Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สัมภาษณ์งานกับคนบ้า 6 ประเภท  

ถ้าน้องๆไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง อยู่ในวรรณะไฮโซ หรือนิยมการเกาะพ่อแม่หรือเกาะเมียกิน เข้าทำนอง เกาะแหลกแล้ว***ซะ แล้วล่ะก็ พี่ขอยืนยันครับว่าน้องๆคงเคยออกหางานกันฝุ่นตลบอบอวน เดินดุ่มๆทั้งวันไร้จุดหมาย ออกสัมภาษณ์งานกันจ้าละหวั่นเช้าจรดค่ำ เหมือนเสนอตัวให้ที่โน่นที่นี่เลือกดู ดูก่อนไม่เอาไม่ว่า ขายถูกๆ เฮ้ย..ไม่ช่ายย..


เรียนจบมาก็ว่ายาก หางานกลับยากกว่าหลายเท่า เนื่องจาก***ส่วนผู้หางานกับปริมาณงานมันน้อยกว่ากันมาก จากการประมาณการคนหางาน 1 คน ต้องแย่งงานกับคนอื่นๆถึง กว่า 100 คน แล้วดูเหมือนอัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ไหนจะต้องทนการดูถูกเหยียดหยามจากผู้สัมภาษณ์ที่สันดานเป็นกิ้งก่าผยองเดชอีกเล่า

ต้องยอมรับว่าคนหางานมันล้นตลาดจริงๆ เหมือนผลิตผลทุเรียน ผลิตเยอะจนราคาตกฮวบ คนหางานก็ตกฮวบ ฉันใดก็ฉันนั้น ตามกฏ supply กับ Demand ครั้นจะจำกัดปริมาณคนเรียนจบเหมือนลดปริมาณการผลิตทุเรียนก็ไม่ได้ ก็คนนะ..ไม่ใช่ทุเรียน ถึงบางคนจะไว้ทรงผมหนามทุเรียนก็เหอะ


ทีนี้มาเตรียมตัวการสัมภาษณ์งานกัน..มีคนบ้า 5 ประเภทที่หนีออกมาจากโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อมาทำหน้าที่สัมภาษณ์งานพวกเราโดยเฉพาะ.. มาทำความรู้จักและรับมือกับพวกเค้ากันเถิด..


1. พวกบ้าอนามัย



พวกนี้จะมาจากตระ***ลผู้ดี ***แดงรึเปล่าไม่รู้แต่มันชอบบังคับให้เราถอดรองเท้า คือมักจะมาในรูปแบบของบริษัทที่เป็นบ้านพักอาศัยด้วย 2 in 1 บ้านช่องเค้าจะสะอาดมาก เราซึ่งไม่ใช่ลูกหลานเค้าก็ต้องปฏิบัติตนประดุจเป็นหลานๆของเค้า คือต้องถอดรองเท้าเพื่อมิให้บ้านเค้าต้องสกปรกเพราะเรา แล้วเราเดินหางานมาทั้งวันเหงื่อมันเปียกชุ่มเท้าอันอบอวลประหนึ่งหนูเน่า



ก็ต้องถอดออกมาแผ่ได้คนอื่นได้ดมกันถ้วนหน้า 10 คนนั่งรวมกันอยู่ในห้องรอสัมภาษณ์เท้าเหม็นกันทุกคน ก่อสารพิษต่อทางเดินหายใจอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน บางคนอาจหน้ามืดโดยไม่รู้ตัว ประสิทธิภาพในการตอบคำถามลดฮวบไปกว่าครึ่ง จะให้มาสัมภาษณ์หรือจะให้มานั่งดมเท้ากัน จะเอาคนเก่งหรือคนทรหด ต้องฝ่าด่านดมเท้ากันก่อนนะครับ ซักพักจะมาเรียก แล้วผู้หญิงก็เหอะถึงเท้าจะไม่เหม็นเฉียบแบบผู้ชายแต่ก็ต้องมาโชว์เท้าสุดสงวนต่อสายตาประชาชี ให้ได้อับอาย



