ความคิดเห็นที่ 1 อ่านดูแล้ว จขกท.ดูมีประสบการณ์งานนอกมาบ้างแล้ว และพอจะรู้ทางหนีทีไล่ดี อีกอย่างงานประจำตอนนี้ก็ไม่ค่อยรักเท่าไหร่ ถ้าผมเป็นจขกท. ผมก็ออกนะ มาทุ่มให้กับงานของเราเองเต็มร้อยดีกว่า.. .. ประสิทธิภาพน่าจะได้เต็มที่.. .. ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคับ เอาใจชวย.. (ผมเองลาออกจากงานแบงค์แล้ว. รู้สึกดีใจมาก ที่มาทำส่วนตัวของตัวเอง) จากคุณ : ออมสินสิ้นรัก เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:13:52

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคิดว่าไปไม่รอดก็ไม่รอดครับ ทุกอย่างอยู่ที่ใจคุณก่อนเลยครับ จากคุณ : kate@kai เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:20:50

ความคิดเห็นที่ 3 อย่ากลัวความไม่มั่นคงหลังออกจากงานประจำครับ เพราะงานประจำมันก็ไม่ได้การันตีความมั่นคงให้กับคุณ ออกมาเลย ถึงเวลาที่คุณต้องก้าวขึ้นอีกขั้นแล้ว อย่ามัวแต่กลัวครับ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:21:02

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านมาขนาดนี้ คงต้องเชียร์ให้ออกค่ะ ไม่มีใจรักในการทำงานเลยนี่ค่ะ แต่ท่าทางมั่นใจ เทใจให้กะงานนอก คงประสบความสำเร็จน่ะค่ะ ขอให้โชคดี จากคุณ : ป้าบางแค (ป้าบางแค) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:50:47

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นผมๆก็ออกนะครับ ก็ถ้ามีลู่ทางผมก็ออกเหมือนกัน มาทุ่มให้กับอะไรที่เราถนัดดีกว่า ขายเวลาเราให้คนอื่น ประโยชน์ตกมาที่เราน้อยนิด สู้เอามาทำให้ตัวเราเองดีกว่า แและจากที่ฟังมานะครับ พี่ก็มีประสบการณ์ในงานนอกมาแล้วด้วย และกำลังจะไปได้ดีด้วย ก็เอาใจช่วยครับ ผมเองก็ยังอยากออกใจจะขาด ถ้าไม่ติดว่าออกมาไม่มีอะไรทำนะ อิอิ จากคุณ : OP awtn (op-awtn) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 18:35:07

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ต้องทำตัวแย่ๆก็ได้มั้ง ถ้าใจคุณไม่รักถึงขั้นนายไม่ปลื้มอย่างที่เล่ามาจริงๆ เดี๋ยวเขาก็คงทำอย่างที่คุณหวังเองแหละ ส่วนคำตอบ ออกมาดีแล้ว รู้สึกว่าเอาเปรียบบริษัทน่ะ ออกมาจะได้มีที่ว่างให้คนตกงานเพ่ิมอีกที่ จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 18:47:37

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเรามั่นใจว่า ณ.ชั่วโมงนี้ว่าเราสามารถเอาตัวรอดและเติบใหญ่ได้ก็สนับสนุนครับ และอยากให้ลาออกมาทำธุรกิจของเราเมื่อเราพร้อมจริงๆมากกว่าเบื่ออะไรสักอย่างหรือหนีอะไรสักอย่าง แล้วออกมาทำครับ เมื่อขณะที่ผมคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วและลาออกจากงานมาทำธุรกิจ มีทั้งประสบการ์ณ,เงินทุน,ความรู้ ยังเอาตัวเกือบไม่รอด เพราะ มันจะยากกว่าที่คิดเสมอ มันจะใช้เวลาและเงินมากกว่าที่คิดเสมอ และมันจะไม่เป็นอย่างที่คิดเสมอ ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้จริงๆครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 18:49:05

