรงจูงใจ ต้องพัฒนาด้านสปิริตขึ้นมาสักหน่อย ส่วนคนโง่ ผมว่า ไม่มีใครโง่เกินไปหรอกครับ ถ้าไม่ได้เป็นคนปัญญาอ่อน IQ คนเรา จบปริญญาตรีมาเหมือนกัน มันจะต่างกันสักแค่ไหน อันนี้คงต้องแก้ปัญหาเป็นจุดๆไป สำหรับเค้าครับ วันนึงเค้าก็เก่งขึ้นมาได้เองนะ คนเรามันพัฒนากันได้ เก่งหรือโง่ ก็ต้องการการพัฒนาทั้งนั้นละครับผม จากคุณ : Culture เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 23:54:55

ความคิดเห็นที่ 11 ชีวิตผมโชคดีมากที่ได้มีเพื่อนที่ฉลาด(มากๆ) หลายคน... เท่าที่สัมผัสกับคนเหล่านั้นมา...ไม่มีสักคนที่มันขี้เกียจ... ปัญหาสำหรับคนจำพวกนี้คือ...งานมันท้าทายพอที่จะทำให้มันขยันหรือเปล่า?...เท่านั้นจริงๆ... จากคุณ : นายซอมซ่อ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 23:57:02

ความคิดเห็นที่ 12 วิธีการใช้คนของนาซี แบ่งคนออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่ม ที่หนึ่ง เป็นพวกฉลาดและขยัน เขาจะจัดให้ทำหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ คือ เป็นคนช่วยคิดช่วยอ่านและช่วยวางแผน รวมทั้งร่างยุทธศาสตร์และยุทธวิธีต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยคนฉลาดและขยัน กลุ่ม ที่สอง เป็นพวกฉลาดแต่ขี้เกียจ พวกนี้เขาจัดวางอยู่ในสายบังคับบัญชาหน่วยที่เรียกว่าฝ่าย "ไลน์" เป็น ผบ.หมวด ผบ.กองร้อย ผบ.กองพัน จนกระทั่งถึงขั้นแม่ทัพ ทั้งนี้เพราะเขาเห็นว่าคนกลุ่มนี้ฉลาดแต่ขี้เกียจธรรมชาติจึงจัดทดแทนกัน โดยสร้างให้คนกลุ่มนี้เก่งในทางบังคับบัญชาสั่งงานและตัดสินใจ คนพวกนี้ขี้เกียจจึงมีความสามารถจากธรรมชาติ ให้เป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง แต่รู้จักมอบหมายใช้สอยคนอื่นทำ กลุ่ม ที่สาม เป็นพวกโง่และขี้เกียจ พวกนี้เขาวางตัวไว้เป็นทหารเร็ว คอยรับคำสั่ง คิดไม่เป็นและขี้เกียจ ต้องให้คนคอยจี้ใช้ให้ทำงานตามสั่ง จึงเหมาะที่จะเป็นลูกแถว โดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ธรรมชาติสร้างให้เป็นคนหัวอ่อนตามกฎแห่งการดำรงอยู่ของ ธรรมชาติ กลุ่มที่สี่ เป็นพวกโง่แต่ขยัน คนพวกนี้เขาจะคัดออกจากกองทัพ ไม่ให้ทำหน้าที่อะไรทั้งสิ้น เพราะด้วยความโง่แต่ขยัน อาจจะขยันทำผิดให้ผู้อื่นต้องตามแก้ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน จากหลักการแบ่งคนเป็น 4 ประเภทของอดอรฟ์ ฮิตเลอร์ เวอร์ชั่นที่รวบรัดที่สุดเท่าที่หาได้ จากคุณ : bluedimon เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 00:16:15

ความคิดเห็นที่ 13 ฉลาดแต่ขี้เกียจ ถ้ามันไม่ทำงาน เราก็ไม่เสียหายอะไร ขยันแต่โง่ ถ้ามันทำแล้วพัง เราต้องมาตามนั่งแก้ เสียเวลาอีก สรุป ถ้าต้องเลือกก็ขอเป็น ฉลาดแต่ขี้เกียจ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 00:49:43

