Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพื่อนๆที่คิดจะทำธุรกิจ โดยเฉพาะคาร์แคร์ คุณจะได้ประโยชน์มหาศาล ถ้าอ่านมันจบ...ตัวจริงมาตอบเอง!!!  

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆทุกคน ผมน้องคาร์แคร์คนเดิมน่ะคับ! ( หรือมีคนใหม่ด้วยหรอ ฮ่า) ผมจะเข้ามาตอบและแสดงความคิดเห็นให้พี่ๆน้องๆหลายๆคนที่ส่งข้อความหาผมทางหลังไมค์ และผู้ที่สนใจการทำคาร์แคร์ ผมจะเล่าจากประสบการณ์ตรง...เรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีใส่ไข่แม้แต่หนึ่งฟองครับ

เรื่องนี้จะยาวนิดนึง แต่ผมมั่นใจว่า ผู้ที่ตัดสินใจจะทำคาร์แคร์ หรือ ทำธุรกิจสักอย่าง จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล...

หลายๆคนคงจำได้ตั้งแต่กระทู้แรกๆของผมในเรื่องการทำคาร์แคร์ ว่าผมเจออุปสรรค์เยอะมาก จนคิดจะเลิกไปแล้ว จนผ่านมาถึงวันนี้ ยอมรับว่าดีขึ้นมาก แต่ก็ยังลังเลที่อยากจะเลืกอยู่ดี ทำไมนั่นหรอ! เพราะอาชีพนี้ ผมมองว่าคนในอยากออกคนนอกอยากเข้าไงครับ...ไม่ได้พูดให้ท้อน่ะ แต่ตัวพ่อเท่านั้นจะอยู่ได้ ซึ่งผมก็ไม่ใช่ตัวพ่อซ่ะด้วยซิครับ แต่เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ

เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ผมพอสรุปอะไรได้หลายๆอย่างในอาชีพนี้ครับ

ถ้าหลายๆคนติดตามกระทู้ของผมตั้งแต่แรก จะรู้ว่าจริงๆผมก็แค่เด็กจบใหม่ ที่มีไฟ อยากจะทำธุรกิจเอง อยากลอง อยากรู้ และอยากรวยด้วยตัวเอง
ผมเลยตัดสินใจขอเงินพ่อมาหลายล้านบาท มาทำคาร์แคร์ขนาดใหญ่ ที่มีอุปกรณ์ทันสมัยสุดๆ มีห้องรับรองลูกค้าแบบชนิดที่เรียกว่า ที่อื่นไม่ค่อยจะมีได้ เพราะมันลงทุนอีกหลายแสน แต่ผมทำ และพ่อก็ให้ทำ

ผมคาดหวังว่า คาร์แคร์ของผมจะต้องยิ่งใหญ่ ลูกค้าต้องเข้าเยอะแยะมากมาย และที่สำคัญจะต้องมีแต่รถแพงๆ เพราะระแวกร้านของผมเต็มไปด้วยหมู่บ้านคนมีเงิน

แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่ผมคิดแม้แต่หนึ่งวัน ร้านของผมเริ่มเปิดตัวขึ้นในเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว ผมจำบบรยากาศวันแรกได้ดี มีรถเข้ามาใช้บริการถึง 3 คัน ( จะบ้าตาย ) แต่ผมก็คิดว่า เอาน่ะ! แค่วันแรก จนเวลาผ่านไปเกือบสองเดือน ก็มีรถเข้ามาใช้บริการไม่เคยถึง 10 คัน จะมีแบบฟลุ๊คๆ เหมือนถูกหวยคือ 15 คัน ดีใจแทบบ้า...แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะถึงรถมันจะเข้ามา 20 คัน แต่ถ้ามีแต่งานล้างรถ ไม่มีโปรแกรมอื่นๆ เช่นขัดเคลือบสี ฟอกเบาะ ผมก็ขาดทุนอยู่ดี คำนวณคร่าวๆคือ ค่าใช้จ่ายของผมจะต้องอยู่ประมาณ 4 พันบาท ต่อวัน ทั้งค่าเช่าที่แสนแพง ( ย่านราม ) ค่าลูกน้อง ค่านํา ค่าไฟ...แล้วคุณลองคิดสิครับว่า คาร์แคร์ผมจะต้องล้างรถกี่คัน กว่าจะได้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้...

