ความคิดเห็นที่ 1 เข้าแค่ปรับตัว Unilever คงลองลงเล่น MLM เพราะนึกภาพว่า สินค้า MLM อาจออกตัวยากในตอนแรก หากใช้ดีจึงได้ขายอีก แต่ของเขาก็รู้จักกันทั้งประเทศอยู่แล้ว ทั้งนี้ผมว่า MLM สำหรับ Unilever แล้ว มันใช้เงินลงทุนน้อยนิดมากหากเทียบกับ Ad ในระบบเก่า ที่ขายตามห้างร้าน จากคุณ : tonketenke (TonkeTenke) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 14:19:00

ความคิดเห็นที่ 2 ใครบอก MLM ไม่ดีครับ อย่าเหมาครับ แต่ผมไม่เคยทำ MLM ของตัวไหนเลยนะ แต่ยอมรับว่าแนวคิดแต่ละตัวก็ดีจริงๆ ผมไม่ได้ทำ แต่ยอมรับว่าดี ผมไม่เคยบอกว่าไม่ดีนะครับ มันจะดีมากๆกับผู้ประกอบการครับ ผมเลยชอบแนวคิดไง ส่วนผู้บริโภค ก็..... ตามแต่ชะตาฟ้าลิขิตล่ะครับ จากคุณ : ออกกำลัง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 14:21:06

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่ทำให้ธุรกิจ MLM เสียภาพลักษณ์ ก็พวกคนขายนี่เองแหล่ะ จากคุณ : อย่ามาห้ามผม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 14:31:33

ความคิดเห็นที่ 5 MLM น่ะเป็นระบบที่ดีครับ ที่ไม่ดีน่ะ คน มากกว่า จากคุณ : comeDD เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 14:45:16

ความคิดเห็นที่ 6 ถูกใจ คห.5  ค่ะ จากคุณ : Rarin-รริญ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 15:07:49

ความคิดเห็นที่ 7 ดีไม่ดี ลูกโซ่หรือไม่ ก็ดูที่ราคาของครับ จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 15:21:54

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนใหญ่แพงกว่าราคาตลาดอะครับ ทั้งๆที่ MLM มันประหยัดค่าโฆษณาไปตั้งเยอะ ขายแบบปากต่อปาก แทนที่จะลดราคาให้ถูกกว่าราคาตลาด กลับทำราคาแพงกว่าราคาตลาดซะงั้น ผมเลยรู้สึกว่าเจ้าของ บ. พวกนี้มันเอาเปรียบเรา เลย anti MLM น่ะครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 16:53:19

ความคิดเห็นที่ 9 ดีต่อ Unilever ไง จากคุณ : Nopparat_r1 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 17:09:04

ความคิดเห็นที่ 10   คห.8 แพงกว่าตลาดนั้น มันจะคืนมาในรูปปันผล ถ้าเราสร้างเครือข่ายได้ไงครับ เป็นแรงจูงใจให้คนขยายเครือข่าย ส่วนคนที่ไม่สร้างเครือข่าย ก็ได้ส่วนลด 20-30% อยู่แล้ว ถ้าเป็นสมชิก อย่ามองผิวเผิน ต้องคิดให้ลึกซึ้งอีกนิดนึง จากคุณ : sebas เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 17:57:45 A:210.1.34.226 X: TicketID:286161

ความคิดเห็นที่ 11   แพงอ่ะครับ จากคุณ : IamsoGus เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 20:26:12

ความคิดเห็นที่ 13 การทำ mlm ก็เหมือนกับการสร้าง brand royalty อ่ะค่ะ คือปกติ สินค้าส่วนใหญ่จะมีค่าการผลิต อยู่ที่ 40% ของราคาชิมิคะ และมี 60% เป็นค่าการตลาด เช่นโฆษณาต่างๆ ค้าส่ง ค้าปลีก อ่ะค่ะ คือถ้าเป็น ขายการตลาดทั่วๆไป 60% นั้นจะจ่ายให้ พวก เซ็นทรัล บิ๊กซี โลตัส 7/11 ดาราที่จ้างมาเป็นพรีเซนเตอร์ เป็นต้นน่ะค่ะ แต่ถ้าเป็น mlm 60% เค้าจะเอามาแบ่งจ่ายให้กับ สมาชิกที่ซื้อสินค้าใช้ ซึ่งก็จะทำให้เกิด brand royalty อ่ะค่ะ เพราะซื้อสินค้าใช้แล้วได้เงินคืนด้วย แต่เรื่องการแบ่งจ่าย 60% เนี่ย ต้องศึกษาดีๆอ่ะค่ะ ว่าแผนการตลาดเค้า เป็นยังไง มีการวางเงื่อนไขยังไงบ้าง ประมาณนี้ล่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 15:03:53 จากคุณ : เม่นน้อยขนพริ้ว เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 15:03:07

ความคิดเห็นที่ 14 MLM มันก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางการจัดจำหน่ายนั่นละค่ะ จะได้ maximize profit มากที่สุด จากคุณ : WellnessGirls เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 53 21:07:21

ความคิดเห็นที่ 15 อัพเกรดสินค้าได้ โดยปรับสูตรให้มีคุณภาพสูง และปรับราคาสูงๆได้ พัฒนาสูตรเรื่อยๆ และปรับราคา กำหนดต้นทุนได้เอง เพราะเป็น mass production รักษายอดกันต่อไป จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 01:18:49