ความคิดเห็นที่ 1 ต้องวิเคราะห์ PLC ครับ ว่าตอนนี้ Product อยู่ช่วงไหน ในลักษณะแบบนี้ ควร ขยายท่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้ ยอดขายเพิ่มขึ้น และ ไป สั่งวัตถุดิบมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน (สั่งคราวละมากๆ ) น่าจะช่วยได้ แล้วก็ไป ตั้งเป้าหมายการผลิตให้กับพนักงานครับ จากคุณ : Nopparat_r1 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 10:15:06

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนในเรื่องของตัวเงิน ในการทำธุรกิจผมว่าเราต้องมองเรื่อง Opportunity cost ไว้ด้วย ในเมื่อเรามีเงินลงทุนจำกัด เราต้องลงทุนกับสิ่งที่งอกเงยมากที่สุด เพราะถ้าลงทุนกับของที่ได้ผลตอบแทน 3% ก็จะมีคำถามว่าทำไมไม่ลง 5% นั่นคือส่วนต่างที่เป็นโอกาสที่ลอยอยู่ สำหรับผม มีทางเลือกอยู่สองทาง 1. ทำธุรกิจเดิม แต่การ operate ต้องเปลี่ยน เช่น การลดต้นทุน การหาช่องทางตลาดใหม่ๆ แต่ไม่ควรทำไปเรื่อยๆ แล้วเท่าทุน อย่าลืมว่าแม้เงินจะไม่ติดลบ แต่ค่าแรงกายแรงใจ มันก็มีค่าเหมือนกัน 2. ไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่า ถ้ามันไม่ทำอะไรให้งอกเงยได้เลย โดยอาจจะใช้วิธีการต่อยอดจากความรู้ที่มีเพื่อลดความเสี่ยง หรือหากจะไปธุรกิจใหม่ ให้ลองค่อยๆ หย่อนขาไปก่อน ดูท่าที จากคุณ : TurnTheLightOn เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 10:16:29

ความคิดเห็นที่ 3 ลดรายจ่าย ครับ ลดรายจ่าย 1 บาท กำไร 1บาท ไปลองดูว่าอะไรลดได้ อะไรลดไม่ได้ ไม่จริงหรอกครับ ว่าจำเป็นต้อง จ่ายทุกอย่าง ยกตัวอย่าง ค่าโทรศัพท์ คุยเล่น ค่าวินมอเตอร์ไซค์ เข้าซอย เดินได้ใหม ค่า แ๊ป๊บ ซี่  ดื่มน้ำเปล่าได้ใหม จากคุณ : aksorn_ji เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 11:05:24

ความคิดเห็นที่ 4 วีธีเพิ่มกำไรในธุรกิจหลักๆก็มีแค่สองอย่าง ลดรายจ่าย กับเพิ่มรายได้ ก็ต้องไปดูว่าเราสามารถทำได้ข้อไหน หรือทั้งสองข้อ ผมทำธุรกิจเดียวกับ จขกท.(สินค้ามั่นใจว่าไม่เหมือนกัน) แต่ยอดขายผมโตมากกว่า จขกท. โดยเฉลี่ย 10 เท่า มีแรงงานภายในร้าน รวมผมด้วย แค่สามคน ต้นทุนค่าดำเนินการต่างๆถือว่าต่ำ ผมมั่นใจว่าผมมีกำไรมากกว่าในหลายๆธุรกิจที่ยอดขายสูงกว่าผม  ตัวจุดประกายธุรกิจ คือผมก็มีปัญหาเหมือน จขกท.ในช่วงแรกคือทำแล้วไม่มีกำไร เวลาไปเดิน ประตูน้ำ ตึกกรุงทอง ตึกซิตี้ จะเห็นว่ามีแพ็คของส่งต่างจังหวัดมากมายครับ แสดงว่า ตจว.คือตลาดที่ใหญ่มากๆกว่ากรุงเทพฯ. นั่นหล่ะครับแหล่งทำเงิน ทีนี้จะทำเงินตรงนั้นอย่างไร ก็แล้วแต่ไอเดียของแต่ละคนครับ สู้ครับ (ขออภัยขอแก้ข้อมูลตัวเลขครับ) ตามทีหลายท่านบอก คุณมีโอกาสแก้ไขสถานการ์ณครับ คุณมีฐานลูกค้า คงจะต้องเน้นที่ลดต้นทุนสินค้า ลดต้นทุนอื่นๆ และพัฒนาตัวสินค้าเพื่อเพิ่มกำไรครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 15:17:23 จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 11:27:57

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าใจ จขกท.เลย เพราะเราก็เป็นอยู่ กว่าจะได้เอาเงินเข้าแบงค์จริงๆก็ปาเข้าไปเดือนที่ 3 (นั่นแหละกำไรของที่ขาย)  บางทีก็ท้อเหมือนกัน - -" จากคุณ : heantanthi เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 11:42:52

