ความคิดเห็นที่ 1   สิ่งสำคัญที่ทำให้คนสัมภาษณ์ รู้สึกถูกชะตาและชอบเรานั้นคือความจริงใจ บุคลิกลักษณะท่าทางในการพูดโต้ตอบกับคณะกรรมการ ต้องเป็นคนที่มั่นใจ แต่สัมผัสได้ถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ้มบ้างเวลาสัมภาษณ์ เพราะคนที่สัมภาษณ์ทุกท่านที่ผมเจอล้วนมีวุฒิภาวะค่อนข้างมาก(แอบแซว)ไม่ต้องวิชาการมาก ขอแค่คุยสนุก เราอาจไม่ต้องเป็นคนที่เก่งเลิศเลอ โปรไฟล์เตพ จบมหาลัยดัง แค่นี้คณะกรรมการก็เอ็นดูเราแล้ว คหสต นะครับ....... จากคุณ : Farmai เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 02:43:27 A:203.114.109.154 X: TicketID:287101

ความคิดเห็นที่ 2   อยากอ่านต่อค่ะ จากคุณ : 55 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 10:24:22 A:61.90.72.107 X: TicketID:255756

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาตีตั๋วอ่าน ชอบมากๆๆๆ ปล. เริ่มงานหรือยังคะเนี่ย อยู่ฝ่ายไหนอะ จากคุณ : รักถั่ว เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 10:35:25

ความคิดเห็นที่ 4   รออ่านคับ จากคุณ : pot เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 12:13:38 A:125.24.232.62 X: TicketID:287065

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาอ่านด้วยคน เผื่ออนาคตอยากเบนเข็ม ไปทำงานรัฐวิสาหกิจ ................................................................... จากคุณ : จอบบ้อน เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 13:20:18

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท ได้สอบวิชาเฉพาะรึปล่าวครับ ถ้าผมอ่านข้ามไปต้องขออภัย ตอนผมรู้สึกว่าจะสอบวิชาเฉพาะตั้ง2รอบแนะก่อนจะสัมภาษณ์น่ะ จากคุณ : เอ็นริโก้พุชชี่ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 14:04:07

ความคิดเห็นที่ 7 ยินดีด้วยนะครับ ทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองจริงๆ ถ้าเราพลาดในสิ่งที่เราอยากได้ นั่นเกิดจากตัวเองครับ อย่าไปโทษสิ่งอื่นๆ เพราะเราสามารถแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:42:15

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เคยแม้แต่โดนเรียกสัมภาษณ์ แม้จะสอบผ่านก็ตาม จากคุณ : นางสาวจันทร์เจ้ากับนายเท้าปุย เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 18:50:45

ความคิดเห็นที่ 9 ว้าวๆๆๆ มีคนเข้าได้โดยไม่ใช้เส้นด้วย เก่งจริงค่ะ :)) ของเราแค่สมัครยังไม่ได้เลยค่ะ วุฒิไม่ตรงแค่ตัวอักษรเดียวเข้าก็ไล่ออกมาแล้ว ทั้งๆ ที่คนได้ตำแหน่งนี้ไป TOEIC 600 กว่าๆ เท่านั้น เอวังฯ ด้วยประการฉะนี้ ปล. อยู่กองไรอ้ะคะ ? จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 20:04:54

ความคิดเห็นที่ 10   กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง(ของตัวเอง) ก่อนจะเริ่ม พูดคุยกันก่อนเล็กน้อยนะครับ ขอบคุณทุกความเห็นที่บอกว่าชอบครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินคำนี้ วู้วววว์ สำหรับคห . 6 ที่ถามเรื่องสอบวิชาเฉพาะ คือ ตำแหน่งที่ผมสมัคร(ได้ ) มีเพียงตำแหน่งเดียวคือ วิทยากร ซึ่งตำแหน่งนี้ จะไม่มีการสอบวิชาเฉพาะ และวุฒิ ป.ตรี ที่ใช้สมัครได้ คือ วุฒิที่ไม่ตรงกับตำแหน่งเฉพาะ เช่น วิศวกร นิติกร เศรษฐกร นักบัญชี ระดับ 4 ไรงี้ (ส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วยคำว่า กร ) ส่วนผมจบ รัฐศาสตร์ ไม่มีตำแหน่ง เฉพาะ เลยเรียกว่า วิทยากร เสียเลย เพื่อนที่อยู่นิเทศศาสตร์ และ อักษรศาสตร์ ก็สมัครได้เพียงตำแหน่งนี้เช่นกัน ดังนั้น คำว่า ตำแหน่งวิทยากร ของ กฟผ . จึงมิใช่แปลว่าผู้บรรยาย หรือ ฝึกอบรม แต่หมายถึง ตำแหน่งที่เข้าไปในกองต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่พวกงานเอกสาร หรือ งานบุคคล หรือ ที่ตรงกับวุฒิของเราอ่ะ ผมก็เพิ่งมารู้ก่อนสัมภาษณ์ ตอนที่มีเจ้าหน้าที่ของกฟผ . มาให้ข้อมูลก่อนสัมภาษณ์ (อยู่ในกะทู้แรก ) ไม่กี่นาทีเองนะเนี่ย แต่เท่าที่ได้ยินเพื่อน(ของเพื่อน)เล่าว่าเค้า สัมภาษณ์ ตำแหน่งวิศวะ ของเค้ามีสอบวิชาเฉพาะ ด้วย) ส่วน คห. 9 เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับผมตอนไปสอบเป็นลูกจ้างประจำที่กระทรวงพลังงานครับ วุฒิไม่ตรงตามที่เค้าเขียนในประกาศเป๊ะ ๆ โดนตัดสิทธ์ เหมือนกัน อารมเสีย เลยสงสัยว่าฝ่ายสรรหา ของหน่วยงานรัฐ ทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจน่าจะปรับปรุงเกณฑ์ ในการกำหนดคุณวุฒิ ของผู้สมัคร ให้สอดคล้องกับ หลักสูตรของสถานศึกษาในปัจจุบันนะ เพราะเดี่ยวนี้ เรียนเนื้อหาเหมือนกันแต่ ชื่อหลักสูตรไม่เหทือนกันก็เยอะแยะ เช่น อักษร มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ไรงี้ แม้แต่ที่กฟผ เอง วุฒิรัฐศาสตร์บัณฑิต อย่างผม จบคนละภาควิชากัน สิทธิก็ไม่เท่าเทียมกันนะ ถ้าจบบริหารรัฐกิจ หรือ รัฐประศาสนศาสตร์ จะสมัครได้อีกตำแหน่งนึงคือ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนนโยบาย ( แต่สมัครได้ตำแหน่งเดียวนะ) ส่วนคำถาม ที่ว่าผมเริ่มงานเมื่อไหร่ กองไหน อะไร ยังไง เดี๋ยวผมขอเล่าสิ่งที่ผมอยากเล่าให้หมด ก่อนแล้วจะมาตอบอีกทีนะครับ บ่นมาซะยาวจะขึ้นข้อต่อไปจริง ๆ ซักที แล้วครับ จากคุณ : จขกท (กะลังพิมพ์คำถามข้อต่อไป) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 23:21:03 A:58.8.198.25 X: TicketID:257753

