ความคิดเห็นที่ 1 นั่นละค่ะ พยายามเก็บเงินเพื่อได้ไปอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ แม่ ไปทีไรไม่เคยคิดอยากกลับมาทำงานเลย อยู่ต่างจังหวัดถ้ามีความคิดดี ๆ ก็สามารถมีรายได้พออยู่ พอกิน เลี้ยงตัวเองได้สบาย ๆ เลยนะ  ปลูกผัก ปลูกเห็ด ปลูกข้าวโพอ เลี้ยงปลาขายก็ได้  ไม่ต้องดิ้นรนมากมาย  ทุกวันนี้คนเราเห็นวัตตถุสำคัญกว่าสิ่งใด จนไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหน จากคุณ : คนกาฬสินธุ์ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 17:13:34

ความคิดเห็นที่ 2 ผมหันหลังให้กับสิ่งที่ จขกท.บอกมานานแล้วครับ หลังจากที่หลงอยู่ในวังวนของสิ่งนี้ ผมนิยามสิ่งพวกนี้ว่า ภาพลวงตาที่เราหลอกตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหันหลังแล้วหนีเข้าป่าหรือปลีกวิเวกนะครับ ซึ่งหลายคนๆที่ผมรู้จักเขาก็บริหารสิ่งพวกนี้ให้ลงตัวกับชีวิตของเขา ครอบครัวของเขาได้อย่างลงตัวเหมือนกัน ผมคิดว่าเราไม่สามารถพลิกสังคมที่เราถูกปลูกฝังมาแบบนี้ได้เพราะอารมณ์หรือความคิดเพียงแค่วูบหนึ่ง แต่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ โดยที่เราต้องจัดการให้สิ่งเหล่านั้นสมดุลกับชีวิตเราให้ได้ครับ คำตอบของชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมเลือกที่จะบริหารตัวเอง ไม่ใช่ให้สังคมที่เป็นอยู่มาบริหารผมครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 17:14:25

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่แล้ว ฟูจิ  ก็สู้น้ำพริกปลาทูฝีมือแม่ไม่ได้หรอก... จากคุณ : takop เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 17:27:01

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเป็นคนกรุงเทพแต่กำเนิดครับ ฐานะทางบ้านแต่ก่อนค่อนข้างมีอันจะกินแต่ไม่ได้รวยมาก เทียบแล้วก็น่าจะเป็นชนชั้นกลางระดับกลางๆ เรียนโรงเรียนเอกชนไฮโซตั้งแต่เด็ก เพื่อนส่วนใหญ่ก็ลูกเจ้าของกิจการ ใช้เงินกันฟู่ฟ่า อยากได้อะไรคือได้ ผมเองก็ชินกับสังคมอะไรแบบนี้ พอจะเข้ามหาลัย ที่บ้านก็เกิดปัญหาการเงินค่อนข้างหนัก จากที่เคยมีเงินใช้ก็ต้องประหยัดมากขึ้น ประกอบกับได้ทุนไปเรียนมหาลัยที่สังคมตรงข้ามกับตอนมัธยมอย่างมาก ที่นี่คนส่วนใหญ่ไม่ใช่ลูกคนรวยเลย (มีบ้างแต่น้อย) เป็นเด็กต่างจังหวัดที่หลายๆอย่างควรจะรู้แต่ก็ไม่รู้(ในความคิดของผม) บางคนเป็นลูกชาวนาก็มี เงิน 20 บาทสำหรับบางคนมีค่าพอๆกับเงิน 500 บาทของผม ช่วงแรกๆก็ค่อนข้างเครียดกับสังคมแบบนี้เพราะมันไม่มีเหมือนกับเราเลย แต่คิดว่ายังไงก็ต้องอยู่ให้ได้ ก็เริ่มปรับตัวและเรียนรู้ชีวิตแบบใหม่ อยู่ๆไปความคิดตัวเองก็เริ่มเปลี่ยน เริ่มอยากที่จะลองใช้ชีวิตแบบคนชนบทดูบ้าง พอใจที่เป็นอยู่ กินเท่าที่มี ไม่ต้องไปหาอะไรมากมายให้ชีวิตต้องลำบากมาก จากส้มตำที่เมื่อก่อนยี้สุดขีด ตอนนี้กินเป็นอาหารจานโปรด แต่ใช่ว่าจะชอบความคิดแบบนี้ไปซะหมด พอเรียนจบทำงาน ก็พบว่าในการทำงานเราจะเอาความคิดแบบพอเพียงกับสิ่งที่เป็นอยู่ไม่ได้ ความก้าวหน้าจะไม่มาหาเรา ทำไมผมจึงต้องการความก้าวหน้า แน่นอนว่าเงินคือปัจจัยสำคัญที่สุด ทุกวันนี้ทุกคนต้องใช้เงิน ยิ่งในกรุงเทพ แค่ออกจากบ้านคุณก็ต้องมีเงินติดตัวไว้บ้างแล้ว ทำไมผมจึงต้องอยากมีเงิน คำตอบของผมคือมีไว้เพื่อไม่ให้ตัวผมและคนรอบข้างที่ผมรักต้องลำบาก หมายถึงครอบครัวของผม ณ ปัจจุบันและอนาคต ทุกวันนี้แม่ผมก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพก็ใช่ว่าจะแข็งแรงอะไร แค่เค้าตกบันไดไม่กี่ขั้นก็ต้องใส่เฝือกและทำกายภาพอยู่หลายเดือน ค่าใช้จ่ายไม่ใช่ร้อยสองร้อย...ถ้าไม่มีเงินแล้วจะรักษายังไงล่ะ อุบัติเหตมันมาโดยที่เราตั้งตัวไม่ทันอยู่แล้ว อีกสิบปีผมก็คงแต่งงาน มีลูกไว้สืบสกุล ค่าใช้จ่ายที่ต้องเกิดขึ้นล่ะ ผมควรต้องรีบหาและเก็บไว้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ พิมพ์ไปพิมพ์มา สุดท้ายแล้วคำตอบในชีวิตของผมมันก็คือการได้อยู่กับคนที่เรารักและทำให้เค้าเหล่านั้นมีความสุขครับ แต่การที่ผมจะทำได้นั้น มันก็ต้องแลกมากับอะไรหลายอย่างอีกมาก ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและที่มันยังไม่เกิดในตอนนี้ ชีวิตในกรุงเทพกับต่างจังหวัดมันต่างกันครับ จะว่าของใครดีกว่านั้นไม่ได้หรอก เพราะปัจจัยและสังคมมันไม่เหมือนกันเลย การปลูกฝังความคิด 20-30 ปีมันเปลี่ยนกันไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : จิบ "ชา" เย็นแทะหนังสือ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 17:31:03

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณ  " จิบ "ชา" เย็นแทะหนังสือ " ผมก็เป็นคนกรุงเทพโดยกำหนดเหมือนกันครับ บ้านผม บ้านพ่อแม่ บ้านยาย บ้านป้า บ้านลุง เราก็อยู่ในซอยเดียวกัน ถึงตอนจะไปทำงานและกลับจากทำงานรถจะติดบ้าง แต่ชีวิตผมก็มีความสุขดีตามอัตภาพ มีงานทำ อยู่กะพ่อแม่พี่น้อง ทุกวันนี้ก็ต้องพยายามทำงาน เก็บเงิน จะได้ไม่ลำบากยามแก่ละครับ ไม่ได้รู้สึกว่ากรุงเทพไม่ดีแต่อย่างใด คิดแค่ว่ามันเหมาะกับชีวิตผมและครอบครัว จากคุณ : As it happens to be me เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 19:17:15

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ เราชอบความคิดคุณนะค่ะ บ้านเราก็อยู่ต่างจังหวัด เราทำงานใน กทม งานไม่ได้เครียดอะไร สบาย ๆ เพื่อนร่วมงานกับหัวหน้าก็เหมือนพี่ ๆ น้อง ๆ อยู่ในองค์กรที่ดี กลับบ้านก็เป็นสังคมที่ดี เป็นสังคมของคนต่างจังหวัด จะดีเสมอค่ะ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 19:17:46

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเป็นคน ตจว และผมชอบ กทม ทุกครั้งที่ผมกลับไปบ้าน ตจว รู้สึกเวลามันผ่านไปช้ามาก ไม่มีอะไรให้ไปให้เที่ยวให้กิน จะว่าหลงแสงสีก็ได้ แต่ในความคิดผมคือ กทม เป็นเมืองที่มีโอกาสมากมายหลายกลากในการไขว่คว้าถ้าคุณมีศักยภาพเพียงพอ จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 19:45:04

ความคิดเห็นที่ 8 ขอตอบในมุมของคน กทม ตั้งแต่เกิดบ้างครับ ผมรู้สึกว่าที่นิ่เป็นบ้านครับ เวลาไปเที่ยว ตจว ก็สนุกนะครับ แต่ไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นบ้านได้เลย อาจจะเป็นเพราะติดกับตึกมาตั้งแต่เกิด เรื่องแบบนี้ตอบยากครับ ขึ้นอยู่กับว่าโตมากับแบบใหน ปล. อาหารการกินใน กทม ก็ไม่ได้แพงไปทุกอย่าง พอๆกับอาหาร ตจว บางที่ก็แพงกว่า กทม ด้วยซ้ำ จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:39:33

ความคิดเห็นที่ 9 จะอยู่กรุงเทพ  หรือต่างจังหวัด อยู่ที่เราเลือกครับ   ที่ไหนมีความสุขก็อยู่ที่นั่น... จากคุณ : takop เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 20:41:11

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าต่างจังหวัดดีกว่านะครับทั้งอาหารการกิน อากาศ สุขภาพ เวลา การเดินทาง แม้ว่ารายได้น้อยกว่าแต่รายจ่ายก็น้อยกว่าตามไปด้วย  เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เนตข่าวสารก็รับได้รวดเร็วไม่ต่างกับคนกทม. การศึกษาเดี๋ยวนี้มหาวิยาลัยก็เปิดเกือบทุกจังหวัดแล้ว จากคุณ : คนเมืองจันทร์ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:01:41

ความคิดเห็นที่ 11 ของเรานี่ไม่ใช่แค่ตจว.หรือกรุงเทพค่ะ เคยดั้งด้นไปทำงานไกลถึงเมืองนอกเมืองนา เพราะคิดว่าเงินคือคำตอบของทุกอย่าง เดือนๆ นึงถึงจะเหนื่อยมากก็ได้เงินเยอะกว่าทำงานที่กรุงเทพมากมาย แต่ตอนเย็นต้องกลับบ้านมาอยู่คนเดียว นั่งกินข้าวคนเดียว นั่งดูหนังคนเดียว เข้าใจมุขเค้าบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็เปิดดูไม่ให้ห้องเงียบ ตกเย็นก็มานั่งรอคุยเอ็มกับพ่อแม่ เห็นหน้ากันแค่ผ่านเวบแคมเท่านั้น อยู่ได้สองปีแล้วรู้สึกชีวิตหดหู่มากๆค่ะ รู้สึกว่าไม่ได้อยากอยู่เพื่อใช้ชีวิตแบบนี้ ไม่ได้อยากหาเงินโดยทิ้งคนที่รักไว้ข้างหลังแบบนี้ เมื่อต้นปีเลยตัดสินใจลาออกแล้วกลับมาเริ่มต้นสมัครงานใหม่ที่บ้านเรา ตอนนี้มีความสุขมากกกกกค่ะ เดินไปไหนก็เจอคนพูดภาษาเดียวกัน ขำเรื่องเดียวกัน เข้าใจอะไรคล้ายๆกัน อาหารก็ถูกปาก หาอะไรกินก็ง่าย แล้วที่สำคัญที่สุดคือได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ก่อนออกไปทำงานได้สวัสดีพ่อแม่ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้ไปทำบุญกับครอบครัวตามวิถีชีวิตที่เคยเป็นมาตลอด ตอนนี้ให้ไปไหนแล้วเอาเงินเป็นแสนมาแลกก็ไม่ไปแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่เลิกหาเงินนะคะ >< เพราะยังมีพ่อแม่พี่น้องให้ต้องดูแล แต่คงทำแต่ละอย่างให้สมดุลกันมากกว่า ขอทำงานและอยู่ใกล้ๆพ่อแม่และคนที่เรารักแบบนี้แหละค่ะ ที่สุดของความสุขแล้ว จากคุณ : แมลงสาบผู้มีจิตวิญญาณอันเสรี ~ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:11:07

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเป็นคนเกิดที่ กทม ยอมรับว่าเมืองนี้ คนเยอะ ทรัพยากรจำกัด ดังนั้นคนเลยต้องแย่งกันทุกอย่าง แต่ผมก็แล้วแต่คน ถ้าคนคิดว่ามีศักยภาพเพียงพอ ที่อยู่อย่างสบาย หรือใครที่มีความฝัน ก็ฝืนทนอยู่อย่างสบาย แต่ไม่ได้บอกว่า ตจว ไม่มีความฝัน แต่ผมจะบอกว่า โอกาสมันมีเยอะกว่าด้วยซ้ำ ในแง่การลงทุน เพราะ คุณเอาธุรกิจที่ work ใน กทม ไปย่อขนาดลงก็ได้แล้ว ถ้าธุรกิจมีกำแพงสูงหน่อย ยิ่งดี มีโอกาสเยอะ แต่คนไม่ค่อยเห็นกัน ผมอยากไปอยู่ ตจว มาก โดยเฉพาะภาคเหนือ แต่ก็อย่างว่า พ่อแม่ ผมอยู่ที่นี่ ผมเลยอยากอยู่ที่นี่เป็นหลัก แล้วถ้ามีโอกาส ค่อยว่ากัน ;) จากคุณ : เอ็กซ์คันเกียร์ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:11:54

ความคิดเห็นที่ 13 เราหาคำตอบเจอมาเมื่อ4ปีที่แล้วกับงานสายธนาคารใน กทม. เราอยู่กทม.4ปี รู้สึกว่า ไม่ใช่อย่างแรง เลยย้ายกลับบ้าน โชคดีมากๆ ที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ตอนนี้ สุขสบายดีมากๆ กินเงินเดือนเท่า พนักงานในกทม. แต่ค่าครองชีพต่ำสุดๆ  อยากได้อะไรก็ได้ แถมงานหนักไม่เท่า กทม. ไม่ต้องทนเหนื่อยฝ่าฟันกับการใช้ชีวิตบนท้องถนน จากคุณ : คาร่าลิลลี่ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:23:23

ความคิดเห็นที่ 14 อยู่กรุงเทพฯ ก็เหนื่อย เรียนไป ทำงานไป รถติด กลับบ้านดึก ไม่มีที่จะนั่ง --* แต่ให้ทำไง อยู่มาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ ตายายก็อยู่มาตลอด เพื่อนๆก็โตมาด้วยกันที่นี่ ก็มีความสุขดี เจอเพื่อนบ้างตอนเย็นๆ ก็โอนะ แต่เรื่องเหนื่อย นี่มันก็จริง ห้ามมิได้ (โดยเฉพาะการนั่งรถกลับบ้าน) จากคุณ : ploypipy เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:37:09