ความคิดเห็นที่ 14 เจอมาแล้วทั้ง 2 แบบ ถ้าจะเลือก คงเลือกให้เหมาะกับนิสัยบริหารของเราเอง ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบตามจี้เลยครับ แต่ชอบสอนมากๆ ฉะนั้น ผมจะลำบากมากกว่าถ้าเจอลูกน้องฉลาดแค่ขี้เกียจ เพราะต้องคอยจี้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเซ็งและเสียเวลามาก แต่คนโง่ แม้จะเป็นช้า รับอะไรได้ช้า ผมมีความอดทนพอครับ และผมชื่นชมคนมีมานะ ขยันอดทนเป็นทุนเดิม ทำให้ผมเข้ากับเขาดีกว่าพวกฉลาดอู้งานครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 53 04:26:33 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 04:25:56

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าคนโง่ยังไงมันคงไม่โง่ดักดานตลอดชาติหรอกครับ มันต้องมีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นตลอดละครับ อาจจะช้าไปหน่อยแต่ก็ซึมซับครับ จากคุณ : ตาชิโบ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 07:43:24

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เคยเจอคนโง่แต่ขยัน พบแต่  ฉลาด  โกง  และขี้เกียจ  เอาเปรียบ  หลบไปหลบมา  ทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : สุภาพสตรี เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 08:49:52

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีคนแบบนั้นที่คุณว่ามาหรอก   นิยามของขยันแต่โง่ คืออะไร ? เรามีเพื่อนคนหนึ้งขยันทำงานทุกอย่างมาก ทำทุกอย่าง แต่ว่าดูภายนอกเป็นคนซื่อสัตย์และดูซื่อๆ เพื่อนๆ ทุกคนชอบมองว่าเป็นคน ซื่อบื้อ ตามคนอื่นไม่ทัน...แบบนี้เรียกว่าขยันแต่โง่หรือเปล่า? แล้วฉลาดแต่ขี้เกียจ เป็นยังไง หมายถึงคนที่ได้ IQ สูง ๆ แต่ว่านอนอยุ่กับที่ ขลุกอยู่ในงานเดิมซ้ำ ๆ นาน ๆ ไม่ยอมทำงานอย่างอื่น ดินพอกหางหมูไปเรื่อย ๆ แบบนี้หรือเปล่า ที่เรียกว่า ขยันและขี้เกียจ.... ชีวิตคนเรา บุคลิกของแต่ละคน ยากนักที่จะมาตัดสินว่า คนนี้ขยันแต่โง่ ฉลาดแต่ขี้เกียจ หากใช้เวลาพิจารณาเพียงผิวเผิน แต่ถ้ามองกันจริง ๆ แล้ว มันอยู่ที่ว่า คนที่จะจ้างจะสามารถดึงศักยภาพของคนสองประเภท ที่ล้นและขาด สองอย่างนี้ได้อย่างไรมากกว่า... โดยส่วนตัว ไม่คิดว่ามีคนสองอย่างเช่นที่ จขกท. ว่ามา หรือเหตุที่จะมี ก็เพราะคนไปให้ความหมาย ไปตั้งฉายาแทนค่าบุคลิกภาพของคนนั้นๆ หรือเปล่า? จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 08:54:30

ความคิดเห็นที่ 18   คนฉลาดแต่ขี้เกียจ เพราะ ถ้าคุณเป็นคนฉลาดจริง คุณควรเลือกคนที่ฉลาดมาทำงานด้วย เเม้ว่าเขาจะขี้เกียจ เเต่ผลประโยชน์ที่ได้รับ มากกว่าใช้คนที่ขยันเเต่โง่ ยกตัวอย่างเวลา คุณต้องการคำปรึกษา เขาก็สามารถให้คำปรึกษาคุณได้ ซึ่งงานเเบบนี้ไม่ต้องการความขยัน เเละการมอบงานให้คนฉลาดนั้น คุณไม่ต้องอธิบายให้เขาฟังหลายรอบเหมือนกับคนโง่ เเละขยัน ซึ่งถ้าคุณกำหนด เส้นตายในการทำงาน เเละคุณมีความเป้นผู้นำให้เขาเคารพ เขาก็จะทำงานส่งคุณตามเวลาโดยที่คุณไม่ต้องมานั่งเเก้ ซ้ำให้ปวดหัว การใช้คนโง่เเต่ขยัน เเม้ออกจะดูดีตรงที่เขาขยัน เเต่คุณต้องประสบกับปัญหา ในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น การสั่งงานซ้ำซาก การพยายามอธิบายงานให้ลูกน้องเข้าใจหลายรอบ การทำงานผิดๆ มาส่ง  การกระทำโง่ๆ ที่ไม่ได้ไตรตรองด้วย Logic  เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองเเต่ละคนครับ นี้เป้นเพียงมุมมองหนึ่งของผมเท่านั้นครับ ส่วนเรื่องความรับผิดชอบ ถ้าคุณมอบผลประโยชน์ที่สมเหตุสมผลให้เขา หรือสามารถจุดประกายความศรัทธาเเละความภูมิใจในตัวเขาได้ ความรับผิดชอบจะตามมาครับ จากคุณ : Zest_Law เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 11:31:36

