เล่าสู่กันฟังนะคะ เราเป็นแม่ค้าขายของเปิดท้ายไปซะแล้วจ้า
|
|
ก่อนหน้านี้เมื่อซัก 1-2 ปี เราก้อเป็นพนักงานเงินเดือนนี่แหละค่ะ
อยู่บริษัท ทั้งดี และไม่ดี มาแล้ว มีประสบการณ์การทำงานมานาน
ตั้งแต่เรียนจบ จนมีครอบครัว มีลูก ความเต็มที่กับการทำงานก้อเลย
น้อยลง เป็นเพราะเราแบ่งเวลาไม่ค่อยถูกด้วยมั้งคะ เลยไม่มีความสุข
กับการทำงาน คิดถึงลูก อยากรีบกลับบ้าน ฯลฯ
พอรู้สึกว่า ทำงานไม่ค่อยมีความสุข ก้อตัดสินใจออกค่ะ แบบไม่ได้
วาดแผนอะไรมากนัก พอรู้สึกว่ามันอิ่มตัวสุด ๆ ก้อออกเลย อย่าทำ
ตามนะคะ (มันมีรายละเอียดเยอะมาก ๆ ค่ะ แต่ผ่าน ๆ ไปแล้วกันเนอะ)
มาถึงชีวิตการค้าขายดีกว่าค่ะ เราเริ่มขายของเมื่อกลางปี 52
เราตัดสินใจขายของค่ะ ไม่มีประสบการณ์ ไม่ชอบ(มั้ง) ไม่รู้แหล่งใด ๆ
แต่เนื่องด้วยไม่อยากทำงานบริษัทแล้ว ก้อเลยคิดว่า คงต้องค้าขาย
นี่แหละ ก้อเลยเริ่มขายตามตลาดนัดก่อนค่ะ
ขายเสื้อผ้ามือสองบ้าง โน่นนี่บ้าง เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อาศัยหาความรู้
ทางเน็ต ก้อเลยมาเริ่มขายเทสเตอร์เครื่องสำอาง เพราะราคามันไม่
สูงมาก น่าจะพอขายง่ายหน่อย
บอกก่อนเลยว่า เราเป็นคนไม่เหมาะอย่างยิ่ง กับเครื่องสำอาง หรือ
เรื่องความสวยความงาม เพราะเราขี้เหร่ อ้วน-ดำ 555
อาศัยว่า เครื่องสำอางกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน 50% ลูกค้าคงพร้อมจะ
เข้ามาดู อีก 50% เราอาศัยศึกษาข้อมูลเยอะ ๆ เพื่อลบจุดด้อยในตัวเรา
เราพยายามหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวสินค้าเพื่ออธิบายลูกค้าให้มากที่สุด
เชื่อมั้ยคะ ว่าเราพูดตั้งแต่ 6โมงเย็น จนถึงปิดร้านประมาณ 4 ทุ่ม
สินค้าซองละ 15-20 บาท เราให้ข้อมูลแบบไม่สนใจยอดขายค่ะ คือจะ
ซื้อ ไม่ซื้อ สอบถาม เดินผ่าน เราอธิบาย แนะนำหมด จนลูกค้าลืมไปเลยมั้ง
ว่าเราขี้เหร่ 555 แบบเพื่อน ๆ เคยไปยืนดู แล้วถ่ายคลิปเราอ่ะค่ะ
มาขำกันใหญ่ ว่าเราเอาพลังจากไหนมา คือลูกค้ายืนงงเลยค่ะ หรือจะซื้อ
ไปแบบงง ๆ ก้อไม่ทราบ ไม่งั้นก้ออาจเกรงใจเรา เห็นอธิบายนาน ก้อ
เลยช่วยซื้อก้อเป็นได้ค่ะ
ยอดขายเราดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่า คนอย่างเราจะขายสินค้า
ประเภทนี้ได้ เราไม่เคยขายของได้ดีขนาดนั้นมาก่อน เราเคยขายได้
วันละเป็นหมื่นเลยค่ะ แต่เราบริหาร จัดการเงินไม่เป็นเลย เราได้เงินมา
ก้อใช้จ่ายในครอบครัว แล้วก้อสั่งของ ไม่มีเงินเหลือเก็บนะคะ แต่ชีวิต
ความเป็นอยู่ก้อดีขึ้น
