ความคิดเห็นที่ 1 ภาษาอังกฤษไม่จำเป็นถึงขั้นต่อโท แต่ควรมีทักษะในการสื่อสารในระดับดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานกับชาวต่างชาติ ข้อมูลบอกว่า กำลังจะเอ็นติด คือเริ่มปีหนึ่ง ขอให้ทำตัวอย่าหยิ่ง เข้าหารุ่นพี่ให้เยอะๆ เพราะสิงห์ดำ มีพรรคพวกในระบบเยอะ ไม่ว่าจะเป็นระบบราชการ การทูต การเมือง หรือแม้แต่เอกชน ทำกิจกรรมเยอะๆ ถ้าเก่งกีฬาด้านไหน ขอสมัครเข้าเป็นตัวคณะ พรรคพวกในชมรมจะช่วยเหลือกันมาก คุณออกตัววางอนาคตล่วงหน้าเป็นเรื่องดี แต่การบอกว่าอยากทำงานเอกชน ไม่อยากทำงานราชการ นั้นมันเร็วไปที่จะพูด ผมบอกได้เลย เพราะผมก็เคยเป็นแบบคุณมาก่อน รัฐศาสตร์ไม่จำเป็นต้องเป็น HR ก็ได้ แต่ถ้าอยากเป็น HR ก็ขอให้คิดถึงการฝึกงาน ถ้าคุณไปฝึกงานกับหน่วยงานของรัฐ ก็จบ คุณต้องหาบริษัท เพื่อขอฝึกงานในแผนก HR เพื่อให้ได้เป็น reference ตอนสมัครงาน เกรดก็สำคัญ หลายบริษัทในเมืองไทยยังมีความคิดแบบเก่า วัดคนที่เกรด ถ้าอยากต่อโท มีให้เลือก 2 อย่าง คือ เฉพาะทาง HR ไปเลย พวก จิตวิทยาอุตสาหกรรม ก็ใช่ หรือจะเลือกแนวบริหารอย่าง MBA ก็เรียนง่ายดี และได้ความรู้หลากหลาย และกว้าง งาน HR ที่จะรุ่ง โอกาสที่ได้เจอค่อนข้างน้อย แต่สามารถเพิ่มโอกาสให้ตัวเองได้ ผมรู้อยู่ 2 วิธี อาจจะมีทางอื่นอีก แต่ผมไม่ทราบ อย่างแรก คือ ทำงานกับ "บริษัทมหาชน" อย่างที่สอง คือ ทำงานกับ "บริษัท Corperate" ต่างชาติ จากประสบการณ์ ผมไม่เคยพบบริษัท "จำกัด" ที่ให้ความสำคัญของ HR จริงๆ เลย ทุกที่มักตั้งชื่อ HR แต่ทำงานบุคคล การปรับเงินเดือน มีอยู่ สองวิธี อย่างแรกคือ ย้ายงาน ทุกครั้งที่ย้าย ก็ปรับเงินเดือนให้สูงขึ้น วิธีการย้าย ทำได้โดยการหางานเอง หรือ ติดต่อบริษัทนายหน้า อย่างหลังจะมีภาษีดีกว่าในการขอปรับเงินเดือนขึ้น อย่างที่สองคือ ถ้าเจอที่ดีๆ แล้วโอกาสเติบโตสูง ก็อยู่ตรงนั้นแหละ ตั้งใจทำงานไป งาน HR แยกเป็น 3 สายใหญ่ๆ คือ HRM / HRD กับ Human Relation ความแตกต่างทั้ง 3 อัน ผมไม่พูดล่ะนะ คุณไปศึกษาเพิ่มได้ แต่ human relation คุณต้องแม่นเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน สุดท้ายที่อยากบอก คุณต้องทำตัวเป็นสีเทา คนที่เป็นสีขาว หรือสีดำ เป็น HR ไม่ได้ ถ้าคุณรู้สึกอึดอัด คุณไม่เหมาะที่จะเป็น HR ครับ จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 53 11:49:49

ความคิดเห็นที่ 2 @ คุณดุก  ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ โท ในที่นี้ผมหมายถึงว่า เช่น ผมเข้าภาคปกครอง ก็คือเอกปกครอง แล้วเวลาลงวิชาโท/วิชาเลือก  ผมจะเน้นลงอะไรดีครับ จากคุณ : สงกาดรุณ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 53 19:20:23

ความคิดเห็นที่ 3 อ๋อ พูดถึงตัว minor ใช่มั๊ยครับ หลายตัวที่แนะนำ - eng นี่แนะนำอันดับต้นๆ แต่จริงๆ ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะเสริมจากสถาบันข้างนอกได้ (แต่ลงทุนเยอะกว่า) - คอมพ์ สาย it ครับ จริงๆ ต้องดูเนื้อหาหลักสูตรด้วยว่าเน้นไปทางไหน ถ้าทางเขียนโปรแกรมก็จะหนักไปหน่อย แต่ถ้าตั้งใจดีๆ จะได้ความรู้ด้าน database มา ซึ่งคุณสามารถ applied ไปใช้กับงาน HRIS ได้ (แต่คุณต้องใจรักหน่อย เพราะค่อนข้างยาก) ถ้าสาย