ความคิดเห็นที่ 1 คำถามเด็ด กลุ่มลูกค้าหลัก ของคุณ คือใคร ทำไม ผมถึงต้อง เลือกที่จะมาทานร้านคุณ แทนที่จะทานร้านอื่น ถ้าผมมากิน ผมมีโอกาสมากน้อย ที่จะซื้อซ้ำ มากแค่ไหน ความแตกต่างของคุณ อยู่ตรงไหน   หมดยังอ่ะ จำไม่ได้และ จากคุณ : Nopparat_r1 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 17:37:06

ความคิดเห็นที่ 2 Haa ใช่เลยครับ คำถามเด็ดของกรรมการเลย กลุ่มลูกค้าหลัก ผมโฟกัสอยู่สามกลุ่ม ชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในระยะยาว,คนไทยในพื้นที่ ที่พิถีพิถันในการเลือกดื่มกาแฟ ซีเรียสเรื่องกาแฟ,นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 19:35:31

ความคิดเห็นที่ 3 คุณคิดไหมว่า  นักท่องเที่ยว จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณ Serious coffee และคนพื้นเมืองที่อยู่เชียงใหม่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำอย่างไรให้เขาเดินมาดื่มกาแฟของคุณ  แบบที่ว่า จำเป็นต้องมาเมื่อคิดอยากกาแฟ ปล.ยกตัวอย่าง คหสต.  เวลาเดินผ่าน Siam Center  เห็น UCC ปั๊บ อยากบราซิลขึ้นมาติดหมัด  แล้วก็ต้องแวะทุกที และจะไม่ลืมที่จะสั่งวาฟเฟิล ด้วยค่ะ จากคุณ : meboon เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 20:28:58

ความคิดเห็นที่ 4 ร้อยคนจะมีคนรู้รสชาติกาแฟแท้ๆไม่เกินสิบคนมั้ง ซึ่งนี่คือลูกค้าคุณ...ถามว่า...ไหวมั้ย จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 22:18:05

ความคิดเห็นที่ 5 ถามต่อว่าออสเตรเลีย...ดังเรื่องกาแฟหรือ ถ้าร้านคุณขายได้แล้วผมเปิดร้านกาแฟบราซิลแท้ๆ(แท้จริงๆหรือเปล่าใครจะรู้) จะขายดีกว่าคุณมั้ย. ขายถูกกว่าคุณห้าบาทด้วยเอ้า.... จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 22:25:06

ความคิดเห็นที่ 6 ขายให้ใคร ตั้งร้านตรงไหน   แล้วรู้ไหมว่ากลุ่มเป้าหมายมีกำลังจ่ายเท่าไหร่ เงินเดือนที่เชียงใหม่ เกินหมื่นนี่หายากเหมือนกันนะครับ รู้หรือเปล่า ว่าลูกค้าร้านกาแฟในเชียงใหม่   บางคนจ่ายกาแฟแก้วนึงนั่งทั้งวันเพื่อเล่นเน็ท ค่าเช่าตึก ที่นิมมานเหมินท์บางตึกขึ้นไปสามหมื่นเชียว คิดว่าต้องขายกาแฟกี่แก้วถึงคุ้มค่าเช่า นี่ยังไม่รวมค่าอื่นๆนะครับ สำหรับผม ร้านกาแฟเป็นคำตอบสุดท้ายในการทำธุรกิจในเชียงใหม่เลยครับ จากคุณ : ราตรีที่จันทร์ยืนเศร้า เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 23:01:18

ความคิดเห็นที่ 7 Australian coffee ยังไม่เคยเห็นเปิดในไทย ผมไปเที่ยวซิดนีย์มา 5 วันไม่ได้เดินสำรวจพื้นที่เท่าไรเลยไม่ได้เห็นร้านกาแฟสัญชาตินี้ เพิ่มเมนูขนม ของกินเล่นของออสเตรเลียก็จะดี คนไทยชอบของนอกอยู่แล้ว จากคุณ : mrsorn เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 23:17:46

