ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ผิดครับ ผมว่านะ เพราะก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญา แต่ทางบริษัท B เค้าเป็นคนต่างประเทศอย่างที่คุณว่า มารยาทในประเทศเค้าอาจจะเป็นมาอีกอย่างนึงครับ อย่าไปเครียดครับ ขอให้ได้งานที่ชอบ จากคุณ : totto3000 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:19:05

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นผม ผมก็ไม่บอก บ B นะ รอให้ได้แล้วเอาไว้เลือกดีกว่าครับ จากคุณ : mr.virgin เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:19:09

ความคิดเห็นที่ 3 ตราบใดยังไม่ได้เซ็นสัญญา เกิดบ. A ได้คนที่เขาพอใจกว่า เขาก็สามาถยกเลิกเราได้ดื้อ ๆ เราีมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเหมือนที่ จขกท.บอกค่ะ เข้าใจเหตุผล จขกท.ค่ะ แต่ถ้าเป็นเรา เราก็ไม่บอกค่ะ อิอิ จากคุณ : หน่วยย่อย889 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:33:10

ความคิดเห็นที่ 4 เค้าไม่ได้ตำหนิคุณจริงจังหรอก เค้าจะดูการตอบปัญหาของคุณมากกว่า จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:35:00

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณค่ะสำหรับความเห็น ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ หลังจากนั้น บริษัท B ได้ถามต่อว่า หากเราเซ็นต์สัญญากับบริษัท A แล้วแต่ยังไม่ได้เริ่มงาน ถ้าบริษัท B เรียกเราไปสัมภาษณ์รอบสอง เราจะมามั้ย เราตอบว่า มาได้ถ้าเรายังไม่ได้เริ่มงาน  (บริษัท A แจ้งว่าเรายังไม่ได้บรรจุจนกว่าจะผ่าน Probation 4 เดือน เราคิดว่าน่าจะ fair ทั้งสองฝ่าย คือ บริษัท A มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าเราควรได้เป็นพนักงานหรือไม่ และเรามีสิทธิ์ตัดสินใจว่าเราชอบและเหมาะกับตัวงานที่บริษัท A มั้ย ดังนั้นเราคิดว่าในระหว่าง Probation Period ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ปฏิเสธได้ ถูกมั้ยคะ?) ผู้สัมภาษณ์ท่านนั้นเลยไม่พอใจมากๆ เค้าบอกว่าเค้ามี Bad Impression กับเราในเรื่องความซื่อสัตย์ แต่ หลังจากนั้นบริษัท B ได้โทรมานัดเราสัมภาษณ์อีกค่ะ เราเลยคิดว่า หากเราได้งานที่บริษัท B แล้วจะมีปัญหาหรือเปล่า คาดว่าชาวต่างชาติที่สัมภาษณ์เราจะเป็นนายเราอ่ะค่ะ รบกวนขอความเห็นหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 23:07:15 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 21:41:51 จากคุณ : ~A Trace of Happiness~ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:36:51

ความคิดเห็นที่ 6 ในความเป็นจริงแล้วคุณ ไมควรที่จะบอกว่ากำลังได้งานอีกบริษัทนึง แต่ยังไงก็ควรจะตัดสินใจเลือกในสิ่งที่คุณอยากทำนะคะ จากคุณ : น็อต (VivaDiva) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:56:21

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าคนสัมภาษณ์ ถ้าเค้าไม่ลองใจคุณ ก็ เค้าก็บ้า... คุณไม่ต้องคิดมากคับ จากคุณ : BoBoJan เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:00:18

ความคิดเห็นที่ 8 การที่คุณไม่บอกบริษัท A เพราะกลัวว่าบริษัท A จะใจกว้างพอไหม แต่การที่คุณบอกบริษัท B เค้าต้องสงสัยคุณแล้วว่า วันดีคืนดีมีบริษัท D มาเรียกคุณ ถ้าคุณเห็นว่าดีกว่า คุณก็ไปอีก แล้วคุณคิดว่าบริษัท B จะใจกว้างพอไหม ที่จะรับคุณทำงาน ในต่างประเทศผมว่าควรบอกทั้ง2บริษัท แต่ในไทยแนะนำให้ปิดปากเงียบทั้ง 2 บริษัท เพราะคนไทยอยากได้ทั้ง 2 อย่าง แต่การที่คุณบอกบริษัท B มันก็ทำให้เห็นว่าคุณจริงใจกับบริษัทเค้า เค้าเลยเรียกคุณไปอีกก็ได้นะ   ยังไงก็ไม่ต้องกังวนมากครับ ทำให้ดีที่สุด ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : karakob เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:03:28

