PANTIP.COM : B9859204 เงินเดือนออก หัก กลบ ลบ หนี้ เหลือ กันคนละเท่าไหร่คะ? [การบริหารจัดการ]

ความคิดเห็นที่ 14

เหลือประมาณ 100k / เดือน กำลังจะมีหนี้เพราะจะออกรถให้คุณพ่อ ส่วนจะบริหารหนี้ตัวนี้ยังไง คิดว่าคงใช้เงินสดที่สะสมมา แล้วเก็บอยู่ในแหล่งเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนรถเป็นตัวชำระค่ารถครับ จะได้ไม่ต้องเสียดอกให้บริษัทรถ…

ส่วนวิธีบริหารค่าใช้จ่ายรายเดือน (หนี้รายเดือน)ก็มีดังนี้
1) รายจ่ายที่คงที่ เช่น ให้พ่อแม่ ค่าน้ำไฟ ค่าข้าวคนในบ้าน ค่าซื้อของใช้ในบ้าน อันนี้จำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะถือเป็นรายจ่ายคงที่ไม่ต้องบริหารมากมาย
2) ค่ากินค่าเที่ยวของครอบครัว --> ปกติจะเน้นกินถ้าคิดว่าอันไหนกินแล้วมีความสุข ราคาไม่แพงเกิน ก็จะพาครอบครัวไปอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนค่าเที่ยว ก็จะกำหนดไว้เลยว่าปีละ 2 ครั้ง กลางและปลายปี แบบว่าทำเพื่อครอบครัว
3) ค่าใช้จ่ายส่วนตัว โชคดีที่เป็นคนง่ายๆ ไม่ติดเทคโนโลยี หรือเสื้อผ้าอาภรณ์ เลยแค่มีค่าไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานอาทิตย์ละครั้งหลังออกกำลังกายเสร็จ ที่เหลือก็ค่าข้าว 3 มื้อ ธรรมดาทั่วๆไป ส่วนค่าน้ำมันโชคดีมีคนออกให้ :)

ส่วนวิธีการบริหารหนี้ที่ยังไม่เกิด (เกิดจากกิเลศ) --> ง่ายนิดเดียวครับ ปล่อยวางและอย่ายึดติด คิดซะว่า "สิ่งที่วิเศษที่สุดคือ สิ่งธรรมดา" ใช้ชีวิตแบบธรรมดาให้ได้มากที่สุด แล้วหนี้ในอนาคตก็จะไม่เกิดให้กลุ้มใจ

เพิ่มอีกหน่อยนะครับ สำหรับวิธีบริหารเงินเก็บของตัวผม
1) ฝาก LTF / RMF ให้เต็มโควตา เพื่อลดหย่อนภาษี (แต่ต้องเลือกกองให้ดีๆ สำหรับ RMF เพราะจะได้ผลประมากมาย แถมตอนหุ้นตกก็รักษาผลประโยชน์ได้โดยโยกไปกองที่เสี่ยงน้อย)
2) ฝากประกันให้เต็มโควตา เพื่อลดหย่อนภาษี อันนี้ต้องดูดีๆครับ สำหรับผมเลือกกองที่ได้เงินกลับมาเร็วที่สุด เพราะจริงๆแล้วผลตอบแทนจากประกัน ในกรณีที่เราไม่เป็นอะไร แท้ที่จริงไม่ได้สูงมากมาย
*** เรื่องฝากประกัน ต้องดูดีๆนะครับบางครั้งก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป ในกรณีที่เราเสียภาษีที่อัตรา <= 10% เพราะยังพอมีแหล่งเงินฝากอื่นๆที่ทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าหรือเสมอตัวได้ แล้วยังไม่ต้องถูกทอนเงินต้นเหใอนประกันในกรณีที่จะถอนก่อนครบกำหนด
3) ถ้ามีเงินสดเหลืออยู่ แล้วมีพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนดี ก็จะซื้อไว้ ดีกว่าฝากในแบงก์ หรือ ถ้ามีเงินก้อนใหญ่ๆ ก็จะเอาไปซื้อสลากออมสินเก็บไว้ ผลตอบแทนไม่ต่างจากประกันระยะสั้นๆเท่าไหร่ แถมถ้ามี jackpot ก็อาจรวยได้ทันตา

ขอฝากอีกช่วงละกันครับ "สิ่งที่วิเศษที่สุดคือ สิ่งธรรมดา"

ท่าน ติช นัท ฮันท์ พูดเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ "ขอบคุณสรรพสิ่ง"

"ปาฏิหารย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ
แต่ปาฏิหารย์คือ การเดินอยู่บนผืนดินและมีความ สุขในทุกย่างก้าว"

ชีวิตเราเต็มไปด้วยเรื่อง "ธรรมดา" เช่น ตื่นมา อาบน้ำ แปรงฟัน
ขับรถไปทำงาน กินอาหารเที่ยงกับเพื่อนในที่เดิมๆ ตอนเย็นกลับมา
ก็เห็นหน้าภรรยาหรือสามีคนเดิมๆ ใส่ชุดธรรมดาๆ หน้าตาเราหรือก็ธรรมดาๆ
... เราส่วนใหญ่แล้ว ก็เป็นคนธรรมดาๆ มีชีวิตธรรมดาๆ กันทั้งนั้น

แต่ถ้าความ "ธรรมดา" นี้หมดไปล่ะ
เช่น อยู่ดีๆ ลูกเราเกิดเป็นมะเร็ง ไปมีเรื่องนอกบ้าน ติดยา คบเพื่อนไม่ดี
หรือสามีเราตายไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม หรือเราถูกไล่ออกจากงาน...
เรื่องก็จะ "ไม่ธรรมดา" ไปในทันที
และในเวลานั้นเอง เราจะหวนมาคิดเสียดายความ "ธรรมดา" จนใจแทบจะขาด...

ให้เรารีบชื่นชมกับความ "ธรรมดา" ที่เรามี
และใช้ชีวิตประหนึ่งว่า สิ่งนั้นคือสิ่งมหัศจรรย์ของ จักรวาล
เพราะสิ่งธรรมดาๆแท้จริงแล้วคือ
สิ่งที่พิเศษที่สุดแล้ว สำหรับมนุษย์อย่างเรา

จากคุณ : xyz

เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 17:30:58 A:223.205.155.40 X: TicketID:136780