ความคิดเห็นที่ 8 กาแฟออสเตรเลีย เมืองไทยมีสิครับ Grolia's Jean ไงครับ เจ้าของเป็นทายาทซอสปรุงรสหน่ะ  เพราะเจ้าของแฟรน์ไชน์เดิมหมดสัญญาไปแล้ว นี่ก็กำลังเปิดแฟรน์ไชน์ด้วย แต่ผมชิมแล้ว เฉยๆมาก ทั้งรสทั้งกลิ่น... จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 23:36:53

ความคิดเห็นที่ 9 อยากทราบราคาค่ะ ว่าขายแก้วล่ะเท่าไหร่ ราคาระดับแบคแคนยอน หรือสตาร์บลัค รสชาติคุ้มราคาไหม..ลูกค้าเน้นกลุ่มคนทำงานหรือนักท่องเที่ยว ถ้าระดับคนทำงาน ราคาระดับสตาร์บัค ยังสูงเกินไปค่ะ เรื่องชื่อร้าน เราไม่ชอบค่ะ คำว่า"serious" เข้าใจว่า เน้นซีเรียสเรื่องรสชาติและคุณภาพกาแฟ.. แต่คนจะเข้าร้าน ได้ยินคำนี้ อาจจะขมวดคิ้วนะ.. เข้าร้านกาแฟ ต้องผ่อนคลาย สบาย อร่อยค่ะ ตั้งชื่อร้านให้มันชิวๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ กาแฟ ออสเตรเลียได้เปล่าค่ะ จากคุณ : ลูกชิ้นปลาเด้ง เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 05:19:47

ความคิดเห็นที่ 10 ผมกินกาแฟมาเยอะนะครับ แต่ผมว่า ร้านกาแฟแก้วละ 50 บาทขึ้นไป(จริงๆต่ำกว่านี้ก็มี) รสชาติไม่ต่างกันมาก และผมเห็นด้วยกับคุณลูกชิ้นปลาเด้งนะครับ ใครจะอยากไปกินกาแฟกันจริงจังคัรบ เขากินเอาเล่นๆผ่อนคลายสบายๆ ตระเวนกินกาแฟในประเทศไทยดูนะครับ ตลาดอยู่เมืองไทยต้องอิงประเทศไทย รสชาติกาแฟก็สำคัญ ทำเลก็สำคัญ อยากหาลูกค้ากลุ่มไหน ให้ไปตั้งตรงนั้น กาแฟใต้ตึกออฟฟิสขายดีทุกที่ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 12:22:21

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกๆท่านที่สละเวลามาครับ ผมตื่นเลยครับ คงต้องเริ่มเกริ่นว่า บาร์กาแฟมันมีหลักๆ สามสาย คือ สายอิตาเลี่ยน สายอเมริกัน สายออสซี่  (ออสเตรเลียไม่ใช่ประเทศที่ปลูกกาแฟดีเด่น แต่บริโภคกาแฟหนักเป็นอันดับต้นๆของโลก) สิ่งที่ผมจับมาคือวัฒนธรรมกาแฟ เอกลักษณ์ในการดื่ม เมนูกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ไม่ใช่เมล็ดกาแฟที่ปลูกที่ออส ต่อคำถามของ คห ที่1 ว่า "ทำไมถึงต้อง เลือกที่จะมาทานร้านผม แทนที่จะทานร้านอื่น,ความแตกต่างของคุณ อยู่ตรงไหน  " นั่นก้อคือคำตอบว่า ทำไมผมต้องการปวรณาตัวเป็น ร้านกาแฟที่จริงจังเรื่องกาแฟ มีสไตล์กาแฟที่ต่างไปจากร้านกาแฟสดไทยที่มีนับพันนับหมื่น เพราะถ้าผมเดินตามทางตัวเล็กตัวใหญ่ที่เค้าทำกันอยู่แล้ว ผมก้อคงต้องตามเค้าไปจนผมหมดแรงล้มไป ...แนวคิดแบบนี้พอจะเป็นไปได้ไหม ในโลกธุรกิจจริงๆ จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:54:39

ความคิดเห็นที่ 12 ต่อ คห ที่ 3 สิ่งที่จะบอกในขั้นแรกได้ว่าร้านนี้ซีเรียสกาแฟ คือการตกแต่ง และอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ สิ่งที่ชัดเจนเห็นง่ายสุดคือเครื่องชงกาแฟครับ ผมมีรูปมาให้ดู เป็นเครื่องชงที่ผมตั้งเป้าไว้ ราคาแพงครับ สามแสนสาม จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 22:10:53

