ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยสอบครั้งเดียวนะครับ ไม่เคยเรียน ไม่เคยเตรียมตัว แต่ได้คะแนนค่อนข้างดี(9++) ผมว่า TOEIC เน้นการนำไปใช้นะครับ grammar ไม่ต้องเป๊ะอะไร ตอนฟังก็ฟังให้เข้าใจ เลือกดี ๆ อย่าลังเลก็ได้คะแนนแน่ ๆ แล้วครับ สำหรับผมเทคนิคคือผมไม่อ่านโจทย์ก่อนนะครับ แต่ตั้งใจฟัง(ปกติหลับตา จะทำให้ฟังได้ดีขึ้น) พอถึงข้อที่คิดว่าใช่ก็ระบายเลย ไม่ลังเล ไม่งั้นทำข้อต่อไปไม่ทันเลย ส่วนการอ่านปกติผมจะอ่านจนจบก่อน แล้วตอบคำถาม (หลายคนชอบอ่านคำถามแล้วมา scan เอา อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ แต่ผมชอบทำแบบนี้มากกว่า เพราะผมอ่านได้เร็ว ไม่ค่อยเสียเวลา) ผมว่าเรื่องคอร์สเรียนต้องดูครับ คือถ้ามาสอนความรู้ สำหรับคนที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ผมว่าไม่จำเป็นเลยครับ เพราะเนื้อหาไม่มีอะไร ค่อนข้างง่าย แต่ถ้าสอนเทคนิค เราก็ต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับเราอีกที ส่วนตัวคิดว่าถ้าพื้นฐานดีแล้ว เตรียมตัวดี ๆ อย่าตื่นเต้น ก็น่าจะได้คะแนนดี ๆ แล้วล่ะครับ จากคุณ : โมบี ย่า!!! เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 10:12:12

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนใหญ่เท่าที่สอบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่จบด้านอักษรศาสตร์หรือศิลปศาสตร์ จะได้คะแนนดีอยู่แล้วโดยไม่ต้องเตรียมตัว 850++ ส่วนคนที่จบด้านอื่นและไม่ได้ทำงานด้านภาษา(แบบผม)ก็ต้องฝึกฝนกันหน่อย ก็ไปซื้อพวกแบบฝึกหัดมาทำครับ ถ้ารู้ตัวว่าไม่แน่นแกรมม่า โครงสร้าง รู้ศัพท์ไม่มาก ก็ต้องออกแรงเยอะกว่าคนอื่นเค้าหน่อยครับ จากคุณ : nungning เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 10:44:00

ความคิดเห็นที่ 3 เราเพิ่งจบค่ะ เพิ่งไปสอบมาได้ฟังเกือบเต็ม แต่อ่อนแกรมม่าเลยได้แค่ 7++ คิดว่าทักษะถ้าฟังบ่อยๆก็ฝึกกันได้ค่ะ ส่วนแกรมม่าก็ต้องอ่านไปนะคะ เพราะอย่างเราไม่ได้เตรียมตัวไปเลย เจอแกรมม่าทำไม่ได้ค่ะ งง adv. adj. อยู่ตรงไหน จำไปให้แม่น แล้วอย่างที่ #1 บอก อย่างลังเลที่จะกา เพราะว่าจะทำไม่ทัน เพื่อนเราไปสอบกันมาทำไม่ทันเยอะมาก ได้คะแนนแค่ 600 เพราะมั่วไปเป็น 10 ข้อ อ่านปุ๊บคิดได้แปปนึงแล้วพยายามกาเลยค่ะ เวลาเหลือค่อยกลับมาเช็คได้ ดีกว่ารีบกาแบบไม่ได้อ่าน จากคุณ : S~Serena van de Woodsen เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 11:16:46