ความคิดเห็นที่ 11   ep 3.2 คำถาม : ถ้าจู่ ๆ มีวัวหลุดเข้ามาในเขตสำนักงานแล้วเจ้านายสั่งให้คุณไปจัดการ คุณมีความคิดอะไรแวบเข้ามาในหัวบ้าง !?! บอกแล้วว่าข้อนี้เปรี้ยว ถึงขั้นว่ากลับจากสัมภาษณ์ ผมต้องมาตั้งกระทู้ถามเพื่อน ๆในห้องนี้ว่าถ้าเป้นคุณจะตอบยังไงกันบ้าง ใครเข้ามาบ่อย ๆ คงจะเห็น แต่มันนานมากแล้วมั้งหาลิงค์เท่าไหร่ก็ไม่เจอ ไม่ได้เซฟไว้ด้วยเพราะตอนนั้น ไม่คิดว่าจะสัมภาษณ์ผ่าน ตอบ ผมเดาทางว่า เค้าจะถามวิธีการในการแก้ปัญหา(ต้องเป็นขั้นตอน และดูทำได้จริง) และทัศนคติเวลาเราเผชิญหน้ากับปัญหา เลยตอบไปเยี่ยงนี้ครับ แวบแรกสุด คงคิดว่าเข้ามาได้ยังไง ตลกดี (เพื่อให้เราดูเป็นคนมองโลกในแง่ดี ) กรรมการคนที่ถามคำถามนี้หัวเราะ และบอกว่าว่าแปลกดีนะ ถามมาหลายคนแล้วไม่มีใครตอบอย่างนี้ แต่เราไม่ได้อะไรมาก เพราะมัวแต่คิดคำตอบอยู่ แต่พยายามมั่นหน้าเข้าไว้ ไม่มีเวลามากังวลหรือตกใจ และที่สำคัญไม่มีอะไรจะเสีย (นอกจากความบริสุทธิ์ อร๊ากกกกกก) แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะบอกเพิ่มว่าคิดด้วยมันจริงหรือเปล่า จะได้ไม่ดูเป็นคน ตื่นตูม เชื่อคนง่ายด้วย ต่อมา ผมคงลงไปดูว่าเข้ามาได้ยังไงแล้วคนที่เค้ารับผิดชอบอยู่ทำไมถึงปล่อยให้เข้ามา จากนั้น คิดต่อไปว่าเราจะแก้ปัญหาได้ยังไง แก้คนเดียวได้หรือไม่ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ต้องขอความร่วมมือจากใคร และจะพูดกับเค้ายังไงถึงจะได้รับความร่วมมือ แต่ก็อาจจะมีบ้างที่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นเรา ( เริ่มรู้สึกว่าตัวเองพลาด ) เลยปิดด้วย คำพูดที่ว่า แต่ในฐานะที่ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง ดังนั้น ความคิดแวบนี้ผมคงไม่เก็บมาเป็นอารมณ์หรอกครับ (เกือบเอาชีวิตไม่รอด) สรุปก็คือ ผมจะพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนครับ( ย้ำให้กรรมาการรู้ไปเลยว่าเราเป็นคนคิดแบบมีระบบนะ ) ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะเปลี่ยนตอนท้ายเป็น เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง หลังจากจัดการกับวัวตัวนันเสร็จเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก (ดูดีกว่ามาก) แต่ตอนนั้นมันคิดได้เท่านั้นจริง ๆ อ่ะ สิ่งที่จะแชร์ คือพยายามตอบแบบคนมองโลกในแง่ดี (แต่ไม่ใช่ตลกเลอะเทอะ) และดูเป็นขั้นเป็นตอน สำคัญตรงนี้ ( ได้ความรู้นี้มาจากการลงวิชา HR บทที่เกี่ยวกับการ recruit คน ) และที่สำคัญต้องดูทำได้จริงไม่ใช่วิชาการจ๋า หรือ เลื่อนลอย จนทำไม่ได้ในทางปฏิบัติ ผมไม่ใช่มาอวดเก่ง แต่มาแชร์ประสบการณ์ เพราะผมเคยพลาดมาก่อนกับคำถามสไตล์นี้ (แต่ไม่เปรี้ยวเท่านี้) ตอนไปสัมภาษณ์ตำแหน่ง HR คุมโรงงานปูนซิเมนต์ที่สวัสดิการดีที่สุดในประเทศ เค้าถามว่า ถ้ามีคนงานเมาหล้าแล้ว อาละวาดในโรงงานจะแก้ปัญหายังไง ตอนนั้นเพิ่งจบใหม่ เลยตอบซะวิชาการจ๋าเลย จำคำตอบไม่ได้เพราะนานมาก แต่ออกแนว เรียกตำรวจหรือ รปภ . มาจัดการสิครับ ประมาณนี้ แหละ ปรากฎว่าตกรอบจ้า แต่รู้จากคนที่เค้าผ่านตอนที่นั่งคุยกันระหว่างรอ พี่ recruit มาชี้แจงรายละอียดเกี่ยวกับ การประกาศผลสัมภาษณ์ คนที่ผ่านเค้าตอบว่า ผมจะเดินยิ้มเข้าไปแล้ว บอกว่าพี่เค้าว่าพี่ เมาแล้วไม่หล่อเลยอ่ะ เดี๋ยวสาวมาเห็นเค้าไม่ชอบนะ ผมว่าพี่กลับบ้านไปอาบน้ำ นอนสักตื่น แต่งตัวหล่อ ๆ แล้วค่อยกลับมาทำงานนะพี่นะ ดูเทพ และเหนือชั้นกว่าของผมมาก แสงสว่างทางปัญญาเลยเกิดขึ้นมาทันที ณ ตอนนั้น ว่าต้องแนวไหน แต่ก็ต้องมาประยุกต์กับโจทย์ที่เราได้ และ แนวคิดส่วนตัวของเราด้วย ขอเสริมอีกนิดเกี่ยวกับบริษัทปูนแห่งนี้ ที่เค้า(คนในห้องนี้แหละ ตัวดี)บอกว่าต้องเป็นสีชมพูเท่านั้น ขอบอกเลยนะครับว่าผมก็สีชมพู แต่ตกรอบ ส่วนคนที่ผ่านเป็นเด็ก ม.เชียงใหม่ (คนที่ตอบคำถามข้างบนอ่ะ) และ อีกคนเป็นเด็กเกษตร ดังนั้นข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริง และอยากให้ทุกคนคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นส่วนใหญ่ อย่างอื่นเช่น สถาบัน เกรด เส้นสาย etc.ต่อให้มีครบหมดแต่ถ้าตัวเราไม่ดีพอ ใครก็ช่วยเราไม่ได้ หากเราเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบข้างไม่ได้ ทำไมไม่เริ่มมาเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อน นี้เป็นเหตุผลที่ผมต้องมาเล่าให้ทุกคนฟังว่า เรื่องเส้นสายในกฟผ . ที่ร่ำลือกันว่ามีนั้น อาจจะมีอยู่ก็จริง แต่การมานั่งตีโพยตีพาย ว่าต้องเส้น ๆๆๆๆๆ เท่านั้นแล้วไม่คิดหาหนทางอื่นบ้าง มันไม่ปิดโอกาสที่มีอยู่น้อยของเราอยู่แล้วให้น้อยลงไปอีกเหรอ ถ้าคนธรรมดา สามัญชนอย่างผมทำได้ คนดี ๆอย่างพวกคุณก็ต้องทำได้เหมือนกัน เชื่อสิ หูยยยยยย ยาวอีกและ แต่ยังไม่จบนะ ตอนหน้าจะจบและ (ถ้าไม่จบจะเปลี่ยนชื่อเป็น มหากาพย์ กฟผ . แทน ห้า ๆๆ) เดี่ยวข้อที่เหลือจะมาต่ออีกที ขอบคุณทุกคนที่ เข้ามาเมนท์ และอ่านครับ(ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มีคุณค่ามากกว่าการแก้บน) ป.ล. ใครมีอะไรจะเสริม หรือ ถามยังยินดีเหมือนเดิมครับผม จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 00:29:19 A:58.8.198.25 X: TicketID:257753

