ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากนั้น เขาก็จะมาหาเราที่ทำงานบ่อยขึ้น     ไม่ได้มาเพราะคิดถึง     แต่มาเพื่อมามอบสิ่งดีๆให้กับเรา   หลายๆประโยคในการสนทนา เป็นประโยคที่เราเคยได้ยินจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย   เพราะเพื่อนก็เคยนำสิ่งดีๆมามอบให้เราเหมือนกัน     แต่ตอนนั้นด้วยความที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง    เลยอุดหนุนเพื่อนแค่สบู่  โลชั่น พอเป็นน้ำใจกันเท่านั้น ผิดกับครั้งนี้  ที่คนขายแอมเวรคนนี้(ตอนนั้นเรายังคิดว่า)เป็นแฟนเรา       เขาแนะนำให้เราสมัครสมาชิก   เราก็ทำตามอย่างง่ายดาย   เราไม่รู้หรอกว่าแอมเวรมีสินค้าอะไรดี หรือไม่ดี   แต่เราซื้อเพราะคนขายเป็นแฟนเรา   ซื้อๆมารวมๆแล้วก็หลักหมื่นค่ะ     และเขาบอกว่ามันคือธุรกิจของเขา     ยิ่งเขาขายได้มาก ก็จะมีเงินคืนกลับมาที่เขามาก จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:31:13

ความคิดเห็นที่ 2 คืนหนึ่ง เขาบอกว่าจะมารับเราไปกินข้าว  เราก็ดีใจ  เพราะไม่ได้กินข้าวด้วยกันมานานแล้ว ตลอดทาง จากที่บ้านถึงร้านอาหาร  แทบไม่มีคำพูดจากปากเขา   เขาเปิดซีดีแอมเวร   ฟังอย่างตั้งใจ และพร่ำเพ้อไปตลอดทางว่า ‘’จะต้องทำให้ได้  อีก 3 ปี จะต้องสำเร็จ’’   เราได้แต่ถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น   สิ่งที่เราเคยได้ยินเกี่ยวกับธุรกิจนี้   มันเป็นแบบนี้จริงๆเหรอ       เราเคยได้ยินมาว่าธุรกิจแอมเวรมันล้างสมองได้ กับคนสองประเภท คือคนโลภ และคนโง่     แต่ผู้ชายคนที่นั่งข้างๆเราตอนนี้ ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ     แต่ทำไมเขาจริงจังกับแอมเวรมาก   มากจนน่ากลัว จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:31:45

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนทานอาหาร  เขาหยิบวิตามินที่ใส่อยู่ในตลับของแอมเวรออกมาทาน    เขาบอกว่ามันจะช่วยเผาผลาญไขมัน (ทุกลมหายใจเขา คือ แอมเวย์ค่ะ)     นิสัยการเลือกทานของเขาก็เปลี่ยนไปค่ะ  ดูเป็นคนรักสุกภาพม๊ากมาก   ทานแต่อาหารประเภทผัก ปลา   และตอนมาส่งที่บ้าน เขาก็สาธิตผลิตภัณฑ์แอมเวรให้ดู     ตอนนั้น  เรารู้สึก โอ้โห! มันอเมซิ่งมาก (แต่ตอนนี้เราตาสว่างแล้ว  รู้ว่ามันคือการแหกตาทั้งสิ้นค่ะ  และเราก็เลิกใช้ทุกย่างของแอมเวรหมดแล้ว)   ความสัมพันธ์ของเรากับเขา ยังเป็นไปตามปกติ   แต่ลึกๆก็ก็รู้สึกเหมือนมีกำแพงบางอย่างมากั้นอยู่ตรงกลาง  มันไม่ค่อยสนิทใจกันเหมือนก่อน       แถมที่เพิ่มมาก็คือ จากที่ไม่เคยยืมเงินเราเลย    เขาก็เริ่มโทรมายืมเงิน(รวมๆแล้วก็หลักแสนค่ะ)   เราก็ไม่คิดอะไรมาก  ยินดีช่วยเหลือเขา   กลับรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ ที่พอมีปัญหาเขายังนึกถึงเรา จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:32:49

ความคิดเห็นที่ 4 เวลาผ่านไป  เขายิ่งทุ่มเทกับธุรกิจนี้มาก   จากที่โทรหากันทุกวัน ก็เหลือแค่ส่งSMSมาแทน   บอกว่ากำลังเรียนวิธีการขายแอมเวรอยู่     เขาทุ่มเทกับแอมเวรทุกวันไม่มีวันหยุด   ทั้งสาธิตสินค้า  เข้าเซ็นเตอร์   ไปตระเวณหาลูกค้า   กว่าจะกลับบ้านก็ตีหนึ่งขึ้นไป   และไปสัมนาต่างจังหวัดทุกเดือน     เขาพูดเสมอว่างานประจำ  พอวันนึงถูกไล่ออกทุกอย่างก็จบแค่นั้น   แต่แอมเวย์ถึงเลิกทำ ก็จะมีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน   เป็นธุรกิจที่ยุติธรรมดี  ไม่เอาเปรียบ   ใครทำมากได้มาก   ใครทำน้อยได้น้อย   และผลจากความมุ่งมั่น  ทำให้เขามีรายได้จากแอมเวย์ เดือนละประมาณหมื่นสองหมื่น   แต่เขาลืมนึกถึงสุขภาพที่ต้องเสียไป   เวลาที่ไม่มีให้ใครเลย กระทั่งพ่อแม่   ลืมคิดถึงค่าน้ำมัน เดือนละหมื่นกว่าบาท ที่ต้องตระเวณไปทั่วราชอาณาจักร   ค่าโทรตามดาวไลน์ เดือนละสองสามพัน     ค่าไปสัมนาต่างจังหวัดสามสี่พัน     ค่าที่ต้องซื้อสินค้าแอมเวร เพื่อรักษายอด จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:33:34

ความคิดเห็นที่ 5 พอเตือนสติเขา  เขาก็จะหงุดหงิด  เขาบอกว่าจะคิดแบบนี้ไม่ได้  อย่าคิดว่าเสียอะไรไป  แต่ต้องคิดว่าจะได้อะไรมา   เพราะวันนึงเมื่อเขาสำเร็จทุกคนจะต้องสบาย   พ่อแม่จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ     และเงินรายได้จากแอมเวรจะสู่ทอดเป็นมรดกให้ทายาทได้   แต่ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างทางเขายังดูแลใครไม่ได้   เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นใดทั้งนั้น    นอกจากทำอย่างไรเขาจึงจะสำเร็จ   ทางกายนั้น   นานวันเรายิ่งห่างไกลกันไปเรื่อยๆ   แต่ทางใจ เราก็ยังคิดถึงกันและกันเสมอ (ต่อมา จึงรู้ว่าเป็นเพียงเราฝ่ายเดียว  ที่ยังคงความรู้สึกดีๆไว้กับเขา) จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:33:57

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะวันนึงจับได้ว่า  เขามีความสัมพันธ์ชู้สาว กับดาวไลน์     เขาก็ร้องไห้  บอกว่าผู้หญิงคนนี้ เป็นผู้หญิงกลางคืน  อยากจับเขา   บวกกับความเมา ทำให้เขาขาดความยับยั้งชั่งใจ       (ซึ่งก็มารู้ตอนหลังว่า คนในองค์กรแอมเวรของเขา  รับรู้กันมาตั้งนานแล้วว่าสองคนนี้สนิทสนมกัน เกินอัพไลน์ กับดาวไลน์ทั่วไป)   วันนั้นเราช๊อกเลยค่ะ  แทบเสียสติ   เพราะที่ผ่านมา ที่เคยคบกันมา เขาไม่เคยมีทีท่ากับเรื่องแบบนี้เลย       เราตรอมใจมาก ไม่กินข้าวหลายวัน  เอาแต่ร้องไห้   คิดแต่จะฆ่าตัวตาย จนทุกวันนี้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว   เราก็ยังทานอะไรไม่ค่อยได้  พอทานแล้วมันจะอาเจียนออกมา   เรียกว่าทรมานที่สุดแล้วค่ะ   ร่างกายอ่อนเพลียมาก   ไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:34:18

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เราก็ยังพยายามไม่หวั่นไหว กับความเปลี่ยนไปของเขา   พยายามบอกตัวเองว่า   เราจะไม่เดินแซงเขาไปไหนทั้งนั้น (ทั้งๆที่ด้วยศักยภาพเราตอนนี้    แน่นอนว่าเราทำได้ค่ะ)   เราบอกตัวเองว่า  ช่างเถอะทุกคนล้วนมีโอกาสทำผิดทั้งนั้น     และเราจะยอมเป็นผู้หญิงโง่ๆ ที่เดินตามหลังเขาอยู่แบบนี้   เผื่อวันนึงนึงเขาล้มเราจะได้คอยประคองเขาได้     เมื่อวันนึงเขาโดนผู้หญิงที่แอมเวร(คนที่เขาบอกว่าเป็นผู้ญิงไม่ดี)ทิ้งไป    เขาก็จะยังมีเรา ยืนอยู่ข้างๆเขาเหมือนเดิม     เราพร้อมจะเป็นคนเดิมให้เขาเสมอ     แต่ที่น่าเศร้าคือ ยิ่งหวังดี ห่วงใยเขามากเท่าไหร่     เขายิ่งเห็นเป็นตรงกันข้าม   มองว่าเราจ้องจับผิด  น่าเบื่อ น่ารำคาญ (สาบานได้ว่าเราทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆค่ะ) จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:34:34

ความคิดเห็นที่ 8 วันนี้เราเขียนด้วยหัวใจที่อ่อนล้า   หมดหวังแล้วที่จะได้ผู้ชายน่ารักคนเก่ากลับมา     เพราะวันนี้ เขาเป็นคนใหม่  ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป     คนที่เรารู้จัก(ซึ่งเป็นดาวไลน์เขา)    บอกว่าเวลาทำแอมเวรเขาดูเป็นเพลย์บอยมากๆ   กิน เที่ยวทุกอย่างล้วนหรูหรา ราคาแพง     ซึ่งก็จริงค่ะ เพราะตอนนี้มือถือที่เขาใช้ต้องรุ่นล่าสุดแพงสุด   โน้ตบุ๊คแพงสุด  รถยนต์แพง   อยากถามว่าคุณจะสร้างภาพให้สวยหรูเพื่ออะไร   ในเมื่อความจริงคุณมีรายรับเดือนละสี่หมื่น     แต่รายจ่ายทั้งค่าผ่อนรถ   ค่าผ่อนบัตร(ซึ่งเต็มทุกใบ) ค่าบ้าน  โทรศัพท์  และจิปาถะ    รออยู่แล้วเดือนละแปดหมื่น     และหนี้สินที่คุณไปกู้ยืมมาอีกก็หลายแสน     สถานภาพที่แท้จริงตอนนี้ของคุณ คือไม่มีเงินซักบาทนะคะ เราเคยคุยกับคนที่เคยทำแอมเวรแล้วเลิก   เขาก็บอกว่าทำแล้ว เหมือนว่ามันจะได้ไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไป   เขาเลยต้องถอยออกมา   เราก็เล่าเรื่องแฟนเราให้เขาฟัง   เขาบอกแฟนเรานี่ขั้นรุนแรงแล้วนะ   คิดว่าแฟนเราจะหยุดได้  ก็ต่อเมื่อหมดตัวเท่านั้นแหละ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:34:58

ความคิดเห็นที่ 9 อีกอย่างค่ะ  การที่คนเราจะประสบความสำเร็จโดยต้องทำบาปทำกรรม  เราก็ไม่เห็นด้วยค่ะ     เพราะเคยเตือนเขาเรื่องดาวไลน์ผู้หญิง ว่าอย่าไปสนิทสนมมาก   เพราะเดี๋ยวจะเกิดปัญหาตามมทีหลังได้   อยากให้เขาคิดกับดาวไลน์สาวๆแบบเพื่อนร่วมงานก็พอ   เขาก็บอกว่าอย่ามาเศือก  มันเป็นวิธีของเขาที่จะไปสู่ความสำเร็จ   เขาต้องสำเร็จให้ได้   ไม่ว่าจะวิธีไหน เขาก็จะทำ   โดยเขาเลือกใช้วิธีเอาภาพลักษณ์กล่อมผู้หญิงให้หลงรักในตัวเขา   จะได้ช่วยเขาขายเยอะๆ (เหมือนตอนที่เราโง่  ช่วยซื้อแอมเวรจากเขาทีะเยอะๆน่ะค่ะ)   อยากเตือนผู้หญิงที่กำลังทำแอมเวร  และอาจถูกหว่านล้อมไปในทางชู้สาวค่ะ  ว่าแอมเวรไม่มีคำว่าจริงใจ  มีแต่ธุรกิจ   การที่คุณคิดว่าเขาดูแลรับ-ส่งคุณถึงบ้านด้วยความจริงใจ    ไม่ใช่ค่ะ     จริงๆเขามีจุดหมายอยู่แล้ว   ว่าเขาทำสิ่งนี้ เพื่อจะได้มาเพื่อสิ่งไหนค่ะ   และผู้ชายแอมเวรที่คุณคิดว่าโสด    บางคนก็มีเมียนอนหัวโด่อยู่ที่บ้านนะคะ (ขนาดแฟนเราทุกคนในแอมเวร   ยังคิดว่าแฟนเราโสดค่ะ)     ถ้าผู้หญิงที่คิดว่าจะได้สามีรวยๆในแอมเวร  คุณคิดผิดค่ะ     จากประสบกาณ์ของดิฉัน ความเป็นไปได้เท่ากับ0ค่ะ   เพราะถ้าไม่มีเมียอยู่แล้วที่บ้าน     ก็สร้างภาพขึ้นมาว่ารวยค่ะ   รถหรูๆที่เห็นขับอยู่ จะโดนยึดวันไหนยังไม่รู้เลยค่ะ     และอีกอย่างเขาไม่ได้มีคุณคนเดียวค่ะ   เขาทำแบบนี้กับหลายคน     แถมเวลาที่เขาพูดถึงดาวไลน์สาวๆหน้าโง่ ที่มาปลาบปลื้มเขา   ถ้าได้ยินแล้วพวกคุณอาจจะร้องไห้ได้ค่ะ (อันนี้พูดจากประสบการณ์ตัวเองเท่านั้นนะคะ  ถ้าไม่เหมาะสมอย่างไร ขออภัยไว้ด้วย    ไม่ได้มีเจตนากล่าวหาผู้ที่ทำธุรกิจนี้ด้วยความจริงใจแม้แต่น้อยค่ะ) จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:35:17

ความคิดเห็นที่ 10 เราเคยขอร้องให้เขาหยุดกุ๊กกิ๊กกับดาวไลน์    แต่เขาก็ไม่ค่ะ   และบอกว่า ถ้าให้เลิกทำแอมเวร  เราเลิกกันดีกว่า   เพราะเขามั่นใจ ว่ายังไงเขาก็ต้องสำเร็จ     สำหรับแอมเวรไม่มีคำว่าล้มเหลว   มีแต่ล้มเลิก ตอนนี้ เขาแสดงอย่างชัดเจนเลยค่ะ  ว่าเราเป็นคนที่น่ารังเกียจ     คบกันไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้   เราเสียใจค่ะ  เสียใจที่ครั้งหนึ่งเคยรักเขาหมดหัวใจ (ตอนนี้ ความรักก็ยังไม่เคยน้อยลง)   ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาขอความช่วยเหลือแล้วเราปฏิเสธ   แต่พอวันนึง คิดว่าเราเป็นตัวขัดขวางความสำเร็จในแอมเวร     และหาแหล่งเงินใหม่ได้แล้ว(ยืมเพื่อน  ยืมญาติ)     ก็ทำกับเรา อย่างกับหมูกับหมาค่ะ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:35:42

ความคิดเห็นที่ 11 และพฤติกรรมนี้มันลามไปถึงบุพการีด้วยค่ะ   วันก่อนแบกสังขารอันโรยราไปเยี่ยมพ่อแม่เขาที่บ้าน(ตัวเขาไม่อยู่ค่ะ)   ท่านก็บอกว่าแรกๆก็ทำใจไม่ได้ที่ลูกเปลี่ยนไปมากขนาดนี้     แต่ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง    ตอนนี้พ่อแม่ก็มีหน้าที่แค่คอยเปิดปิดประตูบ้านเท่านั้น     ตั้งแต่ทำแอมเวรเขาไม่ฟังพ่อแม่เลย     คนที่เขาเชื่อก็เป็นอัพไลน์โน่นค่ะ   ให้หันซ้ายก็หัน  หันขวาก็หัน     เห็นแววตาพ่อแม่เขาแล้วรู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ     ซึ่งเขาบอกกับเราเสมอว่า สิ่งที่เขาทุ่มเททั้งหมดในตอนนี้ ก็เพื่อพ่อแม่จะได้สบายตอนแก่     แต่พ่อแม่บอกเราว่า ไม่เคยหัวงอะไรจากลูกเลย   ต่อให้วันนึงเขาประสบความสำเร็จ  แล้วได้ไปอลาสก้า ไปไหนๆอย่างที่เขาบอก  พ่อกับแม่ก็ไม่อยากไป     ขอแค่ได้กินข้าวพร้อมลูกเหมือนเดิมก็พอแล้ว เวลาเจ็บไข้ ก็อยากให้ลูกพาไปหาหมอบ้าง   พ่อแม่เองก็แก่มากแล้ว   เขาบอกว่าอีกสามปี  เขาจะประสบความสำเร็จได้เป็นเพชร     ซึ่งพ่อกับแม่ ก็ไม่รู้จะอยู่รอถึงวันนั้นได้หรือเปล่า จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:36:00

ความคิดเห็นที่ 12 เราอยากบอกว่า ถ้าอีกสามปีข้างหน้า คุณได้เป็นเพชรอย่างที่คุณบอกไว้จริง  เราก็ยินดีกับคุณด้วย   แต่ถ้าคุณล้มเหลว  เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของคุณเสมอ   ถึงวันนี้ คุณจะมองเราเป็นเหมือนหมูเหมือนหมา ที่น่ารังเกียจตัวนึงเท่านั้นก็ตามที จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:36:26

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วงเดือนที่แล้ว   เขาโทรหาเราประมาณตีสอง   บอกว่ากระเป๋าเงินหาย  ให้เรานั่งแท๊กซี่เอาเงินไปให้    เราก็รีบกุลีกุจออกไป       หวังว่าตอนกลับเขาคงขับรถมาส่ง  แต่เปล่าค่ะ   เขาเหมือนคนไม่มีหัวใจไปแล้ว   บอกว่ากลับเองแล้วกัน เขาง่วงมาก อยากกลับบ้าน     เราก็เสียใจค่ะ  แต่ก็ไม่เคยโกรธเขานะคะ  เข้าใจและพร้อมเป็นกำลังใจให้   เพราะเขาบอกว่าการทำธุรกิจนี้ ต้องการกำลังใจอย่างมาก มันมีเรื่องที่น่าน้อยใจทำนองนี้หลายครั้งมากๆค่ะ  ที่เขาไม่เคยใส่ใจเราเลย จะดูแลก็แต่ดาวไลน์    จะเชื่อฟังก็แต่อัพไลน์ แถมอัพไลน์สอนไม่ให้เขาเห็นคุณค่าของงานประจำเลยค่ะ ถ้าทำงานแล้วไม่มีความสุข ก็ลาออก   ทำแอมเวย์อิสระจะตาย  ประมาณนี้ค่ะ ที่ผ่านมา ก็เคยทะเลาะกันเรื่องแอมเวย์  เขาก็บอกว่า โอเค เขาจะเลิกทำ   แต่พอไปคุยกับอัพไลน์กลับมา  ก็ยืนยันว่ายังไงก็ไม่เลิกทำแอมเวย์ เห็นอัพไลน์ขับรถหรูๆ ก็ซื้อตาม  ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีเงินเลยค่ะ   ต้องไปยืมเงินคนอื่นมาค่ะ (และลึกๆที่รู้  อัพไลน์คนนั้น ก็ไม่มีเงินมากมาย อย่างที่ภาพที่แสดงออกมานะคะ)   และเท่าที่ทราบ  เขาเคยบอกว่า แอมเวย์สอนว่าทำอะไรต้องทำให้ใหญ่   อย่าทำงานเล็ก  ประมาณนี้น่ะค่ะ ตอนนี้ เราก็ยังเป็นห่วงเขา  อยากให้เขากลับมสู่โลกของความจริง ไม่อยากให้เขาหลอกตัวเองอีกต่อไป เพราะคนที่น่าเห็นใจที่สุด คือพ่อแม่เขา ค่ะ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 17:38:37

ความคิดเห็นที่ 15 โอยอ่านแล้วอึ้งเลยค่ะ แฟนเราเคยได้ร่วมงานแต่ไม่เกี่ยวกับแอม..นะคะ โดยเขาไปประมาณช่วยจัดงานพวกนี้แหละ เขายังบอกเราเลยว่า มันเป็นลัทธิ จากคุณ : tipjung เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 18:06:25

ความคิดเห็นที่ 16 พูดตรงๆเลยนะครับ เลิกเถอะครับ แฟนแบบนี้ อีกไม่นานเค้าคงกล้าหลอกหรือโกหกอะไรคุณหรือพ่อแม่มากกว่านี้แน่ อีกอย่าง ในคห.13 ทำไมผมรู้สึกว่าเค้าโกหกว่ากระเป๋าตังค์หาย ผมกลับรู้สึกว่าเค้าเอาเงินเลี้ยงดาวน์ไลน์หมดแล้วมากกว่า จากคุณ : จิบ "ชา" เย็นแทะหนังสือ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 18:15:46

ความคิดเห็นที่ 17 จิตวิทยาสูงส่ง สังคมนี้ไม่เคยต่อว่า ไม่เคยบ่น มีแต่ให้กำลังใจ สังคมแห่งนี้มีแต่ความมุ่งหวัง มีแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สังคมแห่งนี้ ผู้คนจะไม่สนคนรอบข้าง พวกเค้าเข้าใจกันเอง เปรียบเหมือนคุยภาษาเดียวกัน ไปสัมนาเพื่อไปหากำลังใจ  และรับฟังคำด่าคำบ่นและคำถามต่างๆ 108 ที่นั้นจะมีคำตอบให้ทุกกรณี เหมือนกับซ้อมโต้ตอบคำถามต่างๆ ...เก่งมาครับคุณแอม ...แต่พอคุณซื้อเองเพื่ออัพเกรด แอมเต็มบ้าน ....วันนั้นแหละ สมองคุณจะกลับมา และต้องใช้หนี้กันบานนน... เพื่อนผมมีคุณแอมเต็มบ้าน จะขายเครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องใช้อื่นๆ ก็ขายไม่ได้ เพราะราคาคุณแอม..โค.ต.ร แพงงง..เว่อ..มันเกินความจำเป็นเกินไปนะครับ สำหรับสังคม(ส่วนใหญ่)เมืองไทย จากคุณ : kk (kosit211) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 18:20:52

ความคิดเห็นที่ 18 ธุรกิจนี้มันก็ขายตรงเครือข่ายทั่วไป แต่คนที่เข้ามาทำก็ทำตามแนวของตนเองหรืออัพไลน์ บางทางก็ดี บางทางก็ไม่ค่อยถูกไม่ค่อยงาม ผมว่าคุณก้ลองถอยห่างเขาซักพักก็ดีครับ จากคุณ : tempestroad เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 18:25:02

ความคิดเห็นที่ 19 เราก็เคยบอกเค้าค่ะ   ว่าเรื่องรายรับ ไม่พอรายจ่าย ในแต่ละเดือนนั้น เราพอช่วยแบ่งเบาเค้าได้บ้าง แต่ขอให้เขาเลิกทำแอมเวย์เถอะ  เพราะดูแล้วคุณเหนื่อยมาก ไม่มีวันหยุดเลย ไหนจะเรืองเกี่ยวกับศีลธรรม   ที่ต้องหลอกดาวไลน์อีก ให้เขาตั้งใจทำงานประจำที่ทำอยู่ก่อนจะดีกว่า เขาก็หาว่า เราพูดแบบคนเห็นแก่ตัว   เขาทำแบบนั้นไมได้   เพราะถ้าเขาหยุดคนนึง  คนที่เป็นดาวไลน์ต่อจากเขา  คนข้างหลังเขาก็จะล้มกันหมด เขาบอกว่าการทำธุรกิจแอมเวย์นี้ มันคือการช่วยเหลือคน ให้โอกาสคน มันไม่เหมือนงานประจำ ที่ทุกคนต่างเห็นแก่ตัว   ธุรกิจนี้ทุกคนต้องช่วยกัน  มีน้ำใจต่อกัน ก็ไม่เข้าใจค่ะ   ทำไมถึงอยากช่วยคนอื่น  โดยไม่ดูกำลังตัวเองเลย จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 18:29:03

ความคิดเห็นที่ 20 สู้ๆน๊า คุณเลิกเหล้าเช้านี้ต้องกลับมารักตัวเองแล้วแหละ :) จากคุณ : PWF* ~ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:02:24

ความคิดเห็นที่ 21 :-)!!!แอมเวย์ จากคุณ : ple-ck. เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:03:43

ความคิดเห็นที่ 22   ใช่คนที่ตั้งกระทู้ใน thaiseo ด้วยรึเปล่าครับ เห็นบ่นเรื่องเดียวกันเลย จากคุณ : I'm waiting for u. เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:31:41

ความคิดเห็นที่ 23   ตอบให้ แฟนคุณไม่ได้โง่หรอก แต่อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้า มันก็เท่านั้นเอง ไม่ผิดหรอกที่จะคาดหวังอะไรมากมาย เพียงแต่ว่าเมื่อการคาดหวังนั้นมันล้มเหลวเราจะยอมรับได้หรือเปล่า จากคุณ : mak2010 (mak2010) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:34:37

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเสียเพื่อน ก็เพราะ แอมเวย์ นี้แหละครับ และผมคิดว่า เพื่อนคนนี้ ยังคงเสียเพื่อน อีกหลายๆคนครับ จากคุณ : thongchai9309 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:42:16

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบคุณ I'm waiting for u. ไม่ใช่เราค่ะ  คนละคนกันนะคะ   แต่ก็ตามไปอ่านทู้นั้นมาแล้วค่ะ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:46:50

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเคยเป็นคล้ายๆ แฟนของคุณมาก่อนครับ สองปีก่อน ผมมุ่งมั่นกับการทำแอมเวย์ ไม่มีเวลาให้แฟน หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ อัพไลน์ และแม่ของอัพไลน์สอนให้โกหกแม่ ก็ยังเกือบทำตาม ยังดีที่ตัดสินใจเลิกทำแอมเวย์ก่อน ตอนนั้นเชื่อแต่อัพไลน์ แม่กะแฟนพูดอะไรมาไม่ฟังครับ ทะเลาะกับแฟนบ่อยมาก เรียกได้ว่าทุกวัน จากที่เคยมีเวลาให้แฟน กลายเป็นสนใจแต่แอมเวย์ จุดหักเห เกิดขึ้นวันวาเลนไทน์ ผมทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรง เกือบจะเลิกกันเพราะแอมเวย์ (ตอนนั้นผมคิดว่าแฟนผมไม่ส่งเสริมต่อการเจริญก้าวหน้า) หลังจากนั้น มานั่งคิดว่า เรามีความสุขแน่เหรอ ผมเลยถามแฟนผมว่า ความสุขคืออะไร แฟนผมบอกว่า ความสุขคือความพอใจ ความรู้สึกสบายใจ ผมเลยคิดว่าถึงผมประสบความสำเร็จในแอมเวย์ แต่ถ้าคนที่รักผม และคนที่ผมรักไม่มีความสุข มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะดันทุรังทำต่อไป ในเมื่อความสำเร็จในแอมเวย์ ไม่ใช่สิ่งที่คนที่ผมรักต้องการ เพราะเค้าไม่ได้อยากไปอลาสก้า แต่เค้าต้องการให้ผมสนใจเค้า มีเวลาให้เค้า เท่านั้นเอง ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่า ความสำเร็จในแอมเวย์ ไม่ใช่คำตอบของชีวิต และผมรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย หลังจากตัดสินใจเลิกทำ และรู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้ ผมยังมีแฟนคนนี้อยู่ครับ เพิ่มเติมครับ   ผมหมดเงินไปเกือบสามแสน ในระยะเวลาปีเดียว รายได้ของคนที่ประสบความสำเร็จอาจจะดูเยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะครับ แม่อัพไลน์ของผมเป็นระดับไพลินสองผู้สถาปนา ได้เงินเดือนละเจ็ดแปดหมื่น แต่สิ้นเดือนมาต้องมานั่งเครียดว่ารายจ่ายทำไมสูงอย่างนี้ เช่นเดียวกับอัพไลน์ผม  เป็นแพลตตินั่ม ได้ประมาณสองหมื่นกว่าบาท ต้องมายืมเงินผมบ่อยๆ   แถมยังไม่อยากจะคืน  ถ้าไม่ทวง ก็ทำเป็นไม่พูดถึงซะงั้น ธุรกิจสร้างภาพ  ขายฝันครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 53 20:08:30 จากคุณ : หมูน้อย (คุณหมูน้อยตัวขาว) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 19:56:20

ความคิดเห็นที่ 27 จขกท. ช่างเป็นผู้หญิงที่แสนดีมากเลยนะคะ... เพราะรักมากนี่เอง เลยทำให้มองไม่เห็นว่า ควรจะถอยห่างออกมาได้แล้ว แฟนคุณ ไปไกลมากแล้วค่ะ ถึงกู่กลับมาได้...(ซึ่งเราว่ายาก) ก็คงไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ... เราอยากให้ จขกท. รักตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้ค่ะ... หันกลับมาใส่ใจตัวเองให้มากขึ้นดีกว่ามั้ยคะ ?...เราคิดว่าคำแนะนำของเราอาจจะดูใจร้าย และตรงข้ามกับความรู้สึกของคุณมากๆ แต่เรามั่นใจว่า เมื่อวันนึงคุณถอยออกมา แล้วยืนดูอยู่ห่างๆ พอแล้วกับคำว่า เข้าใจ ยอมรับ อดทน และพร้อมจะยอมทำทุกๆอย่างได้เพื่อเค้า....เราว่า ทุกอย่างที่คุณทำ มันมากเกินไปค่ะ !!! จริงๆคุณรู้อยู่เต็มอก ว่าแฟนเปลี่ยนไปยังไง...ถ้าคุณยังหวังว่าเค้าจะกลับมาเป็นผู้ชายคนเดิม คงต้องใช้เวลา เพราะการที่เค้ามาทำธุรกิจนี้ และหลงใหลกับธุรกิจนี้ไปแบบผิดๆ อย่างที่เป็นอยู่ เราเองกลับมองว่า มันอาจจะเป็นจิตใต้สำนึก และความต้องการลึกๆของเค้าที่ถูกฝังมานานอ่ะค่ะ ซึ่งพอถูกกระตุ้นด้วยวิธีการและคำพูดของคนในธุรกิจนี้ มันเลยทำให้เค้าแสดงออกมาอย่างที่เห็น... อย่าไปห้าม หรือไปเตือนอะไรอีกเลยค่ะ...ถอยห่างออกมา ส่วนพ่อแม่ของเค้านั้น เราว่าคุณก็สามารถไปมาหาสู่ท่านได้เหมือนเดิม ไปดูแลเยี่ยมเยียนท่านแทนเค้าบ้างก็ได้ เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นน้ำใจคนละส่วนกันที่คุณสามารถแสดงออกได้ ส่วนแฟนคุณ อย่าให้เค้ามาหยิบยืมเงินอีกเลยนะคะ เพราะว่า เอาไปเท่าไหร่ เราว่าเค้าก็จะไม่มีวันพอ แถมอาจจะไม่ได้คืนอีกเลยก็ได้ สู้ๆๆค่ะ อย่าลืมว่าเราต้องรักตัวเองให้มากๆนะคะ... จากคุณ : Absolute Pink เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:10:05