ความคิดเห็นที่ 13 รูปนี้ เป็นร้านต้นแบบครับ จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 22:12:51

ความคิดเห็นที่ 14 ต่อข้อความ คห 4 นั่นเคยเป็นคำถามหนักอกผมมาก่อนและยังคงหนักอกอยู่ อย่าว่าแต่คนไทยเลยแม้แต่ฝรั่งร้อยยังไม่ไม่ถึงสิบเลย ผมอาจต้องเปลี่ยนคำว่า "กาแฟแท้ๆ" ไปเป็นคำว่า "กาแฟที่ดี"ครับ เพราะที่ไหนก้อกาแฟแท้ๆหมด แต่กาแฟดีๆ ที่ชงถูกต้องตามเมนูของกาแฟ มีนมที่สตีมนุ่มเนียนเงา มัน วาวเป็นSilky มีอุณภูมิที่ถูกต้อง ได้ความหวานตามธรรมชาติของนม ช็อตกาแฟที่ถูกต้องเป็น perfect shot  สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นที่ลูกค้าต้องเป็นกูรูกาแฟ ถึงจะทราบแต่อย่างใด ขอเพียงแค่ ให้มีประสบการณ์ซักครั้ง ก้อจะทราบความต่างกับกาแฟที่ดื่มมาตลอด            ดังนั้น ผมไม่ได้ต้องการแค่จับคนที่เป็นคอกาแฟแบบฮาร์ดคอร์ แต่เป็นคนที่ดื่มกาแฟอยู่แล้ว แต่ต้องการเสพอะไรที่มากกว่าเดิม ฉะนั้น ร้อยคนที่ซื้อกาแฟดื่มอยู่แล้ว ขอแค่ห้าสิบคนเป็นคนที่ชอบลองชอบค้นหา ก้อหรูแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 53 08:33:33 จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 22:43:51

ความคิดเห็นที่ 15 ธุรกิจร้านกาแฟ รสชาติของมัน ก็ขมเหมือนกาแฟ และก็หอม เหมือนกลิ่นกาแฟ อยู่ที่คนดื่มจะเลือกรับรสไหนเข้าไป จากคุณ : King Bravo เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 23:16:36

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเป็นคนดื่มกาแฟจัด (เข้มและบ่อย) แต่อยากดื่มกาแฟ แล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ครับ แค่นี่ จากคุณ : KY06 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 23:23:24

ความคิดเห็นที่ 17 ทำไปเลย       มันก็เหมือนหาแฟนคลับ   อาจจะยากตอนเริ่ม     แต่ถ้าไม่หาจุดต่างก็ได้ตามๆเขาไป...เห็นเหมือนๆกันไปหมด...ไม่น่าจะดีเท่าไหร่            แต่ก็อยู่ที่ทำเลนั่นแหละ     ระวังไอ้ประเภทขายดี...แต่ค่าที่กินหมด แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 53 01:12:29 จากคุณ : toytoytoy เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 01:09:49

ความคิดเห็นที่ 18 วันนี้ตื่นมา ก้อเปิดกระทู้ตัวเอง รู้สึกดี ที่ได้ความเห็นต่างๆ และคำถามหลายๆอย่าง ทำให้ได้มองในมุมที่ไม่เคยมอง ได้แต่นั่งเทียนนึกเอา ขอบคุณทุกๆคนครับ จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 08:52:46

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นเครื่องแล้วอยากไปชิม ร้านอยู่แถวไหนหรือครับ พอดีเดือนหน้าจะแวะไปซิดนีย์ เห็นบทความใน lonely planet เขียนรีวิวร้านกาแฟในออสเตรเลียอยู่หลายร้าน บอกว่าคนยุโรปย้ายไปอยู่ออสเตรเลียก็นำกาแฟไปเผยแพร่ที่นั้นด้วย ผมมีเพื่อนและญาติเปิดร้านกาแฟในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่อำเภอเมือง ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว เปิดแล้วไม่คุ้ม เหมือนว่าเขาไม่จ่ายให้กับกาแฟคุณภาพ 30 บาทก็บอกว่าแพง ถ้าจะเปิดควรดูทำเลดีๆ ผมว่าสำคัญมาก จากคุณ : Biocalm เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 09:55:56

