ความคิดเห็นที่ 1 เราเคยได้ยินบางคนพูดว่า คนเก่งๆ มักจะทำงานบริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จมากกว่าคนไม่เก่ง คนไม่เก่งคงเหมาะกับการไปเป็นเจ้าของกิจการมากกว่า เห็นจะจริง..... อยู่ที่ทำงาน เถียงอะไรใครก็ไม่เป็น ใครว่าอะไรหน่อยก็น้ำตาร่วง...ทำงานก็ช้า....จะไปหวังก้าวหน้าอะไรทางนี้ แต่ก่อนออกจากงาน ก็คิดว่าตัวเองค่อนข้างพร้อมนะ มีเงินเก็บกับเงินสะสมก่อนออก 6-7 แสน...           ช่วงแรกเอาเงินไปลงทุนกับพี่สะใภ้ประมาณ 1 แสน แต่เจ๊ง...ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง...เปิดร้านที่เป็นสมัครบัตรเงินกู้ บัตรเครดิตอะไรทั่วไป พวก OK แคส..ก็ไม่ได้มีความรู้ด้านนี้อะไรมากมาย ยายพี่สะใภ้ พูดแต่รายรับไม่พูดถึงค่าใช้จ่าย....ทำอยู่ได้แค่ 3 เดือน ปิดกิจการ....          แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี ตอนไปหาร้านเช่าทำร้าน ได้เจอลูกค้า(ธุรกิจอื่น) ซึ่งเป็นลูกค้าที่ซื้อของเราเป็นจ้าวแรก...เป็นงานที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 10:38:39

ความคิดเห็นที่ 2 ตามอ่านอยู่ค่ะ มาเล่าต่อนะคะ จากคุณ : O4k0iyL-36 (O4k0iyL-36) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 11:38:53

ความคิดเห็นที่ 3 ลาออกมันง่ายครับ แต่เราต้องมีแผนว่าเราจะทำอะไรหลังลาออก เงินเก็บมากไหม มีหนี้สินหรือเปล่า  หาช่องทางไว้หรือยัง  เราจะอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานจากเงินเก็บนานเท่าไหร่  เข้าใจว่า จขกท น้อยใจครับ ถ้าลาออกมาเราต้องมีใจเด็ดเดี่ยว ฟังคำทักท้วงจากเพื่อน ญาติ ถ้าจะค้าขายต้องทำงานหนักกว่าเป็นลูกจ้าง ลงทุนและลงแรงด้วยเงินเรา  ต้องทำงานทุกวันไม่ทำรายได้ก็ไม่มี  ลูกน้องก็มีปัญหาสารพัด รวยจริงๆ เจ๊งจริงๆ  ไม่มีเงินเดือนให้ทุกเดือนครับ โลกธุระกิจมันโหดร้ายครับ  เอาใจช่วยครับ จากคุณ : แจ้ห่ม47 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 11:46:29

ความคิดเห็นที่ 4 เงินที่เจ๊งคือ ไปเช่าตึกเดือนละ 12000+มัดจำล่วงหน้า =36000  ใหนจะค่าตกแต่งอีก อยากจะให้มันดูดี ติดเป็นห้องกระจก ค่าเฟอร์นิเจอร์ หมดไปอีก 5-6 หมื่น....พอเริ่มดำเนินกิจการได้ มีคนมาสมัครบัตรกันเยอะมาก หุ้นส่วนเราก็คิดเปอร์เซ็นต์ให้ดู ว่าถ้าผ่านการอนุมัติหมดเนี่ย น่าจะมีรายได้เป็นหมื่นๆ...อิ อิ อิ...ฝันหวาน จ้างพนักงานมาอยู่ประจำเดือนละ 8000+ค่าเช่า 12000 = 20000 /เดือนที่เราต้องจ่าย เราไม่เคยไปดูงานเลยพี่สะใภ้เราจัดการหมด ไอ้เราก็ฉลาดน้อย...ไม่มีความรู้อะไรเลย คิดจะรอส่วนแบ่งอย่างเดียว... ไอ้พี่สะใภ้เราก็ไม่ฉลาดเลย แหะๆ สรุปทั้งคู่.... ผ่านไป 2-3 เดือน  เดี๋ยวๆ ก็ต้องถึงเวลาจ่ายค่าเช่า ค่าจ้าง พอดีจังหวะนี้เราเริ่มเห็นท่าไม่ดี เราบอกว่าจะเลิกทำ เพราะจ่ายอย่างเดียวไม่ใหว(พอดีไปลงทุนทำอย่างอื่นต่อ เริ่มมีรายได้ดี) สรุปเราเลิก พี่สะใภ้เราทำต่อ แต่ต่อไม่กี่เดือน ก็เลิกไป เพราะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าไม่ใหว....(ก่อนหน้านั้น มาเอาค่าเช่ากับเราตลอด) ได้เงินแต่ละเดือนแค่หลักพัน...... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 12:39:12