IT ธรรมดา ก็เน้นพวกโปรแกรม offices หนักๆ สำคัญมาก เน้น excel ไว้ทำ report powerpoint ไว้นำเสนอ พยายามพัฒนา access ให้ได้เพื่อเอามาใช้ในงานฐานข้อมูล ส่วน word แค่พื้นๆ ก็พอ - phycho ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ความรู้ด้านจิตวิทยาไว้ใช้ในการดูคน ควบคุมคน และใช้ในการเจรจาต่อรอง (สำคัญมาก) วิชานี้ต่อยอดได้ง่ายด้วย - คุณเป็นรัฐศาสตร์ มันเป็นสายปกครองเพียว คุณอาจจะเลือก minor public ad (รปศ) เพื่อให้เรียนรู้ด้านการบริหารจัดการก็ได้ หรือ ผมไม่ทราบว่าจุฬามีให้เลือก minor บริหาร หรือเปล่า ถ้ามีก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ - กฎหมาย อันนี้ใส่ไว้เป็นอันสุดท้าย แต่เป็นตัวเลือกที่มีน้ำหนักมาก ผมแนะนำมากที่สุด สุดท้ายแล้วการเป็น HR ก็ต้องรู้เรื่องกฎหมาย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำงานครับ แต่การเรียนแบบเน้นท่องจำ บางทีก็ไม่ถูกโรคกับคนบางคน   บางคนอาจเถียงว่า แค่ พรบ. คุ้มครองแรงงาน กับ พรบ. แรงงานสัมพันธ์ ก็น่าจะพอแล้ว ถ้าเอาแค่นั้นก็เป็นได้แค่ บุคคล เท่านั้นแหละ บางทีเราก็ต้องการความรู้ด้าน กม. อาญา/แพ่ง เพื่อให้คำแนะนำ/ปรึกษา ให้พนักงานที่กำลังมีปัญหาครับ นานๆ ครั้งถึงจะมีที แต่ถ้าทำได้ ก็ซื้อใจพนักงานได้ฟรีๆ เหมือนกัน มีคำถามตอนแรกข้อหนึ่งที่ผมไม่ได้ตอบ คือ นานแค่ไหนถึงจะเลื่อนเป็น HR manager ผมต้องตอบคำถามนี้โดยการถามกลับว่า คือ คุณอยากเป็นหัวหมา หรือ หางสิงห์ครับ ยกตัวอย่าง เคสผมเอง - อายุ 22 ปี เรียนจบใหม่ ได้ทำงาน corperate ต่างชาติ ในฐานะ trainee เงินเดือน 18k สถานะคือ officer คนนึง ทำงานเอกสาร - เจ้านายสูงสุดในฝ่ายคือ GM-HR อายุ 45 ปี เงินเดือน 250K - ผมจำอัตราตำแหน่งไม่ค่อยได้ แล้ว แต่จำได้ลางๆ ว่า TRM (training road-map) ของตำแหน่ง officer ในการขึ้นไปถึง gm ในกรณีที่ ฝ่าฟัน แย่งชิง เหยียบหัว เลื่อยขาเก้าอี้ ตบตี โค่นคู่ต่อสู้ จากเงินเดือน 18k กว่าจะไปถึง 200k ระยะเวลาทั้งหมด 12 ปีครับ - ผมลาออกในปีที่สอง ไปทำงานกับบริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง เงินเดือน 12k ตำแหน่งผมคือ ast. mgr. hr. แล้วครับ - ทำได้อีกปีนึง ย้ายอีก ตำแหน่งคือ hr. mgr. เงินเดือน 15k ครับ อ่านกรณีผมแล้วลองไปคิดดูนะครับ กรณีผมเป็นคนต่างจังหวัด เงินเดือนเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และผมไม่ได้ตั้งเป้าที่ระดับสูงสุดของหน้าที่การงาน แต่ตั้งเป้าที่สมดุลย์ในชีวิตครับ แต่สุดท้ายผมก็หันเข้าสู่ราชการครับ ในปีที่30ของชีวิต เกือบจะสายไปละสำหรับเส้นทางสายนี้ คงไม่ได้เป็นอธิบดีกับเขาหรอก แต่ก็อย่างว่า ผมขอแค่ชีวิตสมดุลย์ก็พอ อ่านแล้วคิดตามนะครับ เป็น HR ต้องคิดให้เยอะกว่าคนอื่น ปล. แก้ไขข้อความ แก้จำนวนปี โทรถามพี่ที่ทำงานเก่า เค้าว่าแค่ 12 ปีเองก็ได้เป็น gm เงินเดือนหลักแสนละ (หมายฟามว่า ถ้ามรึงขึ้นไปได้นะ 555+ <<พี่เค้าหัวเราะเยาะตัวเองอ่ะ) แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 53 19:57:37 แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 53 19:56:02 จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 53 19:50:53