ก็ไม่ได้ใส่ถุงเท้าเหมือนพวกผู้ชายนี่ก็เลยต้องเปลือยเท้า บางคนเป็นตาปลา เล็บขบ เท้าดำ เท้าแตก เสี้ยนตำเท้า อะไรต่อมิอะไร ก็ต้องมาโชว์กัน





พวกนี้พื้นเพเป็นคนในตระ***ลผู้ดี๊ผู้ดี พวกคุณหลวงเก่า คือชอบให้คนอื่นนบนอบ เข้าบ้านเค้าต้องเรียบร้อย สงบเสงี่ยม เจี๋ยมเจี้ยม พูดคะขาอย่างสุภาพ พินอบพิเทา เชื่องๆขอมือต้องให้ ลูกหลานจริงๆน่ะไม่มีหรอก ถึงต้องมาติ๊งต่างคนอื่นเป็นลูกๆหลานๆ



วิธีรับมือ : พกถุงเท้าสะอาด 1 คู่ไว้เสมอ พร้อมเสปรย์ฉีดเท้าอย่างแรงสุด 1 กระป๋อง เผื่อฉีดเท้าคนอื่นด้วยกรณีที่เท้าเค้าเหม็นเฉียบอย่างแรง ผู้หญิงควรเก็บเล็บให้เรียบร้อย รักษาเท้าให้งามพอๆกับใบหน้า











2. พวกชอบให้กรอก



พวกนี้เจอหน้าเป็นไม่ได้ ต้องให้กรอกไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ถึงจะส่ง Resume CV อะไรมาแล้วให้ถือเป็นโมฆะ เค้าอ้างว่าอยากดูลายมือ งั้นเอาชุดแบบฝึกคัดลายมือมาเลยดิ๊ แหม..มาสมัครเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องดูลายมือด้วยหรือ เค้ามีความสุขกับการเห็นเรามากรอกอะไรที่เค้าให้ มันดูเหมือนเค้ามีพาว์เวอร์มากจริงๆสั่งอะไรก็ต้องทำ ทั้งกรอกประวัติ ทำแบบฝึกหัด ข้อสอบวิชาเรียน แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ Grammar, Vocaborary



ไหนจะแบบทดสอบจิตวิทยาประเภทถามว่าคุณฟอกสบู่ที่หน้าหรือที่ตัวก่อน คือว่าพี่ครับ..***จะรู้ไปทำไม๊..หา ฟอกสบู่ที่ตัวก่อนมันชั่วมากมั้ย หรือมันฉลาดน้อยกว่ากันมั้ยเล่า หรือชอบถามว่าคุณเห็นใจเวลาผู้อื่นมีความทุกข์มั้ย แล้วหมาที่ไหนมันจะตอบว่าผมไม่เห็นใจเลยครับพี่ครับ ผมสารเลวพอจะเข้าทำงานกับพี่ได้มั้ยครับพี่ครับ



โอ้ย..เอือมระอามากๆ ถามกันสารพัดขอให้ได้ถาม ขอให้มีคนได้มากรอกอะไรให้เค้า..วันนั้นเค้าก็แสนจะมีความสุขแล้ว บางทีนั่งกรอกกันทั้งวันกระทั่งต้องมาสัมภาษณ์อีกวันนึงเอา อยากให้มันมากรอกดูมั่งจัง





วิธีรับมือ : ไปตอนใกล้เลิกงาน ประมาณ 5 โมงเย็น เค้าจะลดจำนวนเอกสารที่ต้องกรอกลงตามอัตราส่วนความอยากรีบกลับบ้านของเค้า แค่นี้..น้องก็สบายขึ้นฮวบๆ