ความคิดเห็นที่ 4 ผมได้ 845 ไม่ได้ติวอะไรเลย บริษัทสั่งให้สอบก็โทรไปนัดวันสอบวันต่อไปเลย คือจะบอกว่าไม่ได้เก่งหรอก แต่พื้นฐานแน่นในเรื่อง listening คือ กาผิดข้อเดียว (จากร้อยข้อมั๊ง)... นั่งฟังตัวเลือก รู้เลยว่ามีตัวเลือกหลอกเกือบทุกข้อ แต่ด้านของ reading ผิดไปเยอะมาก ถ้าอยากฟันคะแนนเยอะๆ ผมว่าหนังสือเก็งข้อสอบเล่มไหนก็ได้ครับ อ่านไปเถอะ เทคนิคมันก้คล้ายๆกันไม่ต่างกันมากหรอกครับ จากที่เห็นมาจากคะแนนของเพื่อน และผู้สมัครงานหลายๆคน (ไม่ได้เป็น HR แต่ชอบดูใบสมัครงานชาวบ้าน เวลามีคนสมัครงานในแผนก ใบสมัครก็จะถูกส่งมาให้แผนกดูอยู่แล้ว... ผมนั่งโต๊ะติดกับหัวหน้า แอบดูได้ 55+) ถ้าพวกที่จบมหาลัยอินเตอร์ อย่างเอแบค ยังไงๆคะแนนก็ไม่ควรต่ำกว่า 650 (พูดจริงๆ 650ก็ถือว่าต่ำแล้วนะ ถ้าเรียน ม.อินเตอร์มา) เด็กมหาลัย topๆ ส่วนใหญ่ก็ 600 ขึ้นเหมือนกัน (อย่างน้อยๆ ด้านวิชาการ ด้านความพยายามขยันหาความรู้ มันก็น่าจะสูง) จากคุณ : CoollyCat เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 12:08:35

ความคิดเห็นที่ 5   ทำแบบฝึกหัดเยอะ ๆ ก็ทำได้แล้วล่ะ แล้วก็ลองสอบหลายๆ ครั้ง แบบไม่กดดันตัวเอง ทุกอย่างก็โอเค จากคุณ : aura เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 13:02:03 A:202.176.89.165 X: TicketID:209263

ความคิดเห็นที่ 6 735 ครับ (สอบเมื่อ ส.ค. 2552) ภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งอะไร ตอนเรียน ป.ตรีก็ได้ C+ แต่เคยไปเรียนพื้นฐานแกรมม่าเมื่อ 4ปีที่แล้ว เพราะมันอ่อนมากจริงๆ เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ อนุบาล - ป.ตรี ยังไม่รู้จักโครงสร้างแกรมม่าเลยครับ และอาศัยที่ชอบอ่านบทความหรือข้อความภาษาอังกฤษบ่อยๆ อ่านหนังสือเรียน text ภาษาอังกฤษด้วยครับ มันเลยซึมซับไปโดยไม่รู้ตัวครับ จากคุณ : หอบหืด เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 13:06:59

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งสอบมาเมื่อสองวันก่อนเอง  ได้ 750 ไม่ได้เข้าคร์อสติวที่ไหน  ไม่ได้จบสายภาษา ไม่ได้จบจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ  แต่เน้นศึกษาเองคะ  พยายามหัดฟังเยอะๆๆ หัดอ่านเยอะๆ  ฝึกทำข้อสอบเยอะๆๆ  มีเวลาเตรียมตัวแค่สามวันก่อนสอบเท่านั้นคะ จากคุณ : ลูกกวาดสีสวย เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 14:08:12

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่จำเป็นต้องลงคอร์สเรียนภาษาค่ะ อย่างเราปกติชอบดูซีรี่ย์ฝรั่งอยู่แล้วมันก็เหมือนฝึกภาษาไปด้วย อ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษ ทำอะไรที่เราชอบและสนุกกับมันดีกว่า แล้วมันจะค่อยๆเรียนรู้ไปเองด้วย ตอนทำข้อสอบพยายามจัดสรรเวลาให้พอดี ส่วนใหญ่ที่ได้คะแนนน้อยเพราะทำไม่ทัน ปล ได้คะแนน 955 ค่ะ จากคุณ : iffyinaction เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 14:38:35