ความคิดเห็นที่ 15   หนูมาเรียนกทม.ยังไม่ถึงเดือน หนูยังรู้สึกอยากลับบ้านเลยค่ะ555 ถ้ามีมหาลัยใกล้ๆบ้าน ย้ายไปเรียนใกล้บ้านแล้วนะเนี่ย555 ที่กรุงเทพแออัดมากอ่ะ รถวิ่งเยอะแยะ ฝุ่นควัน บลาๆ มากมาย หรือเราไม่ชินก็ไม่รุนะ อืมมม อยากรู้ว่าสังคมเมืองหลวงประเทศอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ ที่จริงกทม.ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะคะ แต่แค่รู้สึกว่า ทำไมหลายคนอยากมากันจัง 5555 อยู่ที่บ้านเกิดตัวเอง แสนสุขสบายใจ คือกทม.เข้ามาเที่ยวแป๊บๆไรงี้อ่ะได้ แต่อยู่นานนี่ต้องคิดหนัก ระบายพอใจแระ อาจวกไปวนมานะคะ 555 เรียบเรียงไม่ถูก *** อีกนิดๆ คือมาเรียนกทม.ต้องอยู่หอ หอนอกมหาลัยอ่ะนะคะ แล้วก่อนหน้านี้เคยอยู่คอนโด คือตอนแรก เราเป็นเด็กตจว.ไง คิดว่าเออ อยู่ดอนโด ไฮโซมากอ่ะ สุดๆ แต่พอได้มาอยู่จริง เทียบไม่ได้กับบ้านที่อยู่เลยอ่ะ 555 คือ เราติดภาพว่ามันดูดีไปเองอ่ะ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว มันแบบอึดอัดอ่ะ คือไม่ว่ามันจะเป็นห้องหรูหราไฮโซขนาดไหนนะ แต่มันก็แบบ เป็นห้องๆ บนตึกไรงี้อ่ะ 5555 ไม่รู้มีใครเข้าใจไหม แต่ที่เราไม่เข้าใจคือ หลายคนมากกกกก เพื่อนเราด้วย แบบคือรู้สึกว่า อยากได้ อยากมีคอนโดไรงี้อ่ะ ตอนแรกๆก็อยากนะ แต่ตอนนี้ไม่แระ555 นอกจากให้ฟรี *--* แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 22:44:24 จากคุณ : Leola เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:38:40

ความคิดเห็นที่ 16 จริงค่ะ  ชีวิตต่างจังหวัด  สบายใจ  สุขภาพจิตดี  อิสระ  ไม่ต้องกดดัน  อยากทำอะไรเมื่อไหร่ก็ได้  ความสุขก็เยอะ                     แต่เรายังปลง  กับ วัตถุ  สิ่งของ เทคโนโลยี ไม่ได้นี่สิค่ะ  ก็มันกลายเป็นคนเมืองไปแล้ว   หลายคนคงจะมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน  ทุกคนต่างก็ต้องการความสุขหมดทุกคน   แต่เราไม่ได้อยู่เพื่อตัวเรา   เราอยู่เพื่อคนอื่น  ซึ่งนั่นก็คือ  แม่  พ่อ ----- แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 22:45:10 จากคุณ : 2NE1 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:44:08

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบกรุงเทพมากเลยครับ หนังฌรงใหญ่ มีรถไฟฟ้า อยู่คอนโดวิวดี ๆ อากาศดี มีรถแปลก ๆ ให้ดูเป็นประจำเจอคนเยอะแยะ สยามก็สาว ๆ เยอะมากมีสาว ๆ น่ารัก ๆ ให้ดูทุกวัน คนทำงานก็แต่งตัวกันจัดระรื่นตาทีเดียวครับ อาหารอร่อย ๆ ก็เพียบ ส้มตำเจ้าเด็ดก็มี ผัดไทแจ๋ว ๆ ก็เยอะ เสียดายร้านลาบน้ำตกอีสานเจ้านึงเด็ดมาก ๆ หายไปพร้อม ๆ กับ ม๊อบเสื้อแดง ดึก ๆ นอนไม่หลับขับมอไซด์ไปชมวิวที่พระที่นั่ง ที่ถนนข้าวสารก็สนุก ๆ (ถ้าเป็นต่างจังหวัดต้องนอนง่าววว หรือไม่ก็นั่งเล่นเนทเบื่อมาก) ช่วงนี้บอลโลกร้านให้ดูบอลเพียบนี่ไปดูที่ร้าน Man U ตรงสุขุมวิทมาคนเยอะมาก ๆ ได้อารมณ์ร่วมสุด ๆ เบื่อมาก ๆ ก็ไปตีแบตเตะบอลกับเพื่อน ๆ ในพันทิบห้องศุภชลาศัย เพื่อนก็เยอะตั้งแต่ลูกจ้าของบริษัทยันซิเคียวริตี๊การ์ด นี่กะว่าถ้ามีตังจะย้ายไปคอนโดใกล้ ๆ ที่ทำงานเอาแบบเดินถึงตอนนี้มันขับรถ 20 นาทีก็ชักจะขี้เกียจ Technology Update ก็ไววันนี้เห็นโฆษนา โทรไปถามร้านหิ้วของ IT ชิ้นใหม่กลับมาเล่นได้เลย คนน่ะมันจะมีความสุขอยู่ตรงไหนก็มีความสุขไม่มีที่ไหนดีไม่ดีไปกว่ากันหรอก แต่ล่ะทีมันก็มีข้อดีในตัวของมันเอง ผมน่ะมีสุขสบายใจทุกวันคิดแต่วันนี้จะทำอะไรสนุก ๆ ดี ตอนอยู่ต่างจังหวัดผมเบื่อมากไม่ค่อยมีอะไรทำมันเหงือย ๆ เนือย ๆ ยังไงไม่รู้ ที่สำคัญที่อาบน้ำเยอะมาก ๆ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 00:02:01 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 00:01:45 จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:53:23

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้ โดน เหมือนชีวิตเราเลยค่ะ เว้นแต่ว่าเราทำงานอยู่ ตปท ได้เงินสูงพอตัว มีเหลือกินเหลือใช้ วันหยุด เดือนละสิบว่าวัน สบายๆชิลๆ เสร็จงานแล้วก็จบเปนจ๊อบๆไป ไม่ต้องกลับมาคิดให้มาก ได้ท่องเที่ยว แต่ทำงานไม่เป็นเวลา แต่......ต้องอยู่คนเดียว เหงา ทุกวันนี้ยังคิดหนักอยู่เลยค่ะ ว่าอยากย้ายกลับไปทำงานที่บ้านเรา เงินน้อยกว่า แต่ค่าครองชีพก็น้อยกว่า ได้อยู่กับที่บ้าน กับครอบครัว แต่ว่า วันหยุดเยอะๆไม่มีแล้วนะ ทำงานทุกวันเป็นรูทีน ต้องแลกหลายๆอย่าง บางทีก็คิด มีเงิน ความสุขน้อยกว่า กับ ไม่มีเงินมาก แต่ความสุขมากกว่า เลือกอะไรดี ทุกวันนี้ยังคิดไม่ตกเลยค่ะ ยังไงก็เอาใจช่วยคุณ จขกท นะคะ จากคุณ : ky (kitty and kitty) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:09:34

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับ จขกท มากค่ะ  คนกรุงเทพไม่เคยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ แต่คนต่างจังหวัดไม่เคยได้สูดมลพิษเท่าคนกรุงเทพ  ทุกอย่างมันมีทั้งดีและเสีย เพียงแต่ว่าเราจะเลือกรับสิ่งไหนให้กับตนเอง   สักวันดิฉันต้องกลับไปมีความสุขเหมือนในวัยเด็กให้ได้  ความสุขจ๋า รอฉานก่อนนะ ....... จากคุณ : TukKyNaKa เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:22:34

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าต่างคนก็ต่างความคิดแหละครับ ไม่มีใครผิดหรอก ทั้ง - ตจว อยากอยู่ กทม - กทม อยากอยู่ กทม - ตจว อยากอยู่ ตจว - กทม อยากอยู่ ตจว ที่สำคัญคือคุณต้องรู้ว่าคุณชอบอะไร และสามารถหาเงินให้พอใช้กับชีวิตที่คุณเลือก จากคุณ : delabiere เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:25:18

ความคิดเห็นที่ 21 อยู่ ตจว. อากาศดีกว่า รถไม่ติด ค่าครองชีพถูกกว่า ผู้คนส่วนใหญ่มีน้ำใจ ได้อยู่ใกล้พ่อแม่ อยู่กทม. หางานง่ายกว่า ได้เงินดีกว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ การแพทย์ดีกว่า ตอนนี้อายุเรา 26 ต้องเลือกอยู่ กทม. ไว้หางานหาเงินได้เยอะพอแก่ตัว ก็จะกลับไปอยู ตจว.ค่ะ จากคุณ : เด็กตจว.เข้ากรุง (แม่ค้าหน้าแป้น) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:37:20

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเกิดและโตอยู่ใน กรุงเทพ ตลอด ไม่ว่ายังไงก็ยังอยากอยู่ กรุงเทพ ครับถึงแม้จะรถติด อากาศไม่ดี และอะไรก็ตามที่แย่ๆ เพราะผมชินที่อยู่กับมันแล้วครับ ไม่อยากจากพ่อแม่และน้องๆไปไหน ถึงแม้จะไปที่ไหนที่ให้เงินมากกว่าก็ตาม ผมก็ไม่ไปไหนครับ เงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง เวลาต่างหากครับ สำหรับครอบครัวและเพื่อนๆและตัวเอง ได้ไปกินข้าวกับครอบครัวบ่อย ไปเที่ยวกันบ้าง ไม่ได้ห่างจากครอบครัว ก็มีความสุขมากๆแล้วครับ พอใจแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 00:49:31 จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:40:30

ความคิดเห็นที่ 23 เราอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีความคิดจะเข้าไปทำงานที่กทมเลย ที่นี่ค่าครองชีพไม่สูงถ้าเทียบกับเงินเดือน พออยู่พอกิน แถมมีเงินเก็บอีก มีความสุขกับชีวิต ไม่ต้องดิ้นรนในสังคมเมือง จากคุณ : BuZy_Zz เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 01:46:05

ความคิดเห็นที่ 24   เป็นคน กทม.ตั้งแต่กำเนิด..... อยากให้ คน ตจว. ชอบ ตจว. และเลือกกลับไปอยู่ บ้านเกิดของตน ด้วยความเต็มใจทั้งหมด เพราะ กทม. แออัดมากกว่าสมัยเรายังเด็ก มากกกกกเหลือเกิน สมัยเด็ก...ไทยมี 60 ล้านคน....อยุ่ กทม. 10-15 ล้านเองมั๊ง เราอยุ่สาทร รถวิ่งชิวๆ คำว่าติด ก็แค่ชิวๆ....ที่จอดรถริมถนนหาข้าวกินง๊ายง่าย แต่20-30ปีผ่านไป...ไทยมี 62ล้านคน...แต่ย้ายมาอยู่ กทม. 50 ล้านคนมั้ง(ประชด) ไม่มีที่หายใจ ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีถนนเหลือ ไม่มีทางเท้าให้เดิน มีแต่แผงลอยเต็มทางเท้า ไม่อยากให้ คนทิ้งบ้านเกิด มาล้น กทม.อยากทุกวันนี้... คนอ่าน คงด่าเราตรึม... แต่เราก็แค่ รักบ้านเกิดของเรา...เหมือนคนปายบ่นว่าปายแตก เราก็คิดว่า กทม.แตกแล้ว...คนมันจะเยอะมากมายขนาดนี้ มีงานเทศกาลเหมือนเหยียบกันตาย เข้าห้างฯ ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีที่เดินเลย เวียนหัวมาก ชุมชนแออัด อยากปลูกบ้านกลางกรุงที่ไหนก็ทำ... บ้านคล่อมคลอง(เหนือกว่าบ้านริมน้ำ แต่เป็นบ้านบนน้ำ) ขวางทางน้ำ ก็ทำ อยากขายของริมถนน บนทางเท้า ก็ทำ ... ไม่มีที่เดิน ไม่มีที่หายใจหมดแล้ว กทม.แตก เราไม่อยากให้มาอยู่บ้านเกิดเราจนล้นขนาดนี้...เราแค่หวงแหนบ้านเกิด แต่เราก็เข้าใจ...โอกาสในงาน มันกระจุกในเมืองหลัก โอกาสการศึกษา ก็มากระจุกในเมืองหลัก ...เมื่อเรียนจบก็ชินเมืองหลวง จึงปักหลัก คนทำไร่ทำนา...เมื่อความจนมาเยือน ก็มาตายดาบหน้า ปลูกเพิงพักตามสะดวก ใน กทม. ลูกหลานที่ได้เรียน จบ ป.6 ม. 3 ม.6 ก็มาหางานในกทม. ทำออฟฟิศ โรงงาน ลูกหลานที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ก็ทำงานในเมืองหลวง.. เรียนต่อ ก็เรียนในเมืองหลวง แม้คนชรา...เมื่อป่วยก็ต้องมารักษาในเมืองหลวง หรือย้ายมาฟอกไต รักษาใน กทม. กทม.จะแตกแล้ว....คนจะเป็นบ้ากันหมดแล้ว...เวลาว่าง ก็ไปอัดกันในห้างฯ ไม่มีทางออกชีวิตอื่น ปัญหาเรื้อรังที่รัฐบาลต้องแก้ไข...เสียดายที่พวกเค้าทำไม่ได้ มานับสิบๆๆๆปี อย่าด่าว่าเราใจแคบ....คุณเถียงเหรอว่า ไม่เป็นความจริง จากคุณ : จากใจ เด็ก กทม. เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 01:53:40 A:124.120.118.48 X: TicketID:266891

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่อยากอยู่กรุงเทพ แต่ต่างจังหวัดไม่มีงานให้ทำเยอะเหมือนกรุงเทพ จากคุณ : RedMiyoun เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 03:05:30

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นกระทู้แทงใจดำเรามากเลย หมายถึงว่า ตรงกับความคิดและสถานการณ์ของเราตอนนี้มากๆเลยค่ะ แต่เราก็ยังคงต้องทนต่อไปอีกสักพักก่อนค่ะ เพื่อจะปูอนาคตให้มันมั่นคงจริงๆ แล้วเมื่อนั้น เราก็จะกลับไปอยู่ในโลกแห่งความสุขแบบพอเพียงเหมือนคุณจขกท.ว่า ตอนนี้ก็นับวันรออยู่เหมือนกันค่ะ ขอความสุขบังเกิดแก่ทุกคนนะคะ ขอบคุณจขกท.ที่ชี้แนะด้วยค่ะ ปล. เรามองว่าคุณจขกท.อยากสื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว การได้กลับไปทำงานในถิ่นบ้านเกิดของตัวเอง ถิ่นที่มีผู้คนรู้จักตัวเรารายล้อมอยู่ ไม่ว่าจะกทม. ตจว.หรือที่ไหนก็ตาม มันคือความสุขที่แท้จริงของการมีชีวิตแบบคนไทยค่ะ เพราะสังคมไทยแต่ดั้งแต่เดิมมาเป็นสังคมครอบครัวขยาย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อญาติมิตร เพื่อนบ้านและคนรู้จัก ถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่การทำงานแบบทุนนิยมในปัจจุบันมันเน้นที่ปัจเจกบุคคลซะมากกว่า ในท่ามกลางเงินทองที่หามาได้ คนส่วนมากกลับพบว่าต้องอยู่อย่างเดียวดาย และมันก็ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง    เราเองเป็นคนกทม. แต่ตอนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศค่ะ ความสุขที่เราฝันใฝ่อันสูงสุดตอนนี้คือ ได้กลับมาทำงานที่แผ่นดินเกิดเมืองนอนของตัวเอง และได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติของเรา แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 04:27:01 จากคุณ : นิโนะ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 04:12:04