ความคิดเห็นที่ 8 จากที่อ่านดู จขกท  เอางานมาไว้ที่ตัวเองทั้งหมด ทั้งงานประจำและงานนอก  ทำให้เครียดและท้อว่างานหนัก เลยเบื่องานประจำ  จะออกมาทำงานนอกอย่างเดียวก็ไม่มั่นใจ  ขอแนะนำว่างานนอกที่บอกว่าจ้างเพื่อนทำผมว่า ลองฝึกให้เขาทำบ้าง ปล่อยงานบ้าง  ส่วนงานประจำลองจัดระบบใหม่เรียงลำดับความสำคัญดู  ผมเองงานประจำผมก็ทำงานนอกผมก็ทำ แต่ั้งสองงานผมหาผู้ช่วยมาช่วยครับ  เราคิดหรือตัดสินใจขั้นสุดท้ายอย่างเดียว จากคุณ : phongmms เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 19:44:24

ความคิดเห็นที่ 9 คิดว่าอย่าเอาเปรียบบริษัทค่ะ ทำตัวแย่ๆเพื่อให้บริษัทต้องจ่ายเงินก้อนนี่ เราว่าเห็นแก่ตัวไปมาก ถ้าคุณไปเปิดกิจการเองแล้วมีลูกจ้างคิดแบบนี้ก็แย่นะ งานก็เสีย ยังต้องเสียเงินก้อนอีก จากคุณ : ไม้ไต่คู้ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:46:40

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ก่อนก็ทำงานข้างนอกครับ แต่ใจมันไม่รัก  มันไม่ใช่สิ่งที่ชอบ ก็เลยตัดสินใจลาออก ทำของตัวเองดีกว่า ลุยได้เต็มที่ดีครับ จากคุณ : aromatic (Aromatic) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:58:27

ความคิดเห็นที่ 11 เราจะบอกว่า เรายังไม่ได้ เอาเปรียบบริษัทอะไรนะคะ เรายังทำงานเต็มที่ แต่งานเราโหลดมาก ทั้งออฟฟิส เราทำอยู่คนเดียวในส่วนงานตรงนี้ ไม่มีคนช่วย และ นายโหลดงานให้เราเพิ่มตลอด จาก ทีตกลงตอนรับเข้าทำงาน อีกทั้งนายบอกว่า ถ้า จ้างคนมาช่วยเราจะลดเงินเดือนเราถือว่าเราทำงานไม่คุ้มเงินเดือน ที่เรารู้สึกเอาเปรียบคือ เราไม่สนุกในการทำ เราไม่อยากทำโอ ไม่อยากทำงานเกินเวลางาน เพราะเราไม่ชอบมันล้าไปหมดแล้ว นายเราโหดมากนะคะ เอาเวลางานทุกอย่างมาคูณเป็นนาที กำหนดว่า เราควรทำให้เสร็จภายกี่ชม ของทั้งเดือน  เราไปเข้าห้องน้ำ โดนจับเวลา ทั้งที่งานเรามันเป็นงานประสานงานไม่ใช้งานคีย์เอกสาร ที่คีย์แล้วจับเวลาจบ แต่ละเอกสาร มันต้องมีการติดตาม รวบรวม และ ร่าง ทั้งยังต้องโปรเซสให้จบขั้นตอน เราแทบไม่เคยไปสาย ไม่เคยกลับก่อนเวลา เราคิดว่า ถ้าเราอยู่แล้วนายโหลดงานเรื่อยๆ เราทำไม่ทันเค้าก็ไล่เราออกเอง แต่เราคิดว่า จะคุ้มไหม ที่เราจะสุขภาพจิตเสีย อีกอย่างคือ นายลำเอียงมาก คนอื่นสามารถ หายไปจากออฟฟิส เป็นสองสามชม มาสาย กลับบ้านก่อนได้ แล้ว เอางานมากองให้เราทำ โดยที่นายบอกว่า นายเข้าใจ เราเปิดกิจการตัวเอง เราคงไม่ทำกับลูกจ้างแบบนี้ และ คงไม่เป็นว่า จ่ายเงินเดือนไปแล้ว โหลดงานๆๆๆ ไม่หยุด งานเราคือ สารพัดอย่าง เซลล์โค บีโอไอ อิมพอร์ตเอ็กพอร์ต ออกอินวอย ตามสินค้า ทำรีพอร์ต ลูกค้าเคลม ต่อว่า มาลงที่เราคนเดียว ทั้งหมดในบริษัท ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ เราต้องดูคนเดียว ในหนึ่งวัน มีเมล์มให้เราต้องตอบและอ่าน ไม่ต่ำกว่าสามสิบเมล์ ทั้งบริษัทมีเราคนเดียว ทำ อีกคนเป็นบัญชี เค้าไม่แตะงานอะไรนอกจากบัญชี เค้าสามารถหาเรื่องกลับบ้านเร็วได้ เสมอ ถ้า คุณต้องทำงาน โหลดขนาด นี้ กับนายแบบนี้คุณจะรักงานที่ทำไหม ปีที่แล้ว นายก็ไม่จ่ายโบนัสให้พนักงาน จ่ายให้ตัวเองคนเดียว จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 23:05:17