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าพื้นฐานดีพอสมควร คิดว่าฝึกเองเน้นการฟังจะเพิ่มคะแนนได้ง่ายกว่า และเร็วกว่าส่วนแกรมม่า แนะนำให้โหลดยูทูปรายการทอล์คโชว์ฝรั่งมาดู แบบชอบดาราคนไหน นักร้องคนไหน เลือกเอา ความชอบส่วนตัวจะทำให้เราตั้งใจดู ตั้งใจฟังมากกว่าปกติ หนังหรือซีรี่ส์สนุกๆ ศัพท์เฉพาะเยอะมาก เราสอบปลายปีที่แล้วได้ 890 ส่วนแกรมม่าผิดไปเยอะเพราะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย โทอิคเป็นข้อสอบที่ไม่ยาก แต่ให้เวลาน้อย ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว จากคุณ : . (ดีใจได้อมยิ้ม) เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 15:00:34

ความคิดเห็นที่ 10 มาเติมอีกที . . . ถ้าไม่เสียดายเงินนะ ไปสอบเลย หนึ่งครั้ง จะได้รู้ ความรู้สึก และจุดที่ต้องแก้ไข ถ้าคะแนนไม่พอใจ ค่อยเตรียมตัวแล้วไปสอบอีกรอบครับ ปล. ผมว่า choice มีการหลอกน้อยมากครับ เทียบกับสอบ CU-TEP หรือข้อสอบโรงเรียนผมสมัยม.ปลาย (ตอ.) จากคุณ : โมบี ย่า!!! เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 16:24:03

ความคิดเห็นที่ 11 สมาธิดีๆ อย่าหลุด เราหลุดยาว Listeningเลยได้น้อย แต่Reading ได้เยอะ ส่วนReadingก็ฝึกอ่านเยอะๆ พวกStudent Weekly หรือข้อสอบเอนท์ เราว่าศัพท์Toeic ไม่หนีจากนั้นหรอก อานิสงค์จากการทำข้อสอบเอนท์บ่อยมั้ง เลยทำให้ได้เยอะ แล้วถ้าเวลาน้อยก็อ่านคำถามก่อน แล้วค่อยอ่านเนื้อหา จากคุณ : ต้องทำบุญด้วยอะไรถึงสวย เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 16:40:54

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ละคน เก่งมาก ๆ ขอเล่าให้ฟังในมุมของคนที่ไม่เก่งละกันครับ เป็นเรื่องของคุณแฟนผมเอง สอบครั้งแรก มีเป้าหมายที่ 500 คะแนน คะแนนที่ได้.........290 สอบจนได้คะแนน 500 UP ที่ทำงานเพิ่มเกณฑ์การรับพนักงานใหม่ เป็น.....................600 ช่วงแรกก็ซื้อหนังสือมาอ่าน สอบไปเรื่อย ๆ ก็ไปลงเรียนคอร์ส 18 ชม. กับอาจารย์ต่างชาติ หมดไป 8000 - ต่อมาลงเรียนคอร์สอาจารย์ชาวไทย หมดไป 2500 -  มีปัญหากับอาจารย์เลยเรียนไม่จบ ต่อมาผมเลยให้ไปลงเรียนที่กรุงเทพ แถวสะพานควาย คอร์สประมาณ 5 พันบาท เรียน เสาร์ - อาทิตย์ เดินทางไป - กลับ เช้าเย็น ๆ ตลอด จาก ระยอง - กรุงเทพ จบคอร์สไปสอบใหม่ ก็ยังไม่ได้ 600 ก็อ่านหนังสือ + ทำแบบทดสอบ + ฟังที่บ้าน จนผ่านเรียบร้อย....... ต่อมาสัมภาษณ์กับ PD ของบริษัท ก็ผ่านเช่นกัน ฝ่ายบุคคลโทรแจ้งว่าตรวจร่างกายไม่ผ่าน..... แคเลสตอรอลเกิน.....275 อยากจะบ้าตาย มีไม่ผ่านแบบนี้ด้วย เค้าให้โอกาสลดประมาณ 2 อาทิตย์ ก็เลี่ยงอาหาร + ออกกำลังกาย และใช้วิชามาร  คือ การกินยา สุดท้ายผ่านตรวจร่างกาย -------------------------------------------- เมื่อก่อน เป็น Contract เงินเดือนประมาณ 17,000 - ไม่มีสวัสดิการอื่น ๆ ปัจจุบันเป็นพนักงาน     เงินเดือนประมาณ 22,000 + ค่าสวัสดิการต่าง ๆ รายได้รวมประมาณ 37,000 - เมื่อบรรจุเงินเดือนเพิ่มเป็น 25,000 โดยประมาณ --------------------------------------------------- สิ่งที่เป็นความฝันมาตลอด บวก ความพยายาม ตอนนี้ออกผลแล้วครับ -------------------------------------------------- คุณแฟนเรียนจบจากราชภัฏรําไพพรรณี จันทบุรี วิทยาการคอมพิวเตอร์ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 23:48:10 จากคุณ : jeakja เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:33:06