ความคิดเห็นที่ 27 เราคิดตรงข้ามกับเจ้าของกระทู้ค่ะ มันไม่เกี่ยวกับตจว.หรือกทม.หรือ มันอยู่ที่ความเข้มแข็งของจิตใจเราเองที่ทนกับอบายมุขและสิ่งยั่วยวนได้แค่ไหน เราเกิดภาคเหนือเหมือนกัน สถานที่เราเกิดนี่บ้านนอก ขนาดที่ตอนเกิดยังเกิดที่บ้านเลย ย้ำ บ้านนะไม่ใช่รพ. ^ ^  สำหรับเราแล้วพอเพียงคือใช้เท่าที่ตัวเองมี ตอนที่หาเงินได้เยอะๆ กินอาหารแพงแบบเจ้าของกระทู้บอก เราดีใจที่มีเงินพาครอบครัวไปกินร้านหรูค่ะ แบล็กแคนยอน mk ฯลฯ นอกจากของกิน+หนังสือแล้วก็ไม่ได้ใช้อะไรเท่าไหร่เพราะทำแต่งาน ไม่ได้ซื้อของแบรนเนมหรูหราเหมือนคนอื่นที่รายได้ระดับเดียวกัน  ยังใส่เสื้อยืดเก่าๆกางเกงขาก๋วยกระเป๋าใบละ49 กระเป๋าตังค์ใบละ25แต่มีเงินในนั้นหลักหมื่น -_-' ตอนไม่มีตังค์ เอาเงินเก็บมาใช้+แม่ให้บ้าง นั่งเล่นเนตชิวๆ อ่านการ์ตูน ดูหนัง เดินตลาดนัดซื้อกับข้าว10-15-20-30 กินก็สบาย หางานทำไปเรื่อยเปื่อย กระเป๋าตังค์ใบละ25(ใบเดิม) แต่มีเงิน100-200บาทก็ใช้เท่าที่ตัวเองมีค่ะ 5555 ตอนอยู่ตจว.ก็เหมือนเดิม ค่าอาหารถูกลงแต่ความอร่อยมากขึ้น 555 และค่าเสื้อผ้าและอื่นๆแพงขึ้น กระเป๋าตังค์ใบละ25ที่เราเคยซื้อ แถวนี้ขาย50 -_-'  หนังสือเก่าที่เราซื้อกทม.10บาท ที่นี่ขาย15-20 เดินทางไปไหนลำบาก ขับรถเองก็ไม่เป็น รถเมล์ แท็กซี่ มอเตอร์ไซด์รับจ้างก็ไม่มี มีแต่สามล้อถีบ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ชิวๆ มันมีข้อดีข้อเสียของตัวมันเองค่ะ ถ้าเราไม่ยึดติดเราก็มีความสุขนะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 05:26:28

ความคิดเห็นที่ 28 คิดไว้ตั้งนานแล้วครับ มีปัญหาหลายๆอย่างที่พบในกรุง ที่รับรู้ได้ว่าถ้าออกมาตจวแล้วจะไม่เจออีก -รถติด, เพื่อนบ้าน, สังคม และในทางกลับกัน ก็มีปัญหาที่พบ(ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบ)ทั้งกรุงเทพฯและตจว -รถติด, เพื่อนบ้าน, สังคม (อ้าว) เคยตั้งคำถามแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ และอาจจะไม่ได้ และก็กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญไปแล้ว อย่างไรก็ธรรมชาตินิยมครับ ออกต่างจังหวัดใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากฝ่า อิอิ จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 08:07:11

ความคิดเห็นที่ 29 อยู่กรุงเทพทำไมต้องกินแต่ฟูจิล่ะ ขนมจีนน้ำเงี้ยวราคา 20 บาทที่กรุงเทพก็มีขายนะ ถ้ารู้แหล่ง จากคุณ : KenshiroJr. เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:13:22

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ ^ ช่าย ช่าย มีไส้อั่วอร่อยขายด้วยนะเจ้า ^ ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:25:50

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเป็นคนชนบทโดยกำเนิด  แต่ผมชอบทั้งกรุงเทพและชนบท เพราะ ๑.กรุงเทพเป้นเมืองแห่งโอกาส สามารถหารายได้มหาศาลที่ต่างจังหวัด   ตัวเราไม่สามารถหาได้  ของบางอย่างต่างจังหวัดแพงกว่า และการศึกษา   ของของเด็ก(ลูกๆ)จะหลากหลายกว่า ๒.ชอบต่างจังหวัดเพราะอากาศดี ธรรมชาติสวยงาน วันเวลาเหมือนมันหยุดอยู่กับที่(สังเกตุจากการไปอยู่ที่ไร่ที่สวน ทุกอย่างมันนิ่งหมด ยกเว้นสายลม) เลยคิดว่า เราก็ต้องเลือกทั้งสองอย่าง  เบื่อ กรุงเทพก็ไปต่างจังหวัด โดยเฉพาะช่วงนี้ หน้าฝน ต้นไม้เขียวขจี สายหมอกยามเช้า สดใสดีครับ  จึงทำการเกษตรที่ต่างจังหวัดด้วย (เงินทั้งหมดได้จากการทำงานในกรุงเทพ) ตอนอยู่บ้านนอก  ผมเห็นคนในเมืองเขาไปทำไร่ทำสวน บ้านตากอากาศ ที่บ้านนอก ผมก็สงสัยว่าในเมืองก็มีทุกอย่างครบอยู่แล้วจะมาอยู่ทำไม พอมาอยู่กรุงเทพถึงรู้เหตุผล  ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสิบกว่าปีก่อน ท่านอาจารย์ชลประคัน จันทร์เรือง ตอนนั้นท่านเป็นดาราดัง ไปทำสวนที่เชียงคาน และวันหนึ่งท่านนั่งรถฮอนด้าแวนมาซื้อของที่ร้านเพื่อนผม  ท่านสร้างความ ประทับใจให้เพื่อนผมมากๆ คือ ลงรถแล้วเดินมาที่ร้าน  เรียกชื้อเพื่อนผมถูก และเรียกแบบสนิทด้วย ทั้งที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน   สีบสืบมาจึงรู้ว่าท่านมีสวนอยู่ที่เชียงคาน  ซึ่งแต่ก่อนเชียงคานยังไม่ดังอย่างนี้ นี้แหละครับจุดเริ่มต้นที่คิดว่าคนเมืองเขามาอยู่บ้านนอกทำไม แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 09:49:19 จากคุณ : phongmms เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:47:55

ความคิดเห็นที่ 32   ชีวิตที่สามารถเลือกได้ ผมใช้วิธีสร้างการค้าทั้งกรุงเทพ-ต่างจังหวัด และทำงานได้ 2-3 แห่ง แบบไร้ขีดจำกัด มีความสุขในการทำงาน ทั้ง 2-3 แห่ง กับ 3 ธุรกิจ ในเวลาเดียวกัน กทม. ใช้เป็นศูนย์กลางในกระจายสินค้าออกสู่ตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศ และในต่างจังหวัด นครสวรรค์ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ใช้เป็นศูนย์กลางในการนำผลผลิตทางการเกษตร กลับสู่ตลาดกทม.-ปริมณฑล จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:06:33

ความคิดเห็นที่ 33 โอกาส และมุมมองใหม่ๆ อยู่ในตัวเราเสมอ เพียงเราจะมองเห็นมันหรือไม่ครับ ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ครับ ^_^ จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:28:15

ความคิดเห็นที่ 34 อยู่ที่ เราชอบ และมีความสุขค่ะ เพื่อนเรา เข้ามาเรียนใน กทม ก้มาหลงเดอะมอลล์ กะ เมเจอร์ ชาบูชิ ทองหล่อ เอกมัย  กันทั้งนั้น  พอเีัรียนจบโดนแม่ลากกลับบ้าน ก็ไม่ค่อยอยากจะกลับต้องหาเรื่อง ให้ตัวเองได้อยู่ กทม ต่อไป ที่ทำงานเรา เกือบ 80% เป็นคน ตจว ทั้งนั้น บางคนเงินเดือนไม่สูง แต่ก็เลือกที่จะอยู่กรุงเทพ ที่ค่าครองชีพสูง เงินเดือนหามาได้ ก็หมดไปกะค่าอาหาร ค่ารถ ค่าห้อง ส่วนคนที่อยู่กรุงเทพอยู่แล้ว ก็ทำงานหาเงิน เพื่อไต่เต้า หน้าที่การงานให้สูงขึ้นไป พอมีเงินเก็บ ก็ออกไปซื้อบ้าน คอนโด ขยายครอบครัว แต่หากมีพร้อมแล้วก็ จะเอาเงินไปเที่ยว ตจว เพื่อพักผ่อนตัวเองแทน ตัวเราเองก็คนกรุงเทพ บ้านอยุ่ใจกลางเมือง ทำงานกลางเมือง วันหยุดเมื่อไหร่ เที่ยวนอก กทม ตลอด จากคุณ : mintykitty เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:28:47

ความคิดเห็นที่ 35 ผมอยู่มันทั้ง ตจว กทม และท้ายที่สุดก็ ตปท แต่ละที่ก็มีความสุขและทุกข์แตกต่างกันออกไป บอกไม่ได้หรอกว่าที่ไหนดีทีสุด เพราะนิยามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ จขกท พบแล้ว ยินดีด้วยครับ ขณะที่หลายๆคนยังหาคำตอบให้กับชีวิตไม่ได้เลย จากคุณ : john13 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:18:49

ความคิดเห็นที่ 36 ก็ชอบทั้ง กรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัดนะคะ..เผอิญมีที่อยู่ทั้งสองที่ และก็ชอบขับรถก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายนะค่ะ... จากคุณ : onsky เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:19:06

ความคิดเห็นที่ 37   มักมีคำถาม เมื่อต้องยืนโหนรถเมล์ที่มีคนเบียดเสียด รถติด เคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ " ทำไมคนเป็นสิบๆล้านคน ต้องมาแก่งแย่งทรัพยากร ในพื้นที่เล็กๆ แออัด ค่าครองชีพสูง และมีสภาพไม่ต่างจากถังขยะ อย่างกทม.นี่ด้วยนะ" !!! เพราะพวกเรามองว่ากรุงเทพ เป็นเมืองแห่ง "โอกาส" ??? จริงๆแล้ว ถ้าความเท่าเทียมในการเข้าถึงการจ้างงาน การครอบครองที่ดินเพื่อทำการเกษตร โอกาสหารายได้เลี้ยงปากท้อง มันพัฒนากว่านี้ คนที่ไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ อย่างแรงงานจากต่างจังหวัด คนเร่ร่อนที่อยู่ตรงสนามหลวง ฯลฯ เค้าก็คงได้กลับบ้าน ไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับเค้า แม้แต่ตัวเราเองก็เถอะ ต่างจังหวัด จะมีอะไรให้เราทำไหมนะ ??? ปล. บ้านเกิดของ จขกท. คงเป็นต่างจังหวัดที่เจริญ น่าอยู่นะคะ ^_^ แต่ต่างจังหวัดบางพื้นที่ มันก็มีแต่ ความโดดเดี่ยว ยากลำบาก มีแต่คนแก่กับเด็ก ในบ้านที่ตั้งอยู่ห่างกัน ไม่มีทรัพยากร ไม่มีความสะดวกสบาย จะทำอะไรก็ต้องพึ่งพาตนเองทุกอย่าง......แบบบ้านเกิดของเรา คำตอบของ จขกท.อาจไม่ใช่อย่างนี้ค่ะ (เศร้ากับความเป็นจริง T_T" ) จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:52:38 A:192.168.2.28 X:115.31.138.42 TicketID:036500

ความคิดเห็นที่ 38 ผม ตจว ภาคกลางตอนบน เพชรบูรณ์  บ้านติดป่ามากมาย มาอยู่ กทม ขุดทอง อยู่ เฉยๆ มาสามปี เอาเงินไปทิ้ง กับ ค่าหอเป็นแสน เลยตัดสินใจ ซื้อบ้าน ราคา ล้านไว้ แฟนก็ คนกทม. ชีวิตมันก็ไม่เชิงว่าสุดโต่งไปทางใหน อยู่ กทม ของกินของใช้จำกัด แต่ผมก็กิน ข้าวเหนียมส้มตำ แกงหน่อ ลาบน้ำตก KFC อาหารหรู กินแบบจีน นั่งรถเมล์มั่ง แทกซี่ ขับมอไซต์บ้าง ปะปน ปนเป ญาติพี่น้อง ลุงป้าน้าอา ก็มาขุดทอง กทม กันก็หลาย เบื่อๆก็ ขับรถไปหา ทำงานก่อสร้าง บ้าง ขายหมูปิ้ง ขับมอไซต์ ขายผ้า สาวโรงงาน พนักงงานห้าง อยู่บ้านนอกกินเหล้า ขาว อยุ่กทม ก้ยังกินเหล้าขาวอยู่ แต่ผสมแดง กับเบียร์มากขึ้น ก็ได้คุยภาษาเดียวกัน ขำฮาเหมือนกัน ปีใหม่ สงกรานต์ แต่งงาน บวชพระ ก็เฮโล ขึ้นกระบะ ไป กัน หลายๆคนก็บ่นว่า ที่บ้านไม่มีงานทำ มากทม ก็ใช่ว่า จะได้เงินมากมายอะไร ค่าแรงวันละ สองสามร้อย ค่ากินค่า อยู่ ค่าลูกโรงเรียนบ้านนอก ก็ใช่ย่อย มองไป จะชนชั้น กลางหรือชนชั้นต่ำ ก็ตกรอบเดียวกัน ผมอยู่ห้อง ก็มีสังคมออนไลน์ เห็นเฮฮากันดี ผมเอง ถามว่าคิดถึงบ้านไหม ก็คิดถึง แต่ ญาติหลายคนมาขุดทองกัน มันก็ได้คุย ยังไงดีหล่ะ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:59:32

ความคิดเห็นที่ 39 ผมเรียนในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯมา 4 ปี ตอนนี้เพิ่งเรียนจบและกำลังหางานทำ ผมไม่เคยหางานในกรุงเทพฯเลยละคับ หาแต่ต่างจังหวัดทั้งนั้น ทั้งบ้านผมและจังหวัดใกล้เคียง มีความสุขมากมาย ^^) จากคุณ : มาริอ้วน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 12:08:16

