ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่ามันต้องเป็นตัวเราเองนะครับ ที่เพิ่มความรู้ความสามารถตัวเอง ถีบตัวเองให้เด่นกว่าคนอื่น ไม่ใช่รอรัฐบาลอย่างเดียว จากคุณ : คนเดินบนดิน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 10:43:37

ความคิดเห็นที่ 2 ประสบการณ์ทำงานเยอะหน่อยก็เรียกเงินได้บ้าง   อย่าง คห.1 บอกอย่าไปรอรัฐบาลอย่างเดียวครับ ตนเองต้องดิ้นรนด้วยส่วนนึงครับ อยากมีรายได้เพิ่มอีกก็หารายได้เสริมทำเอาช่วงวันหยุดครับ จากคุณ : บอลนะ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:03:54

ความคิดเห็นที่ 3 คนอายุ 27 ได้เดือนละครึ่งหมื่นก็มี เดือนละหลายแสนก็มี ลองสู้ให้เต็มที่เอาคนที่ได้หลายแสนเป็นตัวเปรียบเทียบก่อนดีไหมครับ? รอความช่วยเหลือจากรัฐเท่ากับรอวันตายครับ เมื่อตลาดแรงงานเปิดเสรีไม่เพียงคุณต้องแข่งกับคนไทย คุณยังต้องแข่งกับคนต่างชาติที่เข้ามาหางานในไทยด้วย ถ้าวันนี้คุณไม่ดันตัวเองให้เหนือกว่าคนอื่น เมื่อวันที่การแข่งขันรุนแรงขึ้น คุณจะมีที่ยืนเหลือเหรอครับ? จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:51:30

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมต้องรอความช่วยเหลือ คุณประหยัดใช้เงินเท่าที่จำเป็นแล้วหรือยัง คุณออมแล้วหรือยัง แล้วบริหารเงินออมอย่างไร สัดส่วนออมเหมาะสมแล้วหรือไม่ คุณเอาเงินเดือนที่แสนจะน้อยนิด ไปลงขวดกี่ครั้งต่อเดือน ลงอ่างบ้างมั๊ย แล้วเฟอร์นิเจอร์สุดหรูบนตัวคุณล่ะ แพงไปมั๊ย จำเป็นมั๊ย คุณทุ่มเทให้กับงานแล้วหรือยัง ทำไมเงินเดือนถึงไม่ขึ้น ถ้าคุณห่วยเอง ก็ปรับปรุงคุณภาพการทำงานดีไหม ถ้าบริษัทห่วย ก็ลองมองหาที่ดีกว่าดูดีไหม ฝึกหาปลาเอง ดีกว่ารอคนจับปลาให้่ไปวันๆนะครับ วันนึง เค้าเลิกจับให้แล้วจะรู้สึก ปล. ไม่ได้ด่า ไม่ได้ว่า และไม่ได้คิดว่าคุณจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย เพียงแต่ถามไว้ให้เป็นแนวทางไว้คิด และบริหารเงิน จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งบนดวงดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 13:14:23

ความคิดเห็นที่ 5 โดยรวม ผมไม่คิดว่าจะเกิน 15000 บาท ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกระดับล่างกันเยอะ ถ้าจะรอให้รัฐช่วยคงยาก อย่างแรกที่อยากให้คิดคือ ให้ช่วยตัวเองก่อน ผมเชื่อว่าหลายๆคน เรียนจบปริญญาตรีมา แต่ไม่ได้มีความรู้ในด้านที่ตัวเองเรียนเลย และไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องเป็นราว ถ้ามัวแต่จะคิดขอให้คนอื่นช่วยตลอด แล้วคนเรามันจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไร? รัฐก็ช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว แต่อาจจะช่วยได้ไม่เต็มที่หรือช่วยไม่ถึงทุกคน เนื่องจากหลายๆสาเหตุ แต่ตัวเราเองน่ะแหละที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ดีที่สุด จากคุณ : CoollyCat เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 13:23:32

ความคิดเห็นที่ 6 คิดอย่างนี้เข้าทางประเทศคอมมิวนิสต์ ประชาชนทำงานแลกอาหาร เท่าเทียมกันดีทุกคน จากคุณ : sadako เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 16:29:33

ความคิดเห็นที่ 8 6#  ไม่เสมอไปครับ  ลองดูประเทศแถบสแกนดิเนเวียได้ จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 18:21:20

ความคิดเห็นที่ 9 หมื่นเดียวยังไม่ถึงเลยก๊าบบบบ - -* จากคุณ : ตวงสิทธิ์ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 18:32:05