ความคิดเห็นที่ 5 ออกจากงานมากว่าจะลงตัว เราดิ้นรนทำหลายอย่างเลย....ไม่กลัวว่าเงินเก็บที่มีจะหมด...ถ้าเราอยากทำ เราก็จะขอลองทำดู สำเร็จหรือไม่สำเร็จเราก็ได้พิสูจน์แล้ว.. งานที่พอทำรายได้มีเยอะแยะค่ะ แต่แค่พออยู่ได้นะ รวยยาก แต่ก็ไม่มีทางอด อย่างเราเคยทำตัดเสื้อผ้า เพราะเราชอบเลยไปเรียนดูช่วงเวลาสั้นๆ ลองทำ.. ตัดได้วันนึง 1 ชุดๆ นึง 500-1000 บาท.... พอออกจากงานแล้วมันมีเวลาเยอะ ได้คุยกับคนโน้นคนนี้บ้าง พี่เราอยู่อีกจังหวัดนึง ชวนมาลองทำงานขายกับเค๊าดู....เราก็ขอลองทำ นั่งรถทัวร์ไป 1 ชั่วโมง กลับ 1 ชม. ออกจากบ้านแต่เช้า กลับถึงบ้านมืด...ค่ารถวันละ 2 ร้อยกว่าบาท...ทำอยู่ประมาณ 1 เดือน  พอแล้ว งานซื้อมาขายไป...เราพอทำได้เพราะเคยอยู่ฝ่ายการตลาดตอนทำงานบริษัทฯ ถึงจะเป็นแค่ พนักงานที่ใครๆ ว่าตำแหน่งกระจอกๆ ปัจจุบันทำงานนี้มาได้ 3-4 ปีแล้ว... รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่อเดือนแล้ว เท่ากับผู้จัดการที่บริษัทเดิม เกือบ 10 คน...... บางทีพวกเพื่อนได้ข่าวว่าเราทำงานอะไร พวกผู้จัดการนั่นแหละ โทรมาขอคำปรึกษาเรา ว่าเบื่อที่ทำงานจะไปทำอะไรดี....ขอแนวทาง เราคงแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่ใช่เป็นคนเก่งอะไร อีกอย่างถ้าเราแนะนำไป คนในพื้นที่เดียวกัน แหะๆ แถมเก่งกว่าเราจะมาเป็นคู่แช่งกันเปล่าๆ ...อิ๊ๆ เลยแนะนำให้เปิดร้าน แล้วเราหาของมาขายให้ โดยขายราคาส่ง...ปัจจุบัน เพื่อนเราที่เป็นผู้จัดการบริษัทฯ มากกกว่า 2คน มาเปิดร้าน และเป็นลูกค้าเราด้วย........     บ่น เบื่อ อยากออกจากงานกันทั้งนั้น แต่งานประจำยังทำเงินได้เยอะกว่าอยู่ ก็เลยทำทั้ง 2 อย่าง...... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 13:15:51

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ดีครับ ทางเลือกใคร ใครไม่ใช่เรา เขาไม่รู้หรอกครับ จากคุณ : bootsarin (bootsarin) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 20:27:28

ความคิดเห็นที่ 7 ค่ะ รอฟังอยู่น๊าา จากคุณ : *~ atlot ~* เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 20:44:14

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อๆ กำลังมันส์ จากคุณ : ดอกไม้ทะเล เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 00:05:33

ความคิดเห็นที่ 9 ขออภัยถ้าแรงนะครับ บางทีก็ต้องย้อนกลับไปดูตัวเองนะครับ จขกท คุณ กับ เพื่อนๆที่เข้ามาพร้อมกันเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มันต่างกันยังไง ทำไมเขาเงินเดือนขึ้นขนาดนั้น แต่ของคุณ....... ลองคิดดูนะครับ จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 08:09:28