ความคิดเห็นที่ 13 ครั้งแรก และ ครั้งที่ 17.... จากคุณ : jeakja เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:33:37

ความคิดเห็นที่ 14 คุณแฟนกับรอยยิ้มแห่งความดีใจ.... --------------------------------------------------- คุณแฟนอ่านหนังสือของ Baron กับ Longman ฟัง English breakfast ครับ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 23:37:34 จากคุณ : jeakja เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:34:06

ความคิดเห็นที่ 15 เยี่ยมเลยครับ คห.12-14 คุณ jeakja รอบข้างของผม และชีวิตจริงที่ผมเจอ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้ รวมผมด้วย  ผมแทบไม่ค่อยเจอคนรอบข้างที่สอบครั้งแรก 8-900 เท่าไหร่ (แต่คนที่สอบครั้งแรก 8-900 ผมก็ยอมรับในทักษะพื้นฐานที่ดีต้องมีอยู่แล้วหล่ะ)   ผมชอบภาษาอังกฤษนะ ทำข้อสอบเวลาสอบมิดเทอมไฟนอลก็ ที่ 1 ที่ 2 ของคลาส แต่คะแนนโทอิคผม ไม่ถึง 600  พูดแล้วก็ละอาย แต่ก็จะพยายามต่อไป สอบ 17 ครั้ง หมดค่าสอบเยอะเลยนะเนี่ยย จากคุณ : เด็กชายแสนดี เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 01:24:56