ความคิดเห็นที่ 12 ลงชื่อว่าเข้ามาอ่านทุกวันนะเนี่ย ชอบแนวคิดใน คห 11 มาก จากคุณ : รักถั่ว เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 08:25:45

ความคิดเห็นที่ 13 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 09:36:11

ความคิดเห็นที่ 14   *** ขอบคุณ จขกท มากๆ *** ไม่ใช่ขอบคุณในฐานะคนหางาน แต่ขอบคุณที่มาเปิดเผย ให้ทุกคนทราบว่า พนักงานของรัฐ ไม่จำเป็นต้องมี "เส้นสาย" เสมอไป เป็นการให้คนบางกลุ่มได้รับทราบ คนที่ชอบตีโพยตีพายว่า ตัวเองไม่ผ่านเพราะไม่มีเส้น หรือดูถูกคนที่เข้าไปทำงานตรงนั้นว่าไม่ได้ใช้ความสามารถจริง หรือที่แย่ที่สุด คือ " ดับฝัน " คนที่เค้าอยากจะเข้าองค์กรนั้นว่า เป็นไปไม่ได้หรอก ฯลฯ จขกท เป็นคนมีคุณภาพ ถือว่า ช่วยกู้หน้า เอาไว้ได้เยอะเลยนะนี่ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 10:08:11 A:192.168.2.28 X:115.31.138.44 TicketID:036500

ความคิดเห็นที่ 15   ปล. คำถามเกี่ยวกับ คนบ้าที่อาละวาด เราเพิ่งเจอเหตุการณ์จริงมาเลยค่ะ ฮ่าๆๆ เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เลยต้องใจเย็น ( จริงๆแล้ว ถ้าเป็นคนทั่วไป หรือบริษัทเอกชน ป้าคงแย่ไปแล้ว -*- ) ก็ต้องค่อยๆปลอบ พร้อมกับ ทนฟังคำด่า ฮ่าๆๆ เข้าใจเลยว่า ที่เค้าว่ากันว่า ทำหน้าที่ในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" นี่มันเป็นยังไง ***รู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นข้าของพระราชา และ...ข้าของประชาชน ค่ะ จขกท เข้าไปในองค์กรแล้ว มาช่วยกัน ปรับปรุงภาพลักษณ์นะคะ ^_^ จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 10:13:06 A:192.168.2.28 X:115.31.138.44 TicketID:036500

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องการสอบวิชาเฉพาะทางนั้น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานภายในที่รับครับ สมัยผมสอบหลังจากสอบรวมแล้วยังต้องมาสอบวิชาทางวิศวกรรมอีก เฉพาะคนที่ถูกเรียก ตอนมาสัมภาษณ์ก่อนสัมภาษณ์ ก็มีให้แปลบทความภาษาอังกฤษอีก ผมก็ลังเลอยู่ว่าจะแปลแบบตรงตัวหรือสรุปความดี สุดท้ายตัดสินใจแปลแบบสรุปความ ปรากฎว่าผมผ่านครับ จากคุณ : Autster เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:17:42

ความคิดเห็นที่ 17 เคยไปสัมภาษณ์งานช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวาย สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ คำถามแรกถามว่า ถ้าคุณเป็นนายกจะทำยังไง เหอๆ จากคุณ : Sic6siX เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:30:49

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเห็นเยอะมากๆครับ เยอะมากๆจริงๆ คนที่เข้าทำงานโดยไม่มีครับ มีคนอื่นๆทำได้ พวกคุณก็ทำได้ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 08:56:43 จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:03:43

ความคิดเห็นที่ 19   เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มาก ชอบๆ จากคุณ : 55 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:14:54 A:115.87.178.200 X: TicketID:255756

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าถ้าเก่งจริงๆ ไม่ต้องเส้นก็เข้าได้ครับ แต่เข้าไปแล้วจะอยู่นานขนาดไหนไม่ทราบ (บางคนอยู่สักพักก็ย้ายด้วยเหตุผลหลายๆอย่างครับ) แต่โค้วต้ามันต้องไปแบ่งกับพวกเส้นสายด้วยส่วนหนึ่ง แล้วบางหน่วยงานก็คัดสเป็คแบบที่มีตัวคนรออยู่แล้ว บางที่ก็เรียกคนนอกมาเป็นพิธีแค่นั้น ก็ยินดีกับ จขกท. ด้วยนะครับ ไม่ทราบอยู่ฝ่ายไหนเหรอครับ ปล.  เคยสอบได้ขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี แต่ไม่เคยโดนเรียกตัว จากคุณ : คนอยู่ กฟผ. แต่ไม่ใช่พนักงาน (mIkesHi) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 13:35:44

ความคิดเห็นที่ 21 http://recruit.egat.co.th/recruit53/rasume.asp กำ .... องค์กรใหญ่ขนาดนี้ยังสะกด resume ผิดเลย ........ จากคุณ : nikku เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 13:36:49

ความคิดเห็นที่ 22 โหวต อยากให้กิฟต์ด้วยสิ แต่ให้ไม่ได้โหวตให้ละกัน กระทู้แบบนี้สิที่อยากอ่าน อ่านแล้วมีกำลังใจ ^^ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 19:44:25

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาอ่านด้วยคนค่ะ พอดีเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจอีกที่นึง สอบเข้าทำงานโดยไม่มีเส้นสายเช่นกัน กระทู้นี้ เป็นกระทู้ที่ดีมากๆค่ะ ยินดีกับ จขกท ด้วยนะคะ ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ไปเลยนะคะ สู้ๆ จากคุณ : เจ๊ดาว เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 20:53:48