ความคิดเห็นที่ 28   ผมเคยเห็นแต่ คนเล่าขาน (เพราะไม่เคยเข้าไปทำ) เค้าดี ทำต้องทำ จริงๆ จังๆ หมดเงินไม่น้อยครับ หากจะเอาเป็นงานเป็นการได้ แต่ ประสบการณ์จากธุรกิจประเภทเดียวกัน แต่ คนละบริษัท บอกผมว่า เราคนไทย ชอบการเป็นมนุษย์เงินเดือน มากกว่า เป็นมนุษย์ลอย ครับ !!! จากคุณ : พระรามล่องหน เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:15:33

ความคิดเห็นที่ 29 แฟนคุณจขกท ก็หลงในแอมเวย์ ส่วนคุณเองก็เหมือนจะหลงในแฟนคุณ  ผมว่าคุณเองก็ต้องเข้มแข็ง อดทนให้มากกว่านี้ หันมามองความจริงเหมือนกันว่าสิ่งที่เค้าทำกับคุณมันเป็นอย่างไร ชีวิตคุณเป็นอย่างนี้ ร่างกายเสือมโทรม จิตใจหดหู่  คนอื่นๆ ก็คงเป็นห่วงคุณไม่ต่างกับที่คุณห่วงแฟนคุณเหมือนกัน   กลับมาดูแลตัวเองบ้าง ห่างๆ เค้าออกมา ถ้าคุณไม่สนับสนุนเค้า แล้วห้ามก็ยิ่งไม่ฟัง ก็ต้องปล่อยเค้าให้รู้ด้วยตัวเองล่ะครับ ถ้าวันที่เค้าำประสบความสำเร็จก็ยินดี แต่ถ้าเค้าล้มเหลวแล้วเปลี่ยนแปลงก็ค่อยๆ ช่วยอุ้มเค้าขึ้นมา แต่ไม่ใช่ล้มแล้วก็มาขอเงิน ขอความช่วยเหลือจากคุณให้ช่วยเค้าไปดำเนินการอย่างเดิมต่ออย่างนี้ ก็ไม่ควร ออกมาดูเค้าอยู่ห่างๆ ถ้าเค้าต้องการกำลังใจ ก็คอยพูดคุยได้ แต่ถ้าเรื่องเงิน หรือความช่วยเหลือให้ไปรบกวนผู้อื่น หรือผิดศีลธรรม ก็ไม่ควรไปยุ่งและบอกเค้าไปว่าเราไม่สนับสนุนการกระทำเช่นนี้ เค้าอยากทำธุรกิจเค้าก็ต้องวางแผนและศึกษาการทำให้ถูกต้องนะครับ แล้วก็เป็นกำลังใจให้คุณ จขกท นะครับ ต้องเข็มแข็งให้มาก และคิดถึงตัวเองและคนอื่นๆ ที่รักคุณด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 53 20:27:33 จากคุณ : TWoJciK เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:26:13

ความคิดเห็นที่ 30   ให้ความหวังดีกับเค้าได้ค่ะ แต่อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย จากคุณ : Nodame เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:31:49 A:118.174.219.142 X: TicketID:279976

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าตอนนี้คุณ เลิกเหล้าเช้านี้ ถอยออกมาไกลๆ เลยครับ ส่วนเงินที่ให้เ้ค้ายืม คิดว่าคงต้องตัดเป็นหนี้สูญ สัดส่วน คนที่ประสพความสำเร็จ กับคนที่ทำไม่ไหวแล้วเลิกไปพร้อมกับหนี้และกองสินค้า มันเยอะมากครับ วันนี้ ผู้ชายคนนี้ โอกาสเท่าทุนยังเป็น 1 ในพัน เค้าจะรู้ตัว ตอนที่หนี้ท่วม ไม่เห็นอนาคต คุณต้องบอกตัวเอง กับพ่อแม่ของเค้าว่า ให้รักษาตัวเอง อย่าให้เค้ายืมเงิน ดูแลตัวเองนะครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:51:24

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นกำลังใจให้นะคะ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยค่ะ จากคุณ : ธ.ทหารอดทน เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:54:52

ความคิดเห็นที่ 33   เป็นธุรกิจที่หากินกับความโลภ คนที่ซื้อสินค้าเป็นเพียงแคาสาวกที่นำเงินกำไรไปให้หัวคิว จากคุณ : 112 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 20:55:13 A:125.24.118.134 X: TicketID:227295

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นกำลังใจให้ครับ ผ่านไปให้ได้ครับ สู้ๆครับ จากคุณ : constantine_phy เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 21:05:54

ความคิดเห็นที่ 35 บางคคห.เราให้กิฟท์ไมได้  ก็ขอขอบคุณไว้ณ.ตรงนี้จากใจเลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  สำหรับกำลังใจ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 21:10:19

ความคิดเห็นที่ 36 คุณก็อย่าโง่แบบเขาก็แล้วกัน เป็นผมละแฟนเป็นแบบนี้นะ อย่าหาว่าใจร้าย ทิ้งไปแล่ว จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 21:15:41

ความคิดเห็นที่ 37 พูดตามตรงคุณโชคดีมากที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:03:28

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ เลิกเหล้าเช้านี้คะ... แนะนำให้คุณ "เลิกกับเขาเช้านี้" เลยดีกว่าค่ะ เราว่าคุณทรมานอ่ะ ถ้าความรักมันทำให้ทรมานไม่มีความสุขก็อย่าดีกว่าค่ะ บางทีความสุขของคุณกับของเขาคงจะคนละอย่างกัน ปล.จนบัดนี้เราก็ยังไม่เห็นมีใครทำขายตรงแล้วรวยไปเลยนะคะ เพื่อนเราขายเราตั้งแต่ม.ปลาย ตอนนี้เลิกแล้วค่ะ เหอๆ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:05:57

ความคิดเห็นที่ 39 ขบคุณนะคะ คุณหมึกสด คุณ bookalive (ชอบชื่อใหม่ ที่ตั้งให้เราอย่างมากเลยค่ะ  อ่านแล้วแอบอมยิ้มเลยค่ะ) กิฟท์เราหมดแล้วนะคะ   เลยให้กิฟท์ไม่ได้แล้วจ้า จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:10:21

ความคิดเห็นที่ 40   ขอโทษนะ อ่านแล้วคิดว่าทำไม จขกท โง่จัง แต่ก็เข้าใจแหละว่ามันรักมาก แต่ทางที่ดีรักตัวเองด้วยนะไปเยี่ยมพ่อแม่เค้าก็นึกถึงพ่อแม่ที่ให้กำเนิดตัวเองบ้างว่าจะรู้สึกยังไงลูกสาวโดนผู้ชายหลอกแบบนี้ ส่วนหมอนั่นก็ปล่อยมันไปเหอะให้มันเจ๊งนู่นแหละถึงจะสำนึก อ้อ แล้วถึงตอนนั้นมันก็คงจะมาตีหน้าเศร้าขอยืมเงินอีกก็อย่าโง่ไปให้มันยืมอีกล่ะเก็บเงินไว้เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ดีกว่า ขอโทษที่บางคำอาจจะแรงไปนะแต่ก็อยากให้คิดได้จริงๆ จากคุณ : แมว เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:10:54 A:125.24.6.240 X: TicketID:261906

ความคิดเห็นที่ 41 แอมอีกแล้ว ที่ทำงานก็มีน้องหลงกลเจ้าในเอมิ star บอกว่าได้เป็นแสน โหถ้าได้แบบนั้นใครจะบอกคุณ เขาอยากได้ ดาวไลน์ ต่างหาก ได้แต่หัวเราะในใจ จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:16:03

ความคิดเห็นที่ 42 - คุณแมว ไม่โกรธเลยค่ะ  ขอบคุณ คุณแมวอย่างมากด้วยซ้ำ เพราะเวลาไม่สบาย ถ้าอยากหายก็ต้องทานยาที่มันขมๆน่ะแหละค่ะ  หายไวนะคะ -คุณcredor เท่าที่ทราบแฟนเราก็เน้นหาดาวไลน์   ไม่เน้นขายสินค้านะคะ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:31:52

ความคิดเห็นที่ 43   เราว่าตลอดเวลาที่เจ้าของกระทู้พิม หมายถึงอยากระบายแต่ยังทำใจเลิกไม่ได้  คิดซะว่าขนาดคุณยังทำใจเลิกกับเค้าไม่ได้ ก็คงจะพอๆกับเค้าทำใจเลิกขายแอมเวย์ไม่ได้นั่นแหละค่ะ ขอให้เจ้าของกระทู้หูตาสว่าง พอๆกะแฟนของคุณนะคะ จากคุณ : กำลังใจ (Magnii) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:36:47

ความคิดเห็นที่ 44 ท่าทางแฟนคุณกู่ไม่กลับแล้วค่ะ เลิก ทำใจ หาใหม่เถอะค่ะ จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:40:23

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าทำได้จริงๆแบบนั้นทุกคนนะ   ปานนี้คนในประเทศเรารวยล้นฟ้ากันไปหมดแล้วสิครับ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:59:00

ความคิดเห็นที่ 46 อย่าว่าเขางมงายกับธุรกิจขายตรงเลยครับ คุณเองยังงมงายกับเขาเลย โทษนะ พูดตรงไปนิด จากคุณ : Just wonder เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 23:01:22

ความคิดเห็นที่ 47 แอมเวย์มันอะไรหนักหนาเนี่ย? ชักอยากรู้แล้วสิ ตอนที่เพื่อนเรา(ผช.)ที่สนิทกันมาก ลองเข้าไปทำ เขาก็พูดแบบนี้เลย... "สังคมแอมเวย์มีแต่คนจริงใจ พูดอะไรก็มีแต่คนรับฟัง รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น ฯลฯ" แล้วเขาก็พูดแต่เรื่องแอมเวย์เนี่ยแหละ ว่าจะต้องสำเร็จอย่างนั้นอย่างนี้ มีแอบเถียงกันนิดหน่อย (ไม่รุนแรง) ในเรื่องที่เราไม่เห็นด้วยกับเขา ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดแอมเวย์ เราทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากดูอยู่ห่างๆ เพื่อนคนอื่นก็เริ่มตีตัวออกห่างเขา แต่โชคดี หลังจากผ่านไปปีนึงได้ เพื่อนเราก็เลิกทำ (จำสาเหตุไม่ได้แล้ว) เราว่าตอนนี้แฟนคุณไม่ฟังคุณหรอกค่ะ ถ้าเขาคิดได้เองเมื่อไหร่ เขาจะเลิกไปเองค่ะ คุณรักตัวเองให้มากๆดีกว่า ^___^ อ้อ...เราเห็นด้วยกับ คห.บนๆมากเลย คุณเองก็ต้องเลิกงมงายกับ ผช.คนนี้ด้วยนะคะ ทุกคนเตือน เพราะความหวังดีนะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 53 23:12:11 จากคุณ : SisterNO.1 เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 23:04:25

ความคิดเห็นที่ 48   จขกท.ไม่โง่หลอกครับ โง่กับรัก ไม่เหมือนกันแต่เข้าอาการเดียวกันได้-.- เห็นคนพูดบ่อยๆเรื่องแอมพี่สาวผมก็พูดให้ฟังด้วย แต่ไม่เคยเจอกับตัว ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่นำมาบอกเล่าครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 53 23:17:13 จากคุณ : Gecko_navigate เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 23:14:07

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่อยากจะบอกว่าอ่านไปกรี๊ดไป เพราะเราเคยเป็นคนแบบ จขกท รักมาก ทุ่มเท ยอมทุกอย่าง แต่วันนี้เรารักตัวเองแล้ว อยากให้ปล่อยเค้าไป ตามทางที่เค้าเลือก วันนึงเค้าคงจะรู้ว่าอะไร ที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตเค้า แต่คุณก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตคุณ คนเราต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ จากคุณ : yellobat เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 23:24:22

ความคิดเห็นที่ 50 เพราะเรากลัวคนรอบข้างจะไม่คบนี่แหละค่ะ ถึงรายได้ดีขนาดไหน เราเลือกเก็บมิตรภาพไว้ดีกว่าค่ะ ให้ตายก็ไม่ทำหรอก จากคุณ : โอวันติลเย็น เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 00:20:28

ความคิดเห็นที่ 51 จขกท ครับ ผมเข้าใจคุณ ทั้งความโกรธที่มี ความเจ็บปวด และความรักที่ยังตัดไม่ขาด แต่ผมเห็นว่าการ "เลิก" กัน อาจเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยปลุกแฟนคุณให้ตื่นขึ้นมา และช่วยทำให้คุณมีความเคารพตัวเองอีกครั้ง จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 00:32:51

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณทุกท่านนะคะ    ตอนนี้กิฟท์เราหมดแล้วนะคะ   กำลังใจ (Magnii) ยอมรับเลยค่ะ  ว่าเหมือนมันผูกพันกันน่ะค่ะ   แต่จะพยายามทำใจให้เร็วที่สุดค่ะ เจ๊วรรณา   ขอบคุณค่ะ   แต่ท่าทางจะหาลำบากอยู่นะคะ อินจอง     เคยพูดกับเขาทำนองนี้ละค่ะ  เขาก็บอกว่า ก็เราไปถามจากคนที่ไม่สำเร็จ   เราก็จะได้แต่คำตอบแบบนี้ คือแฟนเรา เขากู่ไม่กลับแล้วน่ะค่ะ Just wonder   ก็ถูกของคุณจริงๆละค่ะ   เง้อ!ของแบบนี้ บางทีคนอื่นมองเห็นแต่เรากลับมองไม่เห็นซะงั้นค่ะ SisterNO.1   ขอบคุณนะคะ  ตอนนี้พยายามออกตัวสุดฤทธิ์ค่ะ   เพื่อจะต่อสู้กับใจตัวเองค่ะ Gecko_navigate    แถมอาการหนักด้วยละค่ะ yellobat     เราจะจำไว้เตือนตัวเองเลยค่ะ ว่าคนเราต้องเดินไปข้างหน้า   ทุกชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า โอวันติลเย็น เขาไม่คิดแบบนี้ค่ะ  เขาคิดแค่ว่าวันนึงเมื่อเขาสำเร็จ ทุกคนจะต้องเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาเขาค่ะ Mr. Prodigy   คิดว่าคงต้องเลิกให้ได้เหมือนกันน่ะค่ะ   เพราะสิ่งที่เขาทำไว้  มันไม่พื้นที่ให้เราเจ็บได้อีกแล้วค่ะ   มันด้าน ชาชินแล้วค่ะ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 00:59:35

ความคิดเห็นที่ 53 รักตัวเอง รักครอบครัวให้มากๆดีกว่าค่ะ อย่าไปยึดติดกะผู้ชายคนนี้อีกเลย ยังไงมั่นใจว่าคุณต้องอยู่ได้ และเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายคนนี้อยู่เลย เอาเวลาไปหาความสุขให้ตัวเอง อย่าจมอยู่กับความทุกข์นะคะ Life is too short  enjoy it !!!!!!!!!! จากคุณ : aumeim24 (aumeim) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 01:18:52

ความคิดเห็นที่ 54 เอ่อ หลงแอมขนาดไม่ตื่นเลยแบบนี้  กรรมเวรแท้ๆ สติปัญญามืดบอดไปไหนหมด จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 01:22:53

ความคิดเห็นที่ 55 - aumeim24 (aumeim) ขอบคุณนะคะ   ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ในชีวิตเหรอคะ   เราคิดว่า เราจะมีเงินเหลือมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ - จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix พูดแบบนี้กับเขาไม่ได้นะคะ   เขาหาว่าเราต่างหาก ที่ไม่ฉลาด  ไม่รักความก้าวหน้า จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 01:36:10

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่เห็นมีใครที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจประเภทนี้มาแลกเปลี่ยนเลยครับ? ทุกวันนี้ ยังขายกันได้อยู่อีกเหรอครับ? จากคุณ : Thomas (vatis) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 01:45:47

ความคิดเห็นที่ 57   อ่านไป อ่านมา คิดถึงเพื่อนเก่าคนนึงซะงั้นอ่ะ... ตอนนี้ก็แยกย้ายทางใครทางมันแล้วล่ะครับ จากคุณ : rotero เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 01:53:07

ความคิดเห็นที่ 58 #26 ขอถามเป็นความรู้หน่อย ไอ้ที่ว่ารายได้เยอะ ระดับ เพชร พลอย ไพลิน อะไรนั่นอ่ะ มีเงินเดือนเยอะ แล้วรายจ่ายเยอะตาม อะไรคือรายจ่ายที่มันเยอะขึ้นเหรอ เพราะไปชวนคนอื่นที่โง่ทีหลังให้มารับเคราะห์ต้องตามหาดาวน์ไลน์แทนแล้วนิ อธิบายหน่อยครับ จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:10:48

ความคิดเห็นที่ 59   ไม่รู้ว่าจะแนะนำ จขกท ยังไงนะคะ แต่ว่าเข้าใจความรู้สึกค่ะ เราก็เคยทำแอมเวย์ค่ะ นานมากๆ แล้ว จนเราเริ่มจะลิมๆ ไปบ้างละ เราเป็นคนแบบที่แฟน จขกท เป็นค่ะ คือทุกลมหายใจเข้าออก เป็นแอมเวย์ และเราก็ติดกับดักแอมเวย์ เพราะดันไปหลงอัพไลน์ที่หว่านเสน่ห์สุดๆ เทคแคร์ ไปรับไปส่ง ทรีตเราเหมือนเป็นคนพิเศษ แต่ก็ทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นทุกคน และเราก็ทุกข์เพราะอัพไลน์คนนี้มากๆ ค่ะ ความรู้สึกตอนที่ทำแอมเวรเต็มตัวนี่ คือ ใครพูดอะไรไม่ฟังหรอกค่ะ เราจะมองว่า ให้ข้ามคนที่ไม่เห็นไปด้วยไปเลย แล้วพอเราสำเร็จ คนพวกนี้เค้าก็จะเข้ามาหาเราเองค่ะ คือให้มองแต่ปลายทางความสำเร็จเท่านั้น เส้นทางที่ต้องผ่าน ปัญหาที่ต้องเจอ ไม่ต้องไปพูดถึงค่ะ เราจะไม่บอกให้คุณ จขกท ต้องเลิก หรือตัดใจจากแฟนคุณนะคะ เพราะเราเคยอยู่ในสภาวะนั้นมาแล้ว แอมเวย์ทำให้คนเปลี่ยนได้ จริงๆ ค่ะ หน้าด้านขึ้น (เพราะจริตที่ถูกสอนมาว่า อย่ามองที่อุปสรรค ให้มองความสำเร็จอย่างเดียว และคิดบวก) แต่เนื้อแท้ของคนๆ นั้น แท้จริงแล้วไม่เปลี่ยนค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เค้าหลุดจากแอมเวย์ได้ เค้าจะรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เค้าทำ มันจะรู้สึกเหมือนเป็นยุคมืดที่ ทำไมตอนนั้น เราทำไปได้นะ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับแฟนคุณ แฟนคุณซึ่งกำลังลุ่มหลง ตาบอดอยู่ เค้าจะมองคุณเป็นตัวกีดขวาง ความเจริญ และตัวถ่วงในชีวิตเค้าแน่นอนค่ะ อย่างที่คุณพูดมาน่ะ ใช่เลยค่ะ คือในหัวเค้าจะคิดแต่จะเป็นเพขร จะประสบความสำเร็จ ที่บอกว่าจะเป็นเพชรใน 3 ปี ก็คือมันเป็นการตั้งเป้าหมายค่ะ เป็นการประกาศเป้าหมายออกมาให้คนรับรู้ เพื่อที่ให้เป็นแรงขับว่าต้องทำได้จริง ความรู้สึกของเราในตอนนั้นนะคะ เราชอบค่ะ ถ้าคนนอกแอมเวย์ โดยเฉพาะคนใกล้ชิดเรา สนับสนุนเราค่ะ แต่ถ้าคนใกล้ชิดแอนตี้นะคะ เราจะรู้สึกแบบทำไมนะ ทำไมเค้าไม่สนับสนุนเรา ถ้ารักเราจริง ต้องสนับสนุนเรา ต้องช่วยเหลือเรา คนไหนไม่เห็นด้วยกับเรา ให้ตัดทิ้งไปเลย ตอนนั้นไม่รู้ตัวนะคะ แต่ตอนนี้มาย้อนคิด โหหหหห เราคิดแบบนั้นได้ไงเนี่ย คือแอมเวย์ ทำให้คนสูญเสียจิตวิญญาณความเป็นคนมากๆ ค่ะ ทำให้หมกมุ่น ขาดสุนทรีย์ภาพในการดำเนินชีวิตด้านอื่นไป อันนี้เราเขียนเพื่อให้ จขกท เข้าใจความรู้สึกของคนที่กำลังลุ่มหลงตามัว มืดบอด หมกมุ่นอยู่แต่กับแอมเวยนะคะ ถ้าถามว่าแล้วทำไมตอนนนั้นหลุดออกมาได้ยังไง เราขอบอกว่าเราไม่ได้ตังใจจะหลุดหรอกค่ะ อย่างที่เราพูดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวด้วย และเราก็เป็นทุกข์ คงทุกข์มาก จนไ่ม่รู้จะทำยังไงแล้ว มีวันนึง มันเริ่มต้นมาจาก มันมีกิจกรรมที่ทำให้เราต้องไปทำอย่างอื่นนอกจากแอมเวย์ คือบังเอิญไปเดินห้าง เดินแบบเดินเที่ยวจริงๆ น่ะค่ะ เป็นชีวิตที่รีแลกซ์ แล้วไม่ได้ข้องเกี่ยวกับแอมเวย์ซักวันนึง มันรู้สึก ปลอดโปร่งดีน่ะค่ะ สบายๆ เหมือนไม่ได้มาใช้ชีวิตแบบนี้นานแล้ว ก็เริ่มรู้สึกตัวค่ะ ว่า happy จัง หลังจากที่อยู่ในแอมเวย์แล้วรู้สึกมีแต่ความทุกข์ จากนั้นก็เริ่มหยุดเซ็นเตอร์ค่ะ ไม่ไปเซ็นเตอร์ แอมเวย์มันเหมือนยาเสพย์ติดนะคะ คือจะรู้สึกผิด เวลาไม่ได้ไปค่ะ แต่ตอนนั้น คือคิดเอง ตัดสินใจเอง ว่าจะเลิกค่ะ เราใช้เวลา ครึ่งค่อนปีนะคะ กว่าจะหายขาดจากโรคแอมเวย์ลิซึ่ม เราบอกได้เลยนะคะ ว่าแฟนคุณ จขกท ไม่เลิกง่ายๆ หรือไม่มีวันเลิกแน่นอนค่ะ ถ้าตัวเค้าเองไม่ได้มีความรู้สึกอยากเลิก เหมือนเรา ถ้าตัวเค้าเองไม่ได้พบกับปัญหาในแอมเวย์ถึงขีดสุด เค้าจะไม่เลิกค่ะ เพราะงั้น คุณ จขกท เราบอกได้คำเดียวว่า ทำใจ ค่ะ เราเห็นด้วยกับหลายความเห็น ถ้าเค้่ามายืมเงิน อย่าให้ยืมเด็ดขาดค่ะ เพราะเงิน จะต่ออายุชีวิตแอมเวย์เค้าค่ะ แฟนคุณ จขกท ใช้วิธีที่แย่และเสื่อมทรามมากๆ ค่ะ ในการใช้กลยุทธ์เกี่ยวกับการหว่านเสน่ห์กับดาวน์ไลน์ในองค์กร ตอนเราอยู่แอมเวย์ เค้ามีกฎเลยค่ะ ว่าห้ามอัพไลน์เป็นแฟนกับดาวไลน์ ถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จ หรือห้ามมีเรื่องชู้สาวค่ะ เพราะไม่่งั้น พังค่ะ กลยุทธ์แบบแฟนคุณ จขกท เป็นวิธีการทำกรรมที่ได้ผลชงัดที่สุดค่ะ เรามีทางเลือก 2 ทางสำหรับคุณนะคะ 1. สนับสนุนเค้าเต็มตัวค่ะ คือ หมายถึงลงไปทำร่วมกับเค้าเลย เป็น partner ทำธุรกิจกับเค้า ถ้าคุณรักเค้่ามากพอ ที่จะยอมทำแอมเวย์กับเค้าค่ะ เราเห็นหลายคู่แล้ว เป็นแฟน เป็นสามีภรรยา เค้าก็ทำด้วยกันค่ะ และชีวิตเค้าก็ไม่บาดหมาง อยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข ก็เป็นคู่สามีภรรยา หรือคู่แฟนแอมเวย์ นั่นแหล่ะค่ะ ช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไปเซ็นเตอร์ด้วยกัน ไปขายด้วยกัน ไปหาดาวไลน์ด้วยกัน แล้วคุณกับเค้าจะรักกันมากขึ้นเพราะร่วมทุกข์ร่วมสุข แชร์ประสบการณ์เดียกัน 2. เลิกกับเค้าซะ ตัดเนื้อร้ายนี้ทิ้ง และทำชีิวิตนี้ให้มีความสุข ชีวิตนี้สั้นค่ะ ไ่ม่กี่ปีก็ผ่านพ้นไปแล้ว เพราะงั้นทำให้ชีวิตนี้อยู่อย่างมีความสุขดีกว่าค่ะ เรามีแค่ 2 ทางเลือกนี้ให้คุณค่ะ คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะหาทางเลือกแบบครึ่งๆ กลางๆ ได้เลย เพราะนั่นคือทางเลือกที่คุณทุกข์ที่สุดค่ะ ลองดูนะคะ ตัดสินใจให้เด็ดขาด ว่าคุณจะอยู่ในกลุ่มไหนค่ะ อย่าไปเสียดายกับความน่ารักของเค้าค่ะ จงอยู่กับความเป็นปัจจุบันของเค้านะคะ และให้ความสำคัญกับตัวเองที่สุดค่ะ จากคุณ : Meiko (Meiko Miyasawa) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:15:17

ความคิดเห็นที่ 60 เราอ่านประโยคนี้แล้ว แต่เราก็ยังพยายามไม่หวั่นไหว กับความเปลี่ยนไปของเขา   พยายามบอกตัวเองว่า   เราจะไม่เดินแซงเขาไปไหนทั้งนั้น (ทั้งๆที่ด้วยศักยภาพเราตอนนี้    แน่นอนว่าเราทำได้ค่ะ)   เราบอกตัวเองว่า  ช่างเถอะทุกคนล้วนมีโอกาสทำผิดทั้งนั้น     และเราจะยอมเป็นผู้หญิงโง่ๆ ที่เดินตามหลังเขาอยู่แบบนี้   เผื่อวันนึงนึงเขาล้มเราจะได้คอยประคองเขาได้   เมื่อวันนึงเขาโดนผู้หญิงที่แอมเวร(คนที่เขาบอกว่าเป็นผู้ญิงไม่ดี)ทิ้งไป    เขาก็จะยังมีเรา ยืนอยู่ข้างๆเขาเหมือนเดิม     เราพร้อมจะเป็นคนเดิมให้เขาเสมอ     แต่ที่น่าเศร้าคือ ยิ่งหวังดี ห่วงใยเขามากเท่าไหร่     เขายิ่งเห็นเป็นตรงกันข้าม   มองว่าเราจ้องจับผิด  น่าเบื่อ น่ารำคาญ (สาบานได้ว่าเราทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆค่ะ) .......................................................................... ไม่ต้องไปรออะไรแล้วค่ะ คุณทำหน้าที่ของคุณคุณไม่ต้องห่วงคนนี้แล้ว สงสารตัวเองบ้างเถอะ นะคะ อย่าเอาจิตไปผูกกับเขามากเลยค่ะ รักตัวเองนะคะ เป็นห่วงจากใจจริงค่ะ จากคุณ : ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:18:34

ความคิดเห็นที่ 61 อยากให้ กิฟคุณMeiko (Meiko Miyasawa) ชอบมากเลยค่ะถูกใจจจ จากคุณ : ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:22:26

ความคิดเห็นที่ 62 #26 ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นก็ - ค่าเช่าสถานที่ของตัวเอง (พวกตำแหน่งสูงๆจะต้องมีหน่วยหรือทีมของตัวเองครับ ต้องจ่ายค่าสถานที่) - ค่าเสื้อผ้า (พวกสูทราคาแพงทั้งหลาย เวลามีประชุมหรือไปไหนต้องดูดีไว้ก่อน) - ค่าน้ำมันรถ (พวกนี้ต้องมีรถราคาแพงๆขับครับ ไม่งั้นคนอื่นไม่เชื่อถือ) - ค่าอาหาร(ของตัวเอง+ลูกทีม+เหยื่อ) - ค่ามือถือ - ค่าไลฟ์สไตล์ระดับไฮคลาส - ค่าเอกสารจิปาถะ - ค่ายา(บางคนป่วยเพราะทำงานเยอะ) และ - ค่าของที่ต้องซื้อรักษายอดและตุนเพื่อแอบขาย จากคุณ : จิบ "ชา" เย็นแทะหนังสือ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:24:24

ความคิดเห็นที่ 63 ลืมอีกอย่าง - หนี้มหาศาลที่ต้องจ่าย จากคุณ : จิบ "ชา" เย็นแทะหนังสือ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:25:31

ความคิดเห็นที่ 64   ความรัก....ย่อมเกิดจาก 2 คนมีใจตรงกัน... ปล่อยเค้าไปตามทางเถอะค่ะ... ...วันนี้ดิชั้นได้ตอบปัญหารักไป 2 cases แล้ว...สำหรับ case ของคุณ...ณ.เวลานี้...แฟนคุณได้มองความอาทรของคุณเป็นแค่ "หน้าที่และผลประโยชน์"...คุณยังทนอยู่กับ..รักๆลมๆแร้งๆอีกหรือค่ะ?... ...การมีความรัก...มีเพื่อเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน...แต่ความรักของคุณเป็นการให้เพียงฝ่ายเดียว....เพื่ออะไร?... เพื่อให้เค้าสำนึกว่าคุณยังอยู่กับเค้าในนาทีสุดท้ายหรือค่ะ..อย่าใช้เงินเพื่อแลกกับความรักเลยค่ะ...คุณเองมีแต่หมดตัว... ผู้ชายประเภทนี้สำนึกดีเฉพาะเดือดร้อนเท่านั้นเอง..ไม่ได้เห็นคุณค่าของคุณเลย...ปล่อยให้เค้าไปขอความช่วยเหลือ...กับคนประเภทเดียวกันเถอะค่ะ... ...ก่อนจะมีรักครั้งไหนๆ...คุณจะต้องรักตัวเองมากเกินร้อย...และรักครั้งหน้าถึงมันจะหอมหวานจนถึงนาทีสุดท้าย...ก็อย่าให้มันมากเกินกว่ารักตัวคุณเอง... ...วันนี้ได้พูดคำๆนี้ไปแล้ว...และขอพูดอีกครั้งนึงว่า..."หน้าที่การงาน..หากคุณตั้งใจและทุ่มเทกับมันมากเท่าไหร่..ตัวคุณก็มีแต่ความก้าวหน้า...แต่ความรัก..ต่อให้คุณทำดีแทบตาย..มันก็ยังสามารถย้อนกลับมาทรยศคุณได้เสมอ " เพราะฉนั้น...แบ่งช่องว่างเพื่อรักตัวคุณด้วย..ไม่ว่าความรักครั้งหน้าจะเป็นอย่างไร..ส่วนรักครั้งนี้....คุณรู้อยู่แก่ใจทุกๆอย่าง.. ..ดิชั้นอยากเห็นคุณตัดใจจากผู้ชายคนนี้ให้เร็วที่สุด...การรักตัวเองเป็นสิ่งที่คุณขาดหายไป...คุณต้องเติมมันให้เต็ม... จากคุณ : พิมดาว เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:36:44 A:41.6.227.115 X: TicketID:225313

ความคิดเห็นที่ 65   ช่วยปักหมด กระทู้โหวต นี้ด่วนๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ........ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:37:18 A:124.121.38.71 X: TicketID:234221