ความคิดเห็นที่ 16 แนะนำไปให้หาโหลดหนังสือ Toeic มาฝึกทำเองดีกว่า แต่ละเล่มก็เหมือนๆกันแหละครับ หรือถ้าจะซื้อ เพื่อนผมมันบอก Baron ดีสุด เพราะมีแยกศัพท์เป็นหมวดหมู่ และศัพท์ก็ดีด้วย (ส่วนผมไม่เคยอ่าน เคยไปสอบขำๆมาครั้งนึง เป็นเพื่อนพี่ -_-) ผมคิดว่าที่สำคัญมากคือขยันฝึกทำ ขยันอ่าน เพราะมันจะทำให้รู้กลยุทธ์ในการทำ พาร์ท listening เนี่ย มันจะมีแอบหลอก แอบดักเราเนียนๆ อยู่เยอะ ถ้าเราฝึกก่อนไปสอบจริง เราจะรู้ว่า มันจะหลอกรูปแบบไหนยังไง แล้วจะมีวิธีจับใจความ วิธีจำอย่างไร อย่างพาร์ทเนี้ยผมได้เกือบๆเต็ม เพราะ เทอมที่ผ่านมา ลงเรียน speaking-listening กับ อ.ฝรั่ง ที่มหาลัย แล้วอาจารย์แกเอา listening แบบที่ใช้สอบ toeic เดี๊ยะเลย มาเป็น quiz ทำในห้องบ่อยมาก เลยเหมือนได้ฝึกไปทั้งเทอม ส่วนพาร์ท reading เนี่ย หลายคนบ่นทำไม่ทัน เพราะผมว่าอ่านไม่ทันมั้งครับ เพราะมันเยอะ พวก passage เนี่ย หลังๆจะยิ่งยาวๆ แต่ถ้าเราฝึกทำไปเยอะๆจะรุ้เลยว่า มันไม่ได้เน้นยาก แต่มันแค่เน้นเยอะ เราต้องเถือกอ่านมันเร็วๆ ผ่านๆ แล้วจับใจความเอา ผมใช้วิธีอ่านโจทย์ก่อน แล้วก็ไปกวาดตาอ่านเร็วๆ หาคำสำคัญที่มันถาม ข้อสอบส่วนนี้มันจะไม่ค่อยหลอกเรามากเหมือนส่วน listening คงเพราะมันมีลูกเล่นในความเยอะนี่แหละมั้ง จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 02:21:16

ความคิดเห็นที่ 17   ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ ได้รู้มุมมองหลายแง่ และได้รู้ว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ได้โดยใช้ความมุ่งมั่น สติและพยายามให้ถึงที่สุด ก็จะสำเร็จ ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : Mustty (MusttobeSI) เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 12:28:32

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมาก ๆ ครับ ผมกำลังตัดสินใจไปเรียนภาษาพอดี จากคุณ : thanon_d เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 13:43:05

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่รู้ครับว่าได้เยอะเพราะอะไร แต่ี่ที่มาสัมภาษณ์กับผม TOEIC ระดับ 6-700 ยังสื่อสารไม่เข้าใจเลยครับ ปล.เข้าใจว่าการสอบ TOEIC เค้าสอบแต่ฟัง อ่าน เขียน ไม่ได้สอบพูด จากคุณ : Boysicky เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 15:45:45

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นกำลังใจให้คุณความเห็น 12 สุดยอดมากๆๆ อ่านแล้วฮึดเลย ปล.เราได้เยอะยังพูดไม่รู้เรื่องเลย ไม่ค่อยได้คุยก็แบบนี้แหละ จากคุณ : ต้องทำบุญด้วยอะไรถึงสวย เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 22:42:45

ความคิดเห็นที่ 21 Listening -> หา mp3 มาฟังเยอะ ๆ จนเข้าใจ แนะนำ Effortless English Reading -> ถ้าพื้นฐานไม่ดี ฝึกแกรมม่า ม.1- ม.6 ใหม่ทั้งหมด จากคุณ : ๛กอล์ฟ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 53 22:23:53