ความคิดเห็นที่ 24   ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคน ที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นนะครับ และขอโทษสำหรับคนที่เข้ามารออ่านที่ผมมาช้า เพิ่งเห็นว่ากระทู้ตัวเองได้เป็นกระทู้แนะนำด้วย ขอบคุณจริง ๆ ครับที่ช่วยบอกต่อในสิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปัน Ep 3.3 หลังจากผ่านคำถามข้อที่แล้วมา บรรยากาศโดยรวมเริ่มรู้สึกว่าหายใจหายคอได้สะดวกขึ้น กรรมการคนที่ถามคำถามข้อที่แล้วไม่ถามอะไรอีก คนอื่น ๆ จึงเอ่ยปากถามบ้าง ถาม : ทำไมน้องถึงเลือกสมัครงานที่ กฟผ. ? ตอบ: ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสพบเพื่อนเก่าสมัยเรียน ที่ทำงานที่นี้ เค้าบอกผมว่าทำงานที่นี้มีความสุขมาก ผมเชื่อว่าความสุขเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกทำงาน เพราะเราต้องใช้เวลาในที่ทำงาน อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง หรือ 1 ใน 3 ของเวลาในหนึ่งวัน ดังนั้นถ้าเราไม่มีความสุขในการทำงาน ก็ยากที่เราจะทำงานแล้วประสบความสำเร็จ ผมจึงเลือกที่จะลองมาสอบที่นี้ดูครับ ถาม : แล้วได้สมัครที่อื่นไว้บ้างหรือป่าว ? ตอบ : ป่าวครับ (จริง ๆ คิดว่าถ้าไม่ได้ที่นี้ปีหน้าจะไปสอบของประปา แทน ฮิฮิ ) ถาม : แล้วน้องเดินเข้ามาใน กฟผ. น้องคิดว่า ที่นี้ควรจะปรับปรุงอะไรบ้าง ? เป็นอะไรที่งานเข้า มาก ๆ กับคำถามแบบนี้ ! เพราะก่อนหน้านี้ เคยเจอแบบนี้แล้ว ดันทะลึ่งพูดในสิ่งที่เราคิดจริง ๆ ไปปรากฎ ไม่ได้งาน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เล่าเลยล่ะกัน สัมภาษณ์ บริษัท ปูน ที่เอ่ย ถึงในข้อที่แล้ว (ไม่ได้ตั้งใจพาดพิง แต่มันเป็นประสบกาณ์ของเราจริง ๆ ถ้าผิดพลาดประการขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ) เค้า คำถามเดียวกันเลย แต่ผมดันไปทะลึ่งตอบว่า โรงงานปูนซิเมนต์ ที่บ้านผม มีปัญหาเรื่อง สิ่งแวดล้อมครับ เพราะ แถวนั้นมีฝุ่นละอองเยอะมาก (บ้านผมอยู่อำเภอที่มีโรงปูนยี่ห้อนี้พอดี ซวย เลย)ผมคิดว่า บริษัทนี้ น่าจะ ปรับปรุงในเรื่องสิ่งแวดล้อมครับ ตอนนั้นมั่นใจมากว่าเราพูดความจริง ( แถมพอตกรอบ ยังไปหาว่าเค้า ทนฟังความจริงไม่ได้อีก ชิส์ ! ) แต่พอแวลามาผ่านไป นึกขึ้นได้ เห็นโฆษณาของบริษัทนี้จากทุก ๆ สื่อว่า รักษาสิ่งแวดล้อม อย่างดี แถมยังมีรางวัลการันตีมากมาย ถึงมารู้ว่าที่นี้เค้า ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาก การพูดถึงสิ่งที่เค้าควรปรับปรุงในสิ่งที่เค้ากำลังพยายามปรับปรุงอยู่ (สำเร็จ หรือ ไม่สำเร็จ ค่อยว่ากัน) นั้น เป็นภัยกับตัวเราอย่างมาในการสัมภาษณ์งาน ทุกคนควรจะระมัดระวังในจุดนี้ให้ดี(อย่าให้พลาด เหมือนผม) ดังนั้น หากใครที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งาน ก่อนถึงวันสัมภาษณ์ ลองเข้าไปในเวปของบริษัทนั้น ๆ ดูว่าเค้ามีโครงการเพื่อสังคม หรือได้รางวัลอะไรบ้าง หรือข้อมูลทุกอย่างที่เราพอจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง เวลาสัมภาษณ์งาน รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะ สิบครั้งก็ปลื้มแล้ว จริงมั้ย !?! และในเมื่อเราเปิด net อยู่แล้วทั้งที ลองพิมพ์ชื่อบริษัทลงในกูเกิ้ล เพิ่มสักหน่อยจะเป็นไรไป นอกจากจะได้ข้อมูลในเชิงบวก ที่องค์กรของเค้า เผยแพร่เองแล้ว เรายังได้ข้อมูลที่ออกมาจาก แหล่งข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ และมีทั้งด้านบวก และด้านลบขององค์กรนั้น เวลาเจอคำถามนี้เค้าไปเรา อาจตอบว่า ก่อนหน้านี้ ผม/ดิฉัน เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับที่นี้ว่า บอกแหล่งข้อมูลได้ยิ่งดี แต่ผม/ดิฉัน คิดว่าที่นี้คงกำลังพยายามแก้ไขอยู่ และ อยากมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยองค์กรนี้ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ( ดูสวยหรู ดูดีมั้ย ) เคล็ดลับอันนี้ได้มาจากหนังสือ how to หางานอะไรประมาณนี้ ลองดูก็ไม่เสียหายนะครับ แต่ .อนิจจา ผมไม่ได้ตอบอย่างนั้นเลย ที่กฟผ . (เจ็บใจตัวเองนัก) ผมตอบว่า จากประสบการณ์ ฝึกงานกับหน่วยงานราชการผมคิดว่าที้นี้ มีระบบในการบริหารจัดการ ได้ดีมากครับเมื่อเทียบกันไม่แพ้บริษัทเอกชนที่ผมทำอยู่เลย ครับ อาจมีบ้าง ที่ผมมองว่าเป็นอุปสรรค บ้าง เช่น สถานที่ตั้ง นั้นมีปัญหาเรื่องรถติด แต่นั้น ไม่ใช่ปัญหาที่กฟผ . แต่เป็นเรื่องของส่วนรวมมากกว่า รู้สึกงง ในความกะโหลก กะลา ของตัวเอง ว่าทำไมถึงตอบไปอย่างนั้น แล้วทำไมถึงผ่าน เพราะ ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ เค้ายังพูดเองเลยว่า เราอยากได้คนที่รุ่นใหม่ที่มี Vision ในการทำงานเพื่อมาเป็นสายเลือดใหม่ให้กับองค์กร (เพราะตอนนี้ ในองค์กรมีแต่คนที่ทำงานมานาน ความกระฉับกระเฉง หรือ ความสดใสในเรื่องความคิดอาจน้อยลงไป ) และคำถามข้อนี้กำลังวัดว่าเรามี Vision หรือป่าว แต่คำตอบของเราไม่เห็นจะมี Vision อะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย สักกะติ๊ด ! ผมจึงเดาว่า การสัมภาษณ์งานนั้น กรรมการที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เค้าคงผ่านการสัมภาษณ์คนมาเยอะ เค้าคงรู้ว่าไม่มีใครตอบได้ดี หรือเก่งไปหมด หรอก แต่คงดูหลายๆ อย่างประกอบกัน หรือ ดูจากที่เราตอบหลายๆ ข้อมาประเมินเรามากว่า แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่ควรประมาท พยายามมีสติ และทำให้ดีที่สุดเท่าที่สติปัญญาของเราจะมีได้ในช่วงเวลานั้น (ถ้าตอบพลาดไปหลายข้อ หรือทุกข้อ ก็ไม่ไหวจะเคลี่ยร์เหมือนกัน) ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดด เขียนเพลิน รู้สึกตัวอีกที ก็ยาวเสียแล้ว 2 หน้าA4 จริง ๆ อยากยัดให้จบตอนนี้ แต่ มันจะยาวไป ไมน่าอ่าน อีก จึงขออนุญาตยกยอดไปตอนหน้าครับ ป.ล. สรุปว่าเป็นมหากาพย์จริง ๆ มาไกลกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้าอ่าน ชื่นชม ทำให้ผมอยากทำมันให้เต็มที่ สมกับคำชื่นชมของพวกคุณครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 12:09:34 A:58.8.199.190 X: TicketID:257753

