|
ความคิดเห็นที่ 3 |
เราเคยโดนแม่ มาวุ่นวายในกิจการช่วง 2008 ปีแรกที่เริ่มโรงเรียนติว วิพากษณ์วิจารณ์ลูกค้าเรา เช่น มีผัวแก่ สอดรู้สอดเห็นเรื่องฐานะ อาชีพลูกค้า มาแอบฟังลูกค้าคุย ซึ่งกิจการเราขาย ความเป็นส่วนตัว private premium class ให้ลูกค้า . . .
วิธีแก้ปัญหาขั้นที่ 1 เราได้สละทีวีตัวเองอันใหญ่ ให้แกไปติดตาม แก้ปัญหาได้ครึ่งหนึ่ง
วิธีแก้ปัญหาขั้นที่ 2 วันที่เราสุดทน เราบอกเลยว่า ถ้ายังมาแอบฟังลูกค้าคุย ละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวลูกค้า คนที่นำเงินมาให้ ทำให้รายได้หาย เราจะหอบสมบัติ หนีไปตายดาบหน้าที่ต่างประเทศ ซึ่งเขารู้ดี เมื่อบีบคั้นเรามากในปี 2006 ที่เราต้องหนีไปทำงานสุดขอบประเทศ 3 เดือน ...
มาปีที 3 กิจการ . . . ปัญหามาจาก ญาติโกโหติกา ที่ไม่ได้มาเป็นปี ต้องโผล่มาวันเชงเม้ง มาผ่าห้องเรียน ทำให้ลูกค้ามองหน้ากันเลิ่กลั่ก จนเราต้องออกกฏว่า ถ้าใคร ไม่ว่า แม่ น้องสาว ผ่านเวลา ที่มีลูกค้าจ่ายเงิน ชาร์ตค่าผ่านทาง ครั้งละ 500 บาท! ลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัว ลูกค้าจ่ายเงิน ถ้าลูกค้าไม่มาต้องเสียเงินให้เรา เราทำเองมาจวบ 3 ปี เราไม่เคยไม่สอน รับผิดชอบทุกครั้ง ไม่ว่าจะป่วย หรือธุระ ชีวิตส่วนตัวอื่นใด ต้องเอาลูกค้าเป็นหลักเสมอ เพราะลูกค้า support เราตลอด
ปีที่ 3 กิจการนี้ น้องสาวอยู่บริษัทยา ฟากเยอรมนี ตกลงกันด้วย กฏ กติกา ข้อแลกเปลี่ยนต่างตอบแทน คือ แต่ละคอร์ส เขียนช่วงเวลา ที่มีลูกค้าจ่ายเงิน วันอังคาร พฤหัส เสาร์ อาทิตย์ ส่วนจันทร์ พุธ ศุกร์ เราออกไปวิ่งงานข้างนอกตามสบาย เรียกว่า แบ่งโซนเวลาการครอบครอง หรือ ผ่านทาง
ซึ่งตอนแรก ต้องไปวุ่นวายกรมที่ดิน เขตอำเภอ ต้องซื้อที่ดินเพิ่มด้านข้าง เจรจากะที่ดินด้านหลัง จนพ่อยื่นมือมาช่วย จะซื่อตึกข้างๆที่ติด BBL 2 ล้านไว้ทำทางเข้าออก ให้ผู้หญิงแค่คนเดียวในบ้าน ! มันเหมือน ขี่ช้างจับตั๊กแตน ที่แก้ปัญหาไม่แตก
หากบ้านคุณกลายเป็น อ่างธุรกิจ ทำเงินทำทองแล้ว วิธีจัดการ แบบคนไทย พูดจา บอกกล่าว แล้วคนในบ้านก็ยังทำ มันต้องเปลี่ยนเป็น โดน Charges แบบที่ชาร์ตลูกค้า ถึงจะแก้ปัญหาได้
' การข่มขวัญ ' เป็นอวัจนแทคติก กลยุทธ์ แบบหลอกเด็ก บางที ต้องมีการ ' เชือดไก่ให้ลิงดู ' หนึ่งหน เราเคยเชือดลูกค้าคน ทำให้คนอื่น ไม่กล้าบิดพลิ้วการจ่าย เลือกเชือดลูกค้าที่สร้างปัญหา และลูกค้าคนอื่นไม่ชอบ พร้อมอยู่กับเรา ขึ้นโชว์
เรื่องคนในบ้าน ที่ต้องอยู่ร่วมในสถานที่ ใช้ประกอบกิจการ ถ้าไม่มีบุญคุณ กันด้วยเรื่องผลตอบแทน ก็ต้องจับจุดให้ถูกว่า เค้าต้องการให้คุณทำหรือไม่ ไม่ใช่ ทำไปทำมา กลายเป็น 7-11 มาแข่งทำเองกับลูก . . .
