PANTIP.COM : B9146145 กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ แต่เอาเข้าจริงก็ยังสงสัยว่าบัญชีกับการเงินต่างกันแต่ไหนยังไง []

ความคิดเห็นที่ 1

ความเห็นที่ 2 รู้สึกว่าจะสลับกันนะคะ

บัญชี คือทำบัญชี รายรับ รายจ่าย ดูแลเรื่องภาษี (เรียนแยกออกมาเป็น specialize ด้านภาษีโดยเฉพาะก็ได้คะ) career path หลักๆ ก็มีนักบัญชี ที่ทำบัญชีให้บริษัทต่างๆ กับพวกผู้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งต้องผ่านการสอบให้ได้ใบรับรองมานะคะ ผู้ตรวจสอบ แน่นอนเงินเดือนจะเยอะกว่านักบัญชีโดยทั่วไป เนื่องจากต้องเซ็นรับรองงบการเงิน มีความเสี่ยง ความรับผิดชอบสูง อย่างความเห็นด้านบนบอก บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีมีทั้งขนาดใหญ่ระดับโลก แล้วก็บริษัทของคนไทยกันเองคะ ถ้าจบมา เราก็เลือกได้สองทางนี้แหละ ว่าจะไปเป็นพนักงานบัญชีในบริษัท เก่งๆหน่อย ไต่เต้าขึ้นไปเป็นผู้จัดการ และอาจขึ้นไปถึง CFO ของบริษัทได้ หรือจะเข้าบริษัทตรวจสอบบัญชี มีหน้าที่ตรวจบัญชีให้กับบริษัททั่วๆไป เมื่อไหร่ได้ใบรับรอง เป็นผู้ตรวจสอบ เซ็นต์เอกสารเองได้ เงินเดือนก็ไม่น้อยคะ บางคนเป็นแสนเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ทุกคนจะได้เป็น ต้องเก่งจริงๆละคะ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองว่าจะถีบตัวเองไปได้ไกลแค่ไหนนะคะ

งานการเงิน ดูแลภาพรวมของการเงินในบริษัท สินทรัพย์ที่บริษัทมี หนี้สินที่มี ถ้าเงินหมุนไม่พอ จะบริหารยังไง จะไปกู้เงินเพิ่ม หรือจะเรียกเก็บเพิ่มจากผู้ถือหุ้น งานการเงิน variation อาจจะเยอะหน่อย คือทำงานบริษัทปกติก็มี ในบริษัทเล็กๆ หน้าที่ การเงินกับบัญชีมักจะปนๆกัน ทำคล้ายๆกัน หรือคนเดียวทำมันทุกอย่าง ในบริษัทใหญ่ๆ อาจจะเห็นความแตกต่างชัดเจนขึ้นมาหน่อยคะ ทีนี้ นอกจากงานบริษัททั่วๆไปแล้ว งานธนาคาร แน่นอนย่อมเกี่ยวข้องกับการเงินโดยตรง ต้องเรียนรู้ financial tool ต่างๆที่ธนาคารมี แต่ละคนก็แยกกันไปทำคนละสาขา บางคนทำเรื่องปล่อยเงินกู้ บางคนทำเรื่องเครดิตของลูกค้า บางคนทำเงินฝาก หาคนมาฝากเงิน บางคนทำเรือ่งบัตรเครดิต เดี๋ยวนี้ธนาคารมี tool หลากหลาย ถ้าเรียนวิศวกรรมการเงิน ก็จะต้องเป็นคนออกแบบ tool ทางการเงินใหม่ๆขึ้นมา แต่เมืองไทยไม่ได้พัฒนาขนาดนั้นคะ เอาจริงๆคือไม่มี function งานอย่างนั้นอยู่จริงๆ คนที่ทำ ส่วนใหญ่จะอยู่เมืองนอก อยู่ตามแบงค์ใหญ่มากๆของอเมริกายุโรป แล้วธนาคารที่ไทยก็ copy ของเขามาใช้

นอกจากงานธนาคาร ยังมีงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ หุ้น ต่างๆ จะแบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่ง buyer กับ seller พวก buyer ก็คือพวกกองทุนต่างๆ ที่ซื้อหุ้นมาบริหาร ทำกองทุนออกขายให้นักลงทุน พวก seller ก็มีพวก broker พวกวาณิชย์ธนกิจ (เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ และเอาหุ้นออกมาขาย)

หรืออาจจะเป็นบริษัททำที่ปรึกษาทางการเงินก็ได้คะ โดยที่ไม่ได้ขายหุ้น ipo ซึ่งบริษัทพวกนี้ บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกับบริษัทตรวจสอบบัญชี คือให้บริการรับปรึกษาทางด้านบัญชีและการเงินไปพร้อมๆกัน

อันนี้คือคร่าวๆคะ ของความแตกต่างระหว่างบัญชีกับการเงิน

ถ้าถามเรื่องวิศวกรรมการเงิน อันนี้ มันเป็นยอดต่อของการเงินและเศรษฐศาสตร์ และสถิติ และคณิตศาสตร์ และโปรแกรมมิ่ง ทุกอย่างรวมกันเราได้เป็นองค์ความรู้ใหม่เรียกว่าวิศวกรรมการเงิน ทำอะไร ทำได้เยอะแยะ แต่คืองานที่ต่อยอดขึ้นไปขั้นสูง แล้วแต่ว่าเราไปทำอยู่ส่วนไหนมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น เราทำเรื่องความเสี่ยงในธนาคาร เราก็ต้องใช้วิศวกรรมการเงินในการออกแบบโมเดลเพื่อที่จะคำนวณความเสี่ยงออกมาให้ได้แม่นยำมากที่สุด ซึ่งเมืองไทยไม่มีคะ มันต้องใช้เงินลงทุนมากเลยทีเดียวที่จะทำพวกนี้ออกมาให้สมบูรณ์แบบน่าเชื่อถือมากที่สุดได้ อย่าง moody's หรือ jp morgan หรือเราอาจจะใช้วิศวกรรมการเงินในการ predict ราคาหุ้นให้แม่นยำมากกว่าเดิม หากเราบริหารกองทุน หรือเป็น broker เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราเอามันไปใช้ทำอะไรคะ สาขานี้ แบงค์ชาติก็เปิดรับเยอะคะ แต่แบงค์ชาติไม่ได้เอาความรู้ไปทำอย่างที่ยกตัวอย่าง แต่เอาความรู้ไปออกแบบหลักเกณฑ์ ดูภาพตลาดโดยรวมเพื่อนควบคุมธนาคารต่างๆในประเทศ เป็นต้นคะ

จากคุณ : ดอกบัว

เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 02:37:42 A:218.186.170.140 X:218.186.10.235 TicketID:159640