ความคิดเห็นที่ 40   เกิดที่จังหวัดใกล้กรุงเทพ  แต่ไปเรียนในกรุงเทพ  ไปๆมาๆบ่อยๆ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก   จะซื้อของก็มีตัวเลือกเยอะ ***ปัญหา -  แฟนทำงานอยู่จังหวัด อุตร.....**** ......ชีวิตต่างจังหวัด.... -ไปหาแต่ละครั้ง เสียค่าน้ำมันก็พอสมควรอยู่  ก็โอเคไม่เสียดาย  เพราะไปหาแฟน - ซื้อผักกาดหัวเล็กๆ  ในราคา 30  บาท   - หาของกินยากมาก  ทุกวันแค่นึกว่าจะต้องกินอะไรก็เครียดแล้ว  เพราะร้านค้ามีน้อย - รถเสีย ต้องซ่อมรถ   มีแต่ช่างไม่เก่ง  เปลี่ยนร้านซ่อมมา 3ร้าน  แถมโดนฟันราคาเกินจริงอีกต่างหาก   - จะซื้อของแต่ละครั้ง  ตัวเลือกน้อย   โดน up  ราคาชึ้น (สินค้าแต่ละชิ้นฝุ่นแทบขึ้น)  ซึ่งความจริงแล้ว  กรุงเทพ  ขายถูกกว่ามาก   และของก็ดีกว่ามากๆๆๆ   ถ้าอยากได้ของที่มีตัวเลือกเยอะกว่านี้  ต้องขับรถไปพิษณุโลก - ในทุกวันหยุด เสาร์ อาทิตย์  หรือ นักขัตฤกษ์  โลตัสที่นี่ (หรือที่เรียกว่าคุ้มค่า)   ก็แตกเหมือนกัน   และเป็นโลตัสเล็กมาก  ของหมดเร็วมาก - จะไปเที่ยวแต่ละครั้ง  ต้องให้แฟนมากรุงเทพก่อน  ซึ่งเป็นจุดสตาร์ทที่จะไปเที่ยวจังหวัดอื่น  อย่างทะเล  เป็นต้น  ซึ่งทำให้เสียเงินหลายต่อ  และที่สำคัญ   นั่งรถเหนื่อยกว่าเดิม  (มา 6 ชั่วโมง  กลับอีก 6 ชั่วโมง) - เป็นจังหวัดที่ไม่มีรถขนส่งเลยในตัวเมืองเลย  ไม่มีสองแถววิ่งในตัวเมือง มีแต่สองแถวต่างอำเภอ     ไม่มีรถตุ๊กๆ   แต่ยังดีที่มี มอเตอร์ไซต์รับจ้าง  รถเสียครั้งนึงไปไหนไม่ได้เลย   เพราะพอเอารถเข้าอู่ก็ไม่รู้จะกลับที่พักยังไง ต้องเดินไปที่วินมอเตอร์ไซต์ที่อยู่ไกลออกไปเป็นกิโล ...มันอยู่ที่ว่าความสุขของเราอยู่ที่ตรงไหน....เราเองก็ชอบอยู่แบบสบายสบายเหมือนกัน   แต่ถ้าได้อยู่ในจังหวัดที่มีแต่คนเอาเปรียบ ...เราก็ไม่อยู่... จากคุณ : ด้วยรัก...จากใจ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 12:16:57

ความคิดเห็นที่ 41 เกิดต่างจังหวัด เรียนมหาวิทยาลัยก็ต่างจังหวัด ไม่เคยอยากเข้ามาอยู่ในกรุงเทพเลย ตอนเด็กๆ ก็มาเที่ยวกรุงเทพบ่อยๆ ก็ชอบ ตื่นตา ตื่นใจ แต่เบื่อรถติด เบื่อควัน มากมาย เรียนจบแล้วก็หางานทำ ก็ต้องเข้ากรุงเทพใช่ไหมครับ แทบจะ 80% เลยนะที่จบแล้วมาหางานทำที่กรุงเทพ สุดทายก็ได้ทำงานต่างจังหวัด แต่ก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมากนัก อยู่มา 4 ปี ย้ายงานไปทำงานในกรุงเทพ แถวๆ เอกมัย ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพ รู้สึกว่าทำไมค่าห้องแพงจังวะ เล็กกระจิดเดียว เดินทางก็ใช้เวลานาน ถึงจะมีรถไฟฟ้าก็เถอะ ไม่ชอบเท่าไหร่ ล่าสุดออกมาทำงานต่างจังหวัดอีกรอบ ก็ใกล้ๆ กรุงเทพแหละครับ เดินทางไกลหน่อย แต่รถไม่ติดมากมาย หลุดจากเส้นสุขุมวิทก็โล่งล่ะ ตอนนี้มี condo ที่กรุงเทพ ตอนแรกก็คิดว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี ทีแรกตั้งใจซื้อบ้าน เพราะราคามันไม่ได้ต่างกับ condo เท่าไหร่เลย แต่ก็ถามตัวเองว่าจะปักหลักอยู่ที่นี่เหรอ คำตอบคือไม่ครับ ก็เลยได้ condo นี่แหละ เพราะเช่าเขาอยู่ก็เสียเงิน ซื้อคอนโดดีกว่า จ่ายมากกว่าเยอะอยู่ แต่เราก็ได้ครอบครอง สักวันมันก็เป็นของเรา จะว่าไปแล้วอยู่กรุงเทพก็สะดวกสบายดีครับ แต่มันก็แลกกับรถติด อากาศก็ไม่ดีจริงๆ ออกไปข้างนอกก็เหนียวตัว สกปรกง่าย แต่มันก็หาเงินได้มากกว่าที่จะอยู่ต่างจังหวัดครับ สุดท้ายอยู่ที่เรามากกว่าว่าเราจะ balance ชีวิตเรายังไง ความสุขของเราคืออะไร ต้องหามันให้เจอครับ แล้วก็ใช้ชีวิตให้มีความสุข โดนที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น จากคุณ : Blancpain เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 14:53:00

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่เกี่ยวว่าอยู่กรุงเทพหรือต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จากที่อ่าน ที่ไหนที่มีครอบครัว เพื่อนๆ คนที่รักอยู่ด้วย ที่นั่นก็จะเป็นที่ที่ทุกคนอยากอยู่ อย่างเรา เกิดกรุงเทพ เรียนมหาลัยที่ชลบุรี 4 ปี ถึงจะไปกลับตลอด ก็อยากอยู่บ้านที่กรุงเทพมากกว่า ตอนนี้เรียนจบมานานกลับมาอยู่บ้านถาวรสบาย จากคุณ : Baby_I Know_U Know เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 15:04:16

ความคิดเห็นที่ 43 คนเราไม่ได้มีทางเลือกไปซะทุกคนหรอกค่ะ การที่คนเข้ามาทำงานในกรุงเทพกัน.. บางครั้ง มันไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะเข้ามาหาสีสัน.. เข้ามาหาความโก้หรู.. เข้ามาหายศฐาบรรดาศักดิ์.. เข้ามากอบโกยเงินทอง.. เข้ามาดิ้นรนชีวิตอย่างไร้ความหมาย.. หรอกนะคะ ไม่มีใครอยากเข้ามาเผชิญรถติด.. มลภาวะ.. ข้าวยากหมากแพง.. ทำงานหามรุ่มหามค่ำหรอกค่ะ.. แต่เพราะ "ไม่มีทางเลือก".. และ ความเป็นห่วงเป็นใย คนข้างหลังต่างหากล่ะคะ เงืนทองเป็นของนอกกายจริง.. แต่มันเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.. แม้เงินที่ได้ จะทำให้ตัวเองเหนื่อยยากแสนสาหัส.. แต่นั่นก็จะทำให้พ่อแม่มีเงินซักก้อนไว้จ่ายค่าหยูกยา.. ไว้กินไว้ใช้ยามที่ทำไร่ไถนาไม่ไหว.. ชาวบ้านในชนบทน่ะ.. ไม่อดตายหรอกค่ะ..  แต่จะป่วยตายเพราะไม่มีเงินรักษาต่างหาก.. จากคุณ : แมงป่องหางด้วน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 15:16:04

ความคิดเห็นที่ 44 อืม อ่านแล้วคิดว่าตัวเองมาตั้งกระทู้นี้เอง โดนๆๆๆ จากคุณ : ต้นคับ9999 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 15:23:36

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยมากครับสำหรับผม จากคุณ : นายอินเลิฟ (NINEINLOVE) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 15:47:32

ความคิดเห็นที่ 46   ใช่ว่าอยู่ ตจว. จะรวยไม่ได้ คิดผิดครับ เพื่อนผมหลายคน อยู่กรุงเทพ ขายมือถือห้างใหญ่ ค่าเช่าตู้หลายหมื่น มีเงินเหลือซื้อรถ ซื้อคอนโด แต่พอต้องย้ายไป ตจว. ก็ไปขายมือถือเหมือนเดิม ค่าเช่าร้าน 2 ห้อง ไม่กี่พันบาท เงินเหลือเฟือ เหมือนเดิม แต่สบายกว่า และมีเพื่อนอีกลายๆคน อยู่กรุงเทพ ก็ธรรมดา ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่พอ ไปทำธุรกิจ ตจว. ตอนนี้เป็น ป๋ารวยกันหลายคนแล้วครับ เหลือ แต่ผมนี่แหละ จะตามไปอยู่ ตจว. เป็น " ป๋า " คนต่อไป จากคุณ : คาสโนวื้ด เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 16:33:14 A:183.89.82.81 X: TicketID:273954

ความคิดเห็นที่ 47 อยู่ กทม มาแต่เกิด ไม่เคยรู้สึกกดดัน ก็มีกินมีใช้ไม่ขัดสน มันก็เลยโอเค แม้ไม่ได้มีระดับจังหวัดก็อยู่ได้ และหน้าที่หลักคือต้องทำงานเพื่อให้พนักงานในบริษัทที่มีคนจาก กทม เพียง 10% และที่เหลือจากจังหวัดอื่นๆของทั้งบริษัทให้มีงานทำ ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมรักที่จะมีเงินเยอะๆเพื่อความมั่นคงไปยังชั่วลูกชั่วหลาน ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงก็เพื่อความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูล นี่แหละคือฝันผมที่ผมต้องสร้าง อยู่ที่ไหนถ้าเติมเต็มฝันได้ก็ต้องอยู่ที่นั่นละครับ ชีวิตแค่พอเพียงไปวันๆไม่เหมาะกับผมเท่าไหร่ ผมชอบการแข่งขันมากกว่าผ่านไปวันๆ จากคุณ : RMIT เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 16:55:56

ความคิดเห็นที่ 48 มากรุงเทพ มาเก็บเงิน กลับไปทำงานต่อที่บ้านนอก อิอิ จากคุณ : Culture เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 16:59:23

ความคิดเห็นที่ 49   http://www.youtube.com/watch?v=hvlXPqCuPNw จากคุณ : คาสโนวื้ด เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:00:59 A:183.89.82.81 X: TicketID:273954

ความคิดเห็นที่ 50 เพลงนี้เลย ฟังแล้วคิดถึงบ้านนอก จากคุณ : เจมส์แบน คังคังโป้ย เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:10:05

ความคิดเห็นที่ 51 คห.15 เรียนอยู่ที่ไหนหรือ คับ จากคุณ : การินช่า เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:10:55

ความคิดเห็นที่ 52 เราไปอยู่+เรียนกรุงเทพ ใช้เวลา 5 ปี กลับมาทำงานที่บ้าน 2ปีผ่านไปได้งานใหม่ แต่ต้องไปประชุมที่กรุงเทพทุกเดือน เรารีบตกลงเลย เพราะอยากกลับไปเที่ยวหาเพือ่นเก่าที่มหาลัย แต่พอไปจริงๆ เราเจอกับการที่ต้อง ตื่น 6 โมงเช้า(สายเหมือนกันสำหรับคนกรุงเทพ) ไปขึ้นแท๊กซี่+รถไฟฟ้า เพือประชุมตอน 8.30 ประชุมถึง 5 โมงเย็น กลางวันทานข้าวที่ตึก มีอยู่ 2-3 ร้าน รสชาดห่วยแตก เจอกับรถติด ควันพิษ ความเคร่งเครียด แต่ชอบที่ได้แต่งตัวสวยๆ แอ๊บแบ๊วเป็นสาวออฟฟิต 555++++ แต่...เราคิดเลย ว่าเราเคยอยู่แบบนี้ได้ยังไง ดีนะ ที่ไปแค่ครั้งละ 3 วัน เปรียบเทียบกับอยู่บ้าน เราทำงาน 9 โมงเช้า เชื่อมั๊ย เราตื่น 8.20 ทุกวัน เวลาเหลือเฟือ พัก 1 ชมตอนกลาววัน ให้แฟนมารับไปกินข้าวแบบชิลล์ๆ เสร็จก็กลับมาทำงานต่อ เงินเดือนหมื่นกว่าบาท สำหรับเมืองเล็กๆ ที่เราอยู่ เหลือเฟืออย่างแรง ข้าวกลางวันให้แฟนจ่าย ข้าวเย็นกินที่บ้าน เงินเดือนหมื่นกว่า ทำอยู่ 2 ปี รู้มั๊ยสิ่งที่เราได้ มอเตอร์ไซส์ฟีโน่(45000) -คอมพิวเตอร์ออบชั่นสูง(23000)-กล้องถ่ายรูปพานาลูมิกซ์รุ่นเคน(10000+)-กล้องถ่ายวิดิโอแคนนอน(25000)-และจ่ายค่าไฟให้ที่บ้านทุกเดือนๆละประมาณ3500 ถือว่าเยอะมาก เพราะซื้อสดทุกชิ้น ไม่มีผ่อน ไม่มีขอใครเพิ่ม และอีกอย่าง เรายังซื้อแหวนแต่งงานให้แฟนอีก 50000 กว่าบาท ไม่ได้ขอที่บ้านเลย คุ้มค่ะ เพราะตอนนี้ เราออกจากงานมาเลี้ยงลูกได้ 2 ปีแล้วค่ะ จากคุณ : อั้มขาว เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:21:39

ความคิดเห็นที่ 53 ^^^^^  ลืมบอกว่า ยืมล็อกอินพี่มาโพส์ค่ะ จากคุณ : อั้มขาว เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:22:49

ความคิดเห็นที่ 54 ในความคิดผม ถ้าเรามีทั้งสองที่ ที่เราอยู่แล้วมีความสุข อยู่แล้วรู้สึกดี มันก็น่าจะดีไม่ใช่หรือครับ  ไม่ต้องเลือกที่ไหนเลย เลือกมีความสุขกับมันทั้งสองที่นั่นแหละ จากคุณ : Nuttapure (Nuttapure) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:38:42

ความคิดเห็นที่ 55   ไม่ชอบ กทมเท่าไหร่ หลักๆคือมลภาวะ รถติด แต่ไม่ชอบสังคมตจว ยิ่งกว่า ปัจจุบันเลยอาศัยอยู่ในถ้ำมืดๆ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 17:47:32 จากคุณ : แว่นโฉด เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:47:06

ความคิดเห็นที่ 56 อยากกลับบ้านใจจะขาดด คิดถึงชีวิตที่เป็นตัวเองมากกว่านี้ แต่ด้วยเหตุผล คงต้องทนชีวิตแบบนี้ไปอีกสักพัก.... จากคุณ : Miracles in my life เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:20:39

ความคิดเห็นที่ 57 ของผมบังเอิญว่าบ้านอยู่กรุงเทพฯพอดีเลยอะครับ  มาทำงานต่างจังหวัดก็ไกลบ้าน  ถ้าทำงานในกรุงเทพฯก็เจอมลภาวะ  แต่ตอนนี้ยังเลือกทำงานต่างจังหวัดอยู่ครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:23:30