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดูสิว่าทำไมกำไรไม่มี  cost ตัวไหนสูงไปไหม เช่น เงินเดือนพนักงาน จากให้เป็นเงินเดือน เปลี่ยนเป็นรายชิ้นจะประหยัดกว่าไหม  ค่าไฟลดได้ไหม จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 11:51:55

ความคิดเห็นที่ 7 หาอย่างอื่นใส่เพิ่มไปในฐานลูกค้าเดิม เพื่อให้กำไรเพิ่มขึ้น จากคุณ : next80 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 11:58:38

ความคิดเห็นที่ 8 ในรอบ 12 เดือน หรือ 1 ปี นั่น มันไม่มีช่องให้เก็บเงินได้เลยเหรอ รายได้และรายจ่ายหักกลบแล้วเป็น 0 ตลอดเลยเหรอ...แปลกจริง!!! ในเมื่อธุรกิจมันเลี้ยงตัวได้ด้วยตัว แนะนำให้ทำธุรกิจอย่างอื่นเพิ่ม อาจเป็นลักษณะการแตกลาย เช่น การเช่าเสื้อผ้า... ขายเสื้อผ้าทางเน็ต การขยายการขายส้งไปตามจังหวัดใหญ่หรืออะไรก็แล้วแค่  หรืออาจจจะเปลี่ยนแนวธุรกิจไปเลย เช่น ทำหอพักให้เช่า ก็เอาไรยได้จากธุรกิจเดิมนั่นแหละ มาผ่อน ผ่อน ผ่อน เด๋ยวก็หมดค่ะ ธุรกิจก็ยังอยู่ได้ อย่าเลิกเลยค่ะ เสียดาย ถ้าจะเลิกให้นึกคนที่ไม่มีงานทำหรือกำลังหางานอยู่นะคะ จะช่วยให้เราสู้ต่อได้ดีทีเดียว จากคุณ : nongaoo เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 14:20:29

ความคิดเห็นที่ 9 ลองแตกไลน์สินค้าอื่นๆ ดูครับ.. เช่น กระเป๋า รองเท้า เอาแบบที่มันไปด้วยกันได้ เท่าทุนเสื้อ แต่อาจกำไรตัวอื่นก็ได้ครับ.. ^_^ จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 14:40:14

ความคิดเห็นที่ 10 ช่วยบอกรายละเอียดได้ไหมคะ ว่าค่าใช้จ่ายของจขกท มีอะไรบ้าง เราว่ายอดขายสองแสนกว่ามันน่าจะมีเหลือเก็บบ้างนะคะ เพื่อจะช่วยดูให้น่ะคะว่าควรลดต้นทุนอะไรได้บ้างเพราะเสื้อผ้านี่ถ้าขายปลีกก็มีอย่างน้อย30% กำไรอยู่แล้ว  ถ้าเรื่องกำไรไม่มีปัญหา น่าจะมาจากค่าใช้จ่ายมากกว่า จากคุณ : White coco เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 17:04:49

ความคิดเห็นที่ 11 มันเป็นไปได้ยังไงครับ เข้ามาอยากรู้ด้วยคน หักลบแล้วเหลือ 0 จากคุณ : miraculous เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 21:01:08

ความคิดเห็นที่ 12 อืมม..อ่านแล้วยัง งง กำไรหัก คชจ.แล้วเหลือ0 แล้วมันจะเลี้ยงตัวเองได้งัย ยอดขาย 250000 คชจ.5-70000 มันคืออะไร ต้นทุน??? หักแล้วก็ยังเหลือเห็นๆ แล้วมันจะเป็น0ตรงไหน แสดงว่าตังค์หายแล้วล่ะ จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:10:19

ความคิดเห็นที่ 13 อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวมากเกินไปหรือเปล่าครับ ยังไงก็แล้วแต่อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องเวลาด้วยนะครับ เงินหาใหม่ได้ แต่เวลาหาซื้อไม่ได้  คนเราแก่ลงทุกวัน ทำอะไรก็รีบทำเข้าครับ  เวลา 5-10 ปีผ่านไปเร็วมากครับ ขอให้โชคดี จากคุณ : aromatic (Aromatic) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 01:00:04

ความคิดเห็นที่ 14 เจ้าของเอาเงินกิจการไปใช้ส่วนตัวเลยมองไม่เห็นกำไรครับ ลองจัดทำเป็นบัญชีออกมาดูซิครับ จากคุณ : ton_21 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 14:33:22

ความคิดเห็นที่ 15   เปิดกิจการมาแล้ว 5 ปี อย่าปล่อยผ่านไปให้เสียโอกาส ย้อนกลับสู่พื้นฐาน ทำตามที่หลายท่านแนะนำก็ดี ไปรอดครับ ทั้งเรื่องการบริหารจัดการ เพิ่มรายได้ให้สูงขึ้น ลดรายจ่ายให้ต่ำลง แปลงต้นทุนประจำให้เป็นต้นทุนผันแปร จัดการกับเปอร์เซ็นต์สูญเสียให้เหลือศูนย์ ศึกษาความต้องการของลูกค้าในตลาด ใกล้ชิดกับผู้บริโภคให้มากที่สุด ปรับตัวและแตกไลน์ ทั้งการเพิ่มสินค้ารูปแบบใหม่ สร้างตลาดใหม่ๆ หรือสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมาโดยใช้ปัจจัยการผลิตเดิมทั้งหมด ที่เรียกกันว่า พูลลิ่งซิสเต็มส์ จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 14:35:42

