Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขอแชร์ประสบการณ์ "กว่าจะได้งาน" ให้กำลังใจคนที่กำลังหางานคร้าบ  

หวัดดีคร้าบ วันนี้ผมขอแชร์ประสบการณ์ “กว่าจะได้งานทำ” เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นบ้าง เพราะช่วงที่ผมหางานผมก็มาขอคำแนะนำและได้รับการช่วยเหลือจากคนในห้องนี้เป็นอย่างดีเสมอมาครับ

ก่อนอื่นต้องแนะนำคร่าวๆ ว่าผมเพิ่งเรียนจบเมื่อเดือน มีนาคม 2553 นี้
ในสาขาการจัดการวิศวกรรม (ฟังไม่คุ้นเลยใช่ไหมครับ)
เป็นภาคอินเตอร์ ด้วยเกรดอันน้อยนิด (2.74) เหตุผลมันก็มีอยู่ว่า
เรียนๆ ไป ผมรู้สึกสนใจในวิชาทางด้านบริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Marketing มาก ส่วนวิชาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิศวกรรมผมไม่ชอบเอามากๆ เลยครับ แต่ก็ทนเรียนจนจบ กะว่าไว้ค่อยต่อ MBA ในด้านที่ตัวเองชอบ

ผมเริ่มหางานตั้งแต่ช่วงเดือนธันวา ปีที่แล้ว
ส่งจดหมายสมัครงานไปหลายแห่งมาก
โดยส่วนใหญ่จะส่งไปสมัครงานทางด้านการตลาดเพราะคิดว่าตัวเองอยากทำในด้านนั้นน่ะครับ โดยตอนนั้นก็มีคะแนนภาษาอังกฤษติดตัวแค่อย่างเดียวคือ คะแนนสอบวัดผลของมหาลัย (TUGET) คะแนนหกร้อยกว่าๆ

สมัครไปหลายสิบแห่ง มีที่แรกเรียกไปสัมภาษณ์ช่วงปลายเดือนมกราคม  
(1) เป็นบริษัทผลิตกระเป๋าเดินทางแบรนต์ไทยที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ในตำแหน่ง Assistance Marketing Manager

พอไปสัมภาษณ์ เค้าก็พูดว่า น้องไม่มีประสบการณ์อ่ะค่ะ (สงสัยตอนโทรนัดเค้าลืมดู???)
แล้วก็ถามว่าสาขาที่น้องจบมาเป็นยังไง คล้ายๆ บริหารนั่นแหละใช่ไหมคะ บลาๆๆๆ

แล้วก็เข้าคำถามหิน...ถ้าน้องจะสร้างแบรนต์ให้ต้นทุนต่ำที่สุด น้องจะทำยังไงคะ
ผมหยุดคิดไปสักพักใหญ่ๆ แล้วตอบไปว่า อาจจะใช้ social network เข้าช่วย, สร้าง strategic partnership กับ work-and-travel agency มั้งครับ ฯลฯ

พูดไปพูดมา อยู่ประมาณ 10 นาที เค้าบอกว่า "วันนี้ขอบคุณน้องมากค่ะ"
ผมก็เอ๋อเล็กน้อย แบบว่าเดินทางมาสัมภาษณ์แค่สิบนาทีเหรอเนี่ย -*-
แล้วก็หวัดดีพี่เค้า แล้วก็กลับบ้านไปแบบ งงๆ
พร้อมทั้งมาโพสต์ถามชาวพันธิปว่า "โดนถามไปสองคำถาม จะได้งานหรือเปล่าครับ?" ฮ่าๆๆๆ

พอรู้ตัวแล้วว่าคงไม่ได้ บวกกับความความที่เป็นที่แรก ผมก็แอบเสียใจเล็กน้อย
แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองว่า อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าการสัมภาษณ์งานเป็นยังไง
คราวหน้าต้องดีกว่า!!!

หลังจากนั้นทำใจอยู่อาทิตย์หนึ่ง ก็เริ่มหางานต่อเรื่อยๆ และได้ไปสัมภาษณ์แห่งที่สอง

(2) ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ผ่าน Recruitment Agency ครับ
ซึ่งเค้าจะเน้นจัดหางานสำหรับบริษัทที่ต้องการคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้อ่ะ

โดยผมสมัครไปเป็น Marketing Management Trainee ให้กับบริษัทผลิตเครื่องหนัง Hi-End ของฝรั่งเศสครับ ตอนไปสัมภาษณ์ที่ Recruitment Agency ต้องให้ทำข้อสอบภาษาอังกฤษ (ที่ยากมากกกกก)

พอทำข้อสอบเสร็จก็มีการสัมภาษณ์กับคนไทย และผู้บริหารซึ่งเป็นชาวต่างชาติ
ผมก็บอกไปประมาณว่า Fashion is my passion.
I like marketing in fashion because they're dynamic.
Trends are shifting not only in fashion but in marketing also. ฮ่าๆๆ
และแล้ว ผมก็สัมภาษณ์ผ่านในรอบนี้ครับ
ดีใจมาก เพราะใจจริงก็ชอบอะไรที่เป็นแฟชั่นเหมือนกัน

และแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องไปสัมภาษณ์กับเจ้าของบริษัท(ลูกค้าของเอเจนซี่)
ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสครับ นัดเจอกันที่ Anotherhound @Paragon

พอเค้าอ่าน Resume ก็ถามว่า "wow ยูจบจากยูนี้มาเหรอ"
ผมก็แอบดีใจว่า รู้จักมหาลัยตูด้วยแฮะ

แล้วเค้าก็ ดูๆ โปรเจคที่ผ่านๆมาของผมใน resume ครับ
ซึ่งจะมีมีโปรเจค Marketing อยู่ตัวหนึ่ง ที่ทำ Case Study เกี่ยวกับโทรศัพท์ไฮโซ
ยี่ห้อ V..… ซึ่งบังเอิญจะมี Target คล้ายๆกับสินค้าของเค้า

เค้าก็เลยถามว่า “คุณคิดว่าสินค้าตัวนี้ประสบความสำเร็จไหม?”

ด้วยความที่ผมเป็นนักศึกษา(ณ ตอนนั้น) รายได้ขอจากที่บ้าน ปัญญาจะใช้โทรศัพท์ราคาหลายแสนคงไม่มี
ไฮโซโปรเจคตัวนี้ของผมจึงทำออกมาจากมุมมองของคนนอก ไม่ใช่ user จริงๆ

จากคำถาม...ผมจึงตอบเค้าไปว่า
"ผมคิดว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งนะ เพราะนอกจากสินค้าจะถูก differentiated ให้แตกต่างจากยี่ห้ออื่นแล้ว สินค้ายังมี service ที่โดดเด่น เช่น ผู้ใช้สามารถขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ตัวอย่าง ถ้าคุณต้องการเครื่องบินส่วนตัวเพื่อที่จะบินไปประชุมเร่งด่วน เค้าจัดให้ได้นะ"

...และแล้ว ใครจะไปรู้ว่า เค้าเคยใช้โทรศัพท์ยี่ห้อนี้
ซึ่งเค้ามีมุมมองจากผู้ใช้ ว่า
...ตัวเค้าไม่ชอบนะ เพราะตัวเครื่องมันหนัก
...คุณไม่คิดเหรอว่าผู้ใช้โทรศัพท์ต้องการเทคโนโลยี ไม่ใช่ความหรูหรา
...แล้ว “คุณคิดเหรอ ว่าคนระดับที่มีกะตังใช้โทรศัพท์ยี่ห้อนี้ได้ เค้าจะต้องการใช้ Sercive ที่คุณกล่าวอ้างมา ในเมื่อเค้าต้องมีผู้ช่วยส่วนตัวกันอยู่แล้ว”

ผมได้ฟังแล้วถึงบางอ้ออออออออออ เลยอ่ะครับ
แบบว่าในโลกนี้ยังมีอะไรอีกเยอะที่เด็กด้อยประสบการณ์อย่างผมมองข้ามไป

แล้วเค้าก็ถามว่า คุณคิดว่ามาทำงานที่นี่แล้วคุณจะได้ทำอะไรบ้าง
ด้วยความที่ชื่อตำแหน่งบอก Management Trainee ผมก็คิดว่า
เค้าคงไม่ต้องการคนที่มีประสบการณ์อะไรมากมาย คงเอาเราไปเทรนต์จนเก่งมั้ง
ก็ตอบว่าไปเป็นเทรนนี่เพื่อเรียนรู้งาน และนำไปใช้ทำงานในตำแหน่งการตลาดในอนาคต ไรงี้.....ที่ไหนได้ เค้าต้องการคนที่ทำงานเป็นแล้ว เพื่อไปเป็น Assistant ให้กับเค้า (แล้วทำไมตั้งชื่อตำแหน่งเงี้ย?)

สุดท้ายเค้าบอกว่า To be honest,  “ฉันไม่อยากให้คุณเสียเวลา ฉันไม่รับคุณหรอก” เพราะ
1. ภาษาอังกฤษคุณไม่ดีพอ (ไว้เดี๋ยวผมจะบอกคะแนน TOEIC ในตอนต่อไปนะครับ)
2. คุณไปหาประสบการณ์มาจากบริษัทใหญ่ๆ ก่อนเถอะ

ผมถึงกับช็อค!! แต่ก็ขอบคุณเค้า ที่ไม่ทำให้เราเสียเวลารอ



เท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่ออีกหลายแห่งเลยครับ
(ประสบการณ์การตกสัมภาษณ์โชกโชน อิอิ)

ลป. ขออนุญาตแก้ไขคำผิดครับ

แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 53 21:30:06

แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 53 10:32:21

จากคุณ : beware of the Plastics
เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 09:41:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com