ความคิดเห็นที่ 20 ร้านที่ใช้เครื่องที่ผมโชว์ให้ดู และทำกาแฟดี ผมให้ลิ้งของร้านไปละกันครับ http://tobysestate.com.au/page/contact_us.html และร้านที่ผมเอารูปมาโพส เป็นร้านโปรดผม อยู่ในตัวเมืองหลังห้างQVB น่าจะสะดวกกะคุณ Biocalm ตามลิ้งเลยครับ http://meccaespresso.com/ จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 14:55:18

ความคิดเห็นที่ 21 จ.เชียงใหม่ เป็น จ.ปราบเชียนครับ ใช่ว่าจะเอาแบรนมาลงแล้วจะอยู่ได้ ถ้าเคยอยู่มานาน ลองนึกสภาพที่เป็นอยู่ของเชียงใหม่ครับ ร้านกาแฟ ในเชียงใหม่ ผมว่าต้องพ่วงด้วยอย่างอื่นด้วยครับ จากคุณ : shadow_magic เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:26:51

ความคิดเห็นที่ 22 คำถาม -คุณจะตั้งราคาเท่าไหร่ ถ้าราคาเกรดเดียวกับสตาร์บัค คุณจะใช้วิธีไหนให้คอกาแฟมาเปลี่ยนมากินร้านคุณ ถ้าเกรดรองลงมาคุณจะสู้กับกาแฟวาวีได้ไหม นี่ยังไม่รวมร้านอื่นๆในเชียงใหม่ -ทำเลล่ะ น่าจะนิมมานต์ใช่ไหม เคยลองไปเดินดุมั้ยคะว่าร้านกาแฟแถวนี้มีกี่ร้าน คุณไปเปิดอีกร้าน ไหวมั้ย -ค่าเช่าที่ล่ะ แถวนี้ราคาประมาณสุขุมวิทเลยนะคะ คุณต้องขายกาแฟกี่แก้วถึงจะได้ค่าเช่า -นอกจากเรื่องรสชาติกาแฟสไตล์ออสซี่แล้วคุณมีจุดขายอย่างอื่นอีกหรือไม่ ฝากไว้เป็นการบ้านนะคะ เอาใจช่วย^^ จากคุณ : แม่ค้าหน้าแป้น เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 16:47:16

ความคิดเห็นที่ 23 การตั้งราคาผมไม่ชัวร์ครับ เพราะยังไม่รู้ต้นทุนอีกหลายๆ แต่ผมจะยึดบนพื้นฐานที่เหมาะสมกับต้นทุน  ผมคิดว่า กาแฟแบบที่ผมจะขาย เค้าเรียกว่า Specialty coffee หรือ Boutique coffee มันเป็น niche ถึงตรงนี้แล้ว ผมคิดว่ามันเสี่ยงมากๆ แต่ผมก้อฝืนตัวเองไปไม่ไหว ถ้าต้องทำอะไรที่ขัดกับตัวตนของตัวเอง(อาจฟังดูน่าหมั่นไส้ แต่จริงๆครับ) ผมคิดว่าคนรวย เค้าไม่แคร์กับแพงหรือถูก เึค้าต้องการprofessional และ quality เพื่อตอบสนองวิถีของเค้าได้(คิดเอาเอง^_^" ) ทำเลในเชียงใหม่  ผมแปลกใจว่าทำไมหลายคนมุ่งไปถนนนิมมานต์ ผมไปล่าสุดเมื่อสองปีก่อน มันเปลี่ยนไปมากจากสมัยที่ผมเคยอยู่ แต่ยังหาจอดรถยากเหมือนเดิม ไม่นับสองล้อนะ วัยรุ่นเยอะ และผมว่าฝรั่งไม่มาเดินกันนะ (หรือว่าเปลี่ยนไปแล้ว) จริงๆแล้วผมยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำเลไหนแน่ ผมโฟกัสที่ชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในระยะยาวหรือที่มาทำงาน, นักท่องเที่ยวต่างชาติ,ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ มีกำลังซื้อสูง  ผมเคยนึกถึงทำเลตรงริมปิงซุปเปอร์สโตร์ สาขาใกล้สะพานนวรัฐ ถ้าคนต่างถิ่นนึกไม่ิิออกว่า google ดู เพราะกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกัน ที่จอดรถพอมี ใกล้ร้านเบอเกอรี่ดังเจ้านึง (ร้านนี้ขายดียังกะแจกฟรีเมื่อหลายปีก่อนทั้งๆที่ราคาค่อนข้างแพง ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงบ้าง) แต่ถึงเวลาก็ต้องไปลงพื้นที่จริงอีกที แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 53 14:47:56 จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 16:30:01