สิ่งที่ทำให้ คานอำนาจกันอยู่ คือ ความสามารถหาคนมาซื้อทรัพย์สิน ตั้งแต่เราอายุ 24 จนวันนี้ 32 กับเราปูทาง สร้างครอบครัวใหม่ต่างแดน ไว้ หากวันใด ที่ทำมาหากินที่เมืองไทย มาตกม้าตายเพราะคนในบ้านตัวเอง วันนั้น หอบกระเป๋าเดินทางที่ถอยมาตั้งขู่ ไปตายดาบหน้าได้ทันที ...
ทำธุรกิจเอง มีทั้งศึกนอกบ้าน ลูกค้า(อันนี้ถ้าลงมือทำเองตลอด ยากที่ใจลูกค้าจะหันเหไปที่อื่น ยกเว้นไม่จ่าย ดึงจ่าย จ่ายช้า ติดblacklist) คู่แข่ง(ยังไม่เท่าไร หากคุณเป็นต่อใน ต้นทุน ความต่างทางธุรกิจ แล้ว ยิ่งมีดวงสนับสนุนจากลูกค้า คือ ดีมานด์ใหม่ๆลูกค้าให้คุณทำก่อน คู่แข่งไม่อยู่ในโผ แต่ให้ระวังแพ้ การหมดไฟในตัวเองมากกว่า หรือความเบื่อหน่ายปัญหาซ้ำซากปีที่1,2,3 )
ปัญหาที่ แก้ไม่หลุด จัดการไม่ขาด เนื่องจากนำ ความเป็นแม่ ความสัมพันธ์ส่วนตัว มาอ้าง ซึ่งทำให้พวกต่างชาติ วิพากษ์การทำธุรกิจ แบบจีนว่ามีการแทรกแทรงจากคนในครอบครัว โดยที่เงินก็ไม่ใช่ของ เค้า ก็เหมือนที่คุณควักมาลงทุนเองนั่นหล่ะ...
แนะสุดท้าย ต้องตีโจทย์ให้แตก SWOT ให้ออกว่า อะไรเป็นสิ่งที่แม่คุณกล้วและจะไม่ทำอีก ถ้าคุณเหลืออด . . . ไม่งั้นการทำธุรกิจโดยยังอยู่ ร่วมกับคนในบ้าน ก็จะกลายเป็นโรคประสาทไม่รู้จบ...
ถ้าแก้ได้ ก็ไม่ต้อง มีปัญหาเรื่องค่าเช่า เรื่องจ้างคน ยังเป็นต่อในสนาม รบ กับคู่แข่ง ลูกค้าข้างนอก บางทีสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่ ต้องทำยอดมากมาย แต่ต้องยืนระยะ วิ่งให้อยู่บน race นานที่สุดเท่านั้น เพราะวัน เวลาจะฆ่าคู่แข่งที่จับใหญ่ให้ตายไปเอง และลูกค้าจะเดินมาหาเราเองในวันที่เรามั่นคง ไม่ปิดตัว และยังหายใจผ่านสมรรภูมิมาได้ โดยที่ไม่เป็นอะไร
จากคุณ |
:
kuddle
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ส.ค. 53 16:06:04
|
|
|
|
|