ระยอง : สุดยอดแห่งการสู้ชีวิต >> ขอนอกเรื่องนิดนึงครับแบบว่าอยู่ไกล้ๆกันก็เลยอยากช่วยครับ
|
|
สุดยอดแห่งการสู่ชีวิต ได้อ่านแสงไฟในเศษฟืน เรื่องราวชีวิตจริงของหญิงชราสู้ชีวิต ทำให้นึกถึงคนใกล้ๆตัว เราบ้าง ลุงปราโมชย์ ชายชรา อายุ 59 ปี ที่ชีวิตใกล้วัยเกษียณ แต่ในความจริงแทนที่จะได้ใช้ ชีวิตพักผ่อนในปั้นปลาย อยู่กับลูกหลานอย่างมีความสุข ไม่อาจทำเช่นนั้นได้..ทุกวันที่เรามาทำงานที่อาปีโก้ ระยอง ภาพที่เห็นจนชินตา คือลุงที่ดูแลสวน อยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ ที่แม้แต่คนหนุ่มสาวอย่างเรายังทนแทบไม่ไหว แต่ลุงยังคงทำงาน พร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนว่างานที่แกทำสำคัญกว่า ความลำบากของร่างกาย ทำให้น้องคนหนึ่ง ( น้องชิต ) อดที่จะเข้าไปพูดคุยกับแกไม่ได้ จากการถามเรื่องราว ทำให้เราได้รับรู้ว่า ความลำบากที่เคยเห็นจาก Forward mail ที่ผ่านๆมาอยู่ใกล้เราแค่นี้เอง เราได้รู้ว่าชิวิตของลุงนั้นต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสีเก่าๆ ขนาด 3 X 3 เมตร ที่สร้างขึ้นชั่วคราวของแคมป์คนงาน ไม่ต่างจากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก และหากวันไหนฝนตก จากสภาพที่เห็น บ้าน ที่แกอยู่ไม่สามารถกั้นฝนอะไรได้เลย แต่ลุงก็ต้องทนอยู่ต่อไป เพราะคำตอบจากปาก ด้วยเสียงสั่นเครือ.. ลุงไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ลุงมี 3 ชีวิตที่ต้องหาเลี้ยงป้าที่ป่วยด้วยโรคเก๊าต์ ด้วยความที่ไม่มีเงิน เมื่อโรครุมเร้าไม่อาจพาไปรักษา จนอาการ ป่วยเรื้อรังจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องนอนป่วย จนหลานสาว อายุไม่ถึง 10 ขวบดี ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน เพื่อมาดูแลย่าของตน ส่วนหลานคนเล็ก ก็ถึงวัยเข้าโรงเรียน แต่ด้วยความขัดสนทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ด้วยการที่อาศัยอยู่ที่แคมป์คนงาน ลุงทำงานเพียงคนเดียว แต่มี 3 คนที่ต้องดูแล ทำให้มีคำเสียดสีจากคนงานแคมป์เดียวกัน ว่า ทำงานคนเดียว กินใช้น้ำ ไฟ ตั้ง 3 คน แต่ลุงก็ต้องก้มหน้ารับและไม่อาจตอบโต้ คำนินทา เสียดสี จากเพื่อนร่วมแคมป์ ด้วยกลัวว่าหากต้องย้ายไป ป้าและหลานต้องลำบากยิ่งกว่านี้..และที่สำคัญ จะไปอยู่ที่ไหน ? สัปดาห์ก่อนนู้น เรากับน้องๆได้มีโอกาสไปดูสภาพที่อยู่ของลุง ตอนนั่งรถไปก็คุยกับลุงไป ลุงบอกว่าที่จริงมีลูกถึง 6 คน แต่เมื่อเติบโตมีครอบครัวก็ไม่มีใครกลับมาเหลียวแล หลายปีก่อนลูกชายที่หายไปนานกลับมา พร้อมเด็กน้อย 2 คนและบอกลุงว่าได้เลิกกับแฟน จึงมาหาลุงเพื่อขออาศัยชั่วคราว พร้อมฝากลูกไว้..