ความคิดเห็นที่ 24 จะขายกาแฟอย่างเดียวหรือ?? ชา น้ำผลไม้ น้ำหวาน ฯลฯ จากคุณ : More Original Me เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 16:50:49

ความคิดเห็นที่ 25 ขายอย่างอื่นนอกจากกาแฟด้วยครับ มีชาพรีเมี่ยมที่จะเลือกมา ,มี Chai latte (Chai เป็นเครื่องดื่มที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากพวกยูโรเปี้ยน), มีช็อตโกแล็ตร้อนเกรดพรีเมี่ยมเช่นกัน (เอาว่าทุกอย่างจะใช้ของเกรดดีหมด). พวก soft drink ต่างๆโดยเฉพาะ sparking water,Lemon-lime ฝรั่งนิยมดื่ม พวก fresh juice ยังคิดๆอยู่ ว่าจะเอาไงดี จะซื้อเครื่องคั้นแยกกากมาคั้นขายเอง หรือ รับของเจ้าดีๆ(พรีเมี่ยมอีกล่ะ)มาขายเพราะอยาก concentrate ไปที่กาแฟ สิ่งสำคัญที่ไม่ได้บอกไว้ คืิอ ร้านจะใช้กาแฟในแบรนด์ของร้านเองและขายเมล็ดกาแฟคั่ว และอุปกรณ์ต่างๆในการทำกาแฟสดทานเองที่บ้านหรือออฟฟิศ นอกจากเครื่องดื่ม ก้อมีอย่างอื่นไม่มากแล้ว เพราะผมตั้งใจไม่ให้มีครัวในร้านเดี๋ยวจะไม่เป็นบาร์กาแฟกลายเป็นคาเฟ่ไป และdetail มันจะเยอะไปอีก(จริงๆแล้ว ตังค์มีน้อย *__*") จะมีแึค่ toaster ไว้ปิ้งขนมปังกะ ตัว grill ไว้ปิ้งแซนวิช แซนวิชจะทำเป็นpre madeไว้ ส่วนlunch อาจจะมีเพียง พาสต้า สลัดและซุปไม่กี่อย่าง ทำมาจากบ้านแล้วมาอุ่นขายที่ร้าน วันต่อวัน ซึ่งอันนี้สำคัญมากว่าจะขายให้ฝรั่งหรือคนไทย เพราะรสชาติอาหารทั้งสามอย่างที่สไตล์แบบฝรั่งมันคนละโลกกับลิ้นคนไทย ซึ่งน้อยคนไทยจะบอกว่า อร่อย แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 53 14:53:02 จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 14:25:36

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นเคส ที่มีคนเคยทำแล้ว คิดเหมือนคุณปองเป๊ะเลย คือร้าน red cafe เคยมีรีวิวในพันทิพย์ด้วยนะครับ ออสซี่สไตร์ ใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง เปิดร้านใน ริมปิง นวรัต เหมือนกัน แต่ตอนนี้ปิดไปละ ไม่ทราบว่าเคยรู้จักร้านนี้หรือยัง เปนเคสที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว ถ้ารู้แล้ว ผมจะมีคำถามว่าทำไมเค้าถึงปิดไป ทั้งที่เจ้าของก็ทำได้ดี และก็เป็นที่รู้จักในสังคมพอควร จากคุณ : ด.ช. เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 16:50:24