ความคิดเห็นที่ 25 เล่าไว้ในนี้แหละค่ะ ไว้จะโหวตให้เรื่อยๆ:D จากคุณ : รักถั่ว เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 12:59:05

ความคิดเห็นที่ 26 มาลงชื่อว่าเข้ามาอ่านตลอดเลยครับ ............................................... จากคุณ : จอบบ้อน เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 13:48:45

ความคิดเห็นที่ 27   สวัสดีครับ ผมมาเสริมเรื่องการสอบสัมภาษณ์ของตำแหน่งวิศวกรครับ ในส่วนของการสัมภาษณ์ของผม ไม่รู้ว่าคนอื่นเจออย่างผมหรือเปล่าส่วนใหญ่ผมโดนแต่คำถามเรื่องวิชาการเป็นส่วนมากครับ ไม่ค่อยเจอถามเรื่องทั่วไป คำถามอย่างเช่น Thyristor ทำงานยังไงเอาไปใช้อะไรได้บ้าง ,เราจะ Check characteristic ของ Switch gear ยังไงขณะ on เป็น off, การ crossing สายไฟใน line 3 phase จะช่วยลดค่าอะไร เรื่องพวกนี้ถ้าไม่เคยทำหรือไม่ได้เตรียมตัวไปก็หงายเหมือนกันครับ เลยอยากให้เตรียมตัวความรู้ด้านวิชาการให้แม่นก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์ด้วยครับ อีกเรื่องครับ อยากให้อ่าน วารสารภายในขององค์กรที่เราไปสอบสัมภาษณ์ก่อนเราเข้าห้องสอบด้วยนะครับเพื่อจะได้รู้ข่าวคราว ว่าตอนนี้มีกิจกรรมอะไรหรือเรื่องไหนที่เขาสนใจอยู่เวลาซักถามจะได้ตอบสิ่งที่เขาต้องการได้ครับ จากคุณ : ว่าที่พนักงานกฟผ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 01:25:44 A:125.25.209.97 X: TicketID:288708

ความคิดเห็นที่ 28 ก่อนอื่นก็ แสดงความยินดีด้วยนะครับ ขอให้ความเห็นเรื่องนึง เรื่องวุฒิไม่ตรงตามที่เค้าเขียนในประกาศเป๊ะ ๆ แรกๆ ผมงี้ก็หงุดหงิดเลยแหละ จบ โท แต่ต้องใช้วุฒิตรีเข้า กฟผ. หลังๆต้องเริ่มพยายามทำไจ และ เข้าใจมัน คือ ถ้าจะแก้เรื่องพวกนี้ ต้องแก้เรื่องระเบียบก่อนเลย ราชการพวกนี้ ถ้าไม่ตรงตามอักษร เด่วจะมีการร้องเรียน ผิดกฏ นู่นนี่ มั่วไปหมด คนทำเรื่องพวกนี้ เค้าก็ต้อง self ตัวเค้าเอง แต่หารู้ไม่ องค์การ (ไม่ใช่องค์กรนะ อิอิ พอดีเจ้านายเคร่งเรื่องการใช้คำ เวลาทำรายงาน โดนประจำ) เสียผลประโยชน์เพราะ กฎ ระเบียบ พวกนี้ไปไม่รู้เท่าไหร่ ยังไงเข้ามาแล้วก็มาช่วยกันพัฒนา กฟผ. นะครับ ถึงจะยังมีอะไรที่ต้องอดทนฟันฝ่าอีกมากก็เถอะ (อยู่ๆไปเด่วก็รู้) มีไรปรึกษากันได้ ปล. 1. แค่ขำๆนะ รู้ป่ะ วุฒิไม่ตรง ก็มีคน เข้าไปเป็นพนักงานได้เหมือนกัน  แต่ทำไมนั้น ..... เอิ๊กๆๆๆๆ 2. เรื่องข้อสอบ จิตวิทยาเนี่ย ไม่รู้เหมือนสมัยผมอะเปล่า มี choice 5 choiceต้องระบายทั้ง 5 choice  เลย เลือกจาก ใกล้เคยงตัวเรามาก ไปหาน้อย ตอนนั้นมี 60 ข้อมั๊ง  ข้อละ 5 choice สรุป มีเวลาทำ part นี้ 30 นาที แล้วต้องระบายคำตอบ 300 ช่อง  มือหงิกเลย หุๆๆๆ ตรงนี้ต้องระวังกันให้มาก จะพลาดกันก็ตรงนี้แหละ ถ้าสอบวัด EQ ตรงนี้ไม่ผ่านละก็ ที่สอบๆกันตั้งแต่เช้าละจบเห่เลย 3. เรื่องเส้นนี่ นา นา จิต ตัง แต่อย่างน้อยก็ กรองกันที่ applitute test กันแล้ว รอบนึงละนะ 4. เรื่องข้อสอบความถนัดของ วิศวกรเนี่ย (เรื่องเมื่อ 6 ปีก่อนนะ )พอดีผม ใช้เวลาสอบเข้า กฟผ. มา 3 ครั้ง (สอบทุกปี 3 ปีติดกัน) ขอสอบมันเหมือนกันทุกปีเลยละ อาจจะมีบางข้อจำไม่ได้ บางข้อ คุ้นๆ อ่ะนะ ไม่รู้ว่าสมัยนี้ ยังจะซ้ำกันอยู่อะเปล่า หุๆๆ หวังว่าเรื่องของผมคงเป็นประโยชน์ บ้างนะครับ :) จากคุณ : Mac007 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 02:56:58

ความคิดเห็นที่ 29 เท่าที่อ่านจากกระทู้นี้ ถ้าเราเป็นคนคัดเลือก เราก็เลือกจขกท.ค่ะ ดูเป็นคนมีทั้งIQและEQดีจัง จากคุณ : ทาสผู้ซื่อสัตย์ของท่านซิเรียส เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 21:17:39

ความคิดเห็นที่ 30 ถามนิดนะคะ ตำแหน่งวิทยากรก็คือต้องประจำอยู่ในออฟฟิศที่บางกรวยใช่มั้ยคะ จากคุณ : ทาสผู้ซื่อสัตย์ของท่านซิเรียส เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 21:37:00

ความคิดเห็นที่ 31 ^ | ไม่ใช่ครับ มีตำแหน่งวิทยากร รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ได้ในทุกหน่วยงาน ทั่วประเทศตามความเหมาะสม ประสบการณ์ทำงาน และอื่นๆ ครับ จากคุณ : Mac007 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 12:21:51