จากนั้นก็ได้หายไป และไม่เคยกลับมาดูแล หรือแม้แต่ส่งเงินมาให้ลูกอีกเลย แต่ลุงรักหลาน 2 คนนี้มากถึงกับบอกว่าลุงตายไม่เป็นไร แต่ขอให้หลานกินอิ่มท้องก็พอ.. วันนั้นพี่นิดซื้อขนมให้ลุงตอนเที่ยง พอตอนเย็นยังเห็นห่อขนมอยู่ พี่นิด : ลุง ไม่กินล่ะ..ไม่ชอบเหรอ ลุง : ลุงเก็บไว้ให้หลาน..เค้าไม่ค่อยได้กิน..เก็บไว้ไห้เค้าคงดีใจ ทำเอาคนซื้อให้น้ำตาซึม
....... เห็นในรถเงียบ ชิต เลยทำลายความงียบ ชิต : ลุง..เมื่อเช้านี้กินข้าวกะอะไร ลุง : กินกับแกง ชิต : แล้วตอนเที่ยงล่ะ ลุง : .....( เงียบ ) ..ลุงกินมื้อเดียว..ลุงไม่มีตังค์ ตอนเช้ายืม รปภ. 10 บาท เลยซื้อแกงได้ถุงเดียวเลยกิน มื้อเดียว .. คราวนี้ทั้งรถเงียบเลย.... ชิต...ทำลายความงียบ.. .อีกรอบ ชิต : แล้วเย็นนี้จะกินกับอะไร ลุง: ( ยิ้ม ...ยกถุงผักบุ้งที่เก็บหลังโรงงานให้ดู ) นี่ไง..ลุงเก็บมาเยอะ..กินกับน้ำพริก พี่นิดตาแดงๆ.. จะร้องไห้
ภาพแรกที่เราเห็นเมื่อลงรถ เห็นหลานสาวพยุงป้ากินข้าวอยู่ใน บ้าน ป้ากินข้าวเปล่ากับน้ำ คือ น้ำจริงๆ ..น้ำเปล่าที่เราดื่มเนี่ยแหละ แต่ป้าเทใส่ถ้วย เหมือนกับข้าว แล้วก็เอาข้าวเปล่าคลุกน้ำในถ้วยกิน ชิตเอายามาให้ ลุงกับป้าอ่านหนังสือไม่ออก ต้องเรียกหลานที่จบป. 3 ครึ่งมาช่วยจำ ป้าร้องไห้จนเราจะร้องตาม
หลานเอ้ย...ตั้งใจทำงานนะลูก..อย่าให้ต้องมีชีวิตเหมือนยาย ( แกแทนตัวเองว่ายาย..) วันนั้นเรากลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจ..และคิดว่า พอมีทางไหนที่จะช่วยลุงได้ แม้เพียงความช่วยเหลือเล็กๆ แต่มันคือ คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ ที่ได้ให้กับชายชราคนหนึ่ง พร้อมกับอีก 3 ชีวิตที่ต้องดูแล เผื่อว่าคนที่อยู่แถวอมตะซิตี้ ระยอง หรืออาจห่างไกลกว่านั้นแต่มีใจที่จะช่วยเหลือ 4 ชีวิตที่กำลังลำบาก ถือว่าเป็นการทำบุญเท่าที่เราทำได้ เผื่อว่าวันหนึ่ง จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ลุงปราโมชย์ ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้.... ร่วมบริจาคเงิน หรือ ของใช้ที่ไม่ใช้แล้ว
ปล. ขออนุญาตลบรายละเอียดการติดต่อทางบริษัทครับ เนื่องจากจะรบกวนการทำงานของพี่ๆ เค้าครับ อย่างไรก็ตามใครอยากช่วย เดี๋ยวผมจะลงรายละเอียดช่องทางการให้ความช่วยเหลือ ในกระทู้นี้ให้ครับ
แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 53 13:16:07
จากคุณ |
:
laststation_manoi
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ค. 53 11:59:51
|
|
|
|