3. พวกชอบให้รอ



พวกมาเพื่อตั้งด่านให้รอ จากด่านสู่ด่านใช้เวลาครึ่งวันเป็นอย่างน้อย เค้ามีความสุขกับการให้ใครซักคนนึงมารอพวกเค้า พอดีหัวหน้าฝ่ายไปข้างนอกอีก 2 ชั่วโมงกลับมา หรือผู้สัมภาษณ์ติดประชุม แล้ว***จะนัดพวกหนูมาทำไมคะ/ครับ มีปัญญาเจียดเวลาว่างให้ตรงกับที่นัดไว้มั้ย ลำบากไปเหรอ มาสมัครงาน ไม่ได้มาเพื่อนั่งรอ จะวัดความอดทนเหรอ ตกลงจะวัดความสามารถหรือความอดทน มาสมัครงานนะไม่ได้จะมาเป็นทหาร จะมาวัดความอดทนอะไรกันตอนนี้



ทนเก่งแปลว่าทำงานดีหรือทนมือทน***พวกคุณดีกันแน่ จะให้รอถึงรุ่งสางเลยมั้ย บางทีเมื่อช่องว่างระหว่างแผนกมีมาก เค้าจะแทรกตัวเข้ามาเป็นด่านเสริม เช่น นั่งรอหน้าห้องก่อน อย่าพึ่งเข้าไป แล้วเค้าจะเดินเข้าไปถามไอ้ที่นัดเราไว้อีกทีนึง ไปเพื่อเอาหน้าอย่างภูมิใจ





เชื่อมั้ย..ผมเคยรอสัมภาษณ์ที่บริษัทแห่งนึงตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงเที่ยง พอถึงเที่ยงก็ผลัดไปบ่าย สรุปได้สัมภาษณ์ตอนบ่าย 3 สัมภาษณ์แค่ 5 นาที ถามแต่ว่ามีพี่น้องกี่คน ผมเดินออกเลยถือว่าบริษัทไม่ผ่านการคัดเลือกของผม บริษัทอย่างนี้จะทำให้เราได้พัฒนาความสามารถอะไร อาจพัฒนาได้แค่ความทรหดอดทนอย่างเดียว งั้นไปเข้ากรมทหารดีกว่ามั้ย..





วิธีรับมือ : โทรไปก่อนหลายๆครั้งเพื่อยืนยันเวลานัดสัมภาษณ์ หากพบพิรุธในการสนทนาหรือจับได้ว่าเค้างี่เง่าชัดเจน อย่าไปให้เค้าสัมภาษณ์ เปลืองเวลาซะเปล่าๆ











4. พวกคนเก่ง



พวกเค้าจะเป็นคนเก่งโดยความเข้าใจของเค้า เก่งอย่างมหันต์ เก่งมาแต่กำเนิด คนอื่นยกเว้นเค้าจะโง่กว่าเค้าหมด แล้วยิ่งเด็กจบใหม่ไปสัมภาษณ์นี่เข้าข้อเลย คือได้เหยียดหยามเราอย่างเป็นทางการ พูดจาส่อเสียดดูถูก และโชว์พาว์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลาการสัมภาษณ์ เค้าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ง่วนอยู่กับการอธิบายสรรพคุณของตัวเองว่าจบเมืองนอกมา ได้เกียรตินิยมหรือประกาศนียบัตรอะไรบ้าง



พูดวนไปวนมาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข แล้วจะชอบถามเราว่าได้ GPA เท่าไหร่ ทำไมน้อยจัง ไม่ตั้งใจเรียนล่ะสิ ทำไมวิชานี้ตกล่ะ ว๊า..วิชานี้ง่ายๆทำไมได้แค่ เกรด C ตอนพี่เรียนได้ตั้ง A+ คือถ้าเกรดมันมีมากกว่านี้ได้พี่คงได้มันหมดแหละ ในห้องมีใครเรียนสู้พี่ได้ที่ไหน อาจาร์ยนี่ชมพี่ไม่ขาดปากโอ้โหเด็กคนนี้เป็นเด็กอัจฉริยะ จีเนียส เก่งสุดในรอบ 100 ปี อย่างน้องคงเทียบกับพี่ไม่ได้หรอก



