 |
ผมสอนอยู่แถวสามย่านครับ จริงๆแล้วเงินเดือน อ. ของมหาวิทยาลัยของรัฐที่ต่างๆไม่ต่างกันมาก (ไม่ขอพูดถึง ม.ราชภัฎนะครับ เพราะไม่รู้) อาจมีบางแห่งในต่างจังหวัดที่เงินเดือนสูงกว่าหลายพันบาทด้วย เพราะมหาวิทยาลัยต้องการดึงดูดคนไปทำงาน เช่น แม่ฟ้าหลวง สุรนารี และวลัยลักษณ์
ถ้าฐานเงินเดือนเบื้องต้นของเด็กจบใหม่ ของสามย่าน ป. โท อยู่ที่ 16,000 + ป.เอก 20,000 (เงินเดือนคร่าวๆในปัจจุบันนะครับ เพราะผมสอนมานานแล้วพอสมควร) ชั่วโมงสอนของคณะผมคือ 9 ชม/สัปดาห์ (ง่ายๆก็ประมาณ 3 ห้อง ห้องละ 3 ชม) ซึ่งจะจัดตารางออกมาได้เป็น 2 หรือ 3 วัน ก็แล้วแต่ทางคณะ ตารางเรียนของนักศึกษา มีห้องว่างหรือไม่ อาจดูว่า ชม สอนน้อย แต่จริงๆแล้ว อ.ต้องเตรียมตัวสอนมาก แม้สอนวิชาเดิมๆ แต่พื้นนักศึกษาแต่ละปีต่างกัน ก็ต้องมีการปรับเนื้อหาอยู่ดี ให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้เรียนและเนื้อหาที่ทันสมัย สอน 3 ชม อ.อาจต้องเตรียมตัวประมาณ 6-9 ชม ทีเดียว (สำหรับคณะผมนะ) นอกจากนั้น อ.ยังต้องทำงานวิจัย งานบริหาร งานบริการวิชาการให้บุคคลภายนอก งานกิจการนักศึกษา งานราชการของคณะและมหาวิทยาลัยส่วนกลาง งานประชุม-สัมนาต่างๆ งานที่หน่วยงานราชการขอความช่วยเหลือ ดังนั้นภาระจึงเยอะพอสมควร
ส่วนรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนพื้นฐาน (9 ชม) ก็มาจาก ค่าตำแหน่งวิชาการ (ผศ รศ ศ) ค่าตำแหน่ง (เช่น หัวหน้าภาค หัวหน้าศุนย์ฯ) เงินอุดหนุนงานวิจัย (อันนี้แล้วแต่ใครทำวิจัยมากน้อยแค่ไหน และหาแหล่งทุนได้จากที่ไหน อาจได้แค่ไม่กี่พันบาทต่อเดือน ไปยันหลายหมื่นบาทต่อเดือน) เงินค่าเป็นที่ปรึกษาให้หน่วยงานเอกชน (เพื่อนที่สอนวิศวะบางคนได้เป็นโปรเจค เฉลี่ยประมาณ 7-8 หมื่นต่อเดือน แต่คณะผมไม่มีนะ) เงินสอนจาก ชม สอนที่เพิ่มเข้ามา ที่คณะจะได้เพิ่ม ชม ละ 500 บ (เวลาราชการ ป.ตรี /1,000- 2,500 ป. โท-เอก หลักสูตรอินเตอร์)
เนื่องจากที่คณะเป็นการสอนสายภาษษต่างประเทศ จะมีการเปิดอบรมสอนภาษาให้บุคคลภายนอก ช่วงตอนเย็นหรือวันเสาร์ (นับเป็นหน้ที่ของมหาวิทยาลัยที่ต้องการให้บริการกับประชาชน ไม่ได้มุ่งหากำไร) อ. จะได้ค่าสอน ชม ละ 1,000 - 1,500 บาท แล้วก็มีสอนภาษาให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ ค่า ชม ก็ประมาณ 1,000 - 2,000 บาท แล้วแต่ระดับความยากง่าย เงินรายได้จากค่าแปลเอกสาร ประมาณหน้าละ 400-600 บาท เงินรายได้จากการเป็นล่าม ชม ละ 3,000-6,000 บาท (แล้วแต่ภาษา และความยากง่าย)
แต่ว่ารายได้ต่างๆไม่ได้ได้กันทุกคน ขึ้นอยู่กับความชำนาญของ อ. แต่ละท่าน บางท่านอาจแปลงานได้เก่ง แต่อาจทำงานล่ามไม่ได้ บางคนอาจสอนให้บุคคลภายนอกได้ แต่บางคนอาจไม่ชอบหรือไม่มีเวลา (เช่น อ. ผู้ใหญ่ ที่มีครอบครัว) หรือบางคนชอบสอนอย่างเดียว แต่ไม่ชอบทำงานแปลหรืองานล่าม ฯลฯ