ความคิดเห็นที่ 19 ตาม #8 เคยได้ยินคำว่า... 'โง่แล้วเsอกขยัน กองทัพสั่งตัดหัวทิ้ง' มั้ยคะ คือ บางทีคนแบบนี้ ถ้าคุมไม่ดี สร้างความเสียหายได้มากและร้ายแรง ในสถานการณ์สงครามเขาเลยไม่เอาไว้อ่ะ ...ไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนะ แต่เคยได้ยินและนึกภาพออก จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 12:17:34

ความคิดเห็นที่ 20 ขยันแต่ขี้เกียจสิครับ มันมีวิธีจูงใจให้ทำงานได้  อัดฉีดโบนัส เพิ่มเงินเดือนตามผลงานความสามารถ   เดี๋ยวมันก็ทำงานเองแหละ แต่โง่นี่  .......  ยังไงมันก็โง่ว่ะ ให้ทำไงล่ะ จากคุณ : Fresh Extra เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 13:29:07

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เลือกอ่ะ คัดใหม่ เอาแบบขยันและเก่ง ยังไงก็ต้องมีสิน่า จากคุณ : ฟุตลอง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 15:09:38

ความคิดเห็นที่ 22   อย่าไปเรียกคนหรือมนุษย์ว่า คนโง่ เราก็เป็นคนเหมือนกัน และมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่คนฉลาดทั่วไป ยังไม่ได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ ถึงจุดหนึ่ง ก็ต้องอาศัยการเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ตนเองยังไม่รู้ ดังนั้นคนที่ไม่รู้ อาจเป็นเพราะ เขายังไม่ได้รับโอกาสที่ดีกว่า แต่ไม่ใช่คนโง่ หากเลือกคนมาทำงาน ผมจะเลือกคนที่มีจริยธรรมเข้ามาร่วมงานมากกว่า ต้องเป็นคนซื่อตรง อย่าพูดเท็จ อย่าหลอกลวงคนอื่น ในวงการธุรกิจ การค้าทั่วไป การประกอบกิจการให้รุ่งเรือง ต้องอาศัยบุคคลากรที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ปัญญาเป็นเลิศ มีหัวการค้าและประสบการณ์ยาวนานมาร่วมงานในองค์กร แต่ต้องเป็นคนที่มีจริยธรรม และซื่อตรง มีคำพังเพยที่ว่า "คนฉลาดมักจมความฉลาดของตนเอง" ซึ่งมีความหมายว่า หากบุคลากรผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศเหล่านั้น ใช้ความฉลาดของตนไปในทางที่ผิด จะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงอย่างชนิดที่คาดไม่ถึง เพราะเป็นคนหัวดี จึงคิดสามารถทำการทุจริตอย่างที่คนที่ไม่หัวดีขนาดนั้นอาจคิดไม่ถึงว่าทำแบบนั้นก็ได้ด้วย เช่น ธ.แบริ่ง ของอังกฤษ ล้มละลายเพราะลูกจ้างเพียงคนเดียว หรือนาย.... ที่ทำให้ bbc ต้องปิดกิจการลงไป ฯลฯ จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 21:21:03

ความคิดเห็นที่ 23   เราว่านะ ไม่มีคนโง่ในโลกนี้ครับ เพี่ยงแต่เขาไม่รู้เท่านั้น บางครั้งเขาอาจฉลาดแต่เรื่องที่เขารู้บางเรื่องเขาก็โง่เท่านั้น จากคุณ : coobba เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 22:38:14