ความคิดเห็นที่ 32   ก่อนอื่นขอขอบพระคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้นะครับ โดย เฉพาะ คุณMac007 , คุณ Autster และคุณ ว่าที่พนักงานกฟผ ที่ช่วยแบ่งปันความรู้เพิ่มเติม เพราะบางอย่างผมก็ไม่รู้นะเนี่ย ส่วนคุณ ว่าที่พนักงานกฟผ เริ่มงานเมื่อไหร่ครับ ของผม 1 พย . นี้ เพิ่งกลับไปพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจประวัติอาชญากรที่โรงพักที่บ้านเกิดเพื่อส่งให้ฝ่ายบุคคลอีก (ตอนสัมภาษณ์ว่ายากแล้ว ขั้นตอนหลังสัมภาษณ์ กว่าจะได้เป็นพนักงานนั้น ยุ่งยาก ซับซ้อนยิ่งกว่า แต่ก็สู้นะ ห้า ๆ ) เหนื่อยมาก ถ้ายังไง พักผ่อนจนใจร่ม ๆ แล้ว จะมาเขียนต่อให้เสร็จนะครับ ขอโทษที่ปล่อยให้รอ จากคุณ : จขกท . เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:37:13 A:58.8.182.114 X: TicketID:257753

ความคิดเห็นที่ 33   ทุกคน เคยรู้สึกมวนท้อง หรือใจหวิว ๆ สั่น ๆ ก่อนเข้าสัมภาษณ์ หรือ พูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ มั้ยครับ ก่อนที่ผม จะต่อคำถามต่อไป ผมคนหนึ่งแหละที่เป็นยังงั้น ก่อนเข้าสัมภาษณ์งานทุกครั้ง ครั้งที่เข้าสัมภาษณ์ ที่กฟผ. ครั้งนี้ ก็เหมือนกันครับ มันตื่นเต้นไปหมด ยิ่งภาพหลอนเวลา ที่ไปสัมภาษณ์งานที่ผ่านมา แล้วตกรอบ มันเกิด ขึ้นแล้วยิ่งกดดันตัวเอง ไปกันใหญ่ ดังนั้นก่อนขึ้นคำถามข้อสุดท้าย ผมขออนุญาตแทรก ประสบการณ์การรับมือกับความตื่นเต้นก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ ที่ผมเพิ่งมาเจอ ตอนสัมภาษณ์ครั้งนี้ เหมือนกัน เพื่อให้การแบ่งปันของผมครั้งนี้สมบูรณ์แบบที่สุด นะครับ จริงๆ เคล็ดลับมันง่ายมากกกกกกกก และทุกคนก็รู้กันมาก่อนแอย่างแน่นอน นั้นก็คือ หายใจให้ลึก ๆ ครับ แต่ ที่ผมอยากเพิ่มเติมคือ หายใจให้ช้าที่สุด ยาวที่สุด และ ลึกที่สุด โดยให้รู้สึกถึงลมผ่านตลอดตั้งแต่จมูก คอ อก ท้องไปเรื่อย ๆ ผมทำอย่งนี้แบบเงียบ ๆ ตอนที่รู้สึกมวนท้อง ระหว่างรอสัมภาษณ์ แต่โชคดีที่วันที่ผมไปสัมภาษณ์มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นคนอัธยาศัยดีมาก เค้าเป็นเด็กจบใหม่แท้ ๆ แต่กล้าชวนคนแปลกหน้าอย่างเพื่อนผู้สมัครคนอื่น ๆ ( และคนหน้าแปลกอย่างผมคุยก่อน ) ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายไปบ้าง คุยไปคุยมา หายตื่นเต้นไปได้ประมาณนึง พอคุยไปได้สักพัก เกิด dead air เพราะไม่รู้จะคุยไรกันอีก อาการมวนท้องก็จู่โจม ผมอีกครั้ง ผมก็นั่งสูดหายใจเข้าออกเหมือนคนฝึกโยคะ ของผม ไปเรื่อย ๆ อาการมวนท้อง ก็ลดลงไปได้บ้าง แต่ไม่มาก จากนั้นเพื่อไม่ให้ความตึงเครียดเกิดขึ้น ผมเลยหาเรื่องคุยกับทุกคนขึ้นมาอีกรอบ บรยยากาศจะได้ไม่อึมครึมเกินไป เพราะมันทำให้ตื่นเต้นมาก คุยกันไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าสนุกมาก ทุกคนเริ่มเปิดเผยตัวตนกันมากขึ้น ผมถึงได้รู้ว่าบางคนก่อนหน้านี้เคยมาสัมภาษณ์ กอง อื่นมาก่อนบ้างแล้ว บางคน ก็สองรอบ บางคนก็สามรอบ ทำให้รู้ว่าทีนี้ ถ้าสัมภาษณ์กองนี้ไม่ผ่านเค้าจะเรียกไปสัมภาษณ์ที่อื่น ดังที่ได้ให้ข้อมูลไว้ใน กระทู้แรก คุยไปบ้าง พักหายใจลึก ๆ บ้าง ไปเรื่อยๆ สักพัก ก็ถึงคิวสัมภาษณ์ (แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปช้ามาก ทรมานที่สุด !_! ) จากการคุยที่ผ่อนคลายบวกกับการอยู่กับตัวเอง ผ่านลมหายใจ ทำให้ผมรู้สึกโอเค มากตอนเข้าห้องสัมภาษณ์ รู้สึกดีกับตัวเองมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมาในการสัมภาษณ์งาน รู้สึกว่าตนเองควบคุมความรู้สึกตื่นเต้น วิตก ได้ดีกว่าเดิมมาก จึงอยากแบ่งปันให้ทุกคนลองดู ผมขอแชร์นิดนึงครับ ระหว่างรอการสัมภาษณ์งาน บางประเภท เช่น สายการบิน (ข้อมูลจาก thaicabincrew.com ) ว่าบางสายการบิน จะมีเจ้าหน้าที่ คอยสังเกตุผู้สมัครระหว่างรอเข้าสัมภาษณ์ ว่าใครมีพฤติกรรมยังไงบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าผู้เข้าสัมภาษณ์เป็นคนอัธยาศัยดีแค่ไหน ใครที่ นิ่ง ๆ ไม่คุยกับใครมีโอกาสตกรอบสูง (อาจเป็นเพราะงานเค้าต้องการคนมีอัธยาศัยดีด้วยมั้ง ) แต่งานที่นี้ไม่ถึงขั้นนั้น และบริษัทหรือ องค์กรโดยทั่วไปที่ผ่านมาก็ไม่ขนาดนี้ แต่ถึงยังไง ก็น่าจะเอาไปประยุกต์ใช้กับตัวเราเองไม่ว่าจะไปสัมภาษณ์งานที่ไหนก็ตามนะ เพราะมันช่วยผ่อนคลายและลดความตื่นเต้นจริง ๆ ไม่เชื่อลอง พูดคุยกับเพื่อนผู้สมัครท่านอื่นโดยท่าทีผ่อนคลาย อย่าไปมองว่าเค้าเป็นคู่แข่ง แต่มองว่าเค้าเป็นเพื่อน( ร่วมทุกข์)กัน สบายใจกว่ามากเลย (ดีกว่าตั้งคอแข็ง ทำหน้าหยิ่งใส่กันเยอะเลยครับ เคยเจอกับตัวมาแล้ว ก่อนหน้า ) สรุปที่เขียนมายืดยาว เพื่อจะบอกว่า ถ้ารู้สึกตื่นเต้นให้ลองคุยกับเพื่อนๆ แบบสบาย ๆ ดู สลับกับหายใจลึกกกกกก ๆ ดู จะช่วยได้ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเรื่อง บุคลิกภาพและความมั่นใจ ตอนเข้าห้องสัมภาษณ์จริง ช่วยยังไง ? ลองกลับไปอ่านเมนท์ของ คห . 1 ( คุณ Farmai ) ครับ ผมเห็นด้วยที่สุด หากวันสัมภาษณ์ไม่ได้น้องผู้หญิงคนนั้นช่วยทะลายกำแพงน้ำแข็งไว้ อาจจะไม่ได้มาแชร์ประสบการณ์ยังนี้ เพราะ บรรยากาศก่อนการสัมภาษณ์ ในวันนั้น ดูเหมือนอยู่ในแดนสนธยามาก บ้างคนนั่งกด บีบี ไม่แคร์สื่อ บางคนนั่งหลับตาปี๋ ไม่แคร์โลก ที่เหลือมองหน้ากันไปมา แบบอึดอัดที่สุด (ไม่ได้ว่าใครจริง ๆครับ แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ ว่าผมอึดอัด ) ดังนั้นจึงถือโอกาส ขอบคุณน้องคนนั้นไว้ ณ จุดนี้ ( หลังสัมภาษณ์ไม่เจอน้องอีกเลย หวังว่าคนน่ารักแบบน้องน่าจะได้รับโอกาสดี ๆ จากที่ กฟผ . แห่งนี้ นะครับ ไม่แน่เราอาจะได้เจอกันอีก) จำเป็นต้องเอาประเด็นนี้มาแทรก เพราะ ผมกลัวลืม แล้วจะมาเสียใจที่หลังว่า มีโอกาสแล้วไม่ยอมแบ่งปันครับ แล้วเจอกับมหากพย์ กฟผ .ได้ใหม่ ในเร็วๆ นี้ ป.ล. ถ้ารู้แต่แรกว่าจะยาวขนาดนี้ น่าจะส่งโรงพิมพ์ แล้ว เย็บเล่มขายไปเลยดีกว่า (ล้อเล่น นะ ห้าห้า) จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 15:41:37 A:203.155.181.188 X: TicketID:257753