จนช่วงกลางปีนี้ ยอดขายเริ่มลดลง เนื่องด้วยหลายปัจจัย มีคู่แข่งขาย
ตัดราคา มีแม่ค้าหน้าใหม่ขายเหมือนเรามากขึ้น ลูกค้าหาซื้อง่ายขึ้น
แต่เรายังพออยู่ได้ ด้วยยอดซื้อจากลูกค้าประจำค่ะ เราอาศัยว่า ให้
คำแนะนำ ให้ข้อมูล ไม่ยัดเยียด เราจะไม่เน้นให้ลูกค้ารีบซื้อ หรือซื้อ
เยอะ ๆ แต่เราจะเน้นให้ความจริงใจเป็นหลักค่ะ จนลูกค้าเค้าไว้ใจ รู้ว่า
เราไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจะขายเยอะ ๆ เพียงอย่างเดียว ต่อไปเค้าก้อรู้สึกว่า
เค้าวางใจ เราแนะนำอะไร เค้าก้อเชื่อมั่น ตัดสินใจซื้อง่าย
เราพยายามจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เรื่อย ๆ ค่ะ เพื่อให้ดูน่าสนใจ เพราะปัจจุบัน
ไม่ว่าลูกค้า หรือตัวเราเอง ทุกคนต้องคิดมากขึ้นที่จะหยิบเงินออกจาก
กระเป๋าเพื่อซื้อสินค้า ดังนั้น ยอดขายของเราลดลงมาก ๆ ค่ะ แต่เรา
ก้อพยายามหาสินค้าตัวใหม่ ๆ มาเพิ่ม หาแนวทางการขายใหม่ ๆ
จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย
เดิม เราไม่ค่อยชอบงานค้าขายนะคะ เริ่มแรก ๆ ยอมรับเลยว่าเขิน ๆ
อาย ๆ อยู่บ้าง ใจคิดอยู่เหมือนกันว่า เรียนมาตั้งเยอะ ต้องมายืนขายของ
แต่จนทุกวันนี้ เราต้องทำใจให้รักกับงานที่ทำ เพราะไม่อย่างนั้น งานมัน
จะออกมาไม่ดีค่ะ
เราคิดว่า ถ้าหางานที่รักทำไม่ได้ ก้อควรรักงานที่ทำให้ได้ อาจเป็นกับเรา
คนเดียวนะคะ คือเราเอง ยังไม่รู้ว่า ค้นพบตัวเองหรือยัง แต่ด้วยว่า เรา
มีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว ความสุขที่ต้องการ อาจจะไม่ค่อยได้นึกถึง
ตัวเองเป็นหลัก ต้องนึกถึงครอบครัว นึกถึงลูก ก้อเลยคิดว่า งานที่ทำนี้
มันตอบโจทย์เราได้ เราเองคิดว่า จะไม่วิ่งหาความสุข แต่จะอยู่ให้เป็นสุข
คือความสุขมันอยู่ที่เรามองมากกว่า
ณ ปัจจุบัน เราก้อพอใจกับอาชีพที่ทำอยู่ แต่ก้อพยายามปรับเปลี่ยน
ต่อยอด เพราะคิดอยู่ลึก ๆ เหมือนกันว่า ไม่อยากต้องยืนขายแบบนี้
ตลอดไป กำลังพยายามใช้ความคิดเพื่อปรับเปลี่ยนแนวทาง และปรับ
เปลี่ยนตัวสินค้าไปด้วย
สู้ไปด้วยกันนะคะ ใครยังไม่ได้งานก้ออย่าเพิ่งท้อค่ะ เราเองไม่กล้า
แนะนำใคร เพราะชีวิตกัอยังไม่ได้ประสบความสำเร็จ ยังต้องสู้ต่อ
เพียงแต่อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ นะคะ สู้ต่อไปจ้า
| จากคุณ |
:
เปิดใจแม่ค้าเปิดท้าย
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 53 09:03:04
A:115.87.79.77 X: TicketID:173598
|
|
|
| 
... เข้ามาดู