ความคิดเห็นที่ 10   เอ่อ.. จขกท. นี้เองที่ไปตั้งกระทู้อยากจีบหมอ http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F9695486/F9695486.html เราเห็นความคิดคุณ ที่จะพึ่งพาคนอื่น เรียกร้อง (จากรัฐบาล) แบบนี้ เรารู้สึกเสียใจจริงๆ ที่แนะนำคุณไปค่ะ .. (แถมยังอุตสาห์หลังไมค์ไปตอบให้อีก TT) ....................................................................... คนทำงานเงินน้อยกว่าคุณเยอะนะคะ คนที่ลำบากกว่าคุณก็เยอะค่ะ .. ลองเปลี่ยนมือถือจากไอโฟน เป็นแค่โทรเข้าโทรออก เราว่าคุณภาพชีวิตคุณอาจจะดีขึ้นนะคะ จากคุณ : ไม่ไหวจะเคลียร์ (fayraykyo) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 20:28:35

ความคิดเห็นที่ 11 สร้างความมั่นคงให้ชีวิตตัวเอง ทำไมต้องรอคนอื่นช่วย จากคุณ : High Bridge เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 23:52:30

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นทำไมมีแต่คนมารุม จขกท เนี่ย เค้าก็แค่รำพึงรำพันเป็นเรื่องธรรมดา ลองถามคนในนี้หน่อยสิว่าใครไม่เคยกันบ้าง เค้าก็แค่มาระบาย สิ่งที่ จขกท พูดออกมาก็จริง รัฐไม่มีกลไกลอะไรจะช่วยเหลือ ช่วยเหลือในที่นี้คือด้านเศรษฐกิจให้มัน flow ขึ้นนะ ไม่ใช่แบบแจกเช็ค 2000 จขกท เค้าอาจจะช่วยตัวเองอยู่ อาจจะพัฒนาตัวเองอยู่ก็ได้ครับ เพียงแต่คนเรามันเหนื่อย มันเครียด ดูข่าวสารอะไรมากไปหน่อย เค้าก็แค่เพ้อ รำพึงรำพันขึ้นมา ก็สิ่งที่ จขกท พูดมันก็เรื่องจริงนี่ ทำไมจะต้องไปรุมเค้า ไม่เข้าใจ อย่าให้พูดเลย หลาย ๆ คนในนี้ก็ไม่ได้แตกต่าง จขกท สักเท่าไรหรอก แค่พูดให้ตัวเองดูดีเท่านั้นแหละ ปล.ไม่ได้เจาะจงว่าใคร แค่เห็นใจ จขกท. จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 01:00:22

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ.....คือผมไม่ได้ขอร้องจากรัฐนะครับ ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ผมเห็นเด็กในแผนกมันเป็นแบบนั้นมันน่าสงสาร พวกแผนกบังคับการเอาตัวรอดกันได้สบายๆ แต่เด็กๆสิครับมันลำบากจึงน่าจะมีการให้เงินเดือนพื้นฐานที่มันช่วยเหลือสังคมได้ เดี๋ยวพอผมพูดสถาบันการศึกษาก็จะหาว่าเหยียดสถาบันก็เลยพยายามเลี่ยงๆ จากคุณ : หรูหรามหาประลัย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 02:22:51

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องเปิดเสรีแรงงานนั่นผมไม่ได้พูดเล่นนะ ถ้าคุณเป็นห่วงน้องๆในแผนกก็ต้องบอกให้เขาเริ่มพัฒนาตัวเองได้แล้ว ถ้าภาษาใช้ไม่ได้อนาคตลำบากแน่นอนครับ เรื่องเงินเดือนพื้นฐานสูงกว่านี้ ต้องกลับมาพูดถึงคุณภาพเด็กจบใหม่กับความคาดหวังของบริษัทกันก่อนมั้งครับ ภาษาไม่กระดิก คอมฯไม่รู้เรื่อง คิดเองไม่เป็นรอให้ป้อน สมัยนี้เป็นงี้เยอะมากๆนะครับ ในเมื่อทำงานไม่เป็นขณะที่บัณฑิตล้นตลาด อำนาจต่อรองไม่มี ท้ายสุดใครเขาจะจ่ายเพิ่มให้ล่ะครับ ต้องแก้ที่ระบบการศึกษา ต้องมีการจำกัดจำนวนบัณฑิตที่ผลิตออกมาในแต่ละปีให้ใกล้เคียงกับความต้องการในตลาดแรงงาน ส่วนคนที่มีปริญญาอยู่กับตัวแต่หางานที่ตรงกับวุฒิไม่ได้หรือโดนกด แนะนำให้โยนหัวโขนทิ้งไป ทำงานใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมซะยังได้เยอะกว่า เดือนละหมื่นอัพ มีรถรับส่ง มีข้าวราคาสวัสดิการ เก็บเงินก้อนไว้ก่อนแล้วยังหาทางเลือกให้ชีวิตได้ในภายหลังครับ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 03:39:10