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ผ่านมาเราไม่เคยใช้ชีวิตอย่างประมาทนะ ที่ทำงานมา 10 กว่าปี เริ่มเก็บเงินตั้งแต่ทำงานได้ 3-4 ปี เงินเดือนถึงหมื่นในช่วงนี้ แต่มาแป๊ก.. ตอนปีหลังๆ เพราะมีการเปลี่ยนนายใหม่ ปรับอะไรกันเยอะแยะ....... ที่ผ่านมาเก็บเงินได้ประมาณ 1 แสน/ปี... เดือนนึง เก็บเงินประมาณ 5 พัน โบนัสทุกปี 3-4 เท่า ก็เก็บหมด......ก่อนออกได้เงินสมทบของบริษัทฯ ประมาณ 8 หมื่น..... ออกจากงานมีเงิน 6-7 แสน ไม่ได้ใช้เงินประหยัดอะไร ใช้ปกติ ให้พ่อแม่ได้ เดือนละ 2พัน ค่าเสื้อผ้า 1พัน..ค่ากิน+ค่าของใช้ส่วนตัว 3-4 พัน (ที รง.มีค่าข้าวให้ 1 มื้อ) ไม่มีซื้อของเงินผ่อนอะไร....อยากได้อะไรพิเศษ รอเงินที่ได้ โอที.......              เน้นเรื่องเงินเก็บ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราได้มาจากที่นี่ ซึ่งมันสามารถนำไปทำอะไรที่เราคิดอยากจะทำได้....ถ้าไม่มีเงิน จะคิดจะเริ่มอะไรมันลำบาก  เรื่องที่จะกู้เค๊ามาลงทุนนี่ลืมไปได้เลย ถ้าในช่วงแรกเรายังไม่รู้ว่า งานนั้นมันจะไปได้ดีมั๊ย...ถึงใครจะบอกว่าดี..แล้วเราจะทำได้หรือเปล่าไม่รู้ . แต่ถ้าเงินของเราเอง จะเอาไปลงทุน ก็ไม่มีใครมาทักท้วง มันจะเจ๊งก็ไม่เดือดร้อนใคร....ถ้าเริ่มต้นไปกู้นี่ รู้ได้อย่างไรว่าเราจะมีปัญญาไปใช้คืนเค๊าหรือเปล่า.... มีน้อยเราก็เริ่มจากน้อย แต่ไม่ได้เริ่มหมดนะ เงินเราหายไปแล้ว 1 แสน..เงินเก็บที่เหลือนี้ เราเอาไปลงทุนซื้อของเริ่มแรกกับพี่สาว คนละ 2 แสน...พอมันไปได้ดีเราก็เพิ่มทุน... พอเรามีทุนมาเราก็ขอแยกทำเอาเอง ... ทำได้ประมาณ ครึ่งปี ก็พอรู้แล้วว่าธุรกิจดีหรือไม่ดี แฟนเราเอาเงินเก็บของเค๊ามาลงทุนเพิ่ม เพื่อไม่ให้มีปัญญหา เราขอพี่สาวแยกมาทำเองหมด เราอยากได้กำไรมาก ก็ต้องลงทุนมาก...เคยกู้ค่ะ แต่เป็นกู้ระยะสั้น จากบัตรพวกสปีดดี้ แคส คำนวนดูแล้วได้กำไร 2000 เสียดอกเบี้ย 200 ก็ยอมกู้ จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 08:41:24

ความคิดเห็นที่ 11 จะทำอะไรให้ตรึกตรองซะบ้าง เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 08:57:18

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่มีอะไรแรงสำหรับเราหรอก เราเป็นคนยอมรับความจริงค่ะ  ถ้าย้อนที่ผ่านมา 10 ปีในที่ทำงาน เราจบมาจา กศน.ค่ะ แล้วมาเรียนต่อปวท. พอปรับฐานเงินเดือน  เค๊าบอกวุฒต่ำกว่า เราเป็นคนไม่มีปากมีเสียงกับใคร...แม่เราบอกว่าเราลงทุนมาน้อยกว่า...คือเรียนเทียบ กศน.แค่ 2 ปี แถมเรียนแต่วันอาทิตย์....เงินน้อยกว่าไม่เป็นไร... แล้วบังเอิญอยู่ไม่ถูกที่ถูกทางด้วยมังคะ                 แต่ทุกวันนี้ เราก็ขอบคุณบริษัทที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้เรามีวันนี้ เพราะถ้าต่อให้เราได้เป็นผู้จัดการแล้วลาออกมา อีโก้เราคงสูง...เวลาไปหาลูกค้าร้านค้า ที่เราต้องไปยกมือใหว้ เพื่อขายของคงทำยาก เพราะบางทีก็ต้องไปยกมือใหว้ลูกจ้าง ที่เป็นจัดซื้อร้านค้าเล็กๆ ก็มีค่ะ                  เรามาจากครอบครัว ชาวไร่ชาวสวนจนๆ ทุกวันนี้ทำธุรกิจ ต่อวันบางวันได้กำไรมากกว่า เงินเดือนทั้งเดือน..สิ่งที่เราจะไม่มีวันได้รับรู้เลยว่ามันมีธุรกิจที่สามารถทำกำไร กันมากมายขนาดนี้เลยหรือ....เราสามารถทำได้ได้อย่างไร.... มันไม่ใช่เรื่องยาก ที่คนไม่เก่งอย่างเราทำได้ จริงๆหลายคนก็ทำได้ แต่ไม่คิดที่จะลองทำ ไม่รู้ ไม่มั่นใจ...พอใจที่จะอยู่อย่างนั้น.....                 เล่าอีกอย่างค่ะ ได้เจอกับสามีตอนทำงานอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ ตอนทำงานที่นีได้ 2 ปี แต่เค๊าย้ายที่ทำงานตอนทำที่นี่ได้ 1 ปี เค๊าจบ ป.โทร จากอเมริกา ได้เงินเดือนใกล้แสน แต่ออกจากงานทีหลังเราสองปี ตอนคบเค๊าเค๊าแนะนำให้เราเก็บเงินค่ะ..... แต่งงานกันมาได้ 11 ปีแล้ว ตอนทำงานบริษัทฯ ต่างคนต่าง มีเงินเดือน ใช้เงินคนละกระเป๋า....แต่ตอนนี้มาทำงานด้วยกัน เค๊าดูหมดเลย ..แหะๆ ..             เค๊าเอาเงินเก็บของเค๊าประมาณ 3-4 ล้าน มาลงทุนเพิ่มร่วมกับเราหลังจากที่เรามีรายได้มากกว่าเงินเดือนเค๊า..... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 09:12:21