ความคิดเห็นที่ 27 อ่อ ตอบคำถามข้างบนเสร็จมีคำถามต่อเลยว่า จะโชว์ความเป็นเครื่องที่ราคาสูง แล้วมันดีกว่ายังไง ลูกค้ารู้ได้อย่างไร ว่ามันแพงแล้วมันดี แล้วออสซี่สไตร์ต่างจากแบบอื่นตรงไหน ทำไมต้องไปลองกินออสซี่สไตร์ กาแฟดีเป็นยังไง ลูกค้าจะทราบได้ยังไง แล้วกลุ่มเป้าหมาย มีมากพอจะไปรอดมั้ย แล้วเค้าจะทราบหรือเลือกจะมาร้านเราได้จากอะไร เพื่ออะไร แล้วเราดีกว่ายังไง...แบรนด์เราก็ไม่มี ทำไมลูกค้าไม่เลือกเข้าแบรนด์มากกว่า แล้ว mirage จะไปซื้อจากไหน จองตอนนี้ จะทันตอนเปิดหรอครับ พรีออเดอร์กันนานเหลือเกิน หรือมีคอนเนกชั่นอยู่แล้ว อันนี้สงสัยเปนการส่วนตัวครับ หุหุ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 53 17:12:51 จากคุณ : ด.ช. เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 16:52:26

ความคิดเห็นที่ 28 เปิดร้านกาแฟ ต้องระวังเรื่องอีโก้ครับ ทำเจ้าของตกม้าตายมาหลายคนแล้ว ยิ่งเปิดร้านกาแฟที่เชียงใหม่ ยิ่งต้องระมัดระวัง ทำยังไงก็ได้ ให้ภาพพจน์ของคนที่มานั่งร้าน ดูดีขึ้นมาให้ได้ ส่วนเรื่องรสชาติ มาเป็นรอง เพราะ ของกิน ลงไปในท้อง ดีหรือไม่ดีก็ไม่มีใครเห็น ส่วนเรื่องภาพพจน์ มันสำคัญ เพราะคนอื่นเห็น ส่วนตัวคิดว่า ร้านต้องสวย บริการประทับใจ กาแฟพอกินได้ ไม่ต้องวิเศษมาก เข้าใจยาก นั่งแล้วเท่ ราคาไม่แพง ที่สำคัญ ค่าเช่าต้องถูก จากคุณ : presspotman (presspot man) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 23:55:54

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณคุณ ด.ช. ที่ให้ผมรู้จักร้าน red kafe ครับ ผมลองกูเกิ้ลดูแล้ว ใช่ครับ ใกล้กับที่ผมคิดเกือบจะเป๊ะ ดีเทลต่างๆร้านนี้ทำได้ดีมากๆ  ถ้าข้อมูลที่ผมเจอมาเป็นความจริง ร้านนี้ไม่ได้ปิดเพราะขาดทุน แต่เจ้าของเค้าไปอยู่ต่างประเทศและคนที่มาทำร้านต่อ ก้อเป็นเจ้าร้านกาแฟที่ดีร้านนึงในเชียงใหม่ที่ชื่อร้านว่า มิ่งมิตร ซึ่งร้านก้อยังอยู่ได้ (เค้าบอกว่ามีคนหมุนเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย) นั่นคือข่าวดี ของผมที่ร้านกาแฟท้องถิ่นดีๆ ที่ตั้งใจพิถีพิถันในรายละเอียดต่างๆ อยู่ได้ ข่าวร้ายนิดๆคือ ทำเลร้านนี้ตรงกะผมที่ต้องการ สิ่งที่ผมต่างกับเจ้าของร้านRed kafe  คือเจ้าของร้านนั้นเค้ามีอาชีพประจำอยู่แล้วเป็นสถาปนิกหรือนักออกแบบอะไรประมณนั้น แต่ผมไม่มีอาชีพที่สอง ทำอะไรไม่เป็น(ถึงทำเป็นก้อคงไม่ดี) นอกจากชงกาแฟ จะดีจะร้ายยังไงก้อต้องสู้ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 53 14:51:25 จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 12:52:56