ความคิดเห็นที่ 12 อยู่ PMC เหรอฮะ ถ้ามั่นใจแล้ว โลดเลยฮะ จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 23:46:16

ความคิดเห็นที่ 13 คุณมีคำตอบอยู่แล้วนิ ลุยเลย น่าอิจฉาที่คุณค้นหาตัวเองเจอแล้ว และกำลังจำทำตามฝัน ยังไงก้สู้ๆนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^ จากคุณ : กะทิสีชา เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 09:26:41

ความคิดเห็นที่ 14   ในความคิดของผม คนที่ต้องการสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมาสักอย่าง แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาเป็นลูกจ้าง ควรจะทำงานทุกอย่างที่ได้รับหมายหมาย ให้เต็มความสามารถมากที่สุด ทำงานทุกอย่างและคิดเสมือนว่าเราเป็นเจ้าของบริษัทฯ มันทำให้ได้เรียนรู้งานทุกแขนง ได้ประสบการณ์จากการทำงานมากที่สุด เวลาไปทำกิจการส่วนตัว มันก็สามารถนำประสบการณ์เดิมมาใช้ได้เลย ไม่ต้องลองผิดลองถูกอีก และที่สำคัญการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี กับนายจ้าง เพื่อนร่วมงาน และบุคคลรอบข้าง ทำให้เรามีกำเช้งที่ดี เวลาจะติดต่อเรื่องอะไร ก็ได้รับความร่วมมือ งานก็ออกมาดี ราบรื่น ตอนเป็นลูกจ้าง ผมก็ใช้หลักการทำงานแบบนี้ พออกมาตั้งตัวเอง เจ้านายเดิม ก็ให้การสนับสนุน ทั้งช่วยเหลือซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงลูกค้าในตลาดกว่า 80% ก็สนับสนุน ที่เหลือก็คือการช่วยเหลือ ตนเองให้มากที่สุด ต้องมีอิทธิบาท 4 ทำงานด้วยความขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกๆวัน จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 10:01:44

ความคิดเห็นที่ 15 11  ถ้ามันขนาดนั้น  ก็ลาออกเถอะ  มาลุยธุรกิจส่วนตัวเลย   ถ้ามันไม่เวิร์คก็ค่อยหางานใหม่ที่น่าสนใจทำ มีประสบการณ์การทำงานแล้ว  ไม่น่าหางานยาก ยิ่งเริ่มตอนอายุน้อยยิ่งดี  ยังพอมีเวลาล้มลุกคลุกคลาน ส่วนตัว  ก็ลาออกจากงานมาำทำธุรกิจของตัวเองที่บ้าน  เพราะจะได้ดูแลแม่ ทำได้สองปี  ก็เจ๊ง  ไม่มีเงินติดตัวสักบาท   ต้องขอเงินแม่กินข้าว  รับเงินจากแม่ทีไร  ก็น้ำตาจะไหลทุกที แต่ก็มาเริ่มต้นใหม่   ไม่ท้อ  ก็หางานประจำทำ ให้มีเงินใช้  พอร้านเริ่มอยู่ตัว  ก็ลาออก ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้  เหมือนคุณตันโออิชิว่า    พอเรือถึงท่า  เดี๋ยวหัวมันก็ตรงเอง จากคุณ : jedi-jaidee เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 13:47:00