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนที่บอกใครๆ ว่าจะออกจากงาน มีแต่คนถาม คนค้าน จะออกไปทำอะไร เราก็ยังไม่มีจุดหมาย เป้าหมายอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ คิดว่าถ้าเราไม่อยู่เฉยซะอย่าง ยังไง ไม่เกิน 1 ปี เราก็น่าจะหาทำอะไรที่มันเกิดรายได้ขึ้นมาได้บ้าง อาชีพ...จะเอารวย....หรือเอาพออยู่ได้....หรือจะทำแค่แก้เหงา (จริงๆ ก็แอบหวังเอารวยกัน) ใครเห็นบุคคลิกเราก็ว่าจะไปทำอะไร สามีจะให้อยู่บ้านดูแลลูกอย่างเดียว ให้เงินใช้ เดือนนึง 5 พัน แต่คนเคยทำงานได้อย่างเราไม่เคยขอเงินใครใช้..ต่อให้เป็นเงินสามี มันก็ไม่มีความภาคภูมิใจ .....จะกล้าเอาเงินเค๊าไปให้แม่เราเหรอ แม่เราคงไม่อยากได้เงินนี้แน่นอน....... เราก็ไม่ได้ติดขัดว่าจะทำอะไรไม่ได้....ลูกเราโตไปโรงเรียนแล้วแค่คนเดียว ร่างกายก็แข็งแรงดี...ไม่ใช่คนเก่ง...แต่ก็ไม่ถึงกับคิดอะไรไม่เป็น...คนอยู่เฉยๆ จะมีค่าอะไร จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 09:43:41

ความคิดเห็นที่ 14 เช้านี้ ที่เรานั่งเขียนอะไรเล่น หน้าเครื่องคอม มีลูกค้าโทรมาสั่งสินค้า 2-3 รายแล้วค่ะ วันๆ นึงเรามีเวลาเหลือเยอะแยะค่ะ...เพราะธุรกิจตอนนี้อยู่ตัวแล้ว และเราไม่ได้คิดขยายเพิ่ม แค่รักษา และบริการลูกค้าเก่าให้ดีค่ะ...                เราทำเท่าที่มีกำลังกาย กำลังเงินค่ะ ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ร่ำรวยอะไรนะ แต่อยู่ในระดับที่เราพอใจมากกว่า.....มีเวลาพักผ่อน มีเวลาให้ครอบครัว มีรายได้ใว้ใช้จ่าย....                            เช้ามา เราก็เตรียมตัวให้ลูกไปโรงเรียน เสร็จทำงานบ้านนิดหน่อย ลูกค้าโทรมาสั่งสินค้า เราโทรไปจองรถขนส่ง โทรไปสั่งสินค้า โอนเงินก็อยู่หน้าคอมนี่แหละค่ะ ไม่มีลูกจ้างทำเองหมด....เราดูเรื่องตลาดเรื่องการซื้อการขาย....                สามีเค๊าดูเรื่องบัญชี ภาษีอะไรให้ เพราะตอน ป.ตรี เค๊าจบมาทางด้านบัญชี...ช่วยได้เยอะ   แต่จริงๆ ตอนเค๊าทำงานบริษัท เค้าทำด้านบัญชีไม่นานเพราะสนใจทางด้านคอมพิวเตอร์  ทำงานได้ 1-2 ปีหลังจากเรียนจบ ก็เลยไปเรียนต่อที่ต่างประเทศอีก 4 ปี ด้านคอมฯ งานเราก็เลยง่ายค่ะ  ช่วยได้เยอะมากๆ การเก็บข้อมูล...ยอดขาย..ประมวลผล.... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 10:11:29

ความคิดเห็นที่ 15 รออ่านต่อนะครับ ^ ^ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 18:51:15

ความคิดเห็นที่ 16 มันมาก จากคุณ : namsprite99 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 20:19:23

ความคิดเห็นที่ 17 มันมาก จากคุณ : namsprite99 (namsprite99) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 20:19:35

ความคิดเห็นที่ 18 ติดตามดูอยู่นะคะ อยากเป็นเจ้าของกิจการเหมือนกันค่ะ เริ่มเบื่อชีวิตมนุษย์เงินเดือน *-* จากคุณ : แฮมแฮมพลังเค เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 21:21:36

ความคิดเห็นที่ 19 ครบ 10 ปีมอบทองคำนี่คุ้นๆ แต่อาจจะมีทำแบบนี้หลายบริษัทก็ได้ ยินดีด้วยครับ ที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วก็ทำได้อย่างที่ตั้งใจ ปล. บางคน comment เหมือนอ่านแต่หัวกระทู้ไม่ได้อ่านความเห็นอื่นเลย จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 21:28:30