ส่วนมาก (ที่คณะผมนะครับ) อ. รุ่นเล็กจะได้รายได้สูงทีเดียว เพราะยังมีแรงในการทำงาน ไม่มีภาระในการดูแลครอบครัว ส่วน อ. ผู้ใหญ่หน่อยรายได้จะไม่มาก เพราะมักไม่รับงานเพิ่มนอกเหนือจาก 9 ชม ที่สอน เพราะมีภาระส่วนตัวค่อนข้างมาก และต้องทำงานด้านบริหารและเป็นที่ปรึกษาในการตรวจข้อสอบและผลิดตำราให้กับ อ.รุ่นเล็กที่มีประสบการณ์น้อย
ที่คณะฯ อ. จะมาทำงานทุกวัน ถึงแม้จะมีตารางสอนแค่ 2-3 วัน ไม่มีการออกไปเป็น อ. พิเศษ ที่อื่นในเวลาราชการ (อาจมี อ. ผู้ใหญ่บางท่านที่ไปเป็น อ. พิเศษ ในกรณีที่ ม. อื่น ทำเรื่องเชิญมาที่คณะ แต่ปกติแล้วจะไม่มีการรับงานเอง หรือเอาเวลาราชการออกไปสอนข้างนอกครับ) บางวันต้องมาเคลียร์งานวันเสาร์เพิ่มด้วยซ้ำ
หลายๆที่อาจให้ อ. เพิ่ม ชม สอนได้มากเท่าที่ อ.ต้องการ นอกจาก ชั่วโมงหลัก 9 ชม (เงินค่า ชม ก็จะมากไปด้วย ) แต่ที่คณะจะให้สอนเพิ่มได้ไม่เกิน 6 ชม เพราะถ้าสอนมากไป จะไม่มีเวลาให้นักศึกษาเข้ามาปรึกษา (เนื่องจากเป็นการสอนด้านภาษา เลยต้องมีการให้คำปรึกษามากพอสมควร) รายได้ที่ได้เสริมจริงๆ เป็นกอบเป็นกำ คงมาจากค่าทำวิจัยและงานแปล/ล่าม มากกว่าครับ เพราะงานพวกนี้หน่วยงานต่างๆมักจะติดต่อมาเป็นโปรเจคใหญ่ เช่นกระทรวงฯ มีงานมาให้แปล 2,000 หน้า หรือให้ไปเป็นล่ามตลอดทั้งปีเมื่อมีการประชุม พวกนี้จะได้เงินมากครับ
ดังนั้นรายได้ต่อเดือน (ของคณะผมนะครับ) มีตั้งแต่ 20,000 + (สำหรับคนที่อาจจะไม่สอนเพิ่ม ไม่ทำวิจัย ไม่อยากรับภาระเพิ่ม) ถึงหลักแสน++ สำหรับคนที่มีความชำนาญด้านภาษามากๆ โดยเฉพาะด้านการแปลและล่ามครับ
ส่วนเรื่องการขึ้นเงินเดือน เรื่องขั้น ไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก เพราะว่าส่วนมากจะเวียนกันไป หรือ อ. ผู้ใหญ่หลายๆท่านก็ขอไม่รับความดีความชอบ แต่จะเอาเงินหรือขั้นส่วนนี้ไปให้กับเจ้าหน้าที่ธุรการ/ภารโรง/คนขับรถ ซะมากกว่า (เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่ได้รายได้เสริม แต่มีภาระในครอบครัวมาก ) หรือบางคนก็สละให้กับ อ. เด็กๆ เพราะส่วนมากก็วนเวียนเป็นลูกศิษย์/รุ่นน้องกันมาก่อนแหละครับ หรือ อ.บางท่านก็คืนเงินค่าตำแหน่งให้กับทางมหาวิทยาลัย หรือโอนให้เป็นเงินกองทุนช่วยนักศึกษา ส่วนมาก อ.ที่คณะจะไม่ค่อยคิดเรื่องเงินเท่าไร เพราะรักงานสอนจริงๆมากกว่า และอาจเป็นเพราะว่าส่วนมากเป็นผู้หญิง มีครอบครัวแล้ว (และสามีหรือครอบครัวไม่มีปัญหาด้านการเงิน) อ. เหล่านี้ โดยเฉพาะพวกที่ลูกๆโตหมดแล้ว จึงมักจะสอนเพราะใจรัก เงินที่ได้นอกเหนือจากค่าสอนก็มักจะไปตกให้กับพวกเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย หรือให้ อ. ชั้นผู้น้อยอย่างผมได้หยิบยืมครับ 55555
จากคุณ |
:
Polska Polski
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ต.ค. 53 18:31:58
A:109.246.5.90 X: TicketID:141052
|
|
|
|
 |