ความคิดเห็นที่ 16 เสี่ยงทำอย่างดีสติตอนนี้ ยังดีกว่าปล่อยเวลาผ่านไปจนแม้แต่ว่าเวลาที่จะเสี่ยงก็ไม่เหลือครับ คนเราแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือการลงทุนจะมีสองด้านคือ รอดกับไม่รอด แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าร้อยละ 80 มักจะมองด้านลบเสียมากกว่าจนตัวเองไม่กล้าทำกัน ทั้งที่จริงแล้วสิ่งที่ตัวเองจะก็ ก่อนทำก็ต้องมีการศึกษาข้อมูลกันมาก่อนแล้วทั้งนั้น เพื่อลดความเสี่ยง แต่จนแล้วจนรอดความกลัวก็ยังฝังใจกันอยู่ ผมก็เคยเป็นคนนึงที่เคยคิดอย่างนั้นครับ แต่พอตัดสินใจออกมาทำเองแล้วจะพบว่าโลกมันเปิดกว้างมากขึ้น ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดกัน ลองถามตัวเองง่ายๆ แล้วกันครับว่า คุณสามารถทำเงิน 1000 บาทให้เพิ่มเป็น 1500 ได้ไหม ถ้าคุณตอบตัวเองว่าได้ คุณก็พร้อมที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเองแล้วเพราะคุณมีความมั่นใจ แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ได้ แสดงว่าความคิดด้านลบยังมีอำนาจเหนือความมั่นใจในตัวคุณเองอยู่ ลองมองดูตัวเองอีกครั้งว่าทำไมถึงคิดว่าไม่ได้ จากคุณ : ข้าวเหนียวบูด เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 13:54:46

ความคิดเห็นที่ 17 แม้ กระทู้โดนใจจริงๆ ทำประสานงานเหมือนกันเลยค่ะ เป็นเลขาด้วย ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง กดดันมาก (เก็บกดมาสองปี) ปัจจุบัน ลาออกจากงานได้เดือนที่สองแล้ว ทำงานขายของในเน็ตไปด้วย สบายใจมากๆๆๆๆๆๆ มีเวลาอยู่บ้าน อยู่กับแม่ เราขายของในเน็ตมาหลายปีแล้ว แต่ไม่จริงจัง เป็นอาชีพเสริมมากกว่า ตอนนี้เลยจริงจังมากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด เพราะเราทำเราก็ได้ เราทำเราก็รวย.. อิอิ ทำออฟฟิศ เราทำ เจ้าของได้ ฮาๆๆๆ เค้ารวย เราจนเหมือนเดิม ทำงานถวายหัวเลยล่ะ โทรศัพท์สั่งงาน เข้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ไม่ไหวอะ เหนื่อยมากๆๆ เพื่อนเราบอกให้ออกนานแล้ว ทำเองดีกว่า ขายของดีๆ เลือกสินค้าให้ถูกใจลูกค้า  ได้เงินมากกว่าเงินเดือนออฟฟิศอีก เพื่อนเราทำนานแล้ว เราไม่เชื่อ ก็อยู่ทำออฟฟิศจนสุดๆ ถึงได้ลาออกมาเนี่ย เดือนที่สอง เริ่มจะจริงแบบเพือ่นว่าแล้ว เงินที่ได้จากการขายของ พอๆกับเงินเดือนออฟฟิศเลย (ตำแหน่งประสานงาน พ่วงงานเลขา) เสียแต่ มันไม่ได้ไปเที่ยวฟรี นี่แหละ (เที่ยวประจำปีบริษัท) แม้ ต้องหาเงินเที่ยวเองนี่แหละ ฮ่าๆๆ ยังไง ลองตัดสินใจ หาลู่ทางไว้ค่ะ สู้ๆ จากคุณ : beernaka เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:40:59

