Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เครียดท้อจิตตกกับชีวิตผมควรเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไรดีครับ  

พอดีวันนี้เพิ่งตกงานครับ เพราะหมดความอดทนกับการทำงานและคำพูดของพ่อและแม่ตัวเองครับ


คือตัวผมอายุ 26 ปี ในครอบครัวมีลูก 2 คน ผมเป็นพี่คนโต มีน้องห่างกัน 6 ปี คือผมเรียนไม่เก่ง จบมหาลัยก็ไม่ดัง พ่อและแม่ผมเป็นคนที่รักน้องมากกว่าผมครับ เพราะสมัยก่อนตอนท่านยังไม่มีอะไรท่่านเอาผมไปฝากไว้กับคุณยายและท่านก็ทำงาน ผมจึงโตมาด้วยความที่ติดยายมากกว่าพ่อและแม่ ผมอยู่กับยายตั้งแต่ยังเล็กจนมาอยู่กับพ่อแม่อายุราวๆ 14 ปีแต่ก็อยู่ไม่ได้ครับ ต้องกลับไปอยู่กับยาย ยอมลำบากนั่งรถเมล์ไปเรียน ทั้งที่พ่อแม่ผมตอนนั้นมีธุรกิจเป็นของตัวเอง


หลังจากนั้นผมก็มาอยู่กับพ่อและแม่ในช่วงมหาลัย ส่วนใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องไม่ค่อยสนิทและลงรอยกับท่านเท่าไหร่ แม่ผมไม่เท่าไหร่แต่พ่อผมชอบพูดจาดูถูกและแสดงความเบื่อหน่ายกับตัวผม และสำคัญคือท่านจะรักน้องผมมากกว่าครับ ผมเลยจะทะเลาะและไม่ค่อยถูกกับคนพ่อบ่อยมาก หลังจากเรียนจบก็ทำงานที่บริษัทท่าน ทำบ้างออกบ้างเพราะทะเลาะกัน ตอนนั้นยอมรับเลยครับว่าอารมณ์ร้อน คือเจอด่าเจอว่า ก็จะโมโหคือเราไม่ผิดก็จะโดนยัดและด่าแรงๆจนผิด คือสมัยก่อนพ่อผมเป็คนที่มีเหตุผลครับ แต่หลังจากที่ท่านมีกิจการท่านเปลี่ยนไปอย่างนึงคือท่านไม่รับฟังความเห็นใคร ท่านจะคิดว่าท่านถูกเสมอ ผมเอาเหตุผลอะไรไปงัดกับท่านก็จะมีปัญหากันทุกที


หลังจากทำๆออกๆ ก็กลับมาทำใหม่ในขณะที่น้องคนเล็กเรียนเก่งครับ ได้ไปเรียนสิงคโปร์กลับมาพูดภาษาอังกฤษดีเลย ตอนนี้ก็กำลังเรียนที่มหาลัยมีชื่อเสียงที่หนึ่ง แต่น้องนิสัยเหมือนพ่อครับ เพราะตอนเด็กโดนตามใจและจะมีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าวกับครอบครัวตัวเอง กับคนอื่นจะไม่เป็น อย่างบางครั้งพ่อผมพูดเยอะน้องก็จะตะคอกให้เงียบๆ เช่นวันนึงผมกับน้องไปต่างประเทศกลับมาแล้วพ่อผมพูดตลอดทางที่ขับรถกลับกันน้องผมตะคอกเลยว่า "เงียบๆหน่อยตั้งแต่กลับมายังไม่หยุดพูดเลยนะ" ซึ่งทั้งพ่อและแม่ผมเลยเงียบไป แต่กลับกันถ้าผมทำแบบนั้นบ้างผมจะโดนด่าและโดนตะคอกกลับแหงๆ


เรื่องของเรื่องคือ ตั้งแต่ผมทำงานที่บริษัทตัวเองเนี่ย ผมเหมือนไม่มีผลงาน แล้วพ่อแม่ของผมก็ไม่ได้สอนงานด้วยครับ คือพอดีตอนที่ผมไปทำท่านก็เรียนต่อพอดีเลยไม่มีัเวลา ผมเลยงูๆปลาๆไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้มันเป็นชิ้นเป็นอัน ประกอบกับพอมีไฟจะทำ ผมก็จะโดนกรอกหูด้วยคำพูดของพ่อว่า เดี๋ยวพอน้องมันจบจะได้ให้มันมาบริหารต่อ ผมเลยท้อมากครับ เหมือนตัวเองไร้ค่า อย่าง ปีที่แล้วที่บ้านซื้อรถให้คันนึงคือ Mazda3 ตอนแรกเค้าให้ผมเลือกครับ แต่พอผมจะเลือกจริงๆพ่อผมก็แกมบังคับว่าเอา mazda3 ไปสิ (พ่อผมอคตืกับ Honda) ซึ่งตอนแรกผมก็จะเอา Honda และให้เหตุผลไปว่า มันประหยัดน้ำมันกว่านะ ท่านก็ไม่สนบอกเอา 3 ไปแหละ พอผมไปหาข้อมูลเพิ่มก็เจอว่าถ้าจะเอาเครื่อง 1.6 ให้เอา 2.0 ไปเลยเพราะมันกินน้ำมันน้อยกว่าเพราะรถหนัก พอเอาเหตุผลข้อนี้ไป พ่อผมก็บอกว่า จะซื้อรถแรงๆไปทำไม หัดขับรถแรงม้าน้อยๆไปก่อน เดี๋ยวอนาคตค่อยเปลี่ยน ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เอาวะดีกว่าไม่ได้