ความคิดเห็นที่ 66 ผู้หญิงเป็นแบบนี้ักันเยอะจัง ถ้าเค้าไม่ดี เค้าไม่ใส่ใจ เค้ามองไม่เห็นคุณค่า แถมยังมีคนอื่น เค้ามองเห็นแต่ประโยชน์ที่จะได้จากคุณ จะคบไปทำไมคะ ส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณต้องเสียใจ น้อยใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะคุณเลือกเองนะคะ ลองคิดดู จากคุณ : love2loveU เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:57:02

ความคิดเห็นที่ 67 มองยาวๆ รั้งไว้ทำไมให้เจ็บ ตัดไปให้จบๆ ไปดีกว่า ผ่านเวลาไปอีกช่วงหนึ่ง คุณมองย้อนมา จะมีความสบายใจกว่านี้ ไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องลงทุน ยกเว้น ความรักอันบริสุทธิ์จาก พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง ที่เกิดขึ้นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 03:10:36

ความคิดเห็นที่ 68 มีคำสอนของพระพุทธองค์ ในเรื่องมงคล 38 ประการ กำหนดเอาไว้ว่า ก้าวแรกของความเจริญ เริ่มต้นที่เพื่อน มงคลข้อที่ 1 ไม่คบคนพาล มงคลข้อที่ 2 คบบัณฑิต คนพาล คือคนที่เอารัดเอาเปรียบ ล่วงเกินผู้อื่นทั้งกาย วาจา และ ความคิด ถ้าคุณยังมีคนพาลเป็นเพื่อน............... คนที่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ล่วงเกินผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยความคิด คำพูด หรือ การกระทำ คุณจะไม่มีวันได้สัมผัสกับก้าวแรกของ"ความเจริญ"ในชีวิต อ้อ............................... การล่วงเกินตนเอง เบียดเบียนตนเอง(ทางกายและใจของตนเอง) ก็บาปนะครับ อะไรที่ทำแล้ว เป็นการเบียดเบียนตนเอง เลิกได้เลยครับ ( เช่น การดื่มสุรา ฮา........................ ) จากคุณ : ครูต้อ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 04:10:51

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 59 ครับ แต่ขอเสนออีกทางเลือกนึงสำหรับจขกท. คือผมมองอีกมุมนึง มองในมุมที่ผมเคยผ่านมาก่อน ถ้าตอนนั้น แฟนผมเค้าไม่อดทน แล้วบอกเลิกผม อย่างที่หลายๆ คนในกระทู้นี้แนะนำจขกท. แล้วภายหลังผมมีเหตุให้เลิกทำแอมเวย์ ไม่ว่าจะคิดได้เองหรือด้วยเหตุปัจจัยอื่น ผมว่าคนที่น่าสงสารที่สุด ณ ตอนนั้น คงเป็นผมครับ เช่นเดียวกับแฟนของจขกท. เมื่อคืนเล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกว่าถ้าแฟนจขกท.เลิกทำเมื่อไร คนที่น่าสงสารที่สุด ก็คือเค้านั่นแหล่ะ ที่จะทั้งเสียใจและเสียดาย จขกท. ถ้ายังรักและผูกพันกับแฟนอยู่ อาจจะไม่ต้องถึงกับบอกเลิกก็ได้ครับ เพียงแต่ถอยห่างออกมา รอดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ คอยเป็นกำลังใจให้ แต่ไม่ต้องช่วยเหลือเรื่องเงินนะครับ ถึงวันนึงหากเค้าคิดได้ เค้าจะกลับมาหาคุณ แต่ถ้าวันเวลาผ่านไปจนถึงระดับที่คุณทนไม่ได้จริงๆ คุณค่อยเลิกก็ได้นี่ครับ ฟังดูอาจจะบอกให้คุณอดทนรออะไรก็ไม่รู้ แต่อีกแง่นึงก็เหมือนเป็นการให้โอกาส และให้เวลาเค้านะครับ ไม่ทราบว่าแฟนของคุณเค้าทำมานานหรือยัง ถ้าผ่านไปสักปีนึง แล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ เค้าอาจจะค่อยๆคิดได้เองก็ได้ครับ ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับตัวเค้า แต่ถ้าเลยสองปีไปแล้ว ยังอยู่ในอาการหลงอยู่ ก็ปล่อยเค้าไปเถอะครับ จากคุณ : หมูน้อย (คุณหมูน้อยตัวขาว) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 06:17:43

ความคิดเห็นที่ 70 มาให้กำลังใจคร้าบ จากคุณ : Fatalbringer เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 06:52:27

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านแล้วอึ้งครับ... คล้ายผมเลย แต่ผมไ่ม่ได้ทำคุณแอม หรือขายตรง... ผมทำงานบริัษัท บริษัทที่ผมอยากทำมา ตรงสาขาที่จบมาเป๊ะ วันแรกที่เข้าทำงาน ตั้งธงเลย...ผมจะเ็ป็นใหญ่ที่สุดในลูกจ้างที่นี่ หลังจากนั้นเวลาทั้งหมด....อยู่กับงาน แฟนโทรมา ถ้าติดลูกค้าไม่รับ ถ้าคุยงานกะเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้า ไม่รับ เวลาน้อยลง... จน...ผมต้องเลิกกับแฟนผมไป... แต่ยังดีที่ฟ้ายังมีตา ให้โอกาสคนแบบผม แฟนผมกลับมาจากเรียนต่อ... ผมก็คุยๆ จนได้เธอกลับมา หลังจากนั้น...ผมก็รู้ว่าต้องเลือกใคร แฟนผมบอกว่าอยากแต่งงาน เมื่อปลายปีที่แล้ว... ต้นเดือนมีนา ผมลาออกจากงาน... มาทำธุระกิจส่วนตัว...ที่ค่อนข้างไปได้ดีระดับหนึ่ง ปลายปีนี้...เราจะแต่งงานกันครับ   มาเป็นกำลังใจให้นะครับ หวังว่าเค้าคงคิดได้ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 07:17:36 จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:17:00

ความคิดเห็นที่ 72 อยู่เมืองไทยสบายที่สุดในโลกแล้ว จะไปทำเฮียร์อะไรวะ อลาสก้า? นั่นคือสิ่งที่ผมถามตัวเอง เมื่อได้อ่านเรื่องของคุณ จขกท. ครับ จากคุณ : Silent_Jealouser เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:26:19

ความคิดเห็นที่ 73 ขอเป็นกำลังใจให้ จขกท นะครับ ไม่นึกว่า MLM จะเปลี่ยนคนได้ขนาดนี้.... น่ากลัวจริงๆ เป็นระบบที่เลวร้ายมากๆ... จากคุณ : Birdysiam เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 08:54:32

ความคิดเห็นที่ 74 แฟนกำลังทำค่ะ ถ้าให้บอกตามตรงเราเป็นคนหนึ่งซึ่งต่อต้านธุรกิจกลุ่มนี้อยู่พอสมควร แต่ด้วยอยากให้เกียรติและเคารพในการตัดสินใจของเค้า ก็ได้แต่บอกว่าทำโน่นดีกว่าไม๊ ทำนี่ดีกว่ารึเปล่า เค้าก็เฉยๆ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันค่ะ เริ่มไปเข้าเซ็นเตอร์ ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 วัน มีครั้งนึงเราขับรถไปจตุจักรแล้วจะกลับมาหาแม่ที่ต่างจังหวัด ไม่ไกลจากกรุงเทพ บอกว่าไปด้วยกันไม๊ ไปบ้านแม่กัน เค้าบอกว่า เดี๋ยวแวะไปช่วย ยกของ ซื้อของ แต่ไม่ไปด้วยนะ จะเข้าไปฟังแอมเวย์ ตอนนั้นน้ำตาคลอเลยค่ะ กด วางสายไป บอกแค่ว่าไม่ต้องมาหรอก ยกเองได้ จากวันนั้นยังไม่เคยคุย เคยถามเค้า เรื่องนี้เลย อนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : PiG A Pui เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 09:50:09

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามาให้กำลังใจคุณจขกทนะคะ คุณอยู่กับผู้ชายคนนี้แล้วมีความทุกข์มากกว่าความสุข ก็ตัดใจเดินออกมาจากชีวิตของเค้าเถอะค่ะ อาจจะเจ็บปวดในตอนนี้แต่จะอาจจะเป็นผลดีในอนาคตนะคะ อยากให้คุณนึกถึงตัวเองให้มากๆ รักตัวเองให้มากๆ จากคุณ : Voici_Grace เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:18:52

ความคิดเห็นที่ 76 เท่าที่ดู เจ้าของกระทู้ก็คงมีคำตอบในใจ  เอาไว้แล้ว เพียงแต่  กำลังทำใจ เท่านั้น จากประสบการณ์คนใกล้ตัวเจออะไรคล้ายๆกัน   แนะนำว่า ถ้าคิดจะช่วย ให้ช่วยเท่าที่ช่วยได้ก็พอครับ อย่ากู้หนี้ ยืมสินมาช่วย เพราะคนเวลาจะเลิก มันใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่หนี้ที่ก่อมาเพื่อช่วยอดีต คนเคยรักนั้น  ใช้เวลาอีกหลายปีเลยครับ กว่าจะใช้หมด ดังนั้น รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีครับ   ตอนนี้ น้องอาจไม่เข้าใจหลักการนี้ แต่นานๆไปจะเข้าใจเองครับ จากคุณ : รถไฟสายใต้ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:04:02

ความคิดเห็นที่ 77 ผมแนะนำน่ะครับ 1. คุณลอง ไปศึกษา ตัวแผนธุรกิจดูน่ะครับว่า - มันยุติธรรมไหม ? - ลูกโซ่หัวคิวไหม ? - เอาเปรียบหรือเปล่า ? - โกงหรือเปล่า ? แล้วใช้สติปัญญาของคุณตรึกตรองดูเอาเอง ดารา หลายคนก็ทำธุรกิจ แอมเวย์เช่น VJ เอก โก๊กตี๋ ต้า AF 3 นักธุรกิจหลายคนก็ทำเช่น คุณวันชัย เจ้าของ โรงงานผลิตซอสซองส่งทั่วเอเชีย คนมีโปรไฟล์ดีๆเหล่านี้ ทำไมเค้าต้องมาทำ แอมเวย์ ผมว่าหลายคน น่าจะเอะใจได้น่ะครับว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้ คุณต้องลองไปศึกษา ดูถึง ระบบ ตัวสินค้า ผลิคภัณฑ์ เราต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกันไมไ่ด้เอาความรู้สึกมาพูด เช่น สินค้าแอมเวย์เป็นสินค้าขายตรงที่ได้รับความน่าเชื่อถืออันดับ 1 ของไทย นิวทรีไลน์ เป็นอาหารเสริมที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก ในกลุ่มผลิตภัณฑ์วิตามิน อาทิสทรี เป็นเครื่องสำอางติด 1 ใน 5 ของโลก อยู่ในกลุ่มสินค้าเดียวกับ ลังโคม เอสเคทู ยอดขายแอมเวย์ทั่วโลก 8.4 ล้านดอลล่า หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท สิ่งเหล่านี้คือข้อเท็จริงครับ ที่แฟนคุณได้รับ แล้วเห็นว่าธุรกิรแอมเวย์ มันมีศักยภาพ หากแฟนคุณทำถูกวิธีการ ยังไงก็เป็นเพชรได้ครับใน 3 ปี เอาใจช่วยครับ ลองไปศึกษาดูกับแฟนคุณ ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ไม่ต้องทำ แต่อยู่ที่ว่า คุณจะไปศึกษาหรือเปล่าเท่านั้นเอง เพาะเท่าที่ฟังมา มีแต่ปัญหาเรื่อง - ชู้สาว - กลับดึก - ไม่ค่อยโทรหา ซึ่งปัญหาเหล่านี้ มีแต่คนที่สร้างตัวสร้างชีวิตเท่านั้นครับที่เจอ คนที่เอาแต่ ทำงานเสร็จกลับบ้านดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ คุณคิดว่าชีวิตแบบนี้ จะรวยแและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองได้หรือเปล่า ถ้่าคุณจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคุณต้อง จัดเวลามาสร้างตัว ไม่ใช่เอาเวลาไป หาความสุขอย่างเดียว ซึ่งตรงนี้คุณกับแฟนคุณ คิดไม่เหมือนกัน .... จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:04:45

ความคิดเห็นที่ 78 ^ ii ii ii เอ่อ....ตอบไม่ถูก รอ ii ii ii Y จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:10:45

ความคิดเห็นที่ 79 คห.77 อ่านคห.59 ก่อนจะพิมพ์ดีมั๊ย จากคุณ : lhinggoimon เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:32:53

ความคิดเห็นที่ 80 "คนที่เอาแต่ ทำงานเสร็จกลับบ้านดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ คุณคิดว่าชีวิตแบบนี้ จะรวยแและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองได้หรือเปล่า" อ่านแล้วอึ้ง นึกว่าแฟนเจ้าของกระทู้ มาตอบเอง ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : วอหลักสี่ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:34:37

ความคิดเห็นที่ 81 ตอบ คห77 ดูสวยหรูนะครับ ที่คุณว่ามา ที่มีดาราหลายคนทำ แต่มันไม่ได้แปลว่าธุรกิจนี้ดีจริงอย่างที่คุณบอกเลย เพื่อนผมคนหนึ่งก็เป็นเพชรไปแล้ว แต่รายได้ เดือนละ 2-3 หมื่นแต่รายจ่ายที่มาจากการทำธุรกิจนี้ ก็ปาไปไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นยังไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวและเวลาที่สูญเสียไปจากการทำงานนี้เลยครับ เวลานะเงินไม่สามารถซื้อคืนมาได้นะครับ ครอบครัว เพื่อน คนรอบข้างก็ไม่สามารถหามาได้ ถ้ามันเป็ฯธุรกิจที่ทำอย่างที่คุยว่าใช้เวลาว่างทำก็อยุ่ได้จริง ๆ  ทำไมเพื่อนผมมันต้องดิ้นรนพยายามเพื่อทำยอดเพื่อรักษายอดขนาดนี้กันนะ แผนธุรกิจมันก็แค่ความสวยหรูบนหน้ากระดาษ แต่การลงมือทำแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นต่างหากคือความจริง จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:35:43

ความคิดเห็นที่ 82 ในฐานะผู้หญิง  อยากให้คุณเชื่อความรู้สึกตัวเองค่ะ คุณต้องมีคำตอบอยู่ในใจให้กับทุกเรื่องอยู่แล้ว ความรักไม่ได้แปลว่าโง่  และ เป้าหมายชีวิตก็ไม่ได้โง่ ชีวิตคู่  การงาน  เงิน  ทัศนะคติ  แอมเวย์ ฯลฯ เรื่องบางอย่างก็ใช้สูตรเดียวกันมาแก้ไม่ได้   ขอให้เข้มแข็งค่ะ จากคุณ : tibby-bibty เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:38:51

ความคิดเห็นที่ 83 รุ่นพี่ที่ชมรมผม หลังจากจบไม่เคยเจอมา2ปีโทรมา ชวนไปกินข้าว แต่หลอกไปนั่งฟัง + สร้างภาพ คุยฟังว่าเงินหามาได้ง่าย ใน3ปีจะมีเงินเก็บเป็นล้าน มีให้เอกสาร จับมือ ฯลฯ โทรมาเรื่อยๆ เหมือนโดนสกตจิต ไม่ได้เป็นแค่แอมเวย์นะ แต่เป้นMLMทั้งหมด มันหลอกลวงทั้งนั้น ตอนเรียนโดนหลอกไป"ดูงานสินค้า" พอรู้ว่าเป็นMLMผมเดินออกเลย เสียเวลา ได้ยินเสียงคนประชดไล่หลังมาด้วย ไปเดิห้างดีกว่า เสียเวลา คนที่หลงไปแล้วหลายๆคนพูดยังไงก็ไม่เชื่อ ต้องรอเขารู้เอง เคยฟังแอมเวย์ว่าเป็นการขายตรงไม่เสียเงินค่าโฆษณา เอาเงินนี้มาให้คนขายดีกว่า แล้วไอ้ที่โฆษณาในโทรทัศน์ทุกวันนี้มันคืออะไร(สร้างภาพ?) หลอกใครไม่ค่อยได้เลยต้องมาหาหลอกเด็กมหาลัย ทุเรศ จากคุณ : จบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 12:38:34