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่น่าสนใจครับ ลาออกไม่ใช่เพราะไม่มีความสุข แต่เป็นเพราะไม่มี career path ที่ชัดเจนให้ + ตำแหน่งตันเพราะนโยบาย แถมจขกท.กลับมารู้สึกตัวไม่ใช่เพราะโดนตำหนิแต่เป็นเพราะจะได้รับรางวัลที่อยู่มานานอีกต่างหาก ถ้าไม่มีการลาออกในวันนั้นก็จะไม่มีจขกท.ในวันนี้ นี่แหละครับที่เขาว่าสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอล่ะ ^__^ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 23:40:36

ความคิดเห็นที่ 21 ขอชมว่า ออมเงินเก่งมากค่ะ ! สู้ต่อไปค่ะ จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 23:58:38

ความคิดเห็นที่ 22 ต้องขอขอบคุณทุกคห.เลยนะคะ.... ออกมาทำงานตัวเองนี่ มันสบายกาย สบายใจ มีเงินใช้เยอะกว่า แต่มันก็ใช่ว่าจะดีกว่าทั้งหมด...   ตอนอยู่ที่ทำงานมันสนุก..มีเพื่อนฝูงมีสังคมเยอะค่ะ ชีวิตไม่มีคำว่าเหงา... คิดถึงที่ทำงานเก่าบ่อยๆค่ะ ...แหะๆ แต่คงไม่คิดกลับไปทำ...งานกีฬาสีที่นี่เราก็เคยเป็นเชียร์ ลีดเดอร์นะ..ฮา... .......งานเลี้ยงฉลองจัดที่ รร. พลาซ่าแอทธินี่ เมื่อ ปี 49หรือ 50 ที่ทำงานที่เคย  ทำ องค์กรใหญ่พอสมควร พนง. ออฟฟิต น่าจะเกิน 500 คน ผู้จัดการมีเป็นโหล รวม พนง. แผนกอื่นๆ ด้วยหลายพันคนทีเดียว... สวัสดิการค่อนข้างดี มีค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร เบี้ยขยัน ค่ารักษาพยาบาล เงินกองทุนสะสมฯ            พนักงานแต่ละคนอยู่ที่นี่นานค่ะ หลายคู่ หลายคนที่มีแฟนอยู่ในที่เดียวกัน....เราเข้าทำงานที่นี่ตอนอายุ 23 ลาออกตอน 33 ปี ...ตอนนี้ 37 ปีแล้ว... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 07:55:12

ความคิดเห็นที่ 23 คนที่คิดจะออกจากงานถ้าอายุมากๆ คิดนานๆ หน่อยนะคะ...เงินเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ..... ตอนที่เราออกอย่างที่บอกเราคำนวณแล้วว่า เงินเก็บพอ...ระหว่างรอที่จะทำงานอื่นต่อไป                ตอนที่เราออกมีคนที่ออกจากงานพร้อมกับเราหลายคนนะ (ไม่ใช่คนที่อยู่ 10 ปี) แผนกเดียวกันรวมเราด้วย 3 คน....ทั้ง 2 คนไปทำงานบริษัทฯอื่นกัน ย้ายงานหลายที่ก็ดีไม่เหมือนที่เดิมแล้วก็มานั่งบ่นเสียดายกัน.. มี 1 คนกลับมาทำที่นี่อีกครั้งค่ะ  แต่คนที่กลับมาเค๊าเก่งจริงค่ะ เป็นลูกครึ่ง ญี่ปุ่น...บริษัทนี้เป็นบริษัทญี่ปุ่นค่ะ                เล่าถึงคนที่ออกจากงานมาใกล้ๆ กัน มีน้องคนนึง ออกเพราะว่าทนหัวหน้าไม่ไหว...หนูออกไปทำเสริมสวยดีกว่า สระไดร์ แป๊บเดียวก็ได้ตังแล้ว..บ้านเค๊าพอมีฐานะ(แต่คงให้ไม่ได้ตลอด) น้องเค๊าจบ ปวส. ขอพ่อไปเรียนเสริมสวยต่อ...เรียนจบปุ๊บ ลงทุนเปิดร้าน..ไม่ใช่น้อย ค่าอุปกรณ ค่าตกแต่งเอย...ทำอยู่ไม่ถึงปีก็เลิก เคยโทรมาหา บอกพี่หนูยืนไม่ไหวปวดขา.. ลูกค้าเรื่องมากบ้างล่ะ สารพัดฯ น้องไปสมัครงานบริษัทฯ ที่ใหม่ (ตอนนั้นนอกอายุแค่ 24 ปีหางานใหม่ง่ายอยู่) ทำไปแล้วบอกว่าสู้ที่เดิมไม่ได้เลย....หนูไม่น่าลาออก...... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 08:44:35

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วทำไมเพิ่งคิดได้หล่ะครับ ใช้เวลาตั้ง10ปีเลยเหรอ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 10:25:58