ความคิดเห็นที่ 34   เลือกเริ่มงานพร้อมกันเลยครับ 1 พย. เอกสารทำสัญญามันเยอะจริงๆ ต้องไปพิมพ์ลายนิ้วมืออีก เห็นด้วยกับบรรยากาศการสัมภาษณ์ของเจ้าของกระทู้อย่างมาก ผมก็เม้าส์กับเพื่อนที่รอสัมภาษณ์เหมือนกัน มันช่วยให้หายตื่นเต้นได้ แต่คนที่สอบสัมภาษณ์คนสุดท้าย กดดันสุดๆ ดีที่ได้คิวกลางๆเลยไม่ต้องลุ้นมาก ยินดีด้วยกับ จขกท นะครับ........ของผมช่างนะ อาจจะไม่เจอคำถามที่ไม่กดดันมาก.... จากคุณ : Farmai เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 11:47:08 A:192.168.182.244 X:124.121.238.143 TicketID:287101

ความคิดเห็นที่ 35   แก้ไข อาจจะเจอคำถามที่ไม่กดดันมาก.... จากคุณ : Farmai เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 11:49:03 A:192.168.182.244 X:124.121.238.143 TicketID:287101

ความคิดเห็นที่ 36   มาเพิ่มข้อมูลให้ครับ ตอนนี้สวัสดิการรักษาพยาบาลพ่อ-แม่กำลังจะกลับมาแล้วนะครับ ผ่านบอร์ดกฟผ.เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอ ครส. กับ ครม. อนุมัติครับ จากคุณ : นายเพียงเดียว เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 13:15:11 A:10.30.88.15 X:202.44.210.44 TicketID:167461

ความคิดเห็นที่ 37 ผมเป็นวิศวกรมือใหม่ครับ เพิ่งจบปีนี้  เริ่มงานมาได้ครึ่งเดือนแล้วครับ ^^ บอกตามตรงว่าตอนสมัครก็สมัครไปเรื่อยเปื่อยอะครับ เห็นว่าเปิดเลยมาสอบ ๆ ดูไม่ได้หวังอะไร เพราะมีความคิดว่าจะเข้าได้เรอะ เส้นอะไรกับเขาก็ไม่มี แต่พอผ่านข้อเขียน แล้วได้เรียกไปสัมภาษณ์ก็ตื่นเต้นดี ว่าเอ้อ บางทีอาจจะมีโอกาสก็ได้ การสัมภาษณ์ของผมก็ไม่เชิงวิชาการเท่าไหร่หรอกครับ เน้นการพูดคุยกันมากกว่า คาดว่าคงจะดูจากการสนทนาว่าคุยกันรู้เรื่อง สามารถทำงานร่วมกันได้มากกว่าที่จะต้องเก่งอย่างเดียวเสมอไป เช่น ทำอะไรมาบ้าง เวลาว่างทำอะไร ที่บ้านทำอะไร ฯลฯ เท่าที่ดูแล้วผมยังคิดว่าจะรับผมจริง ๆ หรอ (ฮา) ปล. เกรดผมก็ไม่เยอะอะครับ 2.8 เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะครับ ถ้าใครจะบอกว่าดูแต่เกรดสูง ๆ มั่นใจเข้าไว้ จากคุณ : mumuu12 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 18:30:20

ความคิดเห็นที่ 38   มาเสริมครับ ผมเริ่มงานวันที่ 1 ต.ค. ครับ มาเสริมเรื่องเอกสารครับผมอยู่ต่างจังหวัดเรื่องการพิมพ์ลายนิ้วมือ ต้องวิ่งเอกสารเองครับสองสามวันก็ได้แล้ว จากคุณ : ว่าที่พนักงานการไฟฟ้า เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 19:42:32 A:58.8.226.60 X: TicketID:288708

ความคิดเห็นที่ 39 ลงชื่อติดตามอ่านค่า จากคุณ : นู๋หมูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 15:39:41

ความคิดเห็นที่ 40 ลงชื่อติดตามอ่านค่า จากคุณ : นู๋หมูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 15:49:25

ความคิดเห็นที่ 41 ลงชื่อติดตามอ่านค่า จากคุณ : นู๋หมูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 15:57:26

ความคิดเห็นที่ 42 ลงชื่อติดตามอ่านค่า จากคุณ : นู๋หมูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 15:57:44

ความคิดเห็นที่ 43 ลงชื่อติดตามอ่านค่า จากคุณ : นู๋หมูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 17:37:56