ความคิดเห็นที่ 30 อ่าถูกต้องครับ เจ้าของร้านหนีไปอยู่พม่าซะละ ไม่ได้ถึงกับขาดทุน แต่ต้องยอมรับว่าขายไม่ดีมากมายเท่ากับร้านมิ่งมิตรที่มาทำต่อ เนื่องด้วย กลุ่มลูกค้าเป็นตลาดนีชจริงๆ ตอบตัวเองให้ได้ครับ ว่าขายเอาเงิน หรือขายเอากล่อง เพราะตลาดกาแฟพรีเมี่ยมเชียงใหม่ ฐานลูกค้าน้อยจริงๆ แล้วกาแฟดี มักผกผันกับกาแฟอร่อยที่คนทั่วไปเข้าใจ ส่วนคำถามอื่นๆ ผมถามไปให้ลองตอบดูครับ เพราะโลกความจริงมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ การทำร้านกาแฟดีๆ อุปกรณ์ดี ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เป็นความฝันของบาลิสต้าทุกคนครับ ผมยังอยากได้เครื่อง slayer เลย แต่ตอบไม่ได้ว่าใช้เพื่อใคร มีใครรู้บ้าง กับคุณภาพที่ดีขึ้น กับราคาเครื่องที่เท่ากับเครื่องคอมเมอร์เชียลซักสามสี่ตัว มันเป็นการสนองความต้องการตัวเองมากกว่าความสำเร็จทางธุรกิจมากกว่าอ่ะ ในความคิดผมนะ จากคุณ : ด.ช. เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 13:38:26

ความคิดเห็นที่ 31 คห 27 ยิงเป็นชุดใหญ่ ขอไล่เป็นข้อๆ "จะโชว์ความเป็นเครื่องที่ราคาสูง แล้วมันดีกว่ายังไง ลูกค้ารู้ได้อย่างไร ว่ามันแพงแล้วมันดี" จริงๆแล้วปัจจัยหลักที่กาแฟจะดีได้ประกอบมาจากสามส่วน เมล็ดกาแฟ  คนชง และอุปกรณ์(เครื่องบดเครื่องชง) ซึ่งเครื่องชงผมให้น้ำหนักน้อยสุด น้อยกว่าเครื่องบดด้วยซ้ำ แต่ผมเลือกเครื่องระดับhi end ไม่ได้แปลว่าจะดีกว่าเครื่องของร้านอื่น แต่เป็นจุดที่จะเรียกความสนใจ และเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นprofessional ในระดับนึง บาร์กาแฟ สิ่งที่จะเป็นหน้าเป็นตาหรือพระเอกได้ มันก้อต้องเครื่องชงครับ(คนชงไม่หล่อ ^^) ที่เลือกMirageหนึ่งผมชอบดีไซน์ที่ยูนิคสุดๆ ใครผ่านก้อสะดุดมอง สองผมทำงานกับเจ้ามิราจมาพอสมควร กาแฟจากมือผมผ่านเจ้ามิราจเกินครึ่งตัน ทำให้ผมมั่นใจเรื่องคุณภาพ สามผมเชื่อและมั่นใจในตัวคนนำเข้าเครื่องตัวนี้ สรุป ผมไม่ได้ตั้งใจโชว์เครื่องแพงให้ลูกค้าว่าดีกว่าเครื่องถูกกว่า แต่อยากให้เห็นถึงความตั้งใจนำเสนอสิ่งดีๆ มากกว่าครับ "แล้วออสซี่สไตร์ต่างจากแบบอื่นตรงไหน ทำไมต้องไปลองกินออสซี่สไตร์" ต่างที่เมนูกาแฟ แม้ชื่อเหมือนกันกะประเทศอื่นๆแต่รูปแบบต่าง และภาชนะเฉพาะที่ใส่สำหรับตัวเมนูกาแฟนั้นๆ ซึ่งถ้าพูดมันจะยาวมากๆ (แนะนำดูในblogผม) มีออปชั่นของนมให้เลือกตามพฤติกรรมและรสนิยม คือ นมปกติ,นมไขมันต่ำ,นมถั่วเหลือง มีdecafกาแฟ มีChai latte ทำไมต้องไปกินออสซี่สไตล์ จริงๆแล้วอยากเปลี่ยนว่า ทำไมต้องไปกินกาแฟดีๆ มากกว่า เพราะถ้าออสซี่หรือซีแอตเทิ้ลแต่กาแฟมันห่วย ก้อแค่นั้น แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 53 13:50:30 จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 13:41:50