ความคิดเห็นที่ 16 ลองทำบัญชีรายรับ-จ่าย แล้ววิเคราะห์ดูก็จะรู้จุดที่ควรอุดรูรั่วหรือตัดค่าใช้จ่ายครับ ตัดได้2-3พันก็เริ่มมีกำไรแล้วครับ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 19:53:26

ความคิดเห็นที่ 17 คือผมอ่านที่คุณ benz hero บอกไม่ค่อยเข้าใจนะครับ คือรายได้ 250000 บาท  ค่าใช้จ่าย 80000 บาท แล้วไม่เหลือเงินได้ไงครับ คือยังไม่ได้หักต้นทุนขายใช่ไหมครับ แปลว่า เอาราคาขายสินค้า หักต้นทุนสินค้า  เหลือกำไรขั้นต้น ประมาณ 80000 บาท ซึ่งพอดีกับค่าใช้จ่าย ? เป็นอย่างนี้ใช่ป่ะครับ ถ้าใช่ มีหลายวิธีนะครับ 1. ลองจัดกลุ่มสินค้าเป็นกลุ่มๆ  แล้วดูว่าสินค้ากลุ่มไหน ทำกำไรให้ กลุ่มไหนไม่ทำ  แล้วเลิกทำเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไม่ทำกำไร  อันนี้คือการวิเคราะห์เชิง product คือดูแต่ละผลิตภัณฑ์นะครับ  ถ้าสินค้าคุณมีแบบเดียว ก็ไม่ต้องวิเคราะห์มากครับ  เพราะแยกกลุ่มไม่ได้ 2. ลองหาวิธีเพิ่ม margin สินค้า ทำได้ไหม 3. ลองหาวิธีลดต้นทุน ทำได้ไหม  ลองแยกต้นทุนเป็นส่วนๆ เพื่อวิเคราะห์ดูว่าตรงไหนลดได้ ตรงไหนตัดได้ 4. เสื้อผ้าที่ทำ มีการสร้างแบรนด์ หรือตราสินค้าของตัวเองไหม แล้วก็ลองหลากหลายอย่างก่อน เพราะคุณมีประสบการณ์ตรงนี้แล้ว ไปเริ่มสิ่งใหม่ๆ ก็ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก ถ้าไม่ถนัดเรื่องตัวเลข หรือการวิเคราะห์จริงๆ ก็ลองทำตัวเลขคร่าวๆอย่างที่ผมบอก แล้วมาเขียนถามในนี้ เด๋วก็มีคนวิเคราะห์ให้ได้ครับ สิ่งที่ผมพยายามบอกคือ อย่ามองแค่ในภาพรวม แต่พยายามเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ให้ออกมาเป็นตัวเลข แล้วแจกแจงเพื่อสะดวกต่อการตัดสินใจครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 23:42:43

ความคิดเห็นที่ 18   แนะนำกันน่ะ ครับ พี่น้อง ถ้ามันยังไปได้ ลองวิเคราะห์ แก้ไขธุรกิจเดิมให้ดีก่อน ลองให้มันสุดๆก่อน เช่น 1. ลดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ลดได้ ที่ไม่มีผลกระทบต่อยอดขาย 2. เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่ เหมาะสม ธุรกิจของผม ก็เหมือนกัน ทำมาปีกว่า หมุนเงินกันเป็นว่าเล่น เงินไม่งอก ไม่ลด แต่ผมก็ดูว่าตรงไหนเราประหยัดได้ เงินเราก็เหลือ โดยที่เราไม่ได้ลำบาก มากขึ้นเลย ผมก็สำรวจดู ทำบัญชี ว่า ผมมีรถส่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้ 2 คันค่าใช้จ่าย คันละ 2,000 กว่าบาท (ไม่รวมค่าน้ำมัน) ผมก็ตัด 2 คันทิ้ง เงินผมเหลือ 4,000 กว่าบาทแล้ว , ค่าเช่าโกดังที่ไม่สะดวก 4,000 บาท ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง อีกหลายพัน ทำธุรกิจ อะไรที่ควรประหยัดก็ต้องประหยัด อะไรควรจ่ายก็ต้องจ่าย จากคุณ : กระบี่ไร้กระบวน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 13:19:26 A:183.89.21.12 X: TicketID:288860

ความคิดเห็นที่ 19 รีบเปลี่ยนให้ไวที่สุด จากคุณ : ot เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 16:09:06 A:124.120.235.136 X: TicketID:289840