ความคิดเห็นที่ 44   ก่อนอื่นต้องขอโทษ ทุกท่านที่มาตอบช้านะครับ เนื่องจากช่วงนี้ยุ่งมาก ๆๆ ถึงมากที่สุด สำหรับคำถามข้อต่อไปนะครับ ถาม : ทำไมจบเรียนจบสาขานี้ แล้วไปมายังไงถึงได้งาน ทำงานอย่างนี้ ดูไม่ค่อยเกี่ยวกันเลย (งานที่ผมทำอยู่ปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องกับ สาขาที่ผมเรียนมาใด ๆ ทั้งสิ้น งงตัวเองเหมือนกัน เอาล่ะสิ จะตอบยังไงล่ะที่นี้ ) ตอบ : งานที่ทำอยู่ปัจุบันต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารค่อนข้างมาก บังเอิญว่าระดับภาษาอังกฤษของผมอยู่ในระดับที่ใช้สื่อสารได้ เลยได้มีโอกาสทำงานอันนี้ครับ ( ทำหน้าทำตา ถ่อมตัวด้วย ตอนนั้น เพราะ โดยส่วนตัวคิดว่าคำตอบมันค่อนข้างอวดตัวเล็กน้อย ดังนั้น ถ้ายิ่งทำตัวโอ้อวด ทะนงตัว จะยิ่งดูไม่น่ารักเข้าไปอีก : จำเป็นต้องยอมรับว่า สังคมไทยเป็นอย่างนี้จริง ๆ ชอบไม่ชอบ ก็ต้องเนียน ๆไป ) ถาม : แต่ถ้ามาทำงานนที่นี้จะไม่ได้ใช้ภาษอังกฤษมากนะ ไม่เสียดายเหรอ ตอบ : ไม่หรอกครับ โลกสมัยนี้การสื่อสารมันค่อนข้างสะดวก และหลากหลาย ทั้ง face book , msn หรือดูหนังฟังเพลง ก็มีโอกาสให้เราได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเราอยู่เสมอ ถ้าใจเรารักยังไงก็มีหนทางอยู่ดีครับ กรรมการคนที่ถามคำถามเรื่อง “ วัว “ แทรกขึ้นมา พร้อมทำหน้าตาแปลก ๆ ใส่ (บอกไม่ถูก แต่รู้สึกไม่ค่อยดีเลย ) “ งั้นต่อไปคงก็คงต้องไปหัดใช้ภาษาอังกฤษกับฝรั่งสะพายเป้ที่ข้าวสาร ซินะ “ โอ้โห ดราม่า สุด ๆ ถ้าไม่ใช้การสัมภาษณ์งานอาจมีการจาบจ้วงล่วงเกินทางวาจากลับไปแล้ว แต่นี้คือการสัมภาษณ์งาน ดังนั้น จึงไม่มีสิทธ์ที่เราจะไปล่วงเกินอะไรท่านคณะกรรมาการได้ (มาของานเค้าทำนิ) ก็เลยยิ้มหวาน พร้อมหัวเราะแบบแกน ๆ (นึกหน้าก้อย รัชวิน ตอนหัวเราะต่อหน้าสื่อไว้) แล้วเอ่ยว่า คงยังงั้นมั้งครับ เชิญคำถามข้อต่อไปครับ !?! สังเกตว่ากรรมการที่กล่าวถึงนี้จะเป็นคนเดียวที่ถามคำถามยาก ๆ จี้ ๆ ส่วนคนอื่น ก็สบาย ๆ ดังนั้น ขอเดาว่า ท่านอาจจะสวมบทโหด เพื่อทดสอบเราก็ได้นะ เพราะ คำถามแรกสุด เค้าก็ยังคุยกับเราดี ๆ อยู่ ( ไม่รู้ว่าตอนเค้าทำงานจะเจอเค้ามั้ย ถ้าเจอ ขอให้เค้าเมตตาเอ็นดูข้าน้อย ด้วยเถิด สาธุ ) ถาม : แล้วถ้าได้งานที่ กฟผ . น้องคาดหวัง หรือ วางแผน เกี่ยวกับ ชีวิตการทำงานที่นี้ไว้อย่างไรบ้าง ? **** อย่างที่ได้กล่าวไว้ ตั้งแต่ตอนแรกว่า คำถามข้อนี้ คือ เรียงความ ข้อที่สองอย่างที่บอกไว้นั้นเอง (กลับไปย้อนอ่านได้ ในตอนบนสุด ของกระทู้ ) ตอบ : (ขี้เกียจ พิมพ์ เลยเอาของจริงมาโชว์ เลยดีกว่า ) “ เป้าหมายในชีวิตการทำงานหากข้าพเจ้าได้รับโอกาสทำงานที่กฟผ. ข้าพเจ้าจะทุ่มเทความสามารถในการทำงานให้กับองค์กรแห่งนี้ให้นานที่สุด ตราบเท่าที่องค์กรยังต้องการข้าพเจ้า ( เกษียณอายุ ) และข้าพเจ้ายังหวังว่าทักษะในการทำงานเป็นทีมและมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่นจะเป็นประโยชน์ในการติดต่อประสานงานในองค์กรได้อย่างดี นอกจากนั้นข้าพเจ้ายังมีมุ่งมั้นที่จะก้าวหน้าในหน้าที่การงานและเติบโตไปกับองค์กรแห่งนี้หากข้าพเจ้าทำงานที่นี้ไปสักระยะหนึ่งแล้วได้รับมอบหมายให้ทำงานที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ข้าพเจ้าก็ยินดี ที่จะได้รับการมอบหมายดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของการพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรสูงสุดต่อองค์กรอยู่เสมอ หากข้าพเจ้าต้องเข้ารับการอบรมหรือศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานข้าพเจ้าก็จะเข้าร่วมอย่างไม่ลังเล โดยจะพยายามระมัดระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่องานประจำที่ข้าพเจ้าต้องรับผิดชอบอยู่ ข้าพเจ้ายังเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ที่ข้าพเจ้ามีอยู่จะสามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของกฟผ.อีกด้วย “ ************อันนี้เป็นรายละเอียดที่เขียนไว้ ในเรียงความ เวลาตอบจริง ๆ สั้นกว่านี้ และ ก็ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่าหลุด อย่าเฟค และ ที่สำคัญ อย่าลอกเลียนแบบของใคร เพราะ เป้าหมายในชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน คนที่จะสามารถเล่าเป้าหมาย ความฝัน และรายละเอียดของตัวเราได้ดี ที่สุด ก็คือตัวเราเอง การไปเอาคำพูดที่สวยหรูของใครมาใช้ เพราะยังไงใครๆ ก็ดูออก สู้เราใช้คำพูดง่าย ๆ ทำตัวตามสบาย แต่บ่งบอกความเป็นตัวเรา ได้มากที่สุด ( เวลาเล่า แล้วเรารู้สึกสบายใจ สายตาเปล่งประกาย วิ้ง ๆ ออกมาเอง โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่กรรมการเค้ารู้ เค้าดูออก ) ดังนั้นทางที่ดีอย่าเฟค และ ถ่อมตัวเข้าไว้ (สังคมไทย หรือ สังคมไหน ๆ ไม่ชอบคน กร่าง ) เดี๋ยวมาต่อจ้า จากคุณ : จขกท จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:20:25 A:203.155.181.188 X: TicketID:257753

ความคิดเห็นที่ 45   http://www.recruitment.egat.co.th/ กฟผ กำลังเปิดรับสมัครงาน จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 21:48:32 A:61.90.21.47 X: TicketID:257753