ความคิดเห็นที่ 9 เราเคยโดนถามว่ามีงานที่อื่นรออยู่ไหม เราไม่ได้บอกเค้าค่ะ แค่ตอบว่ากำลังดู ดูอยู่ จากคุณ : กระปุกใส่ตังค์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:32:16

ความคิดเห็นที่ 10 เรายอมรับค่ะว่าเราทำไม่ถูกต้อง คือตอนนี้เราไม่ได้ทำงานค่ะ บริษัท A เป็นบริษัทแรกที่ตอบตกลงรับเราเข้าทำงาน เราไม่อยากว่างนาน เลยรีบคว้าไว้ จริงๆ เราสนใจเนื้องานที่บริษัท A มาก แต่สิ่งที่ทำให้เราอยากไปสัมภาษณ์บริษัท B อีก เพราะ 1) ตำแหน่งงานที่บริษัท A เป็นระดับ Staff แต่ B เป็นระดับ Supervisor 2) เงินเดือนที่บริษัท A ให้เราได้นั้น น้อยกว่าเงินเดือนที่เราเคยได้รับก่อนออกจากงานล่าสุดประมาณ 30% ค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ จากคุณ : ~A Trace of Happiness~ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 23:00:07

ความคิดเห็นที่ 11 เอ่ออออออ.............จขกท...สิ่งที่คุณทำอะ ถูกแล้วแหละครับ พูดโดยฐานะที่ผมเป็น HR และในขณะเดียวกันผมก็เป็นผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ด้วยยยยย คุณ จขกท ไม่ต้องเสียใจครับ เพราะคุณไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ผมมองไปบริษัทบีมากกว่าว่าเค้าใช้อะไรคิด อาจจะเป็นไปได้ในเรื่องวัฒนธรรมที่ต่างกัน แต่ในประเทศไทยใช้ไม่ได้ครับ คุณ จขกท พูดถูกและมีหลักการดี ผมก็เคยครับ โม้ โม้ไป ประมาณว่าสัมภาษณ์กับบริษัท A แต่ฟอร์มว่ามีอีกที่ เรียกสัมภาษณ์รอบ 3 รอบ 4 รอบ 5 บลา บลา บลา หรือไม่ก็ฟอร์มไปว่าได้งานอีกที่แล้ว แต่เริ่มเดือนหน้า ถ้ามีโอกาสก็อยากไปสัมภาษณ์ทุกที่ที่นัดเราให้ไปสัมภาษณ์ ผมก็ใช้มุขนี้บ่อย คือว่าให้เค้ารีบตัดสินใจเป็นนัย ๆ ว่าให้รีบรับหน่อย กรูตกงาน 555 อะไรประมาณนี้ มันเป็นเรื่องปรกติของคนทำงานครับ คุณ จขกท ไม่ต้องเสียใจในสิ่งที่คุณทำ เพราะคุณเดินมาถูกทางแล้วจริง ๆ ครับ ถ้ามันมากเรื่องนักคุณตอบตกลงบริษัท A ไปเลย แล้วไม่ต้องไปบริษัท B เรื่องมาก มากเรื่อง เพราะสิ่งที่คุณพูดมันถูก ทุกที่มีสิทธิ์เลือก เราเองก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกันครับ แล้วมันก็ไม่ใช่กงการอะไรที่เราจะไปบอกบริษัท A ว่า เรากำลังจะมีสัมภาษณ์กับบริษัท B เพราะผมคิดว่าเค้า (เอชอาร์) จะมองเราแปลก ๆ แต่เราเองควรที่จะแย๊บ ๆ บริษัท B ในเชิงประมาณว่า "ฉันกำลังจะได้งานแล้วนะ" โดยทำแบบ จขกท ถูกต้องแล้ว มันคือศิลปะในการสัมภาษณ์ครับ คนเรามันจะต้องมีจริต โม้ได้แต่อย่ามากไป พูดง่าย ๆ คนเราต้องมีความ :-) อยู่ในตัวด้วยถึงจะได้งาน ยังไง จขกท ทำถูกแล้วแหละครับ อย่าได้ไปแคร์คุณบี เพราะเค้าไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไร จากที่ได้อ่าน จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 02:14:25