ความคิดเห็นที่ 58 เกิดและโตที่ ตจว. แต่ไปเรียนที่ กทม. กลับมาทำงาน ตจว. อยู่กับพ่อแม่ ใช้ชีวิตอยู่ ตจว. นาน ๆ ไปเที่ยวกทม.สักที พอไปก็ไปใช้ชีวิต กทม.เต็มที่ กินของที่นาน ๆ กินที ฟูจิ ชาบูชิ ฯลฯ ที่จะสรรหาสวาปามได้ 55+ กลับมาบ้าน กินน้ำพริกผักต้มเหมือนเดิม ก็เปลี่ยนรสชาดดีในชีวิต ชอบอยู่ตจว.มากกว่า กทม. แต่ถ้าได้ไป กทม. ก็ขอให้สุดเหวี่ยง ไ่ม่ชอบรถติด ไม่ชอบวุ่นวาย แต่กลับชอบความสบายสะดวกต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตที่กทม.นะ มีของเยอะ หาของง่าย ทุกอย่างอำนวยเพื่อคนกรุงโดยเฉพาะ แต่เราพอใจ และชอบชีวิตแบบนี้แล้วแหล่ะ จากคุณ : หน่วยย่อย889 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 20:43:13

ความคิดเห็นที่ 59 เราเป็นคนตจว.ค่ะ รักชีวิตตจว.มากๆ ชอบแบบอากาศบริสุทธิ์  บ้านกว้างๆ มีบริเวณ มีต้นไม้ มีสัตว์เลี้ยง แต่ด้วยภาระหน้าที่...อันเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องมาอยู่เมืองใหญ่แบบงงๆ แต่เราเป็นคนแบบ...ลั้ลลาไง  มีความสุขกับชีวิตน่ะ ถึงจะชอบตจว.มากกว่า แต่ก็สุขดีกับบางกอก โชคดีที่งานไม่ได้ลำบาก รายได้โอเค ว่างๆ ก็ตื่นสายๆ  ไปเดินเล่นร้านหนังสือ  หาอะไรอร่อยๆ กิน  นอนอ่านนิยาย เล่นเน็ต คุยโทรศัพท์กับเพื่อนและครอบครัว   เหงาบ้างเหมือนกัน เพราะอยู่คนเดียว เพื่อนๆ น่ารัก แต่ก็งานรัดตัวกันทั้งนั้น แต่ก็สุขได้แม้จะเหงาบ้างเป็นบางที ...เราว่า ชีวิตไม่ได้เลือกได้ทุกอย่าง   ไม่มีใครได้อะไร 100 เปอร์เซ็นต์ แม่เราบอกไว้ ไม่ได้อย่างใจทุกอย่างหรอกค่ะ อยู่ที่เลือกมองและเลือกเป็น ตอนนี้เราก็แฮปปี้ดี แม้รถจะติดมากๆ  ไปไหนที่เผื่อเวลานุงนัง แม้อยู่ตจว.จะชอบมากกว่า แต่ตอนนี้เราก็แฮปปี้แบบกรุงเทพๆ เดี๋ยวแม่มาอยู่ด้วยที่กรุงเทพ ชีวิตก้อจะแฮปปี้ยิ่งขึ้นไปอีก LIFE is beautiful นะคะ จากคุณ : PDF เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 21:22:09

ความคิดเห็นที่ 60 เราเกิดและโตกรุงเทพฯ เราก็เลยชอบและรักกรุงเทพฯ เราชอบ ตจว. นะคะ แต่สำหรับเรามันคือสถานที่พักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยว เราติดความสบาย ความหรูหราในเมืองอ่ะ ชอบเดินห้าง ชอบดูหนัง ชอบทานของอร่อยๆ จากคุณ : เมมิจัง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 21:33:46

ความคิดเห็นที่ 61   ผมคนหนึ่งครับ ที่ไม่เคยคิดจะไป กทม ถ้าไม่จำเป็น ชีวิตมีแต่ความวุ่นวาย น้ำใจของคนหาได้ยาก เดินชนกันนี่ไม่มี โทษครับ โทษค่ะ มองหน้าแล้วก็จากไป ไปทีไรเจอแต่ประสบการณ์แย่ ๆ ครับ   ทุกวันนี้อยู่ต่างจังหวัดครับ รายได้อาจจะไม่สูงเมื่อเที่ยบกับกรุงเทพแต่ก็สูงสุดของค่าครองชีพต่างจังหวัดครับ จากคุณ : Covalent เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:12:48

ความคิดเห็นที่ 62 กรุงเทพ ทุอย่างต้องดิ้นรน แก่งแย่งกัน  แม้แต่จะกินข้าวยังต้องแย่งโต๊ะนั่ง ตจว. สบายๆ ชิวๆ แต่โอกาสก็มีน้อยกว่า จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:02:13

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาอ่านอย่างเดี่ยว เพราะเป็นคน กทม โดยกำเนิด เพื่อนๆก็ อยู่ กทม กันหมด. แต่เข้าใจนะครับว่าที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา(เคยไปอยู่เมืองนอกมาปีก่าๆ) จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:18:46

ความคิดเห็นที่ 64 ยินดีด้วยกับคุณจขกท. และเพื่อนๆ อีกหลายๆ คนที่ได้ค้นพบสิ่งที่ชีวิตต้องการนะคะ เราเองเคยเกิดอาการประมาณนี้ตอนทำงานอยู่ตปท.ค่ะ ยอมรับว่าช่วงนั้นงานสบายเงินดีชีวิตลัลลามากๆ แต่ก็ต้องแลกกับการอยู่ห่างจากครอบครัว สุดท้ายพอคนรอบข้าง ค่อยๆ กลับเมืองไทยทีละคนสองคน ก็รู้สึกว่ากลับไปอยู่บ้านเราดีกว่า ยอมเงินเดือนน้อยลงหน่อย งานหนักขึ้นอีก (เยอะเหมือนกันนะ 555) ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราเลือกถูกแล้วที่กลับมา เพราะนอกจากจะได้อยู่กับที่บ้าน เราก็ได้ทำงานในสายงานที่อยากทำ เงินเดือนตอนนี้ถึงไม่ได้เท่ากับแต่ก่อน แต่ก็มีเงินเก็บเยอะกว่าซะงั้น แต่ยังไงซะเราว่าทุกก้าวมันก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราค่อยๆ เติบโต ทั้งกับชีวิตและการทำงาน และทำให้เราได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในชีวิตด้วยค่ะ จากคุณ : แมวจอมกวน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 00:17:28

ความคิดเห็นที่ 65 เราเป็นคนต่างจังหวัดที่ไกลจากกรุงเทพ 3 ชั่วโมงรถทัวร์ ช่วง 12 ปีแรกของชีวิต อยู่ที่บ้าน ตจว. ช่วง 12 ปีต่อมา อย่กรุงเทพ เรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัยที่นี้ ก็ใช้ชีวิตกลางกรุงสบาย ปรับตัวได้ ช่วงต่อมา ทำงานไปๆมาๆ หลายจังหวัด สุดท้าย ตอนนี้ ก็มาอยู่ที่ ตจว. มีความสุขที่นี้มาก เพราะหางานที่ชอบเจอ รายได้เหมาะสม ค่าครองชีพถูกกว่ากรุงเทพ ได้ดูแลพ่อแม่ทุกวัน  ไม่ค่อยชอบไปกรุงเทพ เพราะรถติด อะไรก็เป็นค่าใช้จ่าย ขับรถไปเองก็โดนค่าจอดรถซะเยอะ ร้านอาหารก็ไม่ได้ต้องการอะไรมาก ที่กินอยู่ทุกวันที่บ้าน ตจว ก็อร่อยพอแล้ว ส่วนการช้อปปิ้ง ก็ช้อปทางเนทเอา หรือเบื่อมาก ก็ไปต่างประเทศเลย นานๆทีนะ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าน้อยหน้ากว่าเพื่อนที่อยู่กรุงเทพแต่อย่างใด เมื่อก่อนขับรถมาเพื่อช้อปปิ้งที่กรุงเทพ รู้สึกเสียเวลา ของที่ได้ไป ก็ไม่ได้คุ้มอะไรมากมาย บางทีก็โดนห้างหลอก บอกว่าลด ก็ไม่ลดจริง เรื่องที่เพื่อนๆที่นี้หลายคนบ่นคือเรื่องโรงเรียน มีน้อยกว่ากรุงเทพมาก และอาจไม่ทัดเทียมโรงเรียนใน กทม. แต่เราก็ให้ลูกเรียนที่นี้แหละ โรงเรียนสบายๆ ไม่แข่งกันมาก แต่ลูกอยู่กับพ่อแม่ อยู่กับปู่ย่า ตายาย ก็ดีแล้ว สรุปว่า ไม่ว่า อยู่ที่ไหน สุขสบายอยู่ที่ใจ ค่ะ ถ้าเราพอใจ และเพียงพอ จะอยู่ต่างประเทศ กรุงเทพ ต่างจังหวัด ก็อยู่ได้ค่ะ จากคุณ : แม่ยักษ์เล็ก เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 01:49:54

ความคิดเห็นที่ 66 อืม เพิ่งกลับมาจากบ้านอารมณ์เดียวกัน ครับแต่เป็นอารมณ์ตรงกันข้าม ตจว. บางที่ก็น่าอยุ่ อย่างที่คุณว่า แต่มันก็ไม่ใช่ทุกที่ ค่าครองชีพใช่ว่าจะต่ำติดดิน บางที่พอๆกัน ส่วนตัวแล้ว กรุงเทพ ยังคงเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีทุกๆที่ที่เราอยากจะไป ธรรมชาติที่ใกล้ตัวนิดเดียว ไม่อยากไปติดชีวิต รูทีน ที่ต่างจังหวัดครับ เติบโต เกิดมา มีครอบครัว รอวันตายครับ จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 01:52:00

ความคิดเห็นที่ 67 รบกวน จขกท และท่านที่ทำงานด้านสินเชื่อ ช่วยกรุณาตอบกระทู้ผม เกี่ยวกับงานด้านสินเชื่อด้วยครับผมกำลังต้องการข้อมูลเป็นอย่างมากครับผม รบกวนด้วยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B9346401/B9346401.html เดี๋ยวกระทู้ นี้ผมจะมาตอบนะครับผม ขอบคุณมากครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 08:12:05

ความคิดเห็นที่ 68   ผมเป็นคนต่างจังหวัด ผมเกิดและเติบโตในต่างจังหวัด ผมเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ ตอนเข้ามหาวิบยาลัย 4ปีในกรุงเทพ +อีก1ปี ที่ทำงานใน กทม  หลังจากนั้นผมก็ลาออก กลับไปอยู่จังหวัดบ้านเกิดของผม   สิ่งที่ผมชอบ กทม มากๆ คือ อาหาร ที่ กทม มีของอร่อยๆให้เลือกกินเยอะมากๆๆๆ มากกว่า จังหวัดของผมประมาณ1000เท่า   แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบ ใน กทม คือ การเดินทาง ไม่ชอบรถติด ผมบอกลา กทม ก็ด้วยเหตุผล รถติดเนี่ยแหละครับ จากคุณ : Cabriolet เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 08:26:13

ความคิดเห็นที่ 69   รู้แต่ว่า ฉันมาทำงานที่นี่  เพื่อ เก็บเงิน และ เก็บเงิน ... และยังหวัง  ว่าซักวันจะกลับไปใช้ชีวิต หมั่นปลายและตายที่บ้านเกิด... จากคุณ : วันฉันยังยิ้มได้ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 08:29:08

ความคิดเห็นที่ 70 ผมมองว่า มันมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันครับ ผมเคยมีความสุขสมัยเรียน ที่กรุงเทพ สนุกมาก ได้ความรู้และประสบการณ์มากมากครับ แต่ชีวิตวัยเรียนไม่ต้องรับผิดชอบเยอะเหมือนทำงาน ตอนทำงานถ้าหากต้องทำงานในกรุงเทพ คงต้องเจอกับความลำบากในการเดินทาง อย่างแน่นอน ทำให้มีทุกข์และเครียด นอกจากนี้ สำหรับคนต่างจังหวัดถ้าไปทำงานที่กทม เงินเก็บจะไปหมดกับค่าหอหมดครับ อันนี้ ผมสังเกตุเอาเองนะครับ ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำครับ แต่กรุงเทพก็เหมือนดินแดนแห่งโอกาส คุณมีโอกาสเติบโต ทำธุรกิจ ได้มากกว่าในระดับหนึ่งเพราะ Demand จากคน 10 ล้านคน และ connection มีค่อนข้างเยอะมากมากครับ สรุปคือ อยู่ที่คุณเลือกครับ ว่าคุณชอบชีวิตแบบไหนน่ะครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 08:43:19

ความคิดเห็นที่ 71 ขอร่วมแชร์อีกครั้งคะ ชอบกระทู้นี้มาก >>ได้มีโอกาสดูและคุณพ่อ จนถึงลมหายใจสุดท้าย หลังจากที่ป่วยมานาน3ปี และเป็น 1 ในลูก 3 คนของคุณพ่อที่ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ >>ได้มีโอกาสดูและคุณแม่ตั้งแต่อยู่ ICU >ผ่าตัด>จนออกจากโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้ เสียวสุดๆ เป็นตายเท่ากัน ทุกวันนี้ยังคิดว่าเหมือนตัวเองฝันไป ดีใจมากๆๆ ที่แม่รอดมาได้ สิ่งดีๆ หลายอย่างเกิดขึ้นกับชีวิต  นอกจากเงินเดิอนเหลือเยอะขึ้น เพราะไม่ต้องทิ้งไปกับค่าห้องแพงๆ และค่าโดยสารรถ หลายๆต่อ กว่าจะถึงที่ทำงาน มีโอกาสได้หัดขับรถ มีเงินเดือนเหลือพอที่จะผ่อนรถ  มีที่จอดที่สะดวกปลอดภัยไม่ต้องกลัวหาย (พี่ที่ทำงานด้วยกันซื้อรถมา2คันแล้ว ไม่เคยติดรีโมทกันขโมยเลย บอกมันไม่หายหรอก) ได้กินอาหารที่สดและใหม่ สะอาดปลอดสารพิษ เก็บตามสวนหลังบ้าน หรือแม้แต่ซื้อที่ตลาดก็เป็นผักที่แม่ค้าชาวบ้านปลูกกันเอง เลิกงาน ขับรถกลับบ้าน3นาทีถึง เปลี่ยนเสื้อผ้า ปั่นจักรยานไปออกกำลัง จ๊อกกิ้ง ได้สบาย (แตกต่างจากชีวิตในกรุงมากกกกก) มีเงินเหลือซื้อใช้เครื่องสำอางดีๆแพงๆ ถึงแม้จะไม่มีแหล่งให้ซื้อ ก็ฝากคนอื่นซื้อเอา อากาศเย็น ไม่มีเหงื่อ หน้าไม่มีสิว ใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไปเยี่ยมออฟฟิศเก่า มีแต่คนอิจฉา ไปทำอะไรมา หน้าใส มีรักแท้ ที่ได้เห็นหน้ากันทุกวัน  ไปรับกันไปไหนมาไหน สะดวก   มองเห็นโอกาสในการสละโสด เสียที จากคุณ : คาร่าลิลลี่ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:01:56