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆ คิดได้ตอนปีที่ 8- 9 ค่ะ(ก็เค๊าเตรียมจัดงานฉลองยิ่งใหญ่นี่นา)....เอ๊อ..คิดได้ก่อนตั้งนานเนาะ.. 55...ตอนทำงานอยู่มันก็สนุกกับงานค่ะ งานไม่ได้น่าเบื่อนะ แผนกที่อยู่ตอนนั้น ไม่ต้องนั่งจมปลักอยู่ในออฟฟิตอย่างเดียวนะ.ได้ออกไปพบลูกค้าบ้าง...เงินเราก็พอใช้ไม่ได้เดือดร้อน ... .ก็บริษัทนั่นแหละทำให้เราได้คิด เค้าส่งพนักงานไปอบรม หัวข้อเราจำไม่ได้ แต่มีคำพูดนึงวิทยากรพูดถึง การทำงานในบริษัทเนี่ยแหละ ว่ามันต้องมีความก้าวหน้า...คำพูดของเค๊าประมาณยกตัวอย่าง " ปีแรกเข้ามาเป็นเสมียน..ถ้า 10 ปีผ่านมา คนถามตำแหน่งอะไร ตอบ เสมียนอาวุโส. (มันต้องเป็นถึงผู้จัดการแล้ว)". เค๊าบอกว่าถ้าใครเป็นแบบนี้ให้ไปหาอย่างอื่นทำ... ..มันโดน...เราเป็นคนคิดนานไปหน่อยใช้เวลาอีกปี...... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 11:00:32

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องครบสิบปีแล้วแจกทองนี่ ปีนันทองราคาบาลละประมาณ 8000 น้องคนนึงโทรมาเล่าให้ฟัง .."พี่ดีแล้วที่พี่ไม่อยู่รอรับทองน่ะ....เค๊าแจกจี้ทองเว๊ย..ปรากฏว่ามีน้องในไลน์การผลิตคนนึงไม่อยากเอาไปห้อยคอ..เลยเอาไปขาย จี้ จี้ทองร้านทองบอกไม่รับซื้อ เนื่องจากจี้ทองตั้ง 1 บาท แต่เนื้อทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ ไงนีแหละพี่ อย่างฮา  ใครจะกล้าเอาไปห้อยอีกล่ะ" (ทอง เกือบ 200 บาท พวก ผจก. เค๊าจัดหามา) แต่ไม่ได้ติดตามนะว่าเค๊าจัดการยังไงต่อไป รู้แต่ว่าในปีถัดไป พนง.ที่ทำงานครบ 10 ปี แจกเป็นเงินคนละ 1หมื่น (ฮา..ก็ทองมันแพง และป้องกันทองปลอมอีกต่างหาก) รู้เพราะเรายังมีญาติทำงานที่นี่อยู่ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 12:26:42 จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 12:25:24

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณที่แชร์ให้อ่านค่ะ ^^ จากคุณ : D is for Delightful เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 13:46:15

ความคิดเห็นที่ 28 สนุกครับ แต่อยากให้สรุปและพิมพ์มารวดเดียวจบไปเลยอ่ะครับ แบบนี้มันค้างคาครับ อยากรวดเดียวจบครับ อีกอย่างก็สงสัยเหมือนความเหนบน ๆ นะ ว่าต้องใช้เวลาถึง สิบปีเลยเหรอ ทำไมไม่ทำไปสงสัยไปล่ะ ผมว่าคนปกติอายุน้อย  ๆ แค่ 1-2 ปีในการทำงานเค้าก็มองอนาคตในองค์กรออกแล้วล่ะครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 14:41:20