ความคิดเห็นที่ 18 ท่าทางคุณก็มีคำตอบที่ดีอยู่แล้ว มั่นใจเข้าไว้นะครับ ผมเองก็ออกจากงานมาได้ 2 เดือนแล้วเหมือนกัน ช่วงแรกก็ใจแป้วอยู่เหมือนกัน เหมือนแบบว่า เราจะว่างทำงานของเราเองทั้งวันเลยรึเนี่ย แล้วจะคุยกับมนุษย์ที่ไหนกัน (เพราะงานผมทำคนเดียว) แต่ออกมาแล้ว เพื่อนหลายคนก็ทักว่าดูมีความสุขขึ้นมากนะ ก็ท่าจะจริงแหละ สบายใจขึ้นมากเลยครับ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย ผมออกจากที่ทำงานเพราะเจ้านายค่อนข้างเห็นแก่ตัว คือ เจอมา 3-4 ที่เป็นแบบนี้หมดเลย บริษัทตั้งแรกๆก็มีน้ำใจ คอยช่วยตามงาน ทุกอย่าง พอบริษัทตั้งตัวได้ก็ประมาณว่า ใครจะไปไหนก็ไป ไม่ขึ้นเงินเดือนให้ลูกน้อง แต่ตัวเองนั้นสุดแสนจะฟุ่มเฟือย เลยคิดว่า ถึงย้ายไปที่ใหม่ก็คงเข้าทำนองนี้อีก ลากันที จริงๆ ตอนยังทำงานประจำ ก็ทำงานนอกเวลา รายได้เป็น 3 เท่าของเงินเดือนอยู่แล้ว แต่เห็นว่าถ้าบริษัทยังพอโอเค ก็พอทำได้ล่ะน่า แต่ความเห็นแก่ตัวของเจ้านายมันหนักขึ้นทุกวัน ทุกวันนี้เสียใจอย่างเดียวคือ "รู้งี้ gu ออกตั้งนานแล้ว" จากคุณ : อาร์ตี้ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 19:05:43

ความคิดเห็นที่ 19 จากที่อ่านคุณสุกงอมแล้วละ เริ่มได้เลย อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง และอย่าหวังแค่เงินก้อนนั้น เพราะ Connection ที่ดีกับนายเก่าน่าจะมีประโยชน์ในภายหลังมากกว่าครับ อย่ากลัวครับ เต็มที่กับสิ่งที่เรารักและอยากทำ ผมก็เคยเป็นเหมือนกันครับ จากคุณ : แกะแดง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 13:52:37

ความคิดเห็นที่ 20 เพื่อนผมก็เคยทำ  เล่นเกมส์กันทั้งแก้งค์ จนโดนไล่ออก ยกก๊วน ได้เงินก้อน  แต่ไม่แนะนำให้ทำน่ะ แต่ น่าอิจฉาน่ะครับ ที่เจองานที่ชอบ ขนาดทำจนเช้ายังได้ ผมว่าถ้าใจเรา ไม่อยู่แล้ว  ออกเลยครับ  ไปทำสิ่งที่เราชอบ และถนัด มีพื้นฐานอยู่แล้ว  ลุยเลย จากคุณ : เจมส์แบน คังคังโป้ย เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 13:14:33

ความคิดเห็นที่ 21   ทำของตัวเองแล้วจะใจดีกับลูกจ้างได้อย่างที่พูดหรือเปล่า ลูกจ้างหลายๆคน คิดอยู่ 2 อย่าง ต้องการเงินขึ้นเยอะๆ อยากก๊อปกิจการไปทำเอง แต่หลายๆคนออกไปแล้วไม่รอด เคยเห็นมาเยอะแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกมาทำเองแล้วไม่รอด จะเริ่มคิดได้ว่า เจ้านายคุณเขาทำรอดแสดงว่าวิธีของเขาถูกแล้ว เพื่อนกันรวมหัวกันออกมาทำ สุดท้ายไม่รอด ทำเลาะกันเอง เหตุเพราะตอนทำเป็นลูกน้องอยู่เป็นเ้พื่อน ทำกันเองใครเห็นลูกน้อง ใครเป็นเจ้านาย ใครจะจ่าย ใครจะทำงาน ถ้ามันได้กำไรก็ happy แต่พอขาดทุนเกี่ยงกันไม่มีใครอยากรับผิดชอบ จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 04:40:20 A:124.121.33.78 X: TicketID:276238