บันไดกี่ขั้นสู่ความมั่งคั่งทางการเงิน – ขั้นที่1.5 ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง
|
|
พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอนหลีกเลี่ยงไม่ได้ กัมมัสสะโกมหิ (เรามีกรรมเป็นของๆตน) กัมมะทายาโท (เราจะต้องรับผลของกรรมนั้น) กัมมะโยนิ (เรามีกรรมนำเกิด) กัมมะพันธุ (เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์พวกพ้อง) กัมมะปะฏิสะระโน (เรามีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย) ยัง กัมมัง กะริสสามิ (เราทำกรรมอันใดไว้) กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา (เป็นบุญหรือเป็นบาป) ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ (เราจะต้องรับผลของกรรมนั้น) อภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง (พึงพิจารณาเห็นเนืองๆดังนี้) ไปทำพิธีตัดกรรมก็เป็นการลบล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า
หลายคนอ่านแล้วอาจจะงง เอนี่เรามาถูกห้องหรือเปล่าหวา ขอบฟ้ามันเอาอะไรมาให้อ่านเนี่ย ไหนย้อนกลับไปดูหน่อยว่านี่มันห้องศาสนาหรือเปล่าหนอ จริงๆท่านเข้าถูกห้องแล้วครับ เย้ แต่ที่เอาคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านมาลงไว้ เนื่องมาจากกระทู้แรกก็มีทั้งคนตอบและหลังไมค์เข้ามา ประกอบกับเข้าไปอ่านหลายๆกระทู้ในห้องสีลมและสาธร เอ้ยสินธรแล้วเนี่ย ผมเลยรู้สึกว่าน่าจะเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อหลายๆคนที่อ่านกระทู้บางประเภทแล้วพาลทำให้เสียกำลังใจ หมดกำลังใจ ที่จะตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้ต่อไป
กระทู้เหล่านี้ทั้งหลายก็เป็นกระทู้ประเภท เงินเดือนเท่าไหร่หรอ เก็บเงินล้านแรกได้ตอนอายุเท่าไหร่ ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นยังไงบ้าง เงินเก็บเท่าไหร่ มีพอร์ทเท่าไหร่ บลาๆๆ เชื่อมั้ยว่ากระทู้เหล่านี้บางคนอ่านก็ได้กำลังใจโขว่าสักวันหนึ่งเราก็ต้องเป็นอย่างนั้นบ้าง แต่หลายคนอ่านแล้วพาลหมดกำลังใจเอาดื้อๆ เราเองก็ทำงานหนัก เหนื่อยทำไมทำไม่ได้อย่างเค้าบ้างว้า บ้างก็รำคาญไปเลยก็มี เงินแก พอร์ทแกเอามาบอกฉันก็ไม่ได้รวยไม่ได้จนไปด้วย บ้างก็อิจฉาตาร้อนผ่าว อยากได้แบบเขามั่ง แต่ก็ไม่พร้อมจะอุทิศแรงกาย แรงใจแบบคนที่เขามี(อันนี้เค้าเรียกโลภ)
แต่เท่าที่เจอผลลัพธ์ของกระทู้เหล่านี้ หรือการได้พบเจอกับบุคคลเหล่านี้มักจะออกมาในแง่ร้ายมากกว่าดี อันนี้คงต้องยกเครดิตให้กับความเป็นมนุษย์ของเรา เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมองโลกในแง่ร้ายๆไว้ก่อน หรืออยากได้ อยากมี อยากเป็นแบบเขาไว้ก่อน(ถ้าใครไม่มีเลยก็อริยชนแล้วครับ ไม่ใช่ปุถุชน) ถึงที่สุดก็อาจจะเสียกำลังใจ ไม่อยากทำในสิ่งที่เคยได้ทำ หรือเลิกทำไปเลยดื้อๆก็มี บ้างก็แสวงหาหนทางที่คิดว่าจะทำห้ตัวเองเป็นแบบนั้นบ้าง พวกที่เคยลงทุนดีๆก็พากันไปเก็งกำไร(ที่เคยเสียมันไม่เร็วเท่า ไม่มันส์เท่า) ที่เคยทำงานดีๆก็ลาออกมาทำธุรกิจทั้งๆที่ตัวเองไม่มีความพร้อม บ้างก็หลงระเริงไปกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่(สองอาทิตย์ที่ผ่านมามีคนโทรมาหาผมเกี่ยวกับ “ธุรกิจใหม่” สี่รายเข้าไปแล้ว เท่าที่ผมวิเคราะห์ อีกไม่นานผมจะได้ซับน้ำตาเขาเหล่านั้นอีกคนละรอบ)
กระทู้นี้จึงเกิดขึ้น เพื่อเล่าเบื้องหลังเบื้องลึกของบุคคลที่ประสบความสำเร็จตามเว็บบอร์ด ตามงานสัมมนา ว่าแท้ที่จริงแล้วมี “ความจริง” อะไรบ้างที่ยังไม่ถูกตีแผ่ ผมจะเล่าทั้งแง่ที่ไม่ดีว่าอย่าไปเสียกำลังใจกับคนเหล่านั้น และจงศึกษาไว้เป็นแบบอย่างจากคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ข้อเขียนทั้งหมดนับตั้งแต่ความเห็นแรกเป็นต้นไป ผมจะเขียนเองเออเองดังนั้นใครจะมาปรักปรำว่าเอาเรื่องเค้ามาเล่าผมไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น(ฮา)
สุดท้าย อย่าท้อถอยเพียงเพราะคนอื่นทำได้ดีกว่าเรา อย่ายอมแพ้เพียงเพราะคำบอกเล่าที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เราทุกคนมีกรรมเป็นของๆตน หากเราจะเกิดมาไม่รวยเท่า ไม่หน้าตาดีเหมือน ไม่มีโอกาสเช่น แต่ทุกอย่างเราสร้างมันขึ้นมาได้ครับ คนที่มี90เค้าทำแค่10ก็100แล้ว แต่ถ้าเรามีแค่5เราก็ต้องทำ95มันถึงจะถึง100เหมือนคนที่เขามีมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่ข้อแม้ที่จะยอมแพ้ ลองคิดว่าถ้าเรามีล้านแรกจากการที่ไม่มีอะไรเลย กับคนที่ทำ1ล้านจากฐาน100ล้าน อะไรมันน่าภาคภูมิใจกว่ากันครับ คิดในแง่ดีๆบ้าง “คนรวยไม่มีโอกาสที่จะเริ่มต้นจากศูนย์แบบเราๆท่านๆนะครับ”
(@_@)
จากคุณ |
:
ขอบฟ้าบูรพา
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 53 02:16:52
|
|
|
|