ความคิดเห็นที่ 29 เล่าไม่ค่อยเก่งค่ะ อาจจะงงๆ กันหน่อยปะติดปะต่อนิดนึงน่ะ คือเป็นเรื่องเก่าเมื่อ 4 ปีก่อน ก่อนที่จะออกจากงานค่ะ....พิมพ์เยอะๆตาลาย ทำงานไปเล่าไป นึกอะไรออกก็พิมพ์ไป ...             ทำงาน 1-2 ปีแรก ยังไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ค่ะ เงินเก็บยังไม่มีซักนิด ได้เงินเดือนก็ใช้เรียบ....             ปี 3-4 เจอแฟนที่ทำงานเดียวกัน แล้วปีนี้เงินเดือนขึ้นประมาณ 20% แล้วจะรีบลาออกไปทำไมไม่รู้.. เจ้านายก็โปรด (มีนายเป็นคนญี่ปุ่น)             หลังปีที่ 5-6 เปลี่ยนเจ้านายใหม่ ลองดูว่านายคนนี้จะประเมินเรายังไง ประเมินไม่ดีแฮะ ลองไปหางานใหม่ดู แต่เทียบกันแล้วกับที่นี่ หลายๆอย่างสู้ไม่ได้....ก็รอดูว่าจะมีงานที่ใหนเรียกตัว แล้วยังเลืองานอยากได้งานที่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะตอนนั้นไปเรียนต่อ ป.ตรี ที่นี่ไม่หยุดวันเสาร์ แต่ถ้าทำงานเกิน 3 ปี ให้ลาไปเรียนวันหยุดได้....             ปีที่ 7... ท้อง คลอดลูก ...55 จะรีบลาออกไปใหนได้ รอคลอดลูกเสร็จก่อน บริษัทมีสวัสดิการให้ด้วย                ปีที่ 8..ลูกอ่อน เลิกคิดไปหางานใหม่แล้ว อ้วน..ไม่สวยแล้วด้วย...55ประหยัดเก็บเงินให้ได้เยอะๆ เริ่มคิดตอนนี้แค่ว่า จะออกไม่ออก ลังเลอยู่ แถมยังอยู่บ้านแม่สามี รีบออกไปจะเป็นปัญหา              ปีหลังๆ สุดท้ายนี้ ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจทำงานแล้ว อะไรๆ ก็ไม่ดี แล้วยิ่งมีเรื่องงาน 10 ปี นี่อีก..ก็ทำให้เราคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมามากขึ้น.. ถึงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร....แต่ความรู้สึกนี่มันห้ามกันไม่คิดไม่ได้.....            จังหวะอะไรหลายๆ อย่างมันพอเหมาะด้วยค่ะ ยังไงเราก็ไม่ได้กะเป็นลูกจ้างตลอดชีวิตอยู่แล้ว...... แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน             ตอนช่วงที่ระหว่างทำงานอยู่ เราเคยลงทุนทำอะไรหลายอย่าง แต่มันได้ไม่ค่อยคุ้ม กับงานปัจจบัน... ตอนท้องเราเคยลงทุนเปิดร้านขายของในห้าง ขายกิฟชอร์ป...ไม่ได้ขาดทุนอะไรนะ ไม่ได้กำไรเป็นตัวเงิน.. ได้กำไรประสบการณ์...อาชีพอีกอย่างนึง                สรุปว่าปัจจุบัน อาชีพของเราที่ทำอยู่ตอนนี้เราลงตัวที่สุด เป็นอาชีพที่ไม่มีลูกจ้าง ไม่มีนายจ้าง เราช่วยกันทำ 2 คนกับแฟนเรา.. วันๆ นึงเราก็นั่งเช็คราคาสินค้า ถูกๆ ไปเสนอขายลูกค้า.....ได้เห็นช่องทางต่อยอดอาชีพได้อีกหลายอย่างเลย แต่เราก็เลือกที่ตัวเองถนัด และทำได้.....             รายได้ปัจจุบันนี่ไม่ใช่ว่าเริมต้นเงินทุนแค่นั้นแล้ว..จะมีรายได้เยอะๆ เข้ามาทันทีนะคะ มันค่อยๆ เริ่มไปอย่างช้าๆ เริ่มทำได้หลังออกจากงานได้ 8 เดือน....ค่อยๆ ลงทุน จากแสนเป็นล้าน...พอมันดีเราก็หาเงินมาเพิ่มทุน..ล้านเป็น 10 ล้าน...กิจการมันดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ    ซื้อสินค้าเป็นเงินสดค่ะ แต่บางทีขายเป็นเครดิตบ้าง ความเสี่ยงก็มีเยอะ ... แต่ก็ค่อยๆคิดค่อยๆ ทำไป...            ยังไงเราก็ยังเป็นแค่นักธุรกิจมือใหม่อยู่.... แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 16:29:35 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 16:27:20 จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 16:14:17

ความคิดเห็นที่ 30 ชีวิตน่าสนใจมาก อยากทำธุรกิจ ซื้อมา ขายไป เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง จากคุณ : ฮัตเซปซัต เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 16:30:19

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาอ่านด้วยคนครับ กำลังจะคิดลาออกเหมือนกัน อยากกลับไปอยู่บ้านใกล้ๆ แม่ เพราะท่านอยู่ตัวคนเดียว อีก ปี-สองปี น่าจะได้เวลาแล้วล่ะ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 16:43:52

ความคิดเห็นที่ 32 แหมมม บาง คห. ก็ใจร้อนกันจังนะคะ เค้ามาเล่าให้ฟัง ก็อ่านเนื้อเรื่อง อ่านวิธีคิด วิธีเขียนของเค้าไปด้วยสิคะ คนอื่น ๆ ที่อยากฟังก็มีตั้งเยอะ แล้วเรื่องสงสัยว่าทนมาทำไมตั้ง 10 ปี ก็เค้าอยู่แล้ว ยังพอรับได้ เค้าก็ยังไม่ออก ก็ไม่เห็นจะแปลกนี่คะ ถ้าทน ไม่ได้ หรือมีทางออกดีกว่าเดิมเมื่อไร ก็ออกแค่นั้นเอง เข้ามาชื่นชมเจ้าของกระทู้นะคะ และให้กำลังใจด้วยค่ะ จะได้มีกำลังใจ เขียนเรื่องราวดี ๆ ให้อ่านต่อไป... จากคุณ : fantastic GiRL เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 18:01:14