ความคิดเห็นที่ 84 อารมณ์เดียวกับคห 78เลยค่ะ - -" จากคุณ : giant princess เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 12:47:41   ความคิดเห็นที่ 85 พ่อแม่เรารู้จักมาทั้งชีวิต เลิกกับแฟนเถอะครับ หันมาแคร์ครอบครัวเราดีกว่า จะไปสนใจอะไรกับผู้ชายที่ไม่แคร์เราที่เรารู้จักแค่ไม่กี่ปี พ่อแม่อยู่กับเรามาทั้งชิวิตครับ ยืนยันอีกที จากคุณ : Love_mu1 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 13:08:33   ความคิดเห็นที่ 86 #77 กะแล้วว่าแมคเดลต้าไทยต้องเข้ามาตอบ อ่านแล้วจิ๊ดเลยว่ะ - ชู้สาว - กลับดึก - ไม่ค่อยโทรหา ซึ่งปัญหาเหล่านี้ มีแต่คนที่สร้างตัวสร้างชีวิตเท่านั้นครับที่เจอ คนที่เอาแต่ ทำงานเสร็จกลับบ้านดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ คุณคิดว่าชีวิตแบบนี้ จะรวยแและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองได้หรือเปล่า ถ้่าคุณจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคุณต้อง จัดเวลามาสร้างตัว ไม่ใช่เอาเวลาไป หาความสุขอย่างเดียว ซึ่งตรงนี้คุณกับแฟนคุณ คิดไม่เหมือนกัน ชู้สาว...พูดมาได้ว่าเป็นเรื่องการสร้างตัวสร้างชีวิต คนแบบนี้แถวบ้านผมเค้าเรียกว่าเหี่ยครับ มีแฟนอยู่แล้วยังไปมีไรกับคนอื่นนี่อย่างแย่ กลับดึก...แน่ใจเหรอว่าแฟนจขกท.ทำงานตอนดึกๆ เห็นไปเที่ยวนู่นนี่ ใช้เงินเป็นว่าเล่น เงินก็มีน้อย ดันทำตัวแย่ๆเพราะแอมเวย์ล้างสมอง ไม่ค่อยโทรหา...คนเป็นแฟนกันมันต้องโทรหาถามไถ่กันครับ จะมากจะน้อยแล้วแต่ แต่อย่าให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี อีกหลายเรื่องนะคุณแมค ทำไมคุณไม่ตอบล่ะครับ อย่างเรื่องการใช้ชีวิตฟู่ฟ่า การต้องขอยืมเงินเป็นหมื่นๆ การที่บอกแฟนว่าแฟนไม่ทำให้ตัวเองเจริญ...มันเป็นพฤติกรรมที่ดีเหรอครับ ตอบผมมาหน่อยครับ ...เลวว่ะ เลวทั้งคนคิดคนทำแบบนี้ รวมทั้งไอ้พวกเห็นดีเห็นงามไปด้วย จากคุณ : จิบ "ชา" เย็นแทะหนังสือ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 13:54:52   ความคิดเห็นที่ 87 ทำไมผู้ชายดีๆ ไม่เจอผู้หญิงดีๆ อย่าง จขกท. จากคุณ : เพลิงน้ำค้าง (Dianix) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:06:12   ความคิดเห็นที่ 89 คุณ MacDeltaThai ยังหน้าด้านกล้าเอาข้อมูลที่บอกว่า นิวทรีไลท์ ยอดขายไปอันดับหนึ่ง มาพูดอีกเหรอ ไอ้ยอดขายทางออนไลน์อันดับหนึ่ง ที่จัด Segment เอง ขายกันเองได้อันดับหนึ่งกันเองนี่นะ มันต้องได้อันดับหนึ่งสิ ก้อเล่นไม่นับ Blackmore กับ ไบเออร์นีหว่า 555 คราวที่แล้วตอนกระทู้ HB คุณยังบอกผมไม่ได้เลยว่า Market Capacity ของ นิวทรีไลท์ มีเท่าไหร่ ในสัดส่วน ของประชากรไทย เอาละกลับมาเรื่อง จขกท. ต่อ คำแนะนำ ของผมคือ 1. เลิกแค่ 3 ปี เอง ชิลๆ 2. ถ้าเลิกไม่ได้ให้ถอย และอย่าให้เค้ายืมเงิน บอกคุณแม่ คุณพ่อ ของเค้าด้วย ให้เค้าลงทุนเท่าที่เค้ามี พลาดพลั้งขึ้นมาแค่หมดตัว แต่ถ้ากู้หนี้ยืมสิน อาจต้องขายบ้านใช้หนี้ แอม ไม่ดีตรงไหน - ไม่ใช่ไม่ดี แต่เปอร์เซนต์ ที่จะได้ตามที่เค้าต้องการ คือ 3 ปีเป็นเพชร มีน้อยมาก น้อยการซื้อหวยอีก เพราะ สิ่งที่ผู้บริหารรู้ และไม่ยอมบอก คือ ตามหลัก Economy สินค้าทุกอย่าง จะมีเพดานของมัน คือขนาดของตลาด หรือพูดง่ายๆ คือ จำนวนเงิน ของคนที่มีปัญญา ซื้อสินค้านั้นๆ ในประเทศ หรือเขตการค้า หนึ่งๆ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:20:39 ความคิดเห็นที่ 90   นี่แหละผู้หญิงไทย ปักใจรักใครแล้ว รักเลย ไม่เคยดูเลยว่า เขาจะเป็นอย่างไร เขาทำให้เจ็บชำ้ น้ำใจแค่ไหน เพียงเพื่อต้องการตอบกลับมาว่า ผมรักคุณ คำ ๆ เดียว สร้างและทำลาย ได้ในหลาย ๆ สิ่ง ให้กำลังใจ ลด ละ เลิก กับสิ่งที่ทำร้ายจิตใจกันอย่างรุนแรง จากคุณ : รักแล้ว รักเลย เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:27:42 A:77.6.187.49 X: TicketID:280117   ความคิดเห็นที่ 91 ต่อๆ MLM ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น AM AG KK(ของคนไทยแต่ชื่อไม่ใช่ภาษาไทย และเจ้าของเป็นต่างชาติ 555) GF .... เค้าจะบอกแต่ด้านดี คล้ายๆ ผู้นำม็อบที่บอกแต่ด้านเลวของอีกฝั่ง ทีตัวเองเลวดันไม่เห็น อัพไลน์จะมีวิธีหว่านล้อม เหมือนๆ กันเป็นสูตรคือ 1. ยกตัวอย่างคนที่สำเร็จ เช่นคนนี้เคยเป็นยาม มีรายได้ตอนนี้ 120,000 บาท 2. เห็นไหมคนที่ มี Profile สูงๆ เช่น เจ้าของโรงพยาบาล เจ้าของโรงงาน อาจารย์ หมอ วิศวกร ยังทำเลย ... 3. คนที่ต่อต้านคือคนไม่เปิดใจ สิ่งที่เค้ารู้แต่ ไม่บอกคือ 1. Product ของเค้าราคาเป็น Premium คือเป็นของชั้นสูงมากกกกก ไม่ว่าของจะดีขนาดไหน Market Size มันจะมีเท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้นเพราะรายได้ของประชากรมันมีแค่นี้ 2. สัดส่วนคนขายที่มีอยู่ เดิมได้จองตลาดข้างบน กว่า 99.99% ไปหมดแล้ว ดังนั้นการ หาผู้(ที่มีปัญญา)บริโภค คือประมาณ 1 ในหมื่น ยกเว้นแต่ว่าคุณไปแย่งตลาดมา หรือขายพี่ น้อง แฟน ก้อว่ากันไป จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:28:10   ความคิดเห็นที่ 92 ต่ออีก 3. ในเมื่อ ตลาดมันเต็มแต่ ของมันเหลือ เค้าก้อให้ไปหา Downline แต่เค้าจะบอกเสมอ ว่า ให้ลองใช้ Product เค้าก่อน ดังนั้น สิ่งที่เค้าต้อง การ ก้อคือสมาชิกใหม่ที่จะเป็นผู้บริโภค ที่อยู่ชั้นล่างของปีรามิด 4. จากนั้นก้อสะกดจิต ให้คนที่อยู่ในระบบ บริโภคสินค้าชั้นสูงต่อไป ทั้งๆ ที่เงินก้อไม่มี โดยการใช้เครื่องมือคือ อลาสก้า อิสรภาพ ให้เป็นมรดกลูกหลานได้(ลูก upline นะครับ ส่วนของคุณรอไปก่อน 555) ข้อเท็จจริง 1. แต่ละปีจะมีเศรษฐีใหม่มาโชว์ตัวเสมอๆ ซึ่งเป็นเรื่องจริง 2. คนที่อยู่ในข้อ 1 เป็นเพียงคนกลุ่มเดียว ที่ในแต่ละปี คุณจะนับหัวได้เลย แต่Downline ใหม่ๆ(กลุ่มผู้บริโภค สำหรับ Upline) ปีนึง หลายพัน หลายหมื่นคน 3. ผมจะกลายเป็นคนไม่มีอนาคต คนไม่เปิดใจ ในอีกไม่กี่ความเห็นแน่นอน 555 ก่อนอื่นให้คุณ เลิกเหล้าเช้านี้ซื้อหวยครับ ถ้าถูกรางวัลที่ 2 ขึ้นไป ให้ไปทำกับเค้า อีก 3 ปี คุณจะได้เป็นเพชร ถ้าไม่ก้อเลิกเถอะครับ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:37:06   ความคิดเห็นที่ 93 "คนที่เอาแต่ ทำงานเสร็จกลับบ้านดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ คุณคิดว่าชีวิตแบบนี้ จะรวยแและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองได้หรือเปล่า" แล้วชีวิตแบบนี้มันไม่ดีตรงไหนเหรอครับ ชีวิตแบบนี้มันมีความสุขไม่ได้ใช่ไหม แล้วถ้าชีวิตแบบนี้ก็มีความสุขได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมาก ทำไมต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตด้วยล่ะครับ ในเมื่อหลายๆคน อาจจะพอใจอยู่กับปัจจุบันแล้ว หรือคำนิยามของความสำเร็จในชีวิต ต้องมีแต่การมีเงินเยอะๆ การทำงานหนักๆ การได้ไปท่องเที่ยว บางทีความสำเร็จในชีวิตตามนิยามนั้น ไม่ได้สำคัญมากไปกว่าความมีคุณค่าของชีวิต คุณสามารถมีความสุขได้ หากคุณรักและพอใจการเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณสามารถมีความสุขได้ หากคุณทำงานสาธารณประโยชน์ที่ไม่มีค่าจ้าง คุณสามารถมีความสุขได้ กับความเป็นปัจจุบัน และใจที่พอ ของคุณเอง คุณคิดเหรอครับว่าคนที่เอาแต่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว เค้ากำลังมีความสุขจริงๆ ผมจะไม่ยกตัวอย่างคนที่กำลังทำแอมเวย์ แต่จะยกตัวอย่างผู้จัดการธนาคาร สาขาหนึ่งที่เคยเป็นอดีตสำนักงานใหญ่ของแบงค์นั้นมาก่อน ชีวิตของเค้าเป็นยังไงเหรอครับ ทำงานตลอดเจ็ดวัน ไม่ได้หยุดพัก ไม่มีเวลาพักผ่อน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย วันเสาร์ อาทิตย์ แทนที่จะได้หยุด ก็ต้องออกไปหาลูกค้า เพื่อทำยอดขายให้แก่สาขาตามเป้าหมายที่ได้รับมาจากเบื้องบน ถามว่าเค้ามีความสุขไหม เค้าบอกว่าไม่มีครับ เพราะแม้ว่าด้วยหน้าที่การงานของเค้า จะทำให้เค้ามีรถ มีบ้าน แต่สิ่งที่สูญเสียไป คือ ความสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัว ที่ห่างเหิน สุขภาพที่ย่ำแย่ลง เวลาพักผ่อน และเวลาของตัวเองอยู่กับงานหมด เค้าบอกว่าทำงานถึงอายุ 55 จะเกษียณแล้วครับ บทสรุปคือ คุณ macdeltathai อาจจะบอกว่าก่อนที่จะได้อะไรมา ก็ต้องเสียอะไรไปอยู่แล้ว แล้วสิ่งที่ได้มา กับสิ่งที่เสียไปมันจะคุ้มค่ากันจริงๆ เหรอครับ ถ้าคุณทำงานหนัก พักผ่อนน้อย หัวใจวายตายไปวันพรุ่งนี้ คุณจะมีอนาคตที่คุณวาดหวังไว้เหรอ คุณคิดเหรอครับว่าคุณจะมีอายุยืนยาวไปอีกหลายสิบปี คุณกำหนดเวลาตายของคุณได้เหรอครับ ผมคิดว่าธุรกิจแอมเวย์เป็นธุรกิจที่ดีธุรกิจหนึ่งครับ เป็นเครื่องมืออีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการอิสรภาพทางการเงิน แต่ผมว่าแอมเวย์กำลังสอนให้คนกลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และไม่รู้ว่าจะมาถึงหรือเปล่า สอนให้คนกลัวว่า ถ้าพ่อแม่ญาติพี่น้องเป็นโรคร้าย จะเอาเงินที่ไหนมารักษา ปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ ไซด์ไลน์ของผมสองคน คนแรก ทำแอมเวย์มาห้าปี เรียนรามก็ไม่จบ เพราะอัพไลน์สอนให้มุ่งเน้นธุรกิจสำคัญกว่าการเรียน แล้วเป็นไงครับ ทุกวันนี้รายได้ก็ยังแค่เดือนละสามสี่พันบาท จะกินข้าวก็ต้องให้อัพไลน์เลี้ยงแทบทุกมื้อ แถมอัพไลน์ยังสอนอีกว่าจะหาอาชีพทำเสริมก็ได้ แต่อย่าเบียดบังเวลาการทำธุรกิจเพื่อสร้างอนาคต ปัจจุบันยังไม่มีจะกินเลย ทำปัจจุบันให้ดีก่อนไม่ดีกว่าเหรอครับ ไซด์ไลน์อีกคนหนึ่ง พ่อแม่เตรียมที่ทางไว้ให้ขายของอยู่บ้านเกิด ถ้าไปขายก็ได้แน่ๆ เดือนละสามสี่หมื่น แต่ไม่เอา มาอยู่แต่กับอัพไลน์ เอาแค่เงินเดือนละหกเจ็ดพัน ลูกที่ทำให้พ่อแม่น้ำตาตกมันดีนักเหรอครับ หรือคุณmacจะบอกว่าเดี๋ยวสำเร็จ พ่อแม่ก็ชื่นชม เดี๋ยว แล้วเมื่อไรล่ะครับ นี่มันก็สามสี่ปีไปแล้ว มาทำปัจจุบันให้มันดีก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ผมขอสรุปปิดท้ายครับว่า... อย่าเอาจริงเอาจังกับชีวิตมากนัก เพราะยังไงเราก็เอาชีวิตไม่รอดอยู่ดี วันที่คุณอยู่ในนาทีสุดท้ายของชีวิตนั่นล่ะครับ คุณอาจจะได้ฉุกคิดว่า ไม่เคยมีอะไรเลยที่เป็นของเรา และเราไม่เคยได้อะไรเลย จากคุณ : หมูน้อย (คุณหมูน้อยตัวขาว) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:58:03   ความคิดเห็นที่ 94 ไม่อยากอ่านเลย พออ่านคร่าวก้อพอรู้แล้วว่ายังไง เลยขอบอกว่า อย่าไปจมปรักเลยกับคนที่ไปไม่กลับ ยังมีคนให้เลือกอีกเยอะ เชื่อเถอะครับ ความสุขคนเรามีอีกมาก ไม่ใช่แค่ผู้ชายคนนี้ จากคุณ : E20PBO เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 15:22:44   ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้กิฟท์หมดแล้ว  เลยให้กิฟท์ไม่ได้นะคะ สำหรับเราตอนนี้   บอกตามตรงว่ายังตัดใจจากเขาไม่ได้ค่ะ แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วค่ะ  ว่าถึงมันจะทรมานแค่ไหน เราก็จะไม่มีวันหันหลังกลับไปหาผู้ชายคนนี้อีก ตอนนี้อยากได้เงินแสนห้าคืนค่ะ  แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง   เพราะตัวเขาเอง ไม่เคยพูดถึงเลย ว่าจะคืนให้เมื่อไหร่ ถ้าเขาไม่ยอมคืน  เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วค่ะ เพราะมันไม่พยาน หลักฐานอะไร  มีแต่เขากับเราที่รู้กันสองคน ถึงเขาจะหนีกฎหมายได้   แต่ก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นหรอก  เราเชื่อแบบนั้นค่ะ ตอนนี้เรากำลังจะกลับไปหาแม่ที่บ้านนอกค่ะ ถ้ามีงานอะไรทำที่ตจว.ได้  เราอาจจะไม่กลับมากรุงเทพฯอีกแล้วค่ะ อยู่กรุงเทพฯ เรามีแต่เสียกับเสียค่ะ เสียแฟน เสียใจ เสียเวลา เสียเงิน เสียตัว ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งนะคะ จากคุณ : เลิกเหล้าเช้านี้ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 15:30:13   ความคิดเห็นที่ 97 96 เป็นกำลังใจให้นะคะ รัก และ ดูแลคนที่รักเราที่สุดมาตลอดชีวิต เถอะคะ จากคุณ : lithop เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 15:42:45   ความคิดเห็นที่ 99 คุณ เลิกเหล้าเช้านี้  เสียแสนห้า กับเวลาอีก ค่อนชีวิต ผมว่าคุ้ม เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 16:12:13   ความคิดเห็นที่ 100 แมงเม่า มักบินเข้ากองไฟ คนบางคน เห็นไฟนึกว่าแสงสว่างทางเดียวของชีวิต เลยหลงเข้าไป ด้วยความโชติช่วงของมัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว แสงไฟที่ตนเองคิดว่าค้นพบแล้วนั้น กลับเผาผลาญจิตวิญญาณจนมอด และไม่เหลืออะไรเลย จากคุณ : TurnTheLightOn เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 16:28:22   ความคิดเห็นที่ 101 เงินตั้งแสนห้า เสียดายมันก็เสียดายอยู่หรอกครับ อย่างหลาย ๆ ความเห็นว่า แสนห้า ถ้ายังไม่ตาย เดี๋ยวมันก็หาใหม่ได้ ส่วนเรื่องตัดใจจากแฟน ไม่มีคอมเมนท์นะครับ ใจคนยากแท้หยั่งถึง ผมว่ามันเป็นเรื่องของเวรของกรรม คุณเลิกเหล้าเช้านี้ อาจจะกำลังปลดเวรปลดกรรม จากเจ้ากรรมนายเวรในรูปของสิ่งมีชีวิต ผมว่าสักวันเมื่อกราฟชีวิตมันขึ้นถึงจุดที่สูงที่สุดแล้ว วันนั้นคุณอาจจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรก็ได้้ แล้วกราฟมันก็จะเซตเข้าที่เข้าทางของมัน เป็นกำลังใจให้ครับ ต่างกรรมต่างวาระ ของกระผมก็กำลังสาละวนกับการหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เหนื่อย แต่ก็มีความสุขครับ เดือนหน้าเจ้าตัวน้อยก็จะออกมาแล้ว คงต้องเหนื่อยอีกมากมาย เหนื่อยไปด้วยกันครับ!! จากคุณ : bings@friends เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 16:40:10   ความคิดเห็นที่ 102 ผมก็เห็นใจ เจ้าของเนื้อเรื่อง (ว่าแต่เป็นคนเดียวกับ จขกท หรือเปล่า) แต่พูดตรง ๆ ว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของคุณ ไม่ได้อยู่ที่ตัวแฟนของคุณครับ แต่อยู่ที่ตัวคุณต่างหาก คุณต่างหาก ที่ไม่สามารถตัดเขาออกจากชีวิตได้ ยังหลงมัวเมากับความรักที่มีให้แฟน ไม่ต่างอะไรกับแฟนคุณ ที่หลงมัวเมากับภาพความสำเร็จเพ้อฝัน ภาพลักษณ์ในวิมานที่เซ็นเตอร์มอบให้ ... พอกันทั้งแฟนคุณ และตัวคุณครับ ขออภัยที่พูดตรง ๆ ไม่ใช่แค่สงสารบุพการีแฟนคุณ ... อันนั้นไม่เท่าไหร่ ผมสงสารคุณพ่อคุณแม่ของคุณมากกว่า ถามจริง ๆ เถอะ เงินที่คุณให้ท่านน่ะ ได้ซักครึ่งหนึ่งของเงินที่คุณเอาไปให้แฟนคุณต่อยอดความฝันเลื่อนลอยหรือเปล่าครับ เป็นลูกเป็นหลานผมจะตบหัวทิ่ม .... ยิ่งอ่านแล้วก็ยิ่งจี๊ด กลับมาที่เรื่องแฟนคุณต่อ อย่างที่ทุก ๆ คนว่าไว้นั่นแหละ ตอนนี้แฟนคุณไม่ต่างอะไรกับแมงดาตัวหนึ่งแล้ว อย่าไปโทษแอมเวย์เลย บริษัทเค้าดี ระบบเค้าดี ... คุณควรไปโทษไอ้พวก upline เฮงซวย กับตัวแฟนคุณนั่นแหละ ที่ทำธุรกิจด้วยวิธีผิด ๆ โดยเฉพาะวิธีเลวทรามที่แฟนคุณใช้ ถึงตอนนี้คุณยังเลือกที่จะ "เอา" ผู้ชายคนนี้มาดอง ยอมมาอุ้มท้องลูกมันอีกเหรอครับ ทำธุรกิจแบบเสียโง่ ไม่ใช่เรื่องที่ให้อภัยไม่ได้นะครับ ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ แต่ไอ้เรื่องผิดศีลธรรม และเรื่องต่าง ๆ นา ๆ ที่คุณอ้างขึ้นมา .. ถ้าคุณยังอยากที่จะเอาชีวิตคุณไปเกี่ยวข้องกับมันต่อล่ะก็ คงไม่มีใครช่วยคุณได้หรอกครับ ... จะว่าไปแล้ว คุณต้องขอบคุณแอมเวย์มาก ๆ ด้วยซ้ำ ที่เผยสันดานของผู้ชายขายน้ำคนนี้ ให้คุณได้เห็น ก่อนที่ "ลูกสาว" ของพ่อแม่คุณคนนี้ จะลงลึกไปจนเลยจุดกลับตัว จบแค่นี้แหละ ขอให้โชคดี และตาสว่างซะที จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 17:06:00   ความคิดเห็นที่ 103 #93 คุณหมูน้อยเขียนได้ดีมากครับ ผมก็ดำเนินชีวิตแบบนั้นตลอดเวลาเสียดายความสามารถไม่ถึงพอที่จะถ่ายทอดออกมาได้ จขกท น่าจะอ่านความเห็นนี้ให้ละเอียด ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้ว คนที่อ่านน่าจะเป็นอดีตแฟนคุณซะมากกว่า จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 17:23:34   ความคิดเห็นที่ 104 # 86 ต้องขอโทษด้วยน่ะครับ ถ้าผมสือ ความหมายอะไรที่ทำให้คุณไม่เข้าใจ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณเข้าใจแบบนั้น ถ้าคุณมองอย่าง คิดบวก จะเข้าใจความหมายของผมครับ ผมกำลังจะบอกว่า ปัญหาที่ จขกท ว่ามา มีแต่ปัญหา เรื่องส่วนตัว ซึงไม่ได้เกียวอะไรกับบริษัทแอมเวย์เลยแม้แต่เรื่องเดียว เช่น หากจะโทษเรื่องระบบ ก็ไม่ได้อธบายว่า ระบบไม่ดี ตรงไหนอย่างไร หรือ จะโทษตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้บอกเลยว่า ไม่ดีตรงไหนอย่างไร กรุณาแยกให้ออกด้วยน่ะครับ ผมเลยยกประเด็นตัวอย่าง เรื่องส่วนตัวมา เช่น ชู้สาว กลับเดึก ไม่ค่อยโทรหา แล้วผมก็อธิบายต่อไปว่า การสร้างชีวิต คนเราต้องจัดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่น ซึ่งการสร้าง ชีวติ ย่อมไม่เกียวกับเรื่องชู้สาวอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ต้องตำหนิ แฟน จขกท ด้วยซ้ำไป เพราะข้อห้ามสำคัญเลยสำคัญการจะทำธุรกิจแอมเวย์ หรือ ทำงานอื่นๆ เลยก็คือ 1. ห้ามชู้สาว 2. ห้ามยืมเงิน 3. ห้ามพูดเรื่องศาสนาและการเมือง 3. ข้อนี้องค์กรผมยึดมั่นมาตลอด แต่ของ แฟน จขกท. กลับไม่มีตรงนี้ซึ่งต้องไปโทษที่ตัวองค์กร หรือ Center นั้นๆ กันเอาเองน่ะครับ คงต้องพอเข้าใจบ้างน่ะครับ จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 17:35:21   ความคิดเห็นที่ 105 #93 อ่านแล้วเห็นด้วยครับ ว่าเส้นทางของชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ที่ผมฟังเคส นศ ราม คนนั้น ต้องขอบอกเลยว่า จัดระดับความสำคัญผิดน่ะครับ กลุ่มผมสอนเสมอว่า คนสำเร็จทำอะไรหลาอย่างก็สำเร็จ คนล้มเหลวแม้ทำอย่างเดียวก็ล้มเหลว ในเมื่อ นศ รามคนนั้น ไม่มีเงิน แต่กลับไม่ทำงานประจำ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีวิตตนเองซะก่อน ซึ่งตรงนี้ผมบอกได้เลยว่า จัดระดับความสำคัญผิด แอมเวย์ไม่เหมาะสำหรับคนตกงาน หรือ คนว่างงาน เพาะแอมเวย์ มันคือ งานที่ 2 ไม่ใช่งานแรก ตราบใดที่รายได้จากแอมเวย์ยังไม่มากกว่างานประจำของคุณ ไม่แนะนำให้ลาออกมาทำเต็มตัวครับ ส่วนประเด็นเรื่อง การเอาจริงเอาจังกับชีวิต ในมุมมองผม ผมมองว่า ในเมื่อเราเองก็ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ แล้วทำไมวันนี้เราไม่ทำอะไรให้มันถึงที่สุด ดีที่สุดไปล่ะครับ ถ้าเราคิว่ายังไงซะเราก็ตาย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆ รอวันตาย หรือยังไงครับ ? การเอาจริงเอาจังในชีวิตไม่จำเปนต้องเป็นเรื่องแอมเวย์หรอกครับ เรื่องงานประจำเรา เรื่องการเรียน หรือ ความฝันเรา อะไรก็ได้ครับ มันใช้ได้หมดในชีวิตนี้ อีกทั้ง การห่วงเรือ่งสุขภาพ ความเป็นอยู่ของพ่อแม่เรา เรื่องวิถีชีวิต ผมบอกเลยว่าผมเองก็เกิดมาในฐานะที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ปานกลางถึงล่างก็ว่าได้ แต่ผมต้องการให้พ่อแม่ผมสุขสบายครับ อยากให้ท่านได้เปิดโลกทัศน์พาท่านไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างน้อยก็ในชาตินี้ ถ้าผมทำอะไรที่เดิมๆ ชีวิตผมก็เป็นเหมือนเดิม ถ้าวันนี้ผมไม่ลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่เพิ่มเติม ผมก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอะไรได้เลย ซึ่งผมมองแล้วว่าแอมเวย์เป็นเครื่องที่ง่ายและดีที่สุดแล้ว และผมก็ดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบจรรยาบรร และ ความเป็นมืออาชีพ และผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าผมจะเสียเวลากับแอมเวย์  5 ปี เพื่อสร้าง passive income แล้วจะหยุดไปทำในสิ่งที่ผมชอบครับ ผมจึงมองว่า เวลา 5 ปีนับจากนี้ มันคุ้มค่าครับ จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 17:49:42   ความคิดเห็นที่ 106 # 92 คุณโอมี (Anna_NSW) - ไม่ทราบว่าไปเอาตัวเลขมาจากไหนหรอครับ ที่ว่า 99.99 % ผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกัน ขอแหล่งข้อมูลด้วยน่ะครับ - % การเป็นเพชร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการซื้อหวยครับ แต่มันอยู่กับความพยายามและความตั้งใจ ผมจะยกตัวอย่างให้ดูน่ะครับ มีเพชรคู่หนึง ได้เป็นเพชรตอนปี 2553 แต่ทราบไหมว่าเค้าใช้เวลา 16 ปีในการเป็นเพชร แต่มีเพชรคนหนึ่ง กลับใช้เวลาเพียง 3 ปี ในการเป็นเพชร ซึ่งตอนนี้เพิ่งจบ ปี 4 BBA ธรรมศาสตร์ โอกาสการเป็นเพชร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ใครโชคดี หรือไม่ดี ถ้าตลาดมันเต็มอย่างที่คุณว่า ตอนนี้แอมเวย์เปิดมา 22 ปีแล้วในประเทศไทย ทำไยังมี้เพชรใหม่ๆ ทุกปี แล้วทำไมยังมี เพทตินั่มใหม่ๆ ทุกเดือน เดือนล่ะ 20 - 30 คน เพชรใหม่ที่ใช้เวลา 3 ปี ทำไมยังแซง คนที่ทำมาก่อนเกือบ 10 ปีได้ ตรงนี้คุณ โอมี (Anna_NSW) อธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้ไหมครับ จะขอบพระคุณมาก ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางทฤษฎีอะไรมากมายหรอกครับ แต่ผมมีคติเตือนใจผมอยู่อย่างหนึ่งว่า "ความฉลาดที่ปิดกั้นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีค่าเท่ากับความโง่เขลา" ดังนั้นไม่ว่า ใครจะชวนผม ไปศึกษาธุรกิจตัวไหน ผมไปครับ ไปเพื่อเรียนรู้ ให้มันรู้ไปเลยครับว่า มันดี ไม่ดี ถ้าดีก็จะทำ ถ้าไม่ดี ก็จะไม่ทำ แค่นั้นเองครับ เพราะผมเองก็เคย Anti Amwy มาก่อน ซึ่งก็ฟังๆเค้าเล่ามา แต่พอมาเจอกับตัวเอง มาฟังข้อมูล ข้อเท็จจริงก็ทราบครับ ว่าที่ฟังเค้าเล่ามา กับความจริงมันคนล่ะเรื่องกันเลยน่ะครับ จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 18:00:44   ความคิดเห็นที่ 107 ชอบคห.