ความคิดเห็นที่ 15 พวกเด็กๆที่ จขกท ว่านี่เป็นพวกไหนคะ? เพื่อนเราทำงานแล้วหลายคน  บอกว่าอยากหางานที่ดีกว่านี้  แต่ไม่ยอมพัฒนาตัวเองเลยเฟสบุ๊คกันท่าเดียว กรณีเราก็ไม่ต่างจากเด็กพวกนั้นเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะรุ่นเดียวกัน  แต่รู้ว่าต้องมีแรงกดดันค่ะถึงพัฒนาตัว  คุณต้องลองเข้าไปฟังวงวัยรุ่นค่ะ  หาสาระไม่ได้  ถ้าเราจะคุยเรื่องงานอะไรพวกนี้  ไม่มีใครสนค่ะ  ยกเว้นเจอทางตัน  เมื่อเร็วๆนี้มีเพื่อนคนนึง เนื่องจากเริ่มมีภาระทางบ้านก็เริ่มอยากทำธุรกิจ  เริ่มสนนิดๆหน่อยๆ บางครั้งก็นะ เศร้านิดๆ เพราะผู้ใหญ่ชอบว่าเด็กจบใหม่เป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง  แต่มองไปรอบๆก็นะ  เห็นด้วย เหอะๆ  คิดแบบสบายๆจริงๆ คงเป็นเพราะพ่อแม่ยังอยู่มั้งคะ  ยังหาเลี้ยงพวกเราได้  อย่างที่บ้านไม่ได้เร่งให้เราหางานเลย  แม่เราเร่งให้ไปเรียนอย่างอื่นเพิ่มมากกว่า(เขาอยากให้เรียนศิลปะป้องกันตัวค่ะ ห่วงเรื่องนี้มากกว่างานอีก) พวกอายุที่ จขกท กล่าวถึงก็มีให้พ่อแม่เลี้ยงอยู่  เคยเจอค่ะ  เราว่าบางคนไม่ต่างจากเด็กจบใหม่ซักเท่าไหร่ เราว่า เด็กไทยขี้เกียจ รัฐไม่ให้โอกาสงาน คนแห่ไปทำเมืองนอกหรือ บ.ฝรั่ง บ.ไทยเล่นแต่เส้นเลยพัฒนาช้า หรือไม่ก็กดเงินเดือน  เรียนสูงขึ้นแล้ว ปรับวุฒิแล้วก็ให้ทำงานเดิม แถมไม่ขึ้นเงินให้  ใครที่ไหนจะยอมคะ?  บ.ฝรั่งในไทยเจริญเอาๆได้ แต่ บ.ไทยแท้ๆทำไม่ได้ (เช่น การบินไทย)  ดูหลายๆอย่างค่ะ จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 04:07:43

ความคิดเห็นที่ 16   โครงสร้างเศรษฐกิจของไทย ยังเป็นแบบ เน้นส่งออกโดยอาศัยค่าแรงถูก (แข่งกับคนอื่นด้วยราคา ไม่ใช่แข่งด้วยคุณภาพ หรือเทคโนโลยี่) ดังนั้น ค่าจ้างจะแพงมากไม่ได้ ถ้าแพงมากก็ขายไม่ได้ เพราะคู่แข่งต้นทุนค่าแรงต่ำกว่า ดังนั้นหากจะพูดประเด็นนี้ต้องพูดกันเป็น กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มสิ่งทอ รองเท้า เกษตร ประมง พวกนี้เน้นราคา ค่าแรงเฉลี่ย ไม่สูงอยู่แล้ว พวกปิโตเคมี น้ำมัน สื่อสาร อสังหา หายปีนี้เติบโตสูงมาก ค่าแรงก็โตตาม โดยเฉพาะมันมีเรื่อง ความต้องการ หรือ เทคโนโลยี่เข้ามาเกี่ยวยิ่ง + + อยากได้ก็ต้องจ่ายแพง กำไรเยอะก็จ้างแพงได้ จากคุณ : ปลาทู เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 11:29:05 A:58.8.102.146 X: TicketID:116053

ความคิดเห็นที่ 17 คุณลองเอาเงินเดือนเพื่อนสนิท คนรอบตัวคุณมาเฉลี่ยดูว่าได้เท่าไรนั่นคือเงินเดือนเฉลี่ยของคนในสังคมชีวิตเเบบของคุณ แต่ท่าถามผมว่าเท่่าไรต้อง 1 แสนขึ้นครับ พูดจริงๆ จากคุณ : PaulEiJi เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:00:55

ความคิดเห็นที่ 18 ของผมก็ป.ตรี อายุ 27 ตอนนี้รายได้ประจำก็อยู่ที่ 80K ถ้าเทียบกับเพื่อนวัยเดียวกันกับผมที่ทำงานในประเทศผมว่าผมได้เยอะ และดีใจมากแล้ว แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนที่ทำงานเมืองนอกผมก็จะรู้สึกแย่ ผมเองก็ไม่ได้ทำงานสายหมอ วิศวะ หรือสถาปนิกที่จะต้องได้ค่าตอบแทนสูงอยู่แล้ว แต่ผมเริ่มงานกะดึกพวก support มาตั้งแต่ตอน ม.5 เลยอ่ะครับ (16 ปี) ตลอด 11 ปีผมทำงาน 10 บริษัท (เฉลี่ยบริษัทละ 1 ปี) เพื่อเอาประสบการณ์ แล้วก็สอนเพื่อนร่วมงาน และน้องๆคนอื่น ไม่มีที่ไหนอยากให้ผมลาออก แต่สุดท้ายผมก็ออก ผมย้ายสายการทำงานตั้งแต่จากที่เป็นงานไอที มางานบัญชี ไปทำระบบเครือข่ายเอทีเอ็ม ข้ามมาทำเซลล์ กลับไปเขียนโปรแกรม แล้ววนกลับมาทำการตลาด โดยตอนย้ายแต่ละครั้งจากเงินเดือน 5 หมื่นกลับได้ 2 หมื่นก็มี (ย้ายไปแล้วลด) ย้ายไป ย้ายมามั่วไปหมด ผมเชื่อเสมอว่าปริญญาที่ได้มาจากมหาลัยมันก็มีค่าระดับนึง ที่ช่วยให้เรารู้จักอะไรหลายอย่าง แต่พอพ้นรั้วมหาลัยแล้ว การทดลองงานหลายๆอย่าง จากหลายๆองค์กรมันสอนให้เราเก่งและแกร่งได้มากมาย ส่วนค่าตอบแทน ถ้าเอาแบบผมก็คือผมใช้จ่ายประหยัดครับ ช่วยเหลือทางบ้าน 15% ของรายได้ ออม 15% ลงทุน 25% ฉุกเฉิน 5% ใช้จ่าย 40% ผมหาได้มากหรือได้น้อยมันก็ผันแปรตามนั้น ก็แล้วแต่ความคิดคนครับ อย่าคาดหวังกับอะไรมากครับ และก็อย่ามองสูงตลอดเวลาจะเมื่อยคอเอาครับ นานๆแหงนมองบ้างก็พอ จากคุณ : ทับไทฟ้า เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 05:13:58

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับ คห. ที่ 14 ครับ  ถ้าภาษาอังกฎษของ ใช้ไม่ได้อนาคตลำบากแน่ๆๆๆๆครับ    คุณภาพเด็กจบใหม่กับความคาดหวังของบริษัทกันก่อนมั้งครับ ภาษาอังกฎษ ไม่ได้เลย  computer ไม่รู้เรื่อง  ลำบากสุดๆๆๆๆๆ ครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 11:44:19

ความคิดเห็นที่ 20   คห. 17 18 สุดยอดดดดดดดดดดด มาก ชื่นชมจริงๆ อยากให้คนอายุน้อยๆ หรือเด็กใหม่ หลายคนทำได้เยี่ยมพวกคุณค่ะ ^^ จากคุณ : fayraykyo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 20:23:56

ความคิดเห็นที่ 21 #17 ถามเพื่อน เพื่อนมันไม่บอกอะว่าเงินเดือนมันเท่าไร 555+ จากคุณ : วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 00:08:07

ความคิดเห็นที่ 22 ผมอายุ 27 เท่าคุณ จขกท ครับ ในกลุ่มเพื่ิอนผมที่สนิทๆเรียนกันมาตั้งแต่มัธยมนะครับ ก็ 15000 - 100000 บาท ทำงานธนาคาร 15000 ครับ เป็นเชล์ได้ประมาน 15000 -  30000 เป็นล่าม จีน แต่ทำงานที่จีนได้ 25000 วิศวก็  18000 - 40000 แล้วแต่ว่า บ ไทย บ ฝรั่ง บ ญี่ปุ่น ทำงานกี่วัน *** ไม่แน่ใจนะ แล้วก็มีเพื่อนที่เป็นหมอ 2 คนผมไม่แน่ใจนเพราะไม่ได้ถามมันมากมาย น่าจะได้ 50000 +- มีโปรแกรมเมอร 2 คน คนแรกได้ได้ 60000  อีกคนได้ 30000 เจ้าของกิจการมีได้ตั้งแต่ 15000 - 100000 จากคุณ : Zorro เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:51:48