ความคิดเห็นที่ 32 อิอิ แสดงว่ารู้จักกับคุณบุ๊ง เลยกล้าที่จะเลือกใช้เครื่องตัวนี้ในเมืองไทย ต้องยอมรับครับ ว่าคนคิดเครื่องตัวนี้แกบ้าพลังดี แล้วคนนำเข้าเมืองไทยก็เหมือนกัน ส่วนประสิทธิภาพ เท่าที่ได้จับๆเพียงผิวเผิน มันก็เป็นเครื่องที่น่าหลงรักอีกตัวนึงแหละ  น่าอิจฉาจังครับที่ได้มีโอกาสกับเครื่องไฮเอนขนาดนั้นในชีวิตประจำวัน มีเป้าหมายและคอนเซปที่ชัดเจนดี ถ้าดูในแง่ของราคาให้ดี กับทำการตลาด ซึ่งหมายถึงการวางแผนทั้งการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ให้ดี คงไม่เจ๊งหรอกครับ แต่ไปได้ไกลขนาดไหน กับคุ้มค่าการลงทุนมั้ย อันนี้ว่ากันอีกที เชียงใหม่เท่าที่ทราบ มีร้านกาแฟตั้งใจๆ และทำกาแฟในระดับ speciality กันอยู่ในระดับนึงครับ ท้อกันไปบ้างก็มีกับตลาดผู้บริโภคนี่แหละ ยังชอบกินเอสเพรสโซเย็นหวานมันกันเกิน 80 เปอเซนต์อยู่เลยมั้ง ถ้าตั้งใจก็เอาใจช่วยครับ เรื่องร้านกาแฟในเชียงใหม่ พอให้ข้อมูลได้ในระดับหนึ่ง มีข้อสงสัยสอบถามมาบ้างได้ครับ ด้วยความยินดี จากคุณ : ด.ช. เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 13:55:18

ความคิดเห็นที่ 33 โอ๊ะ เจอคนวงใน ผมไม่ได้รู้จักคุณบุ๊งเป็นการส่วนตัวหรอกครับ อาศัยตามblogแกเอา แต่ผมเชื่อในเรื่องของpassionที่มีต่อกาแฟร่วมกันครับ ขอบคุณคุณด.ช.ในน้ำใจมีมีเผื่อแผ่มาให้ครับ รวมถึงคำถามต่างๆ ไว้ผมกลับบ้านเมื่อไหร่ จะหลังไมค์ไปหาครับ เอ่อ...จะหลังไมค์ได้ไง ไม่ได้เป็นสมาชิกนิ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 53 14:55:44 จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 14:13:17

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคงเล่าหรือตอบคำถาม ให้พอได้เห็นภาพร้านกาแฟร้านนี้ไปได้บ้างนะครับ(ถ้าจะมีคนมาอ่านอยู่ *__*) ต่อไปผมอยากพูดถึงเป้าหมาย เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าธุรกิจร้านกาแฟนี้จะแตกหรือไม่ ถ้าเอาตามรายการSMEตีแตก จะมีเป้าหมายระสั้น กะระยะยาว ผมขอเพิ่มระยะกลางเข้าไป ระยะสั้น ผมขอร้านนี้อยู่รอดภายในปีแรก มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนในร้าน ให้ร้านอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องหาเงินไปอุดอะไรเพิ่ม มีฐานลูกค้าประจำ จำแบรนด์ของร้านได้ มีแนวโน้มจะคืนทุนได้ในปีที่สอง ส่วนเจ้าของกินแกลบไปก่อนในปีแรก ข้าเจ้าทนได้ T T ระยะกลาง ขอทุนคืนในปีที่สอง ทำการเปิดสถาบันสอนกาแฟ ต้องการยอดขายที่ กาแฟสิบห้ากิโลกรัมต่อวีค(ทั้งขายเป็นเครื่องดื่มในร้านและขายปลีกกาแฟเมล็ดรวมกัน) ระยะยาว มีโรงคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง  อยากให้แบรนด์ของร้านเป็นที่จดจำในวงกว้างประมาณว่า ถ้าเห็นโลโก้แบรนด์นี้ที่ร้านกาแฟไม่ที่ไหนก้อตาม แปลว่าร้านนั้นได้ใช้กาแฟเทพมาชงขาย พอจะเป็นไปได้ไหมครับ จากคุณ : ปอง (ponganes) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 14:44:06