ผมพยายามทุกวิธี ตั้งแต่เปลี่ยนป้ายหน้าถนนใหญ่ เป็นขนาดกว้าง 4 เมตร
แล้วเขียนว่า ล้างรถ เพราะป้ายคัทเอาต์ที่ผมติดตั้งขึ้นไป ไม่ได้ผม เพราะมันไม่ได้อยู่ในระดับสายตาคนขับรถ และที่สำคัญเปลืองค่าไฟ สปอร์ตไลท์ที่ส่องป้ายมาก

ผมติดป้ายบอกระยะทางว่า ข้างหน้ามีล้างรถ อีก20 เมตร แต่ก็โดนเทศกิจเอาออก ผมพยายามเจรจาดีดี ขอโอกาสจากเทศกิจว่า ผมจำเป็นจริงๆน่ะครับ เพราะร้านของผมเป็นพื้นที่ร่วมกับร้านอาหาร และร้านของผมอยู่ด้านใน ซึ่งปากทางเข้าก็แสนจะเล็ก ง่ายๆว่ามันเป็นที่ดินแห่งอุปสรรค์เลยครับ

และยังไม่พอ ป้ายล้อเลือนที่ผมตั้งปากทาง ยังไม่สามารถตั้งได้ เพราะมันเป็นที่สาธารณะ เค้าก็เก็บป้ายผมไป ผมต้องสู้รบเรื่องการตั้งป้ายอยู่หลายเดือน และวันดีคืนดี เทศกิจบอกว่า ให้ผมเอาป้ายเข้าไปตั้งด้านใน..

เพื่อนๆลองคิดภาพ ที่ดินรูปสี่เหลือมผืนผ้า ด้านหน้าเป็นร้านอาหาร ถัดมาสิบกว่าเมตรเป็นที่ดินของผม และทางเข้าปากซอย เป็นทางขนาด 4 เมตร ที่มีแนวเสาไฟฟ้าห่างจากถนนถึง 3 เมตร  ปรกติหลายๆที่ที่เจริญแล้ว แนวเสาไฟฟ้า จะอยู่ตรงฟุตบาทให้คนเดิน แต่ของผมลึกเข้ามาอีก 3 เมตรไง

แล้วเค้าบอกให้ผมเอาป้ายตั้งด้านในห่างจากถนน เกือบ 5 เมตร ( ตอนนั้นผมคิดว่า เทศกิจมีสมองรึเปล้า แค่ผมตั้งที่เป็นอยู่ รถก็แทบมองไม่เห็นแล้ว ไหนจะต้นไม้ของหลวงบัง ตู้โทรศัพย์อีก คือแบบ ผมเกินคำว่าท้อมาก เพราะถ้าผมตั้งป้ายให้คนเห็นไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะมีลูกค้าเข้ามา...

ผมเลยต้องใช้กำลังภายในนิดหน่อย...สรุปเรื่องป้ายจบ

มาต่อเรื่องคนงาน ต้องยอมรับอย่างนึงว่า งานล้างรถมันเหนื่อยครับ คนไทยหายากมาก และที่สำคัญปัญหาไม่ใช่เรื่องหาคนงานครับ แต่เป็นเรื่องแรงงานไทย ไม่มีความอดทนเลยครับ ตรงนี้คนที่ทำธุรกิจหลายๆคนจะพอทราบ
มาทำงานวันนึง หายไป 2 วัน เดี๋ยวมา เดี๋ยวหยุด ...ผมเลยเปลี่ยนมาใช้แรงงานต่างด้าว

และปัญหาก็เกิดขึ้นอีกมากมาย คือผมยอมรับว่าแรงงานต่างด้าวทำงานดีจริงๆขยัน อดทน แต่แรงงานพวกนี้ก็ผิดกฎหมายอยู่ดี ผมเลยต้องมารบกับคุณตำรวจอีก จนผมแบบ ไม่ไหวแล้วจริงๆ ทั้งเรื่องป้าย เรื่องลูกค้าไม่เข้า และยังเรื่องคนงานอีก ... ผมน่ะครับ! ปรกติผมจะแบบเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไร อยู่กับเพื่อนๆ ปาร์ตี้ไปเรื่อย ผมกลายเป็นคนซึมไปช่วงใหญ่ คิดมาก เครียด จนอยากฆ่าตัวตายเลย ว่าทำไมปัญหามันเยอะขนาดนี้ ผมไม่ไหวแล้วน่ะ...ในที่สุด ผมก็ใช้กำลังภายในอีกรอบ และหลังจากนั้นรัฐบาลก็เปิดให้แรงงานต่างด้าวทำบัตร...แค่เรื่องแรงงาน ขอจบตรงนี้น่ะครับ เพราะถ้าต่อเรื่องนี้ มันจะมีอีกเยอะมาก

และเรื่องของลูกค้า ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่เข้าใจทุกอย่างที่ทำ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมแวะเข้ามาขอคำปรึกษาพี่ๆในนี้อยู่ตลอด...แล้วเอามาค่อยๆปรับ และลองทำ ผมจะพูดเรื่องกลุ่มลูกค้าก่อน ตอนแรกผมคาดหวังว่า ย่านนี้คนมีเงินเยอะ เค้าไม่คิดมากหรอกเรื่องล้างรถ แต่บริการให้ดีสุดๆก็พอ แต่ผิดครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ คนมีเงิน เค้าก็มีคนขับรถ มีคนรับใช้ล้างให้ กลุ่มลูกค้าผมเลยเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มพนักงานทั่วไป จนถึงนักธุรกิจทั่วไป ซึ่งผมจะบอกว่า เป็นไปอย่างที่ผมเคยเรียนมาในสาขาการตลาดจริงๆ
เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค

จากคุณ : เก้าอี้สีเทา
เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 14:57:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com