หลังจากนั้นพอน้องผมเข้ามหาลัย น้องผมได้ขับ Benz ครับ ซึ่งสมัยผมเรียนผมนั่งรถเมล์ตลอดพ่อแม่ไม่เคยส่ง บอกว่างานยุ่ง แต่พอน้องผมเรียนเค้าให้ Benz ขับ จนลูกค้าเคยถามแม่ว่าทำไมให้ผมขับ mazda3 แต่น้องขับ Benz ซึ่งแม่ผมก็อ้างว่านั่นมันรถบริษัทให้น้องผมยืมไปก่อน แต่เรื่องน้ำมันผมก็เติมเองนะครับ เบิกไม่ได้ แต่น้องผมเบิกตลอด จนมาล่าสุดตอนนี้พ่อผมจะซื้อ BMW ให้น้องผมเพราะน้องผมเรียกร้องมา ผมถึงกับอึ้งเลยครับ เพราะคำพูดตอนที่พ่อจะซื้อรถให้ผมไม่รู้เค้าลืมปหรือเปล่า อึ้งครับบอกตรงๆ เลยท้อหนักแต่พยายามทำใจว่าเราโดนมาทั้งชีวิตนะ


จนช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาพ่อแม่ผมให้น้องผมลองเข้ามาดูงานที่บริษัท พ่อผมเดินสอนงานทั้งที่ไม่เคยทำกับผมแบบนี้ และน้องผมเรียนรู้ไวครับ ผมเห็นแล้วยังเครียดเลยว่า เออเก่งเ้ว้ยทำอะไรดีไปหมด แต่มาวันนี้พอดีตอนเช้างานมีปัญหาพ่อผมเรียกหัวหน้างานต่างๆมาประชุม ซึ่งก็เรียกมาว่าเลยครับว่าทำไมทำงานชุ่ยกันแล้วพอดีเค้าไปหาลูกค้าเลยรับหน้าเต็ม เลยเป็นเรื่องราวให้ถึงจุดแตกหักครับ


พ่อผมด่ากระทบถึงผมว่า อยู่มาเกือบ 2 ปีแล้วยังทำผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเสียที ทำงานหลักลอย ไม่มีประโยชน์เหมือนจุดด้อย สู้ไม่มีเสียดีกว่า แล้วเค้าก็เปรียบเทียบว่า น้องผมเข้ามาไม่กี่วันกลับมองงานออก มีไหวพริบ ซึ่งวันก่อนหน้านี้เป้าหมายตกผมก็บอกกับพ่อผมว่าตกเพราะงานซ่อมหรือเปล่า พ่อผมตะคอกใส่ผมว่า แล้วมรึงได้ไปดูงานมั้ย แต่พอน้องผมพูดแบบเดียวกัน พ่อผมเอามาชมว่าน้องผมมองงานออก


ผมบอกตรงๆครับวันนี้ผมเสียใจมาก ผมรู้สึกว่าผมเป็นอะไรวะ ทำไมไร้ค่า ทำงานให้เค้าก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง ดีแต่ลอยๆจนให้เค้าว่าทุกวัน ทำมาเกือบ 2 ปีเงินเดือนก็ไม่ได้อัพ เพราะตอนประเมินผมก็เป็นคนเขียนไปเองว่าตัวเองทำงานไม่ดี แต่เจอคำพูดแบบนี้ผมหมดกำลังใจครับ ท้ออยากหาอะไรทำเป็นของตัวเองเลยจริงๆ อยากอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งครอบครัวแล้ว ผมจึงบอกกับแม่ว่าขอออกไปทำอะไรเองดีกว่า



ผมเลยอยากถามดังนี้ครับว่า

- ผมมีเงินทุนของตัวเองประมาณ 1 ล้านบาท ผมควรเอาไปลงทุนอะไรดี
- หรือผมควรจะไปหางานบริษัทอื่นทำ ซึ่งผมไม่เคยมีประสบการณ์เลย



ตอนนี้เครียดกับชีวิตมากครับ อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วแต่ยังไม่ได้ทำงานจริงจังๆ ไม่อยากอยู่แบบเวลาฆ่าตัวเองไปวันๆอีกแล้ว ไม่อยากให้พ่อดูถูกผมไปมากกว่านี้ อยากให้ตัวเองมีรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้ แค่นั้นก็พอ ผมจะเริ่มยังไงดีครับ ตอนนี้มืดจริงๆ กลับจากที่ทำงานตั้งแต่เที่ยง ไม่ได้ทำอะไรข้าวไม่ได้กินน้ำไม่ได้แตะ นั่งจิตตก เครียดครุ่นคิดอยู่จนถึงตอนนี้เลยเอามาระบายกับห้องสีลมเนี่ยหละครับ


ใครมีอะไรแนะนำเต็มที่เลยครับ เอาตรงๆ ผมผ่านจุดของคำว่าเสียใจมาแล้ว ตอนนี้สิ่งที่อยากได้คือคำแนะนำเพื่อจะได้หาทางออกของชีวิตว่า เราจะเริ่มต้นตรงไหน ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันยังไ ควรจับธุรกิจอะไร หรือไปหาประสบการณ์เป็นลูกจ้างเขาดู แต่ที่ผมมองๆคืออยากเปิดอะไรเองดูครับ





ยังไงขอบคุณที่ตามอ่านครับ

จากคุณ : ท้อแท้
เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 15:11:17 A:58.9.111.208 X: TicketID:184249




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com