ความคิดเห็นที่ 33 พี่เป็นคนเก่งที่น่าชื่นชมครับ  ยินดีกับความสำเร็จ และชื่นชมในเด็ดเดี่ยว กล้าตัดสินใจ  ผมก็อยากทำอะไรของตัวเอง ในงานทีผมถนัด ซึ่งปัจจุบันก็ทำอยู่ แต่รายได้มันยังได้น้อยกว่าเงินเดือนประจำ ประกอบกับมีภาระผ่อนบ้าน เดือนละ 22000 เลยยังไม่กล้าออกมาทำเต็มตัว  แค่คิดกับตัวเองเล่น ๆ ว่าถ้าวันนึงตกงาน จะเอาเงินที่ไหนผ่อนบ้าน แค่นี้ก็เครียดแล้ว ชีวิตผมคงเริ่มใหม่หลังจากผ่อนบ้านหมด อีกประมาณ 9 ปีมั้ง จากคุณ : i_am_np เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 18:32:13

ความคิดเห็นที่ 34 ชื่นชม และขอบคุณ ที่มาเล่าประสบการณ์นะคะ จากคุณ : Valily เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 19:36:50

ความคิดเห็นที่ 35 อยากให้ จขกท. บอกหน่อยสิครับ ว่าทำอาชีพอะไร ลักษณะงานที่ทำเป็นยังไง แล้วตรงๆ คือ ขายอะไร ทำยังไง เผื่อ คนอื่นๆ จะได้นำไปเป็นแนวทางประกอบอาชีพบ้าง จากคุณ : โกโก้หวานกับน้ำตาลก้อนเดียว เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องอาชีพอะไรเคยเล่าไว้ คร่าวๆที่นี่เมื่อไม่นานhttp://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B9851732/B9851732.html บางอย่างต้องขออภัยด้วยนะคะ...บอกกันตรงๆหมดคงไม่ได้ ....เดี๋ยวเจอคนเก่งกว่า....ถ้าทำอาชีพเดียวกัน เราจะแย่ยิ่งไม่มีเงินเดือนอยู่.... กว่าจะมาถึงจุดนี้ เราต่อสู้ พบเจออะไรมาเยอะ ก็บอกได้เท่าที่เล่า.....คงไม่ว่ากันน๊า...... อีกทู้นึงที่เกี่ยวข้องกันhttp://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B9826794/B9826794.html แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:34:13 จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:08:07

ความคิดเห็นที่ 37 สู้ ๆ นะค่ะ ^^ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:00:38

ความคิดเห็นที่ 38 อยากฟังเรื่องราวความสำเร็จของคุณ Boy Next Door จังเลยครับ ท่าทางจะเป็นคนเก่งและฉลาดมากๆ หรือว่าที่ตอบเพราะอ่านแค่หัว กท. ครับเนี่ย ชอบ จขกท. มากๆครับ ฟังจากคำที่ จขกท. ใช้ แล้วประทับใจคับ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 02:07:56 จากคุณ : อย่าิไปคิดมากกับชีวิต เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 02:06:52

ความคิดเห็นที่ 39 ทำมา10ปี ได้ หมื่น4 โอ้ววววววววว  นายจ้างตึ๋งหนืดดดดดดดดดดด สุดๆๆคร้าบ เ จากคุณ : กฟดกด (Baodang1) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:49:19

ความคิดเห็นที่ 41 ฟังแล้วช่างเหมือนกับชีวิตตัวเองเหลือเกิน ตอนที่ จขกท ยังทำงานประจำอยู่ อยากก้าวออกมาเหมือน จขกท เหลือเกิน แต่ยังกลัว...กลัว..ทำอย่างไรดีให้มีความกล้าแบบ จขกท ชื่นชม จขกท มากๆๆ  นะค๊ะ    จากคุณ : Poly-Pop เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 20:20:57

ความคิดเห็นที่ 42 ชีวิตผมก็คล้ายๆเจ้าของกระทู้ คือ ทำงานประจำมาเกือบจะ 10 ปี ตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะกล้าก้าวข้ามเส้นกั้นบางๆระหว่างสำเร็จ หรือล้มเหลว แต่พอออกมาแล้ว ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ไหนจะตัวเองและลูกที่ต้องดูแล ตอนนี้ก็ืำมีธุรกิจเป็นของตนเองแล้ว ก็ได้ประสบการณ์มาจากงานที่เคยทำนั่นแหละมาช่วยในตอนนี้ทั้งหมด ส่วนลูกค้าก็มาสอนเรา้เพิ่มเติมในหลายๆเรื่อง ทุกอย่างสอนเราได้ครับ อยู่ที่เราจะมองยังไง และนำบทเรียนนั้นมาเตือนสติเราอยู่เสมอ ผู้ที่สนใจอยากมีอิสระในการทำงานลองอ่านดูที่ลิ้งค์นี้นะครับ ความเห็นที่ 72 น่าจะทำให้มีแรงฮึดขึ้นมา(บางครั้ง)เหมือนผมก็ได้ ขอบคุณ คุณEak 099 และไทยเสียวบอร์ดครับ http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,37684.msg499982.html#msg499982 จากคุณ : amean เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 11:20:32