 |
ความคิดเห็นที่ 3 |
ต้องแยกก่อน ระหว่างค่าขนส่ง Freight กับค่าบริการส่งออก (Export Handling Charge) นะคะ
จขกท. ถามค่าขนส่ง ก็คือค่า Freight คนที่ขาย Freight ให้ เรียก Forwder หรือ Forwarding Agent เป็น
ค่าบริการส่งออก เช่น ค่าผ่านพิธีการ (Customs Clearance) ค่าขนของไปท่าเรือ ค่าเข้าตู้ (Loading-CFS) หรือ ขนของไปสนามบิน อย่างนี้ ชิปปิ้งทำให้
แต่ปัจจุบัน พวกบริษัท Forwarder ก็บริการทำชิปปิ้งให้เราด้วย โดยในใบเรียกเก็บเงิน และใบเสร็จ จะแยกมาให้ ระหว่าง ค่าขนส่ง Freight (ทางเรือ-Sea Freight, ทางอากาศ-Air Freight) กับค่าชิปปิ้งค่ะ
ค่า Sea Freight เท่าไรก็สอบถาม บริษัทเรือ (Shipping Lines Company) โดยตรง หรือผ่าน Forwarder/Forwarding Agent ก็ได้
ส่วน Air Freight ต้องถาม Forwarder/Forwarding Agent อย่างเดียว เพราะสายการบินไม่ขายให้เราโดยตรง เขาขายแต่ตั๋วครื่องบินให้ผู้โดยสาร (Passenger)
ค่าขนส่งทางเรือ จะคิดตามปริมาตร เป็นตู้ Container ถ้าสินค้ามีน้อย ไม่เต็มตู้ คิดเป็น ลูกบาศก์เมตร (Cubic Meter-CBM) ยกเว้นของนั้นหนักมาก จึงจะคิดตามน้ำหนัก
ค่าส่งทางอากาศ จะคิดเป็นน้ำหนักสินค้ารวมกล่อง (Gross Weight) ยกเว้นของนั้นเบามาก จึงจะคิดตามปริมาตร
ส่วนภาษานำเข้าปลายทาง (Import Duties) ปกติผู้ซื้อเขาจ่ายและจัดการเอง ยกเว้นตกลงกันเป็นอื่น คือให้เราจ่าย แบบนั้นก็ติดต่อ Forwarder ทำให้ โดย Forwarder เมืองไทย เขาจะมี Agent ของเขาเองช่วยจัดการให้
ถ้าของไม่มาก ส่งด้วย Air Courier พวก DHL, Fedex, UPS เป้นต้น สะดวกดี
จากคุณ |
:
Tigerprog
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ค. 53 00:15:37
|
|
|
|
 |