คุณ Morning Star ค่ะให้กิฟแทนเจ้าของกระทู้เพราะเห็นว่ากิฟหมด  มันอาจจะเหมือนพูดแรง แต่ว่า หยุดคิดซักนิดเถอะค่ะ ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ควรไปดองด้วย  คนที่เราจะไปดองด้วย ต้องไม่ใช่คนที่ทำให้เราต้องเสียใจ ขนาดนี้ และ จะต้องไม่ทำให้ " ลูกสาว" ของแม่ เสียน้ำตา และเจ็บปวดอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ถอยออกมาและ ตัดใจจากเขาซะเถอะค่ะ จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 19:15:48   ความคิดเห็นที่ 108 คคห. ที่ 106 ผมไม่จำเป็นต้องตอบคุณ เพราะทุกวันนี้คุณยังตอบผมไม่ได้ว่า Market Cap ของ นิวทรีไลท์เป็นเท่าไหร่   แค่เรื่องยอดขายอันดับหนึ่งคุณก้อมั่วแล้ว โอเคนะครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 19:32:42   ความคิดเห็นที่ 109 #108 ไม่ได้มั่วครับ ถ้ามั่วคุณไปฟ้องร้องบริษัทแอมเวย์ได้เลยครับ เพราะแอมเวย์ขึ้นป้ายโฆษณา บนทางด่วนกันเลยทีเดียว ใครเคยผ่านและเห็นก็วานช่วยบอกด้วยน่ะครับ ถ้าคุณไม่ตอบก็ไม่เป็นไร เพราะผมคิดว่าคุณ มั่ว ครับ ^ ^ จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 19:42:50   ความคิดเห็นที่ 110 เราว่าถ้าจะขาย แอมเวย์ ไปเป็น เซลล์ดีกว่าไม๊ เงินเดือนก็ได้ ค่าคอมก็ได้อีก จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:18:35   ความคิดเห็นที่ 111 เราว่าถ้าจะขาย แอมเวย์ ไปเป็น เซลล์ดีกว่าไม๊ เงินเดือนก็ได้ ค่าคอมก็ได้อีก จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:18:57 ความคิดเห็นที่ 112   นาย MacDeltaThai ไสหัวไปเถอะครับ ถึงคุณเลิกเหล้าเช้านี้ ผมคิดว่า กลับไปบ้านนอกสักพัก ไปอยู่แบบพอเพียง กับพ่อแม่ คนที่รักเราและเรารักที่สุด ไม่ต้องทะเยอทะยานอยากได้อะไรอื่น นั่นละครับความสุขที่หาที่เปรียบมิได้ แล้วเงิน 150,000 ที่เสียไป ถือซะว่าทำบุญ นอกจากนี้ เมื่อไปวัด ก็คอยกรวดน้ำไปให้แฟนที่แสนสถุลของคุณด้วย ขอให้อโหสิกรรมต่อกัน อย่าจองเวรกันอีกเลย จากคุณ : เด็กติดเกาะสิงคโปร์ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:28:51   ความคิดเห็นที่ 113 ความคิดเห็นที่ 109   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   #108 ไม่ได้มั่วครับ ถ้ามั่วคุณไปฟ้องร้องบริษัทแอมเวย์ได้เลยครับ เพราะแอมเวย์ขึ้นป้ายโฆษณา บนทางด่วนกันเลยทีเดียว ใครเคยผ่านและเห็นก็วานช่วยบอกด้วยน่ะครับ ถ้าคุณไม่ตอบก็ไม่เป็นไร เพราะผมคิดว่าคุณ มั่ว ครับ ^ ^ +++++++++++++++++++++++++ อย่ามาเนียนครับ NUTRILITE™ is the world's leading* brand of vitamin, mineral and dietary supplements. แปลว่า อันดับหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ บังเอิญไม่ชอบ:-) เพราะไม่ใช่นักการเมือง ดารา หรือ นธอ. ปล. นธอ มาจาก นาธาน โอมาน จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:39:42   ความคิดเห็นที่ 114 Haha มีชาวแอมเวย์เข้ามาด้วย นี่แหละ หลักจิตวิทยาของจริง ผมจะบอกอะไรให้นะ รู้เเล้วเงียบกันไว้นะ ผม(เคย)เป็นส่วนหนึ่งของไอ้หลักจิตวิทยาอันนี้แหละ ผมเคยทำ Media ต่างๆให้ Amway เช่น วิดีโอพรีเซนต์ของทูตต่างๆในแต่ละระดับ งานประจำปี ทริปท่องเที่ยวต่างแดน วิดิโอกิจกรรมต่างๆ ออฟฟิศเก่าผมเหมารับทำหมด ผมรู้จักคนในแอมเวย์ทุกระดับ ไล่มาจาก ระดับผู้อยู่เบื้องหลัง จนถึงดาวน์ไลน์หน้าใหม่ หลักจิตวิทยามันไม่ได้มีอะไรยากเลยครับ เอาภาพความสำเร็จ มาเปิดย้ำบ่อยๆ ในที่สุดคนก็จะเชื่อเอง เพราะคนที่เดินเข้ามาธุรกิจแบบนี้ มันมีความโลภ ความขาด อยู่ในตัวอยู่แล้ว เมื่อเห็นคนนั้นประสบความสำเร็จ แล้วหนทางมันก็ดูง่ายๆ ยังงั้น กรู ก็ทำได้นี่หว่า ! ปีกว่าๆ ที่ผมอยู่ในวงจร เหล่านี้ พูดตรงๆ ขนลุกครับ ไม่ต้องเชื่อผมนะ เพราะผมไม่มีความสำเร็จอะไรให้คุณ จากคุณ : TOKIM เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:52:36   ความคิดเห็นที่ 115 "คนที่เอาแต่ ทำงานเสร็จกลับบ้านดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ คุณคิดว่าชีวิตแบบนี้ จะรวยแและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองได้หรือเปล่า" ^ | | ชีวิตพ่อเราเลย เลิกงานอยากกลับบ้าน หาลูก พักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง ดูทีวี ก็ไม่รวยจริง ๆ นั่นแหละ ... เปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองก็ไม่ได้หรอก แต่มีความสุข  มีบ้าน มีรถ มีที่ดิน มีเงินพอเลี้ยงลูก 4 เมีย 1 โดยไม่ต้องไปกดดันคนอื่นให้ซื้อสินค้า หรือจ่ายค่าสังคมเยอะแยะแบบนั้น จากคุณ : :: VamleS :: เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 21:08:27   ความคิดเห็นที่ 116 1.ผมไม่ได้ทำ am 2.ผมไม่เคยทำ MLM ตัวใด 3.ผมไม่เคย ขายตรง สินค้าใด 4.ผมพาพ่อแม่เที่ยวต่างประเทศได้แล้ว ถึงแม้ว่าไม่ใช่อลาสก้า โดยออกค่า trip ให้เต็มเลยทั้งตั๋วเครื่องบิน อาหาร ที่พัก พร้อม pocket money อีกนิดหน่อย เมื่อตอนที่ผมอายุ พึ่งจะ 20 เศษๆ 4.5ผมให้เงินเดือน พ่อ และ แม่ ทุกเดือน ไม่เคยขาดเลยสักเดือน 5.ผมไม่เคยทำอะไรให้เพื่อนเหม็นขี้หน้า เพื่อนยังพึ่งพาผมเป็นระยะๆ ไม่เคยไปเบียดเบียนเพื่อน แค่คิดจะทำธุรกิจร่วมกัน ผมยังละอายเลย ไม่อยากหากินกับเพื่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ไม่ใช่ขายของก็ตาม 6.ผมมีเงินเก็บ มากกว่ารายจ่ายในแต่ละเดือน ในระดับที่จะ่ผ่อนบ้าน+รถได้สบาย (แต่ผมยังไม่คิดซื้อ เพราะว่าอยู่กับพ่อแม่ได้ ไม่จำเป็นต้องไปซื้อให้เปลืองเงิน ยังนั่งรถเมล์ได้ไม่ทรมาน) 7.ผมมีความสามารถพอที่จะเที่ยวทุกวันยามค่ำคืนได้ สังสรรค์กับเพื่อนๆได้ แต่ผมมองว่ามันเสียสุขภาพ สู้เอาเวลาไปเล่น skate ดีกว่า (กีฬาที่ผมชอบ) เสียค่าซื้อรองเท้าครั้งเดียวแล้วไม่ต้องเสียอะไรอีกเลย เล่นคนเดียวก็ได้ไม่ต้องเป็นกลุ่ม 8.ปัจจุบันผมทำงานประจำ ผสมงานเสริม ที่ผมสร้างมาเองกับมือตั้งแต่ตอนเรียนปี 3 โดยที่เสาร์อาทิตย์ ยังเที่ยวต่างจังหวัดได้ (ตอนนี้ยังมาพักผ่อนที่ต่างจังหวัดอยู่ กลับพรุ่งนี้) 9.ผมมีเวลาที่จะหยุดพักชีวิต ให้เคลื่อนที่ไปช้าๆ ในต่างจังหวัด ที่มีอากาศดีๆ ลมเย็นๆพัด ไ่ม่ต้องเปิดพัดลมหรือแอร์นอน 10.เวลาที่เครียด ผมมีเวลาผักผ่อนด้วยการดูภาพยนตร์ (หนึ่งในกิจกรรมที่ชอบ) ต่อกันสามเรื่องรวด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ แต่ผม มักจะถามตัวเองอยู่เป็นระยะ ชีวิตเราต้องการอะไร เพราะว่ามันคือคำถามที่ย้ำเตือนความเป็นคนของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เวลาชีวิตคนเราต้องการอะไร และไม่ให้เราลืมตัวว่าเรากำลังทำอะไร และเพื่ออะไร แต่ว่าทุกอย่างที่ผมทำ ผมทำอยู่กับปัจจุบัน เพื่อคาดหวังผลในอนาคตอันไม่ไกลมากนัก และพยายามทำงานให้สมดุลย์กับความสุขกับตัวเองและคนรอบข้าง ชีวิตนี้ต้องการอะไรอีก? จากคุณ : ออกกำลัง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 21:39:18   ความคิดเห็นที่ 117 สงสารเจ้าของกระทู้ครับ แต่ยังไงก็สู้ๆ นะครับ ออกห่างออกมาได้ก็ดีครับ เอาใจ่ช่วยน่ะครับ จากคุณ : ต้น (yasava) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 21:41:20   ความคิดเห็นที่ 118 ไม่ต้องจุดธุปอัญเชิญก็มาสิงสถิตจริง ผมพึ่งมาอ่านกะว่ามันจะมาหรือเปล่า มาจริงๆ ไวจริงๆ ถ้ากระทู้่ใหนพูดถึง แอมเวร จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 21:58:48   ความคิดเห็นที่ 119 ธุรกิจประเภทนี้มันขายความเป็น เพื่อน ญาติพี่น้อง คนรู้จักกันครับ ของทุกตัวก็แพงโดยใช่เหตุ เครื่องกรองน้ำ 4-5 หมื่น กับ น้ำกรองทั่วไป ผมก็ยังเห็นเขาอยู่กันได้มาตั้งนาน ไม่ตายหรือเจ็บป่วยอะไร หรือ ยาสีฟัน คนยุึคผมใช้ ดากี้ ก็ยังไม่เห็นเป็นไร ฟันแข็งแรงดีจนถึงทุกวันนี้ ไม่จำเป็นต้องไปใช้ของแพงบ้าเลือด ในขณะที่คุณภาพก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย ธุรกิจแนวนี้มันขายความหลอกลวงครับ ขนาดชวนคนไปฟังยังต้องหลอกด้วยประโยคเด็ด มีอะไรดีๆจะแนะนำ ขนาดเริ่มต้นยังหลอกลวง ไร้จรรยาบรรณ มันจะขายดีได้ไง ที่ขึ้นเป็นเพชรก็เพราะไปขู่เข็ญ หรือ หลอกคนมาซื้อทั้งนั้น แต่ก่อนฝึกงานที่ศาลแห่งนึง ก็เห็น ขรก ที่เอาเวลางานไปนั่งขายของพวกนี้ ใครไม่ซื้อก็อย่าหวังได้รับความสะดวก คิดดูธุรกิจอะไรทำให้คนๆนึงกลายสิ่งโสมมได้ขนาดนี้ ถึง จขกท แนะนำให้เลิกเหอะครับ ขนาดคุณเขายังไม่เลือกเลย ผี.. ซาตานแอมเวรมันเ้ข้าสิงร่างแฟนคุณแล้ว ออกยากครับ ปล. โพสซ้ำ เลยแก้เป้นอันใหม่ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 22:11:08 จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 21:58:59   ความคิดเห็นที่ 120 #114 แฉหน่อยครับ อยากรู้จริงๆ ฉากหลังของมันน่ะ ^_^ จากคุณ : zia(loginภรรยา) (มาโดกะ) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:24:41   ความคิดเห็นที่ 121 เงิน แสนห้าก็เสียดายนะ กว่าหาเก็บได้ก็เหนื่อย แต่คิดซะว่า คบต่อก็อาจเสียมากกว่าแสนห้านะ อาจกลายเป็นเสีย 2 แสน, 3 แสน ยิ่งหนักขึ้นอีก จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:24:48   ความคิดเห็นที่ 122 #114 แฉหน่อยครับ อยากรู้จริงๆ ฉากหลังของมันน่ะ ^_^ จากคุณ : zia(loginภรรยา) (มาโดกะ) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:24:59   ความคิดเห็นที่ 123 อยากจะถามคุณ MacDeltaThai  ถึง income ของคุณซักหน่อยนะครับ ^ ^ จากเดือนแรก ที่ได้ 1,000 บาท  ตอนนี้ ทำได้กี่ปีแล้ว รายได้เท่าไร อยากรุ้ความคืบหน้าหน่ะครับ เพราะเห้นว่าจะทำ 5 ปีใช่ม่ะ ? จากคุณ : ArcheZwei เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:37:59   ความคิดเห็นที่ 124 ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ละกันนะครับ เงินทองของนอกกาย ค่อยหาเอาใหม่ แฟนก็ของนอกกาย หาเอาใหม่ จิตใจ กรรมดีกรรมชั่ว เป็นของตัวเรารักษา ไว้ให้ดีดี กลับไปอยู่บ้านกับพ่อ กับแม่ดีที่สุดแล้วครับ ไปดูแลให้ดีที่สุด แล้วเชื่อว่าคุณจะได้พบสิ่งที่ดีขึ้น ทั้งร่างกายและจิตใจ  ผมถือโอกาสให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจ แอมเวย์ของผมนะครับ ผมเคยทำแบบจริงจังมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนได้เป็น ผู้นำองค์กร ระดับแพลตตินั่ม ก็เกิดขึ้นแบบตั้งใจทำงานและทุ่มเทเวลา ซึ่งก็เป็นเวลา ปีแรกที่เริ่มทำ ได้เห็นทั้งคนที่จริงจังมาก จริงจังน้อย และคลั่ง (แบบอดีต แฟนเจ้าของกระทู้) ซึ่งก็จะมีหลายระดับต่างกันไป ผมกับครอบครัวตกลง กันว่าจะให้เวลาทำงานเต็มที่ในระยะเวลาหนึ่งปีแล้วเราก็จะมาสรุปกันว่า คุ้มหรือไม่คุ้มที่จะทำงานต่อ และผลสรุปก็ออกมาว่า .... ธุรกิจแอมเวย์ของผมนั้น ไม่คุ้มค่าเวลากับที่ผมสูญเสียไป เงินได้ช่วงที่เป็น แพลตตินั่มนั้น เดือนละสี่ห้าหมื่น แต่ผมต้องเสียเวลา ที่ควรอยู่กับลูก สอนการบ้าน ส่งลูกเข้านอน แต่ถ้าทำธุรกิจนี้แบบจริงจัง ผมต้องไปอยู่กับ ดาวไลน์ ผมเลยยุติการทำธุรกิจแบบจริงจัง ทันที และธุรกิจแบบแนวคิด ครั้งแรกที่คนมาเสนอแผนงาน คือทำเฉพาะเวลาว่าง ซึ่งรายได้ก็หายไปทันทีเหมือนกันจากรายได้หมื่น ก็เหลือเพียงไม่กี่พัน ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจจุดนั้นอีกแล้ว   ช่วงนี้ผมก็ยังทำธุรกิจ แต่ทำแบบสบายๆ ไม่บังคับใครซื้อของ ไม่ได้ร่วม ประชุมดึกๆดื่นๆ ใครจะว่าผมทำงานแบบไม่ตั้งเป้าหมายผมก็ยอมรับครับ เพราะถ้าเป้าหมายนั้นทำให้เราเสียเวลาดีดีกับครอบครัว ผมก็ไม่เอาครับ .... เวลาที่มีความสุขกับครอบครัว  ถ้าเสียไปต่อให้ คุณเป็นดับเบิ้ลโครตเพชรก็เอากลับคืนไม่ได้  ทำใจเถอะครับ เค้าไปไกลเกินกว่าจะกลับเสียแล้ว เอาเวลาดูแลตัวเอง และพ่อแม่ กลับไปบ้านไปเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วผมเชื่อว่าชีวิตคุณ จะดีขึ้นและมีความสุขครับ ขอให้กำลังใจครับ จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:01:11   ความคิดเห็นที่ 125 จากการที่วนเวียนเป็นแมงเม่าในแอมพักหนึ่ง(นานมาแล้ว) เราว่าไม่แปลกที่ตอนแรกๆ ของคนทำแอมจะเป็นอย่างนั้น เพราะความโลภมันเกิดในตัว สังคมแอมมันเป็นการยั่วให้คนเกิดกิเลสตลอดเวลา เรารู้สึกดีใจมากเลยที่ถอยออกมาจากตรงนั้นได้เร็วกว่าที่คิด เพราะอะไรน่ะเหรอ 1. คนทำแอมเวรแล้วจะรวย? ได้เงินหลักหมื่น-แสนนี่เรียกว่าจะรวยแล้วเหรอ? ถามจริงๆ คนที่ทำได้หลักล้านมีกี่คน ไอ้ที่ว่าได้ล้านน่ะ มันเหลือกันจริงๆ ถึงเหรอ แล้วขอถามว่ามีคนทำแอมเวย์สักคนมั้ยที่ติดอันดับเศรษฐีโลก หรือแม้แต่เศรษฐีประเทศไทยก็เถอะ จะมีก็แค่เจ้าของแอมเท่านั้นแหละ เอาเข้าจริง คนทำแอมก็เป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ ที่คอยนั่งทำเงินให้เจ้าของอยู่ดี เคยไปดูบ้านมงกุฏอะไรนั่น ธรรมดามากๆๆๆๆๆ รกเรื้อ ดูไม่เห็นมีราศีอะไรเลย ไปเปิดหนังสือเค้าอ่านที่ร้าน(ไม่ซื้อหรอก) ก็เห็นคอยแต่จะอวดว่าตัวเองรวยนะ ซื้อนาฬิกาเรือนหลายแสน ไปนู่นมา นี่มา ฯลฯ อืม... เราว่าคนรวยจริงๆ กว่าเค้าเยอะแยะเค้าไม่มานั่งออกหนังสือพรรณาอ่ะ 2. คนดังๆ รวยอยู่แล้วยังมาทำ เพราะ...? เพราะมันก็เป็นธุรกิจที่ทำเงินอย่างหนึ่งเท่านั้นในสายตาเค้า คนที่มีศักยภาพพร้อม เงินทุนเยอะ น่าเชื่อถือ โอกาสสร้างความสำเร็จมีสูง ทำไมจะไม่ลองเสี่ยง ผลตอบแทนมันจูงใจนี่่ ไม่งั้นจะทำให้คนลุ่มหลงได้ขนาดนี้เหรอ สุดท้ายแล้วมันไม่มีอะไรนอกจาก สนองความ "อยากได้ อยากมี" ของตนเอง 3. สิ่งสำคัญที่สุดที่เราถามตัวเอง คือ ทำแอมแล้วได้ความสุขจริงหรือ? คำสอนของพระท่านทำให้เราคิดได้เยอะเลยค่ะ จุดนี้ คือ คนเราต้องการความสุขจนต้องยอมทุกข์... แล้วเรายอมทุกข์ทำแอมไปเพื่ออะไร เงินทองใช่มั้ย เราหวังว่ามันจะสร้างความสุขให้เรา แต่ถามว่าเมื่อเราได้ความสุขมาแล้ว ความทุกข์หายไปมั้ย ก็ไม่หายหรอก มันยังอยู่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วเราแสวงหาเงินไปเพื่อหาความสะดวกสบายมากกว่า คิดดีๆ ว่าจริงมั้ย มันให้ความสะดวกสบายเรา ไม่ได้ให้ความสุขเรา ให้บ้าน ให้รถ ให้มีกินมีใช้ดีๆ เราหลงคิดไปเองว่ามันคือความสุข มีเคสเยอะแยะ ที่คนมีเงินสิบล้าน ร้อยล้านแต่มีความทุกข์มากมาย สามีมีเมียน้อยบ้าง ลูกเกเรบ้าง ขับรถชนประสบอุบัติเหตุบ้าง ฯลฯ อย่าบอกนะว่าคนทำแอมสำเร็จจะไม่เจอเรื่องพวกนี้ ถ้าคุณรักจะหาความสบายด้วยเงินทอง เราแนะนำสร้างธุรกิจเองดีกว่า อย่างน้อยมันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นของคุณ มาจากสมองคุณ ถ้าไอเดียดีๆ โอกาสทำเงินให้รวยกว่า เร็วกว่าทำแอมมีเป็นร้อยเท่า คนรวยๆ ที่เห็นๆ กันทุกวันนี้เค้าทำธุรกิจกันสารพัดประเภท ยกเว้นแอมเวรนี่ จะมีก็แต่คนในแอมเวรเองที่สรรเสริญเยินยอกันเอง ออกไปสังคมข้างนอก เค้าก็ไม่สนเราหรอกถึงเราจะเป็นดับเบิ้ลทุตมาจากไหนก็เถอะ วันนี้ยังมีเพื่อนเราที่ยังหลงทำอยู่ ก็เป็นดาวน์เรานี่แหละ แต่เราเลิกแล้วมาสมัครใหม่กับเค้า(เค้ากลายเป็นอัพเราแทน) ก็สมัครไปงั้นเอง ช่วยซื้อนิดหน่อย 3 ปีผ่านไปก็ยังเห็นหมุนเงินเดือนชนเดือน รายได้ไม่เคยพอรายจ่าย ออกมาเช่าห้องอยู่เองเพราะที่บ้านไม่เข้าใจเลยอยากพิสูจน์ตัวเอง มุ่งมั่นเหมือนคนทำแอมทั่วไปนี่แหละ แต่เค้าำไม่ได้ทำอะไรผิดศีลธรรมนะ แต่เราก็ไม่อยากพูดหรือถามว่าไ้อ้ที่เสียเวลาและเงินทองให้แอมเนี่ย หมดไปเท่าไหร่แล้ว วันนึ่งที่มันสำเร็จขึ้นมา มันจะคุ้มมั้ย ถ้ามองในแง่ร้าย คือเลิกไปก่อน ก็ไม่ต้องพูดถึุง เพราะเสียไปเยอะจนนับไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่กระตุ้นว่าอยากสำเร็จก็รีบๆ ทำซะ เพลียแทน เพราะยังไม่เห็นปลายอุโมงค์สำหรับเค้าเลย จากคุณ : monkeypim เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:29:35   ความคิดเห็นที่ 126 อ้ายแอมเวร ทำงานงกๆไม่มีวันหยุดสามปี ได้ตังแค่ไหนเชียว เสียอะไรไปแค่ไหน แม่ม เฮียดำขายข้าวมันไก่สามปี มีตังซื้อตึกที่เคยเช่าหน้าร้าน เป็นมรดกให้ลูกหลานได้ ตามสเปคเอ็ง เป้ะเลยไหม เพื่อนผมเคยทำไม่ถึงปี ตอนนี้มันเป็นเจ้ามือหวย มันบอกว่า ตอนนั้นไม่น่าโง่เลย แถมชวนผมไปฟังบรรยายซะอีก มีแต่เรื่อง เงินหล่นจากฟากฟ้าทั้งน้าน เชื่อก็ฟายแล้ว จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:30:30   ความคิดเห็นที่ 127 - บางครั้งชีวิตก็น่าสมเพชเวทนา เพราะลำพองว่าตนเองก้าวไกลหลายร้อยลี้ อุปมาดังลาลากโม่แป้งที่ถูกปิดตา ถูกเสือกไสให้รุดหน้าไม่หยุดยั้ง เข้าใจว่าเดินไปไกลโข ซึ่งความจริงยังอยู่ตำแหน่งเดิม                                      (โก้วเล้ง) จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:53:22   ความคิดเห็นที่ 129 ทุกอาชีพ ทุกการงาน ท้ายสุด เราก็ทำเพื่อเงิน เอาเงิน ไปทำอะไรล่ะ ? ก็เพราะเงิน เป็นสื่อกลางในการซื้อหาปะัจจัย 4 ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เครื่องนุ่งหม และ อาหาร หลายคนใช้เงินเพื่อซื้อหาประสบการณ์ของชีวิต ที่ในชีวิตหนึ่งเกิดมาแล้วควรเห็นก่อนตาย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เงิน คือสิ่งสำคัญ แต่เงินก็ซื้อไม่ได้ทุกอย่าง Amway คือ ธุรกิจเครือข่าย ที่ลงทุนน้อยที่สุดแล้ว สำหรับการจะมีธุรกิจของตัวเอง สักธุรกิจหนึ่ง ผมได้มีโอกาสคุยกับคนเคยทำธุรกิจหลายคน เช่น เปิดร้านกาแฟ ลงทุนเปิดร้านอาหารในเซ้นทรันเวิลด์ แต่แล้วธุรกิจเหล่านั้นก็เจ๊งภายใน 1 - 5 ปี กับเงินลงทุน หลายล้านบาท ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ได้แก่ ขาดสภาพคล่อง ปัญหาการเมือง ปัญหา เศรษฐกิจโลก ปัญหาโรคระบาด ปัญหาระหว่างผู้ร่วมลงทุนด้วยกันเอง ปัญหาลูกจ้าง และ อีกสารพัดปัญหาที่ทำให้ธุรกิจใหม่ๆ เจ๊งภายใน 5 ปี แรก ตรงนี้ เมื่อผมได้ศึกษาธุรกิจแอมเวย์แล้ว เห็นว่าเป็นธุรกิจที่ง่ายและลงทุนน้อย 1. ค่าสมัคร 900 บาท 2. เปลี่ยนยี่ห้อ สินค้าจากซื้อยี่ห้ออื่นมาซื้อยี่ห้อแอมเวย์ เพื่อให้เกิดยอดของเราเอง โดยทั้งนี้ การซื้อใช้ควรซื้อแต่พอเหมาะและจำเป็นในการใช้ (พูดง่ายๆ ห้ามกักตุนสินค้า) 3. เมื่อใช้สินค้าแล้ว เห็นผลหรืออินในผลิตภัณฑ์ ก็แนะนำต้่อ แก่เพื่อนคนรู้จักหรือใครก็ได้ ว่าเราใช้สินค้านี้แล้วดีเห็นผล 4. เื่มื่อคนที่เราแนะนำได้ลองใช้แล้วเห็นว่าดี ก็อาจจะสมัครเป็นMember เพื่อซื้อสินค้าใช้อย่างเดียวก็ได้ ตรงนี้ก็จะกลายมาเป็นยอดส่วนตัวของเรา 5. บางคนชอบสินค้าและสนใจจะสมัครเป็น นักธุรกิจ ก็สามารถสมัครได้แบบ ABO ซึ่งสามารถไปแนะนำต่อได้ ธุรกิจ แอมเวย์ ก็มีเท่านี้แหละครั 5 ข้อ - ไม่จำเป็นต้องง้อ - ไม่ต้องตื้อ - ไม่ต้องบังคับ - เราทำหน้าที่ให้ข้อมูล - เราทำหน้าที่เพียงแนะนำ - เราทำหน้าที่เพียงแค่เปิดโอกาส - ส่วนการตัดสินใจ เป็นของเค้าไปคิดเอง - เราตัดสินใจแทนไม่ได้ ซึ่งจากที่ผมทำมาเพียงเท่านี้ ผมไม่เห็นเลยว่า Amway หลอก โกง หรือ เอาเปรียบอย่างไร และนี่คือสิ่งที่ผมคลุกคลีและประสบพบเจอครับ ใน Center ของผม จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 01:06:06   ความคิดเห็นที่ 130 ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นกระทู้ต่อว่าแอมเวย์ มากกว่าจะพูดถึงคนทำแอมเวย์คนนึง ที่ไม่จัดการตัวเองให้ดี ปล่อยใจไปกับเรื่องชู้สาว ลามไปถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ซะงั้น ถ้าให้ผมแนะนำ ก็คงไม่ต่างจากกระทู้ก่อนหน้า คือปล่อยวาง และปล่อยเขาไปตามทาง เพราะปัญหาจริง ๆ ที่เกิด ผมอ่านปราดเดียว ก็รู้เลย ว่ามันเรื่องส่วนตัวของแฟนคุณ จขกท. เอง ผมไม่ขอพูดอะไรที่นอกประเด็นนะครับ จากคุณ : chankij (chankij) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 01:13:21   ความคิดเห็นที่ 131 อ่อ พอดีคุณ MacDeltaThai ตัดหน้ากระทู้ผมไป เลยนึกขึ้นได้ ผมว่า คุณอ่านแล้ว ปล่อยวาง ไม่ต้องไปหวดคีย์บอร์ดพิมพ์อะไรที่เกี่ยวกับแอมเวย์จะดีกว่า เพราะคุณยิ่งพิมพ์ไป คนที่ไม่เข้าใจบางคน ก็จะพาลว่าแอมเวย์ในทางลบหนักเข้าไปอีก จขกท.เขาอยากได้ความเห็น เพื่อแก้ไขปัญหาชีวิต มากกว่าต้องมาเห็นกระทู้ที่มีแต่จะด่าแอมเวย์ ซึ่งไม่ตรงประเด็นครับ ปล.ไม่ได้ว่าแอมเวย์ไม่ดีนะ เพราะผมก็เป็นสมาชิก ใช้สินค้าอย่างเดียว แต่มันเหมือน Dejawu อ่ะ พอพูดถึงแอมเวย์ปุ๊บ ก็จะเป็นแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 53 01:22:57 จากคุณ : chankij เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 01:21:28   ความคิดเห็นที่ 134 เห็นด้วยกับข้างบนนะคะ คุณ MacDeltaThai ไม่จำเป็นต้องบอกบ่อยๆ คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้กลยุทธ์ของแอมดี คห. 125 ก็บอกอยู่ว่าเราเคยทำมาก่อน แต่ในทางทฤษฎีกับทางปฎิบัติมันไม่ไปทางเดียวกันเสมอไปหรอกค่ะ คนที่มัน"อยาก" สำเร็จทุกลมหายใจน่ะ เค้ายอมทำทุกทางเพื่อให้ถึงเป้าหมาย (เหมือนแฟนคุณ จขกท.) เค้าไม่มานั่งเรื่อยเปื่อยแนะนำสินค้าชิลล์ๆ โดยไม่ยอมปิดการขายหรอก ถามอัพไลน์ที่คุณไปด้วยสิ ว่าเป้าหมายของการออกหาลูกค้า คือการปิดการขายหรือเซ็นใบสมัครใช่รึไม่ โน้มน้าม จูงใจ กักขัง หน่วงเหนี่ยวสารพัดวิธีแหละ กว่าจะปล่อยได้ อีกอย่าง ที่บอกว่าลงทุนน้อย คือที่นับได้แบบ fixed เช่นค่าสมัครค่ะ แต่ที่นับไม่ได้มันอีกมหาศาล ไม่อย่างนั้นคนจะต้องซื้อของตุันรักษายอดหรือรูดบัตร หมุนเิงินกันจ้าละหวั่นทำไม คนเป็นหนี้เพราะทำแอมมีให้เห็นเยอะมากมาย โดยที่ยังไม่เห็นกำไรแน่นอนที่จะได้ กำแต่ลม ถ้าต้องการลงทุน้อย ไปซื้อหมูหรือลูกชิ้นมาทอดขายยังน้อยกว่านะ จริงๆ ไม่แอนตี้แอม แต่อยากให้คนใช้พลังการสร้างสรรค์ในตัวเอง เพื่อสร้างแบรนด์ของตัวเองมากกว่า ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าสำเร็จ มันไปได้ไกลและน่าจดจำ(กว่มทำแอม)มากมาย จากคุณ : monkeypim เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 01:50:12   ความคิดเห็นที่ 135 เรียนคุณMacDeltaThai และเพื่อนๆพี่ทั้งหลาย การที่เราจะประสปความสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์ หรือธุรกิจอื่นๆ ไม่ได้อยู่ที่ตัวสินค้าหรือที่องค์กรครับ แต่อยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าคนเก่งและมีวิสัยทัศน์ ฉลาด มีวินัยในตนเอง มีความตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จเองครับ ดังที่คุณMacว่า เจ้าของโรงงานซอส หมอ วิศวะ บุคคลต่างๆเหล่านี้เขามีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้วครับ เขาทำแอมเวย์หรือยี่ห้ออื่นๆหรือขายประกัน เขาก็ประสบความสำเร็จอยู่ดี ดังที่ได้สดับมา เปรียบเทียบกับตัวเอง ตอนทำงานบริษัทเป็นฝ่ายขาย (ขออภัยที่ยกตัวอย่างตัวเอง)ผมทำยอดเป็นอันดับหนึ่งทุกปี ย้ายภาค ย้ายเขต ย้ายAccount ทีไรตูก็อันดับหนึ่งทุกปี เคยไปฟังMLMทั้งหลายและเแอมเวย์ด้วย มีบัตรสมาชิก2-3ใบ ก็คิดเหมือนกันว่าถ้าตูทำ ก็คงทำได้ติดอันดับสารพัดเพชรและมงกุฏเหมือนกัน แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำ เพราะวิธีการที่จะไปถึงตรงนั้นมันช่างทำร้ายตัวเอง และผู้คนรอบข้างมากเหลือเกิน กลัวไม่มีเพื่อน ลาออกจากงานมาประกอบอาชีพส่วนตัวด้วยเงินลงทุนประมาณ 40,000บาท ปัจจุบันผ่านไป4-5ปี มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ประมาณเดือนละ200,000บาท งานก็ไม่เครียด สบายกว่าทำแอมเวย์อีก จากคุณ : oeton เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 04:19:28   ความคิดเห็นที่ 136 # 134 จริงๆ ก็ไม่อยากจะพูดบ่อยหรอกครับ ผมเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่แล้วล่ะครับ แต่ที่นำมาแบ่งปันเพราะ ใจรัก จริงๆครับ คุณ monkeypim เองก็ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่บ้างน่ะครับ เรื่อง ค่าใช้จ่ายในการ กักตุนสินค้า ตรงนี้ ไม่มีน่ะครับ !! แอมเวย์ห้ามกักตุนสินค้า น่ะครับ และผมมักจะด่าพวกที่ชอบกักคุนสินค้าว่า โง่ ด้วยน่ะครับ ถามจริงๆเถอะครับว่า คุณจะกักตุนสินค้า ได้ไปสักกี่เดือน แล้วที่กักตุนไปนั้นมันเข้าเนื้อคุณไหม แล้วถ้ามันเข้าเนื้อคุณจะทำไปเพื่ออะไรกันเล่าครับ ธุรกจแอมเวย์ คือเครือข่ายผู้ซื้อและผู้ใช้ หรือ เครือข่ายผู้บริโภค ที่ตัดพ่อค้าคนกลางออกไป รายได้ของพ่อค้าคนกลางก็นำมาจ่ายคืนให้แก่ นักธุรกิจนี่แหละครับ ส่วนเรื่องปิดการขาย ขึ้นอยู่กับว่า คุณไปคุยเพื่ออะไร เพื่อ สปอนเซอร์ หรือ ไป สาธิตสินค้า หลายครั้งที่ผมได้ไสาธิตสินค้าแล้วลูกค้าไม่สนใจ ก็ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจครับ ย่อมมี Yer และ No เป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้ผมมีธุรกิจ่สวนตัวที่สร้างแบรนเองอยู่แล้วครับ รายได้เฉลี่ย 30000 - 40000 อย่างที่ผมบอกแหละครับว่า มันมีความเสี่ยง และ ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อีกเยอะครับ แอมเวย์ง่ายที่สุดแล้วครับ ลงทุนไม่กี่อย่างหรอกครับ ค่าสมัคร ค่ารถ ค่า CD ค่าเซ็นเตอร์ เท่านี้แหละครับ ผมเคยคิดคราวๆใน 1 ปี ค่าใช้จ่ายเหล่านี้รวมประมาณ 10000 กว่าบาท หรือเดือนล่ะ 800 บาท 800 บาทกิน MK มื้อหนึ่งก็หมดแล้วครับ แต่ 800 บาทนี้คือต้นทุนที่ผมลงทุนในธุรกิจแอมเวย์ครับ ค่า CD ก็ซื้อแค่ครั้งเดียวแล้วไรท์เก็บไว้ในเครื่องครับ บางทีแจกดาวไลน์ไป มาดูดไปฟรี นี่แหละครับ แอมเวย์ภาคปฎิบัติของผม ผมทำอยู่ ผมทำจริง ผมมี Center ดี ผมมีทีมดี และ ผมมีระบบ ดี ผมจึงทำแอมเวย์อย่างมืออาชีพครับ ผมกล้าการันตีเลยน่ะครับว่า ในอนาคตอีก 3 - 5 ปีข้างหน้านี้ จะเห็นเด็กรุ่นใหม่ๆประสบความสำเร็จกันอีกเยอะครับ จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 05:16:12   ความคิดเห็นที่ 137 ... แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 53 05:20:34 จากคุณ : MacDeltaThai เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 05:20:21   ความคิดเห็นที่ 140 หัวหน้าที่ทำงาน ก็ทำแอมเวรเหมือนกัน แกจะชอบเปิดบทสวดมนต์ของแอมเวรให้ฟังทุกวัน ผมก็เลยแก้เคล็ดโดยการเปิดคาราบาวสวนซะงั้น จากคุณ : cman_ccr เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 05:28:41   ความคิดเห็นที่ 141 ขอร้องคุณ macdeltathai กรุณาให้เกียรติจขกท. หน่อยครับ กระทู้นี้จขกท. ไม่ได้ตั้งมาไว้ให้คุณเผยแพร่สรรพคุณความดีงามของแอมเวย์ หากคุณต้องการเผยแพร่เรื่องราวของแอมเวย์ กรุณาแยกไปตั้งกระทู้ต่างหากครับ ด้วยความเคารพต่อจขกท. จากคุณ : หมูน้อยไม่สบาย (คุณหมูน้อยตัวขาว) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 06:30:48   ความคิดเห็นที่ 142 เห็นด้วยกับ คห. 141 เจ้าของกระทู้มาปรึกษาปัญหาชีวิต ไม่ได้ให้มาชีแจงแถลงไข Amway ถ้ามีสามัญสำนึก กรุณาหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะมันแสดงถึงสภาวะจิตอันตกต่ำของคุณ จากคุณ : TurnTheLightOn เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 08:03:06   ความคิดเห็นที่ 143 อย่าไปสนใจมากเลยครับ ลองได้เป็นสาวก แอมเวร แล้วมันจะหน้าด้านขึ้นครับ ต่อให้คุณมาโพสปรึกษาปัญหาชีวิตยังไง คนเหล่านี้ก็ยังเทิดทูน แอมเวร ต่อได้อยู่ดี ได้แต่สังเวชต่อไป เมื่อไรที่คนพวกนี้หลุดออกมาก็ถือว่าเป็น โชค ของเขาล่ะครับ จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 08:31:53   ความคิดเห็นที่ 144 เรื่องแอมเวร เอ้ยไม่ใช่แอมเวย์ก็เกิดขึ้นกับคนใกล้ๆ ตัวผมเองนะนั่นคือสามีของป้า (ปัจจุบันเลิกกันแล้ว)เลิกกันไปได้ก็ดี คือตอนเด็กผมจำได้สามีป้าท่านนี้เคยทำแอมเวย์ แต่ปัจจุับันไปไถนาเลี้ยงควายอยู่ที่บ้านเก่า สรุปคือแอมเวย์นั้น ไม่มีคนทุกคนทำแอมเวย์แล้วรวยหรอกครับ ถ้าทุกคนทำแล้วรวยกันจริง ป่านนี้ประเทศไทยไม่มาเดินตามหลังชาวบ้านหรอก ส่วนอีกท่านนึงก็เพื่อนผมทำเกียวกับ แอมเวย์เหมือนกัน เช้าผมก็เห็นกินยาอะไรไม่รู้ตอนเย็นก็ต้องไปศูนย์แอมเวย์ อะไรก็ยึดติดกับแอมเวย์ ชีวิตมีแต่แอมเวย์ เห็นแล้วคิดว่า บ้าไปแล้ว ^^ ส่วนคุณ "MacDeltaThai" คือผมไม่อยากพูดอะไรมาก ทุกคนส่วนมากคิดยังไงก็คิดอย่างนั้น ผมอ่านบทความจากเจ้าของกระทู้แล้ว สงสารมากครับ ผมจะไม่โทษแอมเวย์หรอกนะครับ แต่จะโทษก็จะโทษผู้ชาย โง่ๆ คนนึงเท่านั้นอายุก็มากแยกแยะอะไรไม่ออก มีการศึกษาก็พอสมควร แฟนคอยเชื่อเหลือเวลามีปัญหา แต่กลับทำนิสัยไม่สิก็แรงนิดนึง ทำสันดานสุนัขอีก หุหุว่าแค่นี้พอเดี๋ยวอมยิ้มหาย ที่จริงอยากว่าแรงกว่านี้อีก จากคุณ : Ascorbic C เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 08:36:28   ความคิดเห็นที่ 145 ที่คุณMacกล่าวว่า "ตรงนี้ เมื่อผมได้ศึกษาธุรกิจแอมเวย์แล้ว เห็นว่าเป็นธุรกิจที่ง่ายและลงทุนน้อย 1. ค่าสมัคร 900 บาท 2. เปลี่ยนยี่ห้อ สินค้าจากซื้อยี่ห้ออื่นมาซื้อยี่ห้อแอมเวย์ เพื่อให้เกิดยอดของเราเอง โดยทั้งนี้ การซื้อใช้ควรซื้อแต่พอเหมาะและจำเป็นในการใช้ (พูดง่ายๆ ห้ามกักตุนสินค้า) 3. เมื่อใช้สินค้าแล้ว เห็นผลหรืออินในผลิตภัณฑ์ ก็แนะนำต้่อ แก่เพื่อนคนรู้จักหรือใครก็ได้ ว่าเราใช้สินค้านี้แล้วดีเห็นผล 4. เื่มื่อคนที่เราแนะนำได้ลองใช้แล้วเห็นว่าดี ก็อาจจะสมัครเป็นMember เพื่อซื้อสินค้าใช้อย่างเดียวก็ได้ ตรงนี้ก็จะกลายมาเป็นยอดส่วนตัวของเรา 5. บางคนชอบสินค้าและสนใจจะสมัครเป็น นักธุรกิจ ก็สามารถสมัครได้แบบ ABO ซึ่งสามารถไปแนะนำต่อได้ ธุรกิจ แอมเวย์ ก็มีเท่านี้แหละครั 5 ข้อ - ไม่จำเป็นต้องง้อ - ไม่ต้องตื้อ - ไม่ต้องบังคับ - เราทำหน้าที่ให้ข้อมูล - เราทำหน้าที่เพียงแนะนำ - เราทำหน้าที่เพียงแค่เปิดโอกาส - ส่วนการตัดสินใจ เป็นของเค้าไปคิดเอง - เราตัดสินใจแทนไม่ได้" ถ้าทำวิธีbasicแบบนี้ผมอวยพรให้ อีกห้าปีคุณmacก็ไม่ได้เป็นเพชรหรอก ผมก็เปนนักธุรกิจแอมเวย์แล้วศึกษาจนคิดว่ามองได้ทะลุแล้วในธุรกิจนี้ ผมได้ลองทำดู ผมคิดว่ามันยาก แล้วเซนเตอร์ผมที่อุดมไปด้วยอาชีพดีๆเช่น หมอ ทนาย ทันตแพทย์ เภสัช เจ้าของธุรกิจ ฯลฯ กลับสอนวิธีการที่มันขัดจรรยาบรรณเหล่านั้นเพื่อใหเป็นเพชรใน3-5ปี ดีที่ผมไม่ถลำตัวไปมากกว่านี้ ไม้งั้นคงเสียคนรู้จักไปแยะ สังคมเหล่านี้ไม่จริงใจหรอกครับ ทุกคนแค่เฟคให้ยิ้มและให้คิดบวก สำหรับเจ้ของกระทู้ ขออวยพรให้สักวันแฟนคุณคิดได้ แล้วกลับมายืนอยู่ในจุดเดิมที่เคยมีความสุขครับ จากคุณ : dollman (Dollman) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 08:55:15   ความคิดเห็นที่ 146 ผมว่านะ  ถ้าผมขยันทำแบบแอมเวย์ ผมนั่งกดโอทีทุกวันเงินก็ได้เยอะกว่าแล้ว  แถมมีประกันสังคม มีสวัสดิการอีก จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 09:40:24 ความคิดเห็นที่ 147   ผมเห็นใจเจ้าของกระทู้นะครับ ที่มีแฟนที่เลวมาก แต่พวกเราที่อ่านหรือPost ความเห็นขอให้ใช้"สติ"ตรึกตรองให้ดีนะครับ ว่าปัญหานี้อยู่ที่ธุรกิจหรือตัวคน ในทุกทุกสังคมทุกทุกอาชีพ ล้วนมีผู้ชายเจ้าชู้ หลอกลวงแฟน ไม่ดูแลพ่อแม่ กินแต่เหล้า เที่ยวแต่กลางคืน ยืมเงินคนอื่น เป็นหนี้เป็นสิน มากมาย เพือนผมคนหนึ่งทำMLM บริษัทยูนิลีเว่อร์ ตั้งใจทำมาก แฟนทำงานบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ตอนหลังแฟนแอบไปมีกิ๊ก แล้วมีอะไรกับเพื่อนร่วมงาน และหลอกเงินแฟนไปด้วย เพื่อนร่วมงานก็รู้ด้วย เหมือนโดนผีเข้า ไม่เห็นมีใครเอามาเขียนบอกแม้เลยว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ มีความมั่นคง แฟนไปทำงานบอกสังคมดี แต่สุดท้ายเอาแฟนเราไป แฟนอินมาก ทำงานตั้งใจ กลับบ้านดึก บอกอยากสร้างอนาคตกับบริษัทให้พ่อแม่ ทำโอที เต็มที่ ตกดึกเลิกงานต้องพาลูกค้าไปเลี้ยง กลับบ้านตีหนึ่ง ตื่นเช้า แม่กับแฟนบอกว่าให้เปลี่ยนงานก็ไม่เปลี่ยน ตั้งใจทำเพื่อพ่อแม่ สุดท้ายมีกิ๊ก มีอะไรกับเพื่อนร่วมงาน ท้องด้วย ดังนั้นอยากจะบอกคนอ่านคนเขียนทุกคนนะครับ ใช้สติ อย่ากล่าวโทษส่วนอื่นโดยไม่พิจารณา กระทู้นี้บอกให้รู้ถึงคนเลว ไม่ใช่บริษัทเลว เจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ อย่าสร้างกรรมโดยการว่ากล่าวหรือโทษสิ่งสภาพแวดล้อมหรือบุคคลอื่นเลยนะมันบาป ส่วนแฟนที่มันเลวก็ปล่อยเขาไปเถอะ เดี๋ยวกรรมก็ตามทันเอง แต่ตัวคุณเองอย่าสร้างกระแสที่ใช้ความคิดเห็นมากกว่าข้อเท็จจริง ส่วนคนอื่นอื่น อย่าโพสว่านะครับว่าเป็นพวกแอมเวย์ ผมให้ข้อคิิดเห็นเตือนสตินะครับ เพราะรู้สึกว่าจะกลายเป็นกระทู้ไร้สาระแล้ว บุญรักษานะครับ จากคุณ : คนมีศีล เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 11:44:56 A:115.87.90.187 X: TicketID:199221   ความคิดเห็นที่ 148 คุณ macdeltathai  ออกจากกระทู้นี้ไปเถอะ เห็นจากความคิดเห็นคุณแล้ว มันหน้าด้านที่จะแถสิ้นดี คนเค้ามีปัญหา แต่คุณกับแถเรื่องแอมเว ด้วยคำพูดเดิมๆของคุณเราตามอ่านมาเยอะแล้ว คุณก็พูดแต่คำเดิมๆ ตอนนี้คุณรู้ตัวไหมว่า คนที่อ่านกระทู้นี้อยู่อยากเชิญคุณออกจากกระทู้นี้ จากคุณ : SUPERGIG (gig&namm) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 12:06:45 ความคิดเห็นที่ 149   สาเหตุที่ผมไม่ทำแอมเวร 1.ความเป็นไปได้ต่ำกว่าความเป็นไปไม่ได้ (มากๆ) 2.แอมเวร ได้สร้างความร้าวฉานในสังคมมากจนเกินไป 3.ผมยังไม่เลวพอ และไม่อาจสะกดจิตตัวเองได้ว่า เรากำลังไปมอบสิ่งดีๆ . .. . พอดีว่ามีความรู้ทั้งทางคณิตศาสตร์ เศรษฐกิจและจิตวิทยา เลยมองทุกอย่างทะลุหมด (และรู้วิธีทำให้สำเร็จด้วย^^) แต่ที่ไม่ทำเพราะข้อ2+ข้อ3 มันค้ำความเป็นคนเอาไว้ จากคุณ : nohaha เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 12:40:10   ความคิดเห็นที่ 150 ส่วนตัวผมว่า มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวธุรกิจเลยแม้แต่น้อยครับ ผมอ่านดูแล้ว เหมือน จขกท. จะโทษไปทางตัวแอมเวย์รึเปล่า ที่ทำให้แฟนคุณเปลี่ยนไป คนที่มีกิ๊ก ไม่จำเป็นต้องทำแอมเวย์ ก็มีกิ๊กได้ครับ คนเห็นแก่ตัว ไม่จำเป็นต้องทำแอมเวย์ ก็เห็นแก่ตัวได้ครับ หรือบางคนจะบอกว่า "ส่วนมากพวกที่ทำแอมเวย์คือพวกที่เห็นแก่ตัว" ผมว่าของแบบนี้ มันอยู่ที่ "มุมมองของแต่ละคนครับ" ซึ่งตัวผมเองคิดว่า มันง่ายเอามากๆ กับการที่จะแต่งเรื่องขึ้นมาด่าธุรกิจขายตรงธุรกิจนึงในโลกออนไลน์ เพราะคนจ้องจะตามน้ำ มีเยอะมากๆอยู่แล้ว ทั้งพวก แอนตี้ , พวกที่เคยทำแล้วไม่ชอบ , คู่แข่งทางธุรกิจ ผมไม่ได้บอกว่าคุณ จขกท. โกหกนะครับ แต่ผมขอฟังหูไว้หูละกันครับ ส่วนตัวตอนนี้ก็กำลังศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจนี้อยู่ครับ และจะลองลงมือทำดู แต่ผมจะทำโดยใช้สติครับ ทำหลังเลิกงานประจำด้วย  กะว่าจะลองสัก 6 เดือน เดี๋ยวผลเป็นยังไง ผมจะเอามาแฉให้ฟังครับ ว่าดีหรือไม่ดี จากคุณ : zareaL เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 12:54:50   ความคิดเห็นที่ 151 ระหว่างเรา กับแอมเวย์ น่าเศร้า !! แฟนเราเขาเลือกแอมเวย์ค่ะ มีใครทำแอมเวย์แล้วสำเร็จบ้างมั้ยคะ ทวนคำถาม คุณเลิกเหล้าเช้านี้ ขอ คนที่ "สำเร็จ" มาแสดงตัวหน่อยครับ ไม่ใช่เอาคนที่ กำลังทุ่มเท ยังพยายามอยู่ เอาคนที่ "ตอนนี้" มีอิสระทางการเงิน แล้วนะครับ ยังเป็นกำลังใจให้ จขกท. ครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 12:58:31   ความคิดเห็นที่ 152 #151 ถ้ามีคนที่สำเร็จ มาโพสต์ คุณจะเชื่อไหมล่ะครับ คนสำเร็จที่ว่านี่ ในความคิดคุณต้องมีรายได้จากการทำธุรกิจนี้ เดือนละเท่าไหร่ ถ้า 6-8 หมื่นต่อเดือน เพื่อนผมทำให้ผมดูได้มาแล้วครับ แล้วผมก็คิดว่า การที่เด็กวัยรุ่นที่เคยเอาแต่เที่ยวคนนึงทำได้ขนาดนี้ ผมว่าเค้าประสบความสำเร็จไปขั้นนึงแล้วแหละครับ ถ้าสมมติ มีคนสำเร็จในธุรกิจนี้มาโพสต์ 1.จะมีใครเชื่อไหม ? 2.เชื่อ แต่ก็จะด่าประมาณว่า ไอ้พวกทำนาบนหลังคน หลวกลวง บลาๆๆ  เพียบ หรือแม้กระทั่งคนที่เคยทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะโดนด่าประมาณ "เพื่อนผมเมื่อก่อนมันทำแอมเวย์ตั้งหลายปี ตอนนี้เลิกละ ไปไถนาอยู่บ้านเก่า 555" ถ้าจะสรุปให้ฟังก็คือ ธุรกิจขายตรงแบบนี้ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว คุณก็มีเรื่องถูกด่าอยู่ดีแหละครับ ผมถึงบอกว่า ของแบบนี้ มันอยู่ที่ "มุมมองของแต่ละคนครับ" จากคุณ : zareaL เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 13:18:13   ความคิดเห็นที่ 154 เอ่อ คุณ zareaL คนถามน่ะ จขกท. นะคร้าบ ไม่ใช่โผม จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 13:37:47   ความคิดเห็นที่ 155 ก็เห็นคุณบอกให้เอามาให้ จขกท. ดูหน่อย - -" ถ้าแค่ 6-8 หมื่น  ผมจะลองขอสลิปเพื่อน มาสแกนให้ดูครับ ว่ามันได้จริงๆ (มันจะให้เปล่าหว่า 555) แต่ถ้าถามว่า มันมีอิสระทางการเงินรึยัง อันนี้ ผมตอบไม่ได้ (แต่คิดว่ายัง 555 เพราะเห็นมันยังทำอยู่) เพราะความพอใจในจุดสูงสุดของแต่ละคนมันต่างกัน แถมมีตัวแปรเรื่อง "เวลา" ที่ทำให้ความพอใจของคนเราในแต่ละช่วงเปลี่ยนไปได้ ส่วนเรื่องแอมเวย์นี่ที่อยากทำเพราะ "ความสงสัย" ล้วนๆเลยครับ ผมก็นั่งท่องเว็บบอร์ดตัวยง ความเห็นต่อแอมเวย์ในโลกออนไลน์นี่ ประมาณ 90% ได้อะมั๊งที่ว่าไม่ดี  555  จริงๆผมว่ามันก็น่าเชื่อนะ  แต่มันมาขัดแย้งตรงตัวเพื่อนผมนี่สิ ยังไงผมจะลองทำดูครับ คุยกะแฟนแล้ว แฟนไม่ว่าอะไร เดี๋ยวขอลองด้วยตัวเองก่อน อยากรู้ ไอ้ที่คนส่วนใหญ่เค้าว่าไม่ดีมันจริงไหม เพราะทุกวันนี้ ช่วงหลังเลิกงาน กลับมาก็นั่งเล่นเน็ต เล่น DotA กะเพื่อนไปวันๆ อยากลองทำอะไรให้มันเป็นประโยชน์บ้าง ผมจะทำอย่างมีสติครับ 1.ไม่กลับดึกอย่างแฟน จขกท. แน่นอน เพราะแฟนผมโหดใช่ย่อย 5555  ยังงงอยู่เลยมันไปทำแอมเวย์บ้าอะไรกลับตี1 - -"   2.ไม่ซื้อสินค้ามาตุนเองเพื่อเอายอดแน่นอนครับ เพราะเงินเดือนผมก็ไม่ได้มากมายอะไร 3.จะไม่ให้กระทบงานประจำแน่นอน (9.30 - 17.00 น.)  เพราะเจ้านายผมก็คือพี่สาวผมเอง 555 จากคุณ : zareaL เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 13:55:58   ความคิดเห็นที่ 156 ผมก็มีญาติทำสำเร็จอยู่ในระดับเพชรบริหารนะ รายรับเดือนนึงก็หลายแสนไม่รวม % ต่าง ๆ ไปเที่ยวมาแล้วก็รอบโลก ตั้งแต่สมัยปีนึ่งคนได้ไปยังไม่ถึง 50 คน ... เกือบ 20 ปีแล้วมั๊ง ไม่ต้องถามเลยว่ารายจ่ายเค้าเท่าไหร่ เพราะมันน้อยกว่ารายรับมาก ๆ แน่ ๆ สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ จะบอกว่า Amway หลอกลวงทำแล้วล้มเหลวมันไม่ใช่หรอกครับ มันก็แค่ธุรกิจหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าธุรกิจอะไร งานอะไร มันก็มีทั้งคนสำเร็จและคนล้มเหลวทั้งนั้น เพียงแต่ประเด็นของกระทู้นี้ มันอยู่ที่จริยธรรมการไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จ ว่าใช้วิธีที่ดี ถูกต้อง หรือว่าวิธีที่ดี ๆ มันทำแล้วไม่สำเร็จ ต้องทำเลว ๆ ใช้ทางลัด แต่ผมอยากบอกว่า งานหรือธุรกิจที่ทำแล้วรุ่งกว่า Amway ก็มีเยอะแยะ ค่อนข้างเบื่อความคิดในกะลาที่บอกว่า Amway คือสุดยอดอยู่เหมือนกัน คนพวกนี้น่าสงสาร แต่ผมไม่ได้เกลียด Amway หรอกนะ Active8 กะน้ำเชอร์รี่เค้าผมก็ชอบทาน 5555+ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 53 14:01:47 จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 13:58:16   ความคิดเห็นที่ 157 ไม่เข้าใจว่าคุณ Mcdeltathai ทำไมจะต้องมาประจารณ์ตัวเอง และ Amway เพื่ออะไร บอกว่าตัวเองล้มเหลวบ้าง บอกทำแล้วไม่ดีบ้าง ที่คุณทำไม่ได้ ทำแล้วไม่ดี ทำแล้วล้มเหลว ไม่ใช่เพราะคุณไม่มีการบริหารจัดการที่ดีเหรอครับ ความรู้ในมหาลัยทั่ว ๆ ไปเขาก็สอนว่าอะไรเป็นอะไร แล้วควรจะทำอย่างไร ได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง คุณจะเอาแต่ Amway ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ คุณได้ดูลึกถึงเบื้องลึก การทำงานของเขาจริง ๆ หรือยังละครับว่าเป็นอย่างไร ทำอะไรก็ทำได้แต่ต้องรู้จักกาละเทศะหน่อยนะครับ ปล. ไม่ได้เกลียดแอมเวย์ และไม่ได้รักแอมเวย์ ปล.2 แต่สิ่งที่จะทำให้เกลียดก็เพราะมีคนมาประจารณ์ตัวเอง และบริษัทตัวเองแบบนี้ จากคุณ : MindDriller เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 17:25:28   ความคิดเห็นที่ 158 สาวกแอมเวย์เยอะเลยวุ้ย ฮ่าๆๆ โชคดีดีรวยอยู่แล้ว O_o จขกท คะ เราว่าคุณลิกกับเขาเหอะ เลิกกับเขาเด็ดๆเลย คิดถึงตัวเองให้มากหรือคิดถึงพ่อแม่ของตัวเองให้มากกว่า ท่านเลี้ยง จขกท ให้เป็นคนนะคะไม่ใช่_วาย แรงไปมั๊ยเนี่ยแต่บอกตามตรงว่าสงสารพ่อแม่คุณมากกว่าตัวคุณอีก เงินเป็นแสนๆเอาไปทำให้ท่านสบายได้ตั้งเยอะแต่กลับเอาไปให้ผู้ชายคนเดียว เรางี้โค ตรเกลียดคนที่นึกถึงคนอื่นก่อนพ่อแม่ตัวเองจริงๆ เอางี้นะคุณไปกราบพ่อแม่เล่าความทุกใจให้ท่านฟังเชื่อเถอะว่ากำลังใจจากท่านจะทำให้ จขกท ระลึกได้และเลิกจมปลักโคลนห่วยๆอย่างไอ้ผู้ชายคนนั้นซักที จากคุณ : Nameless Monster เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 17:34:18   ความคิดเห็นที่ 159 บริษัทนี้ในความคิดผมนะครับ เป็นธุรกิจนึงที่เอาคนอื่นๆมาเป็นฐาน คนที่สำเร็จก็มีอยู่จริง แต่เป็นส่วนน้อยและก็เอาคนพวกนี้มาโมษณาเป็นภาพลักษณ์ของบริษัท ผมได้พบเจอคนพวกนี้ด้วยตัวเอง พยายามให้เราสมัครให้เราซื้อของ จนผมต้องห่างคนพวกนี้ไป พวกคุณอย่ามาบอกว่าปัญหาเกิดจากการจัดการของคนที่ทำอยู่แล้วมีปัญหา มันเป็นปัญหาของระบบคุณ ระบบคุณทำให้ผู้คนบางคนเป็นแบบนี้ สุดท้ายนี้ ไม่มีทางได้แอ้มผมแน่นอนครับ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 17:48:43 ความคิดเห็นที่ 160   ความรวยไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตทุกคนได้หรอกครับ มีเงินเยอะคนที่แวดล้อมเรามีแต่คนที่หวังจากเราทั้งนั้น(อาจจะคิดไปเองก็ได้นะครับ)(แต่มันมีให้เห็นเยอะครับ) เก็บเงินวันละ 100 บาท 3 ปี 109500บาท(ยังไม่รวมอะไรอื่นๆอีกนะครับ) การออมเงินก็เป็นการลงทุนทีมีความเสี่ยงน้อยที่สุดและผลกำไรน้อยที่สุดเช่นกัน สำหรับผมถ้าผมเขียนตัว พ.พานได้เมื่อไหร่ผมคงมีความสุขมากๆแน่นอนครับ ความทุกข์เกิดจาก ความอยากมีมากกว่าปัญญา ความอยากมีอยากได้อยากเป็นมันมากกว่าปัญญาที่เรามี มันก็ทุกข์มากเช่นกันครับ จากคุณ : เฮ้งต๋ง เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 18:35:44 A:58.8.136.33 X: TicketID:280294   ความคิดเห็นที่ 161 มี link หรือ social network ของคนๆนี้ไหมครับ คนอื่นๆจะได้ไม่หลงกล ถือว่าทำบุญ จากคุณ : danni (Danni) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 18:45:44   ความคิดเห็นที่ 162 มีคำถาม ในงบดุลของ บ. Amway ใน INcome  นั้นมันเอารายได้มาจากไหนนัก (เดาว่าเอามาจากเงินที่ upline downline หาเงินจากงานประจำ เอามาลงทุน ด้วยความหวัง) ส่วน expense ทำไมมันน้อยนะ (ส่วนหนึ่ง พนักงาน Amway จ่ายเองใช่ไหม) อยากรู้ จากคุณ : เอ็กซ์คันเกียร์ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 18:57:54   ความคิดเห็นที่ 163 MacDeltaThai ไร้มารยาท จากคุณ : มะนอยหวาน เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 19:53:06   ความคิดเห็นที่ 165 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 21:13:59   ความคิดเห็นที่ 166 ผมไม่ว่าคุณ Mcdeltathai  นะ แต่คุณ Mcdeltathai ทำอะไรอยู่เหรอครับ แอมเวย์อยู่ระดับไหนแล้ว อยากทราบเป้าหมายที่คุณตั้งไว้อีก 5 ปีได้ไหมครับ วันนั้นผมจะตั้งกระทู้ถามว่าเป็นยังไงบ้างกับความสำเร็จของคุณ  มีเบอร์ไหมจะโทรไปถมในอีก 5 ปีข้างหนังว่าเป็นยังไงบ้าง ต่อมาเด็ก BBA ที่ได้เพชรคนนั้นชื่ออะไร อ้างลอยๆหรือเปล่าครับ จากคุณ : นายสายฟ้า เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 00:44:24   ความคิดเห็นที่ 167 จขกท.  เขากลุ้มใจจริงๆนะคะ เขาเป็นห่วงที่แฟนเขาเปลี่ยนไป   หว่านสเน่ห์ใส่สาวๆ  เพื่อยอดขาย ทำตัวอวดร่ำรวย เพื่อให้ดูดีในธุรกิจแอมเวย์ ทั้งๆที่มีหนี้เยอะ ด้วยความเป็นห่วง  จึงอยากรู้ว่าคนที่ทำแอมเวย์แล้วสำเร็จมีมากน้อยแค่ไหน กลัวแฟนตัวเองจะล้มเหลว และยังบอกอีกว่า  จะคอยเป็นกำลังใจให้แฟนคนนี้ จะคอยยินดีด้วย  ในวันที่แฟนประสบความสำเร็จ จะคอยเป็นเพื่อนให้เสมอ พร้อมทั้งได้ขอโทษที่ได้กล่าวพาดพิงแอมเวย์เอาไว้แล้ว จะเห็นได้ว่าเนื้อหา จขกท.   เล่าถึงความทุกข์ที่ตนได้พบจากแฟน  ที่เปลี่ยนไปหลังทำงานเสริม ทามม๊าย  ยังมีคนมาพยายามพรีเซนต์ ความมหัศจรรย์ พันลึก  ของแอมเวย์ ในกระทู้นี้จนได้ คนในลัทธินี้มักจะคอยแสดงอภินิหารตลอดทุกสถานการณ์  เลยจริงๆ จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 00:45:37   ความคิดเห็นที่ 168 ส่วนใหญ่อยากจะถามคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ ถ้าทำเกิน 1 ปี แล้วนะครับ ผมขอดูแค่บัญชีย้อนหลัง 8 เดือน สลิปเงิน รายจ่ายต่างๆ ซี่งต้องเป็นรายได้ที่คงที่ เงินเก็บที่เพิิ่มขึ้นจากฐานเงินเก็บเดิมมากกว่า 35% และสุดท้ายใบแสดงการเสียภาษีบุคคลครับ จนบัดนี้ยังไม่เคยเจอคนที่ทำในหลายๆเจ้าไหนให้ผมดูได้เลย ส่วนใหญ่เจอแต่มีเงินเข้าทุกเดือนออกทุกเดือน เหมือนเอาเงินมาหมุนเท่ๆ แต่ไม่เคยมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นซึ่งแปลว่า...... จากคุณ : นายสายฟ้า เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 00:53:38   ความคิดเห็นที่ 169 คุณฝ้ายมาละ  ^_^ นอนดึกหรือเข้าเวร อ่ะครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 01:27:24   ความคิดเห็นที่ 170 หวัดดีค่ะคุณ  โอมี (Anna_NSW) ยังจำกันได้นะคะ  อิอิ ฝ้ายเองไม่กล้าทัก  แต่เห็นพี่ตอบกระทู้อยู่เรื่อยๆ สบายดีป่ะคะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 53 02:21:23 จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 01:37:54   ความคิดเห็นที่ 171 อ้าว คุณ macdeltathai ทำไมลบ ความคิดเห็นที่ 137 ออกละ กลัวคนอื่นรู้ความจริงหรือ บอกว่าจะมียอดในไทย สองหมื่นล้านต่อปี  มีนธอ.ตอนนี้ 400,000 คน มีสมาชิก 600,000 คน คิดง่ายๆ เอาเฉพาะ นธอ.  สองหมื่นล้าน/สี่แสน ได้ยอดขาย 50,000 ต่อนธอ.ต่อปี คิดเป็น  50,000/12 ได้ยอดขาย 4,167 บาทต่อนธอ.ต่อเดือน คิดคร่าวๆ ว่าได้ค่าคอมมิชชั่น 10% ซึ่งจริงๆแล้วได้ไม่ถึง ดังนั้น เฉลี่ย นธอ. 1 คนมี กำไรสุทธิต่อเดือน 416.7 บาท คนอื่นคงรู้แล้วสินะว่าทำไมต้องลบข้อมูลที่ตัวเองเขียนไว้ มันย้อนกลับมาฆ่าตัวเองนั้นเอง ขายกล้วยแขก รวยกว่าแน่ๆ จากคุณ : วอหลักสี่ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 01:40:35 ความคิดเห็นที่ 172   แล้วเจ้าอื่นล่ะครับ ที่มาแรงๆตอนนี้อะไร สตาร์ๆอ่ะครับ ไม่รู้ว่าเป็นยังงัยบ้าง เห็นเพื่อนผมมันตื้อผมจัง มันบอกว่า ไม่เหมือนแอมเวย์ ดีกว่าแอมเวย์เยอะ...แต่ผมก็ไม่เข้าใจที่ เพื่อนผมอธิบายว่ามันดีกว่ายังงัยอ่ะครับ... สำหรับเรื่องของ จขกท. ยังไงก็เป็นกำลังใจให้น่ะครับ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตัดใจจากเค้า หาอะไรมาทำเยอะๆ จะได้ ลืมๆเค้าครับ... จากคุณ : rotero เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 01:58:50 ความคิดเห็นที่ 173   MAC ตอบคำถามผมหน่อยนะ ทำแอมเวย์มานานเท่าไหร่แล้ว มีรายได้หลักหักค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ อยากรู้มากๆๆๆ จากคุณ : อิ อิ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 02:05:00 A:115.67.162.244 X: TicketID:244000   ความคิดเห็นที่ 174 อยากรู้ว่าสถานะของคุณ mac ตอนนี้มีรายได้เท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ ทำมานานยังครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 08:48:03   ความคิดเห็นที่ 175 ว่าแต่ผมก็หลุดประเด็นกระทู้ไปเหมือนกันแฮะ กลับมาที่ประเด็นกระืูํทู้ ผมจำได้ว่าที่ห้องไหนไม่รู้ มีกระทู้คนที่งมงายกับ MLM บางตัว ที่เคยถึงขนาดไม่เอาพ่อแม่เพื่อน แฟนมาแล้ว แต่สุดท้ายเค้ากลับมาคิดได้ แล้วร้องให้เสียใจกับสิ่งที่เค้าทำ ทุกวันนี้เค้ากลับมาตั้งใจทำงานใช้หนี้ที่ยืมพ่อมาด้วย จะได้ว่าเป็นนคนที่มีความรู้ตำแหน่งงานดีอยู่แล้ว จุดพลอกของชีวิตเค้าก็คือ ยืมเงินใครไม่ได้อีกแล้ว ทำให้เค้าพบทางตันของชีวิต ไม่รู้จะไปทางไหนอีก แล้วก็คิดวนไปเวียนมา ว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ แล้วทำไมตอนนี้ไม่มีใครช่วยเหลือเค้าเลย แล้วสิ่งที่เค้าทำ มันเป็นความสุขจริงหรือเปล่า เท่านั้นล่ะครับ ทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นอีกอย่างนึงไปเลย จากคุณ : ออกกำลัง เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 08:48:22   ความคิดเห็นที่ 176 หลงประเด็น ขอส่งให้กำลังใจให้เจ้าของกระทู้แล้วกันครับ จากคุณ : Just_Looking เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 09:37:36   ความคิดเห็นที่ 177 มีพี่ที่ทำงานทำธุรกิจเครือข่ายแบบนี้เหมือนกันและตอนนี้ก็ได้เสียสามีไปแล้วให้กับดาวไลน์ เรื่องของจขกท ยังดีเป็นแค่แฟนแต่พี่เราแต่งงานอยู่กินกันมาตั้งนาน มีลูก 1 คน มาเข้าระบบเครือข่ายได้แค่ครึ่งปีสามีก็เปลี่ยนไปกลับบ้านดึก ไปประชุมประจำเดือนที่ กรุงเทพฯ ทุกเดือน ไปรับ ไปส่ง ทีมงานตลอด เลี้ยงทีมงาน นัดประชุมประจำอาทิตย์ จนพี่สาวเราจับได้ว่ามีอะไรกับทีมงาน แต่สุดท้ายเค้าก็เลือกดาวไลน์เพราะเค้าบอกว่าพี่สาวเราไม่สนใจธุรกิจเค้า ถ้าทนอยู่กับพี่สาวเราคงไม่ประสบความสำเร็จจึงได้ขอหย่า พี่สาวเราก็อย่าให้เพราะทนอยู่กับคนเห็นแก่ตัวพรรค์นี้ไม่ได้อีกแล้ว ลูกก็ไม่เคยคิดถึง ไม่สนใจ แต่ตอนนี้พี่เราตัดใจและตั้งตัวได้แล้วทำงานประจำเลี้ยงลูกไปคนเดียว มีความสุข อนาคตยังอีกยาวไกล สู้ๆ ต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ดอกหญ้าในสายลม เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 09:54:45   ความคิดเห็นที่ 178 คนรู้จักพอมีน้อยก็สุขใจ คนไม่รู้จักพอมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ จากคุณ : ยิงเสียบสามเหลี่ยม เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 12:42:13   ความคิดเห็นที่ 179 สวัสดีครับคุณฝ้าย ตอนนี้กำลังยุ่ง เลี้ยงเจ้าตัวเล็ก ธุรกิจมีความหวังอยู่ครับ เหลือแค่ว่าปิดการขายไม่ค่อยได้ เท่านั้นละครับ สำหรับประเด็นนั้น ไม่รู้จะแนะนำอะไรเพิ่มเติม ยังเป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้ครับ รักตัวเอง + ครอบครัวมากๆ นะครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 12:50:01   ความคิดเห็นที่ 