ความคิดเห็นที่ 72 ถ้าคน ตจว  มาอยู่ กทม  ส่วนใหญ่คงรูสึกอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นคน กทม ตั้งแต่เกิด ก็จะได้อีกแนวค่ะ.......... ทุกอย่างเกิดขึ้นจากตัวเราค่ะ..........เราเลือกทำในที่เราชอบได้    เราทำให้ตัวเราเองมีความสุขได้   ชีวิตเรามันไม่ยืนยาวค่ะ   อยากทำอะไรก็รีบทำ   เดี๋ยวจะเสียดายที่บ่ได้ทำนะ   อิอิ จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:07:10

ความคิดเห็นที่ 73 อยากอยู่ ตจว. บ้าง แต่ไม่มีที่ให้ไปอยู่  เราเกิดและโตกรุงเทพ ช่วงเทศกาล เพื่อนบอกกลับบ้าน ตจว.  เราเอง T_T ชั้นไม่มีบ้าน ตจว. ให้กลับบบบ  นั่งเหงาๆอยุ่กรุงเทพนี่แหละ เศร้าจัง จากคุณ : แก้มห้อย เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:21:11

ความคิดเห็นที่ 74 ผมเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เลยไม่มีบ้านที่ต่างจังหวัดให้กลับไปพักผ่อน ทุกวันนี้ก็ยอมรับว่า "ติดกับดักของสังคมเมือง" คือใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย แต่มันก็นำมาซึ่งความสุขแก่ตัวผมและภรรยา ซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริงหรือไม่นั้นผมเองก็ยังไม่ทราบ ถึงมีรายได้มาก แต่รายจ่ายกลับมากกว่า จนแทบไม่น่าเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่เงินเดือนหรือรายได้น้อยกว่าเราหลายเท่า เขาอยู่กันได้อย่างไร คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่สามารถออกไปจากกับดักนี้ เพราะยังไม่สามารถออกไปจากสังคมนี้ ในเวลานี้ได้ ความฝันของผมหลังเกษียณงาน คงเป็นการไปอยู่ต่างจังหวัดที่อากาศดี ๆ ผ่านชีวิตช่วงสุดท้ายด้วยหนังสือกองโต อยู่ห่างจากสังคมเมืองที่แสนวุ่นวายแห่งนี้ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:41:33

ความคิดเห็นที่ 75 อยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีครอบครัวที่อบอุ่น แค่นี้ก็สุขใจแล้ว จากคุณ : myiam เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 19:05:14

ความคิดเห็นที่ 76   เฮ่อ ทำไมพวกคนต่างจังหวัดทั้งหลายเค้าไม่ทำงานที่บ้านเกิดเค้านะ ทั้งๆที่มีโอกาสอะไรอักตั้งมากมายดีไม่ดีอาจเป็นเศรษฐีกว่ามาเป็นลูกจ้างเค้าในเมืองกรุง มาเรียนก็สูงไม่คิดจะใช้ความรู้ไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองเลยบเหรอ ไม่ต้องมาอ้างหรอกนะรัฐบาลไม่ทำ...มันขึ้นอยู่กับตัวเรานี่แหละว่าจะทำหรือเปล่า เหมือนในโฆษณาอ่ะ ไม่ใช่ไรหรอกเบื่อคนเยอะจะตายใน กทม แล้วก็แย่งมาเป็นลูกจ้างเค้าจังเลย ถ้าทุกคนกลับไปลงทุนพัฒนาบ้านตัวเองอีกหน่อยความเจริญมันก็ขยายตัวคุณภาพชีวิตคงดีขึ้นกว่านี้มาก ไม่เหมือนทุกวันนี้ เฮ่อ จากคุณ : แมว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:08:26 A:125.24.83.87 X: TicketID:261906

ความคิดเห็นที่ 77 ภูมิลำเนากรุงเทพ... เลือกเกิดไม่ได้ ชอบบางอย่าง ไม่ชอบบางอย่าง พอเข้าใจสาเหตุว่า หลาย ๆ คนมาอยู่กรุงเทพเพราะความจำเป็น มุ่งมั่นมาเก็บเงินกลับบ้านเกิด .. กรุงเทพเหมือนเมืองทางผ่าน มาแล้วก็ไป คนต่างถิ่นเลยไม่ค่อยใส่ใจดูแล ... ขยำขยี้ กรุงเทพให้หนำใจ ตอนนี้อยู่สมุทรปราการ คิดว่าอยู่ในระดับเข้า ICU มีแต่คนอพยพ และคนปากน้ำ ก็น้อยนิด ไม่มีแรงพอจะฟื้นฟูบ้านเกิดได้ .. เฮ้ออ .. สมุทรปราการ น่าสงสารกว่ากรุงเทพอีก คนต่างถิ่นมาอยู่ อยากทำอะไรก็ทำ เพราะถือว่าไม่ใช่บ้าน gu เฮ้ออออ .. จากคุณ : :: VamleS :: เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 03:53:52

ความคิดเห็นที่ 78 ความสุขอยู่ใจของเราเองครับ อยู่กรุงเทพฯอาจจะเหนื่อย อาจจะแออัด แต่ก็มีความสุขกับการเดินไปสู่จุดหมาย มีความสุขกับการทำสิ่งที่ลำบากเพื่อคนที่เรารัก สำหรับผมแล้ว  ความสุข และ โอกาส มีอยู่ทุกที่ครับ   จากคุณ : หมูอ้วนพุงดำ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:16:47

ความคิดเห็นที่ 79 โดนใจดีครับ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 10:28:32

ความคิดเห็นที่ 80 ผมรักที่จะอยู่ ตจว. แต่อยู่ ตจว. แล้วไม่มีงานทำ (ในสายงานที่มีความรู้) ในขณะที่ถ้าผมอยู่ กทม.นี่ น่าจะหางานทำได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นไป กทม.เสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมเลือกอยู่ ตจว. ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง และกำลังพยายามเริ่มชีวิตใหม่ที่นี่ครับ จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:07:35

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องแบบนี้มันวัดกันที่ใจค่ะ "ใจสุข" เสียอย่างเดียว จะอยู่ที่ไหน ทำอะไรก็ "สุข" ค่ะ จากคุณ : TalkingStone เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 10:42:05

ความคิดเห็นที่ 82 เกิดในกรุงเทพ โตมาในกรุงเทพค่ะ เคยไปใช้ชีวิตอยู่ มหาลัย ตจว สนุกมาก เหมือนเป็นกำไรชีวิต ได้เจอมิตรภาพดีๆ ได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่เรียนจบก็กลับมาอยู่ในกรุงเหมือนเดิม กิน ดื่ม เที่ยว หางาน พอเริ่มทำงาน เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกัน เริ่มหายไป ถูกความเป็นกรุงเทพฯ พรากจากไป ต่างคนต่างต้องดิ้นรนกับเรื่องของตัวเอง ดีที่พ่อแม่มีบ้านพักในตจว. ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อจากการทำงานต่อสู้ดิ้นรนในกรุงเทพฯจนกระทั่งเกษียณ พอหยุดยาวเราก็แวะไปเยี่ยมบ้าง เหลือเชื่อ ที่เวลา ณ ที่นั่นเหมือนความฝัน ไร้ซึ่งเสียงรบกวน จิตใจสงบ ไม่ต้องพะวงกับเรื่องใดๆ เลยได้พบกับคำตอบของตัวเอง ทุกวันนี้ ยังคงต้องจำใจอยู่ในกรุงต่อไป เพื่อสุดท้าย จะเก็บเงินได้ซักก้อน หลีกหนีชีวิตในกรุงอันแสนน่าเบื่อ ทั้งรถติด มลภาวะ ผู้คนเห็นแก่ตัว ความสุขจอมปลอม ไปอยู่กับพ่อแม่ ไปสร้างครอบครัวใหม่ที่นู่น สุดท้าย ก็ยังเป็นแค่ฝัน และต้องพยายามหาความสุข แบบชีวิตในเมือง ต่อไป หาของอร่อยๆกิน เดินซื้อของ ดูหนังกับแฟน เพื่อให้ลืมความเหน็ดเหนื่อย จากการต่อสู้ในกรุงแต่ละวันไปได้บ้าง และหวังว่า วันที่ความสุขจริงๆจะมาถึงคงมีซักวัน จากคุณ : KINO เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 11:58:42

ความคิดเห็นที่ 83 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:29:12

ความคิดเห็นที่ 84   ทำงาน 7 ปีพอๆกับดิฉันเลยค่ะ อายุยี่สิบปลายๆถึงสามสิบต้นๆป่ะคะ ดิฉันพบคำตอบแบบคุณ ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนแล้วค่ะ การทำงาน 3 ปีแรก ที่แสนสนุกสนานของเด็กบ้านนอกที่เพิ่งได้งานใหม่ๆ แต่พอหลังจากนั้นเราก็ถามตัวเองว่า มาทำงานที่นี่ทำไม อยากรวยเหรอ อยู่ไปก็ไม่เห็นรวย แล้วถ้าไม่อยากรวย อยากมีงาน เฮ้ย ที่บ้านเราก็มีนี่นา ถึงแม้รายได้มันจะน้อยกว่ากันหน่อย แต่ตัวงานก็สบาย งานห้าง งานโรงแรมก็มี หรือจะเปิดร้านกาแฟเล็กๆ รถที่บ้านเราก็มี ไม่ต้องโหนรถเมล์อย่างที่เป็นอยู่นี้ ให้แม่แวะไปส่งตอนเช้า ตอนเย็นให้พ่อแวะมารับ..ช่างเป็นชีวิต(ในฝัน)ที่มีความสุขจริงๆ คิดอยู่ตลอดเวลาว่าบ้านเรา พ่อแม่เรา ตัวตนของเรา เหล่านี้คือสมบัติล้ำค่า ที่เราทิ้งมาเพื่อแสวงหาลูกแก้วที่มองไกลๆมันดูวับวาวยามสะท้อนแสงไฟ แต่เมื่อได้มันมาแล้ว ถึงได้รู้ว่า มันไม่มีค่าอันใดเลย ดิฉันอยู่ที่นี่ ด้วยความที่มีหนี้สินล้นพ้น ก็เลยต้องทำงานใช้หนี้ ทั้งๆที่เงินเดือนก็ไม่มาก บ้านห่างจากกรุงเทพประมาณ 600 กว่ากิโล แต่ก็กลับบ้านทุกเดือน เงินจะหมดไปกับค่าเดินทางก็ช่างมัน ฉันคิดถึงแม่นี่นา ..ขอบคุณที่ให้พื้นที่ระบายนะคะ.. จากคุณ : บ้านนอกเกิลล์ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:53:20 A:58.8.127.242 X: TicketID:215804

ความคิดเห็นที่ 85 อยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะ กทม. หรือ ตจว. แต่ขอให้เป็นบ้านของเรา จากคุณ : devilmanb เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 17:55:15

ความคิดเห็นที่ 86   # 85 เห็นด้วยสุดๆค่า สิ่งที่ทำให้คนตจว.รู้สึกแย่...ไม่ใช่กรุงเทพค่ะ ที่แห่งนี้มีสิ่งที่ดีกว่าตจว.ทุกอย่าง แต่สิ่งที่กรุงเทพไม่มี คือพ่อกับแม่เราค่ะ ความหมายของบ้าน ไม่ใช่บ้านที่มุงหลังคา แต่หมายถึง ครอบครัวต่างหาก ที่เราต้องการ จากคุณ : บ้านนอกเกิลล์ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 18:41:02 A:58.8.127.242 X: TicketID:215804

ความคิดเห็นที่ 87 ชอบกระทู้นี้จังค่ะ อ่านคห.ของใครก็โดนทั้งนั้น เป็นคนกรุงเทพฯค่ะ  แต่อยากไปลองใช้ชีวิตที่ตจว.บ้าง จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 00:22:46

ความคิดเห็นที่ 88 เราเกิด กทม มีที่ดินอยุ่ต่างจังหวัด และเคยไปเรียนต่างจังหวัดห้าหกปี เรารู้สึกว่าเราอยากกลับมาอยู่ กทม มาก เพราะพ่อแม่เราอยู่ที่นี่ แล้วเรารู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านของเราอย่างแท้จริง แม้ว่าเรากำลังจะสร้างบ้านที่ต่างจังหวัด เราก็คงเก็บไว้พักผ่อนปีละครั้ง เราใช้ชีวิตอยู่ใน กทม อาจจะไม่เหมือนคนอื่น ทั้งๆที่ทำงานในย่านเอกมัย ทองหล่อ เลิกงาน 6 โมงเย็น เราก็กลับบ้านทันที คนส่วนใหญ่ต่างมุ่งเข้ามาที่นี่เพื่อดื่มและเที่ยว ผับแถวนี้เราก็ไม่เคยไป เพราะเราไม่ชอบใช้ชีวิตแบบนั้น ส่วนเราขอกลับบ้าน ไปอยู่กับแม่ และครอบครัว ทำอะไรกินกันวันหยุด แค่นี้เราก็มีความสุขมากมายในทุกๆวันค่ะ จากคุณ : QueenCat เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 00:33:19

ความคิดเห็นที่ 89   เราเป็นคนตจว. แต่ต้องเข้ากรุงเทพบ่อยๆเพราะเรื่องงาน บางทีไปทุกเดือน จากประสบการณ์การเป็นเด็กตจว.ตั้งแต่เกิดจนบัดนี้ เรากลับไม่เห็นว่าตจว.ต่างจากกรุงเทพตรงไหน อาจจะเพราะสังคมที่เราอยู่หรืออะไรก็มิอาจทราบได้ เราไม่ได้สัมผัสทุ่งนา ผืนหญ้า ต้นไม้ หรือธรรมชาติเสียเท่าไร เพราะเราเกิดในเมือง เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด บ้านอยู่ชานเมือง ชีวิตตอนเด็กมีแต่เกม คอมพิวเตอร์ หนังสือ ภาพยนตร์ และการ์ตูน เราเจอแต่ตึก ตึก แล้วก็ตึก เพราะโรงเรียนที่เราเรียนตั้งอยู่กลางเมือง มีตึกรายล้อม มหาวิทยาลัยที่เราเรียนถึงจะมีป่าแต่ก็เป็นป่ากลางตึก คือมีตึกมากกว่าป่า เราเจอรถติดตอนเช้า กลางวัน เย็น ถึงขนาดที่เคลื่อนตัวไม่ได้นานๆแบบกทม. เราเจอแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ร้านอาหารแพงๆแบบกทม. เราเจอสถานที่เที่ยวแบบกทม. ถึงเราจะไม่เจอร้านแบรนด์เนมหรูๆแบบที่อยู่ในพารากอน เกษร เซ็นทรัลเวิลด์ แต่สำหรับจังหวัดที่เราอยู่แค่นี้เราก็ว่ามันคล้ายกทม.เข้าไปทุกทีแล้ว จังหวัดของเราส่วนใหญ่มีแต่คนจังหวัดอื่นเข้ามาอาศัย แม้กระทั่งตอนเรียนมหาลัย สาขาเราหาคนจังหวัดเดียวกันน้อยมาก ส่วนใหญ่มาจากรอบข้างทั้งนั้น เวลาปีใหม่หรือหยุดยาวถนนจะโล่งเพราะคนกลับบ้านกัน คนจังหวัดเราส่วนใหญ่แล้วหาได้ที่กทม. เวลาอยู่บ้านแม่ก็ไปทำงาน พ่ออยู่ต่างประเทศ เราอยู่กับพี่เลี้ยง พอเราโต พี่เลี้ยงก็ย้ายออกไปเหลือเราคนเดียว เรียนมหาลัยเราก็อยู่หอ เราเลยไม่ค่อยมีฟีลที่จะเกิดอารมณ์โฮมซิกแบบใครเขาเท่าไร พอเราเข้าไปติดต่องานที่กทม. เจอรถติด(แบบที่บ้าน) เจอฝุ่นควัน(แบบที่บ้าน) เจอคนที่ไม่รู้จัก(แบบที่บ้าน) เราเลยเฉยชาไป จังหวัดเราค่าครองชีพก็ค่อนข้างสูงเหมือนกันนะ อย่างร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยบ้านเราเช่าตึกแถวคูหาเดียวเดือนละหมื่นสอง กินข้าวจานนึงก็หลายบาท ร้านอาหาร/คาเฟ่มีเยอะพอสมควร  เวลาจะไปหาทำเลร้านขายของที่เช่าก็แพงมหาโหด(เคยเจอกับตัว) เสื้อตัวนึงก็หลายบาท หาตัวละ 199 ยากกว่ากทม.อีก โดนอัพราคาค่าขนส่ง ตัวละ199บ้านเราซื้อที่กทม.ไม่เกิน69 แต่สิ่งหนึ่งที่กทม.และตจว.ต่างกันมากๆในสายตาเราคือที่กทม.เดินเยอะมาก จากที่นึงไปที่นึงแทบขาลาก ข้ามสะพานลอยทีเหงื่อตก  อยู่กทม.เราเดินได้เป็นกิโล แต่อยู่บ้านตัวเองหรือสามร้อยเมตรยังไม่อยากเดิน สรุปแล้วเราว่าอยู่ที่ไหนก็สุขใจล่ะค่ะถ้าใจเราเป็นสุข จากคุณ : มะม๊าหนูชเว เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 05:21:30