ความคิดเห็นที่ 22   ด้วยราคาที่คุ้มค่าที่สุดในท้องตลาด อาจารย์ทั้ง 2ท่าน เป็น Thai-Canadian เข้าใจนักเรียนไทยเป็นอย่างดี อธิบายได้ตรงจุด เรียนรู้ได้ง่าย เร็วและเข้าใจได้มากกว่า สถาบันภาษา“Red Maple – English Center ภาษาอังกฤษสำหรับ นักเรียน นิสิต นักศึกษาและวัยทำงาน” แห่งเดียว ที่ยินดีทดชั่วโมงเรียนให้กรณีที่คุณขาดเรียน ในราคาค่าเรียนแค่หลัก 1,000 เท่านั้น ด้วยหลักสูตรที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น คอร์ส สนทนา -YOU SPEAK “เม้าท์กระจาย” สอนสด เข้มข้นด้วยเทคนิคการสร้างประโยคอัจฉริยะ, Pattern-Dialogs และ Mock Up Situations กว่า100 สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น คุณกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐเพื่อขอวีซ่า คุณกับพนักงานเสริฟร้านอาหารในL.A. คุณกับProf.ในมหาวิทยาลัย คุณกับคุณหมอ คุณกับBossชาวต่างชาติ และอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งจะช่วยให้คุณพูดได้จริง พูดได้คล่องอย่างมั่นใจในเวลาอันสั้น เน้นภาษาวัยรุ่น ภาษาสมัยใหม่ และภาษาแบบทางการ กระตุ้นต่อมเม้าท์โดย Teacher KATE & Teacher CHAI ซึ่งเป็นอาจารย์สัญชาติ Thai-Canadian 100% จึงเข้าใจปัญหาและความต้องการของนักเรียนไทยเป็นอย่างดี เรียนกลุ่มเล็ก ทางสถาบันฯ ยินดีทดเวลาให้กรณีที่ผู้เรียนติดงานหรือมาเรียนไม่ได้ เก็บชั่วโมงได้นานสูงสุดถึง 1ปี* เลือกเรียนได้หลายเวลา จันทร์-ศุกร์ (กลางวัน/ค่ำ) เสาร์-อาทิตย์ (เช้า/บ่าย/ค่ำ) เหมาะกับ นักเรียน นิสิต นักศึกษาและคนทำงานในบริษัทข้ามชาติที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารตลอดเวลา ผู้ที่เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์งานกับบริษัทฝรั่ง ตลอดจน นักเรียนม.6เตรียมสอบสัมภาษณ์ Admission เข้าจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ - มหิดล และนักศึกษาที่ต้องการสอบ TOEFL - IELTS ให้ได้คะแนน SPEAKING สูงสุด อีกด้วย และอีกหลักสูตรยอดนิยม “WRITING MASTER – BUSINESS ENGLISH” สำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไปที่ต้องการ Upgrade ภาษาเขียนให้เป็น Professionalที่สุด สอดแทรก Grammar ที่จำเป็น และเทคนิคการเขียนสมัยใหม่ๆ เป้าหมายเพื่อ Business Writing – E-mail and Essay โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ทางสถาบันฯ ยังมี คอร์ส PHONETICS ฝึกออกเสียงให้เหมือนNative Speaker พูดสด100% ไม่ต้องฟังเทป โดย Teacher KATE สำเนียงอเมริกัน ไพเราะฟังง่าย คอร์ส รับรองผลคะแนนสอบชนิด “WORRY FREE” TOEFL 80/550+ / TOEIC650+ / IELTS6.5+ / CU-TEP550+ / TU-GET550+ / GAT 110+ รับรองผลคะแนน “ไม่สำเร็จเรียนฟรี” ด้วยโปรแกรม TOEFL Reinforced Program 76hrs.+44hrs.in 2months+2months (รับสิทธิเรียนคอร์สเฉพาะทาง YOU SPEAK & WRITING MASTER 2เดือน ฟรี) หากต้องการคะแนนสูงกว่านี้ เพื่อ Univ. TOP 50 – U.S.A. แวะเข้ามาปรึกษา Teacher CHAIได้เลย (กรุณานัดล่วงหน้า) อาจารย์ทั้ง 2ท่าน มีจิตวิทยาในการสอน และเอาใจใส่ผู้เรียนอย่างจริงจัง จึงกล้ารับประกันคุณภาพ สอบถามรายละเอียดหรือจองที่นั่งได้ที่ www.redmaplethailand.com (02) 673-2959, (089) 748-3938 เรียนกลุ่มเล็กที่นั่งมีจำกัด สะดวก ใกล้ที่ไหนเรียนที่นั่น สาขา จุฬา42 ติดสาธิตจุฬา ใกล้จามจุรีสแควร์ และ สาขา ถ.จันทน์20 ใกล้สำนักงานเขตสาทร เซ็นหลุยส์ จากคุณ : admin เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 16:06:32 A:115.87.195.152 X: TicketID:258596