เอ้อ..ว่าแต่ว่าน้องเรียนไม่เก่งเลยอ่ะ GPA แค่ 2.5 ถ้าเทียบกับคนธรรมดาก็พอได้แต่เทียบกับพี่แล้วมันคนละชั้นอ่ะ น้องเรียนไม่ดีเลยทำงานจะดีได้ยังไง ไปสมัครเรียนใหม่แล้วทำเกรดให้ดีกว่านี้จะรุ่งกว่านะน้อง..พี่ขอบอก



พวกนี้เป็นวิกลจริตประเภทที่ 2.1 คือ พวกติดอยู่ในอดีต หาทางออกไม่ได้ หลงว่าอดีตชาติกับปัจจุบีนเป็นเรื่องเดียวกัน แยกไม่ออก ภูมิหลังน่าจะโดนทางบ้านกวดขันให้เรียนอย่างหนักจนเพ้อ ถึงขั้นบานปลายมาวิกลจริตในที่สุด





วิธีรับมือ : พยายามอย่าต่อกรกับเค้า แต่ให้ลองพูดเรื่องปัจจุบันกับเค้า บอกเค้าว่านี่ปี 2547 แล้ว กระตุ้นความทรงจำของเค้าว่าคุณเป็นเด็กมาสมัครงาน ไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องที่จะแข่งกันเรียนกับเค้า พูดกับเค้าตรงไปตรงมาจะช่วยให้เค้าอาการทุเลาขึ้นได้











5. พวกมาเพื่อสอบประวัติ



มาเพื่อสอบประวัติเท่านั้นอย่างเดียวจริงๆ เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษจากกองสืบสวน มาเพื่อเก็บข้อมูลทำสถิติแห่งชาติ สอบสวนเราเหมือนเราทำความผิดอะไรเอาไว้ นัยว่าสอบประวัติเพื่อจะทำสำนวนส่งฟ้องศาล ถามเป็นแค่ว่า มีพี่น้องกี่คน บ้านอยู่ไหน ทำไมย้ายบ้าน ตอนเด็กเรียนที่ไหน ทำไมย้ายที่เรียน เคยติดคุกมั้ย ด้วยข้อหาอะไร ติดยามั้ย เคยโดนไล่ออกมั้ย โดนทำทัณฑ์บนที่ไหนมาบ้าง



เค้าจะซักเราแต่เรื่องส่วนตัวเท่านั้น ไม่เคยถามเกี่ยวกับตำแหน่งที่สมัครหรือทดสอบความรู้ในตำแหน่งงานที่สมัครแต่อย่างใด แล้วหน้าเค้าจะดุๆทำเหมือนเราเป็นผู้ต้องหา จริงๆข้อมูลพวกนี้เราก็กรอกไปหมดแล้วก็ยังจะมาถามอีก นี่คงอยากเอาเราเข้าเครื่องจับเท็จด้วยแน่ๆ ถ้าหน้าน้องๆคนไหนเหมือนโจรให้ระวังอาจโดนสอบหนักขึ้น หรืออาจถึงขั้นพาไปทำแผนหรือชี้ตัวพยานก็เป็นไปได้ เมื่อสอบประวัติเป็นที่เรียบร้อยเค้าจะลุกไปทันที โดยอาจมีทีมดักซุ่มดูพฤติกรรมอยู่***งๆ อย่าเผลอเรอเป็นอันขาด แค่มาสมัครงานอาจโดนรวบเข้าคุกเอาได้ อาจตั้งข้อหาหน้าตาผิดกฏหมาย





พวกนี้เป็นกองสืบสวนเก่า เอาวิธีทำงานในคุกมาใช้กับเรา มีปูมหลังเป็นคนไร้บ้านมาก่อน จึงชอบถามถึงความอบอุ่นและวิถีชีวิตของครอบครัวอื่นๆ





วิธีรับมือ : อย่าขัดขืนหรือพยายามหลบหนี อาจโดนรวบเอาได้ ให้ความร่วมมืกับเค้าแต่โดยดีเหอะ ออกมาได้ก็อย่ากลับไปอีก หนีออกนอกประเทศไปเลยก็ได้