ความคิดเห็นที่ 90 ถ้าคุณคิดว่าเมืองหลวงมันแย่ขนาดนั้น คุณเข้ามาทำไม? ถ้าคุณชอบบ่นว่า "เบื่อทุนนิยม" คุณเข้ามาหางานทำในกรุงเทพทำไม? ถ้าคุณบอกว่า คนกรุงเทพไร้น้่ำใจ คุณเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพทำไม? อันนี้ขออนุญาตหงุดหงิดนิดนึง ในฐานะคนโคราช แต่มาอยู่กรุงเทพตั้งแต่เล็กๆ และเบื่อกับคนประเภทที่ชอบบ่นว่ากรุงเทพไม่ดีงู้นงี้มาก มันทำให้ผมสงสัยว่า แล้วต่างจังหวัดมันดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ? แสงสีไม่มี อินเตอร์เน็ตไม่ถึง ฯลฯ จริงๆผมไม่ได้อยากว่าอะไร แต่จะบอกว่ามันก็มีดีต่างกัน ช่วยกรุณาอย่าบอกเลยว่า กรุงเทพไม่ดี ต่างจังหวัดดีกว่า กรุงเทพยังมีมุมดีๆอีกเยอะ ที่คุณอาจจะยังไม่เจอ และผมก็ไม่รู้ว่าทืำไมคุณไม่เจอ ในขณะที่ผมเจอประจำ คุณคาดหวังอะไรจากกรุงเทพกันแน่? กรุงเทพมันก็เป็นเมืองๆหนึ่ง มีคนดี คนไม่ดีปะปนกันไป มันอาจจะต่างที่สภาพแวดล้อม กรุงเทพมีตึกสูงเยอะกว่าต่างจังหวัด อันนี้แน่นอน กรุงเทพมีคนที่ใช้ไลฟ์สไตล์ต่างกับต่างจังหวัด อันนี้ก็แน่นอนอยู่แล้ว กรุงเทพเดินทางไกลๆได้เพราะมีระบบขนส่งที่สะดวกกว่าต่างจังหวัด (ที่ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็ลำบากกันนิดนึง) อาหารการกินกรุงเทพแพงกว่า ถูกต้องครับตามหลักเศรษฐศาสตร์ คุณภาพชีวิตดีกว่า ราคาก็แพงกว่า แต่ผมไม่เห็นว่าอาหารต่างประเทศมันจะอร่อยน้อยกว่าขนมจีนคุณตรงไหน ส่วนตัวผมไม่ชอบขนมจีน เพราะกินแล้วมันแสบลิ้น มันเป็นแกงๆ เส้นๆ นิ่มๆ เผ็ดๆ ที่ไม่ถูกปากผม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้รักเมืองไทย ไม่ใช่ว่าฝักใฝ่แต่ของนอก ถ้าคุณชอบต่างจังหวัด คุณก็ควรอยู่ต่างจังหวัดครับ จะปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงไก่ อะไรก็ตามเรื่องของคุณ อยู่อย่างพอเพียงตามหลักของพระเจ้าอยู่หัวเรา อันนั้นก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าคุณอยากจะมาใช้ชีวิตเมืองกรุง คุณก็ต้องยอมรับวิถีชีวิตที่มันแตกต่างให้ได้ครับ กรุงเทพไม่มีที่ปลูกผักเลี้ยงไก่เท่าต่างจังหวัดแน่ แต่มีสาธารณูปโภคสะดวกสบายกว่า ลองมองจุดนี้บ้างสิครับ มันไม่มีความผิดหรือถูกหรอกว่าที่ไหนดีกว่ากัน แต่ผมอยากให้คนที่บ่นๆกันน่ะช่วยปรับสภาพตัวเองนิดนึง เช่นเดียวกันเวลาผมไปต่างจังหวัด (บ้านพ่อแม่ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ) ผมก็ปรับตัวเข้ากับวิถีของต่างจังหวัดได้เหมือนกัน ไม่มีเน็ตใช้ จะเดินทางไปไหนต้องขับรถไปเองอย่างเดียว สมัยเด็กๆผมก็งอแงนะ แต่พอโตขึ้นก็รู้ว่ามันต้องปรับตัว ปล. ย้ำอีกครั้งครับ คนกรุงเทพดีๆมีอยู่มากมาย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองเห็นความดีในเปลือกหรูๆของคนกรุงรึเปล่าเท่านั้นเอง จากคุณ : CARAGIO เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 10:56:55

ความคิดเห็นที่ 91   กระทู้โดนใจเรามากเลย เราได้ก้าวผ่านจุดนี้มาแล้วชีวิตเราก็เหมือนกับหลายคนคือ เข้ามาเรียนมหาลัยที่ กทม. และทำงานที่ กทม. มาประมาณ 5 ปี แล้วเมื่อเข้าปีที่ 5 ในการทำงานเราเริ่มถามตัวเองว่าเราต้องการชีวิตแบบนี้หรอ คือ ทำงานกลับห้องมาไม่เจอใครเพราะมาอยู่คนเดียว เงินเดือนได้ไม่น้อยแต่ไม่ค่อยจะพอเก็บเพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย หลังจากที่คิดอยู่นานเราจึงตัดสินใจกลับไปทำงานที่ต่างจังหวัดถึงแม้เงินเดือนจะน้อยกว่าแต่เรามีเงินเหลือเก็บ แต่ต้องปรับวิถีชีวิตพอสมควร เพราะไม่มีโรงหนังหรือห้างให้เดินซื้อของ แต่เราว่ามันก็พอเพียงดี เราว่าขึ้นอยู่ความพอใจของแต่ละคนว่าชอบชีวิตแบบไหน ขอให้คนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ตัดสินใจได้โดยไว จากคุณ : Women in black (Women in black) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 12:17:26

ความคิดเห็นที่ 92 เรามาเรียนในกทม ยังไม่ถึงปี อยากกลับไปอยู่บ้านจะแย่แล้วค่ะ ตอนนี้ก็รอแค่ ทางธนาคารเรียกตัว กะเรียนอีกเดือนกว่าๆ   กรุงเทพฯไม่ใช่คำตอบของเรา  เรารักทุ่งนาเขียวๆ ที่บ้านยาย แต่ในขณะเดียวกันก็ัยังติดเฟซบุคอยู่ ฮ่าๆๆ จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 15:26:37

ความคิดเห็นที่ 93 พูดอีก ก็ถูกอีก ปัจจุบัน ก็รีบทำงานเก็บเงิน เพื่อที่จะกลับไปอยู่้บ้านนอกเช่นกัน แต่ตอนนี้ เงินเดือนมันน้อย จะย้ายงานก็ต้องคิดหนัก ใครจะจ้าง พนง.แก่ๆ ซึ่งความรู้ความสามารถ ก็ไม่ต่างกับคนอื่นมากนัก ไม่มีที่ใหนสุขใจเท่าบ้านเราแล้ว จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 15:55:59

ความคิดเห็นที่ 94 เกิดโต กทม เรียนเป็นเด็ก Top school มาแต่ประถม มัธยม มหาลัย จนทำงาน แค่ปีแรก ข้ามฟากไปทั่วโลก Global เคยทำงานต่างจังหวัด ต้องมีรถ ไม่ชอบ กลับมากทม ตั้งหลัก เปิดกิจการเองตอนอายุ 29 จนวันนี้ปีที่3 ลาออกจากเก้าอี้ไดเร็กเตอร์ บริษัทข้ามชาติ เพื่อเตรียมพร้อมมีครอบครัว แต่ไม่มีโชคด้านคู่ชีวิต การอยู่กทม ให้มีชีวิตเหมือนไฮโซ คือ การมีสิทธิ์เลือกช่วงเวลา ทุกวันนี้ ตื่นเที่ยง นอนตีสาม ทำงานเวลาบ่ายจนหัวค่ำ สีทุ่ม เดินทาง รถเมล์ เลี่ยงเวลาจราจร ที่ติดขัด การทำเงิน ไม่ไปหาลูกค้า ไม่มีค่า Transportation การออกกำลังกาย ไปสวนสาธารณะ 5 ปีที่ผ่านมา เคยเป็น member sport club 5 ดาว 2 ปีเรียนรู้เทคนิคการดูแล จัดระเบียบร่างกาย จนวันนี้ 10 ปีแล้วที่เรามีวินัยดีเยี่ยมในการดูแลสุขภาพ อนาคต เป้าหมาย mission คือย้ายไปต่อยอดใช้ชีวิตในยุโรป แบบแต่งงานมี คู่ชีวิต ที่ไม่เอาเปรียบ ไม่คิดใช้เราเป็นตัวทำเงิน หลังจากเคยแล่นไปทำงานมา หลายทวีป แบบโดดเดี่ยว ไปสุดขอบโลกไม่เห็นเจออะไร ด้วยความที่เกิด เติบโต เป็น Metropolis girl ไม่ว่า Bangkok Beijing Berlin  เรารู้วิธีที่จะใช้ชีวิตได้ถูก ประหยัด แบบ5ดาว ในกทม. รู้แหล่ง รู้การเดินทางที่ save cost แต่ได้บรรยากาศแบบไฮโซ เรื่องทำของถูกให้แพง ทำของต้นทุนให้ต่ำ ขายตลาดpremium ไฮโซ คือ สิ่งที่ถูกฝังชิปไว้ในหัว ช่วงเวลาลูกจ้าง 7 ปีที่ผ่านมา ก่อนก้าวมาเป็นเจ้าของกิจการที่มีดาบเจ๋งๆ ในเรื่อง ที่ดิน ทรัพย์สิน asset และก็จะขายใคร ต้องทำไงถึงขายได้ กทม. เป็น layers ซับซ้อนที่ต้องเรียนรู้ เตรียมตัว ก่อนไปล้วงลึก ไปอย่างไม่มีการวางแผน หาข้อมูล ถูกฟันกระจาย ไปอย่างรู้เขารู้เรา มี connections คนรู้จักยิ่งระดับบนมาก ยิ่งถือไพ่เหนือกว่า คู่แข่งอีกหลายขุม ทั้งในการใช้ชีวิต เดินทาง และการทำธุรกิจ . . . จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 17:00:25

ความคิดเห็นที่ 95 ชอบทุกความคิดเห็นเลยครับ จากคุณ : kubkamsoda2 เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 21:37:12

ความคิดเห็นที่ 96   เราว่าประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่ากรุงเทพหรือต่างจังหวัดดีกว่ากันหรอกค่ะ แต่มันอยู่ที่ว่าที่ไหนที่เราอยู่แล้วรู้สึกว่ามันเป็น "บ้าน" มากกว่า ก็อย่างที่เขาบอกเอาไว้ไงคะว่า "ไม่มีที่ไหนจะสุขใจเท่าบ้านเรา" จากคุณ : aaaaaa เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 03:06:27 A:180.183.55.58 X: TicketID:257448

ความคิดเห็นที่ 97 สงสัยทำงานกันหนักจัด เริ่มเพ้อละเมอละ..  ไปเที่ยวบ้างจะได้ดีขึ้น จากคุณ : Akeno เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 10:07:34

ความคิดเห็นที่ 98   ความสุขและโอกาส หาได้ในทุกที่ ที่คุณเลือกจะอยู่ หรือ เป็น มันขึ้นอยู่กับตัวคุณ ว่าคุณจะกำหนดไลฟสไตล์แบบไหน มันขึ้นอยู่กับว่า คุณมีความกล้าพอหรือเปล่า ที่จะทำในสิ่งที่คุณอยากทำ และแหกกรอบออกจากสิ่งแวดล้อม หรือ ตัวปัญหา ที่กำหนดให้คุณเผชิญกับความทุกข์อันเกิดจากสถานที่ที่คุณดำรงอยู่ ณ ตอนนั้น ทั้ง กทม ต่างจังหวัด ต่างประเทศ แบบในเมือง ต่างประเทศแบบนอกเมือง เราผ่านมาหมดแล้ว ทุกที่มีข้อดี ข้อเสีย ของตัวเอง มันขึ้นอยู่กับ ว่าคุณจะปรับตัวยังไง เราไม่ชอบทำงานประจำ เราก็ออกจากงานประจำ เราเบื่อกทม เบื่อประเทศไทย ไม่ชอบอยู่กับที่ซ้ำซาก เราก็หาเรื่องที่ต้องทำงานไปๆ มาๆ ระหว่างประเทศ ยากหน่อย พูดภาษาไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง แต่ก็จะไป เพราะเดี๋ยวจะเก่งเอง เราก็มีความสุขดี กับสิ่งที่เราเลือกจะทำ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม จากคุณ : Meiko (Meiko Miyasawa) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 13:11:58