180 เคยมีแอมเวย์ติดต่อนับสิบ ไม่มีใครพยายามจะขายสินค้าอะไรให้ผมเลยครับ (ทั้งๆที่เคยอยากซื้อ) มีแต่จะชวนเป็นดาวน์ไลน์ จากคุณ : นายใบตาล (นายใบตาล) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 13:51:30   ความคิดเห็นที่ 181 มาโหวค ครับ จากคุณ : ไม่หวั่นแม้วันมามาก เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 16:53:38   ความคิดเห็นที่ 182 ประโยชน์ที่ได้จากกระทู้นี้คือ ขายแอมเวย์ ได้กำไรเดือนละ 416.7 บาท !! (คห 171) ตกวันละ สิบกว่าบาท นั่งขอทานยังได้มากกว่าเลยนะเนี้ย -"- จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 17:38:44   ความคิดเห็นที่ 183 รักตัวเองมากๆนะครับ จากคุณ : lyonheartz เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:57:03   ความคิดเห็นที่ 184 อย่างน้อย จขกท. ก็ได้ทำบุญจากการบอกเล่าเรื่องราวให้คนที่พอจะมีสติได้รับทราบข้อมูลอีกด้านนะคะ อยากให้จิตใจเข้มแข็งเร็วๆ เพราะในขณะที่เราเศร้าทุกข์ทรมาน แต่เขาไม่ได้มารู้สึกรู้สาอะไรแล้วล่ะค่ะ ยิ่งตั้งสติได้ไว จะยิ่งมีเวลาทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นและตนเองต่อไปนะคะ จากคุณ : english muffin เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:55:44   ความคิดเห็นที่ 185 ตกลงแอมเวย์นี่มันเป็นลัทธิใช่ไหมครับ ? จากคุณ : กรประเสริฐ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:29:53   ความคิดเห็นที่ 186 ตกลงแอมเวย์นี่มันเป็นลัทธิใช่ไหมครับ ? จากคุณ : กรประเสริฐ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:35:06   ความคิดเห็นที่ 187 ไม่รู้ จขกท จะเข้ามาอ่านรึเปล่า แต่ยังไงก็ขอให้รักษรแผลใจให้หายแล้วก้าวเดินต่อไปนะ สู้ๆ จากคุณ : UdornBoy2 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 22:05:58 ความคิดเห็นที่ 188   อ่านแล้วตาลาย เลยอ่านแค่ของ จขกท ตอนต้นๆ ถึงคุณ MacDeltaThai ที่เค้าเปรียบเทียบกับเล่นหวย เพราะ หวยมันมี 2 ตัว 3 ตัว มีโต๊ส มีตัวบน ล่าง อะไรไม่รู้แหละผมจำไม่ได้แล้ว ไม่ได้เล่น แต่พอรู้ หวย ถ้า 2 ตัว มีตัวเลข 00-99 ความน่าจะเป็น คือ 1 / 100 ถ้า 3 ตัว ก็ 000-999 ความน่าจะเป็นคือ 1/1000 ซึ่งถ้า 2 ตัว มีตรง โต๊ส บน ล่าง มันก็ยังมีโอกาสที่แทงหวยแล้วได้เงินตามจำนวนเงินที่ลงไว้ มากกว่า โอกาสได้เป็นเพชร ของ แอมเวร ที่ปีๆหนึ่งมีคนเข้ามาหลงกลไง สงสัยทุกเซลล์ในร่างกายคุณคงมีแต่ DNA ชื่อแอมเวร ตั้งแต่คราวก่อนที่หว้ากอ มาตั้งแนะนำธุรกิจ MLM โดยไม่ได้บอกว่าเป็นแอมเวร พอคนจับได้ก็ไหลไปเรื่อย แนะนำว่า ถ้าของแอมเวรดีจริง ซื้อแจกคนแถวบ้านคุณเลยครับ เอาที่มันจำเป็นกับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าของมันดีจริง เค้าคงบอกต่อ แล้วมาซื้อคุณอีก ลองทำดูครับ ถ้ามันดีจริง จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 23:56:54   ความคิดเห็นที่ 189 ทุกอย่างเราสร้างขึ้นมาเองครับ ความอยากทั้งหลายเนี่ย อยากรวย อยากมีแฟน อยากนั่น อยากนี่ ถ้าเราลดมันลงไปได้ เราก็จะกลับมีความสุขครับ เข้าใจครับว่าทำได้ยาก และยากมากๆสำหรับหลายๆคน แต่มันก็คือแก้ไขที่ต้นเหตุจริงๆครับ บุญรักษาครับ จากคุณ : KkTpCmu เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:04:57   ความคิดเห็นที่ 190 คนขายแอมเวรเคยถามมั้ยว่าคนซื้อรู้สึกอย่างไร เคยถามเค้ามั่งมั้ย แตกกระทู้ดีมั้ยน้า มาแชร์ความรู้สึกคน(บังคับ)ใช้แอมเวรกัน ว่าตอนซื้อรู้สึกอย่างไร หึๆ ธุรกิจทำลายความสัมพันธ์ จากคุณ : BIBENDUM เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:25:58   ความคิดเห็นที่ 191 เคยต้องร่วมงานกับพวกฝ่ายมาร์เก็ตติ้่งแอมเวย์ (เค้าเป็นลูกค้าบริษัทเรา) ขอพูดสั้นๆ ตรรกะพวกเค้าไม่เหมือนเรา ถือเงินเป็นพระเจ้ามากๆ เอียนมาก จากคุณ : Dequardo เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 04:10:54 ความคิดเห็นที่ 192   เป็นธุรกิจที่  ไม่หน้าด้านจริง  จะทำไม่สำเร็จครับ จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 06:13:01   ความคิดเห็นที่ 193 เข้ามาบอก MacSeltathai ว่า หว้ากอรอคุณอยู่นะคะ มาตอบกระทู้นี้แล้วแวะไปเยี่ยมหว้ากอบ้างนะคะ หลายๆ คนคิดถึงมากกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 09:59:19   ความคิดเห็นที่ 194 ข้ามห้วยมาจากห้องอื่นครับ เท่าที่อ่านๆดู แฟนจขกทมีแต่... -หนี้สินรุงรัง ใช้เงินเกินตัว -ถึงขนาดเรียกให้เอาเงินไปให้ยืมกลางดึก ได้เงินแล้วก็ขับไสไล่ส่ง -คบชู้สู่หญิง -(อันนี้รับไม่ได้)บุพการีตัวเองแท้ๆ ยังไม่ไปเอาใจใส่ดูแล จริงๆ จขกท.ใจเย็นเกินไปด้วยซ้ำที่อดทนอยู่มาถึงวันนี้ เป็นผม คงเลิกตั้งแต่ตอนหนี้ท่วมหัวแล้วละ ขืนอยู่ต่อไป จะลากเราไปลงนรกด้วยมากกว่า จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 10:11:42   ความคิดเห็นที่ 195 อ้อ ลืมไป เอาเนื้อเพลงนี้มาฝากครับ กับเพลงปลอบขวัญ+ส่งเสริมกำลังใจระดับตำนาน ดิโอฬาร โปรเจก - อย่าหยุดยั้ง อย่าไปแคร์ถึงเรื่องราวในครั้งก่อน อย่ามัวนอนเศร้าโศกศัลย์เมื่อช้ำใจ ก็ลองคิดใคร่ครวญมันคุ้มกันหรือเปล่า ตัดอกตัดใจบ้างเถิดหนาคนดี แต่เธอบางคนยังยึดมั่นภายในใจ ซ่อนเก็บความเจ็บไว้มีใครบ้างไหมเข้าใจเธอ มียังมีคนอื่นเข้าใจเธอยังมี อย่าสับสนอย่ากังวลร้องไห้ไปทำไม ทิ้งไว้ในอดีต อยู่แห่งไหนหรือเป็นใครเคยช้ำโศก ใช่เพียงตัวเราที่อับเฉายับเยิน ชีวิตของคนเราที่พบพานหลายหลาก มีสุขสมหวังมีปวดร้าว..ปนเป วันเวลาที่แสนเศร้าคงจางไป ไม่นานความสดใสที่เธอหวังคงคืนมา โอ้พร..อันใดศักดิ์สิทธิ์เพียงไหนจงบันดาล สู่แดนดินแด่ตัวเธอผู้ช้ำตรมในดวงใจ ให้หายความจาบัลย์ ต่อแต่นี้หัวใจเธอมีเพียงความสบายใจ เธอเปี่ยมล้นด้วยพลัง เธอสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยใจ และเธอคงเข้าใจสิ่งที่แล้วพลาดพลั้งไปเธอเข้าใจ อย่าอย่าหยุดยั้งก้าวไปยังสิ่งที่หมาย ที่เธอใฝ่และฝันให้สมหวังดังใจปอง…โอ้เธอ ชักติดลม แถมอีกเพลงเลยละกัน เพื่อเธอ ~~ หินเหล็กไฟ เธอเหม่อลอยในความมืดมน สับสนเสียใจเหลือเกิน กรีดตัวเองไม่เจ็บเท่าใจ ไร้คนสิ้นหนทาง ทุกอย่าง...จบเกมแล้วเธอพ่าย อยากตายเพื่อหนีไป ไม่มีคำอธิบาย แต่อยากตอกย้ำให้เธอรู้ว่า... คำปลอบโยนใดที่เธอต้องการ แท้จริงอยู่ที่เธอ อยากให้ใครมาเข้าใจ สุดท้ายเพียงเธอ อ้อมกอด...โอบตัวเองเสียบ้าง เนิ่นนานเท่าไร มากมายเท่าไร ที่เธอนั้นมีแต่ให้ * แต่นี้...จะหวังพึ่งใครไม่ได้อีก ถูกแล้ว...ชีวิตดำเนินต่อไป ความรัก...เก็บเหลือไว้ให้ตัวเองบ้าง ชีวิตเธอมีไว้เพื่อเธอ ไม่อาจเป็นเธอคนเดิมเหมือนเก่า แต่ขาดเขาเธอคงไม่ตาย เปิดตัวเองเถิดยังไม่สาย ยังมีความหมายและคุณค่า ทุกอย่าง...ยังไม่ลบลืมเลือน เจ็บปวดยังฝังใจ แค่เธอจะก้าวไป เพื่อชีวิตของเธอวันหน้า * ไม่อาจคาดหวังอะไร ไม่มีใคร มีแต่เธอ * จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 10:16:50   ความคิดเห็นที่ 196 อ่านแล้วเห็นใจ จขกท ค่ะ  ขอแชร์ประสบการณ์ค่ะ เราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยอยู่ในธุรกิจนี้ เป็นเวลานานพอสมควร (ทุกวันนี้ก้อยังเป็นอยู่)  แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ตอนนี้เราไม่ได้มีความฝันแล้วก็ไม่มีคนคอยเป่าหู เราก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนที่เป็นเพชรนั้น เค้ารวยได้เพราะธุรกิจนี้จริงๆหรือปล่าว แต่อาจจะจริงก้อได้นะ เพราะเท่าที่ฟังแผนธุรกิจมาเป็น สิบๆรอบ ก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่คงจะต้องลำบากและเหนื่อยมาก แล้วหากพื้นฐานอย่างคนที่จนๆ คงยิ่งยากมากๆ เพราะไม่มีแม้แต่เงินซื้อสินค้า เราว่าธุรกิจนี้อยู่ที่คนทำนะว่าจะเลือกทำแบบใหน บางคนที่ทำแบบธุรกิจอย่างเดียวก็มี  บางคนทำแบบบ้าคลั่งก็มี  หรือบางคนทำเพราะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่บางคนก็เอาไปทำแบบตนเองซึ่งผิดแบบแผนก็เยอะค่ะ มีเพื่อนที่ทำธุรกิจนี้ หายใจเข้าออกเป็นแอมเวรนี่ล่ะค่ะ กลับบ้านตีหนึ่งตีสอง แล้วก็ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานประจำ เราก็เคยเป็นห่วงแล้วก้อบอกให้พักบ้าง (เพราะถ้าคิดถึงจิตใจลูกค้าเค้าก็อยากพักเหมือนกันแหละค่ะ ) เพื่อนก็บอกว่าถ้าเหนื่อยก็กินโปรตีน อาหารเสริม  แล้วเค้าก้อสวนเรากลับว่า แต่ถ้าไม่ยอมเหนื่อยตอนนี้แล้วเมื่อไรจะรวย ถ้าคิดแบบเราคงต้องจนทั้งชาติ (เจ็บมั๊ยล่ะ) จนเราคิดอยากพิสูจน์ตัวเอง ทำแบบหักโหม เข้าเซ็นเตอร์อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ฟังแต่เรื่องเดิมๆออกแนวเพ้อฝันสำหรับ คนระดับล่างๆอย่างเรา อยากไปเที่ยวอลาสก้า ก็อยากไป งานประจำก็ยังต้องทำ เหนื่อยมากตอนนั้น ในที่สุดเราก็ต้องเสียงานประจำ รายได้แอมเวร แค่หลักพันไม่พอยาไส้ จนเราต้องหันคิดถึงความเป็นจริง ถึงวันนี้เรามีงานใหม่ที่ดี รายได้ประจำ ได้หยุดงานเสาร์-อาทิตย์ มีเวลาให้ครอบครัว ก็มีความสุขแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญไม่ต้องเป็นหนี้บัตรเนื่องจากเอาเงินไปซื้อของพวกนั้นด้วย ต้องบอก จขกท ว่าเดินออกมาเองดีกว่าค่ะ เพราะธุรกิจนี้อยู่ที่คนเลือกจะทำ แฟนเก่าของคุณเลือกจะทำในแบบที่ผิดเองด้วยค่ะ  ตอนนี้เรายังใช้สินค้าบางตัวอยู่ทีเราใช้แล้วดี แต่เลิกขายแล้วค่ะ ไม่อยากไปแล้วอลาสก้า ไปทำไมหนาวจะตาย (ฮ่าๆๆ แก้ตัวให้ตัวเอง) ต้องขอโทษนะคะ เล่าซะยาวเชียว แต่เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : จริงๆแล้วฉันเป็นนางร้าย เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 10:18:42 ความคิดเห็นที่ 197   นั่นล่ะค่ะ เป็นสิ่งที่ธุรกิจเครือข่ายเอามาเป็นข้อเปรียบเทียบให้ผู้คนเข้ามา 1. ทำงานประจำ ไม่มีทางรวย ทำเท่าไหร่เจ้าของบริษัทรวย ฉะนั้น มาเป็นเจ้าของธุรกิจกันเถอะ 2. ทำงานประจำ คุณเป็นลูกจ้าง แต่ธ.เครือข่าย คุณคือ หุ้นส่วนบริษัท 3. ทำงานประจำ คือ การขายเวลา ถ้าอยากได้เงินเยอะก็ทำงานเพิ่ม ทำโอทีบ้าง ขายของวันหยุดบ้าง แต่ธ.เครือข่ายไม่ต้องทำ แค่คุณไปบอกต่อสิ่งดีๆแก่คนอื่นๆ เงินก็ไหลเข้าบัญชีแล้ว 4. ทำงานประจำ ต้องแก่งแย่งแข่งขัน แต่ธ.เครือข่าย ไปด้วยกัน รวยด้วยกัน อืม ก็เข้าไปดูมาหลายที่ เป็นเหมือนกันหมดค่ะ ดูเหมือนจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีขึ้น สอนให้มองอะไรเป็นบวก เช่น คนเราคิดไม่เหมือนกัน ให้หาคนที่คิดเหมือนเรา (แต่พอเจอคนคิดไม่เหมือน ก็ไปตำหนิเขาบ้าง ทู่ซี้บ้าง พยายามเปลี่ยนความคิดคนอื่นอยู่นั่น) อย่าไปต่อต้านคนทีต่อต้านธุรกิจนี้ (แต่เห็นเอามาอาชีพคนอื่น หรือบริษัทเครือข่ายอื่นมาแขวะได้ตลอด) ..เพื่อนสนิทที่ดิฉันรักมาก ก็เปลี่ยนไปค่ะ หงุดหงิดง่าย พูดมาก ไม่ฟังคนอื่น พูดแต่เรื่องของตัวเอง ธุรกิจ ความฝัน พอเราคุยเรื่องอื่นก็จะวกกลับมา คือมันน่าเบื่อค่ะ ชีวิตเราก็ไม่ได้จะมีแต่ตรงนี้นะ มีอะไรที่เราสนุกกับมันได้อีกเยอะ ปกติเราทำงาน เลิกงานเราก็ไม่คุยงานแล้ว ไปเดินเง่นนี่โน่น แต่นี่อะไร หายใจเข้าออกเป็นธุรกิจเครือข่ายหมด มองเห็นใครสบตาหน่อยก็พุ่งเข้าไปทัก ไปยิงคำถามเขา เพื่อทำความรู้จัก (แปลกคนว่ะ) มีเวลาว่างก็นั่งลิสต์รายชื่อ เห็นเราว่างก็เอาเรามาเป็นเพื่อนซักซ้อมพูดสคริปต์ หลังๆ เริ่มขอรายชื่อคนรู้จากเรา เออ แกไม่ทำไม่เป็นไร แกพอจะแนะนำใครได้บ้าง (ยุ่งไรกะตรูนักหนาเนี่ย) น่ารำคาญสุดๆน่ะ อยากบอกว่าพื้นฐานของคนที่เข้าไปในนี้เป็นคนรักครอบครัวค่ะ แฟนคุณเขาต้องมีเป้าหมายอะไรสักอย่างแหละ ธ.เครือข่ายมักจะเอาข้อนี้มาอ้าง พ่อแม่เราลำบากแค่ไหน ท่านแก่แล้วแต่ได้พัก ได้เที่ยวบ้างหรือยัง คุณมีแฟน แล้ววางอนาคตยังไง ลูกคุณจะเรียนที่ไหน บ้าน รถยนต์ อิสระทางเวลา พอเริ่มมากขึ้นๆ เหมือนห่างไกลจากโลกแห่งความเป็นจริงทุกที พอออกมาจากที่ประชุม กลับมาบ้าน มาคุยเรื่องความฝัน เราจะไปโน่นนี่นั่น เราจะซื้อนั่น ในเดือนนี้ ปีนี้ แต่คนที่บ้านมองแบบงง มันเป็นไรของมันหว่า พอมากเข้า ก็กลายเป็นว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง เสร็จแล้วก็ลากคนที่บ้านไปฟัง ก็จะมีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ ถ้าเป็นแฟน ก็ถึงกับเลิกรากันไปก็มี เพราะเมื่อความคิดต่าง ความหวาน ความอ่อนโยนที่เคยมีก็หมดไป แต่ดิฉันโชคดีหน่อยที่แค่เสียเพื่อน แล้วก็เสียเงิน (ดีตรงไหนเนี่ย) แต่ก็ได้บทเรียนราคาแพง สักวันเขาจะคิดได้ค่ะ ถ้าจะทำจริงๆ ก็ต้องแลกกันจริงๆ ก็ต้องมีการเจ็บปวดแน่ๆ บางคนปลอบใจตัวเองว่า เมื่อมีเงิน ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับมาหาเราเอง แต่อยากให้รู้ว่า ..บางสิ่งบางอย่างก็ไม่มีทางได้กลับมา ใจเย็นๆค่ะ อย่าต่อต้าน แล้วก็อย่าช่วยเหลือจุนเจือ ให้เขาเรียนรู้ไปเอง ให้กำลังใจเขาก็พอค่ะ จากคุณ : หวาย เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 11:25:48 A:58.8.231.105 X: TicketID:215804 ความคิดเห็นที่ 198   เกรียน จากคุณ : codeDear เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 11:27:46   ความคิดเห็นที่ 199 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9515701/X9515701.html#19 ขยันจริงนะพ่อคู๊ณณณณณ จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 12:56:08   ความคิดเห็นที่ 200 มาลงชื่อไว้อ่านไม่จบค่ะ จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 13:05:18   ความคิดเห็นที่ 201 198 ^ ^ ^ ใครเกรียน ????? จากคุณ : ยุ่งจิง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 13:13:39   ความคิดเห็นที่ 202 ข้าพเจ้าเคยขายแอมเวย์  มาตั้งแต่สมัย 20 กว่าปีก่อน  ขายได้ไม่นานก็ทะเลาะกับแฟน เลยเลิกขาย แต่ก็คุ้นเคยกับระบบของเขา  ซึ่งมันเหมือนเป็นลัทธิเป่าหู เป่ามันทุกวัน แล้วก็จะยึดติดว่าเป็นจริง จากคุณ : พโรทัย (pharotai) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 13:21:47   ความคิดเห็นที่ 203 ... จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 13:37:16   ความคิดเห็นที่ 204 เสื่อม จากคุณ : ถูกทิ้งที่รังสิต เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 14:02:19   ความคิดเห็นที่ 205 เบื่อพวกขายพวกนี้จริง ๆ จากคุณ : ake2548 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 15:03:34   ความคิดเห็นที่ 206 เห็นหลายรายแล้วจริงว่าเวลาผ่าน(กิเลส)ไปสติเริ่มมา แล้วก็เลิกทำเอง ยกเว้นคนที่ชอบตื้อให้เพื่อนร่วมงานประจำหรือญาติซื้อเพราะความเกรงใจได้แบบที่คนขายไม่รู้จักเกรงใจคนที่เค้าซื้อ จาก...ปฏิปักษ์แอมเวร จากคุณ : Asitis เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 15:24:39   ความคิดเห็นที่ 207 ตอนนี้ใครมาขายประกัน ผมจะบอกว่าผมเป็นนักธุรกิจแอมเวย์อยากมอบสิ่งดีๆคืน อิ อิ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 16:06:01   ความคิดเห็นที่ 208 อาจารย์ที่ มหาลัยผมก็ขายครับ แบบว่าสอนอยู่ก็บอกว่า ถ้าอยากรวยต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ พ่อรวยสอนลูก อะไรพวกนี้ บางครั้งท่านก็ขาดสอนบ้าง มีเพื่อนหลายคนสมัครสมาชิกกับอาจารย์ พอตอนปี4 ทำโปรเจค เด็กโปรเจ็คก็ทำกับ อ.ท่านนี้ ตอนนี้ยังเรียนไม่จบเพราะ project ไม่ผ่าน ที่ทราบมาเพราะว่า มัวแต่ไปสัมนาต่างจังหวัด เพื่อนผมเคยสมัครทำ7-8คน ตอนนี้เลิกแล้วครับเพราะลงทุนไปเดือนละหลายหมื่น ขอตังค์แม่ แต่รายรับได้พันกว่าบาท  ดีที่ผมไม่สมัคร จากคุณ : Glamosic เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 16:21:45   ความคิดเห็นที่ 209 โชคดีที่เลิกทำไปเมื่อ 19 ปีที่แล้ว น้องชายผู้โชคร้ายเลิกทำไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว หลังจากบ้าไปทำอยู่ 2 ปี ตอนนี้ถ้าใครจะมาขายแอม ผมบอกคำเดียวว่า ...กรูไม่ซื้อ จากคุณ : sarawut_birdy เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 16:38:35   ความคิดเห็นที่ 210 สิ่งหนึ่งที่ได้ยินบ่อย ๆ จากคนทำแอมเวร์... "เป็นธุรกิจเครือข่าย ที่แม้เราหยุดทำงาน แต่คนอื่นไม่หยุด เราก็ยังจะมีรายได้.." ธุรกิจแบบนี้จะหยุดได้เหรอคะ ขนาดวิ่งเซอร์วิสดาวน์ไลน์จนลิ้นห้อย หาดาวน์ไลน์ใหม่จนไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน พยายามรักษาดาวน์ไลน์ไว้สุดชีวิต ก็ยังหลุด ยังหาย ธุรกิจแบบนี้ มันต้องหาคนใหม่ ๆ เข้ามาในระบบเรื่อย ๆ เพราะคนเก่ามันจะหาย จะหลับ จะลดลงไปเรื่อย ๆ เช่นกัน แค่หาคนใหม่เข้าระบบก็แย่แล้ว ยังต้องรักษาคนเก่า และบริหารให้ทำงานต่อเนื่องอีก ไม่ใช่ง่าย ๆ   ธุรกิจแบบนี้ จะประสบความสำเร็จได้ มันไม่ใช่แค่เราจริงจัง ตั้งใจจริง และทุ่มเทแล้วมันจะประสบความสำเร็จ  มันขึ้นอยู่กับ "คนอื่น" อีกไม่ใช่น้อย ปัจจัยที่ต้องควบคุมให้มากที่สุด ก็คือ "คน"  ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากที่สุด โดยเฉพาะ การทำให้คนมาซื้อสินค้าราคาสูง ๆ ทั้ง ๆ ที่มีิสินค้าราคาต่ำกว่า 5 - 6 เท่าให้เขาเลือกใช้ได้นี่แหละ จากคุณ : isiss12 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 19:03:02   ความคิดเห็นที่ 211 ไม่ได้เข้า พันทิพย์มาพัก หลังจาก เบื่อการเมือง เข้ามาเจอ ลัทธิ Amway เข้าไปอีก ขอด่าหน่อยเถอะครับ เมื่อ 15 ปีก่อน ตอนผม เรียน มหาวิทยาลัย ผมได้ติดต่อกับ อ.ที่เคยสอนผม ตอน ม.ปลาย เพื่อฝากหลาน เข้าเรียน แกก็ชวนผมมาทำ Amway โดยไม่บอกว่าธุรกิจอะไร พาไปนั่งฟัง พาไปประชุมเสีย 150 ไปนั่งดูคนปั่นหน้า บอกกับคนอื่นว่า กรูรวย กรู สำเร็จ จาก Amway   วันนั้น อ.คนดังกล่าว ขับ CORONA หน้ายิ้ม ปี 1991 (ตอนนั้น ปี 2000) บ้านอยู่ริมแม่น้ำ เจ้าพระยา หลังๆมาน้ำท่วมทุกปี ผมไม่ได้ซื้อ ไม่ได้ สมัคร อะไรทั้งนั้น แต่ผมไปนั่งฟัง แล้วก็มานั่งคิด ปรกติ ใช้คอลเกต จะไปซื้อ ยาสิีฟัน ที่แพงกว่า 1000 เท่า ทำไม พ่อแม่ผมก็ใช้ ยาสีฟันคอลเกต มาตั้งแต่ ผมจำความได้จนอายุ 50 ฟันก็ไม่เห็นจะผุ  รถยนต์ บ้านผมใช้ซันไลล้าง 2 ปี ขัดสี เสีย 500 บาท ถูกกว่า น้ำยาล้างรถ Amway อีก ไม่เห็นรถผมสีจะตกตรงไหน จนทุกวันนี้ ปี 2010 ผมก็ยังได้เรียน ป.โท คณะบริหาร ที่ ม.แห่งหนึ่ง ศึกษาจนทะลุปรุโปร่ง ทั้งในการทำ ธุรกิจ MLM จนรวมถึง ค่าสถิติต่างๆ แลค่าการตลาดต่าง นั่น รวมถึง การเพิ่มมูลค่า ของ วัตถุดิบ ด้วยอุตสาหกรรม จนถึง การทำตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่า  และผมก็ยังผ่านโรงเรียนเก่าผม และยังพบกับอ. ท่านเดิม ที่ขับ Corona คันเดิม แน่นอน ....... สนใจทำธุรกิจ กับ อ.มั้ย ................. ผมก็ มอง รถ อ. แล้วหันมามองรถป้ายแดงของผม พร้อม ถาม อ.ครับ รายได้เท่าไหร่ครับ (ตอนนี้ อ.ได้ 6 หมื่น)  ในขณะที่ ผมรายได้ 3 หมื่น กว่าบาท แต่ เปลี่ยนรถไปแล้ว 2 คัน ผมมีความภูมิใจ ที่ ผม ไม่ได้ นำรายได้ของผม ไปทำ Amway ผมมีความภูมิใจ ที่ รายได้ของผม สร้างความสดวกสบายให้ผม มีบ้านอยู่ มีรถขับ มีเงินใช้ ผมมีความภูมิใจ ที่ รายได้ของผม สร้างความสุขให้กับผม พ่อแม่ และ แฟนที่รักยิ่งของผม ผมมีความภูมิใจที่ รายได้ของผม ทำให้ ผม ได้ไปนั่ง ร้องเพลงกับเพื่อนๆ กินส้มตำอย่างเอร็ดอร่อย ขับรถไปเที่ยวชายทะเลหัวหิน กับครอบครัว และรวมถึง การได้นั่งจับมือแฟน ของผม ดูหนังอย่างมีความสุขใจโรงหนัง ผมมีความภูมิใจที่ รายได้ของผม ส่วนหนึ่ง (บวกกับเงินของ ครอบครัว) สามารถนำมาศึกษา ต่อ จนทำให้ผมกำลัง จะ จบ ป.โท คนแรกของ ครอบครัว และแน่นอน Amway มีแง่ที่ไม่ดี แต่ก็มี Concept บางอย่างที่ใช้ได้ ในสิ้นปีนี้ ผมจะ ลงทุน ด้วย ทฤษฏีบางอย่างของ Amway + ทฤษฏีที่ผมได้เรียนมา พร้อมประสบการณ์ชีวิตของผมที่สั่งสมมา ด้วยเงินทุน ไม่เกิน 3 แสนบาท แต่ด้วยการบริหาร และการจัดการเงินทุนหมุนเวียนที่ดี อย่างเลวร้ายที่สุด ผมจะได้เงิน ก้อนนี้คืน ภายใน 3 ปี แต่ถ้า เป็นไปตามแผนจริงๆ ผมคงมีรายได้เฉลี่ย เดือนละ 5 แสนบาท ภายใน 10 ปีข้างหน้า ขอบคุณ Amway อีกครั้ง จากคุณ : Nopparat (Nopparat_r1) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 21:59:00   ความคิดเห็นที่ 212 อ่อ อีกอย่างนะครับ วันนี้ปี 2010 อ.ของผม รายได้ 6 หมื่นจาก Amway (โชวสลิป ให้ผมดูเหมือน บัตรประชาชน) แต่ยัง ขับรถ ปี 1991 คันเดิม บ้านก็ยังโดนน้ำท่วมแล้วท่วมอีก ยังไม่ยอมย้ายบ้าน (แต่ผมกำลังจะปลูกบ้านใหม่) ผมล่ะงงกับแกจริงๆว่า ทำไมแกกำลังทำอะไรกับ Amway อยู่ ส่วนธุรกิจของผมนั้น จะดึงทฤษฏ๊บางอย่างของ Amway มาใช้แต่ไม่ใช่ขายตรง และไม่เอาเปรียบลุกค้า เอาของถูกๆ มา ทำการตลาดจนขายแพงแบบ Amway แน่นอน อิอิ อีก 10 ปีรายได้ผมจะได้ 5 แสนต่อเดือน (ฮ่าาา ตั้งเป้าแบบ Amway) แบบนี้เรียก โคตรเพชรหรือเปล่าหว่า จากคุณ : Nopparat (Nopparat_r1) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 22:06:43 ความคิดเห็นที่ 213   มีอีกหลายอาชีพนะ ที่จบมาสตาร์ทได้เงินมากกว่า5หมื่น อย่างน้อยก็สถาบันที่ผมเรียนละครับ ไม่เห็นมีรุ่นพี่คนไหนชักชวนให้เรียนเลย บอกว่างานหนักไกลบ้าน เงินเอามาทำไรเยอะแยะ มีแต่คนโลภที่พูดเงินสำคัญกว่ามิตร จากคุณ : Gecko_navigate เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 23:40:55   ความคิดเห็นที่ 214 สงสารครับ เหมือนคนที่รู้จักกันคนนึงเลย  เป็น ญ นะ แฟนเขาจบ วิศวะคอมทำแอมเวย์ไปด้วย แรกๆก็ดีหลังๆไม่เอาใจใส่ พูดเรื่องแอมเวย์ก็ทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือในรถ แล้วไล่ลงจากรถ คนพวกนี้ถูกล้างสมอง เอาเงิน/ความสำเร็จเป็นตัวล่อ  เลิกคบกับเพื่อนไปหลายคนละ เพราะแอมเวย์ จากสมัยเรียนไม่ค่อยได้คุยกัน พอทำแอมเวย์ก็มาหาแล้วก็ขายของตามระเบีย เบื่อมากๆ จากคุณ : hardhouse4 เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 00:22:13   ความคิดเห็นที่ 215 พึ่งได้อ่านย้อนไปด้านบน ป๊าดดดเห็นคุณ MacDeltaThai และบางคนตอบแล้วคันมือ เห็นบางคนว่า ดียังนั้นดียังนี้ ได้จริงนะ เห็นพูดเรื่องรายได้กันหลายหมื่นเชียว แต่ขอโทษครับ ถ้าผมได้เท่าที่คุณว่า แล้วผม เสียเพื่อน,เสียแฟน,เสียคนสนิท,เสียเวลา ฯลฯ ไปส่วนนึงเนี่ยผมไม่เอา โลกนี้มีอะไรที่ดีกว่านั้นหลายอย่าง คุณจะหน้ามืด ทำงาน หนัก จะอบรม ประชุมอะไรก็เรื่องของคุณเหอะ   งานแบบผม นั้งหน้าคอม ทำ SEO ได้เงินพอ ๆ กะคุณ ไม่ต้องมานั่งทนฟังประชุม ไม่มีเจ้านาย กางเกงตัวเดียวก็ทำได้ ไปเที่ยวทะเลยังเอาโน๊ตบุคไปทำด้วยได้ อะไรก็ไม่รู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า หัดเปิดโลกทัศตัวเองบ้างก็ดี ขออนุญาตยืมรูปของเพื่อนนะครับ คุณ dedjung ยอดเดือนล่าสุด 2044.67 $ ลองเอาไปคุณ สมมุติค่าเงินตอนนี้ 33 บาทละกัน 2044.67 x 33 =67,474.11 นี่เพียงแค่ไอดีเดียว พวกผมไม่เห็นต้องมานั่ง อยู่กับความฝันที่เป็นไปได้ยากแบบคุณเลย ThaiSEOBoard.com <- ลองไปดูมั่งนะ เค้าเลิกทำกันหมดแล้ว  MLM แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 53 00:53:03 จากคุณ : hardhouse4 เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 00:51:20   ความคิดเห็นที่ 216 ในขณะที่ จขกท. กำลังเจ็บปวด พยายามสู้ชีวิตต่อ  ก็มีสาวกแอม...เอานโยบายขายฝันมาอวดอ้างซะงั้น   ไม่สำนึกบ้าง  เอะอะก็จะขายไม่ลืมหูลืมตา แทนที่จะเป็นกระทู้ให้กำลังใจเตือนสติ จขกท.  กลับเป็นกระทู้จี้ใจดำไปซะได้ จากคุณ : ก้านดอกบัว เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 03:28:32   ความคิดเห็นที่ 217 เป็นกำลังใจให้จขกท.ค่ะ เดี๋ยวนี้มีหลายคนเลยนะ ที่เปลี่ยนไปเพราะเงิน เอ๊ะ! ไม่ใช่สิ...เปลี่ยนไปเพราะความฝันว่าจะได้เงิน ที่สุดท้ายฝันก็ยังเป็นฝันอยู่ร่ำไป จากคุณ : bluesherbet เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 09:10:24   ความคิดเห็นที่ 218 ค่อยๆ ตอดเอาเงิน มา ไม่งั้นต้องใช้วิชาด้านมือเล่นงาน  แสนห้า ไม่น้อยนะครับ จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 11:05:33 ความคิดเห็นที่ 219   น้องในที่ทำงานผมครับเภสัช ทำมา 3ปี กว่า วันๆ อ่านหนังสือพวก How to...