6. พวกหัวหน้าสมาคม



แบบสุดท้ายนี้มาเพื่อประกาศตนว่าเป็นหัวหน้าสมาคม วิธีการของเค้าคือเค้าจะนัดเรามากันเยอะๆ มารวมกันให้เต็มห้องสัมภาษณ์ ยิ่งแออัดเค้าจะยิ่งชอบ แล้วก็จะทำการสัมภาษณ์ทุกคนไปพร้อมๆกัน บางทีให้นั่งรอทีละคน นัดกันมา 9 โมงเช้าทั้งหมด 30 คนโดยพร้อมเพรียงกัน ขาดความสามารถในการคำนวณเวลานัดเพื่อแบ่งเบาเวลาที่แต่ละคนจะต้องมานั่งรอกันอย่างไร้จุดหมาย คือสัมภาษณ์ 4 โมงเย็นจะให้มาพร้อมกับไอ้คนที่ได้สัมภาษณ์ตอน 9 โมงเช้าทำไม คำนวณไม่เป็นเดี๋ยวผมคำนวณให้



พวกนี้จะมีความสุขที่ได้ยืนพูดต่อหน้าคนหมู่มาก จึงนัดให้มากันเยอะๆ ให้มาลำบากกันโดยพร้อมหน้าพร้อมตา ไอ้คนที่ได้สัมภาษณ์ก่อนก็ทำบุญมาเยอะหน่อย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเดอะวินเนอร์ในแต่ละวัน ก็คือไอ้คนที่ได้สัมภาษณ์ตอน 9 โมงเช้าจริง นอกนั้นโดนล่อลวงให้มา แต่ละคนไม่เคยพบเห็นหน้ากันมาก่อนในชาตินี้ก็ต้องมานั่งมองหน้ากัน มองจนเบื่อก็หันไปมองเสื้อ มองรองเท้ากันเอง มองนาฬิกาแขวนผนัง โต๊ะทำงาน พนักงาน จอคอมฯ โซฟา จนไม่เหลืออะไรให้มองก็มานั่งวาดรูป



เล่นเกมส์ในมือถือ โทรหาเพื่อน สุดท้ายจะเริ่มคุยกัน จีบกันบ้าง แลกเบอร์โทร ไปๆมาๆรู้จักกันหมด สนิทกันเพราะความเห็นใจซึ่งกันและกัน พัฒนาไปเป็นแฟนกันในภายหลังก็มี จะถึงขั้นจูงเข้าโรงแรมรึเปล่าอันนี้ไม่ได้รับรายงาน



พวกนี้จะเป็นหัวหน้าสมาคมอย่างผึ่งผาย และมีความสุขที่ได้เฝ้ามองพัฒนาการของพวกเราที่ถูกเค้านัดมารวมตัวกัน เหมือนเลี้ยงสัตว์แล้วเฝ้าดูพัฒนาการ ปูมิหลังเป็นคนไม่มีใครคบ หรือนัดใครแล้วเค้าไม่มา จึงมีปมด้อยชอบนัดคนมาทรมานเยอะๆ





วิธีรับมือ : ไม่มีวิธีที่แก้ได้ 100 % แต่อาจบรรเทาโดยการหาอะไรไปทำในกรณีที่น้องๆอยากทำงานกับเค้าจริงๆ อาจเอาเกมส์เพลย์สเตชั่นไปต่อเล่นกัน หรือ เอากีตาร์ไปด้วย







นี่แหละครับน้องๆ หางานก็ยากอยู่แล้วยังต้องมาสัมภาษณ์งานกับพวกโรคจิตอีก เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือพวกเค้าเถิด บางบริษัทบ้ากันทั้ง 6 ประเภทในหนึ่งเดียวก็มี....

ไปเจอมาเลย COPY มาให้ ฮาดีเหมือนกัน

เครดิท JOBBKK.COM

จากคุณ : สำราญ บานบุรี
เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 09:58:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com