ความคิดเห็นที่ 12 เฉย ๆ กับเรื่องนี้ ในฐานะ HR เก่า ขอบอกว่า คุณไม่มีความจำำเป็นเลย ที่คุณจะไปบอกเขาว่าคุณได้งานแล้ว บอกแล้วคุณได้อะไร??? สิ่งที่บริษัท B ทำก็ถูกแล้วในมุมมองของเขา เพราะมันก็แปลก ๆ อยู่ คุณได้งานบริษัท A แล้ว แต่คุณยังไปสัมภาษณ์บริษัท B ทำไม? ถ้าเกิดบริษัท B ตอบรับคุณเข้าทำงานเหมือนกัน คุณจะทำยังไง? หลังจากนั้นถ้ามีบริษัท C และ D เรียกไปสัมภาษณ์ แล้วตอบรับ คุณจะทำยังไงต่อ?? คือถ้าคุณไม่บอกว่าตอบรับบริษัท A ไปแล้ว เขาก็จะไม่คิดแบบนี้หรอก สำหรับเราไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมอะไร คนไทยจำนวนมากก็อาจจะมองแบบคุณฝรั่งคุณนี้แหละ เหตุผลของเขาก็เป็น เรื่องที่ดีนะ จากคุณ : Two ways เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 09:14:40

ความคิดเห็นที่ 13 จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องบอกนะคะ เราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่แล้ว ไปสัมภาษณ์งาน ไม่ใช่ว่านายจ้างจะเป็นฝ่ายสัมภาษณ์เราแต่ฝ่ายเดียว เราไปสัมภาษณ์เค้าด้วย เพื่อเลือกว่าเราจะอยู่กับเค้าได้ไหม เราเกลียดทัศนคติของนายจ้างประเภทที่ว่า คนมาสัมภาษณ์ต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และไม่มีทางเลือกอย่างที่สุด จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 09:39:56

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมคุณไม่บอกเขาไปล่ะคะว่า คุณบอกความจริงเค้า ยังไม่เรียกว่าคุณบริสุทธิ์ใจอีกเหรอ เพราะขณะที่คุณมาสัมภาษณ์กับเขา คุณก้ยังไม่ได้เข้าทำงานบริษัทA แล้วจู่ๆจะให้คุณโทรไปบอกบริษัทA หรือว่า คุณจะมาสัมภาษณ์บริษัทเขา ถามเค้าสิคะว่าเป็นเค้า เค้าจะทำยังไง จากคุณ : มณีสยาม เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 11:48:18

ความคิดเห็นที่ 15   ผิดตรงที่ คุณไปบอกเค้าทำไมล่ะคะว่าได้งานที่ บ.เอ แล้ว เอาไว้ได้ชัวร์ทั้งสองที่คุณจะบอกเลิกที่ไหนกสักที่แล้วก็ทำที่ๆคุณอยากจะทำ เราว่า การไปบอกเค้ามันทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีน่ะนะ ไม่ได้มีใครอยากจะมาแย่ง กันหรอกถ้าคุณไม่ใช่ คนที่ wellknown ,high performance จริงๆ พอไปบอกเค้าก็กลายเป็น เค้าเป็นฝ่ายเลือก ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายเลือก จากคุณ : รักนะ24ชม. เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 19:08:37

ความคิดเห็นที่ 16 มองในแง่ ธรรมาภิบาล บ.B ทำถูกแล้วครับ ไม่แย่งทรัพยากรบุคคลกันในอุตสาหกรรมเดียวกัน มีหลายบ.ที่เป็นแบบนั้น ถึงแม้คุณจะยังไม่ได้เซ็นสัญญากับ บ.A ก็ตาม แต่มุมมองของ บ.B น่าจะมองว่าคุณเป็นว่าที่ทรัพยากร(ที่ถูกจองแล้ว) ของ บ.A นั่นเอง จากคุณ : Nong-KiD เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 21:01:01

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณ Two ways นะคะ ที่เราบอกบริษัท B ว่าเราได้งานแล้วเพราะเรากำลังจะเริ่มงานกับบริษัท A อาทิตย์หน้าค่ะ เราอยากให้เค้ารีบพิจารณา และที่เราไปสัมภาษณ์อีกเพราะงานที่บริษัท B เป็นงานเป็นงานระดับ Supervisor ในขณะที่งานบริษัท A เป็นระดับ Staff ค่ะ และแน่นอนว่าถ้ามีบริษัท C D เรียกเราไปสัมภาษณ์ในตำแหน่งที่ดีกว่า เราไม่ปฏิเสธค่ะ แต่คิดว่าต่อไปคงไม่บอกเรื่องแบบนี้กับบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์แล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆ ความเห็นสำหรับแง่คิดดีๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 22:07:51 จากคุณ : ~A Trace of Happiness~ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 22:04:33

ความคิดเห็นที่ 18 แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 22:08:09 จากคุณ : ~A Trace of Happiness~ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 22:05:23

ความคิดเห็นที่ 19 คนเรามีสิทธิเลือกครับ ไม่ว่าใครก็ตาม ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองอยุ่แล้ว ถ้ามีโอกาสเลือกได้ ย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดครับ บริษัทเองก็ยังต้องการพนักงานที่ดีที่สุดเลย ดังนั้นอย่าคิดมากครับ จากคุณ : zasd เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 16:37:05