ทำไงจะรวย พ่อสอนลูก..ลูกสอนพ่อ เลิกงาน 6โมงเย็นขับรถเข้า center ที่ กทม เอาเงินไปซื้อAm รวมทั้งตบยอดให้ดาวน์ จนเป็นหนี้บัตรเครดิต หลายแสน จนbankฟ้อง ..เดี๋ยวนี้เพิ่งคิดได้กำลังจะเลิกเพราะหาเงินใช้หนี้บัตรจนไม่มีเวลาทำAm 5555+ จากคุณ : ชาวนาแก่ๆ78 เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 13:13:50   ความคิดเห็นที่ 220 คิดบ้างไหม ว่าตายไปก็เอาไปไมไ่ด้ ประสาท.... จากคุณ : Nou Wongs เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 13:50:08   ความคิดเห็นที่ 221 Amway  คือ ศูนย์รวมของพวกหัวอ่อน ขี้ขลาด แต่อยากรวยนะครับ เค้าก็เลยพูดกัน เข้าใจกันได้ ผมไม่เคยไปสัมผัสหรอกนะ ผมมองว่า "Amway" มันก็เหมือน "ระบบคอมมิวนิสต์" ตรงที่ ทางทฤษฎีแล้ว  ระบบมันดีมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง  มันมีช่องโหว่จากหลายๆ ทาง ทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย  และคนหมู่มากต่อต้าน จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 14:27:23   ความคิดเห็นที่ 222 เบื่อตระกะลิงๆจัง นาย A ทำแบบนี้ สำเร็จ รายได้หลักล้าน นาย B ทำแบบนี้ สำเร็จ รายได้หลักล้าน นาย C ทำแบบนี้ สำเร็จ รายได้หลักล้าน นาย D ทำแบบนี้ สำเร็จ รายได้หลักล้าน เพราะฉะนั้น ถ้าทำแบบนี้ต้องสำเร็จเหมือนกัน แล้วไม่เล่าเรื่อง นาย E F G H I  J K ... Z ที่ทำแบบนี้แล้วเจ๊งด้วยเนาะ เลิศ!!! จากคุณ : อลาสก้าไม่มีเพนกวิน (เพนกวินอยากบิน) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 14:45:09   ความคิดเห็นที่ 223 กดลบ เม้น มันดีมั้ยน๊า 555+ จากคุณ : Love is ... lottery. เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 15:00:43   ความคิดเห็นที่ 224 ประเด็นคือ ผงซักฟอกไม่มีแป้ง   ราคาเกือบพัน  ถุงนิดเดียว  (ถึงจะใช้ได้เยอะก็เหอะ) กับผงซักฟอกมีแป้ง  ราคาหนึ่งพัน  ถุงยังกะโต๊ะกินข้าว เราก็ซื้ออันหลัง  คนรอบข้างก็อันหลัง แล้วใครมันจะซื้อง่ะ อยากรวย  แต่ไม่ค่อยมีเพื่อน จะไปแนะนำใคร??? ไอ้เพื่อนที่มีน้อย ๆ ต่างก็ไม่รับโทรศัพท์ เพราะแอมเวย์   ขอบอกว่ามันเหมาะกับคนบางคน และไม่เหมาะกับคนบางคนจริง ๆ ถ้าไปได้สวยสำหรับawก็ดีใจด้วยค่ะ แต่เราขอบายล่ะ จากคุณ : จงทำตามฝันไม่ใช่ตามเงิน (ArpatAnthakan) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 17:39:05   ความคิดเห็นที่ 225 ผมว่าถ้าเอาความพยายาม แบบที่แฟนคุณ จขกท. ไปทำธุรกิจส่วนตัวเองนะ  ป่านนี้ผมว่า ได้เป็นเจ้าของธุรกิจเองสบายๆ ไปแล้ว จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 19:25:18   ความคิดเห็นที่ 226 จขกท สู้ๆนะค่ะ   ธุรกิจนี้ เราคนนี้ไม่เอาด้วย แค่ได้ยินก็กลัววว บรื้ออออออออออออ จากคุณ : koy_onair เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 21:09:43   ความคิดเห็นที่ 227 อ่านแล้วสะเทือนใจ  ผมก็กำลังจะเสียคนรักไป(รึเสียไปแล้ว)เพราะธุรกิจนี้เหมือนกัน  แฟนผมอาการเดียวเดียวกับแฟนเจ้าของกระทู้เลย  หายใจเข้าออกเป็นแอมเวย์ ฟังแต่CD แอมเวย์ พฤหัส ศุกร์ เข้าcenter อาทิตย์สัมนาคอสท์พิเศษไรก็ไม่รู้ ว่างก็ต้องไปหาสมาชิกเพิ่ม นี่ยังอัดเป็น mp3 ฟังในโทรศัพท์อีก เธอพึ่งเริ่มทำได้ประมาณ 2 เดือนกว่าเอง แต่เปลี่ยนไปเยอะมาก เงินเก็บในบัญชีก็ลดลงเรื่อยๆ  จากเด็กที่ชอบเก็บออม  ไม่ยอมเอาตังออกจากธนาคาร กลายเป็นคนที่พูดถึงแต่ความมุ่งหวังพูดถึงอนาคตที่พ่อแม่จะสุขสบาย  เอาตังค์ไปจ่ายแต่ค่าของกะค่าอบรม   ถ้าพูดถึงแอมเวย์ในแง่ลบ จะโดนตอบโต้ประมาณทำสงครามศาสนาทันทีเลย ช่วงนี้แอมเวย์เค้าจัดโครงการทำลายสัมพันธภาพคนในสังคมรึป่าว  ผมนึกว่าโดนคนเดียวซะอีก เศร้ามากครับไม่รู้จะทำไงกะเธอดี ได้แต่เงียบๆไม่ให้อะไรเลวร้ายลงไป  เพราะผมรักเธอมาก  ถึงเธอจะเย็นชากะผมแล้ว ได้แต่เฝ้ารอการกลับมาของเธอคนเดิมอย่างเดียว.... จากคุณ : ยังรออยู่นะ (pigfight) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 22:46:27   ความคิดเห็นที่ 228 ลืม..         ปกติเข้าพันทิพมาอ่านหาข้อมูลกะให้กิฟอย่างเดียว แต่กระทู้นี้ทำผมจุกอกจนต้องขอร่วมด้วย         ขอเป็นกำลังใจให้คุณ "เลิกเหล้าเช้านี้" ด้วยครับ จากคุณ : ยังรออยู่นะ (pigfight) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 22:53:09   ความคิดเห็นที่ 229 แฟนคุณทำธุรกิจผิดวิธีครับ  ปรัชญาของแอมเวย์ไม่ได้สอนให้ทำธุรกิจอะไรแบบนั้น  ทำแอมเวย์ถ้าโลภ เจออัพไลน์หลอกใช้ ทำธุรกิจผิดประเภท มีแต่เจ๊งกับเสียเพื่อน ผมเคยทำแอมเวย์นะ  ไม่เคยเจ๊ง ไม่เคยเสียเพื่อน ไม่เคยเลิกกับแฟนเพราะแอมเวย์แม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วครับ  ใช้สินค้า  เป็นสมาชิก และยังมีเงินเข้าบัญชีทุกเดือนเพราะลูกค้าเก่าๆ ยังสั่งสินค้าอยู่ จากคุณ : หนูน้อยต้อยตีวิด.. เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 22:56:34 ความคิดเห็นที่ 230   amway เป็นงานที่ใครๆ ก้มาสมัครทำได้ เลยกลายเป็นแหล่งรวมพวกร้อยพ่อพันแม่ จึงมีคนดี คนชั่ว คนโลภ คนที่ท้อแท้ผิดหวังจากงานเดิม ปนๆกัน คนที่เข้าไปทำถ้าหลงก็อาจจะโดนพวกคนไม่ดีหลอก แล้วก็ล้างสมองได้ แต่คนดีก็มี เพียงแต่น้อย จะว่าไปทุกสังคม คนดีก็น้อยกว่าคนไม่ดีนะ จากคุณ : Fuyong เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 23:03:47 A:27.55.243.221 X: TicketID:258634   ความคิดเห็นที่ 231 เห็นด้วยกับคห.225 ถ้าจะทำแอมเวย์ ไปหาทำธุรกิจตัวเองดีกว่า ได้กำไรเนื้อๆเน้นๆ ทำแอมเวย์ได้แค่ค่าคอมฯ ทั้งที่ลงทุนทุกๆอย่างทั้งซื้อสินค้าและบริหารให้เค้าด้วย จากคุณ : ผมไม่สนญาติเมียคุณ เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 10:17:11   ความคิดเห็นที่ 232 บัวใต้น้ำ ยังไงมันก็เป็นบังใต้น้ำอยู่วันยังค่ำ จะเสียเวลาไปทุ่มเททำไม เอาแรงไปสร้างอนาคตดีกว่า จากคุณ : noopin เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 12:57:59   ความคิดเห็นที่ 233 อ่านแล้ว สรุปใจความได้ว่า จริงๆแล้ว จขกท ไม่สบายใจ ที่แฟนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นก็คือต้องลองคุยกับเขา (ซึ่งดูจะไม่ได้ผล) หรือทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ประเด็นหลักอยู่ตรงนี้มากกว่าเรื่องธุรกิจที่เขาทำนะค่ะ จากคุณ : ploypipy เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 17:26:03   ความคิดเห็นที่ 234 เคยโดนหลอกไปฟัง ครั้งนึง ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ผมยังไม่โทรไปกับไปหาเพื่อนคนนั้นอีกเลย  ไม่ใช่ว่าโกรธนะครับ แต่.........เออ เราคนละโลกอ่ะ ปล.  รอบที่ผมไปฟังมีดาราด้วยนะครับมาเป็น พิธีกรอะไรเทือกนั้น....เคยเล่นน้องใหม่ด้วย จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 19:35:15   ความคิดเห็นที่ 235 3 ปี ผ่านไป กระทู้แบบนี้ ยังเกิดขึ้น 2 ปี ผ่านไป ก็ยังมีึคนชวนไปทำ เอาสไลด์มาเปิดให้ดู  -=- เป็นกำลังใจให้ ทุกคนต่อไป คะ่ จากคุณ : ^Beau-Smile^ เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 22:34:07   ความคิดเห็นที่ 236 แฟนเคยทำอยู่พักนึงเหมือนกันค่ะ แต่เค้ายังมีเวลาให้เรานะคะ ซื้อของให้เราใช้ด้วย  แต่เวลาคุยก็ชอบพูดถึงแต่แอม.. บ่อย ๆ เข้า เราก็รำคาญ จนตอนหลังบอกให้เค้าเลิกทำ  เพราะทำไปก็ไม่เห็นได้อะไรสักเท่าไหร่เลย ตอนนี้เค้าก็เลิกทำไปนานแล้ว  แต่อาเค้าสิ  ทุกวันนี้ยังทำอยู่ ทำมาเป็นสิบปีแล้วมั้ง ยังไปไม่ถึงไหนเท่าไหร่เลย แถมยังยอมเสียเงินต่ออายุสมาชิกให้ทุกปี ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่เคยซื้อของเค้าใช้  น่าเศร้า...ที่อาเค้ายังคิดไม่ได้สักที แต่มองอีกมุมนึง เค้าอยู่ตรงนั้นมานาน มันคงกลายเป็นส่วนนึงในชีวิตไปแล้วมั้ง ที่จะต้องไปทำอะไรแบบนั้น  มันคงเป็นสังคมของเค้า เพื่อนเค้าก็คือสังคมในแอม...นั่นแหละ เราเป็นคนที่แอนตี้ขายตรง มาก ๆ ล่าสุดเพื่อนมาชวนทำ(ยี่ห้ออื่น)  เรียนจบมาสิบกว่าปีไม่เคยติดต่อ อยู่ ๆ โทรหา เพราะจะขายของ หาสมาชิก  เราก็บอกไปตรง ๆ ว่าไม่ต้องมาชวนหรอก เพราะไม่ทำแน่นอน คุยไป คุยมา เพื่อนก็ไม่ว่าอะไร บอกตามใจ ไม่ได้บังคับ แค่เห็นทางรวย เลยอยากบอกต่อ  เราก็หวังว่าเพื่อนเราจะรวยจากธุรกิจแบบนี้ได้ละกัน  แต่สำหรับเรา...ขอรวยจากทางอื่นดีกว่า ^^ จากคุณ : มีนจุง เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 23:44:31   ความคิดเห็นที่ 237 เราว่าคุณMacDeltaThai เป็นตัวอย่างที่ดีเลยค่ะว่าทำไมคนถึงไม่ชอบแอมเวย์ เราว่าคุณMacDeltaThai เสียมารยาทกับจขกทมากๆเลยนะคะ ธุรกิจขายฝันอ่ะ คนที่เราเห็นทำสำเร็จจริงๆคือ บ้านรวยมากอยู่แล้ว มาทำขำๆ แล้วเค้าสวยและพูดเก่งมากกกก เอาเงินมาซื้อคสอเป็นหมื่นๆ วิตามินโน่นนี่ ทำยอดไม่กระเทือนหรอก แถมมีคอนเนกชั่นมันก็ต่อได้ไกล แต่ถ้าประเภทอะไรก็ไม่มี แถมต้องเจียดตังค์มาทำยอดนี่ก็ มีโอกาสรุ่งริ่งมากกว่ารุ่งเรืองอะ เราว่ามันมีทั้งคนดีและคนไม่ดีอะ (แต่สัดส่วนที่เห็นแก่ได้ ตามจิกตามตื้อ ไร้มารยาทจะมากกว่าอะ) ที่ดีเราก็เคยเจอ แต่ที่ไม่ดีก็ตอนนั้นตาเรามีอาการพร่า และมองเห็นแคบลง พอเธอรู้ก็มาบอกให้เราไม่ต้องไปหาหมอตาที่โรงบาลตาที่ดีที่สุดแห่งนึงในไทยตอนนี้ ชีมาพูดว่าหมอโรงบาลนั้นชอบรักษาโอเว่อ ไม่ได้เป็นไรก็บอกว่าเป็น (กล้าใส่ร้ายหมอกับโรงบาลเพื่อยอดขายด้วยอะ) แถมตบท้ายด้วย มาซื้อวิตามินกับเค้าเหอะ อาการเราเกิดจากตาขาดวิตามินนะ กินวิตามินแล้วจะหาย จะบ้าตาย= =" ปรากฎว่า เราไม่เชื่อเค้า วันรุ่งขึ้นเราไปหาหมอรพตานั้น แล้วผลปรากฎว่าอาการไม่เกี่ยวกับขาดวิตามินอะไรเลย แถมอาการที่เราเป็นมันร้ายแรงกว่าที่คิด ซึ่งถ้าไม่รีบรักษามีโอกาสที่การมองเห็นของเราจะลดลงด้วย ดีที่ไม่เชื่อบ้าซื้อวิตามินตาม  ปัจจุบันยังสงสัยว่าเธอแนะนำอะไรพล่อยๆแบบนั้นเพราะอยากได้ยอดได้ยังไง จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 00:10:03   ความคิดเห็นที่ 238 บอกตามตรงไม่ชอบธุรกิจแบบนี้ และที่น่าเบื่อกว่าก็ตรงที่ชอบบอกว่า เป็นธุรกิจของตัวเอง ของตัวเราเองตรงไหน เราไม่ได้เริ่มเองซะหน่อย ทำงานไปก็ให้คนอื่นทั้งนั้น งงจริงๆ จากคุณ : arino เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 01:17:02   ความคิดเห็นที่ 239 จะได้รายได้เท่าไหร่ แต่ต้องทำให้คนใกล้ตัวเสียใจ มันไม่คุ้มหรอกครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 02:12:24   ความคิดเห็นที่ 240 เจองู กับเจอแอมแวย์ ตีอะไรก่อนดี ผมเลือกอย่างหลังอ่ะ จากคุณ : 6E6W3T6A เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 10:14:23   ความคิดเห็นที่ 241 ออกตัวก่อนว่า ไม่ได้ทำแอมเวย์ (เด๋วไอ้พวกปันยาอ่อนจะมาหาว่าเป็นพวกอีก) แถมยังโคตรเกลียดธุรกิจนี้เลยด้วยครับ .....( ด้วยความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ) เมื่อก่อน สมัยทำงานเยอะๆ มีคนรู้จักมากมายมาชวนทำเพราะคิดว่าคอนเนคชั่นเยอะ พูดเก่ง โน้มน้าวคนได้ ....น่าจะทำได้ ......แต่ปฎิเสธไปทุกครั้ง ด้วยการพาพวกเค้าไปเลี้ยงข้าว พร้อมกับบอกว่า ถ้าจะมาคุยกับผมเลิกคุยเรื่องแอมเวย์นะครับ หาเรื่องสนุกๆคุยกันดีกว่า นานๆเจอกันที .... แต่พออ่านกระทู้นี้แล้ว ก้อ รำคาญพวกชอบตัดสินคนอื่นครับ แอมเวย์ ดีไม่ดี  แล้วยังไง ? ใครชอบก้อทำ ไม่ชอบก้ออย่าทำ .....รำคาญเพื่อนหรือคนที่มาเซ้าซี้เรื่องนี้มากๆ ก้อหาวิธีจัดการ โต้ตอบ รับมือ กันไปสิ  ไม่น่ายาก ....  รึหนักเข้า ไม่ไหวจริงๆ ก็เลิกคบไปเลย .....จบ แต่คุณไม่มีสิทธิ์  ไปด่าว่า   หรือ วิจารณ์  งานเค้า .....  งานใคร  ใครก้อรัก ... แน่ใจแล้วหรือ ว่างานที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้ มันดี มีคุณค่า กว่า แอมเวย์ ? เป็น ทนาย ...........ไอ้ที่ไม่ดี  ปลิ้นปล้อน ทำทุกอย่างหาแง่มุมเพื่อให้ชนะ โดยละเลยศีลธรรม  ก้อมีเยอะแยะ .....อย่าเถียง .... ยิ่งไอ้พวกที่เก่ง ชื่อเสียงดังๆน่ะ  ยิ่งตัวดี ...ไม่งั้นไม่มีสิทธิ์ดังหรอก ......ถ้ามัวแต่ซื่อบื้อ  ตรงไปตรงมาน่ะ ...... เป็นครู ...........  ทุกวันนี้ หาดีๆได้ กี่ % ครับ   ถามหน่อย เป็นหมอ ............. นี่ก้อตัวดี ....ล่าสุดที่พากันออกมาคัดค้าน พรบ. ปกป้องสิทธิ์ผู้เข้ารับการรักษา ..... ยิ่งน่าเวทนาใหญ่  นึกว่าตัวเองเป็นใคร  เป็นเทวดาเหรอ ?? ......... ให้ตายสิ  เวลาญาติผมยกมือไหว้คุณหมอ(บางคนที่ท่าทางเย่อหยิ่ง)  ออดอ้อน พินอบพิเทา ทั้งๆที่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลให้ทั่นเป็นล้านๆแล้วเนี่ย ( นอน เปาโลเป็นเดือน) .....ผมหงุดหงิดทุกครั้งไป ..... ใครควรต้องไหว้ใครกันแน่ฟะ ??? พอแค่นี้นะ .....ขี้เกียจยกตัวอย่างแล้ว ....มันมีทุกวงการล่ะ .....คนดี ไม่ดีเนี่ย .... รึใครแน่ใจ ว่า มีอาชีพไหน บริสุทธิ์  ผุดผ่องใส เป็นใยแก้ว  ยกตัวอย่างมา  เด๋วผมว่า เป็นรายไปให้เลย ...... เพราะฉะนั้น  ผมพอเข้าใจ คุณ แมคคาเดเมีย  เดลต้าไทย อะไรนั่นล่ะครับ ...   มีคนมาด่า  องค์กร แก  โดยไม่เป็นธรรม  ไม่มีเหตุผล  ไม่แยกแยะเป็นรายๆไป ...  มันก้อน่าจะตอบโต้อยู่ล่ะ ....  แล้วดูแล้ว แก ก้อสุภาพ  พอสมควรด้วย .... เห็นมีก้อแต่ไอ้คนที่เกลียด แอมเวย์  เป็นการส่วนตัวนั่นล่ะ  มารุมจิกด่า คุณ แมค  แบบไม่มีเหตุผลอะไรเลย ..... ตรองดูกันเอาเองแล้วกัน ว่า ใคร ? อะไร ? ยังไง?  วุฒิภาวะ ขนาดไหน ? สำหรับเนื้อหาจริงๆ ของกระทู้นี้ ....อ่านกี่ที ก้อเห็นมีแต่   " ความบกพร่องส่วนบุคคล"  ของคุณแฟนเจ้าของกระทู้ .... ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับ  แอมเวย์ เลย .....  คนทัศนคติแบบนั้น  วิสัยทัศน์  ซันด้าน แบบนั้น ...... ทำอะไรก็คงมีแต่ปัญหาล่ะครับ .....ไปบวช วัดยังระอุเลยมั้งครับ ..... กรณีนี้ ...อย่าไปด่า แอมเวย์เลยครับ .....แฟร์ๆกันหน่อย .... อยากด่าก้อไปตั้งกระทู้ด่า  วิธีการ.......แผนงาน ฯลฯ  อะไรไปโน่นเลยดีกว่า ครับ.... สำหรับจขกท. ......   อย่าเสียใจไปเลยครับ   หลุดพ้นอะไรแบบนั้นมาได้  จะไปร้องไห้เสียน้ำตาทำไมกัน ....มันน่าจะจัดปาร์ตี้ฉลอง 7 วัน 7 คืน เลยด้วยซ้ำ ..... เนอะ ..... จากคุณ : อาฮุย๑ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 11:57:09   ความคิดเห็นที่ 242 เป็นหมอ เขาไม่ได้มายัดเยียดให้เราไปรักษา เราเป็นฝ่ายไปหาเขาเอง ถ้ารู้ว่าหมอคนนี้ไม่ดี ก็ไปหาหมอคนอื่น เป็นทนาย เขาไม่ได้มายัดเยียดให้เราจ้างว่าความ เราเป็นฝ่ายไปหาเขาเอง ถ้ารู้ว่าทนายคนนี้ไม่ดี ก็ไปจ้างทนายคนอื่น เป็นแอมเวย์ เราไม่ได้อยากจะซื้อ มันก็เจือกมายัดเยียด มาพูดกรอกหูให้รำคาญ มาหลอกให้เพื่อนไปสมัครสมาชิก หลอกพ่อแม่พี่น้องญาติสารพัด ถ้าแอมเวย์ เป็นแบบงานอื่นๆ แบบธุรกิจอื่นๆ ก็ไม่มีใครบ่นใครว่า เช่น 1 ซื้อของมาขายไปใครไม่อยากซื้อก็จบ 2 ไม่หลอกเพื่อนหรือใครให้ไปเป็นสมาชิก 3 มีมารยาทไม่ใช่พูดดัวย 2 คำก็กลับมาเข้ารูแอมเวย์ เพราะลักษณะของงานมันเป็นแบบนี้ ถ้าสามารถทำงานด้วย 3 ข้อนี้ได้ ก็ไม่มีใครรังเกียจ แต่เพราะสินค้ามันไม่ได้ดีเลิศ และแพงกว่าสินค้าทั่วไป เลยขายไม่ได้ ก็ต้องกลับมาใช้วิธียัดเยียด ดังนั้น ธุรกิจขายตรง จึงเป็นอะไรที่คนเขารังเกียจ เอาไปเทียบกับอาชีพอื่นไม่ได้หรอก จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 12:49:39   ความคิดเห็นที่ 243 ทำไมต้อง ไปเที่ยวอลาสก้า พาครอบครัวไป หรือว่า เป็น pattern ในการกล่อม หรือหลอก เดียวกัน.... จำกันมา... ปล. ทำงานกินเงินเดือน เดือนละ1 หมื่น แล้วไปกินราเมนปูอลาสก้า กับเพื่อนๆ ครอบครัว แฟน ตอนที่โออิชิจัดแคมเปน มีความสุขกว่าเป็นไหนๆ... จากคุณ : ชายน้อย (shinnong) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 15:47:33 ความคิดเห็นที่ 244   ทุกอย่างมีด้านถูกและด้านผิด จขกท ใช้ตรรกะอารายมาคิดว่าแอมเวรผิดครับตอนนี้ที่เห็นแฟนคุณนั้นแหละผิด แปลกนะครับรักเค้ามากเอามาประจานซะเลย ผมว่าคุณคงทำยี่ห้ออื่นอยู่แน่เลย ผมคิดแบบนี่คงไม่ผิดนะครับตรรกะผมมีแต่นี้ คนอวยก็อวยเว่อเข้าข้างไปเรื่อยไม่รู้ๆว่ารู้จักดีหรือยังหรือช้างขี้ขี้ตามช้าง เปิดใจดูครับว่าอะไรกันแน่ที่ผิด คน หรือว่า สิ่งของ ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เค้าและคุณมีปัญหากัน จากคุณ : คนที่ไม่เกี่ยวข้อง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 17:03:45 A:222.123.113.218 X: TicketID:268354   ความคิดเห็นที่ 245 มีคนออกมาแก้ต่าง อวดสรรพคุณ แอมเวย์ กันเยอะเลย จนลืมไปแล้วว่า จขกท. เจออะไรมาบ้าง เห็นแก่ตัวจริงๆ จากคุณ : จอร์ด บางขัน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 20:37:25   ความคิดเห็นที่ 246 เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เมือนกัน (เรื่องมันนานมาแล้ว) แฟนเก่าคบกันมา 5 ปีจะแต่งกันปีหน้า ไปทำแอมเวร แล้วก็เปลี่ยนไป สุดท้ายไปอยู่กับ อัปไลท์ พร้อมเงินเก็บแต่งงาน ก่อนไปผมถามว่าแล้วเงิน ละว่าไงแฟนเก่าผมบอกว่า ไม่เกิน1ปีจะใช้คืนเป็นสองเท่า เงินเก็บ ประมาณ เกือบสองแสน แถมด่าผมอีกว่า "ตัวดำใจยังดำอีก อย่าดึงฉันไว้ "เซ็งเลยกรู หลังจากนั้น3ปี แฟนเก่าโทรมาบอกว่า นอนโรงพยาบาล บอกโดนไอ้ อัพไลท์เตาะ จนชำไปทั้งตัว ไม่มีเงินจ่ายค่าโรงบาล อ่าว เซ็งเลยเรา (รพ.เอกชนด้วย ) แอมเวร...เวรจริงๆ จากคุณ : ช่างตีเหล้ก (ช่างตีเหล็ก) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 22:00:15   ความคิดเห็นที่ 247 คห 77 "คนที่เอาแต่ ทำงานเสร็จกลับบ้านดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ คุณคิดว่าชีวิตแบบนี้ จะรวยแและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองได้หรือเปล่า" ถ้าวิถีชีวิตผม มันมีความสุขอยู่แล้วผมจะไปเปลี่ยนมันทำไม ผมอยากบอกหลาย ๆ คนว่า มีความสุขกับปัจจุบันเถอะครับ ถ้ามัวไปหวังจะมีความสุขกับอนาคต จากคุณ : พ่อมดกระป๋อง เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 00:36:01   ความคิดเห็นที่ 248 ขายตรงรวยได้ ถ้าไม่เอาสินค้าที่ขายตรงมาเปลี่ยนใช้ในชีิวิตประจำวันทั้งหมด จากคุณ : bird2001 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 11:06:27 ความคิดเห็นที่ 249   มีใครที่สามารถแสดงบัญชีธนาคารว่ามีรายได้เยอะจริงๆจากธุรกิจนี้บ้างมั๊ยครับ รบกวนแสดงให้ดูหน่อยครับ เพราะผมไม่เคยเห็น เคยได้ยินแต่เขาว่าเขาเล่าให้ฟัง อยากเห็นจริงๆครับยอดเงินที่เข้ามาในแต่ละเดือนว่ามากแค่ไหน   ผมเพิ่งโดนไป900บาท พร้อมกับการต้องมารับโทรศัพท์เกือบทุกวัน ชวนไปนู่นนี่ ชวนซื้อนั่นซื้อนู่น ดูแล้วคนที่มาแนะนำผมเขาก็ไม่ได้มีรายได้มากกว่าผมหรอกครับ อยากขอดูบัญชีธนาคารเขาก็ไม่กล้า จากคุณ : โอ่งโอ๊ง เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 13:03:39   ความคิดเห็นที่ 250 อาฮุย ใจเย็นคร้าบบบบบบบบบบบบ โทษที ที่อาจทำให้อาฮุยเคืองอารมณ์ แต่ท่านแมค แกทำแบบนี้มาหลายกระทู้ครับ 1. โฆษณา สรรพคุณขององค์กร 2. ถามจี้เรื่องข้อมูลของแก เรื่องแหล่งอ้างอิง ตัวเลข ว่ามันบิดเบือนนะ ไม่เอาหลักฐานหรือผลการวิจัยมายันล่ะ แกไม่ตอบ 3. ถามอีกที แกบอกไม่รู้ครับ แล้วไปประเด็นอื่น 4. พอมีกระทู้อื่น กลับไปเริ่มข้อ 1 ใหม่ เป็น Pattern เลยคร้าบ เหมือน Liverpool ยุด Owen ยังไงยังงั้น จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 14:10:14   ความคิดเห็นที่ 251 เข้ามาอ่าน สู้ต่อไปครับ จขกท เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านต่อ จากคุณ : guerilla gorilla เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 00:59:59   ความคิดเห็นที่ 252 เห็นใจ จขกท. จริงๆครับ สู้ต่อไปนะครับ ^^ จากคุณ : อมยิ้มรสปลาดุก เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 21:46:01   ความคิดเห็นที่ 253 โหย จขกท. ดีเกินไปหรือเปล่าคะ คือ ไม่ได้ว่าจขกท.นะคะ แต่เจ็บใจแทนอ่ะ เห็นอยู่ว่าเขาเลวขึ้นมาขนาดนี้ แถมกู่ไม่กลับแล้ว เราว่าตัดใจเถอะค่ะ ถ้ายังเป็นแค่แฟนยังไม่ได้แต่งงานกัน เราว่าโชคดีด้วยซ้ำทีไ่ด้เห็นสัน...ของอีกฝ่ายชัดแบบนี้ก่อนจะปลงใจ เพราะถ้าแต่งงานไปแล้ว ผู้หญิงมักจะคิดเยอะเรื่องเลิกกัน แต่ตอนนี้ยังมีโอกาสนี่คะ พูดตรงๆว่าเขายังเป็นคนอื่นอยู่และเขาก็คงมองจขกท.อย่างนั้นเหมือนกัน(ถึงได้ไม่ฟังที่จขกท.พูดเตือนเลย) โดยเฉพาะนะคะ ถ้าเขามองเห็นว่าเราเป็นของตายในมือ ก็คงไม่ใส่ใจหรอกค่ะ พร้อมทำร้ายได้ทุกเมื่อ เพราะคิดว่ายังไงเราก็ไปไหนไม่รอด ดังนั้น จขกท.ถ้ามีทางเลือกอื่นล่ะก็ เราว่ารักตัวเองกับครอบครัวของตัวเองดีกว่าค่ะ ถ้าพ่อแม่พี่น้องต้องเห็นจขกท.เศร้า ร้องไห้ ซึม อยากตาย เขาก็คงจะเสียใจไปด้วยแน่นอน ขณะที่แฟนคนนั้นของเรา เขาจะสนใจหรือเปล่ายังไม่รู้เลย   เราว่ายอมเจ็บยอมตายแทนให้กับคนที่สมควรจะได้รับความภักดีอันนี้ของเราดีกว่าค่ะ วุ้ย!! พูดแล้วหงุดหงิดค่ะกับผู้ชายแบบเนี้ย อ๊า จากคุณ : blue_onix เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 11:26:57   ความคิดเห็นที่ 254 เป็นกำลังใจให้นะครับ คุณจขกท. ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับ เพราะผมเคยผ่านอะไรคล้าย ๆ กันมา ตอนผมเพิ่งกลับจากเมืองจีนใหม่ ๆ ผมโดนเพื่อนที่รักมาก คบกันมาเกือบสิบปี เรียกไป "แนะนำคนให้รู้จัก" "ชวนลงทุน" แล้วพอแสดงอาการว่ารู้นะว่าแอมเวย์ แต่ก็ยังไปเพื่อรักษาน้ำใจเพื่อน กลายเป็นเพื่อนลากเราเข้า เซ็นเตอร์เลย ... อารมณ์ตอนนั้นแบบว่า โกรธ ผิดหวัง เศร้า มาก ทำไมเพื่อนรักเราทำกับเราแบบนี้ คือเราเข้าใจเพื่อนว่าเพื่อนกำลังฮึกเหิมอยากลุยงานนี้ เราเองก็ไม่ได้รังเกียจ อะไรนักหนา แต่คงไม่ทำด้วยอยู่แล้ว ทำไมเพื่อนต้องลากเราเข้าไปเซ็นเตอร์ เพราะอะไร? เหมือนความจริงใจ น้ำใจให้กันมาเกือบสิบปี หายไปในวูบเดียวเลยครับ แต่ยังดีที่เพื่อนผมเข้าใจ และผมก็เข้าใจเพื่อน ตอนนี้เพื่อนยังทำอยู่ครับแต่ ไม่คุยเรื่องนี้กับผม และผมก็ไม่ถามถึงอีก แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 53 23:03:44 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 53 23:02:12 จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 22:51:42   ความคิดเห็นที่ 255 สู้ๆครับ จขกท. ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้เท่าใจเราเองครับ ก้าวออกมาก็เห็นทางสว่างได้ ผมก็เสียคนรู้จักหลายคนไปกับแอมเวรนี่เหมือนกันครับ จากคุณ : MitJung เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 00:50:34   ความคิดเห็นที่ 256 amway am - ฉัน way - เส้นทาง เส้นทางของฉัน เหอะๆ ใครอย่าได้ยุ่งเชียวนะ เลือกแล้วๆ ทางของช๊านนนนนนนนนนนนน 5555 จากคุณ : พ่อหนูอยู่เบตง เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 10:43:31 ความคิดเห็นที่ 257   ..............รู้สึกเห็นใจ จขกท.เป็นอย่างมาก  ยังไงก็ขอให้เข้มแข็ง จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะคะ........... จากคุณ : จริงจัง?จีรัง? เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 20:00:44   ความคิดเห็นที่ 258 เป็นกำลังใจให้ จขกท. ครับ คิดว่าแฟนคุณคงลืมไปว่าการสร้างตัวสร้างชีวิต มันไม่ใช่แค่ฐานะ หรือการเงิน แต่ต้องรวมคำว่าครอบครัวไปด้วย ดูคร่าวๆ แบบนี้ครอบครัวของเค้าคงกลายเป็นแอมเวย์ไปแล้วหล่ะ ซึ่งจะถูก/ผิดก็ไม่สามารถตอบได้เพราะชีวิตคนอื่น แต่ครอบครัวที่ผมพูดถึงเนี่ย ถ้าไม่มีเรื่องการขาย หรือผลประโยชน์เข้ามามันยังจะเป็นครอบครัวอีกหรือไม่ ตรงนี้น่าคิดนะ คิดซะว่าชีวิตเดินคนละเส้นทางต่างคนต่างไปละกันครับ จากคุณ : แมวหลงทาง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:39:11 ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com