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่รู้นะว่าผมและเพื่อนเป็นแบบไหน ผมทำงานวันละ 2.5 ชม รายได้วันละ1000-2000 บางวันเคยมีฟลุ๊คที่ 10000 บาท เพื่อนทำงานวันละ 12 ชม รายได้วันละ 270 ผมพยายามชวนเพื่อนให้มาทำแบบผม มันไม่ทำ มันบอกมันชอบแบบนั้นมันไม่ชอบค้าขาย งานผมออกแรงประมาณ 20 % งานเพื่อนออกแรง 80 % งานผมหยุดวันไหนก็ได้ เคยหยุดทำทีละ 6 เดือนไปเที่ยวทั่วไทย  งานเพื่อนหยุดติดต่อเกิน 3 วันโดนๆไล่ออก ผมเวลาที่เหลือของวันเล่นเนท ดูทีวี เล่นเกมส์ นอน เที่ยว ขี้เกียจไปวันๆ เพื่อน เวลาที่เหลือพยายามหางานทำเพิ่มไม่พักผ่อน ผมจบมหาลัยครูเพื่อนจบ ม บูรพา ผมในวันนี้อายุ 24 มีแฟน 1 คนมีบ้านเงินสด มีรถยนต์เงินสด มีเงินเก็บ ไปเที่ยวมาแทบทุกที่ในประเทศและต่างประเทศบ้าง เพื่อนอยู่ห้องเช่า มีแฟน 1 คน มอไซด์ 1 คัน เงินพอใช้เดือนต่อเดือน ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย แต่ผมก็ยังเป็นเพื่อนกับมันนชวนมันมาทำกิจการด้วยตัวเอง แต่มันก็ไม่ทำ มันว่ามันไม่กล้าทำกลัวเจ๊ง อยากบอกกับมันว่า ถ้ากลัวแล้วเมื่อไหร่จะรวย ทำเถอะเชื่อกรู ผมเป็นตัวแทนของคนขี้เกียจฉลาดหน่ะคงไม่ฉลาด มันเป็นตัวแทนของคนขยันแต่ไม่กล้าที่จะลงมือทำ จากคุณ : marukoe119 เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 12:24:10

ความคิดเห็นที่ 25 ต้องถามก่อนว่า คุณเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานในสองสิ่งนี้ ความฉลาด/โง่ และขี้เกียจ/ขยัน เพราะงานที่ไม่ต้องใช้สมองจ้างคนเก่งไปก็เสียดายความสามารถ แต่งานพวกนี้ก็ต้องอาศัยคนขยันและสม่ำเสมอมากกว่า ส่วนงานระดับที่ใช้สมอง หากให้คนโง่ทำมันก็คงไม่ได้เรื่อง แม้ว่าจะขยันก็ตาม สรุปแล้วใช้คนให้ถูกกับงานและความสามารถดีที่สุดครับท่าน จากคุณ : artsci (artsci) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 16:52:55

ความคิดเห็นที่ 26 คห. 24 เหมือนคอนเซปท์ MLM เลยอ่ะ จากคุณ : หนอนน้อย เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 17:44:05

ความคิดเห็นที่ 27 ต้องดูว่าโง่ขนาดไหน ยกตัวอย่างพวกขยันแต่โง่ให้ดู โครงการหวยออนไลน์ เริ่มโครงการมาปีกว่า ทั้งที่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น กลับไม่สั่งยุติดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ มารอให้โครงการใกล้เสร็จ แล้วค่อยมาบอกว่าไม่เห็นด้วย แล้วค่อยบอกยกเลิกโครงการ ทำให้รัฐต้องเสียค่าปรับให้กับคู่สัญญา หรือเกิดคดีความฟ้องร้องกัน จากคุณ : Rovivta เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 17:49:52

ความคิดเห็นที่ 28 คนมีทุกประเภทจงฉลาดที่จะใช้งานครับ ยิ่งเป็นนายหัวหน้างานหรือนายจ้าง คำว่าโง่หรือฉลาดวัดกันไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการบุคคลของเราเอง จากคุณ : แกะแดง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 21:11:55

ความคิดเห็นที่ 29 คนมีทุกประเภทจงฉลาดที่จะใช้งานครับ ยิ่งเป็นนายหัวหน้างานหรือนายจ้าง คำว่าโง่หรือฉลาดวัดกันไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการบุคคลของเราเอง จากคุณ : แกะแดง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 21:13:04

ความคิดเห็นที่ 30   ผมว่าคนฉลาดเขาต้องรู้ว่าต้องทำไงให้ Performance ตัวเองดี คนฉลาดแต่ขี้เกียจไม่มีนะครับ น่าจะโง่มากกว่าที่ไม่ทำให้ตัวเองมี Performance ดี จากคุณ : ฉลาดต้องทะเยอทะยาน (l.j2me) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:08:56