ความคิดเห็นที่ 1 เพื่อนคนหนึ่งจบ คลินิก ก็ไปทำงานองค์กรราชการ เป็นนักจิตวิทยา เพื่อนอีกคนจบ อุตสาหกรรม ก็ไปทำงานบริษัทเอกชน เป็นนักทรัพยากรมนุษย์ ลองถามตัวเองว่าอยากทำงานแบบไหน อยากเป็นนักจิตวิทยา ได้บำบัดฟื้นฟู ช่วยเหลือคนที่มีปัญหา ได้ทำแบบทดสอบ ฯ ก็เลือกคลินิก อยากทำงานในองค์กร เกี่ยวกับพัฒนาบุคคล ฝึกอบรม การสร้างแรงจูงใจ ทัศนคติ ฯลฯ ในการทำงานก็เลือก อุตสาหกรรม ปล.ตอบไม่ตรงคำถามเลยเนาะ อิอิ จากคุณ : zz เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 18:07:03

ความคิดเห็นที่ 2 ผม จบจิต คลินิก ก็ไม่ได้ทำในโรงพยาบาลนะครับ มาทำ ฝึกอบรม ก็ดูโอเคนะ จบจิตวิทยา มันรู้กว้าง รู้นู่น รู้นี่ ไปหมด เรียนก็แตะไปทุกสาขา เรียนทั้ง วิทย์ แพทย์ ศิลป์ สังคม เค้าพูดเรื่องอะไร ก็รู้กับเค้าไปหมด ผมว่า มันก็อยู่ที่คุณจะเลือกแล้วแหละครับ ว่าอยากทำอะไร ว่า แต่นี่จแล้วหรือว่าจะเลือกเรียนครับเนี่ยยยยย จะได้แนะนำได้ถูกต้องงงงงงงงงงงงง จากคุณ : Monkey_Mod เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 20:43:28

ความคิดเห็นที่ 3 เลือกเงิน-ต้องจิตอุตฯ ลัลลา Admin ก็ได้ HR ก้ได้ สามารถนำความรู้ที่ได้มาจากจิตวิทยาปรับใช้กับการทำงานในองค์กรได้หลายอย่าง เวลาสัมภาษณ์คนเข้าทำงานจิตวิทยาก็ช่วยสุดๆ  สามารถสร้างแบบวัด แบบทดสอบเพื่อใช้ในการประเมินผลงานตามที่เรียนมาได้ แต่ถ้าไม่ต่อโทก็ตันตาย   เลือกอุดมการณ์-จิตคลีนิค มีโอกาสเข้าทำงานราชการมากกว่าจิตอุตฯ แต่ตังค์น้อยงานหนัก ซีเครียดกะชีวิตมากมายถ้าเป็นนักจิตวิทยาต้องรับฟังปัญหาของคนอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งภาวะร่างกายและสมอง อารมณ์ไม่พร้อม จะเกิดปัญหาตามมาอย่างใหญ่หลวง หรือกรณีไปเป็นครูแนะแนว ก็งงกะเด็กอีก แต่เวลาเรียนจิตคลีนิคสนุกมากกกก *ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ* จากคุณ : Apple So Good เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 09:24:51

ความคิดเห็นที่ 4 เรียนอะไร ก็สนุก เนอะ ถ้าเราชอบครับ 555 อนาคต เดี๋ยว บุคลิก ก็จะเลือกให้เราเองครับ บุคลิก เลือกอาชีพ ฟันธงครับ จากคุณ : Monkey_Mod เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 20:07:24

ความคิดเห็นที่ 5 กำลังจะเลือกเรียนครับ จากคุณ : Flamemaliaus เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 20:21:23

ความคิดเห็นที่ 6 เรียนจิตคลินิกค่ะ กำลังจะจบล่ะ ก็คงต้องถามตัวเองก่อน ชอบแบบไหน เพราะ 2 แนวทางนี้ต่างกันมากทีเดียวนะ สายจิตวิทยาคลินิก เมื่อจบแล้วมีสอบเอาใบประกอบโรคศิลป์(จิตวิทยา)อีกค่ะ เพื่อต่อยอดในสายอาชีพ ก็ทำงานได้หลายอย่าง วินิจฉัย บำบัด ป้องกัน ให้ความรู้ เป็นวิทยากร สอนนักเรียน ลงชุมชน อยู่โรงพยาบาล ทำ test ทั้งหลายแหล่ อัตราตอบแทนที่ได้ก็มีตั้งแต่รายเดือน และบางครั้งก็คิดเป็นรายหัวในบางกรณี ส่วนงานก็ได้ทั้งราชการและเอกชนแหล่ะ โดยมากถ้าเรียนสายคลินิกอาจจะต้องมีการทำ test เพื่อดูความเหมาะสมในสายอาชีพด้วยน่ะ อย่างที่ข้างบนบอก สายนี้จะต้องเป็นทีปรึกษาและบำบัดได้ ดังนั้นสภาพจิตใจก็ต้องมีความพร้อม ข้อดีของสายคลินิก เราว่าอยู่ที่ตรงเป็นทางการแพทย์ ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะยังไง แต่การแพทย์ก็ยังอยู่ได้ อัตราความต้องการมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังไงคนก็ป่วยตลอด ญาติที่ฝากงานให้ยังว่า อย่างเราน่าจะก้าวหน้าไว เพราะสายนักจิตวิทยาไม่ค่อยมีใครมาแย่งผลงาน ก็สนใจตรงที่ได้สวัสดิการของโรงพยาบาลด้วยนี่ล่ะ อีกข้อนะ สามารถเป็นที่พึ่งให้กับคนรอบข้างได้ แล้วตัวเราเองก็เข้าใจในเรื่องหลายๆอย่างเกี่ยวกับจิตใจมากขึ้น ทำให้เวลาเจออะไรแย่ๆเรารับมือได้ เพราะเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นน่ะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 04:40:57

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ Flamemaliaus หลังไมค์ มาคุยกันก็ได้ครับ รีบนนี่ รุ่นน้องเค้าเป่าอ่ะ หุหุหุ จิตคลีนิกก็มีไม่กี่ที่นาาาาาาาา 5555 อืม ต้องดูก่อนว่า ในอนาคต เราอยากทำงาน field ไหนอ่ะครับ เนอะ ตอบโจทย์ตัวเองตรงนี้ให้ได้ก่อน แล้ว เราก็จะเห็นแนวทาง อย่างที่บอก บุคลิกจะเลือกอาชีพครับ จากคุณ : Monkey_Mod เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 18:57:25