ความคิดเห็นที่ 99 เรากะมาอยู่ไม่นานค่ะ มาเก็บเงินกลับบ้านล้วนๆ เพราะแถวบ้าน หามาหลายที่แล้ว แต่หาเงินเดือนขนาดนี้ไม่ได้ ต่อให้หักค่าหอ น้ำ ไฟ ค่ากินแล้ว ยังจะเหลือมากกว่าเทียบกับงานแภวบ้าน 10k ถ้าไม่มาทำงานที่นี่ เราก็คงไม่มีเงินส่งให้แม่แบบนี้ ไม่มีเงินเก็บที่ตั้งใจไว้ว่าจะเอาไว้ปรังปรุงบ้านพ่อแม่ ที่ตจว แบบนี้ (ไม่ใช่ว่าเรทเงินเดือนที่จังหวัดเรามันต่ำอะไรมากมายหรอก แต่รีไควร์เมนท์มันต่างกัน งานแถวบ้านเค้าใช้ศักยภาพเราแค่นั้น เค้าก็เลยให้เราได้แค่นั้น อันนั้นเราก็เข้าใจ) ถ้ามันต่างกันไม่มาก ประมาณว่าหักค่าหอ ค่ากินแล้วก็เหลือพอๆ กัน เราไม่มีทางมาแน่นอน ... คิดถึงอากาศดีๆ เมื่อก่อนใครๆ บอกว่าจังหวัดเราอากาศดี เราเถียงประจำ เพราะเราเคยคิดว่ามันก็ร้อน แดดแรง เหมือนกันนั่นแหละ ตอนนี้รู้แล้วว่า มันไม่เหมือนกัน .. สมัยอยู่บ้าน ร้อน ก็ร้อนไม่เหมือนกัน พระอาทิตย์ .. อย่างกะเป็นคนละดวงกันเลย ความบริสุทธิ์ของอากาศ ก็ไม่เหมือนกัน บางวันเราหายใจแทบไม่ออก กับฝุ่นควัน จากคนไม่ได้เป็นหวัดมากี่ปีนานจนจำไม่ได้ ก็เริ่มเจ็บๆ คอแล้วด้วย ยังไงก็กลับแน่นอน ไม่หัวหน้าไล่ออก ก็ลาออกเอง อยู่ที่ว่าเหตุการณ์ไหนจะเกิดขึ้นก่อน จากคุณ : สาวแว่นเลี้ยวซ้าย เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 13:25:11

ความคิดเห็นที่ 100 เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับบ้านเกิดตัวเอง บางคนชอบความสะดวกสบายในเมืองใหญ่ บางคนชอบความเรียบง่าย สบายๆ ไม่ต้องแก่งแย่ง ส่วนตัว คิดว่าคำตอบของชีวิตไม่ได้ขึ้นกับว่าเราจะอยู่ที่ไหน แต่ขึ้นกับว่าใครคือคนที่เราอยู่ด้วยต่างหาก การที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก ที่ไหน ยังไง ก็เป็นสุข จากคุณ : หลักสาม เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 16:32:49

ความคิดเห็นที่ 101 อยู่บ้านนอกค่ะ ตั้งแต่เกิดจนเรียนจบเราคิดอย่างเดียวว่าจะทำงานที่บ้านเกิดอยู่ใกล้พ่อใกล้แม่ ตอนที่เริ่มงานใหม่เขาให้ไปฝึกงานที่กทม. 1 เดือน เราเหมือนจะตายให้ได้ (ทั้งที่มีบ้านปู่ย่าอยู่กรุงเทพฯใช้ชีวิตออกจะสบาย) แต่เรารู้สึกว่าอากาศเป็นพิษชีวิตเร่งรีบ อึดอัด อยากกลับบ้าน โทรหาแม่ทุกวัน เราเป็นขนาดนั้นเลย เรารู้สึกว่าเมืองหลวงมันไม่ใช่ที่ของเรา พอได้กลับมาบ้านในเดือนถัดไป มันมีความสุขมากกกT^T ทุกวันนี้เรานั่งมองเพื่อนที่ไปทำงานเมืองกรุง นานๆกลับมาบ้านและแวะเวียนมาเยี่ยมกันบ้าง โอเคว่าพวกมันดูไฮโซมีชีวิตที่หรูหราขึ้น แต่เราไม่รู้สึกอิจฉาเลยนะ เพื่อนบางคนบอกรู้สึกมีความสุขกับชีวิตในเมืองหลวง กุปรับตัวได้ ชีวิตที่มีแสงสี เมืองที่มีแต่แสงไฟ กับห้างร้านขนาดใหญ่ เพื่อนกลุ่มเหล่านั้น เขาคงไม่อยากกลับมามีชีวิตบ้านนอกเหมือนเดิมแล้วล่ะ แต่อีกกลุ่มหนึ่งก็มีความใฝ่ฝันคล้ายจขกท.คือ หลัวว่าวันหนึ่งจะกลับมาอยู่บ้านนอก ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่เร่งรีบเหมือนที่เคยเติบโตมา เรามีหน่วยงานใหญ่ที่กทม. ทุกครั้งที่มีการติดต่องานกันเขาก็จะบ่นว่า ทำไมคนที่นี่ทำงานกันช้าจัง - -" เราก็เข้าใจว่าคนในเมืองหลวงทำอะไรมันก็ต้องปุปปัปๆรวดเร็วแข่งกับเวลาไปหมด แต่คนบ้านนอกอย่างเรา มีชีวิตช้าๆเรียบง่ายไม่ต้องแข่งกับใคร มันเลยติดนิสัยเฉื่ยๆไปนิดนึง ^ ^ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 00:34:40

ความคิดเห็นที่ 102 ส่วนผมเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด เกิด โตและเรียนจบที่กทม. ทำงานครั้งแรกก็ที่กทม. แต่พอได้ย้ายไปทำงานตจว. เหมือนว่ามันจะเหมาะกับการใช้ชิวิตของผม หลายๆอย่าง เช่น กทม.ต้องตื่นแต่เช้าฝ่ารถติดไปทำงาน ตจว.มีเวลานานอีก1-2 ชั่วโมงเพราะรถไม่ติดเดินทางไม่เกิน15นาที กทม.ธรรมชาติ ป่า เขา ทะเล น้ำตก ไม่มีให้ไปพักผ่อน ตจว.มีธรรมชาติ ป่าเขา น้ำตก ให้พักผ่อนทุกวัน กทม.ค่าครองชีพสูง อาหารการกินราคาแพง ตจว. ค่าครองชีพต่ำ อาหารการกินราคาถูก และอื่นๆอีกมากมาย อนาคตเป็นไปได้อยากจะไปใช้ชิวิตทำงานอยู่แถวเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ น่าน เชีนงราย แพร่ คงจะมีความสุขไม่น้อย จากคุณ : kwang2517 เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 02:43:21

ความคิดเห็นที่ 103 ผมว่า การได้เกิดและ โตที่ ตจว. มีข้อดีหลายอย่าง ได้อยู่กับธรรมชาติบ้าง  อากาศบริสุทธิ์ มีสังคมอีกแบบ และการที่พอโตขึ้นมาอีกหน่อย ก็เข้ากรุงเทพ หรือ อาจจะเป็นเมืองใหญ่ๆที่เจริญ เกือบเท่ากรุงเทพ ก็มีเยอะ เช่น เชียงใหม่  ขอนแก่น  โคราช  อุบล ระยอง  ซึ่ง ก็ทำให้ชีวิต  ได้มีการผจญภัย ได้ดิ้นรน  ได้เห็นความแตกต่าง ได้เรียนรู้  ไม่ให้เราเห็นโลกแต่ด้านเดียว   ตอนผมเข้ามากรุงเทพใหม่ๆ ตอน ป.4  ผมเดินทางโดยรถไฟ  คนเดียวบ่อยๆ ฟังเพลง  พี่ปู พงษ์สิทธิ์  ได้ฟิวส์มากเลย " นักแสวงหา " พอมาถึงหัวลำโพง ไม่ชอบเลย  ดูมันไม่ค่อยสะอาด ดูไม่งามตาเลย ผิดกับเดี๋ยวนี้ดูดีขึ้นเยอะ เสียง รถไฟกับเสียงใจ  ที่สั่นตามเสียงงงง โคนนนน เต็มคัน เต็มตู้ รถถถถไฟรวมทั้งเขา แสวงหา หนทางอยากไป ๆ ๆ ให้ถึง เผชิญโชค  ผจญภัย ตามทางรถไฟไปส่ง.... จากคุณ : เจมส์แบน คังคังโป้ย เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 12:02:38

ความคิดเห็นที่ 104 เป็นคนตจว เกิด และ โต ที่นี่ ใช้ชีวิตในกทมแค่ 4 ปี ช่วงเรียน ป.ตรี นี่แหละ เพื่อนอยู่กทมหมด (ไม่สนิทกะเพื่อนที่ตจวเลย อย่างแรง) ตอนเรียนอยู่กทม อยู่คอนโด ข้างห้องชื่ออะไรยังไม่รู้เลย เจอหน้ากันก็ได้แค่ยิ้มทักทาย อยู่ตจว รู้จักกันตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย อาจจะมีนินทากันได้บ้าง (ก็นะรู้จักกันมาซะขนาดนี้ ก็อย่าไปใส่ใจ) เรื่องค่าครองชีพ แน่นอนว่าถูกกว่าเยอะ จ่ายน้อยกว่า อิ่มเท่ากัน เรื่องการเดินทาง เราเกลียดรถเมล์ตจวที่สุด รถเมล์หวานเย็นมากมาย ควายยังวิ่งเร็วกว่า -*- แปลว่าถ้ารักจะอยู่ตจว ต้องขับรถเป็น และมีรถ ไปไหนมาไหนจะได้สะดวก รถเมล์วิ่งช้าแถมแพงอีกต่างหาก เข้าใจแล้วว่าทำไมรถเครื่อง(มอไซด์) ถึงขายดี เรื่องครอบครัว แน่นอนว่าตื่นมาได้เจอหน้าพ่อแม่ทุกวัน อันนี้แหละ เหตุผลสำคัญที่สุด ที่อยากกลับบ้าน ตื่นมาตอนเช้า พ่อแม่ลูกออกไปปั่นจักรยานออกกำลังกายด้วยกัน มีตังค์ก็ซื้อไม่ได้ คือเรารู้สึกว่า เราจะมีชีวิตอยู่บนนี้ได้กี่ปี แล้วพ่อแม่เราจะอยู่ได้กี่ปี เวลา่ช่วงนี้มันหาซื้อไม่ได้ เราอยากอยู่กะพ่อแม่อ่ะ เป็นลูกแหง่ก็ใช่แหละ เรื่องเทคโนโลยี เราว่า สมัยนี้มันไม่ต่างกันแล้ว เรายังเคยซื้ออุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์จากอะเมซอน ส่งเร็วกว่า สั่งของจากกทมซะอีก บัตรยังไม่ทันตัดเลย ของได้แล้ว อันนี้ประทับใจสุด ส่วนอินเตอร์เน็ต ถ้าไม่อยู่ในหมู่บ้านห่างไกลจนเกินไป เน็ตความเร็วสูง ก็มีให้ใช้เหมือนในกทมทุกประการ เรื่องสั่งของอะไรที่ต้องใช้เกี่ยวกับร้าน เราใช้วิธีโทรสั่ง มันจะมีขนส่งเอกชนมาส่ง วันรุ่งขึ้นก็ได้ของแล้วค่ะ สะดวกมาก ไม่ต้องไปเดินทางซื้อและแบกมาเอง กทมนี่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับเรา 3-4 เดือน ก็ไปที ไปอัพเดทแฟชั่น ฮ่าๆ และหาของกินอร่อยๆ อยู่บ้านก็คุมอาหารเหมือนเดิม จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 14:46:12

ความคิดเห็นที่ 105 คนเรามีหลากหลายเหตุและผลในตัวของมัน และการตัดสินใจ ดังนั้น จากคำตอบที่อ่านมาทั้งหมดร้อยกว่าคำตอบ สะท้อน ให้เห็นความเคยชินในการใช้ชีวิตของคนในแต่ละสังคม คนเมืองคุ้นชินกับการอยู่ในเมือง คนต่างจังหวัดที่คุ้นชินกับในเมืองก็เยอะ คนต่างจังหวัดที่ยังไม่ชินก็ไม่ใช่น้อยๆ ปรับเปลี่ยนจุดง่ายๆ ที่ตัวเราเอง เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ดีกว่าครับ ... ----- ตอนนี้ผมก็กลายเป็นคน 3 บ้าน พื้นฐานรูปแบบการใช้ชีวิต ค่อนข้างต่างกัน ซื้อบ้านอยู่กรุงเทพ ติดรูปแบบการใช้ชีวิต ความสะดวกสบายที่มี ขอดีราคาถูกก็มีเยอะแยะ ไปต่างจังหวัดบ้านแม่อยู่เกาะ ค่าครองชีพไม่ได้ต่างจากกรุงเทพเลย แต่คุณภาพที่ได้รับนั้นค่อนข้างต่างกันชัดเจน ไปอยู่บ้านพ่อตาอีสาน ทำนา ในอำเภอเล็กๆ ของ โคราช สังคมแบบพออยู่พอกิน พึ่งพาอาศัยกัน ... ----- ทั้งนี้ เรานำพาตนเองไปอยู่ในจุดที่รักษาความสมดุลให้เราได้ หรือไม่เราก็สร้างสมดุลให้ตัวเองไปเลยสิ้นเรื่อง แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 14:50:36 จากคุณ : ensim เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 14:49:49

ความคิดเห็นที่ 106 ผมเลือกที่จะทิ้งเงินหลายหมื่นบาทต่อเดือนในต่างประเทศ ขอกลับไปรับเงินเดือนแค่สองหมื่นบ้านเราแล้ว ผมทนความเหงาของต่างประเทศไม่ไหว มีเงินมากมายแต่ชิวิตไม่มีความสุขจะมีประโยช์นอะไร จากคุณ : wutt1980 เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 16:48:32

ความคิดเห็นที่ 107 วันนี้กลับบ้านไปพร้อมกับความเครียดบนสีหน้า เพราะผมพึ่งย้ายงานใหม่ แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิด คำนึงที่แม่บอก ลูกไม่จำเป็นต้องเครียดขนาดนั้น ถ้าเหนื่อยนักก็กลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน ถึงไม่ทำงานทั้งชีวิตก็มีกินไม่ลำบาก (แต่ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก) ก่อนขับรถออกมาจากที่บ้าน มีกับข้าวที่แม่บอกเอากลับไปกิน แม่ทำไว้ให้ เพราะรู้ว่าเราจะกลับบ้าน และมันมากพอจะกินไปอีกหลายวัน และแม่ก็ไม่ได้กินเลย เพราะวันนี้แม่กินมังฯ (แม่ผมเค้าบ้าภพ/ชาติ/กรรม -*- จะมีบางวันที่ไม่ทานเนื้อ) ถึงเงินเดือนผมสูงพอที่จะมีปัญญาทานอาหารมื้อละ 1-2 พัน แต่มันสู้อาหารฝีมือแม่ที่ตั้งใจทำให้เราเอากลับมากินไม่ได้เลย เล่นซะพุงกาง >_<~~ จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 21:30:09

ความคิดเห็นที่ 108 ผมก็เป็นคนกรุงเทพโดยกำหนดเหมือนกันครับ เกิด เรียน ที่นี่เกือบตลอด จนจบ ป.ตรีื เคยทำงานกรุงเทพ 10ปี แต่ตอนนี้ทำงานต่างจังหวัด   เงินเดือนน้อยกว่าเพื่อนที่อยู่ตำแหน่งเดียวกันที่ กรุงเทพ นิดหน่อย    แต่ผมมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเขามากๆๆๆๆๆๆ มองหาที่ีแถวต่างจังหวัดไว้พักผ่อนแล้วครับ จากคุณ : Lumpu เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 22:24:19

ความคิดเห็นที่ 109 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 22:26:30 จากคุณ : Lumpu เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 22:24:38